Q
ขนาดของ Alphard ปี 2022 เป็นเท่าไหร่?
รถ Toyota Alphard รุ่นปี 2022 มีขนาดตัวถังยาว 4,940 มิลลิเมตร กว้าง 1,850 มิลลิเมตร สูง 1,895 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อ 3,000 มิลลิเมตร ด้วยขนาดที่ใหญ่โตนี้ทำให้ MPV ระดับหรูคันนี้เป็นที่นิยมในตลาดไทยเพราะให้พื้นที่ภายในกว้างขวางและความสบายสูง เหมาะทั้งสำหรับการเดินทางกับครอบครัวและการรับรองระดับธุรกิจ ในประเทศไทย Alphard มักถูกใช้ในงานรับส่งสนามบิน รับส่งพนักงานบริษัท หรือเดินทางไกล ด้วยระบบกันเสียงที่ยอดเยี่ยมและวัสดุตกแต่งภายในระดับพรีเมียมที่มอบความเงียบสงบและความสบายให้ผู้โดยสาร พูดถึงเครื่องยนต์ Alphard ในตลาดไทยมีทั้งรุ่น 2.5 ลิตร Hybrid และ 3.5 ลิตร V6 โดยรุ่น Hybrid นั้นเหมาะมากสำหรับเมืองที่มีการจราจรหนาแน่นอย่างกรุงเทพฯ เพราะช่วยประหยัดน้ำมันได้ดี นอกจากนี้ Alphard ยังมีระยะความสูงจากพื้นรถที่ค่อนข้างสูง ทำให้สามารถใช้งานได้ดีแม้ในพื้นที่ที่มีสภาพถนนไม่ดีบางแห่งของไทย และที่สำคัญคือ Alphard เป็นรถที่มูลค่าตกต่ำน้อยในตลาดมือสอง สะท้อนถึงความน่าเชื่อถือและการยอมรับจากผู้บริโภคไทยได้เป็นอย่างดี
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto
Q&A เกี่ยวข้อง
Q
รถ Alphard รุ่นปี 2023 เป็นรถหรูหรือไม่?
รุ่นปี 2023 ของ Toyota Alphard ในตลาดไทยถือเป็น MPV ระดับหรูที่ตอบโจทย์ผู้ใช้กลุ่มสูงสุด โดยเฉพาะในประเทศร้อนๆ อย่างไทย ที่ความสบายและความประหยัดพื้นที่ถูกใจคนไทยเป็นพิเศษ ภายใน Alphard มีพื้นที่กว้างขวาง พร้อมเบาะหนังหรู ระบบความบันเทิงแถวหลัง กระจกกันเสียง และระบบปรับอากาศอัจฉริยะ ที่ช่วยให้ผู้โดยสารรู้สึกสบายแม้อากาศข้างนอกร้อนจัด แถมยังมาพร้อมระบบไฮบริดที่ช่วยประหยัดน้ำมันและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งเข้ากับเทรนด์รถสีเขียวของตลาดไทย ส่วนระบบความปลอดภัยก็ครบครัน ทั้งระบบเตือนการปะทะ ระบบช่วยควบคุมเลน และระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ เหมาะกับทั้งขับขี่ในเมืองและทางไกลของไทย ที่นี่คนไทยนิยมใช้ Alphard ทั้งรับรองลูกค้าระดับสูงและเป็นรถครอบครัว แถมยังเป็นรุ่นที่มูลค่าการขายต่อสูง ถ้าคุณกำลังมองหา MPV ที่ทั้งหรูและใช้งานได้จริง แนะนำให้ลองพิจารณา Alphard 2023 ยิ่งสะท้อนจุดแข็งทางเศรษฐกิจในบริบทราคาน้ำมันไทยที่สูงขึ้น
Q
Toyota Alphard คุ้มค่าจะซื้อหรือไม่
สำหรับรถยนต์ระดับหรูอย่าง Toyota Alphard ในตลาดไทยถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ โดยเฉพาะสำหรับครอบครัวหรือกลุ่มธุรกิจที่ให้ความสำคัญกับความสะดวกสบายและความหรูหรา จุดเด่นของ Alphard อยู่ที่พื้นที่ภายในรถที่กว้างขวาง วัสดุภายในคุณภาพดี และระบบกันเสียงที่ยอดเยี่ยม ที่นั่งแถวสองแบบการบินสามารถปรับได้หลายทิศทาง ทำให้เดินทางไกลได้อย่างสบายตัว ส่วนระบบขับเคลื่อนมีทั้งแบบ 2.5L Hybrid และ 3.5L V6 ที่ตอบโจทย์ทั้งเรื่องประหยัดน้ำมันและพลังขับเคลื่อนที่เพียงพอ เหมาะกับทั้งสภาพการจราจรในเมืองและบนทางด่วนของไทย นอกจากนี้ Toyota ยังมีเครือข่ายบริการหลังการขายที่ครอบคลุม และยังเป็นรถที่ทรงมูลค่าสูงเมื่อเทียบกับรุ่นอื่นๆ อย่างไรก็ตาม ต้องระวังเรื่องขนาดตัวรถที่ค่อนข้างกว้าง โดยเฉพาะเมื่อขับในซอยแคบๆหรือจอดในกรุงเทพฯ ส่วนรุ่น Hybrid จะได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีบางประการในไทย หากเปรียบเทียบกับคู่แข่งอย่าง Honda Elgrand หรือ Mercedes-Benz V-Class แล้ว Alphard ยังคงได้เปรียบในเรื่องการปรับตัวให้เข้ากับตลาดไทยและความสะดวกในการซ่อมบำรุง ถ้ามีงบประมาณเพียงพอและต้องการความสบายพร้อมแบรนด์ที่ได้รับการยอมรับ Alphard ก็เป็นตัวเลือกที่ปลอดภัย แนะนำให้ลองขับทดสอบก่อนตัดสินใจซื้อจะดีที่สุด
Q
ปัญหาทั่วไปของรถ Alphard คืออะไร?
รถ Toyota Alphard เป็นรถเอ็มพีวีหรูที่ได้รับความนิยมในตลาดไทย ปัญหาที่พบมักจะเกี่ยวกับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เช่นความล่าช้าของ Caton หรือภาพย้อนกลับเป็นครั้งคราวบนหน้าจอควบคุมกลาง ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับสภาพอากาศร้อนชื้นของไทยที่ส่งผลต่อความเสถียรของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ แนะนำให้อัปเดตระบบที่ศูนย์บริการอย่างสม่ำเสมอ นอกจากนี้บางเจ้าของรถอาจพบว่าประตูสไลด์ไฟฟ้าแถวสองหลังจากใช้งานมานานอาจมีเสียงดังเล็กน้อยจากฝุ่นที่สะสมในราง ซึ่งเป็นเรื่องปกติในสภาพแวดล้อมที่มีฝุ่นมากแบบไทย แก้ไขได้ด้วยการทำความสะอาดรางและใช้น้ำมันหล่อลื่นเฉพาะ สำหรับระบบขับเคลื่อน เสียงรบกวนของพัดลมระบายความร้อนของชุดแบตเตอรี่อาจเด่นชัดกว่าในรุ่นไฮบริด 2.5 ลิตรเมื่อเริ่มต้นและหยุดบ่อยครั้งในเขตเมือง ซึ่งเป็นกลไกปกติของการระบายความร้อน Alphard เวอร์ชั่นไทยตอกย้ำระบบปรับอากาศแบบเขตร้อนโดยเฉพาะ แต่ควรเปลี่ยนไส้กรองแอร์ทุก 2 ปีเพื่อประสิทธิภาพการทำความเย็น ส่วนผู้ที่สนใจซื้ออัลฟาร์ดมือสอง แนะนำให้ตรวจสอบยางรองตัวถังเป็นพิเศษเพราะอาจเสื่อมจากความชื้นในฤดูฝนของไทย โดยรวมแล้วปัญหาเหล่านี้เป็นเรื่องปกติจากการใช้งาน แค่ดูแลตามคู่มือและเข้าศูนย์บริการอย่างถูกต้อง อัลฟาร์ดก็ยังคงเป็นรถที่ทนทานและใช้งานได้ดีในประเทศไทย
Q
Alphard เป็นรถหรูหรือไม่?
ในตลาดไทย Toyota Alphard ถือเป็นรถยนต์ระดับหรูในกลุ่ม MPV อย่างแท้จริง ทั้งการออกแบบและสเปคที่ตอบโจทย์รถหรู โดยเฉพาะในประเทศร้อนอย่างไทย Alphard โดดเด่นด้วยความสบายสูง ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง พร้อมวัสดุตกแต่งระดับพรีเมียม ทำให้เป็นที่นิยมทั้งในกลุ่มนักธุรกิจและครอบครัว อีกทั้งยังมีฟีเจอร์เสริมความหรูอย่างประตูสไลด์ไฟฟ้า ระบบปรับความร้อน-เย็นเบาะ และระบบความบันเทิงสำหรับผู้โดยสารแถวหลัง ซึ่งช่วยเสริมภาพลักษณ์พรีเมียมให้ชัดเจนขึ้น ที่สำคัญอัลฟาร์ดได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในตลาดไทย มักเห็นบริการตามโรงแรมระดับห้าดาวและสนามบิน ซึ่งสะท้อนสถานะรถหรูได้เป็นอย่างดี
หากพูดถึงตลาดรถหรูในประเทศไทย นอกจากรถเก๋งและ SUV แล้ว กลุ่ม MPV ก็เป็นเซกเมนต์สำคัญ โดยเฉพาะรุ่นที่ตอบโจทย์ทั้งงานธุรกิจและครอบครัวอย่าง Alphard ที่มักถูกเปรียบเทียบกับคู่แข่งอย่าง Nissan Elgrand และ Mercedes-Benz V-Class แต่ด้วยความน่าเชื่อถือของแบรนด์ Toyota และอัตราค่าเสื่อมที่ต่ำ ทำให้ Alphard ยังคงครองตำแหน่งผู้นำ นอกจากนี้สภาพอากาศร้อนของไทยยังทำให้ระบบปรับอากาศและความสบายของเบาะเป็นปัจจัยหลักในการเลือกซื้อรถ ซึ่ง Alphard ทำได้ดีเยี่ยม จนเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ยอดขายยังคงแข็งแกร่งต่อเนื่อง
Q
ทำไม Toyota Alphard มีโลโก้ที่แตกต่างกัน
เรื่องของรถ Toyota Alphard ที่ใช้โลโก้ต่างกันในแต่ละตลาดนั้น เป็นเรื่องของกลยุทธ์การตลาดและความชอบของผู้บริโภคในแต่ละพื้นที่ ในตลาดไทย Alphard มักใช้โลโก้แบบ "หัววัว" แบบดั้งเดิมของโตโยต้า ส่วนในตลาดญี่ปุ่นหรือบางประเทศในเอเชีย อาจจะเห็นโลโก้พิเศษของอัลฟาร์ดเอง ซึ่งการออกแบบที่แตกต่างนี้เพื่อเน้นตำแหน่งรถระดับพรีเมียมหรือให้ตรงกับรสนิยมของคนท้องถิ่น กลยุทธ์การใช้หลายโลโก้แบบนี้ไม่ใช่เรื่องแปลกในวงการรถยนต์ ยกตัวอย่างเช่น รถคราวน์หรือเอลฟ์ ก็มีลักษณะคล้ายกัน ซึ่งช่วยรักษาเอกลักษณ์ของแบรนด์แต่ก็ยังแสดงถึงความแตกต่างตามภูมิภาคได้ สำหรับผู้บริโภคไทยไม่ต้องกังวลเรื่องคุณภาพ เพราะไม่ว่าจะใช้โลโก้แบบไหน เทคโนโลยีหลักและกระบวนการผลิตก็ได้มาตรฐานเดียวกันทั่วโลก ส่วนที่สำคัญสำหรับตลาดไทยที่เป็นตลาดรถพวงมาลัยขวานั้น อัลฟาร์ดจะมีการปรับแต่งเฉพาะสำหรับสภาพอากาศร้อน เช่น ระบบแอร์ที่แรงขึ้นและการป้องกันสนิม ซึ่งการปรับแต่งเหล่านี้สำคัญกว่าเรื่องของโลโก้
Q
Toyota Alphard มือสอง ดีไหม
Toyota Alphard เป็น MPV ระดับพรีเมียมที่ได้รับความนิยมในตลาดรถมือสองของไทย ด้วยจุดเด่นเรื่องความสะดวกสบาย การใช้งานพื้นที่ภายใน และความทนทาน Alphard มาพร้อมกับห้องโดยสารกว้างขวางแบบ 7 ที่นั่ง วัสดุเบาะนั่งและดีไซน์เออร์โกโนมิกที่ออกแบบมาอย่างดี เหมาะสำหรับการเดินทางกับครอบครัวหรือรับรองลูกค้าในเชิงธุรกิจ นอกจากนี้ระบบแอร์และความเงียบของรถยังทำงานได้ดีเยี่ยมในสภาพอากาศร้อนของไทย ด้านสมรรถนะ Alphard มักติดตั้งเครื่องยนต์ 2.5L หรือ 3.5L คู่กับเกียร์ที่ทำงานลื่นไหล ให้ทั้งพลังและประหยัดน้ำมัน เหมาะกับสภาพการจราจรติดขัดในกรุงเทพฯ เมื่อซื้อรถมือสองควรตรวจสอบประวัติการบริการ ระยะทางที่ใช้งาน และประวัติอุบัติเหตุอย่างละเอียด โดยเฉพาะรุ่น Hybrid ต้องเช็คสภาพแบตเตอรี่ให้ดี ในตลาดไทย Alphard เป็นรถที่ทรงค่ามากและหาอะไหล่ได้ค่อนข้างง่าย แต่ควรซื้อผ่านช่องทางที่น่าเชื่อถือและตรวจสภาพรถกับผู้เชี่ยวชาญก่อน เมื่อเทียบกับ MPV ญี่ปุ่นรุ่นอื่นๆ Alphard จะโดดเด่นเรื่องความทนทานและความหรูหรา แต่ราคามือสองอาจสูงกว่า ควรพิจารณาตามงบประมาณและความต้องการของผู้ซื้อ
Q
Toyota Alphard มีความยาวเท่าใด
Toyota Alphard เป็น MPV ระดับพรีเมียมที่ได้รับความนิยมสูงในตลาดไทย ด้วยความยาวตัวรถ 4,950 มม. (รุ่นที่ 3 ปี 2015-ปัจจุบัน) ขนาดนี้ช่วยให้มีพื้นที่กว้างขวางสำหรับเก้าอี้ 3 แถว ในขณะที่ยังคงความคล่องตัวสำหรับการขับขี่ในเมือง เหมาะกับไลฟ์สไตล์ครอบครัวหรือการรับรองเชิงธุรกิจในไทย ระยะฐานล้อ 3,000 มม. ช่วยเพิ่มความสบายสำหรับขาผู้โดยสาร ส่วนความกว้าง 1,850 มม. และความสูง 1,890 มม. ทำให้มีพื้นที่ด้านข้างและส่วนหัวมากกว่า เมื่อเทียบกับคู่แข่งอย่าง Honda Odyssey แล้ว Alphard ได้เปรียบในเรื่องความสูงตัวรถและประตูสไลด์ที่ทำให้ขึ้นลงสะดวกกว่า พิเศษสำหรับตลาดไทยที่นำเข้าเครื่องยนต์ทั้งแบบ 2.5L เบนซินและ 2.5L ไฮบริด ซึ่งรุ่นไฮบริดช่วยประหยัดน้ำมันได้ดีในเมืองติดขัดอย่างกรุงเทพฯ และยังได้สิทธิประโยชน์ทางภาษีตามนโยบายรถที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมของรัฐบาล เรื่องขนาดตัวรถอาจทำให้จอดในที่แคบลำบากหน่อย แนะนำให้เลือกรุ่นที่มีกล้องรอบคันช่วยเวลาจอดในที่ทึบๆแบบในไทยจะดีกว่า
Q
Toyota Alphard มีกี่ที่นั่ง?
Toyota Alphard คือรถยนต์ MPV ระดับไฮเอนด์ที่ได้รับความนิยมในตลาดประเทศไทย รุ่นมาตรฐานมีรูปแบบที่นั่งให้เลือกสองแบบ ได้แก่ 7 ที่นั่ง และ 8 ที่นั่ง โดยรุ่น 7 ที่นั่งจัดวางแบบ 2+2+3 ที่นั่ง พร้อมเบาะนั่งแถวที่สองแบบอิสระเหมือนที่นั่งเครื่องบิน ในขณะที่รุ่น 8 ที่นั่งจัดวางแบบ 2+3+3 ที่นั่ง ทำให้เหมาะสำหรับการเดินทางหลายคน ในประเทศไทยที่มีสภาพอากาศร้อน รถยนต์รุ่นนี้ได้รับการติดตั้งระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ 3 โซนและช่องระบายอากาศด้านหลังเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน เพื่อความสะดวกสบายในการขับขี่ ระยะฐานล้อ 2,850 มม. ให้พื้นที่วางขาที่กว้างขวางในแถวที่สาม ที่โดดเด่นคือ Alphard จากไทย โดดเด่นด้วยแชสซีและระบบช่วงล่างที่ได้รับการปรับปรุงเป็นพิเศษเพื่อให้เหมาะกับสภาพถนนในท้องถิ่น เครื่องยนต์ทั้ง 2.4 ลิตรและ 3.5 ลิตร ได้รับการปรับแต่งเป็นพิเศษเพื่อคงคุณภาพการขับขี่ที่นุ่มนวลและรักษาสมดุลการประหยัดน้ำมัน Alphard เป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับทั้งการใช้งานเพื่อธุรกิจและครอบครัว นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์เสริมที่ติดตั้งจากโรงงานในประเทศไทย เช่น วัสดุเบาะนั่งที่หรูหราขึ้นและระบบความบันเทิงที่อัปเกรดใหม่ สามารถปรับแต่งคุณสมบัติเหล่านี้ได้ที่ตัวแทนจำหน่ายในพื้นที่ ก่อนตัดสินใจซื้อ ขอแนะนำให้ทดลองนั่งในหลากหลายรูปแบบด้วยตนเอง และพิจารณาการใช้งานในชีวิตประจำวันของคุณ เพื่อเลือกรุ่นที่เหมาะสมที่สุด
Q
ความแตกต่างระหว่าง Toyota Alphard และ Vellfire คืออะไร
Toyota Alphard และ Vellfire คือ 2 รุ่น MPV ระดับไฮเอนด์จากค่ายโตโยต้า ที่ได้รับความนิยมมากในตลาดไทย ทั้งสองรุ่นใช้แพลตฟอร์มเดียวกันและโครงสร้างหลักแทบไม่ต่างกัน แต่จะแตกต่างที่ดีไซน์ภายนอกและกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย Alphard ออกแบบมาเพื่อความหรูหราอลังการ เน้นกริลล์โครเมียมขนาดใหญ่ด้านหน้า ให้ความรู้สึกเหมาะสำหรับการใช้งานระดับธุรกิจและครอบครัวไฮโซ ภายในห้องโดยสารใช้วัสดุคุณภาพสูง เน้นความสะดวกสบายเป็นพิเศษ เช่น ฟังก์ชันนวดของเบาะแถวสอง ส่วน Vellfire จะให้ความรู้สึกสปอร์ตและทันสมัยกว่า ด้วยไฟหน้าดีไซน์แบ่งส่วนและกริลล์ด้านหน้าที่ดูดุดัน ใช้โทนสีและดีเทลภายในที่โดดเด่น เหมาะสำหรับคนรุ่นใหม่ที่ชอบความแตกต่าง ในตลาดไทย Alphard มักถูกมองเป็นรถสำหรับธุรกิจอย่างเป็นทางการ ส่วน Vellfire จะเป็นที่นิยมในหมู่ครอบครัวรุ่นใหม่และคนส่วนตัว ทั้งสองรุ่นมีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์ 2.5L แบบเบนซินและแบบไฮบริด ที่ให้การขับขี่นุ่มลื่นและประหยัดน้ำมัน เหมาะกับสภาพการขับขี่ทั้งในเมืองและทางไกลของไทย ที่น่าสนใจคือลูกค้าสามารถเลือกลุคที่ชอบได้ผ่านการแต่งเพิ่มเติม เช่น ล้อแม็กส์ วัสดุภายใน หรือระบบเสียง เพื่อให้ตอบโจทย์สไตล์ส่วนตัว และด้วยอากาศร้อนของไทย ทั้งสองรุ่นจึงติดตั้งระบบแอร์ประสิทธิภาพสูงพร้อมฟิล์มกรองแสงประตูหลัง เพื่อเพิ่มความสบายในการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็น Alphard หรือ Vellfire ล้วนแสดงถึงความเหนือชั้นของโตโยต้าในวงการ MPV ที่ทั้งคุณภาพสูงและน่าเชื่อถือ จนกลายเป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับรถ MPV ระดับพรีเมียมในตลาดไทย
Q
Toyota Alphard คืออะไร
Toyota Alphard เป็นรถยนต์ระดับไฮเอนด์ประเภท MPV ที่ผลิตโดยโตโยต้า ได้รับความนิยมอย่างสูงจากความหรูหรา พร้อมพื้นที่ภายในที่กว้างขวางและความสะดวกสบาย อีกทั้งยังให้ประสบการณ์การขับขี่ที่ยอดเยี่ยม เหมาะสำหรับทั้งการเดินทางกับครอบครัวและการรับรองทางธุรกิจ ในตลาดไทย Alphard เป็นที่นิยมมากโดยเฉพาะรุ่น Hybrid ที่ทั้งประหยัดน้ำมันและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เหมาะสมกับสภาพการจราจรที่ติดขัดในเมืองอย่างกรุงเทพฯ ภายในห้องโดยสารตกแต่งด้วยวัสดุคุณภาพสูง พร้อมระบบความบันเทิงที่ทันสมัย และเบาะนั่งที่สบาย โดยเฉพาะเบาะแถวสองที่สามารถปรับไฟฟ้าและมีฟังก์ชันนวดได้ ให้ความรู้สึกเหมือนนั่งบนรถระดับพรีเมียม นอกจากนี้ Alphard ยังมาพร้อมกับระบบความปลอดภัยที่ครบครัน ทั้งระบบป้องกันการชน ระบบช่วยรักษาเลน และระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ ทำให้มั่นใจได้ถึงความปลอดภัยในการเดินทาง ในประเทศไทย รถ Alphard มักถูกเลือกใช้โดยโรงแรมระดับสูงและบริษัทต่างๆ สำหรับบริการรับส่งลูกค้า ซึ่งสะท้อนถึงความน่าเชื่อถือและตำแหน่งแห่งที่ในตลาดรถ MPV หรู หากคุณกำลังมองหารถที่ตอบโจทย์ทั้งการใช้ในครอบครัวและความหรูหราสำหรับธุรกิจ Toyota Alphard นับเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจอย่างยิ่ง
รถยอดนิยม
รุ่นปีรถยนต์
เปรียบเทียบรถยนต์
รูปภาพรถ
Q&A ล่าสุด
Q
Chery Omoda 5 เป็นระบบขับเคลื่อน 4 ล้อหรือไม่?
รุ่น Chery Omoda 5 ที่วางจำหน่ายในตลาดไทยส่วนใหญ่จะเป็นระบบขับเคลื่อนล้อหน้า ไม่ใช่ระบบสี่ล้อขับเคลื่อน โดยทั่วไปแล้ว รถยนต์รุ่นทั่วไปมักจะเน้นการส่งกำลังไปที่ล้อหน้าเป็นหลัก ระบบขับเคลื่อนแบบนี้เหมาะกับการขับขี่ในเมืองและสภาพถนนทั่วไป สามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคส่วนใหญ่ได้ดี แถมยังช่วยประหยัดน้ำมันและลดต้นทุนได้อีกด้วย แต่ในบางตลาด เช่น อินโดนีเซีย อาจจะมีให้เลือกทั้งระบบขับเคลื่อนล้อหน้าและระบบสี่ล้อขับเคลื่อน ระบบขับเคลื่อนแต่ละแบบมีจุดเด่นต่างกัน ระบบสี่ล้อขับเคลื่อนมักจะแสดงประสิทธิภาพโดดเด่นในสภาพถนนที่ซับซ้อน อากาศเลวร้าย หรือเมื่อต้องการกำลังส่งและความมั่นคงสูงกว่า เช่น ในถนนหิมะ ถนนโคลน หรือสภาพถนนออฟโรด ส่วนระบบขับเคลื่อนล้อหน้ามีโครงสร้างไม่ซับซ้อน ต้นทุนต่ำกว่า และให้ความสะดวกสบายรวมถึงประหยัดน้ำมันได้ดีกว่าในการขับขี่ในเมือง
Q
Chery Omoda 5 เป็นรถยนต์น้ำมันเบนซินใช่หรือไม่?
ใช่แล้ว Chery Omoda 5 เป็นรถยนต์ที่ใช้น้ำมันเบนซิน แม้ว่าชื่อของมันอาจทำให้หลายคนเข้าใจผิดว่าเป็นรถพลังงานใหม่ แต่จริงๆ แล้วมันคือรถที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายใน Omoda 5 ถูกออกแบบมาในตำแหน่ง SUV ขนาดกะทัดรัด ด้วยดีไซน์ภายนอกที่โดดเด่น หน้าตาหน้ารถมาพร้อมกับคอนเซปต์แบบไร้กรอบโครเมี่ยม เน้นลวดลายกริลโล่ขนาดใหญ่เล็กสลับกัน พร้อมไฟหน้าแบบแยกส่วนที่ดูเฉียบคมและจัดเรียงในรูปแบบเมทริกซ์ ด้านข้างเป็นสไตล์เรียวลู่หลังคาแบบลอยตัว เส้นสายตัวรถที่ตัดเป็นช่วงๆ เพิ่มความรู้สึกด้านเทคโนโลยี มาพร้อมล้อสปอร์ตสีดำ ขนาดตัวรถคือ 4400/1830/1585 มม. ระยะฐานล้อ 2630 มม. รถน้ำมันรุ่นนี้ตอบโจทย์ทั้งการใช้งานประจำวันและความสนุกในการขับขี่ แถมยังให้ประสบการณ์ด้านสมรรถนะที่คุ้มค่า
Q
รถยนต์ Chery Omoda 5 SUV กำลังถูกเรียกคืนทันทีหรือไม่?
ณ เวลานี้ยังไม่มีข่าวสารอย่างเป็นทางการจาก Chery ที่ระบุว่า SUV รุ่น Omoda 5 จะมีการเรียกกลับในทันที โดยปกติแล้วการเรียกกลับรถยนต์จะเกิดขึ้นเมื่อพบข้อบกพร่องที่อาจส่งผลต่อความปลอดภัยหรือประสิทธิภาพการทำงานของรถ ซึ่งบริษัทผู้ผลิตจะดำเนินการตามขั้นตอนที่กำหนดไว้อย่างเคร่งครัดและแจ้งให้ผู้บริโภครับทราบผ่านช่องทางทางการ เช่น การประกาศจากเว็บไซต์ทางการ การแจ้งเตือนจากตัวแทนจำหน่าย เป็นต้น หากผู้ใช้งานต้องการติดตามข้อมูลการเรียกกลับของรถรุ่นนี้ สามารถติดตามได้ทางเว็บไซต์ทางการของ Chery บัญชีโซเชียลมีเดียทางการ หรือสอบถามโดยตรงที่ตัวแทนจำหน่ายท้องถิ่นที่ได้รับอนุญาต พวกเขาจะสามารถให้ข้อมูลที่ถูกต้องและทันสมัยเกี่ยวกับสถานะของรถรุ่นนี้ เพื่อให้เจ้าของรถสามารถรับทราบและดำเนินการแก้ไขในกรณีที่มีการเรียกกลับ
Q
รถ Chery Omoda 5 ประหยัดน้ำมันไหม?
Chery Omoda 5 รุ่นต่างๆ จะมีประสิทธิภาพในการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงที่แตกต่างกันออกไป สำหรับรุ่น 1.5T ที่ระบุในรายการนั้นมีการสิ้นเปลืองน้ำมันอยู่ที่ 7.1 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร ส่วนรุ่นพื้นฐานที่ใช้เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร 4 สูบเทอร์โบ จะสิ้นเปลืองน้ำมันประมาณ 7.5 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร ซึ่งถือว่าเหมาะสมกับการใช้งานในเมืองและการเดินทางระยะสั้นในช่วงวันหยุด ประสิทธิภาพการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงอาจขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น พฤติกรรมการขับขี่ สภาพถนน หรือน้ำหนักบรรทุก ดังนั้นตัวเลขการใช้น้ำมันจริงของแต่ละคนอาจแตกต่างกันไป ถ้าอยากให้รถประหยัดน้ำมันที่สุด ควรขับขี่อย่างนุ่มนวล ใช้แอร์อย่างเหมาะสม และไม่ควรปล่อยให้เครื่องยนต์เดินเบานานเกินไป นอกจากนี้ Chery ยังแนะนำให้ใช้เชื้อเพลิง 95 RON สำหรับเครื่องยนต์ 1.6 ลิตร ส่วนเครื่องยนต์ 1.5 ลิตรใช้เบนซิน 91 RON ก็เพียงพอ การเลือกใช้น้ำมันเชื้อเพลิงตามที่กำหนดจะช่วยรักษาประสิทธิภาพของรถและช่วยประหยัดน้ำมันได้ดีขึ้น
Q
Chery Omoda 5 มีคะแนนความปลอดภัยเท่าไหร่?
รถ Chery Omoda 5 ในปี 2022 ได้รับการประเมินความปลอดภัย 5 ดาวจาก ANCAP ครับ ในส่วนการปกป้องผู้โดยสารผู้ใหญ่ได้คะแนน 87% ส่วนเด็กได้ 88% ส่วนผู้ใช้ถนนที่เปราะบางได้ 68% และระบบช่วยเหลือด้านความปลอดภัยได้ 83% รุ่นนี้ติดตั้งถุงลมนิรภัยถึง 7 ตัว รวมถึงถุงลมนิรภัยกลางสำหรับผู้โดยสารแถวหน้า นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยีความปลอดภัยครบครัน ทั้งระบบเบรกอัตโนมัติความเร็วต่ำ (AEB) ระบบเตือนเมื่อออกนอกเลนพร้อมช่วยควบคุมการทรงตัว ระบบช่วยรักษาเลนในกรณีฉุกเฉิน ระบบตรวจสอบจุดบอด ระบบเตือนเมื่อถอยหลังพร้อมเบรกอัตโนมัติ ระบบตรวจสอบการละสายตาของคนขับ ระบบช่วยควบคุมในจราจรติดขัด ระบบแสดงข้อมูลความเร็วตามป้ายจราจร ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ และกล้องมองรอบคัน 360 องศา ด้วยฟีเจอร์และคะแนนแบบนี้บอกได้เลยว่าเรื่องความปลอดภัยนั้นค่อนข้างดีทีเดียว ช่วยให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารรู้สึกมั่นใจได้ระดับนึงเลยล่ะ
ดูเพิ่มเติมข่าวที่เกี่ยวข้อง

Toyota Alphard: เบาะนั่งสบายพร้อมอุปกรณ์ที่ใช้งานได้จริง การขับขี่ที่ง่ายดาย
Kevin WongApr 14, 2025

Toyota Alphard เปิดตัว PHEV ในญี่ปุ่นที่สุด ก็ได้ตามกระแสของรถยนต์ไฟฟ้าแล้ว
สุรเดชDec 25, 2024

เริ่มต้น 4,129,000 บาท! Toyota Alphard: MPV ระดับไฮเอนด์ที่มีโลโก้ของตัวเอง
AshleyJul 31, 2024

เจาะลึก Toyota GR GT ซูเปอร์คาร์ V8 รุ่นใหม่ พัฒนาเคียงคู่ GR GT3 เตรียมลงตลาดปี 2027
ณัฐวุฒิDec 15, 2025

ควรเลือก Toyota Corolla Cross รุ่นท็อป หรือ Fortuner รุ่นเริ่มต้น?
พงศธรNov 24, 2025
ดูเพิ่มเติม


ข้อดี
ข้อเสีย