Q

Honda City Hatchback ดีหรือไม่

Honda City Hatchback เป็นรถเล็กประเภทแฮทช์แบ็กที่ขายดีในตลาดไทย จุดเด่นคือขนาดตัวรถที่คล่องตัวและประหยัดน้ำมันมาก เหมาะกับสภาพการจราจรติดขัดในเมืองอย่างกรุงเทพฯ เครื่องยนต์เทอร์โบ 1.0 ลิตรให้กำลังขับขี่ที่เพียงพอ ทั้งยังตอบโจทย์การใช้ชีวิตประจำวันและความประหยัดในเวลาเดียวกัน ภายในรถออกแบบพื้นที่ใช้งานได้อย่างชาญฉลาด โดยสามารถพับเบาะหลังเพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บของได้ เหมาะทั้งสำหรับครอบครัวและวัยรุ่นที่ชอบท่องเที่ยว ในส่วนของเทคโนโลยี ตัวรถติดตั้งระบบ Honda Sensing ที่มาพร้อมฟังก์ชันความปลอดภัยต่างๆ เช่น ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติและระบบช่วยรักษาช่องทางเดินรถ ทำให้การขับขี่ปลอดภัยยิ่งขึ้น ที่ตลาดไทย ราคาของมันจัดอยู่ในระดับจับต้องได้ แถมยังได้เปรียบจากเครือข่ายบริการหลังการขายของฮอนด้าที่ครอบคลุมทั่วประเทศ ทำให้การซ่อมบำรุงสะดวกมาก อย่างไรก็ดี แม้ระบบช่วงล่างจะถูกตั้งค่าให้เน้นความนุ่มสบาย แต่เมื่อต้องเจอกับถนนสภาพไม่ดีอาจรู้สึกแข็งบ้าง และระบบกันเสียงก็ยังมีจุดที่พัฒนาต่อได้ สรุปแล้วถ้าคุณมองหารรถเมืองที่ประหยัดน้ำมัน คล่องตัว และมาจากแบรนด์น่าเชื่อถือ Honda City Hatchback ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ แนะนำให้ลองทดลองขับดูก่อนตัดสินใจซื้อจะดีที่สุด
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto

Q&A เกี่ยวข้อง

Q
อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันของ Honda City Hatchback 2021 คือเท่าไหร่?
รถ Honda City Hatchback รุ่นปี 2021 ในตลาดไทยโดดเด่นเรื่องประหยัดน้ำมันมาก ด้วยเครื่องยนต์ 1.0 ลิตร 3 สูบ เทอร์โบชาร์จ คู่กับเกียร์ CVT ที่ทางการประกาศอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงรวมอยู่ที่ประมาณ 4.3 ลิตร/100 กิโลเมตร (ตามมาตรฐานการทดสอบ ECE R101) เหมาะสมทั้งการขับขี่ในกรุงเทพฯ ที่รถติดและการเดินทางไกล รุ่นนี้ใช้เทคโนโลยี Earth Dreams ของ Honda ที่ออกแบบมาเพื่อประสิทธิภาพสูง โดยมีระบบฉีดน้ำมันตรงเข้าเครื่องยนต์และการออกแบบน้ำหนักเบาช่วยให้ประหยัดน้ำมันมากขึ้น จากประสบการณ์จริงของเจ้าของรถในไทยบอกว่าในเมืองจะสิ้นเปลืองประมาณ 5-6 ลิตร/100 กม. แต่ถ้าขับทางไกลจะลดลงเหลือไม่ถึง 4 ลิตรเลย ที่น่าสนใจคือรถรุ่นนี้ได้ประโยชน์จากนโยบาย ECO Car Phase II ของรัฐบาลไทยที่ลดภาษีให้รถประหยัดพลังงาน ส่วนการใช้งานประจำวันแนะนำให้ล้างหัวเร่งและเปลี่ยนไส้กรองอากาศของแท้อย่างสม่ำเสมอเพื่อรักษาอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันให้ดีที่สุด ถ้าเปรียบเทียบกับรถระดับเดียวกันอย่าง Toyota Yaris Ativ จะประหยัดพอๆ กันแต่การขับขี่ของซิตี้แฮทช์แบ็กจะสมรรถนะกึ่งสปอร์ตมากกว่า สำหรับคนที่ขับทางไกลบ่อยๆ ลองใช้น้ำมัน 95 จะช่วยให้การเผาไหม้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
Q
ข้อเสียของรถ Honda City Hatchback
รถยนต์ City Hatchback เป็นที่นิยมสำหรับการเดินทางในเมืองไทย ด้วยความคล่องตัวและประหยัดน้ำมันที่โดดเด่น แต่ก็มีข้อจำกัดบางประการ เช่น พื้นที่กระโปรงหลังที่ค่อนข้างเล็ก เหมาะสำหรับการช้อปปิ้งทั่วไปแต่ไม่เหมาะกับการเดินทางไกลกับครอบครัว นอกจากนี้ขนาดตัวรถที่เล็กอาจทำให้รู้สึกไม่ค่อยมั่นใจเวลาขับบนทางด่วน โดยเฉพาะบนถนนสภาพไม่ดีบางสายในไทย แม้ระบบช่วงล่างจะปรับให้แข็งเพื่อการควบคุมที่ดีขึ้น แต่ก็อาจลดความสบายในการนั่งลง ส่วนเรื่องการกันเสียงก็ถือว่าปานกลาง อาจทำให้รู้สึกเหนื่อยล้าได้ง่ายในเมืองที่การจราจรหนาแน่นอย่างกรุงเทพฯ อย่างไรก็ตามค่าบำรุงรักษารถรุ่นนี้ค่อนข้างถูก แต่ในสภาพอากาศร้อนชื้นของไทย ชิ้นส่วนพลาสติกบางส่วนอาจเสื่อมสภาพเร็วหลังใช้งานมานาน แนะนำให้ผู้สนใจพิจารณาจุดประสงค์การใช้งานจริง หากต้องบรรทุกผู้โดยสารหรือสัมภาระบ่อยๆ อาจมองหารถครอสโอเวอร์ขนาดใหญ่ขึ้นเพื่อความเหมาะสมมากกว่า
Q
Honda City Hatchback มือสองราคาเท่าไหร่?
ราคารถ Honda City Hatchback มือสองในตลาดไทยจะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น อายุรถ ระยะทาง สภาพตัวรถ และระดับอุปกรณ์ โดยทั่วไปแล้วรุ่นปี 2021-2022 จะอยู่ที่ประมาณ 5 แสนถึง 7 แสนบาท แต่ต้องตรวจสอบรายงานสภาพรถและประวัติการเซอร์วิสจริงๆ ด้วย รุ่นนี้ขายดีมากในไทยเพราะประหยัดน้ำมัน โครงสร้างภายในใช้งานได้ดี แถมศูนย์บริการฮอนด้าในไทยก็ครอบคลุม ทำให้รถมือสองขายต่อง่าย ถ้าจะซื้อแนะนำให้ตรวจสอบประวัติรถผ่านช่องทางรถมือสองรับประกันโดยฮอนด้า หรือเว็บไซต์มืออาชีพ ต้องเช็คเกียร์และเครื่องยนต์ให้ละเอียด โดยเฉพาะช่วงหน้าฝนไทยที่อาจมีปัญหาน้ำท่วม ควรตรวจสอบรอยน้ำอย่างใกล้ชิด ถ้าอยากประหยัดกว่านี้ อาจมองรถญี่ปุ่นรุ่นอื่นอย่างโตโยต้ายาริสหรือมาสด้า 2 แต่ต้องยอมรับว่า Honda City Hatchback แบ็ครุ่นไฮบริดนั้นประหยัดน้ำมันกว่า เหมาะกับการขับขี่ในเมืองสุดๆ
Q
Honda City Hatchback มีรุ่น Hybrid หรือไม่?
ปัจจุบัน Honda City Hatchback ในตลาดไทยยังไม่มีรุ่น Hybrid ตัวนี้เน้นเครื่องยนต์เบนซินเป็นหลัก พ่วงมาด้วยเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร i-VTEC ที่ตอบโจทย์ทั้งประหยัดน้ำมันและแรงขับ ตลาดไทยเริ่มมีความต้องการรถ Hybrid เพิ่มขึ้น ซึ่งฮอนด้าเองก็มีรุ่น Hybrid อื่นๆ ในไทยแล้ว เช่น Honda Civic และ Honda HR-V รุ่น Hybrid ในอนาคตอาจมีการนำเทคโนโลยีนี้มาต่อยอดในโมเดลอื่นๆ อีก เทคโนโลยี Hybrid ที่ผสมผสานระหว่างมอเตอร์ไฟฟ้าและเครื่องยนต์ช่วยลดทั้งการสิ้นเปลืองน้ำมันและมลพิษได้ดี เหมาะกับสภาพการจราจรติดขัดในกรุงเทพฯ ถ้าสนใจรถรักษ์สิ่งแวดล้อมประหยัดน้ำมัน ลองดูรุ่น Hybrid ที่มีในตลาดหรือรออัปเดตจากฮอนด้าก็ได้ ส่วนเรื่องภาษี รัฐบาลไทยมีสนับสนุนรถพลังงานสะอาด ทั้ง Hybrid และ EV ก็เป็นตัวเลือกน่าสนใจ แนะนำให้ตรวจสอบข้อมูลล่าสุดทางเว็บไซต์ฮอนด้าไทยหรือติดต่อโชว์รูมก่อนตัดสินใจซื้อ
Q
Honda City Hatchback มีโปรโมชั่นอะไรบ้าง?
ตอนนี้ Honda City Hatchback ในตลาดไทยมีโปรโมชั่นหลากหลายรูปแบบให้เลือก ทั้งส่วนลดเงินสด แผนดาวน์ต่ำ ผ่อนสบายด้วยดอกเบี้ยพิเศษ หรือบริการฟรีเช็คระยะ ซึ่งรายละเอียดโปรโมชั่นอาจแตกต่างกันไปในแต่ละช่วงเวลาและพื้นที่ แนะนำให้ติดต่อตัวแทนจำหน่ายในพื้นที่โดยตรงเพื่อสอบถามข้อมูลล่าสุด รุ่นนี้เป็นที่นิยมมากในไทยเพราะขนาดคันที่คล่องตัว ประหยัดน้ำมัน เหมาะกับการขับขี่ในเมือง เครื่องยนต์ 1.0 ลิตรเทอร์โบชาร์จให้ทั้งแรงและประหยัด แถมยังมาพร้อม Honda Sensing ชุดเทคโนโลยีความปลอดภัยที่ทันสมัยที่สุดในระดับเดียวกัน ส่วนในสภาพอากาศร้อนๆ ของไทย ระบบแอร์และกระจกกัน UV ก็ช่วยให้ความรู้สึกสบายตลอดการเดินทาง นอกจากโปรโมชั่นแล้ว ควรสอบถามตัวแทนจำหน่ายเกี่ยวกับบริการเสริมเช่น ฟรีฟิล์มกรองแสง หรือการรับประกันที่ขยายระยะเวลา เพื่อเพิ่มความคุ้มค่าและประสบการณ์การใช้งานให้ดียิ่งขึ้น
Q
Honda City Hatchback รองรับผู้โดยสารกี่คน?
Honda City Hatchback คือรถคันเล็กแบบแฮทช์แบ็กที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์คนเมืองในไทยมากๆ โครงสร้างมาตรฐานเป็นแบบ 5 ที่นั่ง ให้พื้นที่สบายๆ สำหรับผู้โดยสาร 5 คน พอดีสำหรับครอบครัวใช้ชีวิตประจำวันหรือออกทริปกับเพื่อน โครงสร้างภายในถูกออกแบบมาอย่างดี โดยเฉพาะพื้นที่ขาที่นั่งหลังที่กว้างขวาง แม้เดินทางไกลก็ยังรู้สึกสบาย ส่วนกระโปรงหลังจุได้ประมาณ 289 ลิตร เพียงพอสำหรับของใช้เวลาช้อปปิ้งหรือทริปสั้นๆ ในสภาพอากาศร้อนๆ ของไทย รถรุ่นนี้ยังติดตั้งระบบแอร์เย็นฉ่ำและช่องลมหลังที่นั่ง ทำให้ทุกคนในรถรู้สึกเย็นสบาย แถมยังมาพร้อมระบบ Honda SENSING ช่วยเพิ่มความปลอดภัย เช่น ระบบเบรกอัตโนมัติเมื่อเจอวัตถุข้างหน้าและระบบช่วยควบคุมเลน เหมาะมากสำหรับการขับในเมืองอย่างกรุงเทพฯ ที่การจราจรค่อนข้างติดขัด รถยนต์รุ่นนี้ยังมีตัวเลือกการประหยัดน้ำมันที่ยืดหยุ่น ซึ่งรวมถึงรุ่นเครื่องยนต์เทอร์โบชาร์จ 1.0 ลิตร และรุ่นไฮบริด 1.5 ลิตร ซึ่งสามารถปรับให้เข้ากับความต้องการที่แตกต่างกันของผู้บริโภคชาวไทย ทั้งด้านการประหยัดพลังงานและสมรรถนะ นับเป็นรุ่นที่ลงตัวที่ผสานการใช้งานจริงและเทคโนโลยีเข้าไว้ด้วยกัน
Q
Honda City Hatchback มีระบบความปลอดภัยอะไรบ้าง?
รถ Honda City Hatchback ในตลาดไทยมาพร้อมกับระบบความปลอดภัยครบครัน ทั้งระบบช่วยขับขี่อัจฉริยะ Honda SENSING ที่รวมฟังก์ชันสำคัญอย่าง ระบบเบรกป้องกันการปะทะ (CMBS) ระบบช่วยรักษาเลน (LKAS) ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (ACC) และระบบเตือนเมื่อออกนอกเลน (LDW) นอกจากนี้ยังมีถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง ระบบช่วยทรงตัว (VSA) และกล้องถอยหลัง ซึ่งเป็นระบบความปลอดภัยทั้งแบบแอคทีฟและพาสซีฟที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ประจำวันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในสภาพการจราจรที่คับคั่งของเมืองไทย ระบบเหล่านี้ใช้งานได้จริงมากๆ เช่น CMBS จะช่วยลดความเสี่ยงการชนท้ายในเส้นทางรถติด ส่วน LKAS จะช่วยให้ผู้ขับควบคุมรถให้อยู่กลางเลนได้ง่ายขึ้นโดยเฉพาะบนทางด่วน แถมยังมาพร้อมกับโครงสร้างตัวรถ ACE ที่ออกแบบมาเพื่อดูดซับแรงกระแทกได้ดียิ่งขึ้น สำหรับคนไทยแล้ว การเลือกรถที่มีระบบความปลอดภัยครบวงจรเป็นเรื่องสำคัญ เพราะทั้งสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงบ่อยและสภาพการจราจรที่ซับซ้อน ระบบความปลอดภัยที่ดีไม่เพียงแต่ลดโอกาสเกิดอุบัติเหตุ แต่ยังช่วยปกป้องผู้โดยสารได้มากที่สุดหากเกิดเหตุไม่คาดคิดขึ้น
Q
Honda City Hatchback มีสีอะไรให้เลือกบ้าง?
Honda City Hatchback ในตลาดไทยมีสีให้เลือกหลายแบบ ทั้งโทนสีเมทัลลิกที่ดูทันสมัยและโทนสีคลาสสิก โดยสีที่เลือกได้จะมีคริสตัลแบล็ค แพลตินัมไวท์ เมทัลลิกซิลเวอร์ เรดเพิร์ล และสีน้ำเงิน เป็นต้น สีเหล่านี้ไม่เพียงตอบโจทย์รสนิยมของกลุ่มวัยรุ่น แต่ยังเหมาะกับความต้องการเฉพาะตัวของผู้ใช้แต่ละคน ในสภาพอากาศไทยที่ทั้งร้อนและฝนชุก สีรถทุกสีผ่านการเคลือบพิเศษเพื่อให้ทนทานต่อสภาพอากาศและป้องกันรังสียูวีได้ดี แถมฮอนด้ายังมักออกรุ่นสีลิมิเต็ดเอดิชันตามเทรนด์ตลาดเพื่อดึงดูดลูกค้าเพิ่มอีกด้วย เวลาเลือกสีนอกจากจะดูที่ความชอบส่วนตัวแล้ว ก็ควรคำนึงถึงสภาพการใช้จริงในไทยด้วย เช่น สีอ่อนจะทนความร้อนและดูแลง่ายในแดดแรงๆ ส่วนสีเข้มจะให้ความรู้สึกคลาสสิกและหรูหรากว่า นอกจากนี้ด้วยดีไซน์ตัวรถของ Honda City Hatchback ที่ออกแนวสปอร์ต ถ้าเลือกสีสดๆ จะยิ่งช่วยเน้นภาพลักษณ์ความYoungได้ดี ไม่ว่าจะเลือกสีไหน รถคันนี้ก็เข้ากับบรรยากาศถนนไทยและไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างแนบเนียน
Q
Honda City Hatchback ภายในกว้างขวางไหม?
Honda City Hatchback เป็นรุ่นที่ออกแบบมาสำหรับการขับขี่ในเมืองด้วยขนาดคอมแพค แต่โดดเด่นในเรื่องความคล่องตัวและการใช้พื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นที่สนใจในตลาดไทย ขนาดตัวถังอยู่ที่ 4,345 มม. × 1,748 มม. × 1,488 มม. ระยะฐานล้อ 2,589 มม. แม้จะจัดอยู่ในกลุ่มรถขนาดเล็ก แต่ด้วยแนวคิด MM ของฮอนด้า (ลดพื้นที่เครื่องยนต์ให้น้อยสุด ขยายพื้นที่ผู้โดยสารให้มากสุด) ทำให้การจัดวางภายในถูกออกแบบมาอย่างเหมาะสม พื้นที่ส่วนหัวและขาหน้าด้านหน้าเพียงพอ ส่วนพื้นที่ขาหลังก็กว้างขวางเมื่อเทียบกับรถในระดับเดียวกัน เหมาะกับการเดินทางระยะสั้นของครอบครัวหรือการขับขี่ในเมืองแบบที่นิยมในไทย ความจุท้ายรถอยู่ที่ประมาณ 289 ลิตร (เมื่อไม่พับเบาะหลัง) เพียงพอต่อการใช้งานทั่วไป แต่หากพับเบาะหลังก็จะเพิ่มพื้นที่เก็บของได้อีก ในสภาพอากาศร้อนชื้นของไทย ระบบแอร์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และในรุ่นท็อปยังมีช่องลมแอร์ด้านหลังเพื่อเพิ่มความสบายให้ผู้โดยสาร อย่างไรก็ตาม สำหรับบางซอยแคบหรือที่จอดรถแน่นในไทย ความกว้างระดับ 1.7 เมตรของ City Hatchback อาจได้เปรียบเรื่องความคล่องตัวเมื่อเทียบกับ SUV ขนาดใหญ่ แต่หากต้องใช้งานแบบเต็มความจุ 5 คนเป็นประจำสำหรับการเดินทางไกล แนะนำให้ทดลองนั่งจริงโดยเฉพาะพื้นที่ด้านกว้างของเบาะหลัง ในตลาดรถระดับเดียวกันยังมีรุ่นที่คล้ายกันอย่าง Toyota Yaris Ativ ที่ผู้ซื้อสามารถเปรียบเทียบตามความชอบในการออกแบบและความต้องการฟังก์ชั่นต่างๆ ได้
Q
Honda City Hatchback ประหยัดน้ำมันเท่าไร?
Honda City Hatchback ในไทยนั้นประหยัดน้ำมันสุดๆ รุ่นเครื่องยนต์ 1.0 ลิตรเทอร์โบทำสถิติเฉลี่ยประมาณ 23.8 กม./ลิตร จากการทดสอบมาตรฐานของไทย ส่วนรุ่นไฮบริดนั้นยิ่งคุ้มค่ากว่า ทำได้ถึง 27.8 กม./ลิตร เลยทีเดียวเหมาะมากสำหรับสภาพการจราจรที่ต้องออกตัว-หยุดบ่อยครั้งในเมืองใหญ่ของไทยและผู้บริโภคที่เน้นการประหยัดน้ำมัน และคนที่เน้นเรื่องประหยัดน้ำมันเป็นหลัก ตัวรถมาพร้อมเทคโนโลยี Earth Dreams ของฮอนด้าที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพเครื่องยนต์และลดน้ำหนักตัวรถ ทำให้ทั้งประหยัดและยังเร่งแซงได้ดี แม้อยู่ในอากาศร้อนๆ แบบไทยๆ แอร์ก็ถูกปรับแต่งพิเศษให้เย็นสบายแต่ไม่ทำให้น้ำมันพุ่งจนน่าตกใจ สำหรับคนที่ต้องเจอรถติดในกรุงเทพฯ บ่อยๆ ระบบสตาร์ท-สต็อปรอบเดินเบาของ City Hatchback ช่วยลดการใช้เชื้อเพลิงที่ไม่จำเป็นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ที่สำคัญนอกจากจะประหยัดแล้ว ยังมีพื้นที่เก็บของที่จัดเต็มและขนาดตัวรถกะทัดรัดเหมาะกับซอยแคบๆ ในไทย ถือเป็นตัวเลือกชั้นดีสำหรับคนเมือง ส่วนเรื่องอัตราสิ้นเปลืองจริงอาจแตกต่างกันไปตามสไตล์การขับ สภาพถนน และน้ำหนักบรรทุก ควรเข้าศูนย์ตามกำหนดและเช็คลมยางสม่ำเสมอเพื่อประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันที่ดีที่สุด

ข้อดี

ออกแบบทันสมัยและหล่อ
ตัวถังรถกว้างขวางสบาย มีฟังก์ชันที่หลากหลายมากขึ้น

ข้อเสีย

เครื่องยนต์รู้สึกเฉยๆเมื่อสปีดต่ำ

Q&A ล่าสุด

Q
2021 Ford Ranger พร้อมฟังก์ชันที่นั่งอุ่นหรือไม่?
สำหรับ Ford Ranger รุ่นปี 2021 ในบางรุ่นระดับสูงจะมีฟังก์ชันอุ่นเบาะหน้า โดยรายละเอียดการติดตั้งจะขึ้นอยู่กับรุ่นและแพ็คเกจเสริม เช่น รุ่น Wildtrak หรือ Raptor มักจะมีฟีเจอร์นี้ให้ ส่วนรุ่นพื้นฐานอย่าง XL โดยทั่วไปจะไม่ติดตั้งมาให้ ฟังก์ชันอุ่นเบาะนี้มีประโยชน์มากโดยเฉพาะเมื่อขับขี่ในพื้นที่ภูเขาที่มีอุณหภูมิเปลี่ยนแปลงบ่อย หรือในช่วงหน้าหนาว เพราะจะช่วยเพิ่มความสบายได้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะเบาะหนังที่มักจะเย็นจัดเมื่ออุณหภูมิต่ำ ถ้าสนใจฟังก์ชันนี้ แนะนำให้ตรวจสอบรายการอุปกรณ์กับตัวแทนจำหน่ายก่อนซื้อ หรืออาจพิจารณาติดตั้งอุปกรณ์เสริมของทางหลังการขาย ปัจจุบันรถปิคอัพรุ่นอื่นๆ ในระดับเดียวกันอย่าง Toyota Hilux หรือ Isuzu D-MAX รุ่นสูงก็เริ่มนำฟังก์ชันอุ่นเบาะและยังมีระบบระบายอากาศมาใช้ เพื่อตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลาย อย่างไรก็ตาม การติดตั้งอุปกรณ์เสริมเกี่ยวกับระบบไฟฟ้าเหล่านี้ควรเลือกผู้ให้บริการที่ได้มาตรฐาน เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่อาจส่งผลต่อการรับประกันหรือความปลอดภัยของระบบไฟฟ้าในรถ
Q
วิธีเปลี่ยน Ford Ranger ปี 2021 เป็นระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ (4WD)
หากต้องการเปลี่ยนโหมดขับเคลื่อนของ Ford Ranger รุ่นปี 2021 เป็นระบบสี่ล้อ ขั้นแรกต้องมั่นใจว่ารถอยู่ในสภาพหยุดนิ่งหรือเคลื่อนที่ด้วยความเร็วต่ำ (แนะนำไม่เกิน 5 กม./ชม.) จากนั้นเลือกโหมด 4H (สี่ล้อความเร็วสูง) หรือ 4L (สี่ล้อความเร็วต่ำ) ตามความต้องการ หากขับบนถนนลื่นหรือเส้นทางออฟโรดแบบเบาๆ ให้ใช้ปุ่มหมุนหรือกดเปลี่ยนจากโหมด 2H เป็น 4H ระบบจะกระจายแรงบิดอัตโนมัติ แต่หากเจอทางชัน โคลน หรือภูมิประเทศที่ซับซ้อน ต้องจอดรถเข้าเกียร์ว่าง (รถเกียร์ธรรมดาต้องเหยียบคลัทช์) แล้วหมุนปุ่มไปที่ 4L รอจนไฟแสดงบนแผงคอนโซลติดสม่ำเสมอจึงจะใช้แรงบิดสูงได้ ข้อควรระวังคือโหมด 4H ใช้บนถนนปกติได้ชั่วคราว แต่ 4L สำหรับสภาพรุนแรงเท่านั้นและไม่ควรเกิน 40 กม./ชม. การใช้ระบบสี่ล้อบนถนนแห้งนานๆ อาจทำให้ระบบส่งกำลังเสียหาย นอกจากนี้รถยังมีระบบ Terrain Management ที่ปรับการตอบสนองคันเร่งและจุดเปลี่ยนเกียร์อัตโนมัติในโหมดทรายหรือโคลน ควรเลือกใช้ให้เหมาะกับสภาพถนน การบำรุงรักษารายวันควรตรวจสอบสภาพของเหลวกรณีการโอนอย่างสม่ำเสมอ ก่อนฤดูฝนควรทดสอบว่าฟังก์ชั่นของไดรฟ์สี่เป็นปกติหรือไม่ การขับขี่บนภูเขาสามารถเปลี่ยนโหมดล่วงหน้าเพื่อเพิ่มความปลอดภัย
Q
รถ Ford Ranger ปี 2021 มีระบบสตาร์ทระยะไกลหรือไม่?
รถ Ford Ranger รุ่นปี 2021 บางรุ่นแบบท็อปๆ นั้นมีฟีเจอร์ Remote Start หรือระบบสตาร์ทรถจากระยะไกลให้ด้วย ฟังก์ชันนี้ส่วนใหญ่จะต้องมีระบบ Ford SYNC และใช้แอป FordPass ในการควบคุม ทำให้เราสามารถเปิดเครื่องรถล่วงหน้าเพื่อใช้งานแอร์ในวันที่อากาศร้อนจัด หรือวอร์มเครื่องในหน้าหนาวได้สะดวกมาก โดยเฉพาะเหมาะกับสภาพอากาศเมืองไทยที่ร้อนตลอดปี แต่อย่าลืมว่าระยะทำงานของระบบนี้จะอยู่ที่ประมาณ 60 เมตร และเครื่องยนต์จะดับอัตโนมัติหลังจากทำงานครบ 10 นาทีเพื่อความปลอดภัย นอกจากนี้ระบบ SYNC ยังมีฟีเจอร์เช็คสถานะรถ ตำแหน่งรถ และอื่นๆ อีกด้วย ตอนนี้ฟีเจอร์แบบนี้เริ่มเป็นมาตรฐานในรถปิคอัพแล้ว รุ่นคู่แข่งอย่างโตโยต้าและญี่ปุ่นอื่นๆ ก็มีบริการคล้ายๆ กัน สำหรับใครที่กำลังมองหารถ Ranger มือสอง แนะนำให้เช็คที่ปุ่มด้านซ้ายของพวงมาลัยหรือในเมนูหน้าจอว่ามีฟังก์ชันนี้หรือไม่ เพราะรุ่นระดับล่างอาจต้องติดตั้งอุปกรณ์เพิ่มเติมครับ ทุกวันนี้แบรนด์รถแข่งกันพัฒนาแอปควบคุมรถผ่านมือถือ แถมในอนาคตอาจใช้สมาร์ทวอทช์หรือสั่งงานผ่านเสียงก็ได้เหมือนกัน
Q
Ford Ranger รุ่นปี 2021 อยู่ในเจเนอเรชันไหน?
Ford Ranger รุ่นปี 2021 นั้นเป็นรถยุคที่ 3 แพลตฟอร์ม T6 ที่เปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2011 และผ่านการอัพเกรดหลายครั้ง ล่าสุดในปี 2021 นี้ได้ติดตั้งเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 2.0 ลิตร 4 สูบแบบอัพเกรด (ทั้งแบบเทอร์โบเดี่ยวและเทอร์โบคู่) ที่ให้กำลังสูงสุดถึง 213 แรงม้า คู่กับเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด พร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออัจฉริยะและฟีเจอร์ช่วยขับขี่ เช่น ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติและระบบรักษาเลน ในตลาดไทย Ranger ได้ใจคนทำงานด้วยความสามารถในการขนส่งและสมรรถนะออฟโรดที่โดดเด่น โดยเฉพาะในภาคเกษตรกรรมและก่อสร้าง ที่สำคัญยังแต่งเพิ่มได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นโครงกันกระแทกหลังกระบะหรือชุดโช้คอัพออฟโรด ส่วนคู่แข่งอย่าง ISUZU D-MAX และ Toyota Hilux นั้น Ranger มีจุดแข็งที่ความนุ่มนวลบนถนนและห้องโดยสารที่ทันสมัยกว่า พร้อมหน้าจอระบบ SYNC 4 ที่ใช้งานง่าย อย่างไรก็ตาม ในสภาพอากาศร้อนชื้น แนะนำให้ตรวจสอบฟิลเตอร์น้ำมันดีเซลและระบบระบายความร้อนเป็นประจำ ส่วนช่วงฝนถ้าจะลุยออฟโรดควรติดตั้งท่อไอดีแบบมาตรฐานเพื่อยืดอายุเครื่องยนต์
Q
เครื่องยนต์ของ Ford Ranger 2021 คืออะไร?
รถ Ford Ranger รุ่นปี 2021 มีเครื่องยนต์หลายแบบให้เลือก ส่วนใหญ่เป็นเครื่องดีเซล บางรุ่นติดตั้งเครื่องยนต์ขนาด 2,198 ซีซี (ย่อว่า 2.2L) 4 สูบ ในขณะที่บางรุ่นใช้เครื่องยนต์ขนาด 1,998 ซีซี (ย่อว่า 2.0L) ก็เป็น 4 สูบเหมือนกัน เครื่องยนต์เหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นแบบเทอร์โบชาร์จ ให้กำลังขับเคลื่อนที่แตกต่างกันไป เพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายของลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานในชีวิตประจำวันหรือการขับขี่บนถนนสภาพซับซ้อนก็ตาม พวกมันสามารถตอบสนองความต้องการเรื่องกำลังได้ในระดับหนึ่ง
ดูเพิ่มเติม