949,900 บาท เปรียบเทียบระหว่าง BYD SEALION 6 และ Atto 3 รุ่นไหนคุ้มค่าที่จะซื้อมากกว่ากัน
AshleyAug 16, 2024, 04:56 PM
8 สิงหาคม BYD SEALION 6 DM-i Dynamic 2024 ได้เปิดตัวในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ โดยตั้งราคาขายไว้ที่ 939,900 บาท รุ่นนี้ได้สร้างความฮือฮาในตลาดทันที ถ้าอย่างนั้นแล้ว BYD SEALION 6 DM-i Dynamic จะมีความแตกต่างอย่างไรกับ BYD Atto 3 ที่เปิดตัวในประเทศไทยปีเดียวกัน และแต่ละรุ่นนั้นมีข้อดีข้อเสียอย่างไร บทความนี้จะพาทุกท่านมาทำการเปรียบเทียบระหว่างสองรุ่นเพื่อช่วยให้การตัดสินใจในการเลือกซื้อรถยนต์ระหว่างสองรุ่นนี้ง่ายยิ่งขึ้น
1. ด้านราคา
BYD SEALION 6 DM-i Dynamic 2024 ปัจจุบันในประเทศไทยมีให้เลือกเพียงรุ่นเดียว ราคาอยู่ที่ 939,900 บาท ทำให้ทางเลือกของผู้ซื้อน้อยลง ส่วน BYD Atto 3 ในตลาดไทยมีให้เลือก 3 รุ่น ราคาเริ่มต้นที่ 899,900 บาท ถึง 1,049,900 บาท ซึ่งมีทางเลือกที่หลากหลายมากกว่า
ตามหลักการคัดเลือกตามราคา บทความนี้จะทำการเปรียบเทียบสองรุ่นระหว่าง BYD SEALION 6 DM-i Dynamic 2024 และ BYD Atto 3 Standard Range Premium 2024 เพื่อให้คำแนะนำในการซื้อแก่ผู้ซื้อ
【BYD SEALION 6 DM-i Dynamic 2024:939,900 บาท】
BYD Atto 3 Standard Range Dynamic 2024: 899,900 บาท
【BYD Atto 3 Standard Range Premium 2024: 949,900 บาท】
BYD Atto 3 Extended Range Premium 2024:1,049,900 บาท
2. ดีไซน์ภายนอก (การออกแบบภายนอก + ขนาดตัวรถ)
ในด้านขนาดตัวรถ BYD SEALION 6 DM-i Dynamic 2024 และ BYD Atto 3 Standard Range Premium 2024 มีการจัดประเภทที่แตกต่างกัน รุ่นแรกเป็นรถยนต์ระดับ C ขณะที่รุ่นหลังเป็นรถยนต์ระดับ B โดยทั่วไปแล้ว BYD SEALION 6 DM-i Dynamic 2024 มีขนาดตัวรถและพื้นที่ที่ใหญ่กว่า BYD Atto 3 Standard Range Premium 2024 ข้อมูลเพิ่มเติมสามารถเปรียบเทียบได้จากภาพที่แสดงดังด้านล่าง
ในด้านการออกแบบภายนอก BYD SEALION 6 DM-i Dynamic 2024 และ BYD Atto 3 Standard Range Premium 2024 เป็นรุ่นที่โดดเด่นของ BYD ซึ่งทั้งสองรุ่นใช้ภาษาการออกแบบล่าสุดของ BYD แต่มีเอกลักษณ์ที่แตกต่างกัน
【ส่วนหน้า】
BYD SEALION 6 DM-i Dynamic 2024 มีมีการออกแบบและฟีเจอร์ที่สะท้อนถึงความเป็นทางการและความหรูหรา ไม่เน้นความโดดเด่นจนเกินไป โดยมีกระจังหน้าขนาดใหญ่และไฟหน้าที่คมชัด ในส่วนการออกแบบ "Dragon Face" ได้นำเสนอออกอย่างชัดเจนในรุ่น BYD SEALION 6 ทำให้มีความโดดเด่นและสามารถจดจำได้ง่าย
BYD Atto 3 Standard Range Premium 2024 มีการออกแบบที่ดูทันสมัยและเป็นแฟชั่นมากขึ้น กระจังหน้าแบบปิดทึบพร้อมกับไฟหน้าที่แยกส่วนกันทำให้มีลักษณะเฉพาะตัวมากยิ่งขึ้น การออกแบบโดยรวมมีความเป็นสปอร์ตมากกว่า ซึ่งตอบโจทย์ความชื่นชอบของผู้ซื้อในวัยหนุ่มสาว
【ส่วนของตัวรถ】
BYD SEALION 6 DM-i Dynamic 2024 มีเส้นสายที่เรียบลื่นและสัดส่วนที่สมดุล ซึ่งสร้างความรู้สึกสง่างามและหรูหรา ด้านข้างของรถมีเส้นสะโพกที่เรียบง่ายและล้อหลายแฉกที่เสริมความมั่นคง
ในขณะที่ BYD Atto 3 Standard Range Premium 2024 มีเส้นสายของตัวรถที่ดูมีกล้ามเนื้อและแข็งแกร่งมากขึ้น หลังคาลอยตัวและมือจับประตูแบบซ่อนเป็นองค์ประกอบการออกแบบที่ทำให้รถดูทันสมัยและมีพลังกว่ามากในทีเดียว
【ส่วนท้ายรถ】
BYD SEALION 6 DM-i Dynamic 2024 มีการออกแบบด้านท้ายที่ค่อนข้างอนุรักษ์นิยม ไฟท้ายแบบขวางที่เชื่อมต่อกับกันชนหลัง ทำให้รูปลักษณ์โดยรวมดูเป็นระเบียบ
กลับกันในทาง BYD Atto 3 Standard Range Premium 2024 มีการออกแบบท้ายรถที่มีเอกลักษณ์ ไฟท้ายแบบขวางที่มีรูปทรงโดดเด่นพร้อมกับดิฟฟิวเซอร์ด้านล่าง ซึ่งเพิ่มความรู้สึกสปอร์ตและเต็มไปด้วยพลัง
3. ด้านเครื่องยนต์ (พลังงาน + ระยะทาง)
BYD SEALION 6 DM-i Dynamic 2024 มีความเร็วสูงสุดที่ 180 กม./ชม. ซึ่งสูงกว่า BYD Atto 3 Standard Range Premium 2024 ที่ 160 กม./ชม. ในขณะที่เวลาในการเร่งความเร็วจาก 0 ถึง 100 กม./ชม. ของ BYD SEALION 6 DM-i Dynamic 2024 อยู่ที่ 7.7 วินาที ซึ่งช้ากว่า BYD Atto 3 Standard Range Premium 2024 ที่ 7.3 วินาที แต่ความแตกต่างไม่มาก โดยรวมแล้ว ประสบการณ์การขับขี่ของ BYD SEALION 6 DM-i Dynamic 2024 จะดีกว่าเล็กน้อย
ในส่วนของระยะทางซึ่งเป็นที่สนใจและจ้องมองของผู้ซื้ออย่างมากที่สุด รถยนต์ไฟฟ้าของ BYD SEALION 6 DM-i Dynamic 2024 มีระยะทางการขับขี่ที่ 112 กม. ขณะที่ BYD Atto 3 Standard Range Premium 2024 มีระยะทางการขับขี่ที่ 480 กม. หากคุณไม่ต้องการชาร์จบ่อยๆ อาจพิจารณาเลือก BYD Atto 3 Standard Range Premium 2024 แทน
4. ด้านภายใน
ทั้ง BYD SEALION 6 DM-i Dynamic 2024 และ BYD Atto 3 Standard Range Premium 2024 มีการออกแบบภายในที่สะท้อนถึงความก้าวหน้าในด้านการออกแบบของ BYD ในช่วงหลัง แต่ยังมีความแตกต่างในเรื่องของสไตล์และอุปกรณ์
BYD SEALION 6 DM-i Dynamic 2024 มีการออกแบบภายในที่เน้นความสง่างามและหรูหรา ใช้วัสดุนุ่มมือและแผ่นไม้ตกแต่งเพื่อสร้างบรรยากาศที่อบอุ่นและสะดวกสบาย แผงควบคุมกลางมีการจัดเรียงที่เป็นระเบียบและมีการใช้งานที่ชัดเจน
BYD Atto 3 Standard Range Premium 2024 มีการออกแบบภายในที่ดูทันสมัยและเป็นแฟชั่นมากขึ้น ใช้เส้นสายตรงและการออกแบบสีตัดกันเพื่อสร้างบรรยากาศที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยี แผงควบคุมกลางมีความเรียบง่าย โดยมีหน้าจอขนาดใหญ่เป็นจุดเด่น
หลังจากที่คุณได้ทำความรู้จักกับทั้งสองรุ่นผ่านการอธิบายข้างต้นแล้ว ขั้นตอนถัดไปคือการไปที่โชว์รูมหรือศูนย์บริการเพื่อทดลองขับรถจริง เพราะการลองขับจะช่วยให้คุณรู้สึกถึงประสบการณ์ที่แท้จริงตามข้อมูลต่างๆ ที่ได้อ่านมา
คุณสามารถติดต่อเราให้ลบออกเนื้อหาถ้าละเมิดลิขสิทธิ์
ข้อมูลยอดนิยม

เตรียมเปิดตัว! Toyota Yaris ATIV HEV ใหม่ 21 ส.ค.นี้ ใช้ขุมพลังเดียวกับ Yaris Cross
【PCauto】Yaris ATIV HEV ใหม่ จ่อเปิดตัว 21 ส.ค.นี้ มาพร้อมเครื่องยนต์ไฮบริดประหยัดสุด 26.3 กม./ลิตร Toyota เตรียมส่ง Yaris ATIV รุ่นไฮบริดบุกตลาดไทย 21 สิงหาคมนี้ โดยใช้ขุมพลังเดียวกับ Yaris Cross ได้แก่ เครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร รหัส 2NR-VEX ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า ให้พละกำลังรวม 111 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ e-CVT พร้อมแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาด 0.7 kWh รองรับน้ำมัน E20 ความเร็วสูงสุด 160 กม./ชม. อัตราสิ้นเปลืองดีเยี่ยมที่ 26.3 กม./ลิตร ตามมาตรฐาน WMTC เตรียมเปิดศึกรถซีดานไฮบริดประหยั

Mitsubishiเปิดตัว SUV 7 ที่นั่งรุ่น Destinator เพื่อแข่งขันกับ Honda CR-V
【PCauto】Mitsubishi Motors ได้เปิดตัว SUV เจ็ดที่นั่งรุ่นใหม่ Destinator อย่างเป็นทางการที่จาการ์ต้า รุ่นนี้ออกแบบมาเพื่อครอบครัวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้โดยเฉพาะ และจะเริ่มจำหน่ายในอินโดนีเซียเป็นประเทศแรก ก่อนขยายตลาดไปยังไทยและประเทศในอาเซียนอื่นๆ Mitsubishi Destinator มาพร้อมกับฐานล้อยาวพิเศษ 2815 มิลลิเมตร และระยะต่ำสุดจากพื้นถึงตัวรถ 214 มิลลิเมตร รถรุ่นนี้ตั้งเป้าหมายในตลาด SUV ขนาดกลางที่มี Honda CR-V ครองตำแหน่งผู้นำอยู่แล้ว

BYD SEALION 8 ลุ้นขายไทย-ออสเตรเลียปีหน้า!
【PCauto】BYD SEALION 8 เตรียมบุกไทย-ออสซี่ปีหน้า! ใหญ่เทียบ Kluger พร้อมดีไซน์ล้ำยุคจาก Egger BYD SEALION 8 หรือ Tang L เวอร์ชันจีน เตรียมเปิดตัวไตรมาสแรกปี 2026 ในออสเตรเลีย และมีแผนรุกตลาดไทยพร้อมกัน จุดเด่นคือขนาดใหญ่กว่า Toyota Kluger ถึง 120 มม. กับตัวถังยาวกว่า 5 เมตร เบาะ 3 แถว 7 ที่นั่ง พร้อมขุมพลัง PHEV สองรุ่นย่อย และดีไซน์ “Loong Face” นำโดย Wolfgang Egger ไฟหน้า LED แยกส่วน-โลโก้ BYD เรืองแสง เสริมความพรีเมียมด้วยประตูไร้กรอบ ไฟท้าย “ปีกฟีนิกซ์” และหลังคาพาโนรามา ครบเครื่องทั้งความหรู

Toyota bZ4X เปิดตัวแล้ว เมื่อเทียบกับ Xpeng G6 รุ่นใดคุ้มค่ากับการซื้อมากกว่ากัน
【PCauto】Toyota bZ4X เปิดให้สั่งจองทางออนไลน์ในประเทศไทยเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม และภายในสามวันแรกมียอดสั่งจองถึง 1,000 คันรุ่นย่อยและราคาของรถรุ่นนี้แบ่งเป็น:ขับเคลื่อนล้อหน้า (FWD) ราคา 1,599,000 บาทและขับเคลื่อนสี่ล้อ (AWD) ราคา 1,699,000 บาทในฐานะรถ SUV ไฟฟ้าล้วนรุ่นแรกของ Toyota ที่ทำตลาดในประเทศไทย bZ4X นำเข้ามาขายโดยมาพร้อมแบตเตอรี่ลิเธียมขนาด 73.11 kWh ระยะทางวิ่งตามมาตรฐาน NEDC อยู่ที่ 600 กม. (FWD) และ 570 กม. (AWD)ในอีกฝั่งหนึ่ง XPeng G6 ก็ได้เปิดตัวรุ่นปรับปรุงใหม่:รุ่น Long Range ราคา

Xpeng P7 ฮอตแรง! เปิดจองแค่ 7 นาที ยอดสั่งทะลุ 10,000 คัน
【PCauto】XPeng P7 ใหม่ เปิดพรีออเดอร์เพียง 6 นาที 37 วินาที ยอดจองทะลุ 10,000 คัน ทำลายสถิติเดิมของแบรนด์ มาพร้อมดีไซน์ XMART FACE ไฟหน้า-ไฟท้ายแบบ X Shape หลังคาลอย เสา A ซ่อน ขอบประตูไร้กรอบ และสปอยเลอร์ไฟฟ้าสร้างแรงกดสูงสุด 900 นิวตัน ค่าลากอากาศเพียง 0.198Cd ภายในล้ำสมัยด้วยจอ 3 ชุด และ AR-HUD ขนาด 87 นิ้ว คมชัดแม้แดดจ้า
รถยอดนิยม
เปรียบเทียบรถยนต์
รูปภาพรถ
ภาพภายใน
รุ่นปีรถยนต์
รุ่นรถยนต์