Q
รถ Nissan Leaf ปี 2020 มีความเร็วเท่าไหร่?
Nissan Leaf รุ่นปี 2020 นี่สุดยอดความเร็วสูงสุดอยู่ที่ประมาณ 144 กม./ชม. ส่วนอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใช้เวลาแค่ 7.9 วินาทีเท่านั้น สำหรับรถไฟฟ้าแบบเต็มรูปแบบแล้ว LEAF นี่ขับทั้งในเมืองและบนทางด่วนของไทยได้สบายๆ โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ ที่รถติดบ่อยๆ การขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าทำให้การขับนุ่มลื่นและเงียบมาก สภาพถนนที่ต้องเดินหรือหยุดบ่อยๆ ตัว Leaf ติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้กำลังสูงสุด 110 กิโลวัตต์ แรงบิดสูงถึง 320 นิวตัน-เมตร ตอบสนองการเร่งได้ทันใจ เหมาะกับการใช้งานในสภาพอากาศร้อนๆ ของไทยสำหรับการเดินทางระยะสั้นๆ อีกอย่าง รถไฟฟ้าแบบนี้มักจะเร่งแซงหรือออกตัวได้ดีกว่ารถน้ำมันในระดับเดียวกัน เพราะมอเตอร์ไฟฟ้าสามารถให้แรงบิดสูงสุดได้ทันที ซึ่งช่วยได้มากเวลาแซงหรือออกตัว ในไทยยังได้สิทธิประโยชน์สำหรับรถไฟฟ้าอีกด้วย เช่น ลดภาษีนำเข้าและภาษีสรรพสามิต ส่วนสถานีชาร์จก็มีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดย Nissan มีสถานีชาร์จในเมืองหลักของไทยให้ใช้สะดวก ระยะทางการขับขี่ของ Leaf อยู่ที่ประมาณ 270 กม. (ตามมาตรฐาน WLTP) ซึ่งเพียงพอสำหรับการเดินทางประจำวันหรือทริปสั้นๆ ถ้าใช้แค่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ก็อาจชาร์จแค่สัปดาห์ละครั้งก็พอ
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto
Q&A เกี่ยวข้อง
Q
จะเกิดอะไรขึ้นถ้ารถ Nissan Leaf แบตเตอรี่หมด?
ถ้า Nissan Leaf หมดแบตเตอรี่ขณะขับขี่ในไทย รถจะค่อยๆ ลดความเร็วลงจนหยุดสนิท ในกรณีนี้ต้องเรียกบริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนถนนหรือใช้บริการชาร์จเคลื่อนที่ ที่ไทยมีศูนย์บริการรับรองจากนิสสันในเมืองหลักอย่างกรุงเทพหรือเชียงใหม่ที่ให้บริการช่วยเหลือตลอด 24 ชั่วโมง แนะนำให้เจ้าของรถดาวน์โหลดแอป NissanConnect EV ไว้ตรวจสอบระดับแบตเตอรี่แบบเรียลไทม์ สภาพอากาศร้อนที่ไทยทำให้แอร์กินไฟเร็ว ถ้าเดินทางไกลแนะนำให้แวะชาร์จไฟที่สถานีชาร์จเร็วแบบ CHAdeMO ตามปั๊ม PTT ในจุดพักรถ ส่วนระบบนำทางของ Leaf จะแสดงตำแหน่งสถานีชาร์จและคำนวณไฟที่เหลือให้ด้วย ถ้าต้องใช้รถในพื้นที่ห่างไกลบ่อยๆ อาจพกเครื่องชาร์จแบบพกพาติดรถไว้ ไฟฟ้าในไทยเป็น 220V ซึ่งใช้กับ Leaf ได้ แต่การชาร์จกับปลั๊กบ้านจะช้ามาก (ชาร์จได้แค่ 10-15 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) การใช้งานประจำวันแนะนำให้รักษาระดับแบตเตอรี่ไว้ที่ 20% ขึ้นไปเพื่อยืดอายุแบตเตอรี่ ส่วนช่วงฤดูฝนต้องระวังระดับน้ำสูงไม่เกิน 30 ซม. เพื่อความปลอดภัยของแบตเตอรี่
Q
“รถ Nissan Leaf มีแบตเตอรี่สองก้อนไหม?”
รถยนต์ Nissan Leaf จริงๆ แล้วมีแบตเตอรี่สองชุด แบตเตอรี่หลักคือชุดแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนแรงดันสูง ทำหน้าที่ขับเคลื่อนมอเตอร์ไฟฟ้าและให้พลังงานที่จำเป็นสำหรับการขับขี่ ในสภาพอากาศร้อนของไทย แบตเตอรี่รุ่นนี้ใช้ระบบควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติเพื่อความมั่นคง นอกจากนี้ยังมีแบตเตอรี่แรงดันต่ำ 12V สำหรับสตาร์ทรถและจ่ายไฟให้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในรถ การออกแบบแบตเตอรี่คู่นี้เป็นเรื่องปกติในรถยนต์ไฟฟ้า 100% สำหรับผู้ใช้ในไทย ต้องระวังเรื่องแบตเตอรี่ 12V อาจเสื่อมสภาพหากจอดรถไว้นานเกินไป แนะนำให้ตรวจสอบเป็นประจำ ส่วนเครือข่ายสถานีชาร์จในบางจังหวัดของไทยยังอยู่ระหว่างการพัฒนา แต่ฟังก์ชันชาร์จเร็วของ Leaf ใช้สะดวกในเมืองใหญ่เช่นกรุงเทพฯ แบตเตอรี่ Leaf มีความจุต่างกันไปตามปีรุ่น รุ่นใหม่ๆ จะวิ่งได้ไกลกว่า เหมาะกับการเดินทางในเมืองของไทย นโยบายสนับสนุนรถ EV ของรัฐบาลไทยยังทำให้ Leaf มีความคุ้มค่าเพิ่มขึ้น การรักษาระดับแบตเตอรี่ระหว่าง 20%-80% จะช่วยยืดอายุแบตเตอรี่ ซึ่งเข้ากับพฤติกรรมการขับขี่ระยะสั้นของคนไทยได้ดี
Q
ฉันสามารถเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่สำหรับ Nissan Leaf ได้ไหม?
ใช่แล้ว คุณสามารถเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่ให้กับ Nissan Leaf ของคุณได้ ในประเทศไทยสามารถทำได้ที่ตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการของ Nissan หรือศูนย์บริการที่ได้รับอนุญาต โดยทั่วไปตัวแทนจำหน่าย Nissan ในประเทศไทยจะให้บริการเปลี่ยนแบตเตอรี่แท้จากโรงงาน ซึ่งมั่นใจได้ว่าแบตเตอรี่จะทำงานได้ดีกับรถของคุณและยังได้รับประกันจากทางบริษัทอีกด้วย ตอนนี้ในตลาดประเทศไทยมีแบตเตอรี่ Leaf ให้เลือกสองขนาดหลักๆ คือ 40kWh และ 62kWh ขึ้นอยู่กับว่ารถคุณเป็นรุ่นปีไหนและต้องการระยะทางขับขี่แบบไหน แต่อย่าลืมว่าอากาศร้อนของไทยอาจส่งผลต่ออายุการใช้งานของแบตเตอรี่ แนะนำให้ตรวจสอบสภาพแบตเตอรี่เป็นประจำและหลีกเลี่ยงการจอดรถตากแดดจัดเป็นเวลานานๆ นอกจากนี้รัฐบาลไทยกำลังผลักดันเรื่องโครงสร้างพื้นฐานสำหรับรถไฟฟ้า ทั้งสถานีชาร์จและจุดรับคืนแบตเตอรี่ใช้แล้ว ทำให้ในอนาคตการเปลี่ยนแบตเตอรี่และการรีไซเคิลจะสะดวกขึ้นมาก ถ้าคุณกำลังคิดจะเปลี่ยนแบตเตอรี่ แนะนำให้ติดต่อตัวแทนจำหน่ายในพื้นที่ล่วงหน้าเพื่อสอบถามราคาล่าสุดและระยะเวลารอรับบริการ เพราะสต็อกแบตเตอรี่อาจมีการเปลี่ยนแปลงตามความต้องการ และอย่าลืมถามเกี่ยวกับโปรโมชั่นหรือส่วนลดจากทางรัฐบาลที่อาจช่วยลดค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้ด้วย
Q
Nissan Leaf อัพเกรดแบตเตอรี่ในปีใด
Nissan Leaf ในปี 2018 ได้รับการอัปเกรดแบตเตอรี่ โดยรุ่นใหม่มาพร้อมกับแบตเตอรี่ลิเธียมขนาด 40kWh ซึ่งเพิ่มขึ้นจากรุ่นเดิมที่ใช้แบตเตอรี่ 30kWh ทำให้ระยะทางการขับขี่เพิ่มขึ้นจาก 250 กิโลเมตรเป็นประมาณ 300 กิโลเมตร (ตามมาตรฐาน NEDC) ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญสำหรับผู้ใช้ในไทยเพราะอากาศร้อนแอร์ต้องใช้บ่อย แบตเตอรี่ความจุมากขึ้นจะช่วยให้ตอบโจทย์การเดินทางในชีวิตประจำวันได้ดีขึ้น ที่น่าสนใจคือรัฐบาลไทยมีนโยบายส่งเสริมรถ EV เช่น ลดภาษีนำเข้าและภาษีสรรพสามิต ทำให้ Leaf ในตลาดไทยมีความคุ้มค่ามากขึ้น นอกจากนี้เทคโนโลยีแบตเตอรี่ของ Leaf ใช้ระบบระบายความร้อนด้วยอากาศ แม้ในสภาพอากาศร้อนของไทยอาจไม่ประสิทธิภาพเท่าระบบระบายความร้อนด้วยน้ำ แต่ก็ยังใช้งานได้มั่นใจได้ในชีวิตประจำวัน ถ้าคุณกำลังมองหาซื้อ Leaf มือสอง แนะนำให้เลือกรุ่นปี 2018 เป็นต้นไปเพราะอายุแบตเตอรี่และระยะทางเมวะอย่างยิ่งกับสภาพถนนไทย โครงสร้างพื้นฐานการชาร์จในไทยกำลังพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยในกรุงเทพฯ มีสถานีชาร์จค่อนข้างมาก และ โปรโตคอล CHADEMO Fast Charge ของ Leaf ยังพบได้ทั่วไปในประเทศไทยและสามารถชาร์จไฟได้ถึง 80% ภายใน 30 นาทีซึ่งเหมาะสำหรับการเดินทางระยะสั้นในเมือง
Q
ข้อเสียของ Nissan Leaf คืออะไร?
รถยนต์ไฟฟ้า Nissan Leaf เมื่อวางตลาดในไทยจะมีจุดอ่อนหลักๆ อยู่ที่ระยะขับขี่และสถานีชาร์จ โดยรุ่นมาตรฐานตามมาตรฐาน NEDC จะวิ่งได้ประมาณ 270 กิโลเมตร แต่เมื่อใช้จริงในเมืองอาจลดลงเหลือแค่ 200 กิโลเมตร ซึ่งไม่สะดวกสำหรับการเดินทางข้ามจังหวัดหรือผู้ใช้ที่ไม่มีจุดชาร์จที่บ้าน โดยเฉพาะสภาพอากาศร้อนของไทยที่ทำให้การใช้พลังงานแบตเตอรี่เพิ่มขึ้นประมาณ 10-15% และปัจจุบันสถานีชาร์จเร็วในไทยยังกระจุกตัวอยู่ในกรุงเทพฯ และเมืองใหญ่ ส่วนจังหวัดอื่นๆ ยังมีไม่ทั่วถึง นอกจากนี้พื้นที่ด้านหลังของรถยังค่อนข้างคับแคบ ซึ่งอาจไม่ตอบโจทย์การใช้งานแบบนั่งหลายคนที่นิยมในไทย แบตเตอรี่ยังมีแนวโน้มเสื่อมสภาพเร็วกว่าในเขตอากาศอบอุ่นเนื่องจากความร้อนสูง แนะนำให้เจ้าของรถในไทยจอดรถในที่ร่มและหลีกเลี่ยงการชาร์จเร็วบ่อยๆเพื่อยืดอายุแบตเตอรี่
ที่น่าสนใจคือรัฐบาลไทยมีมาตรการลดภาษีนำเข้าและภาษีสรรพสามิตสำหรับรถไฟฟ้า แต่ Leaf ในฐานะรถนำเข้ายังมีราคาสูกว่ารถยนต์น้ำมันระดับเดียวกันประมาณ 3-4 แสนบาท ต้องคำนวณดูว่าคุ้มค่าในระยะยาวหรือไม่จากระยะทางใช้งานจริง ข้อมูลจากกระทรวงพลังงานไทยแสดงว่า ค่าไฟต่อกิโลเมตรของรถไฟฟ้าอยู่ที่ประมาณ 0.8 บาท ซึ่งเป็นเพียง 1/3 ของรถน้ำมัน แต่ก็ต้องคำนึงถึงค่าเปลี่ยนแบตเตอรี่ในอนาคตด้วย
Q
“รถยนต์ Nissan Leaf จำเป็นต้องได้รับการบำรุงรักษาหรือไม่?”
สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า Nissan Leaf ที่ใช้งานในประเทศไทย ก็จำเป็นต้องมีการดูแลรักษาตามระยะเหมือนกัน แต่ถ้าเทียบกับรถยนต์ที่ใช้น้ำมันแล้ว การดูแลรักษาง่ายกว่าเยอะ แค่เน้นไปที่การตรวจสอบระบบแบตเตอรี่ ระบบเบรก และระบบแอร์ก็พอ โดยสภาพอากาศร้อนๆ แบบประเทศไทย แนะนำให้ตรวจเช็คพื้นฐานทุก 1 หมื่นกิโลเมตรหรือทุก 12 เดือนครับ โดยเฉพาะระบบระบายความร้อนของแบตเตอรี่ต้องให้ความสำคัญเป็นพิเศษ เพื่อป้องกันไม่ให้ความร้อนส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงาน ส่วนสภาพแวดล้อมที่ฝนตกบ่อยๆ ของไทย ก็ต้องคอยตรวจสอบระบบเบรกเป็นประจำเพื่อป้องกันความชื้นด้วย รถ EV ไม่ต้องเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง หรือหัวเทียนเหมือนรถทั่วไป ทำให้ประหยัดค่าบำรุงไปได้ส่วนหนึ่ง แต่ก็ยังต้องคอยตรวจสอบสภาพยางรถและผ้าเบรกตามระยะอยู่ดี โชคดีที่ศูนย์บริการของนิสสันในไทยหลายๆ แห่งมีอุปกรณ์ตรวจเช็ครถ EV โดยเฉพาะ สามารถให้บริการตรวจสอบสุขภาพแบตเตอรี่ได้อย่างมืออาชีพ แนะนำให้เจ้าของรถทำตามคู่มือการดูแลรักษาอย่างเคร่งครัด เพื่อยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ ตอนนี้รัฐบาลไทยก็มีมาตรการสนับสนุนรถ EV ทั้งลดภาษีและให้สิทธิพิเศษต่างๆ การมีประวัติการบำรุงรักษาที่ครบถ้วนยังช่วยให้รถมีมูลค่าสูงขึ้นเวลาขายมือสองด้วย ส่วนในชีวิตประจำวันก็ควรหลีกเลี่ยงการจอดตากแดดนานๆ หรือชาร์จไฟเร็วบ่อยเกินไป แค่นี้ก็ช่วยให้รถอยู่ในสภาพดีที่สุดแล้วล่ะ
Q
ประกันภัยของ Nissan Leaf มีราคาสูงไหม?
ในประเทศไทย Nissan Leaf ในฐานะรถยนต์ไฟฟ้า 100% มักจะมีค่าเบี้ยประกันที่สูงกว่ารถยนต์เชื้อเพลิงทั่วไปในระดับเดียวกัน สาเหตุหลักมาจากค่าแบตเตอรี่ของรถไฟฟ้าที่สูงกว่า และเทคโนโลยีการซ่อมบำรุงที่ต้องใช้ความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง อย่างไรก็ตาม เบี้ยประกันจริงจะแตกต่างกันไปตามประวัติการขับขี่ของเจ้าของรถ พื้นที่ใช้งาน (เช่นในกรุงเทพอาจมีเบี้ยประกันสูงกว่าภูมิภาค) และนโยบายของบริษัทประกัน ดังนั้นก่อนซื้อรถควรสอบถามราคาจากหลายบริษัทเพื่อเปรียบเทียบ นอกจากนี้ รัฐบาลไทยมีนโยบายลดภาษีและให้สิทธิประโยชน์สนับสนุนรถไฟฟ้า ซึ่งอาจส่งผลต่อกลยุทธ์การกำหนดราคาประกันทางอ้อม ที่น่าสนใจคือค่าใช้จ่ายประจำวันของรถไฟฟ้า เช่นค่าไฟและค่าบำรุงรักษามักจะถูกกว่ารถน้ำมัน เมื่อมองในระยะยาวสามารถชดเชยส่วนต่างค่าเบี้ยประกันได้บ้าง ตลาดรถไฟฟ้าในไทยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในปีที่ผ่านมา บริษัทประกันก็กำลังพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง ทำให้ในอนาคตอาจมีแผนประกันรถไฟฟ้าที่มีความยืดหยุ่นมากขึ้น
Q
ทำไม Nissan ถึงหยุดผลิตรถยนต์รุ่น Leaf?
Nissan ตัดสินใจหยุดผลิต Leaf เพื่อมุ่งเน้นทรัพยากรในการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่เป็นหลัก โดย Leaf ในฐานะรถไฟฟ้ารุ่นแรกของโลกที่ผลิตจำนวนมากตั้งแต่เปิดตัวปี 2010 ได้สร้างชื่อเสียงในตลาดเช่นไทย แต่ด้วยเทคโนโลยีรถไฟฟ้าที่พัฒนาอย่างรวดเร็ว ทำให้สมรรถนะการขับขี่และความเร็วในการชาร์จเริ่มล้าหลังเมื่อเทียบกับรุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง Ariya ที่ Nissan เพิ่งเปิดตัว ซึ่งมาพร้อมแบตเตอรี่และแพลตฟอร์มที่ทันสมัยกว่า พร้อมระยะขับขี่เกิน 500 กิโลเมตร เหมาะกับความต้องการปัจจุบัน โดยเฉพาะในประเทศร้อนอย่างไทยที่รถไฟฟ้าต้องการระบบจัดการความร้อนและความทนทานของแบตเตอรี่ที่สูงกว่า ซึ่งรุ่นใหม่ๆก็พัฒนาจุดนี้ได้ดีขึ้น การหยุดผลิต Leaf เป็นเรื่องปกติของวงการยานยนต์ที่เทคโนโลยีต้องอัพเกรดอยู่เสมอ อนาคต Nissan วางแผนจะเปิดตัวรถไฟฟ้าหลายรุ่นที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับตลาดอาเซียน และด้วยที่ไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ในภูมิภาคนี้ ก็มีความเป็นไปได้สูงที่รุ่นใหม่ๆเหล่านี้จะถูกผลิตในไทย ซึ่งเป็นข่าวดีสำหรับผู้บริโภคไทยที่จะมีตัวเลือกมากขึ้น ขณะที่นโยบายอุดหนุนรถยนต์ไฟฟ้าของรัฐบาลไทยก็จะเร่งความนิยมของเทคโนโลยีใหม่
Q
คุณควรเปลี่ยนแบตเตอรี่ของ Nissan Leaf บ่อยแค่ไหน?
แบตเตอรี่ของ Nissan Leaf โดยทั่วไปจะมีอายุการใช้งานประมาณ 8-10 ปี ระยะเวลาในการเปลี่ยนจะขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการใช้งานและสภาพอากาศในประเทศไทย ซึ่งอากาศที่ร้อนชื้นของไทยอาจส่งผลต่ออายุแบตเตอรี่บ้าง แต่ Leaf มีระบบจัดการความร้อนในแบตเตอรี่ที่ช่วยลดผลกระทบจากอุณหภูมิ extremes ได้ดี แนะนำให้เจ้าของรถตรวจสอบสุขภาพแบตเตอรี่เป็นประจำที่ศูนย์บริการของ Nissan เมื่อความจุแบตเตอรี่ลดลงเหลือต่ำกว่า 70% ก็สามารถพิจารณาเปลี่ยน การใช้งานประจำวันควรหลีกเลี่ยงการชาร์จเร็วบ่อยครั้งและการใช้งานจนแบตเตอรี่หมดสนิท เพื่อยืดอายุแบตเตอรี่ ปัจจุบันรัฐบาลไทยกำลังส่งเสริมโครงสร้างพื้นฐานสำหรับรถ EV ทั้งเพิ่มสถานีชาร์จและบริการรีไซเคิลแบตเตอรี่ ซึ่งช่วยอำนวยความสะดวกให้เจ้าของ Leaf ได้มาก อย่างไรก็ตาม ค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนแบตเตอรี่ยังค่อนข้างสูง แต่ด้วยเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้น ราคาแบตเตอรี่ก็มีแนวโน้มลดลงเรื่อยๆ รวมถึงไทยยังมีนโยบายสนับสนุนรถ EV ที่ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายให้เจ้าของรถได้บ้าง
Q
ค่าใช้จ่ายในการชาร์จ Nissan Leaf รุ่นปี 2020 เท่าไหร่?
ค่าใช้จ่ายในการชาร์จรถ Nissan Leaf รุ่นปี 2020 ในประเทศไทยส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับวิธีการชาร์จและอัตราค่าไฟฟ้าในพื้นที่ หากใช้การชาร์จแบบช้าที่บ้าน (7kW) ค่าใช้จ่ายในการชาร์จแบตเตอรี่ขนาด 40kWh ให้เต็มจะอยู่ที่ประมาณ 160-240 บาท (คิดตามอัตราค่าไฟฟ้าที่ 4-6 บาทต่อหน่วย) ส่วนสถานีชาร์จเร็วสาธารณะ (เช่น EA Anywhere หรือ EV Station Thailand) จะมีราคาสูงกว่านิดหน่อยประมาณ 200-300 บาท แต่สามารถชาร์จได้ถึง 80% ในเวลาเพียง 30 นาที รัฐบาลไทยกำลังส่งเสริมให้คนใช้รถไฟฟ้ามากขึ้น โดยบางห้างสรรพสินค้าและสถานีชาร์จมีบริการชาร์จฟรี แนะนำให้เจ้าของรถใช้แอปพลิเคชันเช่น PlugShare เพื่อหาจุดชาร์จที่มีโปรโมชัน
ที่น่าสนใจคือค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษารถไฟฟ้าจะถูกกว่ารถยนต์ที่ใช้น้ำมันประมาณ 30%-40% แถมประเทศไทยยังมีการลดภาษีนำเข้าและภาษีถนนสำหรับรถพลังงานใหม่ ทำให้ใช้ไปยาวๆ แล้วคุ้มค่ากว่า นอกจากนี้ระบบ e-Pedal หรือระบบเหยียบแป้นเดียวของ Leaf ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการกักเก็บพลังงานเมื่อขับในเส้นทางติดขัดในกรุงเทพฯ ทำให้ระยะทางจริงที่วิ่งได้ใกล้เคียง 270 กิโลเมตร (จากมาตรฐาน NEDC ที่ 311 กิโลเมตร) เหมาะกับการขับขี่ในเมือง แนะนำให้ตรวจสอบสุขภาพแบตเตอรี่เป็นประจำและหลีกเลี่ยงการชาร์จเร็วเป็นเวลานานในที่อุณหภูมิสูง เพื่อยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่
Q&A ล่าสุด
Q
มีการเรียกคืนรถ Range Rover Sport รุ่นปี 2020 ไหม?
สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับการเรียกคืนรถ Land Rover Range Rover Sport รุ่นปี 2020 จากข้อมูลสาธารณะทั่วโลก พบว่ามีการออกประกาศเรียกคืนเนื่องจากปัญหาที่อาจเกิดขึ้นกับระบบอิเล็กทรอนิกส์หรือชิ้นส่วนบางส่วน ส่วนในตลาดไทย เจ้าของรถสามารถตรวจสอบรายละเอียดการเรียกคืนได้ผ่านเครื่องมือค้นหาบนเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ Land Rover ประเทศไทย หรือติดต่อตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับอนุญาตโดยใช้หมายเลข VIN ของรถ นอกจากนี้ยังสามารถตรวจสอบข้อมูลการเรียกคืนผ่านฐานข้อมูลความปลอดภัยของยานพาหนะของกรมการขนส่งทางบกไทยได้ด้วย ในสภาพอากาศร้อนชื้นของประเทศไทย เจ้าของรถควรให้ความสนใจเป็นพิเศษกับการป้องกันความชื้นของชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์และระบบระบายความร้อน รวมถึงควรนำรถไปตรวจเช็คที่ศูนย์บริการอย่างเป็นทางการของ Land Rover เป็นประจำเพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้น ไม่ว่าจะมีการเรียกคืนหรือไม่ก็ตาม แนะนำให้เจ้าของรถในประเทศไทยทำการบำรุงรักษาพื้นฐานทุก 6 เดือนหรือทุก 10,000 กิโลเมตร และในเขตภูมิอากาศแบบร้อนชื้นอาจต้องลดระยะเวลาการบำรุงรักษาระบบกรองอากาศและระบบปรับอากาศให้สั้นลงกว่าเดิม หากตรวจสอบแล้วว่ารถของคุณอยู่ในข่ายเรียกคืน ตัวแทนจำหน่าย Land Rover ในประเทศไทยจะให้บริการเปลี่ยนชิ้นส่วนหรืออัปเกรดซอฟต์แวร์ฟรี โดยกระบวนการนี้ใช้เวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมงเท่านั้น สำหรับรถนำเข้าขนาน (Parallel Import) ที่ซื้อในประเทศไทย เจ้าของรถสามารถติดต่อผู้จัดนำเข้าเพื่อประสานงานกับฝ่ายบริการหลังการขายในประเทศต้นทางเกี่ยวกับเรื่องการเรียกคืนได้
Q
มีการเรียกคืนรถ Land Rover Discovery รุ่นปี 2020 หรือไม่?
จากข้อมูลที่มีอยู่ในปัจจุบัน รุ่น Land Rover Discovery ปี 2020 มีการเรียกคืนในบางตลาดเนื่องจากปัญหาเฉพาะ เช่น ในอเมริกาเหนือเคยมีการเรียกคืนเนื่องจากปัญหาการรั่วซึมของตัวช่วยเบรก อย่างไรก็ตามสำหรับสถานการณ์เรียกคืนในตลาดไทย ต้องตรวจสอบกับประกาศทางการของ Land Rover ประเทศไทยหรือข้อมูลจากหน่วยงานขนส่งท้องถิ่นเพื่อความแน่ชัด แนะนำให้เจ้าของรถใช้เครื่องมือตรวจสอบการเรียกคืนบนเว็บไซต์ทางการของ Land Rover ประเทศไทยโดยป้อนหมายเลขตัวถัง (VIN) หรือติดต่อโดยตรงกับตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับอนุญาตในประเทศไทย เนื่องจากประเทศไทยมีสภาพอากาศแบบร้อนชื้น เจ้าของรถควรให้ความสนใจเป็นพิเศษกับผลกระทบของระบบอิเล็กทรอนิกส์เมื่อต้องขับรถในช่วงน้ำท่วมในฤดูฝน และควรตรวจสอบความแน่นหนาของระบบใต้ท้องรถเป็นประจำ ระบบ Terrain Response ของ Land Rover ให้การทำงานที่เหมาะสมกับสภาพถนนในเขตภูเขาของประเทศไทย แต่ระบบความปลอดภัยทุกประเภทต้องใช้ควบคู่กับการขับขี่ที่ถูกต้องตามหลัก หากยืนยันว่ารถอยู่ในข่ายเรียกคืน เจ้าของรถในประเทศไทยสามารถเข้ารับบริการตรวจเช็กได้ฟรีที่ศูนย์บริการที่ได้รับอนุญาต และในการเข้ารับบริการตามระยะก็สามารถสอบถามช่างเกี่ยวกับประกาศบริการทางเทคนิค (TSB) ล่าสุดของรถได้ ซึ่งมาตรการป้องกันเหล่านี้จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการใช้รถได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Q
Land Rover Discovery Sport 2020 มีขนาดเท่าไหร่?
2020 Land Rover Discovery Sport มีขนาดตัวถังยาว 4,597 มิลลิเมตร กว้าง 2,069 มิลลิเมตร (รวมกระจกมองหลัง) สูง 1,727 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อ 2,741 มิลลิเมตร จัดอยู่ในหมวด SUV ขนาดกลาง ที่ขับเคลื่อนในเมืองไทยได้คล่องตัวทั้งบนถนนและในลานจอดรถ แถมยังให้พื้นที่โดยสารและบรรทุกสัมภาระได้อย่างสบายๆ รถคันนี้ออกแบบด้วยภาษาการออกแบบสไตล์ Land Rover ดูแข็งแรงทนทาน ภายนอกดูหรูหราอลังการ ส่วนภายในตกแต่งอย่างประณีต พร้อมติดตั้งเทคโนโลยีครบครัน ทั้งหน้าจอแสดงผลดิจิทัลแบบเต็มหน้าปัด จอสัมผัสกลางคอนโซล ระบบเสียง Meridian ที่ตอบโจทย์ความต้องการของคนไทยที่ชื่นชอบความหรูหราและเทคโนโลยีทันสมัย
ในตลาดไทย 2020 Land Rover Discovery Sport มีตัวเลือกเครื่องยนต์หลากหลาย ทั้งเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบชาร์จ 2.0 ลิตร และเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบชาร์จ 2.0 ลิตร พร้อมระบบ Terrain Response ที่เป็นจุดเด่นของ Land Rover ช่วยให้ขับเคลื่อนได้สบายๆ ในทุกสภาพถนนของไทย ไม่ว่าจะขับในเมืองหรือออกทริปก็มั่นใจได้ ที่สำคัญคือรถคันนี้มีความสูงช่วงท้องรถ 212 มิลลิเมตร และสามารถลุยน้ำได้ลึกถึง 600 มิลลิเมตร แม้ในฤดูฝนของไทยก็ขับผ่านจุดน้ำท่วมขังได้อย่างสบายๆ ไม่ต้องกังวล
Q
รถ Land Rover Discovery รุ่นปี 2020 ดีไหม?
รถยนต์ Land Rover Discovery รุ่นปี 2020 เป็น SUV หรูที่มีสมรรถนะรอบด้านโดดเด่น เหมาะอย่างยิ่งกับสภาพถนนหลากหลายแบบในตลาดไทย ด้วยความสามารถในการขับขี่แบบออฟโรดที่เหนือชั้นและระยะความสูงจากพื้นรถที่มาก ทำให้มันขับเคลื่อนได้ดีทั้งในเมืองและเส้นทางขรุขระในชนบท เครื่องยนต์เทอร์โบชาร์จ 3.0 ลิตรให้กำลังขับเคลื่อนที่แข็งแกร่ง พร้อมระบบ Terrain Response ที่สามารถปรับเปลี่ยนการทำงานให้เหมาะสมกับสภาพถนนได้อย่างชาญฉลาด ไม่ว่าจะเป็นถนนลื่นในช่วงฤดูฝนหรือภูมิประเทศซับซ้อนในเขตภูเขาทางเหนือ ภายในห้องโดยสารใช้วัสดุคุณภาพสูงและติดตั้งระบบความบันเทิงอันทันสมัย นอกจากนี้ยังมีความยืดหยุ่นในการใช้พื้นที่ด้วยการออกแบบเก้าอี้ 3 แถวที่เหมาะสำหรับครอบครัวใหญ่ อย่างไรก็ตามเมื่อใช้งานในไทยต้องระวังเรื่องอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันที่ค่อนข้างสูงและค่าบำรุงรักษาที่แพง แนะนำให้บริการตามศูนย์บริการตัวแทนจำหน่ายอย่างสม่ำเสมอเพื่อความมั่นใจในระยะยาว เมื่อเทียบกับรุ่นระดับเดียวกัน Discovery มีความสามารถในการขับออฟโรดที่โดดเด่นกว่า แต่หากเน้นความสบายในการขับขี่บนถนนปกติอาจพิจารณารถ SUV หรูจากเยอรมันหรือญี่ปุ่นแทน โดยรวมแล้วนี่คือรถระดับพรีเมียมที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตแบบหลายมิติของคนไทยได้เป็นอย่างดี
Q
ถังน้ำมันของรถ Discovery Sport ปี 2020 มีขนาดเท่าไหร่?
รุ่นปี 2020 ของ Land Rover Discovery Sport มีความจุถังน้ำมัน 67 ลิตร ซึ่งออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ทั้งการเดินทางในชีวิตประจำวันและทริปยาวๆ ในประเทศร้อนๆ อย่างไทย ที่ต้องเปิดแอร์บ่อยอาจทำให้เผาผลาญน้ำมันเพิ่มนิดหน่อย แต่ถัง 67 ลิตรนี้ก็ยังให้ระยะทางที่โอเคอยู่ แถมยังเหมาะกับสภาพถนนในเมืองไทยทั้งในเมืองและทางขึ้นเขาบ้างเป็นครั้งคราว อย่างไรก็ตาม การสิ้นเปลืองน้ำมันจริงๆ มันขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น สไตล์การขับ ถนนหนทาง และน้ำหนักรถ ควรเข้าศูนย์บริการตามกำหนดเพื่อประหยัดน้ำมันมากขึ้น เช่น ตรวจสอบลมยางให้พอดีและใช้น้ำมันเครื่องเกรดที่เหมาะสม ส่วนในไทย ปั๊มน้ำมันทั่วไปจะมีทั้งแก๊สโซฮอล์ 91 และ 95 แต่ Discovery Sport แนะนำให้ใช้ 95 ขึ้นไปเพื่อประสิทธิภาพที่ดีที่สุด ถ้าจะเดินทางไปต่างจังหวัดทางเหนือหรือใต้ที่ปั๊มอาจห่างกันหน่อย ควรวางแผนจุดเติมน้ำมันล่วงหน้าไว้ด้วยจะดีกว่า
ดูเพิ่มเติมข่าวที่เกี่ยวข้อง

Nissan Leaf รุ่นใหม่เจเนอเรชัน 3 เปิดตัวอย่างเป็นทางการ – วิ่งได้ไกลกว่า 600 กม.
ณัฐวุฒิOct 10, 2025

Nissan เปิดตัว LEAF เจเนอเรชันที่ 3 เปลี่ยนโฉมจากรถแฮทช์แบ็กเป็น SUV คาดอาจนำเข้าไทยเร็ว ๆ นี้
LienJun 19, 2025

Mitsubishi จะเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าซึ่งมาจาก Nissan Leaf ในช่วงครึ่งหลังของปี 2026
พงศธรMay 8, 2025

Nissan รถยนต์ไฟฟ้าคลาสสิก Leaf กำลังจะเปลี่ยนรุ่นเป็น SUV โดยมีระยะทางขับขี่ใกล้เคียง 600 กม.
สุรเดชMar 27, 2025

2025 รถมือสอง 10 รุ่นที่คุ้มค่าที่สุดในการซื้อ
พงศธรOct 24, 2025
ดูเพิ่มเติม


ข้อดี
ข้อเสีย