Q

Honda City Hatchback ดีหรือไม่

Honda City Hatchback เป็นรถเล็กประเภทแฮทช์แบ็กที่ขายดีในตลาดไทย จุดเด่นคือขนาดตัวรถที่คล่องตัวและประหยัดน้ำมันมาก เหมาะกับสภาพการจราจรติดขัดในเมืองอย่างกรุงเทพฯ เครื่องยนต์เทอร์โบ 1.0 ลิตรให้กำลังขับขี่ที่เพียงพอ ทั้งยังตอบโจทย์การใช้ชีวิตประจำวันและความประหยัดในเวลาเดียวกัน ภายในรถออกแบบพื้นที่ใช้งานได้อย่างชาญฉลาด โดยสามารถพับเบาะหลังเพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บของได้ เหมาะทั้งสำหรับครอบครัวและวัยรุ่นที่ชอบท่องเที่ยว ในส่วนของเทคโนโลยี ตัวรถติดตั้งระบบ Honda Sensing ที่มาพร้อมฟังก์ชันความปลอดภัยต่างๆ เช่น ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติและระบบช่วยรักษาช่องทางเดินรถ ทำให้การขับขี่ปลอดภัยยิ่งขึ้น ที่ตลาดไทย ราคาของมันจัดอยู่ในระดับจับต้องได้ แถมยังได้เปรียบจากเครือข่ายบริการหลังการขายของฮอนด้าที่ครอบคลุมทั่วประเทศ ทำให้การซ่อมบำรุงสะดวกมาก อย่างไรก็ดี แม้ระบบช่วงล่างจะถูกตั้งค่าให้เน้นความนุ่มสบาย แต่เมื่อต้องเจอกับถนนสภาพไม่ดีอาจรู้สึกแข็งบ้าง และระบบกันเสียงก็ยังมีจุดที่พัฒนาต่อได้ สรุปแล้วถ้าคุณมองหารรถเมืองที่ประหยัดน้ำมัน คล่องตัว และมาจากแบรนด์น่าเชื่อถือ Honda City Hatchback ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ แนะนำให้ลองทดลองขับดูก่อนตัดสินใจซื้อจะดีที่สุด
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto

Q&A เกี่ยวข้อง

Q
อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันของ Honda City Hatchback 2021 คือเท่าไหร่?
รถ Honda City Hatchback รุ่นปี 2021 ในตลาดไทยโดดเด่นเรื่องประหยัดน้ำมันมาก ด้วยเครื่องยนต์ 1.0 ลิตร 3 สูบ เทอร์โบชาร์จ คู่กับเกียร์ CVT ที่ทางการประกาศอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงรวมอยู่ที่ประมาณ 4.3 ลิตร/100 กิโลเมตร (ตามมาตรฐานการทดสอบ ECE R101) เหมาะสมทั้งการขับขี่ในกรุงเทพฯ ที่รถติดและการเดินทางไกล รุ่นนี้ใช้เทคโนโลยี Earth Dreams ของ Honda ที่ออกแบบมาเพื่อประสิทธิภาพสูง โดยมีระบบฉีดน้ำมันตรงเข้าเครื่องยนต์และการออกแบบน้ำหนักเบาช่วยให้ประหยัดน้ำมันมากขึ้น จากประสบการณ์จริงของเจ้าของรถในไทยบอกว่าในเมืองจะสิ้นเปลืองประมาณ 5-6 ลิตร/100 กม. แต่ถ้าขับทางไกลจะลดลงเหลือไม่ถึง 4 ลิตรเลย ที่น่าสนใจคือรถรุ่นนี้ได้ประโยชน์จากนโยบาย ECO Car Phase II ของรัฐบาลไทยที่ลดภาษีให้รถประหยัดพลังงาน ส่วนการใช้งานประจำวันแนะนำให้ล้างหัวเร่งและเปลี่ยนไส้กรองอากาศของแท้อย่างสม่ำเสมอเพื่อรักษาอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันให้ดีที่สุด ถ้าเปรียบเทียบกับรถระดับเดียวกันอย่าง Toyota Yaris Ativ จะประหยัดพอๆ กันแต่การขับขี่ของซิตี้แฮทช์แบ็กจะสมรรถนะกึ่งสปอร์ตมากกว่า สำหรับคนที่ขับทางไกลบ่อยๆ ลองใช้น้ำมัน 95 จะช่วยให้การเผาไหม้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
Q
ข้อเสียของรถ Honda City Hatchback
รถยนต์ City Hatchback เป็นที่นิยมสำหรับการเดินทางในเมืองไทย ด้วยความคล่องตัวและประหยัดน้ำมันที่โดดเด่น แต่ก็มีข้อจำกัดบางประการ เช่น พื้นที่กระโปรงหลังที่ค่อนข้างเล็ก เหมาะสำหรับการช้อปปิ้งทั่วไปแต่ไม่เหมาะกับการเดินทางไกลกับครอบครัว นอกจากนี้ขนาดตัวรถที่เล็กอาจทำให้รู้สึกไม่ค่อยมั่นใจเวลาขับบนทางด่วน โดยเฉพาะบนถนนสภาพไม่ดีบางสายในไทย แม้ระบบช่วงล่างจะปรับให้แข็งเพื่อการควบคุมที่ดีขึ้น แต่ก็อาจลดความสบายในการนั่งลง ส่วนเรื่องการกันเสียงก็ถือว่าปานกลาง อาจทำให้รู้สึกเหนื่อยล้าได้ง่ายในเมืองที่การจราจรหนาแน่นอย่างกรุงเทพฯ อย่างไรก็ตามค่าบำรุงรักษารถรุ่นนี้ค่อนข้างถูก แต่ในสภาพอากาศร้อนชื้นของไทย ชิ้นส่วนพลาสติกบางส่วนอาจเสื่อมสภาพเร็วหลังใช้งานมานาน แนะนำให้ผู้สนใจพิจารณาจุดประสงค์การใช้งานจริง หากต้องบรรทุกผู้โดยสารหรือสัมภาระบ่อยๆ อาจมองหารถครอสโอเวอร์ขนาดใหญ่ขึ้นเพื่อความเหมาะสมมากกว่า
Q
Honda City Hatchback มือสองราคาเท่าไหร่?
ราคารถ Honda City Hatchback มือสองในตลาดไทยจะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น อายุรถ ระยะทาง สภาพตัวรถ และระดับอุปกรณ์ โดยทั่วไปแล้วรุ่นปี 2021-2022 จะอยู่ที่ประมาณ 5 แสนถึง 7 แสนบาท แต่ต้องตรวจสอบรายงานสภาพรถและประวัติการเซอร์วิสจริงๆ ด้วย รุ่นนี้ขายดีมากในไทยเพราะประหยัดน้ำมัน โครงสร้างภายในใช้งานได้ดี แถมศูนย์บริการฮอนด้าในไทยก็ครอบคลุม ทำให้รถมือสองขายต่อง่าย ถ้าจะซื้อแนะนำให้ตรวจสอบประวัติรถผ่านช่องทางรถมือสองรับประกันโดยฮอนด้า หรือเว็บไซต์มืออาชีพ ต้องเช็คเกียร์และเครื่องยนต์ให้ละเอียด โดยเฉพาะช่วงหน้าฝนไทยที่อาจมีปัญหาน้ำท่วม ควรตรวจสอบรอยน้ำอย่างใกล้ชิด ถ้าอยากประหยัดกว่านี้ อาจมองรถญี่ปุ่นรุ่นอื่นอย่างโตโยต้ายาริสหรือมาสด้า 2 แต่ต้องยอมรับว่า Honda City Hatchback แบ็ครุ่นไฮบริดนั้นประหยัดน้ำมันกว่า เหมาะกับการขับขี่ในเมืองสุดๆ
Q
Honda City Hatchback มีรุ่น Hybrid หรือไม่?
ปัจจุบัน Honda City Hatchback ในตลาดไทยยังไม่มีรุ่น Hybrid ตัวนี้เน้นเครื่องยนต์เบนซินเป็นหลัก พ่วงมาด้วยเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร i-VTEC ที่ตอบโจทย์ทั้งประหยัดน้ำมันและแรงขับ ตลาดไทยเริ่มมีความต้องการรถ Hybrid เพิ่มขึ้น ซึ่งฮอนด้าเองก็มีรุ่น Hybrid อื่นๆ ในไทยแล้ว เช่น Honda Civic และ Honda HR-V รุ่น Hybrid ในอนาคตอาจมีการนำเทคโนโลยีนี้มาต่อยอดในโมเดลอื่นๆ อีก เทคโนโลยี Hybrid ที่ผสมผสานระหว่างมอเตอร์ไฟฟ้าและเครื่องยนต์ช่วยลดทั้งการสิ้นเปลืองน้ำมันและมลพิษได้ดี เหมาะกับสภาพการจราจรติดขัดในกรุงเทพฯ ถ้าสนใจรถรักษ์สิ่งแวดล้อมประหยัดน้ำมัน ลองดูรุ่น Hybrid ที่มีในตลาดหรือรออัปเดตจากฮอนด้าก็ได้ ส่วนเรื่องภาษี รัฐบาลไทยมีสนับสนุนรถพลังงานสะอาด ทั้ง Hybrid และ EV ก็เป็นตัวเลือกน่าสนใจ แนะนำให้ตรวจสอบข้อมูลล่าสุดทางเว็บไซต์ฮอนด้าไทยหรือติดต่อโชว์รูมก่อนตัดสินใจซื้อ
Q
Honda City Hatchback มีโปรโมชั่นอะไรบ้าง?
ตอนนี้ Honda City Hatchback ในตลาดไทยมีโปรโมชั่นหลากหลายรูปแบบให้เลือก ทั้งส่วนลดเงินสด แผนดาวน์ต่ำ ผ่อนสบายด้วยดอกเบี้ยพิเศษ หรือบริการฟรีเช็คระยะ ซึ่งรายละเอียดโปรโมชั่นอาจแตกต่างกันไปในแต่ละช่วงเวลาและพื้นที่ แนะนำให้ติดต่อตัวแทนจำหน่ายในพื้นที่โดยตรงเพื่อสอบถามข้อมูลล่าสุด รุ่นนี้เป็นที่นิยมมากในไทยเพราะขนาดคันที่คล่องตัว ประหยัดน้ำมัน เหมาะกับการขับขี่ในเมือง เครื่องยนต์ 1.0 ลิตรเทอร์โบชาร์จให้ทั้งแรงและประหยัด แถมยังมาพร้อม Honda Sensing ชุดเทคโนโลยีความปลอดภัยที่ทันสมัยที่สุดในระดับเดียวกัน ส่วนในสภาพอากาศร้อนๆ ของไทย ระบบแอร์และกระจกกัน UV ก็ช่วยให้ความรู้สึกสบายตลอดการเดินทาง นอกจากโปรโมชั่นแล้ว ควรสอบถามตัวแทนจำหน่ายเกี่ยวกับบริการเสริมเช่น ฟรีฟิล์มกรองแสง หรือการรับประกันที่ขยายระยะเวลา เพื่อเพิ่มความคุ้มค่าและประสบการณ์การใช้งานให้ดียิ่งขึ้น
Q
Honda City Hatchback รองรับผู้โดยสารกี่คน?
Honda City Hatchback คือรถคันเล็กแบบแฮทช์แบ็กที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์คนเมืองในไทยมากๆ โครงสร้างมาตรฐานเป็นแบบ 5 ที่นั่ง ให้พื้นที่สบายๆ สำหรับผู้โดยสาร 5 คน พอดีสำหรับครอบครัวใช้ชีวิตประจำวันหรือออกทริปกับเพื่อน โครงสร้างภายในถูกออกแบบมาอย่างดี โดยเฉพาะพื้นที่ขาที่นั่งหลังที่กว้างขวาง แม้เดินทางไกลก็ยังรู้สึกสบาย ส่วนกระโปรงหลังจุได้ประมาณ 289 ลิตร เพียงพอสำหรับของใช้เวลาช้อปปิ้งหรือทริปสั้นๆ ในสภาพอากาศร้อนๆ ของไทย รถรุ่นนี้ยังติดตั้งระบบแอร์เย็นฉ่ำและช่องลมหลังที่นั่ง ทำให้ทุกคนในรถรู้สึกเย็นสบาย แถมยังมาพร้อมระบบ Honda SENSING ช่วยเพิ่มความปลอดภัย เช่น ระบบเบรกอัตโนมัติเมื่อเจอวัตถุข้างหน้าและระบบช่วยควบคุมเลน เหมาะมากสำหรับการขับในเมืองอย่างกรุงเทพฯ ที่การจราจรค่อนข้างติดขัด รถยนต์รุ่นนี้ยังมีตัวเลือกการประหยัดน้ำมันที่ยืดหยุ่น ซึ่งรวมถึงรุ่นเครื่องยนต์เทอร์โบชาร์จ 1.0 ลิตร และรุ่นไฮบริด 1.5 ลิตร ซึ่งสามารถปรับให้เข้ากับความต้องการที่แตกต่างกันของผู้บริโภคชาวไทย ทั้งด้านการประหยัดพลังงานและสมรรถนะ นับเป็นรุ่นที่ลงตัวที่ผสานการใช้งานจริงและเทคโนโลยีเข้าไว้ด้วยกัน
Q
Honda City Hatchback มีระบบความปลอดภัยอะไรบ้าง?
รถ Honda City Hatchback ในตลาดไทยมาพร้อมกับระบบความปลอดภัยครบครัน ทั้งระบบช่วยขับขี่อัจฉริยะ Honda SENSING ที่รวมฟังก์ชันสำคัญอย่าง ระบบเบรกป้องกันการปะทะ (CMBS) ระบบช่วยรักษาเลน (LKAS) ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (ACC) และระบบเตือนเมื่อออกนอกเลน (LDW) นอกจากนี้ยังมีถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง ระบบช่วยทรงตัว (VSA) และกล้องถอยหลัง ซึ่งเป็นระบบความปลอดภัยทั้งแบบแอคทีฟและพาสซีฟที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ประจำวันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในสภาพการจราจรที่คับคั่งของเมืองไทย ระบบเหล่านี้ใช้งานได้จริงมากๆ เช่น CMBS จะช่วยลดความเสี่ยงการชนท้ายในเส้นทางรถติด ส่วน LKAS จะช่วยให้ผู้ขับควบคุมรถให้อยู่กลางเลนได้ง่ายขึ้นโดยเฉพาะบนทางด่วน แถมยังมาพร้อมกับโครงสร้างตัวรถ ACE ที่ออกแบบมาเพื่อดูดซับแรงกระแทกได้ดียิ่งขึ้น สำหรับคนไทยแล้ว การเลือกรถที่มีระบบความปลอดภัยครบวงจรเป็นเรื่องสำคัญ เพราะทั้งสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงบ่อยและสภาพการจราจรที่ซับซ้อน ระบบความปลอดภัยที่ดีไม่เพียงแต่ลดโอกาสเกิดอุบัติเหตุ แต่ยังช่วยปกป้องผู้โดยสารได้มากที่สุดหากเกิดเหตุไม่คาดคิดขึ้น
Q
Honda City Hatchback มีสีอะไรให้เลือกบ้าง?
Honda City Hatchback ในตลาดไทยมีสีให้เลือกหลายแบบ ทั้งโทนสีเมทัลลิกที่ดูทันสมัยและโทนสีคลาสสิก โดยสีที่เลือกได้จะมีคริสตัลแบล็ค แพลตินัมไวท์ เมทัลลิกซิลเวอร์ เรดเพิร์ล และสีน้ำเงิน เป็นต้น สีเหล่านี้ไม่เพียงตอบโจทย์รสนิยมของกลุ่มวัยรุ่น แต่ยังเหมาะกับความต้องการเฉพาะตัวของผู้ใช้แต่ละคน ในสภาพอากาศไทยที่ทั้งร้อนและฝนชุก สีรถทุกสีผ่านการเคลือบพิเศษเพื่อให้ทนทานต่อสภาพอากาศและป้องกันรังสียูวีได้ดี แถมฮอนด้ายังมักออกรุ่นสีลิมิเต็ดเอดิชันตามเทรนด์ตลาดเพื่อดึงดูดลูกค้าเพิ่มอีกด้วย เวลาเลือกสีนอกจากจะดูที่ความชอบส่วนตัวแล้ว ก็ควรคำนึงถึงสภาพการใช้จริงในไทยด้วย เช่น สีอ่อนจะทนความร้อนและดูแลง่ายในแดดแรงๆ ส่วนสีเข้มจะให้ความรู้สึกคลาสสิกและหรูหรากว่า นอกจากนี้ด้วยดีไซน์ตัวรถของ Honda City Hatchback ที่ออกแนวสปอร์ต ถ้าเลือกสีสดๆ จะยิ่งช่วยเน้นภาพลักษณ์ความYoungได้ดี ไม่ว่าจะเลือกสีไหน รถคันนี้ก็เข้ากับบรรยากาศถนนไทยและไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างแนบเนียน
Q
Honda City Hatchback ภายในกว้างขวางไหม?
Honda City Hatchback เป็นรุ่นที่ออกแบบมาสำหรับการขับขี่ในเมืองด้วยขนาดคอมแพค แต่โดดเด่นในเรื่องความคล่องตัวและการใช้พื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นที่สนใจในตลาดไทย ขนาดตัวถังอยู่ที่ 4,345 มม. × 1,748 มม. × 1,488 มม. ระยะฐานล้อ 2,589 มม. แม้จะจัดอยู่ในกลุ่มรถขนาดเล็ก แต่ด้วยแนวคิด MM ของฮอนด้า (ลดพื้นที่เครื่องยนต์ให้น้อยสุด ขยายพื้นที่ผู้โดยสารให้มากสุด) ทำให้การจัดวางภายในถูกออกแบบมาอย่างเหมาะสม พื้นที่ส่วนหัวและขาหน้าด้านหน้าเพียงพอ ส่วนพื้นที่ขาหลังก็กว้างขวางเมื่อเทียบกับรถในระดับเดียวกัน เหมาะกับการเดินทางระยะสั้นของครอบครัวหรือการขับขี่ในเมืองแบบที่นิยมในไทย ความจุท้ายรถอยู่ที่ประมาณ 289 ลิตร (เมื่อไม่พับเบาะหลัง) เพียงพอต่อการใช้งานทั่วไป แต่หากพับเบาะหลังก็จะเพิ่มพื้นที่เก็บของได้อีก ในสภาพอากาศร้อนชื้นของไทย ระบบแอร์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และในรุ่นท็อปยังมีช่องลมแอร์ด้านหลังเพื่อเพิ่มความสบายให้ผู้โดยสาร อย่างไรก็ตาม สำหรับบางซอยแคบหรือที่จอดรถแน่นในไทย ความกว้างระดับ 1.7 เมตรของ City Hatchback อาจได้เปรียบเรื่องความคล่องตัวเมื่อเทียบกับ SUV ขนาดใหญ่ แต่หากต้องใช้งานแบบเต็มความจุ 5 คนเป็นประจำสำหรับการเดินทางไกล แนะนำให้ทดลองนั่งจริงโดยเฉพาะพื้นที่ด้านกว้างของเบาะหลัง ในตลาดรถระดับเดียวกันยังมีรุ่นที่คล้ายกันอย่าง Toyota Yaris Ativ ที่ผู้ซื้อสามารถเปรียบเทียบตามความชอบในการออกแบบและความต้องการฟังก์ชั่นต่างๆ ได้
Q
Honda City Hatchback ประหยัดน้ำมันเท่าไร?
Honda City Hatchback ในไทยนั้นประหยัดน้ำมันสุดๆ รุ่นเครื่องยนต์ 1.0 ลิตรเทอร์โบทำสถิติเฉลี่ยประมาณ 23.8 กม./ลิตร จากการทดสอบมาตรฐานของไทย ส่วนรุ่นไฮบริดนั้นยิ่งคุ้มค่ากว่า ทำได้ถึง 27.8 กม./ลิตร เลยทีเดียวเหมาะมากสำหรับสภาพการจราจรที่ต้องออกตัว-หยุดบ่อยครั้งในเมืองใหญ่ของไทยและผู้บริโภคที่เน้นการประหยัดน้ำมัน และคนที่เน้นเรื่องประหยัดน้ำมันเป็นหลัก ตัวรถมาพร้อมเทคโนโลยี Earth Dreams ของฮอนด้าที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพเครื่องยนต์และลดน้ำหนักตัวรถ ทำให้ทั้งประหยัดและยังเร่งแซงได้ดี แม้อยู่ในอากาศร้อนๆ แบบไทยๆ แอร์ก็ถูกปรับแต่งพิเศษให้เย็นสบายแต่ไม่ทำให้น้ำมันพุ่งจนน่าตกใจ สำหรับคนที่ต้องเจอรถติดในกรุงเทพฯ บ่อยๆ ระบบสตาร์ท-สต็อปรอบเดินเบาของ City Hatchback ช่วยลดการใช้เชื้อเพลิงที่ไม่จำเป็นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ที่สำคัญนอกจากจะประหยัดแล้ว ยังมีพื้นที่เก็บของที่จัดเต็มและขนาดตัวรถกะทัดรัดเหมาะกับซอยแคบๆ ในไทย ถือเป็นตัวเลือกชั้นดีสำหรับคนเมือง ส่วนเรื่องอัตราสิ้นเปลืองจริงอาจแตกต่างกันไปตามสไตล์การขับ สภาพถนน และน้ำหนักบรรทุก ควรเข้าศูนย์ตามกำหนดและเช็คลมยางสม่ำเสมอเพื่อประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันที่ดีที่สุด
  • รถยอดนิยม

  • รุ่นปีรถยนต์

  • เปรียบเทียบรถยนต์

  • รูปภาพรถ

ข้อดี

ออกแบบทันสมัยและหล่อ
ตัวถังรถกว้างขวางสบาย มีฟังก์ชันที่หลากหลายมากขึ้น

ข้อเสีย

เครื่องยนต์รู้สึกเฉยๆเมื่อสปีดต่ำ

Q&A ล่าสุด

Q
2022 CR-V เป็นรถที่ดีหรือไม่?
รถ CR-V รุ่นปี 2022 เป็น SUV ที่ตอบโจทย์การใช้งานในครอบครัวได้ดีทุกด้าน มาพร้อมเครื่องยนต์เทอร์โบ 1.5T ที่ให้กำลังขับเคลื่อนแรงแต่ยังประหยัดน้ำมัน คู่กับเกียร์ CVT ที่ทำงานลื่นไหล ทำให้การขับขี่ในชีวิตประจำวันนุ่มนวลและสบายๆ ด้านพื้นที่ภายในยังคงเป็นจุดแข็งของ CR-V ซีรีส์ โดยมีระยะขาที่กว้างขวางสำหรับผู้โดยสารแถวหลัง และยังมีพื้นที่เก็บสัมภาระหลังท้ายที่ใหญ่เพียงพอต่อการเดินทางแบบครอบครัว ในส่วนของอุปกรณ์ความปลอดภัยก็มีระบบ Honda SENSING ที่รวมฟังก์ชันช่วยขับขี่อย่าง Adaptive Cruise Control และ Lane Keeping Assist ช่วยเพิ่มความมั่นใจในการเดินทาง สำหรับสภาพถนนไทยนั้นระยะล่างตัวถังสูงเพียงพอต่อการใช้งานทั่วไป และระบบแอร์ก็เย็นฉ่ำเหมาะกับอากาศร้อนแบบไทย แค่จุดนิดนึงตรงที่วัสดุแผงคอนโซลบางส่วนยังเป็นพลาสติกแข็ง และเสียงอยู่ในระดับปานกลางในระดับเดียวกันของรถระดับเดียวกัน แต่ข้อดีคือค่าบำรุงรักษาไม่แพง อะไหล่ก็หาง่าย แถมยังขายต่อได้ราคาดี ถ้ามีงบประมาณเหลือแนะนำให้เลือกรุ่น Hybrid จะยิ่งช่วยประหยัดน้ำมันในเมืองได้มากขึ้น สรุปแล้ว CR-V 2022 นี่เป็นตัวเลือกที่น่าจับตามอง แนะนำให้ลองทดลองขับดูก่อนเพื่อเช็คความชอบส่วนตัวในเรื่องการตั้งค่าสปริง
Q
คุณควรจ่ายเท่าไหร่สำหรับรถ 2022 CR-V Hybrid?
ราคาที่เหมาะสมสำหรับ Honda CR-V Hybrid รุ่นปี 2022 จะอยู่ที่ประมาณ 1.2-1.5 ล้านบาท ขึ้นอยู่กับระดับเครื่องแต่ง รายละเอียดการใช้งาน และสภาพรถ โดยถ้าเป็นรถใหม่แนะนำให้เช็คโปรโมชั่นจากตัวแทนจำหน่ายหรือราคามาตรฐานจากช่องทางรถมือสองรับประกันคุณภาพจาก Honda โดยตรง รุ่นนี้ใช้ระบบไฮบริด i-MMD ของ Honda ที่ประหยัดน้ำมันเพียง 4.5 ลิตร/100 กม. เหมาะมากสำหรับขับในเมืองที่รถติด ค่าดูแลรักษาไม่ต่างจากรุ่นน้ำมันปกติ แต่ต้องระวังเรื่องระยะเวลาการรับประกันแบตเตอรี่ที่มักจะอยู่ที่ 5-10 ปี ถ้าเทียบกับคู่แข่งอย่าง Toyota RAV4 Hybrid รุ่นปีเดียวกันอาจจะแพงกว่าเล็กน้อยประมาณ 5-10% ส่วนสีที่คนไทยนิยมอย่างสีขาวหรือสีเทาเมทัลลิกจะช่วยให้รถทรงตัวดีในเรื่องมูลค่าค้างคลัง แนะนำให้ตรวจสอบประวัติการบริการจากฮอนด้าก่อนซื้อ โดยเฉพาะประวัติการลุยน้ำในช่วงฤดูฝนเพราะระบบไฮบริดต้องการการป้องกันวงจรไฟฟ้าที่ดีเป็นพิเศษ ถ้าต้องการประหยัดงบประมาณอาจจะมองหารุ่นปี 2020 ที่ราคาถูกกว่า 15-20% แต่ต้องทำความเข้าใจว่าระบบ i-MMD รุ่นที่ 2 จะตอบสนองเรื่องกำลังขับต่างไปเล็กน้อย
Q
เครื่องยนต์ของ Honda CR-V ปี 2022 เป็นแบบไหน?
รถ Honda CR-V รุ่นปี 2022 มาพร้อมเครื่องยนต์เทอร์โบ 1.5 ลิตร 4 สูบ ให้กำลังสูงสุดถึง 193 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 243 นิวตันเมตร คู่กับเกียร์ CVT ที่ทำงานลื่นไหล ชุดขับเคลื่อนนี้ทั้งประหยัดน้ำมันและให้พลังสมรรถนะสูง เหมาะกับการขับขี่ทั้งในเมืองและเดินทางไกล เครื่องยนต์นี้ใช้เทคโนโลยี VTEC ของ Honda ที่พัฒนาการทำงานของวาล์วให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ช่วยให้การเผาไหม้สมบูรณ์ขึ้น ลดทั้งการสิ้นเปลืองน้ำมันและมลพิษ ตอบโจทย์เทรนด์รักษ์สิ่งแวดล้อมในปัจจุบัน โดยเฉพาะในตลาดไทยที่เครื่องยนต์นี้ทำงานได้ดีแม้ในสภาพอากาศร้อนและถนนหลากหลายภูมิประเทศ ทั้งถนนติดขัดในกรุงเทพฯ หรือเส้นทางคดเคี้ยวในเชียงใหม่ก็ขับสบาย นอกจากนี้ CR-V ยังมีรุ่นไฮบริดที่ผสานเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร 4 สูบกับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ให้กำลังรวมสูงถึง 215 แรงม้า ประหยัดน้ำมันยิ่งขึ้นและเงียบกว่า เป็นอีกตัวเลือกสำหรับคนที่ใส่ใจเรื่องสิ่งแวดล้อมและประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง
Q
2022 CR-V เหมาะสมสำหรับการใช้งานในหิมะหรือไม่?
รถ Honda CR-V รุ่นปี 2022 แสดงสมรรถนะพอใช้ได้บนถนนหิมะ ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ Real Time AWD ที่มากับตัวรถมาตรฐานสามารถกระจายแรงบิดไปยังล้อหน้าและล้อหลังได้อัตโนมัติ เมื่อทำงานร่วมกับโหมดขับขี่บนหิมะจะช่วยเพิ่มแรงยึดเกาะบนพื้นผิวลื่นได้ระดับหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ยางที่ติดตั้งมาจากโรงงานนั้นออกแบบมาสำหรับการใช้งานบนถนนทั่วไปมากกว่า ดังนั้นหากคุณต้องเดินทางไปยังพื้นที่ภูเขาทางภาคเหนือหรือเขตอากาศหนาวบ่อยๆ แนะนำให้เปลี่ยนไปใช้ยางฤดูหนาวหรือติดโซ่ล้อเพื่อความปลอดภัยที่ดียิ่งขึ้น แม้ว่าพื้นที่กรุงเทพฯ จะมีหิมะตกน้อย แต่สภาพถนนที่เปียกลื่นในช่วงฤดูฝนที่ยาวนานก็คล้ายกัน CR-V ด้วยระยะความสูงจากพื้นรถ 187 มม. และระบบควบคุมเสถียรภาพอิเล็กทรอนิกส์จะช่วยให้รถผ่านเส้นทางที่มีน้ำท่วมขังในฤดูฝนได้อย่างมั่นคง เมื่อเทียบกับรถในระดับเดียวกันแล้ว ซูบารุ ฟอเรสเตอร์ที่มีระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบเต็มเวลาหรือโตโยต้า RAV4 ที่มีระบบ Dynamic Torque Vectoring AWD อาจทำได้ดีกว่าในสภาพถนนสุดขั้ว แต่ CR-V ยังคงเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าสำหรับการขับขี่ในเมืองทั่วไปด้วยระบบช่วงล่างที่ปรับแต่งมาเพื่อความนุ่มนวลเป็นพิเศษ ข้อควรระวังอีกอย่างสำหรับการใช้งานในพื้นที่อากาศหนาวคือความหนืดของน้ำมันเครื่องในอุณหภูมิต่ำ บางเจ้าของรถอาจเปลี่ยนไปใช้น้ำมันเครื่องเกรด 0W-20 เพื่อให้เครื่องยนต์สตาร์ทในอากาศเย็นได้สะดวกขึ้น ซึ่งรายละเอียดเหล่านี้สำคัญมากโดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ใช้งานรถในพื้นที่สูงอย่างเชียงใหม่
Q
"อัตราประหยัดน้ำมันของ Honda CR-V ปี 2022 เป็นเท่าไหร่?"
รถ Honda CR-V รุ่นปี 2022 มีประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันที่ยอดเยี่ยม โดยข้อมูลจะแตกต่างกันไปตามระบบขับเคลื่อนและเครื่องยนต์ รุ่นเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 1.5T ระบบขับเคลื่อนล้อหน้าจะมีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงรวมประมาณ 6.4-6.7 ลิตร/100 กม. ส่วนรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อจะสิ้นเปลืองมากกว่าหน่อยที่ 6.7-7.0 ลิตร/100 กม. ส่วนรุ่นไฮบริด e:HEV จะประหยัดน้ำมันที่สุด โดยมีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงรวมเพียง 4.7-5.0 ลิตร/100 กม. เหมาะมากสำหรับการขับขี่ในเมืองที่รถติดหรือการเดินทางไกล ประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันของ CR-V นี้มาจากเทคโนโลยี Earth Dreams ของฮอนด้าที่รวมถึงเครื่องยนต์เทอร์โบประสิทธิภาพสูงและระบบไฮบริดที่ได้รับการปรับแต่งเป็นพิเศษ รวมถึงเกียร์ CVT ที่ทำงานลื่นไหลก็ช่วยลดการสิ้นเปลืองน้ำมันได้ด้วย ในตลาดไทย CR-V มีจุดแข็งด้านประหยัดน้ำมันเมื่อเทียบกับรถ SUV รุ่นเดียวกัน โดยเฉพาะรุ่นไฮบริดที่ช่วยลดค่าใช้จ่ายได้มากในยุคที่ราคาน้ำมันสูง แนะนำให้เลือกรุ่นตามความต้องการใช้งานจริง ถ้าขับในเมืองบ่อยรุ่นไฮบริดจะคุ้มค่ากว่า ส่วนรุ่นเบนซินเหมาะสำหรับคนที่เน้นความแรงและราคาที่จับต้องได้ นอกจากนี้การดูแลรักษาเป็นประจำ เช่น เปลี่ยนไส้กรองอากาศและใช้น้ำมันเครื่องตามที่แนะนำ ก็ช่วยให้รถประหยัดน้ำมันได้ดีตลอดการใช้งาน
ดูเพิ่มเติม