Q

Lexus LS 460 จะวิ่งได้กี่กิโลเมตร

รถยนต์หรู Lexus LS 460 นั้น ถ้าดูแลรักษาตามมาตรฐานและบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอ โดยทั่วไปสามารถใช้งานได้เกิน 3 แสนกิโลเมตร หรืออาจมากกว่านั้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการขับขี่ สภาพถนน และความถี่ในการบำรุงรักษา สำหรับสภาพอากาศร้อนชื้นของประเทศไทย แนะนำให้เจ้าของรถให้ความสำคัญเป็นพิเศษกับการเปลี่ยนน้ำหล่อเย็นอย่างสม่ำเสมอ และตรวจสอบระบบแอร์เป็นประจำ เพื่อให้เครื่องยนต์และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ภายในรถทำงานได้อย่างมีเสถียรภาพในระยะยาว นอกจากนี้ การจราจรที่ติดขัดในเมืองไทยเป็นเรื่องปกติ การสตาร์ทรถบ่อยๆ อาจสร้างภาระเพิ่มให้กับเกียร์และระบบเบรก ดังนั้นควรบำรุงรักษาบ่อยขึ้นและใช้อะไหล่แท้จากศูนย์ Lexus ซึ่งเป็นแบรนด์ที่ขึ้นชื่อในเรื่องความทนทานและความน่าเชื่อถือ เครื่องยนต์ V8 4.6 ลิตรของ LS 460 นั้นเป็นเทคโนโลยีที่ผ่านการทดสอบมาแล้ว ถ้าเปลี่ยนน้ำมันเครื่องและไส้กรองตามกำหนดอายุการใช้งานของเครื่องยนต์จะยาวนานยิ่งขึ้น สำหรับเจ้าของรถในไทย การเลือกบริการที่ศูนย์บริการอย่างเป็นทางการของ Lexus เป็นเรื่องสำคัญ เพราะศูนย์เหล่านี้เข้าใจสภาพอากาศและสภาพถนนในท้องถิ่น สามารถให้คำแนะนำในการบำรุงรักษาที่ตรงจุดมากขึ้น อีกทั้งรถหรูอย่าง LS 460 มีอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ค่อนข้างมาก การตรวจสอบระบบไฟฟ้าและเซ็นเซอร์เป็นประจำจะช่วยป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้ สรุปแล้วถ้าดูแลดีๆ Lexus LS 460 สามารถเป็นคู่ใจที่ไว้ใจได้ในระยะยาวสำหรับคนไทยแน่นอน
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto

Q&A เกี่ยวข้อง

Q
ความจุของถัง Lexus LS คือเท่าไหร่
ความจุถังน้ำมันของ Lexus LS จะแตกต่างกันไปตามรุ่นและปีที่ผลิต ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ประมาณ 21-23 แกลลอน (ประมาณ 80-87 ลิตร) ข้อมูลที่แน่นอนแนะนำให้ตรวจสอบในคู่มือผู้ใช้หรือเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ Lexus ประเทศไทย ถังน้ำมันขนาดนี้ในไทยถือว่าสะดวกมากสำหรับการเดินทางไกล โดยเฉพาะเส้นทางยอดนิยมอย่างจากกรุงเทพไปเชียงใหม่หรือพัทยา เพราะช่วยลดจำนวนครั้งที่ต้องเติมน้ำมัน ทำให้การขับขี่สบายขึ้น อย่างไรก็ตาม ความจุถังน้ำมันเป็นเพียงหนึ่งในปัจจัยที่ส่งผลต่อระยะทางที่รถสามารถวิ่งได้ สภาพการขับขี่จริงยังขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการขับ รถติด และน้ำหนักรถด้วย สภาพอากาศร้อนและรถติดบ่อยในเมืองของไทยอาจทำให้สิ้นเปลืองน้ำมันมากขึ้นเล็กน้อย แนะนำให้บริการรักษารถอย่างสม่ำเสมอและตรวจสอบลมยางให้เหมาะสมเพื่อประสิทธิภาพการใช้น้ำมันที่ดีที่สุด Lexus LS ในฐานะรถหรูระดับพรีเมียมได้รับความนิยมในไทยจากความสบายและความน่าเชื่อถือ ถ้าคุณต้องการประหยัดน้ำมันมากขึ้น ก็อาจพิจารณารุ่น Hybrid ของ Lexus ที่ช่วยลดการสิ้นเปลืองน้ำมันได้ดีกว่าโดยเฉพาะในเมือง
Q
ความแตกต่างระหว่าง Lexus LS 460 และ LS460L คืออะไร
Lexus LS 460 กับ LS460L แตกต่างกันที่ขนาดตัวรถและพื้นที่ด้านหลังครับ รุ่น LS460L เป็นเวอร์ชั่นระยะฐานล้อยาวกว่า LS 460 ประมาณ 120 มิลลิเมตร ทำให้ผู้โดยสารด้านหลังมีพื้นที่ขาเพิ่มขึ้น สะดวกสบายกว่า เหมาะสำหรับการรับรองลูกค้าหรือใช้งานในครอบครัวเป็นพิเศษ โดยเฉพาะในประเทศร้อนๆอย่างไทย รถระยะฐานล้อยาวแบบนี้มักจะได้รับความนิยมมากกว่า เพราะผู้โดยสารด้านหลังจะรู้สึกสบายขึ้นเวลานั่ง โดยเฉพาะในเมืองที่รถติดอย่างกรุงเทพฯ แล้ว รถฐานล้อยาวจะได้เปรียบชัดเจนกว่า ทั้งสองรุ่นใช้ระบบขับเคลื่อนและอุปกรณ์เหมือนกันครับ ติดตั้งเครื่องยนต์ V8 4.6 ลิตร ให้กำลังงานเรียบแต่แรง คล่องตัวทั้งบนทางด่วนและในเมือง แบรนด์หรูอย่าง Lexus ในไทยก็มีเครือข่ายบริการหลังการขายที่ดี เจ้าของรถจะได้รับการดูแลรักษาที่มีคุณภาพ ว่าจะเลือกรุ่นไหนก็ขึ้นอยู่กับความต้องการส่วนตัวครับ ถ้าต้องการรับรองลูกค้าสำคัญหรือนั่งครอบครัวบ่อยๆ LS460L น่าจะเหมาะกว่า แต่ถ้าชอบความคล่องตัวในการขับขี่ LS 460 ฐานล้อมาตรฐานอาจจะตอบโจทย์มากกว่า
Q
วิธีการเติมน้ำหล่อเย็นใน Lexus LS 460
เวลาจะเติมน้ำยาหล่อเย็นให้กับ Lexus LS 460 สิ่งแรกที่ต้องทำคือต้องมั่นใจว่าเครื่องยนต์เย็นตัวลงแล้ว ห้ามเติมตอนเครื่องร้อนเด็ดขาดเพราะอาจเกิดอันตรายจากความร้อน ก่อนเปิดฝาหม้อน้ำให้กดเบาๆเพื่อไล่ความดันที่ค้างอยู่ สำหรับสภาพอากาศร้อนแบบประเทศไทย แนะนำให้ใช้น้ำยาหล่อเย็นเกรดดีของโตโยต้าอย่าง Super Long Life Coolant หรือยี่ห้ออื่นที่คุณสมบัติเทียบเท่า ซึ่งปกติจะเป็นสีชมพูหรือแดง เพราะทนความร้อนได้ดีกว่าและเปลี่ยนถ่ายน้อยกว่า เวลาเติมให้ค่อยๆเทลงในถังพักน้ำหล่อเย็นให้อยู่ระหว่างขีด MAX กับ MIN จากนั้นสตาร์ทเครื่องให้ทำงานในเกียร์ว่างจนพัดลมหม้อน้ำเริ่มทำงาน เพื่อไล่ฟองอากาศออก อาจบีบสายน้ำยาด้านบนและล่างช่วยไล่อากาศได้ แล้วตรวจสอบระดับน้ำยาอีกครั้ง พวกคุณที่ใช้รถในไทยต้องระวังเป็นพิเศษ ควรตรวจสอบระบบหล่อเย็นทุกปีก่อนเข้าหน้าฝน เพราะความร้อนและความชื้นสูงจะเร่งให้สายยางเสื่อมสภาพเร็ว แนะนำให้เปลี่ยนน้ำยาหล่อเย็นทุก 2 ปีหรือ 40,000 กิโลเมตร ถ้าใช้น้ำยาหล่อเย็นคุณภาพต่ำหรือผสมสีต่างชนิดกัน อาจทำให้หม้อน้ำเป็นสนิมหรือปั๊มน้ำเสียหายได้ ระบบหล่อเย็นของ Lexus ออกแบบมาอย่างดี ถ้าดูแลรักษาให้ถูกต้องจะช่วยป้องกันปัญหาเครื่องร้อนที่พบบ่อยในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ถ้าเห็นว่าระดับน้ำยาลดลงบ่อยๆ ควรรีบตรวจหารอยรั่ว เพราะหม้อน้ำของ LS 460 ติดตั้งอยู่ตำแหน่งค่อนข้างต่ำ อาจเสี่ยงโดนหินกระเด็นใส่เวลาขับบนถนนสภาพไม่ดีในไทยได้ง่าย
Q
ความแตกต่างระหว่าง Lexus IS ES GS และ LS คืออะไร
รถยนต์ Lexus ในซีรีส์ IS ES GS และ LS แต่ละรุ่นมีความโดดเด่นแตกต่างกันไป โดยความแตกต่างหลักอยู่ที่การออกแบบและสถานการณ์การใช้งาน รุ่น IS เป็นรถซีดานสปอร์ตที่เหมาะกับคนรุ่นใหม่ที่ชอบความสนุกในการขับขี่ ด้วยขนาดตัวรถที่กะทัดรัดและคล่องตัว ทำให้ขับเคลื่อนในเส้นทางเมืองของไทยได้อย่างสะดวกสบาย ส่วนรุ่น ES ออกแบบมาเพื่อความหรูหราและความสบายเป็นหลัก เน้นพื้นที่โดยสารที่กว้างขวางโดยเฉพาะบริเวณหลัง พร้อมอุปกรณ์ครบครัน เหมาะสำหรับนักธุรกิจหรือครอบครัวที่ต้องการความสะดวกสบาย รุ่น GS นั้นอยู่กึ่งกลางระหว่างสปอร์ตและความหรูหรา ให้ทั้งความรู้สึกในการขับขี่ที่สมบูรณ์แบบและประสบการณ์การนั่งที่เหนือระดับ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความสมดุลในทุกด้าน ส่วนรุ่น LS เป็นรถซีดานสุดหรูระดับแฟล็กชิปของ Lexus ที่รวมเอาความทันสมัยของเทคโนโลยีและความประณีตของการออกแบบภายในเอาไว้อย่างสมบูรณ์แบบ เหมาะสำหรับงานธุรกิจระดับสูง ในตลาดไทยจะพบเห็นรุ่น ES และ LS ค่อนข้างบ่อย เพราะคนไทยให้ความสำคัญกับความสบายและความหรูหรา ขณะที่รุ่น IS และ GS ค่อนข้างหายากกว่า และควรทราบไว้ว่ารุ่น GS กำลังจะถูกยกเลิกการผลิตในตลาดโลก และอาจจะมีรุ่นอื่นมาแทนที่ในอนาคต รถทุกรุ่นต่างสืบทอดความทนทานและความน่าเชื่อถือที่เป็นเอกลักษณ์ของ Lexus สามารถใช้งานได้อย่างมั่นใจในสภาพอากาศร้อนของไทย พร้อมบริการหลังการขายที่ได้มาตรฐาน ผู้บริโภคสามารถเลือกรุ่นที่เหมาะสมตามความต้องการและงบประมาณที่มีได้
Q
เมื่อ Lexus LS 500 ปี 2025 จะมีจำหน่าย
จากข้อมูลล่าสุด คาดว่า Lexus LS 500 รุ่นปี 2025 จะเปิดตัวในตลาดประเทศไทยช่วงปลายปี 2024 หรือต้นปี 2025 โดยอาจมีความแตกต่างบ้างในแต่ละพื้นที่ขึ้นอยู่กับการจัดสรรของตัวแทนจำหน่าย รถยนต์หรูรุ่นนี้ยังคงความปราณีตแบบ Lexus พร้อมเครื่องยนต์ V6 3.5 ลิตร เทอร์โบชาร์จ twin-turbo ที่ได้รับการอัปเกรด ทำงานคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด ที่ช่วยเพิ่มทั้งสมรรถนะและประหยัดน้ำมันขึ้นอีกขั้น ด้านภายในคาดว่าจะใช้วัสดุระดับพรีเมียมและระบบมัลติมีเดียรุ่นใหม่ล่าสุด รวมถึงหน้าจอสัมผัสขนาด 12.3 นิ้วที่อาจรองรับการใช้งานภาษาไทย โดยเฉพาะจุดเด่นที่คนไทยสนใจอย่างระบบปรับอากาศและเบาะหนังระบายอากาศที่ออกแบบมาเพื่อสภาพอากาศร้อนโดยเฉพาะ ต้องบอกว่า Lexus ในไทยมีเครือข่ายบริการหลังการขายที่ครอบคลุม พร้อมประกันตัวรถ 5 ปีหรือ 150,000 กิโลเมตร ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบสำคัญสำหรับคนไทยที่กำลังมองหารถหรู ในตลาดไทยตอนนี้ LS ซีรีส์ต้องแข่งกับ Mercedes-Benz S-Class และ BMW 7 ซีรีส์ แต่ Lexus ก็ยังครองใจกลุ่มลูกค้าระดับสูงและนักธุรกิจไทยด้วยสไตล์ความหรูแบบญี่ปุ่นและความน่าเชื่อถือ สำหรับใครที่สนใจสามารถติดตามข้อมูลอัปเดตผ่านเว็บไซต์ Lexus ประเทศไทยหรือสอบถามตัวแทนจำหน่ายในพื้นที่ได้เลย
Q
ราคา Lexus LS 500 คือเท่าไหร่
ราคารถยนต์ Lexus LS 500 ในตลาดไทยจะแตกต่างกันไปตามระดับเครื่องและอุปกรณ์เสริมที่เลือก โดยราคาเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 7-9 ล้านบาท แต่แนะนำให้สอบถามราคาอัพเดทจากตัวแทนจำหน่ายโดยตรงสำหรับข้อมูลที่แม่นยำที่สุด ในฐานะรถยนต์เรือธงของ Lexus รุ่นนี้มาพร้อมเครื่องยนต์ V6 3.5 ลิตร เทอร์โบคู่ คู่กับเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด ที่ให้ทั้งสมรรถนะการขับขี่ที่ยอดเยี่ยมและความนุ่มนวล พร้อมทั้งเทคโนโลยีความปลอดภัยล่าสุดและความหรูหราภายในห้องโดยสาร เช่น ระบบเสียง Mark Levinson และเบาะหนัง Semi-Aniline ที่ตอบโจทย์ผู้ที่ชื่นชอบทั้งความสบายและความสปอร์ต แบรนด์ Lexus ในไทยได้รับความนิยมจากความน่าเชื่อถือและบริการหลังการขาย ส่วนรุ่น Hybrid อย่าง LS 500h ก็เป็นตัวเลือกยอดนิยมเพราะช่วยประหยัดน้ำมันมากขึ้นและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ควรสอบถามโปรโมชั่นหรือแผนผ่อนชำระจากตัวแทนจำหน่ายด้วย เพราะอาจช่วยลดค่าใช้จ่ายในการซื้อรถได้
  • รถยอดนิยม

  • รุ่นปีรถยนต์

  • เปรียบเทียบรถยนต์

  • รูปภาพรถ

ข้อดี

ออกแบบเรียบง่ายแต่แสดงถึงความทันสมัยและพลังงาน รูปลักษณ์ที่เป็นเอกลักษณ์ของ Spindle Grille ทำให้หน้ารถมีสไตล์มากขึ้น
วัสดุภายในที่มีคุณภาพสูง ที่นั่งถูกห่อหุ้มด้วยหนังและถักเย็บอย่างละเอียด สัมผัสนุ่มนวล สามารถรู้สึกผ่อนคลาย ประตูรถมีเสียงกันเสียงที่ดีทำให้เพิ่มความเป็นส่วนตัวในการเดินทาง
มีระบบช่วยเหลือการขับขี่และระบบความปลอดภัยจำนวนมาก เช่น ระบบภาพถอยหลัง การเตือนการชนและเบรกอัตโนมัติ การตรวจจับคนเดิน และการเดินทางแบบคงที่ เป็นต้น
ระบบชั้นยางที่มีการวิ่งที่สม่ำเสมอ สามารถปรับตัวกับทุกสภาพถนน ระบบโช็คอัพภายในมีประสิทธิภาพดี
ระบบพลังงานผสมที่ตัวเครื่องยนต์ทำงานร่วมกับเครื่องยนต์ไฟฟ้า มีประสิทธิภาพในการเร่งและการส่งพลังงานต่อเนื่อง การกระจายพลังงานที่ยอดเยี่ยม

ข้อเสีย

ในรถหรูแบรนด์ไม่โดดเด่นเท่ากับ Mercedes-Benz และ Jaguar
พื้นที่ภายในรถแคบ ดีไซน์แผงควบคุมกว้างเกินไป พื้นที่ขาด้านหลังเล็ก
พื้นที่ในท้ายรถเมื่อเทียบกับผลิตภัณฑ์ในระดับเดียวกันเล็กลง
ระบบบันเทิงและข้อมูลยากต่อการใช้งาน เป็นมิตรกับผู้ใช้ที่ไม่คุ้นเคยกับเทคโนโลยี หน้าจอทัชไม่ราบรื่น บางส่วนของเทคโนโลยีไม่ทันสมัย ดำเนินการช้า
ส่วนของอะไหล่และวัสดุบางอย่างสึกหรอง่าย เช่น หลอดไฟของรถเปลี่ยนสีง่าย ดิสก์เบรกสึกหรอง่ายและราคาของอะไหล่ไม่ถูก

Q&A ล่าสุด

Q
2022 Subaru WRX มีระบบส่งกำลังแบบใด
สำหรับรุ่นปี 2022 ของ Subaru WRX ในตลาดไทย มีให้เลือก 2 แบบเกียร์ คือ เกียร์ธรรมดา 6 สปีด และเกียร์ออโต้ Sport Lineartronic CVT ที่จำลอง 8 สปีด ซึ่งทั้งสองแบบทำงานเข้ากันได้ดีกับระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ Symmetrical AWD อันเป็นเอกลักษณ์ของซูบารุ โดยเฉพาะเหมาะกับสภาพถนนในไทยที่มักมีฝนและความชื้นสูง เกียร์ธรรมดาจะตอบโจทย์คนรักการขับขี่ที่ต้องการสัมผัสการควบคุมอย่างเต็มที่ ส่วนเกียร์ CVT เหมาะกับสภาพการจราจรติดขัดในเมืองอย่างกรุงเทพฯ เพราะให้ความนุ่มนวลและประหยัดน้ำมันยิ่งขึ้น ที่น่าสนใจคือ CVT ของซูบารุใช้ระบบส่งกำลังแบบโซ่แทนสายพานแบบทั่วไป ทำให้ทนทานกว่าโดยเฉพาะในสภาพอากาศร้อนของไทย นอกจากนี้ผู้ใช้ในไทยยังสามารถเลือกติดตั้งระบบ SI-DRIVE เพื่อปรับโหมดการขับขี่ให้เหมาะสมกับการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นถนนคดเคี้ยวในเชียงใหม่หรือเส้นทางเลียบชายทะเลพัทยา แถมระบบช่วงล่างของ WRX ในตลาดไทยยังได้รับการปรับแต่งให้เหมาะกับสภาพถนนท้องถิ่นอีกด้วย
Q
มูลค่าคงเหลือของ Hyundai Santa Fe ปี 2024 คืออะไร
สำหรับรุ่น Hyundai Santa Fe 2024 ที่วางขายในตลาดไทย คาดว่ามูลค่าคงเหลือหลังจากใช้งาน 3 ปีจะอยู่ที่ประมาณ 60%-65% ของราคาเดิม และอาจลดลงเหลือประมาณ 50% เมื่อใช้งานครบ 5 ปี ซึ่งข้อมูลนี้มาจากประวัติการรักษามูลค่าของรถ Hyundai ในตลาดอาเซียนรวมถึงความนิยมในรถ SUV ขนาดกลางที่ค่อนข้างทรงตัวในไทย อย่างไรก็ตาม ผู้บริโภคไทยควรทราบว่ามูลค่าคงเหลือได้รับผลกระทบจากหลายปัจจัย เช่น การเลือกรุ่นดีเซลหรือไฮบริด (ซึ่งเป็นรุ่นที่พบได้ทั่วไปในตลาดไทย) ประวัติการบริการที่ครบถ้วน หรือการซื้อผ่านช่องทางทางการ (เช่น โครงการรถมือสองรับประกันจาก Hyundai ประเทศไทยที่จะช่วยรักษามูลค่าได้ดีกว่า) เมื่อเทียบกับคู่แข่งจากญี่ปุ่นในระดับเดียวกันแล้ว Santa Fe ยังมีความได้เปรียบในตลาดมือสองจากพื้นที่ภายในที่กว้างขวางกว่าและฟีเจอร์สมาร์ทที่ทันสมัยกว่า (เช่น ระบบเก้าอี้ระบายอากาศที่ออกแบบเฉพาะสำหรับตลาดไทย) แต่ในแง่ของความนิยมในแบรนด์อาจสู้ไม่ได้เลยทีเดียว แนะนำให้เจ้าของรถในไทยเก็บเอกสารการซ่อมบำรุงให้ครบถ้วนและใช้บริการผ่านศูนย์บริการทางการเพื่อช่วยเพิ่มมูลค่าตอนขายต่อได้ นอกจากนี้ การเปลี่ยนแปลงนโยบายภาษีรถยนต์พลังงานสะอาดของรัฐบาลไทยอาจส่งผลต่อมูลค่าคงเหลือของรุ่นไฮบริดในอนาคต ซึ่งเป็นเรื่องที่ผู้สนใจซื้อควรจับตามองไว้ด้วย
Q
Hyundai Santa Fe 2024 มีประสิทธิภาพแค่ไหน
รถยนต์ Hyundai Santa Fe รุ่นปี 2024 ให้ประสิทธิภาพด้านประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยม โดยเฉพาะเหมาะกับสภาพการขับขี่ในเมืองและการเดินทางระยะไกลในประเทศไทย ชุดเครื่องยนต์ 2.5 ลิตรแบบดูดอากาศธรรมชาติร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีดให้อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันประมาณ 12-14 กิโลเมตรต่อลิตรในสภาพถนนแบบผสม หากเลือกรุ่นไฮบริดจะประหยัดน้ำมันได้ถึง 15-18 กิโลเมตรต่อลิตร ช่วยลดต้นทุนการใช้รถในสภาวะน้ำมันราคาสูงของไทยได้อย่างชัดเจน รถรุ่นนี้ใช้เทคโนโลยี Smartstream ล่าสุดจาก Hyundai ที่ปรับปรุงประสิทธิภาพการเผาไหม้และลดแรงเสียดทานเครื่องยนต์เพื่อสมดุลระหว่างพลังและความประหยัด นอกจากนี้ระบบ Start-Stop อัจฉริยะที่มาพร้อมกับรถในสภาพอากาศร้อนของไทยยังช่วยลดการสิ้นเปลืองน้ำมันขณะ idle อีกด้วย ที่น่าสนใจคือผู้บริโภคไทยควรพิจารณารุ่นไฮบริดเป็นอันดับแรก เพราะรัฐบาลไทยมีมาตรการลดภาษีสำหรับรถยนต์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และระบบไฮบริดยังแสดงจุดเด่นในสภาพการจราจรติดขัดในกรุงเทพฯที่ต้องหยุด-เริ่มบ่อยครั้ง เมื่อเทียบกับรถในระดับเดียวกันแล้ว Santa Fe ยังให้ความสำคัญกับการใช้พื้นที่ภายในและการตั้งค่าตัวถังที่สมดุลระหว่างความสบายและความมั่นคงในการขับขี่ เหมาะกับสภาพถนนหลากหลายของไทย แนะนำให้ทดลองขับจริงโดยเน้นตรวจสอบประสิทธิภาพระบบแอร์และระบบไฮบริดในสภาพอากาศร้อน ซึ่งเป็นรายละเอียดสำคัญสำหรับผู้ใช้รถในประเทศไทย
Q
เครื่องยนต์แบบใดที่อยู่ใน 2024 Santa Fe
รุ่น 2024 Santa Fe ที่วางขายในตลาดไทยมาพร้อมกับตัวเลือกเครื่องยนต์ประสิทธิภาพสูง 2 แบบ ได้แก่ เครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.5 ลิตรแบบดูดธรรมดา และระบบไฮบริด 1.6 ลิตรเทอร์โบชาร์จ โดยเครื่องยนต์ 2.5 ลิตรให้กำลังสูงสุด 191 แรงม้า คู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด เหมาะสำหรับคนที่ชอบการขับขี่เน้นความลื่นไหล ส่วนระบบไฮบริด 1.6T ให้กำลังรวมสูงถึง 230 แรงม้า ทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ช่วยประหยัดน้ำมันได้ดีในสภาพการขับขี่ที่ต้องหยุด-เริ่มบ่อยๆ แบบในกรุงเทพฯ ซึ่งทั้งสองรุ่นนี้ผ่านมาตรฐานยูโร 6 ของไทยเรียบร้อยแล้ว จุดเด่นของรุ่นไฮบริดคือการใช้เทคโนโลยี TMED ไฮบริดอันล้ำสมัยจาก Hyundai ที่ผสานการทำงานระหว่างมอเตอร์ไฟฟ้าและเครื่องยนต์ได้อย่างชาญฉลาด นอกจากช่วยลดการสิ้นเปลืองน้ำมันแล้ว ยังคงสมรรถนะการขับขี่ระดับ SUV ที่ทรงพลัง ซึ่งตอบโจทย์ในสภาวะราคาน้ำมันที่พุ่งสูงแบบปัจจุบัน ส่วนระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ HTRAC ที่มาพร้อมในรุ่นนี้ก็ช่วยเพิ่มความมั่นใจบนถนนลื่นๆ ในช่วงฤดูฝนได้ดี แต่อย่างไรก็ตาม สำหรับการใช้งานในเมืองทั่วไป ตัวเลือกรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้าถือว่าเพียงพอและคุ้มค่ากว่าในแง่ราคา
Q
Is Santa Fe 2024 4WD?
รุ่น Hyundai Santa Fe ปี 2024 บางรุ่นมีการติดตั้งระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ อย่างเช่น Hyundai Santa Fe Exclusive 1.6 Turbo Hybrid AWD 2024 ที่ใช้ระบบขับเคลื่อนทุกล้อ ระบบนี้จะช่วยกระจายกำลังไปยังล้อทั้งสี่ได้อย่างเหมาะสมในสภาพถนนต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นถนนลื่น โคลน หรือเวลาขึ้นเนิน ช่วยเพิ่มความสามารถในการขับผ่านและความมั่นคงให้กับรถ ส่วนรุ่น Hyundai Santa Fe Premium 1.6 Turbo Hybrid FWD 2024 จะใช้ระบบขับเคลื่อนล้อหน้า ดังนั้นถ้าคุณต้องการรถที่ขับเคลื่อนสี่ล้อ เวลาเลือกซื้อต้องดู specs ของรุ่นให้ดี ๆ เลยนะครับ จะได้เลือกรถที่เหมาะกับการใช้งานและสภาพถนนที่คุณต้องเจอจริง ๆ
ดูเพิ่มเติม