Q

ราคา Lexus LS 500 คือเท่าไหร่

ราคารถยนต์ Lexus LS 500 ในตลาดไทยจะแตกต่างกันไปตามระดับเครื่องและอุปกรณ์เสริมที่เลือก โดยราคาเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 7-9 ล้านบาท แต่แนะนำให้สอบถามราคาอัพเดทจากตัวแทนจำหน่ายโดยตรงสำหรับข้อมูลที่แม่นยำที่สุด ในฐานะรถยนต์เรือธงของ Lexus รุ่นนี้มาพร้อมเครื่องยนต์ V6 3.5 ลิตร เทอร์โบคู่ คู่กับเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด ที่ให้ทั้งสมรรถนะการขับขี่ที่ยอดเยี่ยมและความนุ่มนวล พร้อมทั้งเทคโนโลยีความปลอดภัยล่าสุดและความหรูหราภายในห้องโดยสาร เช่น ระบบเสียง Mark Levinson และเบาะหนัง Semi-Aniline ที่ตอบโจทย์ผู้ที่ชื่นชอบทั้งความสบายและความสปอร์ต แบรนด์ Lexus ในไทยได้รับความนิยมจากความน่าเชื่อถือและบริการหลังการขาย ส่วนรุ่น Hybrid อย่าง LS 500h ก็เป็นตัวเลือกยอดนิยมเพราะช่วยประหยัดน้ำมันมากขึ้นและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ควรสอบถามโปรโมชั่นหรือแผนผ่อนชำระจากตัวแทนจำหน่ายด้วย เพราะอาจช่วยลดค่าใช้จ่ายในการซื้อรถได้
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto

Q&A เกี่ยวข้อง

Q
ความจุของถัง Lexus LS คือเท่าไหร่
ความจุถังน้ำมันของ Lexus LS จะแตกต่างกันไปตามรุ่นและปีที่ผลิต ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ประมาณ 21-23 แกลลอน (ประมาณ 80-87 ลิตร) ข้อมูลที่แน่นอนแนะนำให้ตรวจสอบในคู่มือผู้ใช้หรือเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ Lexus ประเทศไทย ถังน้ำมันขนาดนี้ในไทยถือว่าสะดวกมากสำหรับการเดินทางไกล โดยเฉพาะเส้นทางยอดนิยมอย่างจากกรุงเทพไปเชียงใหม่หรือพัทยา เพราะช่วยลดจำนวนครั้งที่ต้องเติมน้ำมัน ทำให้การขับขี่สบายขึ้น อย่างไรก็ตาม ความจุถังน้ำมันเป็นเพียงหนึ่งในปัจจัยที่ส่งผลต่อระยะทางที่รถสามารถวิ่งได้ สภาพการขับขี่จริงยังขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการขับ รถติด และน้ำหนักรถด้วย สภาพอากาศร้อนและรถติดบ่อยในเมืองของไทยอาจทำให้สิ้นเปลืองน้ำมันมากขึ้นเล็กน้อย แนะนำให้บริการรักษารถอย่างสม่ำเสมอและตรวจสอบลมยางให้เหมาะสมเพื่อประสิทธิภาพการใช้น้ำมันที่ดีที่สุด Lexus LS ในฐานะรถหรูระดับพรีเมียมได้รับความนิยมในไทยจากความสบายและความน่าเชื่อถือ ถ้าคุณต้องการประหยัดน้ำมันมากขึ้น ก็อาจพิจารณารุ่น Hybrid ของ Lexus ที่ช่วยลดการสิ้นเปลืองน้ำมันได้ดีกว่าโดยเฉพาะในเมือง
Q
ความแตกต่างระหว่าง Lexus LS 460 และ LS460L คืออะไร
Lexus LS 460 กับ LS460L แตกต่างกันที่ขนาดตัวรถและพื้นที่ด้านหลังครับ รุ่น LS460L เป็นเวอร์ชั่นระยะฐานล้อยาวกว่า LS 460 ประมาณ 120 มิลลิเมตร ทำให้ผู้โดยสารด้านหลังมีพื้นที่ขาเพิ่มขึ้น สะดวกสบายกว่า เหมาะสำหรับการรับรองลูกค้าหรือใช้งานในครอบครัวเป็นพิเศษ โดยเฉพาะในประเทศร้อนๆอย่างไทย รถระยะฐานล้อยาวแบบนี้มักจะได้รับความนิยมมากกว่า เพราะผู้โดยสารด้านหลังจะรู้สึกสบายขึ้นเวลานั่ง โดยเฉพาะในเมืองที่รถติดอย่างกรุงเทพฯ แล้ว รถฐานล้อยาวจะได้เปรียบชัดเจนกว่า ทั้งสองรุ่นใช้ระบบขับเคลื่อนและอุปกรณ์เหมือนกันครับ ติดตั้งเครื่องยนต์ V8 4.6 ลิตร ให้กำลังงานเรียบแต่แรง คล่องตัวทั้งบนทางด่วนและในเมือง แบรนด์หรูอย่าง Lexus ในไทยก็มีเครือข่ายบริการหลังการขายที่ดี เจ้าของรถจะได้รับการดูแลรักษาที่มีคุณภาพ ว่าจะเลือกรุ่นไหนก็ขึ้นอยู่กับความต้องการส่วนตัวครับ ถ้าต้องการรับรองลูกค้าสำคัญหรือนั่งครอบครัวบ่อยๆ LS460L น่าจะเหมาะกว่า แต่ถ้าชอบความคล่องตัวในการขับขี่ LS 460 ฐานล้อมาตรฐานอาจจะตอบโจทย์มากกว่า
Q
วิธีการเติมน้ำหล่อเย็นใน Lexus LS 460
เวลาจะเติมน้ำยาหล่อเย็นให้กับ Lexus LS 460 สิ่งแรกที่ต้องทำคือต้องมั่นใจว่าเครื่องยนต์เย็นตัวลงแล้ว ห้ามเติมตอนเครื่องร้อนเด็ดขาดเพราะอาจเกิดอันตรายจากความร้อน ก่อนเปิดฝาหม้อน้ำให้กดเบาๆเพื่อไล่ความดันที่ค้างอยู่ สำหรับสภาพอากาศร้อนแบบประเทศไทย แนะนำให้ใช้น้ำยาหล่อเย็นเกรดดีของโตโยต้าอย่าง Super Long Life Coolant หรือยี่ห้ออื่นที่คุณสมบัติเทียบเท่า ซึ่งปกติจะเป็นสีชมพูหรือแดง เพราะทนความร้อนได้ดีกว่าและเปลี่ยนถ่ายน้อยกว่า เวลาเติมให้ค่อยๆเทลงในถังพักน้ำหล่อเย็นให้อยู่ระหว่างขีด MAX กับ MIN จากนั้นสตาร์ทเครื่องให้ทำงานในเกียร์ว่างจนพัดลมหม้อน้ำเริ่มทำงาน เพื่อไล่ฟองอากาศออก อาจบีบสายน้ำยาด้านบนและล่างช่วยไล่อากาศได้ แล้วตรวจสอบระดับน้ำยาอีกครั้ง พวกคุณที่ใช้รถในไทยต้องระวังเป็นพิเศษ ควรตรวจสอบระบบหล่อเย็นทุกปีก่อนเข้าหน้าฝน เพราะความร้อนและความชื้นสูงจะเร่งให้สายยางเสื่อมสภาพเร็ว แนะนำให้เปลี่ยนน้ำยาหล่อเย็นทุก 2 ปีหรือ 40,000 กิโลเมตร ถ้าใช้น้ำยาหล่อเย็นคุณภาพต่ำหรือผสมสีต่างชนิดกัน อาจทำให้หม้อน้ำเป็นสนิมหรือปั๊มน้ำเสียหายได้ ระบบหล่อเย็นของ Lexus ออกแบบมาอย่างดี ถ้าดูแลรักษาให้ถูกต้องจะช่วยป้องกันปัญหาเครื่องร้อนที่พบบ่อยในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ถ้าเห็นว่าระดับน้ำยาลดลงบ่อยๆ ควรรีบตรวจหารอยรั่ว เพราะหม้อน้ำของ LS 460 ติดตั้งอยู่ตำแหน่งค่อนข้างต่ำ อาจเสี่ยงโดนหินกระเด็นใส่เวลาขับบนถนนสภาพไม่ดีในไทยได้ง่าย
Q
ความแตกต่างระหว่าง Lexus IS ES GS และ LS คืออะไร
รถยนต์ Lexus ในซีรีส์ IS ES GS และ LS แต่ละรุ่นมีความโดดเด่นแตกต่างกันไป โดยความแตกต่างหลักอยู่ที่การออกแบบและสถานการณ์การใช้งาน รุ่น IS เป็นรถซีดานสปอร์ตที่เหมาะกับคนรุ่นใหม่ที่ชอบความสนุกในการขับขี่ ด้วยขนาดตัวรถที่กะทัดรัดและคล่องตัว ทำให้ขับเคลื่อนในเส้นทางเมืองของไทยได้อย่างสะดวกสบาย ส่วนรุ่น ES ออกแบบมาเพื่อความหรูหราและความสบายเป็นหลัก เน้นพื้นที่โดยสารที่กว้างขวางโดยเฉพาะบริเวณหลัง พร้อมอุปกรณ์ครบครัน เหมาะสำหรับนักธุรกิจหรือครอบครัวที่ต้องการความสะดวกสบาย รุ่น GS นั้นอยู่กึ่งกลางระหว่างสปอร์ตและความหรูหรา ให้ทั้งความรู้สึกในการขับขี่ที่สมบูรณ์แบบและประสบการณ์การนั่งที่เหนือระดับ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความสมดุลในทุกด้าน ส่วนรุ่น LS เป็นรถซีดานสุดหรูระดับแฟล็กชิปของ Lexus ที่รวมเอาความทันสมัยของเทคโนโลยีและความประณีตของการออกแบบภายในเอาไว้อย่างสมบูรณ์แบบ เหมาะสำหรับงานธุรกิจระดับสูง ในตลาดไทยจะพบเห็นรุ่น ES และ LS ค่อนข้างบ่อย เพราะคนไทยให้ความสำคัญกับความสบายและความหรูหรา ขณะที่รุ่น IS และ GS ค่อนข้างหายากกว่า และควรทราบไว้ว่ารุ่น GS กำลังจะถูกยกเลิกการผลิตในตลาดโลก และอาจจะมีรุ่นอื่นมาแทนที่ในอนาคต รถทุกรุ่นต่างสืบทอดความทนทานและความน่าเชื่อถือที่เป็นเอกลักษณ์ของ Lexus สามารถใช้งานได้อย่างมั่นใจในสภาพอากาศร้อนของไทย พร้อมบริการหลังการขายที่ได้มาตรฐาน ผู้บริโภคสามารถเลือกรุ่นที่เหมาะสมตามความต้องการและงบประมาณที่มีได้
Q
เมื่อ Lexus LS 500 ปี 2025 จะมีจำหน่าย
จากข้อมูลล่าสุด คาดว่า Lexus LS 500 รุ่นปี 2025 จะเปิดตัวในตลาดประเทศไทยช่วงปลายปี 2024 หรือต้นปี 2025 โดยอาจมีความแตกต่างบ้างในแต่ละพื้นที่ขึ้นอยู่กับการจัดสรรของตัวแทนจำหน่าย รถยนต์หรูรุ่นนี้ยังคงความปราณีตแบบ Lexus พร้อมเครื่องยนต์ V6 3.5 ลิตร เทอร์โบชาร์จ twin-turbo ที่ได้รับการอัปเกรด ทำงานคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด ที่ช่วยเพิ่มทั้งสมรรถนะและประหยัดน้ำมันขึ้นอีกขั้น ด้านภายในคาดว่าจะใช้วัสดุระดับพรีเมียมและระบบมัลติมีเดียรุ่นใหม่ล่าสุด รวมถึงหน้าจอสัมผัสขนาด 12.3 นิ้วที่อาจรองรับการใช้งานภาษาไทย โดยเฉพาะจุดเด่นที่คนไทยสนใจอย่างระบบปรับอากาศและเบาะหนังระบายอากาศที่ออกแบบมาเพื่อสภาพอากาศร้อนโดยเฉพาะ ต้องบอกว่า Lexus ในไทยมีเครือข่ายบริการหลังการขายที่ครอบคลุม พร้อมประกันตัวรถ 5 ปีหรือ 150,000 กิโลเมตร ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบสำคัญสำหรับคนไทยที่กำลังมองหารถหรู ในตลาดไทยตอนนี้ LS ซีรีส์ต้องแข่งกับ Mercedes-Benz S-Class และ BMW 7 ซีรีส์ แต่ Lexus ก็ยังครองใจกลุ่มลูกค้าระดับสูงและนักธุรกิจไทยด้วยสไตล์ความหรูแบบญี่ปุ่นและความน่าเชื่อถือ สำหรับใครที่สนใจสามารถติดตามข้อมูลอัปเดตผ่านเว็บไซต์ Lexus ประเทศไทยหรือสอบถามตัวแทนจำหน่ายในพื้นที่ได้เลย
Q
Lexus LS 460 จะวิ่งได้กี่กิโลเมตร
รถยนต์หรู Lexus LS 460 นั้น ถ้าดูแลรักษาตามมาตรฐานและบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอ โดยทั่วไปสามารถใช้งานได้เกิน 3 แสนกิโลเมตร หรืออาจมากกว่านั้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการขับขี่ สภาพถนน และความถี่ในการบำรุงรักษา สำหรับสภาพอากาศร้อนชื้นของประเทศไทย แนะนำให้เจ้าของรถให้ความสำคัญเป็นพิเศษกับการเปลี่ยนน้ำหล่อเย็นอย่างสม่ำเสมอ และตรวจสอบระบบแอร์เป็นประจำ เพื่อให้เครื่องยนต์และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ภายในรถทำงานได้อย่างมีเสถียรภาพในระยะยาว นอกจากนี้ การจราจรที่ติดขัดในเมืองไทยเป็นเรื่องปกติ การสตาร์ทรถบ่อยๆ อาจสร้างภาระเพิ่มให้กับเกียร์และระบบเบรก ดังนั้นควรบำรุงรักษาบ่อยขึ้นและใช้อะไหล่แท้จากศูนย์ Lexus ซึ่งเป็นแบรนด์ที่ขึ้นชื่อในเรื่องความทนทานและความน่าเชื่อถือ เครื่องยนต์ V8 4.6 ลิตรของ LS 460 นั้นเป็นเทคโนโลยีที่ผ่านการทดสอบมาแล้ว ถ้าเปลี่ยนน้ำมันเครื่องและไส้กรองตามกำหนดอายุการใช้งานของเครื่องยนต์จะยาวนานยิ่งขึ้น สำหรับเจ้าของรถในไทย การเลือกบริการที่ศูนย์บริการอย่างเป็นทางการของ Lexus เป็นเรื่องสำคัญ เพราะศูนย์เหล่านี้เข้าใจสภาพอากาศและสภาพถนนในท้องถิ่น สามารถให้คำแนะนำในการบำรุงรักษาที่ตรงจุดมากขึ้น อีกทั้งรถหรูอย่าง LS 460 มีอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ค่อนข้างมาก การตรวจสอบระบบไฟฟ้าและเซ็นเซอร์เป็นประจำจะช่วยป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้ สรุปแล้วถ้าดูแลดีๆ Lexus LS 460 สามารถเป็นคู่ใจที่ไว้ใจได้ในระยะยาวสำหรับคนไทยแน่นอน

ข้อดี

ออกแบบเรียบง่ายแต่แสดงถึงความทันสมัยและพลังงาน รูปลักษณ์ที่เป็นเอกลักษณ์ของ Spindle Grille ทำให้หน้ารถมีสไตล์มากขึ้น
วัสดุภายในที่มีคุณภาพสูง ที่นั่งถูกห่อหุ้มด้วยหนังและถักเย็บอย่างละเอียด สัมผัสนุ่มนวล สามารถรู้สึกผ่อนคลาย ประตูรถมีเสียงกันเสียงที่ดีทำให้เพิ่มความเป็นส่วนตัวในการเดินทาง
มีระบบช่วยเหลือการขับขี่และระบบความปลอดภัยจำนวนมาก เช่น ระบบภาพถอยหลัง การเตือนการชนและเบรกอัตโนมัติ การตรวจจับคนเดิน และการเดินทางแบบคงที่ เป็นต้น
ระบบชั้นยางที่มีการวิ่งที่สม่ำเสมอ สามารถปรับตัวกับทุกสภาพถนน ระบบโช็คอัพภายในมีประสิทธิภาพดี
ระบบพลังงานผสมที่ตัวเครื่องยนต์ทำงานร่วมกับเครื่องยนต์ไฟฟ้า มีประสิทธิภาพในการเร่งและการส่งพลังงานต่อเนื่อง การกระจายพลังงานที่ยอดเยี่ยม

ข้อเสีย

ในรถหรูแบรนด์ไม่โดดเด่นเท่ากับ Mercedes-Benz และ Jaguar
พื้นที่ภายในรถแคบ ดีไซน์แผงควบคุมกว้างเกินไป พื้นที่ขาด้านหลังเล็ก
พื้นที่ในท้ายรถเมื่อเทียบกับผลิตภัณฑ์ในระดับเดียวกันเล็กลง
ระบบบันเทิงและข้อมูลยากต่อการใช้งาน เป็นมิตรกับผู้ใช้ที่ไม่คุ้นเคยกับเทคโนโลยี หน้าจอทัชไม่ราบรื่น บางส่วนของเทคโนโลยีไม่ทันสมัย ดำเนินการช้า
ส่วนของอะไหล่และวัสดุบางอย่างสึกหรอง่าย เช่น หลอดไฟของรถเปลี่ยนสีง่าย ดิสก์เบรกสึกหรอง่ายและราคาของอะไหล่ไม่ถูก

Q&A ล่าสุด

Q
เครื่องยนต์ขนาดเท่าไหร่ที่อยู่ใน Ford Ranger รุ่นปี 2021?
รถกระบะ Ford Ranger รุ่นปี 2021 มีตัวเลือกเครื่องยนต์หลายแบบให้เลือกตามความต้องการ โดยเครื่องยนต์ที่นิยมที่สุดคือเครื่องดีเซลเทอร์โบ 2.0 ลิตร 4 สูบ ที่มีทั้งแบบเทอร์โบเดี่ยวและเทอร์โบคู่ รุ่นเทอร์โบเดี่ยวให้กำลังสูงสุดประมาณ 170 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 405 นิวตันเมตร ส่วนรุ่นเทอร์โบคู่จะแรงกว่ามาก ให้กำลังถึง 213 แรงม้าและแรงบิด 500 นิวตันเมตร เหมาะกับคนที่ต้องการบรรทุกหนักหรือลากจูงของเยอะ นอกจากนี้บางประเทศยังมีเครื่องยนต์เบนซิน 2.3 ลิตร 4 สูบ ให้กำลังสูงสุด 270 แรงม้า แรงบิด 420 นิวตันเมตรอีกด้วย เครื่องดีเซลของ Ranger นี่ประหยัดน้ำมันสุดๆ โดยเฉพาะแรงบิดต่ำๆ ที่ตอบโจทย์การขับทั้งในเมืองและทางไกล แถมยังออกแบบมาให้ทนทานและซ่อมบำรุงง่ายเป็นพิเศษ สำหรับเมืองร้อนแบบบ้านเรา ระบบระบายความร้อนก็ถูกปรับให้ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ Ranger เครื่องแรงแบบนี้ทั้งประหยัดและอุ้มงานได้ทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะใช้งานก่อสร้างหรือขนส่งการเกษตรก็เอาอยู่ ถือเป็นรถกระบะที่ตอบโจทย์ทั้งเรื่องแรงและการใช้งานในชีวิตประจำวันได้ดีที่สุดรุ่นหนึ่งในตลาดตอนนี้
Q
ฉันควรจ่ายเงินเท่าไรสำหรับ Ford Ranger ปี 2021?
ราคาขายมือสองของ Ford Ranger รุ่นปี 2021 จะแตกต่างกันไปตามสภาพรถ ระยะทาง อุปกรณ์ และพื้นที่ โดยทั่วไปแล้วในตลาดตอนนี้จะอยู่ที่ประมาณ 600,000 ถึง 900,000 บาท ถ้าเป็นรถที่ระยะทางน้อย (เช่น ไม่เกิน 30,000 กิโลเมตร) สภาพดี และเป็นเวอร์ชั่นอุปกรณ์สูง ราคาอาจจะพุ่งไปถึง 9 แสนบาท ส่วนรถที่ระยะทางสูงหรือเป็นแบบพื้นฐานก็จะถูกลง แนะนำให้ตรวจสอบราคาปัจจุบันผ่านแพลตฟอร์มขายมือสองหรือตัวแทนจำหน่ายในพื้นที่ก่อนซื้อ และควรให้ช่างตรวจสอบสภาพรถให้ละเอียด Ranger เป็นปิคอัพที่ทนทานและใช้งานได้หลากหลาย ได้รับความนิยมในไทย โดยเฉพาะสำหรับการใช้ชีวิตประจำวันหรือขับออฟโรดเล็กน้อย ระบบเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 2.0 ลิตรคู่กับเกียร์ออโต้ 10 สปีด ให้ทั้งพลังและประหยัดน้ำมัน แถมค่าบำรุงรักษาก็ไม่แรงและหาอะไหล่ได้ง่าย นับเป็นจุดเด่นที่น่าจับตา ก่อนตัดสินใจก็ลองเปรียบเทียบกับรุ่นอื่นในระดับเดียวกันอย่าง Toyota Hilux หรือ Isuzu D-MAX ได้ แต่สุดท้ายแล้วควรเลือกให้ตรงกับความต้องการและงบประมาณของตัวเองเป็นหลัก
Q
รถ Ford Ranger ปี 2021 ดีไหม?
2021 Ford Ranger เป็นรถกระบะขนาดกลางที่ความน่าเชื่อถือสูง เหมาะกับหลายสถานการณ์ทั้งขับขี่ในเมืองและลุยเส้นทางออฟโรดเล็กน้อย ตัวรถมาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 2.0 ลิตร หรือเครื่องเบนซินเทอร์โบ 2.3 ลิตร ที่ให้สมรรถนะสมดุลและประหยัดน้ำมัน โดยรุ่นดีเซลจะประหยัดกว่าสำหรับการเดินทางไกล ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง เบาะนั่งสบายตัว พร้อมระบบความบันเทิง SYNC 3 ที่รองรับทั้ง Apple CarPlay และ Android Auto ทำให้ใช้งานได้สะดวก ระบบช่วงล่างถูกตั้งค่าให้เน้นความนุ่มสบาย แต่ยังคงความมั่นคงเมื่อบรรทุกของหรือขับออฟโรด ข้อควรรู้คือวัสดุภายในห้องโดยสารเป็นพลาสติกแข็งที่ดูไม่หรูเท่ารุ่นคู่แข่ง แต่ทนทานแน่นอน ส่วนเรื่องค่าตัวในตลาดมือสองอยู่ระดับกลาง ค่าบำรุงรักษาไม่แพง และหาอะไหล่ได้ง่าย ถ้าคิดจะซื้อมือสองแนะนำให้ตรวจสอบสภาพช่วงล่างและประวัติการดูแลเครื่องยนต์กับเกียร์ให้ดี เพราะรถกระบะมักถูกใช้งานหนัก พูดถึงความสามารถด้านออฟโรด รุ่นนี้ทำได้ดีกว่ารถ SUV เมืองทั่วไปแต่สู้รุ่นออฟโรดเฉพาะทางไม่ได้ เหมาะกับคนที่ต้องการใช้ทั้งงานบ้านและขนของเป็นครั้งคราว
Q
รถ Ford Ranger รุ่นปี 2021 มีคะแนนความปลอดภัยที่ดีหรือไม่?
2021 Ford Ranger ถือว่าทำได้ดีในเรื่องความปลอดภัย ได้รับการยอมรับจากหลายสถาบันทดสอบระดับโลก อย่างเช่นผลทดสอบจาก ANCAP ที่ได้คะแนน 5 ดาว ส่วนใหญ่ต้องขอบคุณโครงสร้างตัวถังที่แข็งแรงและระบบความปลอดภัยครบครัน ทั้งถุงลมนิรภัยหลายจุด ระบบควบคุมเสถียรภาพอิเล็กทรอนิกส์ ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ และระบบช่วยรักษาช่องทางเดินรถ ซึ่งช่วยเพิ่มความปลอดภัยได้ดีเวลาขับขี่ประจำวัน โดยเฉพาะในเมืองที่รถเยอะหรือเวลาขับทางไกลบนไฮเวย์ นอกจากนี้ เรนเจอร์ยังมีกล้องถอยหลังและระบบเตือนจุดบอด ช่วยคนขับที่ต้องเจอรถติดบ่อยหรือจอดในที่แคบได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ยังมีระบบช่วยเหลือการขับขี่ขั้นสูง เช่น Option Adaptive Cruise และภาพพาโนรามา 360 องศา ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงอุบัติเหตุได้อีก โครงสร้างรถปิคอัพอย่างเรนเจอร์มักจะเน้นความแข็งแรงของตัวถังเป็นพิเศษ ทำให้ผลทดสอบการชนออกมาได้ดี เหมาะกับคนที่ใส่ใจเรื่องความปลอดภัยของรถเป็นพิเศษ
Q
ระบบเกียร์ที่อยู่ใน Ford Ranger ปี 2021 คืออะไร?
รถ Ford Ranger รุ่นปี 2021 ในตลาดท้องถิ่นมีตัวเลือกเกียร์หลักๆ 2 แบบคือ เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีดและเกียร์ธรรมดา 6 สปีด โดยรุ่นเกียร์อัตโนมัติเป็นที่นิยมมากกว่าเพราะใช้งานในเมืองที่รถติดหรือขับทางไกลได้สะดวกกว่า เกียร์รุ่นนี้ใช้เทคโนโลยีส่งกำลังที่พัฒนามาอย่างดี เปลี่ยนเกียร์ได้ลื่นๆ ประหยัดน้ำมันอยู่ในระดับดีเมื่อเทียบกับรถระดับเดียวกัน โดยเฉพาะเหมาะสำหรับคนที่ต้องขนของหรือลากจูงบ่อยๆ ส่วนคนที่ชอบความรู้สึกในการควบคุมรถ รุ่นเกียร์ธรรมดาจะให้สัมผัสการขับที่ตรงไปตรงมาและค่าบำรุงรักษาก็ถูกกว่า ด้วย ข้อสังเกตสำคัญคือเกียร์รุ่นนี้ออกแบบมาโดยคำนึงถึงสภาพอากาศร้อนเป็นพิเศษ ระบบระบายความร้อนได้รับการปรับแต่งให้ทำงานได้เสถียรแม้ขับนานในอากาศร้อนจัด ถ้าอยากได้เกียร์ที่ทันสมัยขึ้นอาจเลือกรุ่นพิเศษที่อาจติดตั้งเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด แต่ราคาก็จะสูงขึ้นตาม สำหรับการใช้งานประจำวัน แนะนำให้เปลี่ยนน้ำมันเกียร์ตามกำหนด โดยเฉพาะถ้าต้องขับออฟโรดหรือบรรทุกหนักบ่อยๆ จะช่วยยืดอายุการใช้งานเกียร์ได้ดี
ดูเพิ่มเติม