Q

Honda Jazz มีกี่รุ่น?

ปัจจุบัน Honda Jazz ที่จำหน่ายในตลาดประเทศไทยมีให้เลือก 2 รุ่นหลักคือ 1.5 RS และ 1.5 SV ทั้งสองรุ่นใช้เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร i-VTEC แบบสูบธรรมชาติร่วมกับเกียร์ CVT ซึ่งเน้นความประหยัดและความคล่องตัวเหมาะกับการใช้งานในเมืองอย่างเช่นสภาพการจราจรติดขัดในกรุงเทพฯ Jazz ได้รับความนิยมมายาวนานในฐานะรถแฮทช์แบ็กขวัญใจคนไทยด้วยดีไซน์ห้องโดยสารอเนกประสงค์แบบ Magic Seat ที่ตอบโจทย์การใช้งานและความประหยัดน้ำมันที่น่าเชื่อถือ ควรระวังไว้ว่า Jazz ในตลาดไทยนั้นเป็นรุ่นเดียวกันกับ Fit ที่จำหน่ายในบางประเทศเพียงแต่ใช้ชื่อต่างกัน ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาความสนใจรถยนต์ไฮบริดในไทยเพิ่มขึ้น ทาง Honda ได้เปิดตัว Jazz Hybrid ในบางตลาดแต่ยังไม่วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการที่ประเทศไทย สำหรับลูกค้าที่สนใจสามารถเลือกเพิ่มเติมระบบความปลอดภัย Honda SENSING ได้ตามความต้องการ แนะนำให้ทดลองขับรถจริงที่ตัวแทนจำหน่ายก่อนตัดสินใจซื้อเพื่อสัมผัสประสบการณ์โดยตรง
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto

Q&A เกี่ยวข้อง

Q
ข้อเสียของ Honda Jazz คืออะไร
Honda Jazz ในฐานะรถยนต์แฮทช์แบ็กขนาดกะทัดรัดที่ได้รับความนิยมในตลาดไทยนั้น จุดด้อยหลัก ๆ อยู่ที่พื้นที่ภายในและสมรรถนะของเครื่องยนต์ แม้ว่า Jazz จะมีการออกแบบที่โดดเด่นด้วยฟังก์ชัน Magic Seat แต่ในสภาพอากาศร้อนของไทย พื้นที่ขาเบาะหลังอาจรู้สึกคับแคบสำหรับผู้โดยสารที่สูงโดยเฉพาะเมื่อเดินทางไกล นอกจากนี้ เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร แบบดูดอากาศธรรมชาติ เมื่อใช้งานในเส้นทางภูเขาหรือเมื่อต้องบรรทุกเต็มที่ การเร่งความเร็วอาจรู้สึกไม่เพียงพอ โดยเฉพาะเวลาที่เปิดแอร์เต็มกำลังจะเห็นการลดทอนของพละกำลังและอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันที่เพิ่มขึ้น ส่วนเรื่องการเก็บเสียงเมื่อขับขี่ด้วยความเร็วสูง เสียงลมและเสียงยางจะค่อนข้างเด่น ซึ่งอาจทำให้ผู้บริโภคที่เน้นความเงียบสงบรู้สึกไม่เต็มที่ อย่างไรก็ตาม ข้อจำกัดเหล่านี้เป็นเรื่องที่พิจารณาในบริบทของการจัดวางตำแหน่งรถยนต์รุ่นนี้ โดยเมื่อพิจารณาถึงความคล่องตัวในการขับขี่ในเมืองและความประหยัดน้ำมัน รวมถึงสภาพการจราจรที่หนาแน่นในไทย Jazz ยังคงเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับการใช้งานในเมือง ผู้บริโภคในไทยสามารถชั่งน้ำหนักข้อดีข้อเสียตามความต้องการส่วนตัว หากต้องการรถที่เหมาะกับการเดินทางแบบครอบครัวหรือสมรรถนะที่แรงขึ้น อาจพิจารณารถรุ่นอื่นในระดับเดียวกันเป็นทางเลือกเพิ่มเติมได้
Q
Honda Jazz อยู่ในกลุ่มตลาดรถยนต์ขนาดเล็ก
Honda Jazz ในตลาดรถยนต์ของประเทศไทยจัดอยู่ในกลุ่ม B-Segment หรือที่เรียกว่ารถยนต์ขนาดเล็ก (Subcompact Car) ซึ่งเป็นกลุ่มที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เน้นการใช้งานในเมืองและครอบครัวในชีวิตประจำวัน โดยมีจุดเด่นที่ขนาดตัวถังกะทัดรัด ประหยัดน้ำมัน และออกแบบพื้นที่ใช้สอยได้อย่างลงตัว Honda Jazz มีฟังก์ชัน Magic Seat ที่ช่วยเพิ่มความหลากหลายในการจัดเก็บสัมภาระ เหมาะอย่างยิ่งกับการขับขี่ในเมืองใหญ่ที่การจราจรหนาแน่น เช่น กรุงเทพฯ ขณะที่เครื่องยนต์ i-VTEC ขนาด 1.5 ลิตร ให้กำลังขับเคลื่อนที่นุ่มนวลและเหมาะสมกับสภาพถนนของไทย กลุ่ม B-Segment ในไทยยังมีคู่แข่งที่ได้รับความนิยมอย่าง Toyota Yaris และ Mazda2 ซึ่งเน้นความประหยัดและใช้งานได้จริง ผู้บริโภคจึงมักเลือกตามความชอบในแบรนด์ ฟีเจอร์ และบริการหลังการขาย ความต้องการรถยนต์ขนาดเล็กในไทยยังคงสูงเนื่องจากราคาที่เข้าถึงได้ง่าย ต้นทุนการบำรุงรักษาต่ำ และเหมาะกับถนนที่ค่อนข้างแคบ Honda Jazz จึงเป็นตัวเลือกยอดนิยมในกลุ่มนี้ด้วยความน่าเชื่อถือและอัตราการเก็บมูลค่าที่ดี
Q
มูลค่าการขายต่อของ Honda Jazz คืออะไร
ในตลาดประเทศไทย Honda Jazz ถือเป็นรถมือสองที่มีอัตราการคงมูลค่อนข้างดี โดยมีปัจจัยสนับสนุนคือคุณภาพที่เชื่อถือได้ ความประหยัดน้ำมัน และภาพลักษณ์ที่ดีของแบรนด์ Honda ในประเทศไทย จากข้อมูลในอุตสาหกรรมพบว่า Jazz ที่มีอายุไม่เกิน 3 ปีมักมีอัตราการคงมูลอยู่ที่ประมาณ 60% - 70% ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพรถ ระดับอุปกรณ์ และประวัติการบำรุงรักษา สำหรับประเทศไทยซึ่งมีถนนในเมืองที่แออัดและราคาน้ำมันสูง รถยนต์ขนาดเล็กประหยัดพลังงานอย่าง Jazz จึงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับการที่ Honda มีฐานการผลิตในประเทศ ทำให้ชิ้นส่วนอะไหล่หาได้ง่ายและค่าบำรุงรักษาไม่สูง จึงช่วยเพิ่มมูลค่าของรถมือสองได้อีกทาง หนึ่งในแนวโน้มสำคัญคือ Jazz รุ่นไฮบริดเริ่มได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในไทย ซึ่งมักมีมูลค่าขายต่อสูงกว่ารุ่นเครื่องยนต์เบนซินแบบธรรมดา แนะนำให้เจ้าของรถเข้ารับบริการที่ศูนย์บริการอย่างสม่ำเสมอและเก็บเอกสารประวัติการบำรุงรักษาไว้ให้ครบถ้วน เพราะสามารถช่วยเพิ่มราคาขายต่อได้ นอกจากนี้ ผู้บริโภคชาวไทยมักนิยมรถสีโทนกลางอย่างสีขาวหรือสีเงิน ซึ่งขายต่อได้ง่ายกว่า หากต้องการทราบราคาประเมินที่แม่นยำมากขึ้น ควรอ้างอิงจากคู่มือราคารถมือสองของสมาคมรถยนต์ในประเทศไทย หรือปรึกษากับตัวแทนจำหน่ายรถมือสองที่เชื่อถือได้ในพื้นที่
Q
ฮอนด้า แจ๊ส มีกี่ซีซี
Honda Jazz ที่วางจำหน่ายในตลาดประเทศไทยส่วนใหญ่ติดตั้งเครื่องยนต์เบนซินแบบดูดอากาศธรรมดาขนาด 1.5 ลิตร มีปริมาตรกระบอกสูบ 1497 ซีซี โดยเครื่องยนต์รุ่นนี้ขึ้นชื่อเรื่องประสิทธิภาพสูงและความประหยัดน้ำมัน เหมาะกับสภาพการจราจรในเมืองที่มีการหยุด-เคลื่อนบ่อยครั้งในประเทศไทย อีกทั้งยังจับคู่กับเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT ที่ช่วยให้การขับขี่ลื่นไหลยิ่งขึ้น Jazz ถือเป็นรถยนต์ขนาดเล็กที่คุ้มค่าและได้รับความนิยมอย่างมากในไทย โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ใช้ที่ต้องการรถสำหรับใช้งานในครอบครัวหรือเดินทางในเมือง จุดเด่นของรุ่นนี้อยู่ที่ขนาดตัวรถที่คล่องตัวแต่ภายในกว้างขวาง นอกจากนี้ผู้บริโภคยังควรพิจารณาเทคโนโลยีเครื่องยนต์เพิ่มเติม เช่น ระบบ i-VTEC ของ Honda ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการส่งกำลังและประหยัดน้ำมันยิ่งขึ้น ทั้งนี้มาตรฐานมลพิษในไทย เช่น Euro 5 ก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ผู้ซื้อควรตรวจสอบ รวมถึงต้นทุนการใช้งานในระยะยาว ซึ่งมีผลต่อประสบการณ์การขับขี่และค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษารถยนต์
Q
เครื่องยนต์ใน Honda Jazz คืออะไร
Honda Jazz ในตลาดประเทศไทยส่วนใหญ่ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 1.5 ลิตร i-VTEC แบบดูดอากาศธรรมดา มาพร้อมเทคโนโลยี VTEC อันเป็นเอกลักษณ์ของ Honda ให้กำลังสูงสุดประมาณ 120 แรงม้า จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ CVT ที่ขึ้นชื่อเรื่องความนุ่มนวลและประหยัดน้ำมัน เหมาะอย่างยิ่งกับการขับขี่ในสภาพการจราจรติดขัดของกรุงเทพฯ รุ่น RS ที่วางจำหน่ายในไทยยังได้รับการจูนให้ตอบสนองเร็วขึ้นแต่ยังคงประหยัดน้ำมันที่ประมาณ 5.5 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร สำหรับสภาพอากาศร้อนในไทย เครื่องยนต์รุ่นนี้มาพร้อมระบบระบายความร้อนที่ได้รับการปรับปรุงโดยเฉพาะ และระบบปรับอากาศที่ปรับให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมเขตร้อน ช่วยให้การขับขี่ในระยะทางไกลมีเสถียรภาพมากยิ่งขึ้น จุดเด่นอีกอย่างคือห้องเครื่องของ Jazz ออกแบบให้กะทัดรัดเพื่อเพิ่มพื้นที่ภายในห้องโดยสาร ตอบโจทย์ผู้ใช้ชาวไทยที่ให้ความสำคัญกับความกว้างขวางภายในรถ ซึ่งสะท้อนแนวคิด MM หรือ “Man-Maximum, Machine-Minimum” ของ Honda ได้อย่างชัดเจน แม้ว่าในอนาคตอาจมีการแนะนำรุ่น e:HEV ไฮบริดตามนโยบายส่งเสริมรถพลังงานสะอาดของรัฐบาลไทย แต่ในปัจจุบัน รุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร ยังคงเป็นทางเลือกหลักที่ได้รับความนิยมสูง ด้วยความทนทานและค่าบำรุงรักษาต่ำ เหมาะสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวันและการเดินทางในเมือง
Q
ประเภทระบบเกียร์ของ Honda Jazz คืออะไร
ประเภทระบบเกียร์ของ Honda Jazz ในตลาดประเทศไทยจะแตกต่างกันไปตามรุ่นและปีที่ผลิต โดยทั่วไปแล้วรุ่นที่พบได้บ่อยที่สุดคือระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT ซึ่งมีจุดเด่นด้านความนุ่มนวลในการเปลี่ยนเกียร์และความประหยัดน้ำมัน เหมาะอย่างยิ่งสำหรับสภาพการจราจรที่แออัดในเมืองของไทย นอกจากนี้ยังมีบางรุ่นเก่าที่ใช้ระบบเกียร์ธรรมดา 5 สปีด ซึ่งตอบโจทย์ผู้ขับขี่ที่ชื่นชอบความรู้สึกในการควบคุมรถ ระบบเกียร์ CVT ทำงานด้วยหลักการส่งกำลังแบบไร้ขั้นตอน ช่วยลดอาการกระตุกของเกียร์แบบเดิม และเมื่อรวมกับเทคโนโลยี Earth Dreams ของ Honda ก็ยิ่งเพิ่มประสิทธิภาพการประหยัดเชื้อเพลิงมากยิ่งขึ้น เหมาะกับสภาพอากาศร้อนของไทยและการขับขี่แบบหยุด–ไปบ่อย ๆ อีกทั้งยังได้รับการปรับจูนให้ส่งแรงบิดได้ดีที่รอบต่ำ รองรับการใช้งานบนถนนแคบหรือทางลาดชันได้ดี การเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ CVT อย่างสม่ำเสมอและหลีกเลี่ยงการขับขี่ที่ใช้โหลดหนักต่อเนื่องจะช่วยยืดอายุการใช้งานของระบบเกียร์ โดยเฉพาะในสภาพแวดล้อมที่ร้อนและชื้นของประเทศไทย
Q
PCD ขนาดเท่าไรของ Honda Jazz
สำหรับรถฮอนด้า แจ๊ส ในตลาดไทยจะมีขนาด PCD (ระยะวงกลมรูสลักล้อ) แบบ 4x100 หมายความว่าจากรูสลักล้อ 4 รู โดยจุดศูนย์กลางของรูแต่ละรูจะอยู่บนเส้นรอบวงที่มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 100 มิลลิเมตร ซึ่งสเปคนี้ใช้ร่วมกับรถยนต์ประเภทเอкономี่คาร์และคอมแพคต์คาร์หลายรุ่นในไทย ทำให้เวลาจะเปลี่ยนหรืออัพเกรดล้อ เจ้าของรถมีตัวเลือกที่เข้ากันได้หลากหลายมากขึ้น โดยเฉพาะในไทยเราจะพบผู้ผลิตล้อท้องถิ่นและร้านแต่งรถหลายแห่งที่รองรับล้อแบบ 4x100 PCD โดยเฉพาะในเมืองใหญ่อย่างกรุงเทพหรือเชียงใหม่ หาล้อที่เหมาะกับแจ๊สได้ไม่ยาก นอกจาก PCD แล้ว เวลาเลือกล้อต้องดูเรื่องขนาดรูกลางล้อ (CB) และระยะออฟเซ็ต (ET) ด้วย เพื่อให้ล้อที่ติดตั้งแล้วทำงานได้สมบูรณ์กับระบบช่วงล่างและโครงสร้างตัวรถ ป้องกันปัญหาเวลาขับอย่างการสั่นหรือสึกหรอเร็ว ส่วนสภาพอากาศไทยที่ทั้งร้อนและฝนชุก แนะนำให้เลือกวัสดุล้อที่ทั้งเบาและระบายความร้อนดี เช่น อลูมิเนียม จะช่วยประหยัดน้ำมันและช่วยระบายความร้อนให้เบรกได้ดีขึ้น
Q
รถฮอนด้า แจ๊ส มี Apple CarPlay หรือไม่
สำหรับรถฮอนด้า Jazz รุ่นล่าสุดที่วางขายในตลาดไทย (บางตลาดอาจเรียกว่า Fit) แบบรุ่นท็อปนั้นมีการติดตั้งระบบ Apple CarPlay มาให้ด้วย ซึ่งฟีเจอร์นี้ได้รับความนิยมมากในหมู่ผู้บริโภคชาวไทย เพราะช่วยให้เชื่อมต่อกับ iPhone ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ทั้งระบบนำทาง ฟังเพลง หรือโทรศัพท์ แต่ต้องระวังว่ารุ่นและปีการผลิตที่ต่างกันอาจมีสเปกไม่เหมือนกัน แนะนำให้ตรวจสอบรายละเอียดกับโชว์รูมฮอนด้าในไทยก่อนซื้อจริง สำหรับคนไทยแล้ว Apple CarPlay ถือเป็นตัวช่วยชั้นดี โดยเฉพาะในเมืองติดรถติดอย่างกรุงเทพฯ ที่สามารถใช้เสียงสั่งงานผ่าน Siri ลดการเสียสมาธิขณะขับรถได้ ถ้าหากรุ่นของคุณไม่มี CarPlay ติดตั้งมาแต่แรก ในไทยก็มีอู่ติดตั้งรถยนต์มาตรฐานที่สามารถเพิ่มเติมระบบนี้ได้ แต่ควรเลือกอุปกรณ์ที่ผ่านมาตรฐานกฎหมายการขนส่งไทยเพื่อความปลอดภัย นอกจาก CarPlay แล้ว รถใหม่ๆ ในตลาดไทยตอนนี้หลายรุ่นยังรองรับ Android Auto ด้วย ตอบโจทย์ทั้งผู้ใช้ iPhone และ Android โดยฟังก์เจอร์เชื่อมต่อสมาร์ทเหล่านี้กำลังกลายเป็นปัจจัยสำคัญที่คนรุ่นใหม่ในไทยใช้ตัดสินใจเลือกซื้อรถเลยทีเดียว
Q
ยี่ห้อยางรถยนต์ของ Honda Jazz คืออะไร
ยางติดรถจากโรงงานของ Honda Jazz ในตลาดประเทศไทยจะแตกต่างกันตามปีรุ่นและระดับการตกแต่ง โดยทั่วไปจะใช้ยี่ห้อญี่ปุ่นที่พบได้บ่อย เช่น Bridgestone Dunlop หรือ Yokohama ซึ่งเป็นแบรนด์ที่มีความนิยมสูงในไทยและเหมาะกับสภาพอากาศร้อนชื้นของประเทศ เช่น ยางซีรีส์ ECOPIA ของ Bridgestone ที่เน้นความประหยัดน้ำมันและทนทาน เหมาะสำหรับการขับขี่ในเมือง ผู้ใช้รถในไทยควรพิจารณาสภาพอากาศที่มีฝนตกบ่อย โดยแนะนำให้ตรวจสอบค่าการยึดเกาะบนถนนเปียก เช่น ระดับ Traction จากมาตรฐาน UTQG และเนื่องจากสภาพถนนในไทยมีความหลากหลาย จึงควรเลือกยางที่มีความแข็งแรงของแก้มยางที่เหมาะสม หากต้องการเปลี่ยนยางที่ไม่ใช่ของเดิมจากโรงงาน แนะนำให้ตรวจสอบสัญลักษณ์รับรองมาตรฐาน TISI จากกรมการขนส่งทางบก เพื่อให้มั่นใจว่ายางนั้นปลอดภัยต่อการใช้งานในประเทศไทย ยางแบรนด์ระดับสากล เช่น Michelin ที่มีการผลิตในไทยก็เป็นทางเลือกที่ดี ทั้งในด้านความคุ้มค่าและการบริการหลังการขาย
Q
รถฮอนด้า แจ๊ซ เป็นรถที่ดีหรือไม่ เรียนรู้ข้อดีและข้อเสียที่นี่
รถฮอนด้า แจ๊ส เป็นรถขนาดเล็กที่ขายดีในตลาดไทย ด้วยขนาดตัวรถที่คล่องตัวเหมาะกับสภาพการจราจรติดขัดในเมืองอย่างกรุงเทพฯ เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร i-VTEC ประหยัดน้ำมันเหมาะกับราคาน้ำมันที่ค่อนข้างสูงในไทย แถมยังใช้แนวคิด MM (ย่อมากสุด ใช้พื้นที่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด) ทำให้มีพื้นที่เก็บของเยอะกว่าเพื่อนร่วมรุ่น โดยเฉพาะระบบเก้าอี้แบบ Magic Seat ที่ปรับได้ตามต้องการสำหรับของชิ้นใหญ่ ข้อเสียคือเวลาขับเร็วเสียงรบกวนค่อนข้างได้ยินชัด และเมื่อเทียบกับคู่แข่งบางรุ่นอาจขาดฟีเจอร์เทคโนโลยีไปบ้าง สำหรับสภาพอากาศร้อนชื้นของไทย แนะนำให้ตรวจสอบระบบแอร์เป็นประจำเพื่อประสิทธิภาพการทำความเย็น และเนื่องจากถนนไทยค่อนข้างหลากหลายควรระวังเรื่องการป้องกันช่วงล่าง ส่วนเรื่องค่าขายต่อรถฮอนด้าแจ๊สถือว่าคงตัวดี มีศูนย์บริการครอบคลุมทั่วประเทศ สำหรับครอบครัวที่มีงบประมาณประมาณ 6-8 แสนบาทนับเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ แต่ก่อนซื้อแนะนำให้ลองเปรียบเทียบกับรุ่นอื่นๆ ในระดับเดียวกันและลองทดลองขับดูให้เหมาะกับความต้องการจริงๆ ของคุณ

ข้อดี

มีลักษณะทางการเคลื่อนไหวที่เหมาะสมสำหรับคนรุ่นใหม่
ราคาขายมีความทนทาน, ค่าซ่อมบำรุงไม่สูง
ประหยัดน้ำมัน

ข้อเสีย

กำลังการขับขี่ค่อนข้างอ่อนและไม่เสถียร โดยเฉพาะในการขับขี่ความเร็วสูง
การควบคุมทั่วไปเท่านั้น ความรู้สึกทั้งหมดของชั้นล่างไม่ค่อยแข็งแรง

Q&A ล่าสุด

Q
ปีสุดท้ายของ Alfa Romeo 4C คือปีใด?
Alfa Romeo 4C ยุติการผลิตในปี 2020 แต่ยังคงเป็นรถสปอร์ตคูเป้น้ำหนักเบาที่ได้รับความนิยมทั่วโลก ด้วยดีไซน์อิตาเลียนอันเป็นเอกลักษณ์และสมรรถนะการขับขี่ที่ยอดเยี่ยม โดยเฉพาะในประเทศร้อนชื้นอย่างไทย โครงสร้างตัวถังคาร์บอนไฟเบอร์โมโนค็อกและแชสซีอลูมิเนียมไม่เพียงให้ความแข็งแกร่งเหนือระดับ แต่ยังช่วยรับมือกับสภาพอากาศร้อนชื้นได้เป็นอย่างดี เครื่องยนต์เทอร์โบ 1.75 ลิตร ให้กำลัง 240 แรงม้า คู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีดแบบ DCT ที่ตอบสนองฉับไว เหมาะสมทั้งกับการขับขี่ในเส้นทางภูเขาและในเมืองของไทย แม้จะเลิกผลิตไปแล้ว แต่ 4C ยังเป็นที่ต้องการในตลาดมือสอง โดยเฉพาะสำหรับคนไทยที่ชื่นชอบความสนุกในการขับและดีไซน์เฉพาะตัว แบรนด์ Alfa Romeo ในไทยอาจไม่ใหญ่โต แต่ด้วยสไตล์อิตาเลียนและสมรรถนะโดดเด่น ก็ยังมีแฟนพันธุ์แท้ที่ซื่อสัตย์ และในอนาคตอาจมีโมเดลใหม่ๆ เข้ามาตอบโจทย์ความต้องการของตลาดไทยมากขึ้น
Q
Alfa 4C เป็นระบบเกียร์ธรรมดาหรือไม่?
Alfa Romeo 4C มีรุ่นเกียร์ธรรมดาให้เลือกจริงๆ รถคันนี้ขึ้นชื่อเรื่องการออกแบบน้ำหนักเบาและความสนุกในการขับขี่ เหมาะมากกับถนนเขียวชอุ่มและทางคดเคี้ยวในเมืองไทย แม้ว่าตลาดไทยจะเน้นรุ่นเกียร์ออโต้เป็นหลัก แต่ 4C แบบเกียร์มือถือจะตอบโจทย์คนรักรถที่ต้องการประสบการณ์ขับขี่แบบจัดเต็มมากกว่า ตัวรถใช้โครงสร้างคาร์บอนไฟเบอร์โมโนค็อกและการขับเคลื่อนแบบกลางลำตัว-ส่งกำลังหลัง ด้านสมรรถนะมาพร้อมเครื่องยนต์เทอร์โบ 1.75 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 240 แรงม้า เมื่อจับคู่กับเกียร์ธรรมดาจะช่วยดึงศักยภาพของรถออกมาได้เต็มที่ ในสภาพอากาศร้อนๆ แบบเมืองไทย แนะนำให้เจ้าของรถดูแลเรื่องระบบระบายความร้อนของเครื่องยนต์เป็นพิเศษ รวมถึงเปลี่ยนน้ำมันเกียร์อย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้รถอยู่ในสภาพพร้อมขับขี่ตลอดเวลา สำหรับคนไทยที่ชอบความมันส์ในการควบคุมพวงมาลัย 4C รุ่นเกียร์ธรรมดานี่ถือเป็นตัวเลือกที่น่าจับตามอง ทั้งสนุกไปกับการขับขี่และได้สัมผัสเสน่ห์เฉพาะตัวของรถสปอร์ตอิตาเลียนแท้ๆ
Q
ราคา Alfa 4C อยู่ที่เท่าไหร่?
ราคาของ Alfa Romeo 4C ในตลาดไทยจะมีความแตกต่างกันไปตามสเปกและนโยบายของตัวแทนจำหน่าย โดยราคาประมาณใหม่จะอยู่ที่ 3.5 ถึง 4.5 ล้านบาท ขึ้นอยู่กับอุปกรณ์เสริมและภาษีต่างๆ รถคันนี้โดดเด่นด้วยโครงสร้างคาร์บอนไฟเบอร์น้ำหนักเบาและการออกแบบคลาสสิกสไตล์อิตาลี เหมาะมากสำหรับคนไทยที่ชอบความสนุกในการขับขี่ แต่ในสภาพอากาศร้อนของไทยควรระวังเรื่องระบบระบายความร้อนของเครื่องยนต์กลางที่อาจมีผลด้วย เนื่องจากปัจจุบัน 4C หยุดผลิตแล้ว ตลาดไทยจึงมีแต่รถมือสองเป็นส่วนใหญ่ โดยรถสภาพดีจะราคาประมาณ 2.5 ถึง 3.5 ล้านบาท เวลาซื้อควรตรวจสอบประวัติการดูแลรักษาและสภาพช่วงล่างให้ดี ต้องบอกว่า 4C ในไทยถือเป็นรถเฉพาะกลุ่มจริงๆ การซ่อมบำรุงแนะนำให้ใช้บริการเฉพาะที่อู่ที่ได้รับการรับรองจาก Alfa Romeo เท่านั้น ถึงแม้ว่าอะไหล่อาจต้องรอนานหน่อย แต่ด้วยประสบการณ์การขับที่แตกต่างและความสวยระดับหันหลังมองทำให้รถคันนี้ยังเป็นที่นิยมในวงการคนรักรถไทยอยู่ดี
Q
รถ 4C มีระบบพวงมาลัยพาวเวอร์หรือไม่?
เกี่ยวกับคำถามที่ว่าการขับขี่ของ Alfa Romeo 4C มีระบบพวงมาลัยเพาเวอร์หรือไม่นั้น จริงๆ แล้วรุ่นนี้ออกแบบมาเป็นระบบพวงมาลัยแบบไม่มีพาวเวอร์ (unassisted steering) เพื่อเน้นความรู้สึกในการขับที่สมจริงและลดน้ำหนักรถ โดยเฉพาะเมื่อขับบนถนนโค้งในไทยหรือบนสนามแข่งจะให้ความรู้สึกต่อถนนที่ตรงไปตรงมา แต่พอขับในเมืองหรือตอนจอดรถความเร็วตํ่าอาจจะรู้สึกหนักมือหน่อยนะครับ ในสภาพอากาศร้อนของไทยแนะนำให้ระวังเรื่องลมยางด้วยเพราะมันส่งผลต่อความรู้สึกพวงมาลัยพอสมควร ปัจจุบันรถทั่วไปอย่างโตโยต้า ยาริส หรือรถรุ่นอื่นๆ ในไทยมักใช้ระบบพวงมาลัยเพาเวอร์แบบไฟฟ้า (EPS) ที่ปรับแรงช่วยตามความเร็วรถ ทำให้ขับความเร็วตํ่าก็เบา สูงก็มั่นคง ถ้าสนใจรถสปอร์ตอาจลองดูรุ่นอย่างพอร์เช่ 718 ที่มีเทคโนโลยีอัตราทดพวงมาลัยแปรผัน (variable ratio steering) ซึ่งช่วยให้ควบคุมรถได้แม่นยำขึ้น แนะนำให้ลองขับเปรียบเทียบระบบพวงมาลัยแต่ละแบบด้วยตัวเองก่อนตัดสินใจซื้อ
Q
รถ Alfa Romeo 4C มีเครื่องปรับอากาศหรือไม่?
Alfa Romeo 4C นั้นมีการติดตั้งระบบแอร์ แม้ว่ารถคันนี้จะออกแบบมาเพื่อความเบาและสมรรถนะสปอร์ตเป็นหลัก แต่ในสภาพอากาศร้อนของไทย แอร์ถือเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ ดังนั้นผู้ผลิตจึงยังคงรักษาความสบายส่วนนี้ไว้โดยไม่เพิ่มน้ำหนักตัวรถเกินจำเป็น สำหรับผู้บริโภคไทยแล้ว ระบบแอร์ของ Alfa Romeo 4C นั้นทำงานได้มีประสิทธิภาพแม้อากาศร้อนจัด สามารถลดอุณหภูมิภายในรถได้เร็ว และการควบคุมแบบมือยังคงสอดคล้องกับแนวคิดรถสปอร์ตที่เน้นความสนุกในการขับขี่ ที่น่าสนใจคือสภาพอากาศร้อนชื้นของไทยนั้นท้าทายความทนทานของระบบแอร์เป็นพิเศษ แต่ระบบแอร์ของ 4C ออกแบบมาโดยใช้วัสดุทนความร้อนและคอมเพรสเซอร์ประสิทธิภาพสูง ทำให้เหมาะกับสภาพภูมิอากาศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แม้ว่ารถรุ่นนี้จะเน้นประสบการณ์การขับขี่เป็นหลัก แต่ก็ยังให้ความสบายพื้นฐานในชีวิตประจำวัน ซึ่งสำคัญมากสำหรับผู้ใช้ที่ต้องเผชิญกับการจราจรติดขัดในกรุงเทพฯ นอกจากนี้รถสปอร์ตในตลาดไทยที่คล้ายคลึงกันก็มักจะยังคงรักษาระบบแอร์ไว้เพื่อตอบสนองความต้องการด้านความเป็นประโยชน์ของผู้บริโภคท้องถิ่น
ดูเพิ่มเติม