Q

“Crysta เป็นรถหรูหรือไม่?”

รถ Toyota Innova Crysta ในตลาดไทยถูกวางตำแหน่งให้เป็นรถ MPV ระดับพรีเมียม แม้จะไม่ถึงขั้นรถหรูแบรนด์ดัง แต่ในแง่ความสะดวกสบายและฟีเจอร์ต่างๆ ถือว่ามีคุณสมบัติใกล้เคียงรถหรูเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นการใช้วัสดุภายในเกรดพรีเมียม ระบบปรับเบาะไฟฟ้า เครื่องปรับอากาศแบบสองโซน ที่ตอบโจทย์ทั้งการใช้งานในครอบครัวและการรับรองเชิงธุรกิจของคนไทย สาเหตุที่คริสต้าได้รับความนิยมในไทยก็เพราะความน่าเชื่อถือและพื้นที่ใช้งานที่คุ้มค่า สำหรับคนไทยแล้ว การจะนับว่ารถไหนเป็นรถหรูมักจะดูจากแบรนด์และราคา เช่น Mercedes V-Class หรือ Alpha ส่วนคริสต้าจะอยู่ในกลุ่ม "พรีเมียมที่ใช้งานได้จริง" ข้อดีที่เด่นชัดคือเครือข่ายบริการหลังการขายของ Toyota ที่ครอบคลุมและค่าบำรุงรักษาที่ไม่สูงนัก ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับคนไทยที่คำนึงถึงค่าใช้จ่ายในระยะยาว ถ้าจะพูดถึงมาตรฐานของรถ MPV หรูจริงๆ ต้องดูจากสามปัจจัยหลัก คือ ประวัติแบรนด์ วัสดุและกรรมวิธีการผลิต และเทคโนโลยีที่ติดตั้งมา เช่น Lexus LM ที่เหนือกว่าชัดเจนในเรื่องระบบกันเสียงและความหรูหราของเบาะ แต่ราคาก็สูงตาม อย่างไรก็ดี ผู้บริโภคควรเลือกรถให้เหมาะกับงบประมาณและความต้องการจริงๆ ของตัวเองจะดีที่สุด
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto

Q&A เกี่ยวข้อง

Q
"การประหยัดเชื้อเพลิงของ Innova รุ่น 2021 เป็นอย่างไร"
ประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันของ Toyota Innova รุ่นปี 2021 ในไทยจะแตกต่างกันไปตามรุ่นเครื่องยนต์ โดยรุ่นเบนซินจะวิ่งได้ประมาณ 10-12 กม./ลิตร ส่วนรุ่นดีเซลประหยัดกว่าที่ 12-14 กม./ลิตร แต่ตัวเลขจริงอาจเปลี่ยนแปลงขึ้นอยู่กับสภาพการขับขี่ เช่น ติดขัดในกรุงเทพฯ หรือขับทางไกลบนทางหลวง สิ่งที่น่าสนใจคือ Innova ที่ขายในไทยถูกออกแบบมาให้เหมาะกับสภาพอากาศร้อนเป็นพิเศษ ทั้งระบบระบายความร้อนและแอร์ที่ปรับแต่งเฉพาะให้ทำงานมีประสิทธิภาพ ช่วยให้เครื่องยนต์ทำงานในสภาวะที่ดีที่สุดและประหยัดน้ำมันมากขึ้น สำหรับเจ้าของรถในไทย แนะนำให้เปลี่ยนน้ำมันเครื่องตามมาตรฐานของ Toyota Thailand พร้อมกับรักษาลมยางอยู่ที่ 2.3-2.5 bar โดยเฉพาะในวันที่อากาศร้อน เพราะรายละเอียดเหล่านี้ส่งผลโดยตรงต่ออัตราสิ้นเปลืองน้ำมันจริง เมื่อเทียบกับรถ MPV คันอื่นในระดับเดียวกันอย่าง Honda BR-V หรือ Mitsubishi Xpander ที่มีจุดเด่นเรื่องความประหยัดน้ำมัน แต่ Innova ยังคงมีความสามารถในการแข่งขันได้ดีในกลุ่มรถ 7 ที่นั่งสำหรับครอบครัว ด้วยขนาดตัวถังที่ใหญ่กว่าและความจุสัมภาระที่มากกว่า แนะนำให้ผู้บริโภคไทยพิจารณาตามความต้องการในการใช้งานและงบประมาณที่มี
Q
Toyota Innova 2021 ราคาเท่าไหร่?
ราคาของ Toyota Innova รุ่นปี 2021 ในประเทศไทยจะแตกต่างกันไปตามรุ่นและอุปกรณ์ โดยรุ่นพื้นฐาน 2.0E ราคาประมาณ 989,000 บาท ส่วนรุ่นท็อปสุดอย่าง 2.4V ราคาสูงถึงประมาณ 1,279,000 บาท แต่อาจมีการปรับเปลี่ยนขึ้นลงบ้างตามโปรโมชั่นของตัวแทนจำหน่ายหรืออุปกรณ์เสริมที่เลือก รถรุ่นนี้ขายดีในไทยเพราะถูกใจคนใช้จริง ด้วยการออกแบบที่ตอบโจทย์ทั้งเรื่องความกว้างขวางของห้องโดยสารแบบ 7 ที่นั่ง ระบบขับเคลื่อนที่เสถียร (มีทั้งเครื่องยนต์เบนซิน 2.0L และ 2.4L) และการใช้งานที่เหมาะกับครอบครัว สิ่งที่น่าสนใจคือ Innova เป็นรถ MPV ที่โตโยต้าพัฒนาเฉพาะสำหรับตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีการปรับความสูงของช่วงล่างและระบบกันสะเทือนให้เหมาะกับสภาพถนนในไทยที่หลากหลาย แถมค่าบำรุงรักษาก็ไม่สูงและมีศูนย์บริการกระจายทั่วประเทศ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่คนไทยให้ความสำคัญ เมื่อเทียบกับคู่แข่งอย่าง Honda BR-V หรือ Mitsubishi Xpander ที่ราคาจับต้องได้กว่า แต่ Innova ยังคงได้เปรียบในเรื่องพื้นที่ใช้สอยและความน่าเชื่อถือของแบรนด์ แนะนำว่าก่อนตัดสินใจซื้อควรไปทดลองขับทั้งหลายรุ่นเพื่อเปรียบเทียบความรู้สึกในการขับขี่และความครบถ้วนของอุปกรณ์ด้วยตัวเอง
Q
ค่าบำรุงรักษาของ Innova Crysta เท่าไหร่?
ค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษารถ Toyota Innova Crysta ในประเทศไทยถือว่าค่อนข้างสมเหตุสมผล โดยขึ้นอยู่กับรุ่นและประเภทเครื่องยนต์ สำหรับรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล 2.4L ค่าบำรุงรักษาปกติ (รวมน้ำมันเครื่องและไส้กรองพื้นฐาน) ที่ศูนย์บริการอย่างเป็นทางการจะอยู่ที่ประมาณ 3,000-4,500 บาท ส่วนรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 2.0L จะถูกกว่าหน่อย ประมาณ 2,500-3,800 บาท โดยควรทำทุก 10,000 กิโลเมตรหรือทุก 6 เดือน ส่วนการบำรุงรักษาใหญ่ เช่น เปลี่ยนน้ำมันเกียร์ น้ำมันเบรก จะมีค่าใช้จ่ายสูงขึ้นประมาณ 6,000-8,000 บาท ขึ้นอยู่กับรายการตรวจเช็ค โดยทั่วไปแล้วในตลาดไทยมองว่า Innova Crysta มีความทนทานและหาอะไหล่ได้ง่าย ค่าซ่อมบำรุงก็มีความโปร่งใส แนะนำให้เจ้าของรถบำรุงรักษาเป็นประจำเพื่อยืดอายุการใช้งานรถ นอกจากนี้ศูนย์บริการหลายแห่งในไทยยังมีแพ็กเกจบำรุงรักษาที่ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาว สิ่งที่ควรทราบคือการเลือกใช้อะไหล่แท้และอะไหล่เทียมก็มีผลต่อราคาสุดท้าย แต่การใช้อะไหล่แท้จะช่วยรักษาประสิทธิภาพของรถได้ดีกว่า
Q
"การประหยัดน้ำมันของ Toyota Innova Crysta 2021 เป็นอย่างไร"
รุ่น Toyota Innova Crysta ปี 2021 ที่วางขายในตลาดไทย มีอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันที่แตกต่างกันไปตามรุ่นเครื่องยนต์ โดยแบบเครื่องยนต์ดีเซล 2.4 ลิตร จะวิ่งได้ประมาณ 12-13 กิโลเมตร/ลิตรในเมือง และเพิ่มเป็น 15-16 กิโลเมตร/ลิตรเมื่อขับทางไกล ส่วนรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 2.7 ลิตร จะกินน้ำมันประมาณ 9-10 กิโลเมตร/ลิตรในเมือง และประมาณ 12-13 กิโลเมตร/ลิตรเมื่อขับบนทางหลวง ตัวเลขเหล่านี้สามารถเปลี่ยนแปลงได้ขึ้นอยู่กับสไตล์การขับขี่ สภาพถนน และน้ำหนักบรรทุก สำหรับคนไทยแล้ว Innova Crysta ถือว่าประหยัดน้ำมันเมื่อเทียบกับรถในระดับเดียวกัน โดยเฉพาะเหมาะสำหรับการเดินทางในครอบครัวหรือรับรองลูกค้า ในสภาพอากาศร้อนของไทย แนะนำให้บำรุงรักษาระบบแอร์และตรวจสอบลมยางเป็นประจำเพื่อช่วยประหยัดน้ำมันได้มากขึ้น Innova Crysta เป็นรถยอดนิยมในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยจุดเด่นคือความทนทานและมูลค่าการขายต่อที่สูง สำหรับคนไทย รุ่นดีเซลเหมาะกับการขับทางไกล ส่วนรุ่นเบนซินจะประหยัดค่าบำรุงรักษากว่าเล็กน้อย
Q
ทำไม Innova Crysta ถึงมีอัตราการประหยัดน้ำมันต่ำ?
เหตุผลที่รถยนต์ Toyota Innova Crysta ในตลาดไทยมีอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันค่อนข้างสูงนั้น เกี่ยวข้องกับการตั้งค่าพลังงานและตำแหน่งของรุ่นเป็นหลัก แม้ว่ารถรุ่นนี้จะติดตั้งเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบชาร์จ 2.4L หรือ 2.8L ที่ให้พลังและความทนทานเหมาะกับพื้นที่ภูเขาและการเดินทางแบบบรรทุกเต็มคันในไทย แต่เครื่องยนต์ขนาดใหญ่ก็ทำให้สิ้นเปลืองน้ำมันมากขึ้นในเมืองที่ต้องหยุดและเริ่มบ่อย ส่วนน้ำหนักตัวรถที่มากของ MPV 7 ที่นั่งก็ส่งผลต่อประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิงเช่นกัน อย่างไรก็ตาม เครื่องยนต์ดีเซลยังคงประหยัดน้ำมันได้ดีเมื่อขับบนทางหลวง สำหรับผู้บริโภคไทยที่เน้นเรื่องประหยัดน้ำมัน อาจสนใจเทคโนโลยีไฮบริดใหม่ล่าสุดหรือรุ่นเทอร์โบชาร์จขนาดเล็กของ Toyota ซึ่งเทคโนโลยีเหล่านี้ให้พลังในระดับเดียวกันแต่ช่วยลดการสิ้นเปลืองน้ำมันได้อย่างชัดเจน เมื่อตัดสินใจซื้อรถควรพิจารณาปัจจัยต่างๆ เช่น จำนวนผู้โดยสารประจำวัน สภาพถนนที่ใช้งานเป็นประจำ รวมถึงผลกระทบจากอากาศร้อนในไทยที่ต้องใช้เครื่องปรับอากาศเป็นเวลานานซึ่งเพิ่มการสิ้นเปลืองน้ำมันด้วย แนะนำให้ดูแลรักษารถอย่างสม่ำเสมอและรักษาความดันลมยางให้เหมาะสมเพื่อประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิงที่ดีที่สุด
Q
ทางเลือกรถยนต์ที่สามารถเปรียบเทียบกับ Innova Crysta คือรถยนต์รุ่นใด?
หากคุณกำลังมองหารถยนต์แทน Toyota Innova Crysta ในตลาดไทย มีหลายรุ่นที่น่าสนใจทั้งในกลุ่ม MPV ขนาดกลาง-ใหญ่และ SUV เช่น Mitsubishi Xpander Cross Honda BR-V Chevrolet Spin และ Mazda CX-8 รุ่นเหล่านี้มีพื้นที่กว้างขวาง สะดวกสบาย และใช้งานได้ดี เหมาะสำหรับครอบครัวหรือการใช้งานเชิงพาณิชย์ Mitsubishi Xpander Cross ได้รับความนิยมจากระยะล้อชัดสูงและการจัดวางพื้นที่ภายในที่ยืดหยุ่น โดยเฉพาะเหมาะกับสภาพถนนหลากหลายในไทย ส่วน Honda BR-V นั้นขึ้นชื่อในเรื่องประหยัดน้ำมันและความทนทาน Chevrolet Spin มาพร้อมราคาคุ้มค่าและฟีเจอร์ใช้งานได้จริง เหมาะกับผู้ที่มีงบจำกัด ขณะที่ Mazda CX-8 จะเน้นความรู้สึกในการขับขี่และความหรูหราของห้องโดยสาร เหมาะสำหรับคนที่ต้องการประสบการณ์การขับขี่ระดับพรีเมียม เมื่อเลือกซื้อรถในไทย ผู้บริโภคควรพิจารณาจากความต้องการส่วนตัว เช่น จำนวนที่นั่ง ประเภทเชื้อเพลิง (เบนซินหรือดีเซล) งบประมาณ และความชอบในแบรนด์ รวมถึงควรไปทดลองขับที่ตัวแทนจำหน่ายเพื่อสัมผัสสมรรถนะรถโดยตรง นอกจากนี้ตลาดไทยยังนิยมรถยนต์ที่พัฒนาจากกระบะ เช่น Toyota Fortuner หรือ Isuzu MU-X ซึ่งรวมจุดแข็งของ SUV และ MPV เข้าด้วยกัน ถือเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ
Q
อายุการใช้งานของเครื่องยนต์ Innova Crysta คือเท่าไหร่?
เครื่องยนต์ของ Toyota Innova Crysta โดยทั่วไปจะมีอายุการใช้งานประมาณ 250,000-300,000 กิโลเมตร ขึ้นอยู่กับสภาพการใช้งานและการดูแลรักษาปกติ ในสภาพอากาศร้อนชื้นของประเทศไทย แนะนำให้เปลี่ยนน้ำหล่อเย็นและน้ำมันเครื่องเป็นประจำเพื่อปกป้องเครื่องยนต์ นอกจากนี้การจราจรที่ต้องหยุดและเริ่มบ่อยในเมืองไทยอาจทำให้เกิดคาร์บอนสะสมในเครื่องยนต์ จึงควรตรวจสอบระบบเชื้อเพลิงทุก 20,000 กิโลเมตร เครื่องยนต์ดีเซลขนาด 2.4L และ 2.8L นี้ใช้เทคโนโลยี GD series ของ Toyota ที่มีความทนทาน ในทางปฏิบัติ มีรายงานจากคนขับแท็กซี่หลายคนในไทยว่า หากดูแลดี เครื่องยนต์สามารถใช้งานได้เกิน 400,000 กิโลเมตรอย่างสบายๆ สำหรับเจ้าของรถไทย การเลือกใช้น้ำมันดีเซลคุณภาพสูงที่ได้มาตรฐาน API CJ-4 และไส้กรองของแท้จาก Toyota มีความสำคัญมาก โดยเฉพาะช่วงฤดูฝน ต้องตรวจสอบอากาศกรองเป็นพิเศษเพื่อป้องกันความชื้นเข้าสู่เครื่องยนต์ หากใช้รถระยะยาว แนะนำให้ตรวจสอบสภาพหัวฉีดและเทอร์โบทุก 100,000 กิโลเมตร การดูแลเหล่านี้จะช่วยยืดอายุเครื่องยนต์ได้อย่างเห็นได้ชัด
Q
Innova Crysta มีซันรูฟหรือไม่?
รุ่นท็อปของ Toyota Innova Crysta ในตลาดไทยอย่างรุ่น 2.8V และ 2.8V Premium นั้นมีซันรูฟจริงๆ คอนฟิคนี้ช่วยให้แสงธรรมชาติเข้าถึงภายในรถและระบายอากาศได้ดีขึ้น โดยเฉพาะเหมาะกับสภาพอากาศร้อนของไทยเวลาท่องเที่ยวไกลๆ อย่างไรก็ตาม ต้องระวังว่าสเปคอาจแตกต่างกันไปในแต่ละปีและแต่ละรุ่น แนะนำให้เช็คข้อมูลล่าสุดในเว็บ Toyota Thailand หรือถามพนักงานขายโดยตรงจะชัวร์กว่า ส่วนเรื่องการใช้งานซันรูฟต้องหมั่นดูแลรางน้ำและท่อระบายน้ำเป็นประจำ ป้องกันใบไม้ตกลงไปอุดตันเวลาฝนตกหนักซึ่งเกิดขึ้นบ่อยในไทย สำหรับรถ MPV คู่แข่งอย่าง Honda Odyssey หรือ Mitsubishi Xpander ก็มีซันรูฟให้เลือกเหมือนกัน แต่รายละเอียดอาจต่างกันไปตามนโยบายของแต่ละแบรนด์ ลูกค้าควรเปรียบเทียบความคุ้มค่าให้ตรงความต้องการ สุดท้ายอย่าลืมตรวจสอบคุณภาพผ้าม่านบังแดดของซันรูฟ เพราะช่วยลดความร้อนและประหยัดน้ำมันได้ด้วย
Q
ความเร็วสูงสุดของ Innova Crysta คือเท่าไหร่?
รถ Toyota Innova Crysta รุ่นเบนซิน 2.0L (เครื่องยนต์ 1TR-FE) ในตลาดไทยสามารถทำความเร็วสูงสุดได้ประมาณ 180 กม./ชม. ส่วนรุ่นดีเซล 2.4L (เครื่องยนต์ 2GD-FTV) ทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 190 กม./ชม. แต่ความเร็วจริงอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับน้ำหนักบรรทุก สภาพถนน และยางที่ใช้ Innova Crysta เป็นรถ MPV ที่ได้รับความนิยมในหมู่ครอบครัวไทย เพราะมีการตั้งค่าเครื่องยนต์ที่เน้นประหยัดน้ำมันและความทนทาน เหมาะกับสภาพอากาศร้อนและถนนหลากหลายแบบในประเทศไทย อย่างไรก็ตาม กฎหมายไทยกำหนดให้ขับรถบนถนนทั่วไปไม่เกิน 90-120 กม./ชม. และบนทางด่วนไม่เกิน 120 กม./ชม. ดังนั้นควรขับขี่ตามกฎจราจรเสมอ การออกแบบระบบขับเคลื่อนด้านหน้าและด้านหลังและโครงสร้างเฟรมสี่เหลี่ยมคางหมูของ Innova Crysta ช่วยให้มีเสถียรภาพที่ดีทั้งในชนบทและในสภาพแวดล้อมของเมืองไทย ส่วนเครื่องดีเซล 2.4L ที่ให้แรงบิดสูงถึง 350 นิวตันเมตรนั้นเหมาะเป็นพิเศษสำหรับการขับขี่ในพื้นที่ภาคเหนือที่มีทางลาดชัน แต่ควรบำรุงรักษาระบบเทอร์โบเป็นประจำเพื่อให้เครื่องยนต์ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพในระยะยาว
Q
รถ Innova Crysta สามารถวิ่งได้กี่กิโลเมตรเมื่อเติมน้ำมันเต็มถัง?
รถ Toyota Innova Crysta ในตลาดประเทศไทยมีการติดตั้งเครื่องยนต์ดีเซลขนาด 2.4 ลิตร และ 2.8 ลิตร ถังน้ำมันมีความจุ 55 ลิตร จากสภาพการจราจรและนิสัยการขับขี่ในไทย ระยะทางเต็มถังมักจะอยู่ที่ประมาณ 700 ถึง 900 กิโลเมตร ขึ้นอยู่กับสภาพการขับขี่จริง เช่น ในเขตเมืองที่การจราจรติดขัดอาจทำให้สิ้นเปลืองน้ำมันมากขึ้น ส่วนการขับบนทางหลวงจะประหยัดน้ำมันกว่า สภาพอากาศร้อนของไทยอาจส่งผลให้การใช้แอร์เพิ่มการสิ้นเปลืองน้ำมันเล็กน้อย แนะนำให้ดูแลรถอย่างสม่ำเสมอ เช่น ตรวจสอบลมยางและเปลี่ยนไส้กรองอากาศ เพื่อรักษาประสิทธิภาพการใช้น้ำมันที่ดีที่สุด Innova Crysta เป็นรถ MPV ครอบครัวที่ได้รับความนิยมในไทย ด้วยความน่าเชื่อถือและความกว้างขวางของห้องโดยสาร หากต้องการลดการสิ้นเปลืองน้ำมันมากขึ้น ลองขับด้วยความราบรื่นและคาดการณ์สถานการณ์บนถนนเพื่อลดการเบรกกระทันหัน นิสัยเหล่านี้จะช่วยให้คุณใช้น้ำมันทุกหยดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ข้อดี

ขนาดตัวถังใหญ่ ประตูรถใหญ่ทั้งสองด้าน สะดวกสบาย ภายในกว้างขวาง มีพื้นที่เก็บของมากล้ำหน้าเพื่อนบ้านในระดับเดียวกัน
รุ่นรถน้ำมันเบนซินสามารถยกระดับเป็นรถแท็กซี่ได้อย่างง่ายดาย วาวซินสตรอดรถน้ำมันเบนซิน ที่เชื่อถือได้ หากทํางานร่วมกับแก๊สจะไม่มีปัญหา
รุ่นรถดีเซล การบํารุงรักษาง่าย ใช้หลอดน้ำเครื่องเทียบเท่ากับ Revo และ Fortuner มีประสิทธิภาพดีและประหยัดน้ำมัน
ครอบคลุมศูนย์บริการมาตรฐานทั่วประเทศ มีระบบ T-Connect เพื่อให้สะดวกในการประสานแก้ปัญหา

ข้อเสีย

ไม่มีอุปกรณ์ความปลอดภัยที่เป็นธรรมชาติ ขณะที่รถยนต์จากทอยต้าที่ราคาเท่าเพียงหรือที่ต่ำกว่ามี คุณสมบัติเช่นตรวจจับบริเวณที่มองไม่เห็น การเตือนการถอยหลัง นี้เป็นข้อจำเป็นมากสำหรับรถขนาดใหญ่
ราคาสูงเกินไป โดยเฉพาะเวอร์ชั่นดีเซล มีคู่แข่งมาก เช่น Hyundai H1, Kia Grand Carnival และแม้กระทั่ง Toyota Fortuner ในเครือเดียวกัน
มีการตั้งค่ามาตรฐานในรถที่น้อยกว่า สิ่งที่สร้างความสนใจมีจำกัด รุ่นเริ่มต้นที่ราคาสูงกว่า 1 ล้านบาท ยังไม่มีจอสัมผัสซึ่งมีให้ในรุ่น Revo และยังสนับสนุน Apple CarPlay
วัสดุในส่วนห้องโดยสารมีน้อยเกินไป พลาสติกแข็งเกินไป

Q&A ล่าสุด

Q
รถ Porsche 718 มีความน่าเชื่อถือหรือไม่?
Porsche 718 ในฐานะรถสปอร์ตเครื่องยนต์วางกลางมีประสิทธิภาพโดยรวมที่ดีในด้านความน่าเชื่อถือ เทคโนโลยีเครื่องยนต์ตรงข้ามแนวนอนได้รับการพัฒนามาเป็นอย่างดี แม้ว่าหากขับแบบแรงๆ หรือใช้รอบเครื่องสูงอาจมีปัญหาเรื่องการสึกหรอบ้าง แต่ถ้าละเลียดดูแลตามกำหนดก็ช่วยลดความเสี่ยงได้มาก ในสภาพอากาศร้อนๆ แบบไทย แนะนำให้ใส่ใจเป็นพิเศษเรื่องระบบระบายความร้อนและน้ำมันเกียร์ โดยในกรุงเทพฯ และปริมณฑลมีศูนย์บริการอย่างเป็นทางการของ Porsche ที่พร้อมให้บริการอย่างมืออาชีพ อะไหล่ของ 718 ในไทยก็มีพร้อมพอสมควร แต่อย่างไรก็ตามค่าซ่อมบำรุงสำหรับรถสปอร์ตนำเข้าย่อมสูงอยู่แล้ว ควรคำนึงถึงค่าใช้จ่ายระยะยาวก่อนตัดสินใจ ส่วนตัวรถขนาดกะทัดรัดของ 718 นั้นเหมาะทั้งขับเลียบชายทะเลไทยหรือลัดเลาะภูเขา แถมยังได้เปรียบในถนนกรุงเทพฯ ที่รถติดเป็นประจำ ถ้ามีงบเพียงพอ การเลือกแพ็กเกจประกันจาก Porsche โดยตรงจะช่วยให้อุ่นใจกว่า ในระดับเดียวกันนี้ 718 ถือว่าคงมูลค่าได้ดี เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนไทยที่อยากได้ทั้งความมันส์ในการขับและความมั่นใจในแบรนด์
Q
“718 นั่งสบายไหม?”
Porsche 718 ในฐานะรถสปอร์ตเครื่องกลางนั้น เรื่องความสะดวกสบายต้องดูจากสภาพการใช้งานจริงในไทย ระบบช่วงล่างของ 718 นั้นปรับสมดุลระหว่างสปอร์ตกับความนุ่มสบายได้ดี ระบบ PASM ที่มาสแตนดาร์ดจะปรับแรงดันตามสภาพถนนอัตโนมัติ ทำให้ขับทั้งในเมืองและเส้นทางเขาชานเมืองของไทยได้อย่างมั่นใจ เบาะรองรับได้ดีแต่วัสดุเติมค่อนข้างแข็ง อาจรู้สึกเหนื่อยในการขับทางไกล แต่สำหรับอากาศร้อนแบบไทย เบาะระบายอากาศที่มาสแตนดาร์ดถือเป็นจุดเด่นที่ใช้งานได้จริง เรื่องเสียงในห้องโดยสาร 718 ควบคุมได้ดีกว่ารถสปอร์ตระดับเดียวกัน แต่บางเส้นทางในไทยที่ผิวถนนไม่เรียบอาจมีเสียงถนนรบกวนบ้าง ที่ต้องระวังคือตัวรถต่ำ ทำให้การขึ้นลงต้องปรับตัว โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ ที่ต้องขึ้นลงรถบ่อยอาจไม่สะดวกนัก หากใช้ระบบอัพเกรดพวงมาลัยเพาเวอร์ที่แนะนำเป็นหลักในกรุงเทพฯ นอกจากนี้เครือข่ายหลังการขายในประเทศไทยสามารถให้การบำรุงรักษาอย่างมืออาชีพ แต่ค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมสูงกว่า ควรพิจารณาสัญญาต่อประกันเพิ่มเติม สำหรับคนไทยที่มองหาความมันส์ในการขับขี่แต่ยังใช้ชีวิตประจำวันได้ 718 ถือเป็นตัวเลือกที่ดี แต่ถ้าชอบความสบายเป็นหลักอาจลองทดสอบขับรถรุ่น GT ในระดับเดียวกันเปรียบเทียบดู
Q
Porsche 718 จะมีอายุการใช้งานนานเท่าไหร่?
พอรถสปอร์ตสมรรถนะสูงอย่าง Porsche 718 อายุการใช้งานส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับการดูแลรักษาประจำวัน นิสัยการขับขี่ รวมถึงสภาพอากาศและถนนในไทย ถ้าใช้อย่างถูกต้องและบำรุงรักษาสม่ำเสมอ เครื่องยนต์และเกียร์ของ 718 สามารถวิ่งได้เกิน 2 แสนกิโลเมตรอย่างสบายๆ โครงสร้างตัวถังก็แข็งแรงทนทานได้ในระยะยาว สภาพอากาศแบบร้อนชื้นของไทยทำให้ต้องดูแลรถเป็นพิเศษ โดยเฉพาะเรื่องการป้องกันสนิมและการเปลี่ยนชิ้นส่วนยางตามระยะ ควรนำรถไปบริการที่ศูนย์ Porsche ทุก 1 หมื่นกิโลเมตรหรือ 12 เดือน พร้อมใช้อะไหล่แท้จากศูนย์ ซึ่งสำคัญมากสำหรับการรักษาสมรรถนะของรถ การบริการจากศูนย์ Porsche ในไทยจะช่วยยืดอายุการใช้งานของรถได้ดี เทคโนโลยีเครื่องยนต์แบบบ็อกเซอร์ฮอริซอนทัลของ 718 นั้นมีความเสถียรและน่าเชื่อถือ แค่เปลี่ยนน้ำมันเครื่องและน้ำหล่อเย็นตามกำหนด เครื่องยนต์ก็จะอยู่กับเราไปนานๆ สำหรับการขับขี่ในเมืองอย่างกรุงเทพนฯ ที่รถติดบ่อย ควรตรวจสอบคลัตช์และเบรคบ่อยกว่าปกติ ส่วนใครที่ชอบขับบนถนนภูเขาในไทย ต้องคอยเช็คสภาพช่วงล่างโดยเฉพาะโช้คอยู่เสมอ แม้ 718 จะเป็นรถสปอร์ตแต่การตั้งค่าช่วงล่างก็ออกแบบมาให้ทนทานต่อการใช้งานประจำวัน ถ้าไม่ขับแบบกระโชกโฮกฮากเกินไป ชิ้นส่วนช่วงล่างก็ใช้งานได้นาน ส่วนระบบอิเล็กทรอนิกส์ในรถที่อาจได้รับผลจากความร้อนและความชื้นในไทย ควรตรวจสอบวงจรไฟฟ้าและเซ็นเซอร์เป็นประจำ สรุปแล้ว 718 สามารถใช้งานในไทยได้อย่างสบายๆ 15-20 ปี แม้ในตลาดมือสองรุ่นเก่าที่สภาพดียังคงมีมูลค่าดี ซึ่งพิสูจน์ถึงความทนทานของรถคันนี้ได้เป็นอย่างดี
Q
718 ยังคงผลิตอยู่หรือไม่?
ปัจจุบันรถรุ่น Porsche 718 ซีรีส์ยังคงอยู่ในขั้นตอนการผลิต โดยรุ่นนี้ถือเป็นรถสปอร์ตคลาสสิกของแบรนด์ที่ใช้ระบบเครื่องยนต์กลางตัวถัง ในตลาดไทยก็ได้รับความนิยมไม่น้อย โดยเฉพาะกับเส้นทางขับขี่ในเขตภูเขาที่เต็มไปด้วยทางโค้งหรือถนนเลียบชายทะเล ซีรีส์ 718 มีทั้งรุ่นคูเป้ออย่าง Cayman และรุ่นเปิดประทุนอย่าง Boxster พร้อมตัวเลือกเครื่องยนต์ทั้งแบบเทอร์โบชาร์จ 4 สูบและแบบแอตโมสเฟียร์ 6 สูบ โดยเฉพาะรุ่น GTS 4.0 ที่ใช้เครื่อง 6 สูบจะให้ประสบการณ์การขับที่สมบูรณ์แบบกว่า ในไทย 718 ได้รับการยอมรับว่าเป็นรถสปอร์ตที่ใช้ในชีวิตประจำวันได้แต่ก็ยังคงประสิทธิภาพเหมาะสำหรับการแข่ง ขนาดที่กะทัดรัดยังเหมาะกับสภาพการจราจรในเมืองอย่างกรุงเทพฯ อีกด้วย ที่น่าสนใจคือรุ่น 718 ที่นำเข้าไทยมักมาพร้อมกับอุปกรณ์ที่ออกแบบมาสำหรับสภาพอากาศร้อน เช่น ระบบแอร์ประสิทธิภาพสูงและกระจกป้องกันรังสียูวี เมื่อเทรนด์รถไฟฟ้ากำลังมาแรง Porsche ก็ประกาศว่าจะเปิดตัวรุ่น 718 แบบไฟฟ้าในอนาคต แต่รุ่นที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปยังคงผลิตต่อไปจนกว่าจะถึงช่วงเปลี่ยนรุ่น สำหรับคนไทยที่สนใจตอนนี้ยังสามารถสั่งซื้อรุ่นล่าสุดได้และยังได้รับบริการปรับแต่งรถตามความต้องการจากแบรนด์อีกด้วย
Q
ควรนำ Porsche 718 เข้ารับการตรวจเช็กหรือให้บริการทุกปีหรือไม่?
สำหรับคำถามที่ว่าควรนำรถ Porsche 718 เข้ารับบริการประจำปีหรือไม่นั้น คำตอบคือจำเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในสภาพอากาศแบบร้อนชื้นของประเทศไทย การบริการตามระยะเป็นเรื่องสำคัญมาก Porsche แนะนำอย่างเป็นทางการว่ารถรุ่น 718 ควรเข้ารับบริการทุก 10,000 กิโลเมตรหรือทุก 12 เดือน ซึ่งจากสภาพการขับขี่ทั่วไปในไทย ผู้ใช้รถส่วนใหญ่มักจะขับใกล้หรือเกินระยะนี้ในแต่ละปี ดังนั้นการบริการปีละครั้งจึงสมเหตุสมผล สภาพอากาศร้อนและความชื้นสูงของไทยส่งผลให้น้ำมันเครื่องและของเหลวต่างๆ เช่น น้ำมันเบรกเสื่อมสภาพเร็วขึ้น รวมทั้งฝุ่นทรายและน้ำฝนอาจกระทบต่อตัวกรองอากาศและระบบเบรก การเปลี่ยนอุปกรณ์เหล่านี้ตามระยะจะช่วยให้รถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพเสมอ นอกจากนี้ Porsche 718 ในฐานะรถสปอร์ตสมรรถนะสูง มีโครงสร้างเครื่องยนต์ที่ซับซ้อนและต้องการการดูแลเป็นพิเศษ การตรวจสอบช่วงล่าง ระบบกันสะเทือนและเกียร์อย่างสม่ำเสมอจะช่วยป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้ โดยเฉพาะกับสภาพถนนในไทยที่ค่อนข้างหลากหลาย สำหรับเจ้าของรถในไทย การเลือกใช้บริการจากศูนย์บริการที่ได้รับอนุญาตจาก Porsche จะทำให้ได้อะไหล่แท้และเข้าถึงอุปกรณ์วินิจฉัยมาตรฐาน ซึ่งสำคัญต่อคุณภาพการบริการ อีกจุดที่ควรคำนึงคือการทำตามกำหนดการบริการอย่างเคร่งครัดจะช่วยรักษามูลค่ารถไว้ได้ดี ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญหากคิดจะขายรถในอนาคต และหากคุณขับแบบสปอร์ตหรือใช้รถในกรุงเทพที่การจราจรหนาแน่นบ่อยครั้ง อาจต้องเข้ารับบริการบ่อยกว่าปกติเล็กน้อย
ดูเพิ่มเติม