Q
วิธีการเชื่อมต่อบลูทูธกับซูบารุฟอร์เรสเตอร์
ขั้นตอนการเชื่อมต่อบลูทูธสำหรับรถยนต์ซูบารุ ฟอเรสเตอร์ที่ใช้งานในประเทศไทย มีดังนี้ ก่อนอื่นให้สตาร์ทรถและตรวจสอบว่าหน้าจอกลางเปิดอยู่ จากนั้นเข้าไปที่เมนูการตั้งค่าระบบแล้วเลือก "บลูทูธ" พร้อมกับเปิดฟังก์ชันบลูทูธบนโทรศัพท์และตั้งค่าให้อยู่ในโหมดที่สามารถค้นพบได้ ในตอนนี้หน้าจอรถจะแสดงรายการอุปกรณ์ที่ใช้งานได้ ให้เลือกชื่อโทรศัพท์ของคุณและทำตามคำแนะนำเพื่อกรอกรหัสการจับคู่ (ปกติจะเป็น 0000 หรือ 1234) เมื่อเชื่อมต่อสำเร็จแล้วก็สามารถเปิดเพลงหรือรับโทรศัพท์ผ่านระบบเสียงของรถได้ ข้อควรระวังคือรถฟอเรสเตอร์บางรุ่นอาจต้องกดปุ่มโทรศัพท์บนพวงมาลัยหรือใช้คำสั่งเสียงเพื่อเปิดใช้งานบลูทูธ ถ้าเจอปัญหาการเชื่อมต่อลองรีสตาร์ทระบบหรือลบประวัติการจับคู่เก่าแล้วลองใหม่ ในสภาพอากาศร้อนชื้นของประเทศไทยแนะนำให้ตรวจสอบเวอร์ชันซอฟต์แวร์ระบบอิเล็กทรอนิกส์ของรถเป็นประจำ สามารถอัปเกรดเฟิร์มแวร์ล่าสุดได้ที่ตัวแทนจำหน่ายซูบารุเพื่อความเสถียรของบลูทูธ นอกจากนี้ผู้ใช้งานในประเทศไทยต้องตรวจสอบว่าโทรศัพท์รองรับระบบมัลติมีเดียของรถหรือไม่ เช่น โทรศัพท์รุ่นอินเตอร์เนชันแนลบางรุ่นอาจต้องปรับตั้งค่า APN ใหม่ บลูทูธไม่ใช่แค่สำหรับส่งสัญญาณเสียงเท่านั้น แต่ในรุ่นสูงๆยังสนับสนุนการซิงค์สมุดโทรศัพท์และฟังก์ชันควบคุมด้วยเสียง ซึ่งช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่บนถนนติดขัดในกรุงเทพฯ หากต้องการฟังก์ชันขั้นสูงเช่น Apple CarPlay หรือ Android Auto สามารถสอบถามตัวแทนจำหน่ายในพื้นที่ว่าต้องติดตั้งโมดูลเพิ่มเติมหรือไม่
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto
Q&A เกี่ยวข้อง
Q
อันไหนใหญ่กว่า subaru forester หรือ outback
ในตลาดประเทศไทย Subaru Forester และ Outback เป็น SUV ที่ได้รับความนิยมมากทั้งคู่ แต่ถ้าพูดถึงขนาดแล้ว Outback จะใหญ่กว่า Forester นิดหน่อย โดยตัวถังและระยะฐานล้อของ Outback ยาวกว่าเล็กน้อย ทำให้มีพื้นที่ภายในกว้างขวางกว่า โดยเฉพาะช่วงขาหลังและกระโปรงท้ายที่บรรจุของได้มากขึ้น เหมาะสำหรับครอบครัวที่ต้องเดินทางไกลหรือต้องการพื้นที่เก็บสัมภาระ ในขณะที่ Forester จะสูงกว่าด้านส่วนหัว ทำให้มีพื้นที่เหนือศีรษะมากกว่าและมุมมองการขับขี่ดีกว่า เหมาะกับการใช้งานในเมืองหรือเส้นทางขรุขระ ส่วนระบบขับเคลื่อนทั้งคู่มาพร้อม Symmetrical AWD และเครื่องยนต์ Boxer แบบราบที่ให้การควบคุมและความปลอดภัยสูง เหมาะกับสภาพถนนเปียกและภูมิประเทศแบบภูเขาในไทย นอกจากนี้ Outback ยังมีระยะความกว้างจากพื้นสูงกว่า ทำให้ผ่านถนนลูกรังได้ดี ในขณะที่ Forester ขนาดกะทัดรัดกว่า ขับง่ายในซอยแคบๆ แบบกรุงเทพฯ ลูกค้าสามารถเลือกได้ตามความต้องการ เช่น จำนวนผู้โดยสาร สัมภาระที่ต้องขน หรือสภาพถนนที่ใช้งานเป็นหลัก ส่วนบริการหลังการขายทั้งสองรุ่นในไทยก็พร้อมให้บริการทั่วถึง
Q
ระยะเวลาที่เบรกของซูบารุฟอร์สเตอร์ใช้งานได้นานเท่าไหร่
อายุการใช้งานของระบบเบรกในรถซูบารุ ฟอเรสเตอร์นั้นขึ้นอยู่กับนิสัยการขับขี่ สภาพถนน และการดูแลรักษาตามระยะ โดยเฉพาะในประเทศไทยที่อากาศร้อนชื้นและรถติดบ่อย แนะนำให้ตรวจสอบความหนาของผ้าเบรกทุก 30,000-40,000 กิโลเมตร หรือทุก 2 ปี ถ้าผ้าเบรกบางกว่า 3 มิลลิเมตรควรเปลี่ยนทันที ส่วนจานเบรกปกติจะอยู่ได้ประมาณ 60,000-80,000 กิโลเมตร ช่วงฤดูฝนต้องระวังเป็นพิเศษเพราะความชื้นจะทำให้จานเบรกเป็นสนิมและผ้าเบรกสึกเร็วขึ้น การขับบนทางเขาภูเขาที่ต้องเหยียบเบรกบ่อยๆก็ทำให้อายุการใช้งานสั้นลงด้วย สัญญาณเตือนว่าใกล้ถึงเวลาต้องเปลี่ยนผ้าเบรกได้แก่ เสียงโลหะเสียดสี ระยะเบรกยาวขึ้น หรือไฟเตือนบนหน้าปัด ควรใช้ของแท้จากศูนย์เพื่อให้เข้ากับระบบ ABS ของรถ ระบบเบรกทุกคันคืออะไหล่สิ้นเปลืองทั้งนั้น การทำความสะอาดฝุ่นผ้าเบรกและไม่จอดรถทิ้งไว้หลังล้างรถจะช่วยยืดอายุอะไหล่ได้ ถ้าคุณขับบ่อยๆบนทางลาดชันในกรุงเทพหรือทางเขาสูงในเชียงใหม่ อาจต้องลดระยะการตรวจเช็คให้ถี่ขึ้นอีก 20% จากปกติ
Q
สุบารุฟอเรสเตอร์กว้างเท่าใด
รถ SUV Subaru Forester ที่วางจำหน่ายในตลาดไทยมีขนาดความกว้างตัวถังอยู่ที่ 1,815 มิลลิเมตร ซึ่งจัดว่าเป็นขนาดกลางที่ค่อนข้างกว้างขวางในกลุ่มรถ SUV ประเภทนี้ ความกว้างระดับนี้ช่วยให้ผู้โดยสารนั่งได้อย่างสบาย พร้อมทั้งยังให้ความมั่นคงบนถนนได้ดีเยี่ยม สำหรับสภาพการขับขี่ในไทยที่ต้องเผชิญทั้งถนนในเมืองและเส้นทางชนบท ความกว้างตัวถังขนาดนี้ถือว่าคุ้มค่า เพราะนอกจากจะให้พื้นที่ภายในเพียงพอสำหรับผู้โดยสาร 5 คนแบบไม่เบียดกันแล้ว ยังไม่กว้างเกินไปจนทำให้ขับในเมืองอย่างกรุงเทพฯ ที่การจราจรหนาแน่นได้ลำบาก อย่างไรก็ตาม ความกว้างตัวถังมีผลต่อความสะดวกในการขับในซอยแคบๆ ดังนั้นผู้บริโภคไทยควรพิจารณาจากเส้นทางที่ใช้ประจำด้วย ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อสมมาตรของฟอเรสเตอร์ทำงานได้ดีบนถนนลื่นช่วงฤดูฝนของไทย ส่วนระยะความสูงจากพื้น 220 มิลลิเมตรก็เหมาะกับถนนลูกรังบางสายในประเทศ หากเปรียบเทียบกับรถ SUV ญี่ปุ่นรุ่นเดียวกันอย่าง Honda CR-V ที่มีความกว้าง 1,855 มม. และ Toyota RAV4 ที่ 1,854 มม. ฟอเรสเตอร์ถือว่ามีขนาดตัวถังที่กะทัดรัดกว่า แต่ด้วยการออกแบบห้องโดยสารที่เหมาะสม ทำให้มีพื้นที่ใช้สอยภายในใกล้เคียงกัน
Q
วิธีเปิดระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ subaru forester
เวลาขับรถ Subaru Forester ในประเทศไทย ถ้าต้องการใช้งานระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ Symmetrical AWD โดยปกติแล้วสามารถปรับได้ที่ปุ่มเลือกโหมดขับขี่บนคอนโซลกลาง ตำแหน่งอาจแตกต่างกันไปตามรุ่นและปีของรถ สำหรับรุ่นใหม่ๆ อาจมีฟังก์ชัน X-MODE ซึ่งปุ่มจะอยู่แถวๆ เกียร์ ระบบนี้จะช่วยปรับการกระจายกำลังไปยังล้อทั้งสี่ให้เหมาะสมอัตโนมัติ พร้อมทั้งมีระบบช่วยลงทางลาดชัน เหมาะมากๆ สำหรับขับในพื้นที่ภูเขาทางภาคเหนือของไทยหรือเวลาถนนลื่นช่วงฤดูฝน ต้องบอกเลยว่า Forester ออกแบบมาให้ระบบสี่ล้อทำงานแบบเต็มเวลาอยู่แล้ว แต่ X-MODE จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในสภาพถนนที่เกาะยางไม่ดีเป็นพิเศษ แนะนำให้ปิดโหมดนี้เวลาขับบนถนนปกติเพื่อประหยัดน้ำมัน ส่วนเจ้าของรถในไทยควรตรวจสอบสภาพน้ำมันดิฟเฟอเรนเชียลเป็นประจำ เพราะอากาศร้อนชื้นของเราอาจทำให้น้ำมันเสื่อมสภาพเร็ว และช่วงน้ำท่วมต้องระวังไม่ขับลุยน้ำลึกเกิน 500mm เด็ดขาด เดี๋ยวจะเสียชิ้นส่วนระบบส่งกำลังเข้าไป ถ้ารุ่นของคุณมีระบบ SI-DRIVE การเลือกโหมด "SPORT" จะช่วยเปลี่ยนการตอบสนองของเครื่องยนต์ แต่ไม่ได้ส่งผลต่อการทำงานพื้นฐานของระบบสี่ล้อนะจ๊ะ
Q
ราคาของซูบารุฟอร์เรสเตอร์เท่าไหร่
ราคารถ Subaru Forester ในตลาดประเทศไทยจะแตกต่างกันไปตามรุ่นและอุปกรณ์ โดยปัจจุบันราคาอยู่ที่ประมาณ 1.4 - 1.8 ล้านบาท แต่แนะนำให้สอบถามตัวแทนจำหน่ายในพื้นที่เพื่อขอราคาที่อัปเดตที่สุด Forester เป็น SUV ที่เน้นระบบขับเคลื่อนสี่ล้อเต็มเวลากับความประหยัดพื้นที่ เหมาะสมกับสภาพอากาศฝนตกบ่อยและเส้นทาง複雜ของไทย นอกจากนี้ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ EyeSight ที่มาพร้อมมาตรฐานยังช่วยเพิ่มความปลอดภัย ผู้บริโภคไทยควรทราบว่าภาษีนำเข้ารถอาจส่งผลต่อราคาสุดท้าย และแม้เครื่องยนต์แบบ Boxer ของซูบารุจะช่วยลดจุดศูนย์ถ่วงและเพิ่มความคล่องตัว แต่ค่าซ่อมอาจสูงกว่าเครื่องยนต์แบบทั่วไปเล็กน้อย ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาตลาด EV ในไทยเติบโตเร็ว แต่ Forester ยังคงเป็นรุ่นน้ำมันเป็นหลัก หากสนใจรุ่นไฮบริดควรตรวจสอบว่ามีจำหน่ายในไทยหรือไม่ ก่อนตัดสินใจซื้อแนะนำให้เปรียบเทียบกับ SUV ญี่ปุ่นรุ่นเดียวกันอย่าง Toyota RAV4 หรือ Honda CR-V และควรทดลองขับเพื่อสัมผัสพื้นที่ภายในและความรู้สึกในการขับขี่ตามความต้องการส่วนตัว
Q
Subaru Forester มีความสามารถในการลากภาระเท่าไหร่
สมรรถนะการลากจูงของรถซูบารุ ฟอเรสเตอร์ (Subaru Forester) ในประเทศไทยจะขึ้นอยู่กับรุ่นและการกำหนดสเปค โดยทั่วไปรุ่นที่ติดตั้งเครื่องยนต์แบบบ็อกเซอร์ 2.0 ลิตร หรือ 2.5 ลิตร จะมีความสามารถลากจูงสูงสุดที่ประมาณ 1,500 กิโลกรัม เหมาะสำหรับการลากเรือยอชท์ขนาดเล็ก รถพ่วงกางเต็นท์ หรือสัมภาระน้ำหนักเบา ซึ่งตอบโจทย์การใช้งานของครอบครัวไทยสำหรับการท่องเที่ยวหรือกิจกรรมกลางแจ้งได้เป็นอย่างดี อย่างไรก็ตาม ในการลากจูงจริงควรตรวจสอบให้มั่นใจว่ารถมีอุปกรณ์เกี่ยวพ่วงและระบบระบายความร้อนมาตรฐานจากโรงงาน พร้อมทั้งปฏิบัติตามกฎหมายจราจรไทยที่กำหนดเกี่ยวกับน้ำหนักรถพ่วงและความเร็ว (เช่น บนทางหลวงไม่เกิน 90 กม./ชม.) สำหรับสภาพ地形ที่เป็นภูเขาและอากาศร้อนของไทย แนะนำให้ตรวจสอบอุณหภูมิน้ำมันเกียร์เป็นประจำ และหลีกเลี่ยงการขับขี่แบบรับน้ำหนักเต็มที่ต่อเนื่องเป็นเวลานาน เมื่อเทียบกับรถ SUV รุ่นเดียวกันจากญี่ปุ่นอย่าง Toyota RAV4 หรือ Honda CR-V แล้ว ฟอเรสเตอร์มีความสามารถลากจูงใกล้เคียงกัน แต่ด้วยระบบขับเคลื่อนสี่ล้อสมมาตร (Symmetrical AWD) และโหมด X-MODE ทำให้มีความเสถียรภาพโดดเด่นกว่าเมื่อต้องลากจูงบนถนนลื่นหรือทางออฟโรดเบาๆ หากมีความจำเป็นต้องลากของหนักบ่อยครั้ง อาจพิจารณาอัพเกรดระบบระบายความร้อนเกียร์เพิ่มเติม หรือเลือกรุ่นเครื่องยนต์ดีเซลที่ปรับสเปคเฉพาะตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (หากมีจำหน่าย)
Q
ประเภทของน้ำมันที่สุบารุฟอเรสเตอร์ใช้คืออะไร
สำหรับรถ Subaru Forester ที่ใช้งานในประเทศไทย แนะนำให้ใช้น้ำมันเครื่องประเภท Synthetic แบบเต็มตัวที่ได้มาตรฐาน API SN หรือ SP โดยความหนืดที่เหมาะสมคือ 0W-20 หรือ 5W-30 ขึ้นอยู่กับปีที่ผลิตและรุ่นเครื่องยนต์ของรถ ในสภาพอากาศร้อนของไทยอาจเลือกใช้ความหนืด 5W-30 ที่มีความเสถียรในอุณหภูมิสูงกว่าได้ เครื่องยนต์แบบ BOXER แนวนอนของซูบารุต้องการน้ำมันเครื่องที่มีคุณสมบัติทำความสะอาดและป้องกันการสึกหรอที่ดีเป็นพิเศษ ควรเลือกน้ำมันเครื่องที่มีการรับรองมาตรฐาน "A5/B5" หรือ "C2" ซึ่งเป็นแบบ Low Ash เพื่อช่วยปกป้องระบบบำบัดไอเสีย
เวลาบำรุงรักษาในประเทศไทย สามารถตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมจากคู่มือเจ้าของรถในเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของซูบารุประเทศไทยหรือปรึกษาผู้จำหน่ายที่ได้รับอนุญาต หากอยู่ในพื้นที่ห่างไกลที่หาซื้อน้ำมันเครื่องต้นฉบับยาก อาจเลือกใช้แบรนด์อื่นที่ได้มาตรฐานสากลเทียบเท่า เช่น Shell, Mobil เป็นต้น
ข้อควรระวังคือในบางพื้นที่สูงของไทยอย่างเชียงใหม่ที่มีอุณหภูมิเปลี่ยนแปลงระหว่างวันและคืนมาก หากขับบ่อยในเส้นทางภูเขาแนะนำให้เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องบ่อยขึ้นเป็นทุก 10,000 กม. หรือทุก 6 เดือน สำหรับรุ่น Turbo ต้องใส่ใจเป็นพิเศษเกี่ยวกับคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระในอุณหภูมิสูงของน้ำมันเครื่อง เพื่อป้องกันความเสียหายของลูกปืนเทอร์โบจากน้ำมันเครื่องเสื่อมสภาพ
Q
อะไรคือรุ่น Subaru Forester ที่ดีที่สุด
ในตลาดไทย รุ่นที่เหมาะสมที่สุดของ Subaru Forester ขึ้นอยู่กับความต้องการในการใช้งาน แต่ถ้าพูดถึงประสิทธิภาพและการปรับตัวที่ครบเครื่องแล้วต้องยกให้ Forester e-Boxer Hybrid รุ่นปี 2023 ที่มาพร้อมระบบไฮบริดผสมระหว่างเครื่องยนต์แบบราบ 2.0 ลิตรกับมอเตอร์ไฟฟ้า ช่วยประหยัดน้ำมันและลดการปล่อยมลพิษ เหมาะกับสภาพการจราจรติดขัดในเมืองไทยและเทรนด์รักษ์สิ่งแวดล้อม แถมยังติดตั้งระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ Symmetrical AWD และระบบ X-Mode มาให้แบบมาตรฐาน ทำให้การขับเคลื่อนบนถนนลื่นช่วงฤดูฝนหรือเส้นทางภูเขาทางเหนือเป็นเรื่องง่าย ส่วนระบบความปลอดภัย EyeSight ที่มีทั้งควบคุมความเร็วอัตโนมัติและเบรกป้องกันการชน ช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับการขับขี่ในสภาพการจราจรที่ค่อนข้างวุ่นวายของไทย
ถ้าชอบรุ่นเครื่องยนต์เบนซินล้วน แนะนำ Forester 2.0i-S Eyesight รุ่นปี 2022 ที่คุ้มค่าด้วยราคาและเทคโนโลยีที่ผ่านการทดสอบมาแล้ว นอกจากนี้ยังมีระยะความสูงจากพื้น 220 มม. ที่ช่วยให้ขับผ่านถนนลูกรังในต่างจังหวัดได้สบายๆ แต่ต้องบอกก่อนว่าสภาพอากาศร้อนๆ ของไทยอาจส่งผลต่อระบบระบายความร้อนของแบตเตอรี่ แต่ Subaru ออกแบบระบบไฮบริดให้รองรับสภาพอากาศแบบนี้ได้ แถมยังมีประกันจากตัวแทนจำหน่ายให้ 5 ปีหรือ 100,000 กม. ช่วยลดความกังวลเรื่องการดูแลรักษา
แนะนำให้แวะไปทดลองขับที่โชว์รูมอย่างเป็นทางการในกรุงเทพหรือเชียงใหม่ก่อนตัดสินใจ แล้วอย่าลืมเช็คโปรโมชั่นในเว็บไซต์ Subaru ประเทศไทย เพราะบางรุ่นอาจมีบริการฟรีค่าบำรุงรักษาหรือส่วนลดประกันให้ด้วยนะ
Q
Subaru Forester ควรใช้ยางตระกูลใดดี
สำหรับสภาพถนนและอากาศของประเทศไทย เราขอแนะนำให้ใช้ยางรถยนต์แบบออลซีซั่นหรือออลเทอร์เรนสำหรับรถซูบารุ ฟอเรสเตอร์ เพราะยางประเภทนี้จะช่วยให้การยึดเกาะถนนดีทั้งในวันที่路面เปียกและแห้ง เหมาะกับทั้งฤดูฝนและอากาศร้อนของไทย ยางที่แนะนำก็เช่น ไมชลิน พรีมาซี 4 หรือบริจestone ดูเอเลอร์ เอชพี สปอร์ต ที่ให้ทั้งความนุ่มสบายและทนทาน นอกจากนี้ถนนในไทยมีทั้งทางลาดชันและทาง off-road บ้าง เราควรเลือกยางสำหรับ SUV ที่มีดอกยางลึกเพื่อช่วยในการระบายน้ำและเพิ่มความคล่องตัว ถ้าต้องขับขึ้นเหนือบ่อยๆ อาจพิจารณายางออฟโรดแบบเบา แต่จะเสียความสบายบนถนนปกติไปบ้าง อย่าลืมเลือกขนาดยางตามที่คู่มือรถแนะนำ เช่น 215/65R16 หรือ 225/55R18 และควรตรวจสอบลมยางเป็นประจำ เพราะอากาศร้อนของไทยทำให้ความดันลมยางเพิ่มขึ้น แนะนำให้ตรวจเดือนละครั้ง ส่วนกฎหมายไทยกำหนดว่าดอกยางต้องไม่ต่ำกว่า 1.6 มม. แต่เพื่อความปลอดภัยควรเปลี่ยนเมื่อเหลือประมาณ 3 มม. เวลาเลือกซื้อยางก็ดูวันที่ผลิตด้วย อย่าใช้ยางที่เก็บมานานเกิน 2 ปี เพราะยางจะเสื่อมสภาพตามเวลา
Q
Subaru Forester มีกี่ที่นั่ง?
Subaru Forester เป็น SUV ที่คนไทยนิยมมาก โครงสร้างมาตรฐานเป็นแบบ 5 ที่นั่ง แต่สามารถพับเบาะหลังได้เพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระ เหมาะสำหรับครอบครัวหรือการขนของชิ้นใหญ่ ด้วยสภาพอากาศไทยที่ทั้งร้อนและฝนชุก ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบเต็มเวลาพร้อมความสูงจากพื้น 220 มม. ทำให้ Forester เอาอยู่ทั้งทางเขาสูงและถนนช่วงฤดูฝน ส่วนเครื่องยนต์แบบราบระดับก็ช่วยเพิ่มความมั่นคงในการเข้าโค้ง แถมรุ่นไทยยังมักมาพร้อมระบบแอร์อัตโนมัติ 2 โซนและช่องลมเย็นสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง ช่วยบรรเทาความอึดอัดในวันที่อากาศร้อนจัด ถ้าต้องการรถแบบ 7 ที่นั่ง อาจมองทางเลือกอื่นอย่าง Toyota Fortuner หรือ Mitsubishi Pajero Sport แต่ขนาดกะทัดรัดของฟอเรสเตอร์ทำให้ขับง่ายในซอยแคบๆ แบบกรุงเทพ ส่วนบริการหลังการขายในไทยนั้น ฟอเรสเตอร์มักได้ประกัน 5 ปีหรือ 100,000 กม. และสกูบารุก็มีเครือข่ายผู้จำหน่ายทั่วประเทศ คอยดูแลเรื่องการบำรุงรักษาให้คุณได้
Q&A ล่าสุด
Q
"Toyota Hiace 2020 มีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเท่าไหร่"
ค่าใช้จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงของ Toyota HiAce รุ่นปี 2020 ไม่ได้เป็นค่าที่ตายตัว เนื่องจากได้รับอิทธิพลจากปัจจัยต่างๆ เช่น พฤติกรรมการขับขี่ สภาพถนน และน้ำหนักบรรทุกของรถ เป็นต้น ภายใต้สภาวะการขับขี่ปกติ อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงรวมต่อระยะทาง 100 กิโลเมตรจะอยู่ที่ประมาณ 7-15 ลิตร โดยรุ่นที่มีจำนวนที่นั่งต่างกันจะมีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่แตกต่างกัน เช่น รุ่น 13 ที่นั่ง มีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงประมาณ 12-15 ลิตร/100 กม. ส่วนรุ่น 9 ที่นั่งแบบเบนซิน มีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเพียงประมาณ 8 ลิตร/100 กม. หากมีการขับขี่ที่ราบรื่น หลีกเลี่ยงการเร่งหรือเบรกกระทันหัน เปลี่ยนเกียร์อย่างเหมาะสม และสภาพถนนดี น้ำหนักบรรทุกน้อย อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงจะต่ำลง ในทางตรงกันข้าม หากมีการขับขี่ที่รุนแรง ถนนติดขัด หรือรถบรรทุกหนัก จะทำให้อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้น อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงในสภาวะการทำงานรวมที่ Toyota ประกาศอย่างเป็นทางการอยู่ที่ประมาณ 5 ลิตร/100 กิโลเมตร ซึ่งสามารถใช้เป็นข้อมูลอ้างอิงได้ แต่ในความเป็นจริงอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงจะขึ้นอยู่กับสภาพการขับขี่ที่เฉพาะเจาะจง
Q
Toyota Hiace 2020 มีทั้งหมดกี่ที่นั่ง?
รถ Toyota Hiace รุ่น 2020 มีหลายแบบการจัดวางที่นั่งให้เลือก จำนวนที่นั่งที่พบบ่อยมี 6 ที่นั่ง 7 ที่นั่ง 8 ที่นั่ง 9 ที่นั่ง และ 13 ที่นั่ง รุ่นที่นั่งแตกต่างกันสามารถตอบสนองความต้องการในการใช้งานที่แตกต่างกันได้ เช่น รถยนต์แบบ 6 ถึง 9 ที่นั่งมีความยืดหยุ่นค่อนข้างมาก เหมาะสำหรับการเดินทางกับครอบครัวหรือการรับรองทางธุรกิจขนาดเล็ก โดยมีพื้นที่ที่นั่งผู้โดยสารกว้างขวางและสบาย ส่วนรุ่น 13 ที่นั่งจะเหมาะมากกว่าสำหรับการเดินทางเป็นกลุ่ม เช่น การท่องเที่ยวเป็นคณะ หรือการเดินทางของพนักงานบริษัท เป็นต้น สามารถรองรับผู้โดยสารได้จำนวนมากในครั้งเดียว ด้วยตัวเลือกที่นั่งที่หลากหลายนี้ ทำให้ผู้บริโภคสามารถเลือกรุ่น Toyota Hiace ที่เหมาะสมที่สุดตามความต้องการจริงของตนเอง เช่น จำนวนผู้โดยสารในชีวิตประจำวัน หรือสถานการณ์การใช้งานต่าง ๆ
Q
"ความสามารถในการลากจูงของ Toyota Hiace 2020 คือเท่าไหร่?
ในด้านความสามารถในการลากจูงของ Toyota Hiace ปี 2020 โดยทั่วไปรถรุ่นนี้มีความสามารถในการลากจูงอยู่บ้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความสามารถในการลากจูงของมันสามารถทำให้ลากรถพ่วงหรืออุปกรณ์น้ำหนักเบาได้ อย่างไรก็ตาม ค่าความสามารถในการลากจูงที่แน่นอนจะแตกต่างกันไปตามรุ่นย่อยของรถและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยทั่วไป เมื่อเป็นไปตามเงื่อนไขความปลอดภัยและข้อกำหนดแล้ว จะสามารถลากจูงน้ำหนักบรรทุกได้ในระดับหนึ่ง สำหรับรถอเนกประสงค์อย่าง Hiace ความสามารถในการลากจูงทำให้มีประโยชน์ในสถานการณ์การทำงานและกิจกรรมการเดินทางมากขึ้น เช่น ลากจูงรถพ่วงขนาดเล็กสำหรับขนส่งอุปกรณ์งาน หรือลากจูงรถพ่วงแคมป์น้ำหนักเบาสำหรับการเดินทางพักผ่อน แต่เมื่อใช้งานฟังก์ชันการลากจูงจริง ต้องปฏิบัติตามคำแนะนำในคู่มือการใช้รถยนต์และกฎจราจรที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้มั่นใจในความปลอดภัยและการใช้งานที่ถูกต้อง
Q
Toyota Innova Zenix เป็น MPV หรือ SUV?
Zenix เป็นรถประเภท MPV โดยมีตำแหน่งเฉพาะเป็น MPV ขนาดกะทัดรัด ชื่อเต็มของมันคือ Toyota Innova Zenix แม้ว่าจะดูคล้าย SUV จากภายนอก แต่โดยพื้นฐานแล้วยังเป็นรถ MPV รถนี้มีลักษณะเด่นของ MPV เช่น การจัดเรียงที่นั่งแบบ 2+2+3 ที่ให้พื้นที่กว้างขวางสำหรับผู้โดยสาร 7 ที่นั่ง สะดวกต่อการเดินทางของครอบครัว และรถประเภท MPV มักเน้นความสะดวกปฏิบัติและความยืดหยุ่นของพื้นที่ภายใน ซึ่ง Zenix ก็เป็นไปตามลักษณะนี้ ช่วยให้ผู้โดยสารขึ้นลงและบรรทุกสัมภาระได้ง่าย ในด้านราคา Toyota Innova Zenix 2.0 HEV Smart 2023 ราคา 1,379,000 บาท และ Toyota Innova Zenix 2.0 HEV Premium 2023 ราคา 1,479,000 บาท หากคุณสนใจซื้อรถสามารถติดต่อตัวแทนจำหน่ายเพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
Q
รถยนต์ Toyota รุ่นไหนที่ขายดีที่สุดในปี 2023?
ในปี 2023 รุ่นรถ Toyota ที่ขายดีที่สุดในประเทศไทยคือรถกระบะ Hilux Toyota Hilux เป็นที่นิยมอย่างมากในประเทศไทย และมี 6 รุ่นหลัก โดย 5 รุ่นหลังเป็นรุ่น Revo ที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ 2.4T และ 2.8T ส่วนรุ่นพื้นฐานที่สุดคือ Hilux Champ ที่ใช้เครื่องยนต์เบนซินดูดธรรมดาขนาด 2.0 และ 2.7 ลิตร
Toyota เป็นแบรนด์ที่มีสถานะสำคัญในตลาดไทย ด้วยการดำเนินธุรกิจมาอย่างยาวนานทำให้มีชื่อเสียงและฐานลูกค้าที่แข็งแกร่ง สภาพภูมิประเทศและโครงสร้างเศรษฐกิจของประเทศไทยที่มีพื้นที่ชนบทและเขตก่อสร้างจำนวนมาก ส่งผลให้มีความต้องการสูงต่อรถกระบะที่มีความสามารถทั้งในการขนส่งและสัญจร
Hilux เป็นรถที่ทนทาน มีสมรรถนะการขับขี่ที่ดี บำรุงรักษาง่ายและค่าใช้จ่ายไม่สูง สามารถปรับตัวเข้ากับสภาพถนนและอากาศที่หลากหลายของประเทศไทย ตอบสนองความต้องการทั้งภาคธุรกิจและครัวเรือน ไม่ว่าจะเป็นการขนส่งสินค้า งานเกษตรกรรม หรือการเดินทางในชีวิตประจำวัน จึงทำให้เป็นรุ่นรถที่ขายดีที่สุดของ Toyota ในประเทศไทยประจำปี 2023
ดูเพิ่มเติมข่าวที่เกี่ยวข้อง

Subaruเปลี่ยนรูปแบบในประเทศไทยเป็นการขายแบบนำเข้า รุ่นใหม่ของForesterจะเปิดตัวในเดือนตุลาคม
สุรเดชSep 30, 2025

Subaru จดทะเบียนชื่อรุ่นรถยนต์ไฟฟ้าใหม่ ส่อเค้าปรับเกมสู่ยุค EV เต็มตัว
ณัฐวุฒิAug 8, 2025

Uncharted ครอสโอเวอร์ไฟฟ้าคันแรกจาก Subaru ขับเคลื่อนล้อหน้า วิ่งไกล 482 กม.
พงศธรJul 18, 2025

SUBARU REXมีเทคโนโลยีไฮบริดที่เหมือนและแตกต่างจากNissan e-POWERอย่างไรบ้าง?
วิรุฬห์Jun 24, 2025

Subaru Outback ใหม่ปรากฏตัว ลักษณะการออกแบบขายตามสไตล์ของ SUV
ณัฐวุฒิApr 22, 2025
ดูเพิ่มเติม
ข้อดี
ข้อเสีย