Q

รถ Toyota C-HR มือสอง สภาพดีไหม?

รถ Toyota C-HR เป็นรุ่นมือสองที่คุ้มค่าในตลาดไทย ด้วยดีไซน์ที่ทันสมัยและระบบขับเคลื่อนที่เสถียร ทำให้เป็นที่นิยมในกลุ่มคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะการใช้งานในเมืองอย่างกรุงเทพฯ รุ่น Hybrid 1.8L นั้นประหยัดน้ำมันมาก ช่วยลดปัญหาค่าน้ำมันแพงของไทยได้ดี ถ้าพูดถึงเรื่องการขายต่อ โตโยต้าเป็นแบรนด์ที่มูลค่ารถค่อนข้างทรงตัว มีศูนย์บริการทั่วประเทศและอะไหล่ก็หาง่าย นี่คือจุดเด่นของการซื้อ C-HR มือสอง แต่ต้องระวังเรื่องสภาพแบตเตอรี่ Hybrid ให้ดี เพราะเป็นส่วนสำคัญของรถรุ่นนี้ แนะนำว่าควรซื้อจากร้านขายมือสองที่น่าเชื่อถือเพื่อจะได้ประวัติการซ่อมบำรุงและบริการรับประกันที่ครบถ้วน เนื่องจากสภาพอากาศไทยที่ร้อนชื้นอาจส่งผลต่อยางและระบบไฟฟ้าในรถ ควรตรวจสอบระบบแอร์และยางขอบประตูให้ละเอียด โดยรวมแล้วถ้ารถสภาพดีและราคาเหมาะสม C-HR มือสองถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนไทยที่มองหารถใช้งานได้จริงและมีสไตล์ แถมยังช่วยประหยัดงบได้มากเมื่อเทียบกับการซื้อรถใหม่ในระดับเดียวกัน
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto

Q&A เกี่ยวข้อง

Q
Toyota C-HR สามารถใช้งานได้นานแค่ไหน
Toyota C-HR ที่เน้นเรื่องความทนทานในตลาดไทย จะใช้งานได้นานแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับการดูแลรักษาและสภาพการขับขี่เป็นหลัก ถ้าทำตามกำหนดเปลี่ยนน้ำมันเครื่องและไส้กรองอากาศเป็นประจำ พร้อมกับเช็คระยะตามรอบการบำรุงรักษาที่ 10,000 กิโลเมตรหรือทุก 6 เดือน (ตามระยะใดถึงก่อน) รถก็จะใช้งานได้อย่างมั่นใจเกิน 10 ปีขึ้นไป สภาพอากาศร้อนชื้นของไทยอาจส่งผลต่อยางและชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์บ้าง แนะนำให้ตรวจสอบสภาพยาง ระบบแอร์ และระบบไฟฟ้าเป็นพิเศษ ส่วนสภาพถนนบางพื้นที่ในไทยที่ขรุขระ ก็ควรตรวจสอบระบบช่วงล่างและแผ่นป้องกันใต้ท้องรถบ่อยๆ เพื่อยืดอายุการใช้งาน สำหรับรุ่น Hybrid ต้องดูแลเรื่องการระบายความร้อนของแบตเตอรี่และการชาร์จเป็นพิเศษ โดยทั่วไปแบตเตอรี่จะมีอายุการใช้งานประมาณ 8-10 ปี แต่จริงๆ แล้วก็ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการใช้งานของแต่ละคนด้วย ข้อสำคัญอีกอย่างคือรถที่อายุเกิน 7 ปีขึ้นไปจะมีการตรวจสภาพที่เข้มงวดกว่าเดิม การเตรียมงบซ่อมไว้ล่วงหน้าจะช่วยลดค่าใช้จ่ายในระยะยาวได้ ส่วนใครที่คิดจะใช้รถนานๆ การซื้อบริการรับประกันเพิ่มจากศูนย์ก็เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าเหมือนกัน

ข้อดี

ยานพาหนะมาพร้อมอุปกรณ์ความปลอดภัยมากมายเพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสาร
ประสบการณ์ในการขับขี่ที่ยอดเยี่ยม, การออกแบบที่เหมาะสม, ความสนุกสนานในการขับขี่, สามารถท่องทางระยะไกลอย่างสบายได้
ชุดล่างที่เชื่อถือได้, สําหรับการใช้งานในเมือง
มีการรับประกันที่น่าสนใจ, รวมถึงรับประกันระบบไฮบริดและแบตเตอรี่ที่ไม่จํากัดระยะทาง, เพื่อเพิ่มความมั่นใจให้กับลูกค้า
ฟังก์ชันการเชื่อมต่อที่มีในรถเยี่ยม, สามารถเชื่อมต่อได้ถึง 9 อุปกรณ์พร้อมกัน, การติดตั้งภายในรถที่เหมาะสมสําหรับการใช้งานอย่างเต็มที่

ข้อเสีย

พื้นที่ภายในรถมีข้อจำกัด โดยเฉพาะการออกแบบของหน้าต่างด้านหลังที่อัดแน่นพื้นที่ ทำให้บรรยากาศโดยรวมเครียด
ราคาสูงกว่าคู่แข่ง
การซ่อมบำรุงร่างกายและอุปกรณ์อาจยาก การออกแบบร่างกายที่ทันสมัย มีเส้นสายที่ซับซ้อนและอุปกรณ์มากมาย

Q&A ล่าสุด

Q
2023 BMW X1 ผลิตที่ไหน?
รุ่น BMW X1 ปี 2023 นี้ส่วนใหญ่ผลิตที่โรงงานในเมืองเรเกนส์บูร์ก ประเทศเยอรมนี ซึ่งเป็นโรงงานที่มีชื่อเรื่องระบบการผลิตอัตโนมัติระดับสูงและการควบคุมคุณภาพอย่างเข้มงวด ขณะที่บางรุ่นในตลาดอาจมาจากโรงงานร่วมทุน Brilliance BMW ในเมืองเสิ่นหยาง ประเทศจีน ประเทศจีน รุ่นนี้ใช้แพลตฟอร์มขับเคลื่อนล้อหน้า FAAR ที่ช่วยให้ระยะฐานล้อยาวขึ้นและพื้นที่ภายในกว้างขวางกว่าเดิม พิเศษเหมาะกับการขับขี่ในเมืองและการใช้งานในครอบครัว ส่วนรุ่นปลั๊กอินไฮบริด xDrive25e ยังช่วยประหยัดน้ำมันได้ดีขึ้นอีกด้วย สำหรับตลาดไทย ระบบช่วยขับและจอแสดงผล 10.25 นิ้วที่มาพร้อม CarPlay ถือเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน รวมถึงการตั้งค่าสปริงที่ออกแบบมาเพื่อความนุ่มสบายเหมาะกับสภาพการจราจรติดขัดในกรุงเทพฯ ที่น่าสนใจคือ SUV ระดับคอมแพคต์จากแบรนด์หรูมักกระจายการผลิตตามศักยภาพของโรงงานทั่วโลก แต่ทุกแห่งยึดมาตรฐานการผลิตเดียวกัน ดังนั้นไม่ต้องกังวลเรื่องความแตกต่างของคุณภาพ หากกำลังคิดจะซื้อ แนะนำให้ลองนั่งทดสอบพื้นที่ขาเบาะหลังและระบบจอดรถอัตโนมัติ ซึ่งเป็นจุดอัพเกรดที่ใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวัน
Q
ระยะเวลาการใช้งานของ BMW X1 รุ่นปี 2023 อยู่ที่เท่าไหร่?
รุ่น BMW X1 ปี 2023 ภายใต้การบำรุงรักษาและการใช้งานปกติ คาดว่าจะสามารถวิ่งได้มากกว่า 200,000-300,000 กิโลเมตร อายุการใช้งานจริงขึ้นอยู่กับความถี่ในการดูแลรักษา นิสัยการขับขี่ และปัจจัยสภาพแวดล้อมในพื้นที่ เช่น การจราจรติดขัดในเมืองหรือสภาพอากาศร้อนชื้นที่อาจส่งผลให้ชิ้นส่วนรถสึกหรอเร็วขึ้น แนะนำให้ปฏิบัติตามรอบการบำรุงรักษาของทางบริษัทอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะการเปลี่ยนน้ำมันเครื่องและการดูแลระบบระบายความร้อนสำหรับเครื่องยนต์เทอร์โบ เครื่องยนต์ตระกูล B ของรุ่นนี้มีชื่อเรื่องความทนทาน แต่ควรตรวจสอบสภาพแบตเตอรี่ระบบ mild hybrid 48V เป็นประจำ ส่วนแพลตฟอร์มขับเคลื่อนล้อหน้า FAAR ของ X1 ให้ความมั่นใจบนถนนลื่นๆ เหมาะกับการใช้งานในเขตฝนชุก หากใช้งานระยะยาว ควรระวังเรื่องความชื้นกับยางรองช่วงล่างและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ศูนย์บริการในกรุงเทพฯ และพื้นที่ใกล้เคียงมักมีอะไหล่แท้พร้อมให้บริการ ในกลุ่มรถ SUV ระดับหรูที่ได้รับการดูแลดีๆ ส่วนใหญ่สามารถใช้งานได้เกิน 15 ปี สิ่งสำคัญคือต้องใช้อะไหล่แท้และแก้ไขปัญหาย่อยๆ ทันที เพื่อป้องกันไม่ให้ลุกลามเป็นปัญหาใหญ่
Q
2023 BMW X1 มีมูลค่าเท่าไหร่?
ราคาตลาดรถมือสองของ BMW X1 รุ่นปี 2023 ในประเทศไทยมักจะอยู่ที่ 1.5 - 2.2 ล้านบาท ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น รุ่นย่อย ระยะทางที่ใช้งาน สภาพรถ และการรับประกันที่ยังเหลืออยู่ รุ่นท็อปอย่าง xDrive25Li M Sport Package ที่มาพร้อมเครื่องยนต์ 2.0T และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อจะทรงตัวด้านราคาได้ดีกว่า รุ่นนี้เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้ามีระยะฐานล้อที่ยาวขึ้น 22 มิลลิเมตร ทำให้มีพื้นที่เบาะหลังกว้างขวางขึ้น เหมาะสำหรับการใช้งานในครอบครัว แถมยังมาพร้อมกับหน้าจอควบคุมกลางขนาด 10.25 นิ้ว และระบบ iDrive เจเนอเรชั่นที่ 7 เป็นมาตรฐาน ที่รองรับ CarPlay แบบไรสายให้ความรู้สึกด้านเทคโนโลยีที่ทันสมัยขึ้นอย่างชัดเจน สิ่งที่ควรทราบก็คือ รถยนต์หรูในตลาดมือสองมักจะมีอัตราค่าเสื่อมราคาสูงในช่วง 3 ปีแรก แต่ด้วยความนิยมในแบรนด์ BMW และเครือข่ายบริการหลังการขายที่แข็งแรง ทำให้ราคารถมือสองยังทรงตัวได้ค่อนข้างดี แนะนำให้เลือกซื้อรถมือสองที่ผ่านการรับรองจากศูนย์ (BMW Approved Used Car) เพราะจะมีการตรวจสภาพรถ 160 จุด พร้อมรับประกันที่ขยายออกไป มีประวัติการซ่อมบำรุงจากศูนย์อย่างครบถ้วน และบริการช่วยเหลือบนถนนตลอด 24 ชั่วโมง หากเปรียบเทียบกับคู่แข่งในระดับเดียวกันอย่าง Mercedes-Benz GLA และ Audi Q3 แล้ว BMW X1 ยังคงได้เปรียบในเรื่องปริมาตรพื้นที่กระโปรงหลังที่ใหญ่กว่า และอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่ต่ำกว่า (ประมาณ 6.5 ลิตร/100 กม. ในสภาพการขับขี่แบบผสม) ทำให้เหมาะสำหรับการเดินทางไกล หากกำลังมองหารถใหม่ ลองสอบถามโปรโมชั่นจากตัวแทนจำหน่ายดู อาจมีบริการผ่อนเงินด่วนดอกเบี้ยต่ำหรือแพ็กเกจบริการบำรุงรักษาฟรีให้เลือก
Q
BMW X1 มีการเรียกคืนในปี 2023 หรือไม่?
สำหรับรถ BMW X1 นั้น จริงๆ แล้วมีประกาศเรียกคืนในบางตลาดจนถึงปี 2023 อย่างในอเมริกาเหนือเคยเรียกคืนบางรุ่นเนื่องจากปัญหาเกี่ยวกับโมดูลปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิง แต่สำหรับประเทศไทยจะเกี่ยวข้องหรือไม่ ต้องตรวจสอบกับประกาศอย่างเป็นทางการจาก BMW กลุ่มประเทศไทยหรือกรมการขนส่งทางบกเท่านั้น แนะนำให้เจ้าของรถเช็คข้อมูลการเรียกคืนที่เจาะจงด้วยการป้อนรหัสตัวรถ (VIN) ผ่านทางตัวแทนจำหน่าย BMW หรือเว็บไซต์ของกรมการขนส่งทางบก การเรียกคืนรถเป็นขั้นตอนปกติที่ผู้ผลิตรถยนต์ดำเนินการเพื่อความรับผิดชอบต่อผู้บริโภค มักจะเกี่ยวข้องกับการอัปเดตซอฟต์แวร์หรือเปลี่ยนชิ้นส่วน ซึ่งกระบวนการนี้ทำได้รวดเร็วและไม่มีค่าใช้จ่าย ในประเทศไทยแบรนด์รถหรูมักให้ความสำคัญกับการบริการหลังการขาย ถ้าหากรุ่น X1 ของคุณอยู่ในข่ายเรียกคืน ตัวแทนจำหน่ายมักจะติดต่อมาเพื่อนัดหมายซ่อมบำรุงให้เองอยู่แล้ว เวลาไปบริการตามปกติก็สามารถสอบถามช่างเกี่ยวกับ Technical Service Bulletin ได้ เพราะถึงแม้จะไม่ใช่การเรียกคืนบังคับ แต่ก็ช่วยแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้ล่วงหน้า ส่วนเจ้าของรุ่น Hybrid ควรให้ความสนใจกับการตรวจสอบระบบแบตเตอรี่แรงดันสูงเป็นประจำ เพราะสภาพอากาศร้อนแบบไทยอาจเร่งให้สายไฟเสื่อมสภาพเร็ว การบำรุงรักษาที่ทันท่วงทีจะช่วยยืดอายุการใช้งานได้
Q
ปัญหาทั่วไปของ BMW X1 รุ่นปี 2023 มีอะไรบ้าง?
รถยนต์ BMW X1 รุ่นปี 2023 ในฐานะ SUV ระดับคอมแพคหรูนั้นโดยรวมแล้วถือว่าดีสมราคา แต่ก็มีจุดที่ควรระวังบ้าง เช่น บางคันอาจเจอปัญหาระบบหน้าจอบางครั้งค้างหรือดับไปเฉยๆ ซึ่งปกติแล้วอู่ศูนย์บริการสามารถอัปเดตซอฟต์แวร์แก้ไขได้ โดยเฉพาะในสภาพอากาศร้อนแบบบ้านเราควรตรวจเช็คระบบเป็นประจำเพื่อป้องกันความร้อนกระทบการทำงาน ส่วนเครื่องยนต์เทอร์โบชาร์จอาจมีปัญหาคาร์บอนสะสมบ้างถ้าขับในเมืองแบบความเร็วตํ่าติดๆ หยุดๆ นานๆ แนะนำให้ใช้น้ำยาบำรุงเชื้อเพลิงของทางศูนย์ทุก 15,000 กิโลเมตร ระบบช่วงล่างที่ตั้งมาแนวสปอร์ตอาจรู้สึกแข็งไปหน่อยเวลาขับบนถนนสภาพไม่ดีแถวๆ นี้ ลองลดลมยางลงใกล้เคียงค่าต่ำสุดที่ผู้ผลิตแนะนำจะช่วยนุ่มขึ้นได้ สำหรับพื้นที่ด้านหลังแม้ว่าจะยืดระยะฐานล้อออกมาแต่พนักพิงหลังตั้งชันไปนิด อาจต้องใช้หมอนรองหลังเวลานั่งระยะทางไกล้ ส่วนเกียร์อิเล็กทรอนิกส์อาจต้องใช้เวลาชินมือหน่อย โดยเฉพาะมือใหม่ควรระวังเผลอไปโดนปุ่มอื่น แม้จะมีระบบความปลอดภัยครบครัน แต่ฟังก์ชันจอดอัตโนมัติอาจยังไม่แม่นร้อยเปอร์เซ็นต์ในที่จอดแคบๆ แนะนำให้ฝึกจอดมือเปล่าก่อนจะดีกว่า ช่วงระยะรับประกันควรเข้าศูนย์ตามนัดทุกครั้ง โดยเฉพาะระบบแอร์ที่ต้องดูแลเป็นพิเศษในสภาพอากาศร้อนชื้นแบบไทย อาจต้องล้างคอยล์เย็นบ่อยขึ้นกว่าปกติสักหน่อย
ดูเพิ่มเติม