Q

เครื่องยนต์ของ Honda Jazz ต้องการน้ำมันกี่ลิตร

สำหรับรุ่น Honda Jazz ที่ขายในตลาดไทย เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร i-VTEC จะใช้น้ำมันเครื่องประมาณ 3.3-3.6 ลิตร (รวมปริมาณที่ใช้เมื่อเปลี่ยนไส้กรองน้ำมันเครื่อง) แต่ปริมาณอาจแตกต่างกันไปตามปีที่ผลิตและสเปคของรถ แนะนำให้ผู้ใช้รถตรวจสอบระดับน้ำมันเครื่องผ่านไฟเตือนบนหน้าปัดหรือใช้ก้านวัดน้ำมันเครื่องให้อยู่ในระดับระหว่าง MIN กับ MAX สภาพอากาศร้อนของไทยต้องการน้ำมันเครื่องคุณภาพสูง แนะนำให้ใช้น้ำมันเครื่องสังเคราะห์ที่มีความหนืด 0W-20 หรือ 5W-30 ตามที่ฮอนด้ากำหนด เพราะสามารถรักษาสมรรถนะการหล่อลื่นได้ดีในอุณหภูมิสูง โดยศูนย์บริการ Honda ในไทยจะมีแพ็กเกจเปลี่ยนน้ำมันเครื่องที่เหมาะกับสภาพการขับขี่ในประเทศอยู่แล้ว ข้อควรระวังคือหากรถมีการปรับแต่งหรือใช้งานหนักบ่อยๆ (เช่น ขับบนภูเขาซ้ำๆ) ควรเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องเร็วขึ้นเป็นทุก 5,000 กิโลเมตร แต่ในกรณีใช้งานปกติจะเปลี่ยนทุก 10,000 กิโลเมตร ในไทยสามารถหาซื้อน้ำมันเครื่องมาตรฐาน API SN หรือ SP ได้ตามปั๊มน้ำมันและร้านอะไหล่ทั่วไป แต่ต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่ามีสัญลักษณ์รับรองจาก TISI เพื่อความมั่นใจในคุณภาพ
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto

Q&A เกี่ยวข้อง

Q
ข้อเสียของ Honda Jazz คืออะไร
Honda Jazz ในฐานะรถยนต์แฮทช์แบ็กขนาดกะทัดรัดที่ได้รับความนิยมในตลาดไทยนั้น จุดด้อยหลัก ๆ อยู่ที่พื้นที่ภายในและสมรรถนะของเครื่องยนต์ แม้ว่า Jazz จะมีการออกแบบที่โดดเด่นด้วยฟังก์ชัน Magic Seat แต่ในสภาพอากาศร้อนของไทย พื้นที่ขาเบาะหลังอาจรู้สึกคับแคบสำหรับผู้โดยสารที่สูงโดยเฉพาะเมื่อเดินทางไกล นอกจากนี้ เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร แบบดูดอากาศธรรมชาติ เมื่อใช้งานในเส้นทางภูเขาหรือเมื่อต้องบรรทุกเต็มที่ การเร่งความเร็วอาจรู้สึกไม่เพียงพอ โดยเฉพาะเวลาที่เปิดแอร์เต็มกำลังจะเห็นการลดทอนของพละกำลังและอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันที่เพิ่มขึ้น ส่วนเรื่องการเก็บเสียงเมื่อขับขี่ด้วยความเร็วสูง เสียงลมและเสียงยางจะค่อนข้างเด่น ซึ่งอาจทำให้ผู้บริโภคที่เน้นความเงียบสงบรู้สึกไม่เต็มที่ อย่างไรก็ตาม ข้อจำกัดเหล่านี้เป็นเรื่องที่พิจารณาในบริบทของการจัดวางตำแหน่งรถยนต์รุ่นนี้ โดยเมื่อพิจารณาถึงความคล่องตัวในการขับขี่ในเมืองและความประหยัดน้ำมัน รวมถึงสภาพการจราจรที่หนาแน่นในไทย Jazz ยังคงเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับการใช้งานในเมือง ผู้บริโภคในไทยสามารถชั่งน้ำหนักข้อดีข้อเสียตามความต้องการส่วนตัว หากต้องการรถที่เหมาะกับการเดินทางแบบครอบครัวหรือสมรรถนะที่แรงขึ้น อาจพิจารณารถรุ่นอื่นในระดับเดียวกันเป็นทางเลือกเพิ่มเติมได้
Q
Honda Jazz อยู่ในกลุ่มตลาดรถยนต์ขนาดเล็ก
Honda Jazz ในตลาดรถยนต์ของประเทศไทยจัดอยู่ในกลุ่ม B-Segment หรือที่เรียกว่ารถยนต์ขนาดเล็ก (Subcompact Car) ซึ่งเป็นกลุ่มที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เน้นการใช้งานในเมืองและครอบครัวในชีวิตประจำวัน โดยมีจุดเด่นที่ขนาดตัวถังกะทัดรัด ประหยัดน้ำมัน และออกแบบพื้นที่ใช้สอยได้อย่างลงตัว Honda Jazz มีฟังก์ชัน Magic Seat ที่ช่วยเพิ่มความหลากหลายในการจัดเก็บสัมภาระ เหมาะอย่างยิ่งกับการขับขี่ในเมืองใหญ่ที่การจราจรหนาแน่น เช่น กรุงเทพฯ ขณะที่เครื่องยนต์ i-VTEC ขนาด 1.5 ลิตร ให้กำลังขับเคลื่อนที่นุ่มนวลและเหมาะสมกับสภาพถนนของไทย กลุ่ม B-Segment ในไทยยังมีคู่แข่งที่ได้รับความนิยมอย่าง Toyota Yaris และ Mazda2 ซึ่งเน้นความประหยัดและใช้งานได้จริง ผู้บริโภคจึงมักเลือกตามความชอบในแบรนด์ ฟีเจอร์ และบริการหลังการขาย ความต้องการรถยนต์ขนาดเล็กในไทยยังคงสูงเนื่องจากราคาที่เข้าถึงได้ง่าย ต้นทุนการบำรุงรักษาต่ำ และเหมาะกับถนนที่ค่อนข้างแคบ Honda Jazz จึงเป็นตัวเลือกยอดนิยมในกลุ่มนี้ด้วยความน่าเชื่อถือและอัตราการเก็บมูลค่าที่ดี
Q
มูลค่าการขายต่อของ Honda Jazz คืออะไร
ในตลาดประเทศไทย Honda Jazz ถือเป็นรถมือสองที่มีอัตราการคงมูลค่อนข้างดี โดยมีปัจจัยสนับสนุนคือคุณภาพที่เชื่อถือได้ ความประหยัดน้ำมัน และภาพลักษณ์ที่ดีของแบรนด์ Honda ในประเทศไทย จากข้อมูลในอุตสาหกรรมพบว่า Jazz ที่มีอายุไม่เกิน 3 ปีมักมีอัตราการคงมูลอยู่ที่ประมาณ 60% - 70% ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพรถ ระดับอุปกรณ์ และประวัติการบำรุงรักษา สำหรับประเทศไทยซึ่งมีถนนในเมืองที่แออัดและราคาน้ำมันสูง รถยนต์ขนาดเล็กประหยัดพลังงานอย่าง Jazz จึงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับการที่ Honda มีฐานการผลิตในประเทศ ทำให้ชิ้นส่วนอะไหล่หาได้ง่ายและค่าบำรุงรักษาไม่สูง จึงช่วยเพิ่มมูลค่าของรถมือสองได้อีกทาง หนึ่งในแนวโน้มสำคัญคือ Jazz รุ่นไฮบริดเริ่มได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในไทย ซึ่งมักมีมูลค่าขายต่อสูงกว่ารุ่นเครื่องยนต์เบนซินแบบธรรมดา แนะนำให้เจ้าของรถเข้ารับบริการที่ศูนย์บริการอย่างสม่ำเสมอและเก็บเอกสารประวัติการบำรุงรักษาไว้ให้ครบถ้วน เพราะสามารถช่วยเพิ่มราคาขายต่อได้ นอกจากนี้ ผู้บริโภคชาวไทยมักนิยมรถสีโทนกลางอย่างสีขาวหรือสีเงิน ซึ่งขายต่อได้ง่ายกว่า หากต้องการทราบราคาประเมินที่แม่นยำมากขึ้น ควรอ้างอิงจากคู่มือราคารถมือสองของสมาคมรถยนต์ในประเทศไทย หรือปรึกษากับตัวแทนจำหน่ายรถมือสองที่เชื่อถือได้ในพื้นที่
Q
ฮอนด้า แจ๊ส มีกี่ซีซี
Honda Jazz ที่วางจำหน่ายในตลาดประเทศไทยส่วนใหญ่ติดตั้งเครื่องยนต์เบนซินแบบดูดอากาศธรรมดาขนาด 1.5 ลิตร มีปริมาตรกระบอกสูบ 1497 ซีซี โดยเครื่องยนต์รุ่นนี้ขึ้นชื่อเรื่องประสิทธิภาพสูงและความประหยัดน้ำมัน เหมาะกับสภาพการจราจรในเมืองที่มีการหยุด-เคลื่อนบ่อยครั้งในประเทศไทย อีกทั้งยังจับคู่กับเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT ที่ช่วยให้การขับขี่ลื่นไหลยิ่งขึ้น Jazz ถือเป็นรถยนต์ขนาดเล็กที่คุ้มค่าและได้รับความนิยมอย่างมากในไทย โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ใช้ที่ต้องการรถสำหรับใช้งานในครอบครัวหรือเดินทางในเมือง จุดเด่นของรุ่นนี้อยู่ที่ขนาดตัวรถที่คล่องตัวแต่ภายในกว้างขวาง นอกจากนี้ผู้บริโภคยังควรพิจารณาเทคโนโลยีเครื่องยนต์เพิ่มเติม เช่น ระบบ i-VTEC ของ Honda ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการส่งกำลังและประหยัดน้ำมันยิ่งขึ้น ทั้งนี้มาตรฐานมลพิษในไทย เช่น Euro 5 ก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ผู้ซื้อควรตรวจสอบ รวมถึงต้นทุนการใช้งานในระยะยาว ซึ่งมีผลต่อประสบการณ์การขับขี่และค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษารถยนต์
Q
เครื่องยนต์ใน Honda Jazz คืออะไร
Honda Jazz ในตลาดประเทศไทยส่วนใหญ่ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 1.5 ลิตร i-VTEC แบบดูดอากาศธรรมดา มาพร้อมเทคโนโลยี VTEC อันเป็นเอกลักษณ์ของ Honda ให้กำลังสูงสุดประมาณ 120 แรงม้า จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ CVT ที่ขึ้นชื่อเรื่องความนุ่มนวลและประหยัดน้ำมัน เหมาะอย่างยิ่งกับการขับขี่ในสภาพการจราจรติดขัดของกรุงเทพฯ รุ่น RS ที่วางจำหน่ายในไทยยังได้รับการจูนให้ตอบสนองเร็วขึ้นแต่ยังคงประหยัดน้ำมันที่ประมาณ 5.5 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร สำหรับสภาพอากาศร้อนในไทย เครื่องยนต์รุ่นนี้มาพร้อมระบบระบายความร้อนที่ได้รับการปรับปรุงโดยเฉพาะ และระบบปรับอากาศที่ปรับให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมเขตร้อน ช่วยให้การขับขี่ในระยะทางไกลมีเสถียรภาพมากยิ่งขึ้น จุดเด่นอีกอย่างคือห้องเครื่องของ Jazz ออกแบบให้กะทัดรัดเพื่อเพิ่มพื้นที่ภายในห้องโดยสาร ตอบโจทย์ผู้ใช้ชาวไทยที่ให้ความสำคัญกับความกว้างขวางภายในรถ ซึ่งสะท้อนแนวคิด MM หรือ “Man-Maximum, Machine-Minimum” ของ Honda ได้อย่างชัดเจน แม้ว่าในอนาคตอาจมีการแนะนำรุ่น e:HEV ไฮบริดตามนโยบายส่งเสริมรถพลังงานสะอาดของรัฐบาลไทย แต่ในปัจจุบัน รุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร ยังคงเป็นทางเลือกหลักที่ได้รับความนิยมสูง ด้วยความทนทานและค่าบำรุงรักษาต่ำ เหมาะสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวันและการเดินทางในเมือง
Q
ประเภทระบบเกียร์ของ Honda Jazz คืออะไร
ประเภทระบบเกียร์ของ Honda Jazz ในตลาดประเทศไทยจะแตกต่างกันไปตามรุ่นและปีที่ผลิต โดยทั่วไปแล้วรุ่นที่พบได้บ่อยที่สุดคือระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT ซึ่งมีจุดเด่นด้านความนุ่มนวลในการเปลี่ยนเกียร์และความประหยัดน้ำมัน เหมาะอย่างยิ่งสำหรับสภาพการจราจรที่แออัดในเมืองของไทย นอกจากนี้ยังมีบางรุ่นเก่าที่ใช้ระบบเกียร์ธรรมดา 5 สปีด ซึ่งตอบโจทย์ผู้ขับขี่ที่ชื่นชอบความรู้สึกในการควบคุมรถ ระบบเกียร์ CVT ทำงานด้วยหลักการส่งกำลังแบบไร้ขั้นตอน ช่วยลดอาการกระตุกของเกียร์แบบเดิม และเมื่อรวมกับเทคโนโลยี Earth Dreams ของ Honda ก็ยิ่งเพิ่มประสิทธิภาพการประหยัดเชื้อเพลิงมากยิ่งขึ้น เหมาะกับสภาพอากาศร้อนของไทยและการขับขี่แบบหยุด–ไปบ่อย ๆ อีกทั้งยังได้รับการปรับจูนให้ส่งแรงบิดได้ดีที่รอบต่ำ รองรับการใช้งานบนถนนแคบหรือทางลาดชันได้ดี การเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ CVT อย่างสม่ำเสมอและหลีกเลี่ยงการขับขี่ที่ใช้โหลดหนักต่อเนื่องจะช่วยยืดอายุการใช้งานของระบบเกียร์ โดยเฉพาะในสภาพแวดล้อมที่ร้อนและชื้นของประเทศไทย
Q
PCD ขนาดเท่าไรของ Honda Jazz
สำหรับรถฮอนด้า แจ๊ส ในตลาดไทยจะมีขนาด PCD (ระยะวงกลมรูสลักล้อ) แบบ 4x100 หมายความว่าจากรูสลักล้อ 4 รู โดยจุดศูนย์กลางของรูแต่ละรูจะอยู่บนเส้นรอบวงที่มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 100 มิลลิเมตร ซึ่งสเปคนี้ใช้ร่วมกับรถยนต์ประเภทเอкономี่คาร์และคอมแพคต์คาร์หลายรุ่นในไทย ทำให้เวลาจะเปลี่ยนหรืออัพเกรดล้อ เจ้าของรถมีตัวเลือกที่เข้ากันได้หลากหลายมากขึ้น โดยเฉพาะในไทยเราจะพบผู้ผลิตล้อท้องถิ่นและร้านแต่งรถหลายแห่งที่รองรับล้อแบบ 4x100 PCD โดยเฉพาะในเมืองใหญ่อย่างกรุงเทพหรือเชียงใหม่ หาล้อที่เหมาะกับแจ๊สได้ไม่ยาก นอกจาก PCD แล้ว เวลาเลือกล้อต้องดูเรื่องขนาดรูกลางล้อ (CB) และระยะออฟเซ็ต (ET) ด้วย เพื่อให้ล้อที่ติดตั้งแล้วทำงานได้สมบูรณ์กับระบบช่วงล่างและโครงสร้างตัวรถ ป้องกันปัญหาเวลาขับอย่างการสั่นหรือสึกหรอเร็ว ส่วนสภาพอากาศไทยที่ทั้งร้อนและฝนชุก แนะนำให้เลือกวัสดุล้อที่ทั้งเบาและระบายความร้อนดี เช่น อลูมิเนียม จะช่วยประหยัดน้ำมันและช่วยระบายความร้อนให้เบรกได้ดีขึ้น
Q
รถฮอนด้า แจ๊ส มี Apple CarPlay หรือไม่
สำหรับรถฮอนด้า Jazz รุ่นล่าสุดที่วางขายในตลาดไทย (บางตลาดอาจเรียกว่า Fit) แบบรุ่นท็อปนั้นมีการติดตั้งระบบ Apple CarPlay มาให้ด้วย ซึ่งฟีเจอร์นี้ได้รับความนิยมมากในหมู่ผู้บริโภคชาวไทย เพราะช่วยให้เชื่อมต่อกับ iPhone ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ทั้งระบบนำทาง ฟังเพลง หรือโทรศัพท์ แต่ต้องระวังว่ารุ่นและปีการผลิตที่ต่างกันอาจมีสเปกไม่เหมือนกัน แนะนำให้ตรวจสอบรายละเอียดกับโชว์รูมฮอนด้าในไทยก่อนซื้อจริง สำหรับคนไทยแล้ว Apple CarPlay ถือเป็นตัวช่วยชั้นดี โดยเฉพาะในเมืองติดรถติดอย่างกรุงเทพฯ ที่สามารถใช้เสียงสั่งงานผ่าน Siri ลดการเสียสมาธิขณะขับรถได้ ถ้าหากรุ่นของคุณไม่มี CarPlay ติดตั้งมาแต่แรก ในไทยก็มีอู่ติดตั้งรถยนต์มาตรฐานที่สามารถเพิ่มเติมระบบนี้ได้ แต่ควรเลือกอุปกรณ์ที่ผ่านมาตรฐานกฎหมายการขนส่งไทยเพื่อความปลอดภัย นอกจาก CarPlay แล้ว รถใหม่ๆ ในตลาดไทยตอนนี้หลายรุ่นยังรองรับ Android Auto ด้วย ตอบโจทย์ทั้งผู้ใช้ iPhone และ Android โดยฟังก์เจอร์เชื่อมต่อสมาร์ทเหล่านี้กำลังกลายเป็นปัจจัยสำคัญที่คนรุ่นใหม่ในไทยใช้ตัดสินใจเลือกซื้อรถเลยทีเดียว
Q
ยี่ห้อยางรถยนต์ของ Honda Jazz คืออะไร
ยางติดรถจากโรงงานของ Honda Jazz ในตลาดประเทศไทยจะแตกต่างกันตามปีรุ่นและระดับการตกแต่ง โดยทั่วไปจะใช้ยี่ห้อญี่ปุ่นที่พบได้บ่อย เช่น Bridgestone Dunlop หรือ Yokohama ซึ่งเป็นแบรนด์ที่มีความนิยมสูงในไทยและเหมาะกับสภาพอากาศร้อนชื้นของประเทศ เช่น ยางซีรีส์ ECOPIA ของ Bridgestone ที่เน้นความประหยัดน้ำมันและทนทาน เหมาะสำหรับการขับขี่ในเมือง ผู้ใช้รถในไทยควรพิจารณาสภาพอากาศที่มีฝนตกบ่อย โดยแนะนำให้ตรวจสอบค่าการยึดเกาะบนถนนเปียก เช่น ระดับ Traction จากมาตรฐาน UTQG และเนื่องจากสภาพถนนในไทยมีความหลากหลาย จึงควรเลือกยางที่มีความแข็งแรงของแก้มยางที่เหมาะสม หากต้องการเปลี่ยนยางที่ไม่ใช่ของเดิมจากโรงงาน แนะนำให้ตรวจสอบสัญลักษณ์รับรองมาตรฐาน TISI จากกรมการขนส่งทางบก เพื่อให้มั่นใจว่ายางนั้นปลอดภัยต่อการใช้งานในประเทศไทย ยางแบรนด์ระดับสากล เช่น Michelin ที่มีการผลิตในไทยก็เป็นทางเลือกที่ดี ทั้งในด้านความคุ้มค่าและการบริการหลังการขาย
Q
รถฮอนด้า แจ๊ซ เป็นรถที่ดีหรือไม่ เรียนรู้ข้อดีและข้อเสียที่นี่
รถฮอนด้า แจ๊ส เป็นรถขนาดเล็กที่ขายดีในตลาดไทย ด้วยขนาดตัวรถที่คล่องตัวเหมาะกับสภาพการจราจรติดขัดในเมืองอย่างกรุงเทพฯ เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร i-VTEC ประหยัดน้ำมันเหมาะกับราคาน้ำมันที่ค่อนข้างสูงในไทย แถมยังใช้แนวคิด MM (ย่อมากสุด ใช้พื้นที่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด) ทำให้มีพื้นที่เก็บของเยอะกว่าเพื่อนร่วมรุ่น โดยเฉพาะระบบเก้าอี้แบบ Magic Seat ที่ปรับได้ตามต้องการสำหรับของชิ้นใหญ่ ข้อเสียคือเวลาขับเร็วเสียงรบกวนค่อนข้างได้ยินชัด และเมื่อเทียบกับคู่แข่งบางรุ่นอาจขาดฟีเจอร์เทคโนโลยีไปบ้าง สำหรับสภาพอากาศร้อนชื้นของไทย แนะนำให้ตรวจสอบระบบแอร์เป็นประจำเพื่อประสิทธิภาพการทำความเย็น และเนื่องจากถนนไทยค่อนข้างหลากหลายควรระวังเรื่องการป้องกันช่วงล่าง ส่วนเรื่องค่าขายต่อรถฮอนด้าแจ๊สถือว่าคงตัวดี มีศูนย์บริการครอบคลุมทั่วประเทศ สำหรับครอบครัวที่มีงบประมาณประมาณ 6-8 แสนบาทนับเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ แต่ก่อนซื้อแนะนำให้ลองเปรียบเทียบกับรุ่นอื่นๆ ในระดับเดียวกันและลองทดลองขับดูให้เหมาะกับความต้องการจริงๆ ของคุณ

ข้อดี

มีลักษณะทางการเคลื่อนไหวที่เหมาะสมสำหรับคนรุ่นใหม่
ราคาขายมีความทนทาน, ค่าซ่อมบำรุงไม่สูง
ประหยัดน้ำมัน

ข้อเสีย

กำลังการขับขี่ค่อนข้างอ่อนและไม่เสถียร โดยเฉพาะในการขับขี่ความเร็วสูง
การควบคุมทั่วไปเท่านั้น ความรู้สึกทั้งหมดของชั้นล่างไม่ค่อยแข็งแรง

Q&A ล่าสุด

Q
Tesla Model 3 มีความน่าเชื่อถือแค่ไหน?
Tesla Model 3 ในด้านความน่าเชื่อถือถือว่าทำงานได้ค่อนข้างมั่นค ระบบไฟฟ้าที่ผ่านการพัฒนามาหลายปีได้ค่อนข้างครบถ้วน โดยเฉพาะระบบจัดการแบตเตอรี่ที่ทำงานได้ดีในสภาพอากาศร้อน ซึ่งเป็นจุดแข็งสำหรับสภาพอากาศที่ร้อนตลอดปี จากผลการประเมินของบุคคลที่สามหลายแห่งพบว่าอัตราการเสียหายของโมเดล 3 ต่ำกว่ารถยนต์เชื้อเพลิงระดับเดียวกัน แต่ต้องระวังในเรื่องกระบวนการประกอบตัวถังที่อาจพบปัญหาช่องว่างระหว่างแผ่นเหล็กไม่เท่ากันบ้าง ซึ่งในสภาพแวดล้อมที่ชื้นจำเป็นต้องดูแลเรื่องการป้องกันสนิมเป็นพิเศษ สำหรับเครือข่ายสถานีชาร์จ Tesla Supercharger ได้ครอบคลุมเมืองใหญ่แล้วและกำลังขยายความร่วมมือกับผู้ให้บริการชาร์จท้องถิ่นเพิ่มขึ้น ทำให้มีความสะดวกในการใช้งาน ค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาของโมเดล 3 ต่ำกว่ารถยนต์เชื้อเพลิงอย่างเห็นได้ชัด แต่การซ่อมแซมต้องผ่านช่องทางทางการเท่านั้น จึงแนะนำให้พิจารณาซื้อบริการขยายรับประกันด้วย สำหรับการขับขี่ในฤดูฝน ต้องระมัดระวังเรื่องความทนน้ำของแบตเตอรี่ แม้ว่าโมเดล 3 จะได้มาตรฐานป้องกัน IP67 แต่การขับผ่านน้ำเป็นเวลานานอาจส่งผลต่ออายุการใช้งานของชิ้นส่วน หากมักจะเดินทางไกล แนะนำให้วางแผนเส้นทางชาร์จไฟล่วงหน้า โดยเฉพาะเมื่อเดินทางไปยังพื้นที่ที่มีสถานีชาร์จน้อย
Q
Tesla พัฒนาได้ดีในปี 2024 หรือไม่
ในปี 2024 Tesla ยังคงแสดงผลงานในตลาดที่แข็งแกร่ง โดยเฉพาะในด้านรถไฟฟ้าที่ยังคงเป็นผู้นำอยู่ รุ่น Model Y และ Model 3 ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางด้วยสมรรถนะการขับขี่ที่ยอดเยี่ยมและระบบขับอัจฉริยะ ผู้บริโภคในประเทศให้ความสนใจกับเครือข่ายสถานีชาร์จและฟังก์ชั่นอัปเดตระบบ OTA ของ Tesla เป็นอย่างดี นอกจากนี้เทสลายังขยายเครือข่ายซูเปอร์ชาร์จเจอร์เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ส่งผลให้ความสะดวกในการใช้งานเพิ่มสูงขึ้น ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา การแข่งขันในตลาดรถไฟฟ้ารุนแรงขึ้น โดยหลายแบรนด์ต่างเปิดตัวรถรุ่นใหม่ที่มีคุ้มค่าสูง แต่เทสลายังคงได้รับความนิยมจากอิทธิพลของแบรนด์และเทคโนโลยีที่สั่งสมมา โดยเฉพาะในกลุ่มผู้บริโภควัยหนุ่มสาวที่ให้ความสำคัญกับความล้ำสมัย ที่น่าสนใจคือ ธุรกิจพลังงานของ Tesla ก็กำลังเติบโตอย่างมั่นคง เช่น ผลิตภัณฑ์หลังคาโซลาร์เซลล์และระบบกักเก็บพลังงานที่เริ่มเข้าสู่ตลาดมากขึ้น เป็นทางเลือกพลังงานสะอาดให้ผู้บริโภค ด้วยนโยบายสนับสนุนรถพลังงานใหม่ของรัฐบาลที่ยังคงต่อเนื่อง รวมถึงโครงสร้างพื้นฐานสถานีชาร์จที่พัฒนาอย่างต่อเนื่อง Tesla ยังมีแนวโน้มเติบโตได้อย่างมั่นคงในอนาคต อย่างไรก็ตามผู้บริโภคควรเปรียบเทียบรุ่นรถจากแบรนด์ต่างๆ เพื่อเลือกผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของตัวเองมากที่สุด
Q
ค่าใช้จ่ายในการชาร์จ Tesla Model 3 รุ่นปี 2024 จนเต็มอยู่ที่เท่าไหร่?
ค่าใช้จ่ายในการชาร์จไฟเต็มของ Tesla Model 3 รุ่น 2024 จะขึ้นอยู่กับอัตราค่าไฟฟ้าในพื้นที่และความจุแบตเตอรี่ โดยหากเป็นรุ่น Long Range ที่มีแบตเตอรี่ 75kWh และคิดอัตราค่าไฟฟ้าสำหรับที่พักอาศัยเฉลี่ยอยู่ที่หน่วยละ 4 บาท การชาร์จเต็มจะใช้เงินประมาณ 300 บาท แต่ในความเป็นจริงอาจมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยตามช่วงเวลาการใช้ไฟฟ้าหรือค่าบริการที่สถานีชาร์จสาธารณะ เมื่อเทียบกับรถยนต์ที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิง รถไฟฟ้าจะมีค่าใช้จ่ายด้านพลังงานต่อกิโลเมตรที่ต่ำกว่ามาก โดยเฉพาะเมื่อขับในเมืองที่มีการจราจรติดขัดซึ่งจะเห็นความแตกต่างได้ชัดเจน ในส่วนของวิธีการชาร์จ การชาร์จแบบช้าที่บ้านเหมาะสำหรับการชาร์จตอนกลางคืนขณะจอดรถ ส่วนสถานีชาร์จเร็ว Supercharger สามารถเติมไฟได้ 80% ในเวลาประมาณ 30 นาที ซึ่งเหมาะสำหรับการเดินทางไกล ที่สำคัญกว่านั้น ค่าบำรุงรักษารถไฟฟ้าจะถูกกว่ารถน้ำมันประมาณ 40% และรัฐบาลไทยยังมีนโยบายลดภาษีและให้สิทธิประโยชน์สำหรับรถไฟฟ้าซึ่งช่วยลดค่าใช้จ่ายในการใช้งานลงอีก แนะนำให้เจ้าของรถติดตั้งสถานีชาร์จที่บ้านและเลือกชาร์จไฟในช่วงนอกเวลาพีกเพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย พร้อมทั้งตรวจสอบสภาพแบตเตอรี่เป็นประจำเพื่อยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ให้ยาวนานขึ้น
Q
Tesla Model 3 ขายได้ทั้งหมดกี่คันในปี 2024?
ณ เดือนพฤศจิกายน 2024 ยอดขายสะสมของ Tesla Model 3 ในปีนี้อยู่ที่ 176,793 คัน โดยแบ่งเป็นเดือนมกราคมขายได้ 9,969 คัน เดือนกุมภาพันธ์ 7,604 คัน เดือนมีนาคม 14,481 คัน เดือนเมษายน 5,065 คัน เดือนพฤษภาคม 15,230 คัน เดือนมิถุนายน 18,151 คัน เดือนกรกฎาคม 9,928 คัน เดือนสิงหาคม 18,126 คัน เดือนกันยายนพุ่งสูงถึง 23,998 คัน ส่วนเดือนตุลาคมไม่มีข้อมูลแยกต่างหาก และล่าสุดเดือนพฤศจิกายนขายได้ 28,914 คัน จะเห็นว่ายอดขายแต่ละเดือนมีความผันผวนค่อนข้างมาก ถ้าคุณกำลังมองหารถยนต์รุ่นนี้ ลองดูสถิติแล้วเปรียบเทียบความต้องการกับงบประมาณที่มี
Q
Tesla ที่ราคาถูกที่สุดในปี 2024 คือรุ่นไหน?
ในปี 2024 รุ่น Tesla ที่ราคาถูกที่สุดคือ Tesla Model 3 RWD ปี 2023 ราคาอยู่ที่ 1,439,000 บาท รุ่นนี้จัดอยู่ในระดับรถยนต์กลุ่ม D มีขนาดความยาว 4,720 มม. กว้าง 2,089 มม. สูง 1,441 มม. ระยะฐานล้อ 2,875 มม. น้ำหนักรถ 1,765 กก. แบบ 4 ประตู 5 ที่นั่ง พร้อมความจุกระโปรงหลัง 682 ลิตร ระบบขับเคลื่อนเป็นมอเตอร์ไฟฟ้าตัวเดียวแบบหลังขับเคลื่อนล้อหลัง ให้กำลังสูงสุด 347 แรงม้า กำลังไฟรวม 255 กิโลวัตต์ แรงบิดรวม 420 นิวตันเมตร เร่งจาก 0-100 กม./ชม. ใน 6.1 วินาที ความเร็วสูงสุด 201 กม./ชม. ระยะทางวิ่งตามมาตรฐาน 513 กม. เหมาะสำหรับการใช้งานประจำวันและการเดินทางใกล้-กลาง รถคันนี้มาพร้อมกับระบบความปลอดภัยและความสะดวกสบายมาตรฐานมากมาย เช่น ระบบ ABS ระบบควบคุมเสถียรภาพ ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง ระบบเซนเซอร์ถอยหลัง กล้องถอยหลัง และอื่นๆ อีกเพียบ
ดูเพิ่มเติม