Q

Honda City Hatchback ดีหรือไม่

Honda City Hatchback เป็นรถเล็กประเภทแฮทช์แบ็กที่ขายดีในตลาดไทย จุดเด่นคือขนาดตัวรถที่คล่องตัวและประหยัดน้ำมันมาก เหมาะกับสภาพการจราจรติดขัดในเมืองอย่างกรุงเทพฯ เครื่องยนต์เทอร์โบ 1.0 ลิตรให้กำลังขับขี่ที่เพียงพอ ทั้งยังตอบโจทย์การใช้ชีวิตประจำวันและความประหยัดในเวลาเดียวกัน ภายในรถออกแบบพื้นที่ใช้งานได้อย่างชาญฉลาด โดยสามารถพับเบาะหลังเพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บของได้ เหมาะทั้งสำหรับครอบครัวและวัยรุ่นที่ชอบท่องเที่ยว ในส่วนของเทคโนโลยี ตัวรถติดตั้งระบบ Honda Sensing ที่มาพร้อมฟังก์ชันความปลอดภัยต่างๆ เช่น ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติและระบบช่วยรักษาช่องทางเดินรถ ทำให้การขับขี่ปลอดภัยยิ่งขึ้น ที่ตลาดไทย ราคาของมันจัดอยู่ในระดับจับต้องได้ แถมยังได้เปรียบจากเครือข่ายบริการหลังการขายของฮอนด้าที่ครอบคลุมทั่วประเทศ ทำให้การซ่อมบำรุงสะดวกมาก อย่างไรก็ดี แม้ระบบช่วงล่างจะถูกตั้งค่าให้เน้นความนุ่มสบาย แต่เมื่อต้องเจอกับถนนสภาพไม่ดีอาจรู้สึกแข็งบ้าง และระบบกันเสียงก็ยังมีจุดที่พัฒนาต่อได้ สรุปแล้วถ้าคุณมองหารรถเมืองที่ประหยัดน้ำมัน คล่องตัว และมาจากแบรนด์น่าเชื่อถือ Honda City Hatchback ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ แนะนำให้ลองทดลองขับดูก่อนตัดสินใจซื้อจะดีที่สุด
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto

Q&A เกี่ยวข้อง

Q
อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันของ Honda City Hatchback 2021 คือเท่าไหร่?
รถ Honda City Hatchback รุ่นปี 2021 ในตลาดไทยโดดเด่นเรื่องประหยัดน้ำมันมาก ด้วยเครื่องยนต์ 1.0 ลิตร 3 สูบ เทอร์โบชาร์จ คู่กับเกียร์ CVT ที่ทางการประกาศอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงรวมอยู่ที่ประมาณ 4.3 ลิตร/100 กิโลเมตร (ตามมาตรฐานการทดสอบ ECE R101) เหมาะสมทั้งการขับขี่ในกรุงเทพฯ ที่รถติดและการเดินทางไกล รุ่นนี้ใช้เทคโนโลยี Earth Dreams ของ Honda ที่ออกแบบมาเพื่อประสิทธิภาพสูง โดยมีระบบฉีดน้ำมันตรงเข้าเครื่องยนต์และการออกแบบน้ำหนักเบาช่วยให้ประหยัดน้ำมันมากขึ้น จากประสบการณ์จริงของเจ้าของรถในไทยบอกว่าในเมืองจะสิ้นเปลืองประมาณ 5-6 ลิตร/100 กม. แต่ถ้าขับทางไกลจะลดลงเหลือไม่ถึง 4 ลิตรเลย ที่น่าสนใจคือรถรุ่นนี้ได้ประโยชน์จากนโยบาย ECO Car Phase II ของรัฐบาลไทยที่ลดภาษีให้รถประหยัดพลังงาน ส่วนการใช้งานประจำวันแนะนำให้ล้างหัวเร่งและเปลี่ยนไส้กรองอากาศของแท้อย่างสม่ำเสมอเพื่อรักษาอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันให้ดีที่สุด ถ้าเปรียบเทียบกับรถระดับเดียวกันอย่าง Toyota Yaris Ativ จะประหยัดพอๆ กันแต่การขับขี่ของซิตี้แฮทช์แบ็กจะสมรรถนะกึ่งสปอร์ตมากกว่า สำหรับคนที่ขับทางไกลบ่อยๆ ลองใช้น้ำมัน 95 จะช่วยให้การเผาไหม้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
Q
ข้อเสียของรถ Honda City Hatchback
รถยนต์ City Hatchback เป็นที่นิยมสำหรับการเดินทางในเมืองไทย ด้วยความคล่องตัวและประหยัดน้ำมันที่โดดเด่น แต่ก็มีข้อจำกัดบางประการ เช่น พื้นที่กระโปรงหลังที่ค่อนข้างเล็ก เหมาะสำหรับการช้อปปิ้งทั่วไปแต่ไม่เหมาะกับการเดินทางไกลกับครอบครัว นอกจากนี้ขนาดตัวรถที่เล็กอาจทำให้รู้สึกไม่ค่อยมั่นใจเวลาขับบนทางด่วน โดยเฉพาะบนถนนสภาพไม่ดีบางสายในไทย แม้ระบบช่วงล่างจะปรับให้แข็งเพื่อการควบคุมที่ดีขึ้น แต่ก็อาจลดความสบายในการนั่งลง ส่วนเรื่องการกันเสียงก็ถือว่าปานกลาง อาจทำให้รู้สึกเหนื่อยล้าได้ง่ายในเมืองที่การจราจรหนาแน่นอย่างกรุงเทพฯ อย่างไรก็ตามค่าบำรุงรักษารถรุ่นนี้ค่อนข้างถูก แต่ในสภาพอากาศร้อนชื้นของไทย ชิ้นส่วนพลาสติกบางส่วนอาจเสื่อมสภาพเร็วหลังใช้งานมานาน แนะนำให้ผู้สนใจพิจารณาจุดประสงค์การใช้งานจริง หากต้องบรรทุกผู้โดยสารหรือสัมภาระบ่อยๆ อาจมองหารถครอสโอเวอร์ขนาดใหญ่ขึ้นเพื่อความเหมาะสมมากกว่า
Q
Honda City Hatchback มือสองราคาเท่าไหร่?
ราคารถ Honda City Hatchback มือสองในตลาดไทยจะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น อายุรถ ระยะทาง สภาพตัวรถ และระดับอุปกรณ์ โดยทั่วไปแล้วรุ่นปี 2021-2022 จะอยู่ที่ประมาณ 5 แสนถึง 7 แสนบาท แต่ต้องตรวจสอบรายงานสภาพรถและประวัติการเซอร์วิสจริงๆ ด้วย รุ่นนี้ขายดีมากในไทยเพราะประหยัดน้ำมัน โครงสร้างภายในใช้งานได้ดี แถมศูนย์บริการฮอนด้าในไทยก็ครอบคลุม ทำให้รถมือสองขายต่อง่าย ถ้าจะซื้อแนะนำให้ตรวจสอบประวัติรถผ่านช่องทางรถมือสองรับประกันโดยฮอนด้า หรือเว็บไซต์มืออาชีพ ต้องเช็คเกียร์และเครื่องยนต์ให้ละเอียด โดยเฉพาะช่วงหน้าฝนไทยที่อาจมีปัญหาน้ำท่วม ควรตรวจสอบรอยน้ำอย่างใกล้ชิด ถ้าอยากประหยัดกว่านี้ อาจมองรถญี่ปุ่นรุ่นอื่นอย่างโตโยต้ายาริสหรือมาสด้า 2 แต่ต้องยอมรับว่า Honda City Hatchback แบ็ครุ่นไฮบริดนั้นประหยัดน้ำมันกว่า เหมาะกับการขับขี่ในเมืองสุดๆ
Q
Honda City Hatchback มีรุ่น Hybrid หรือไม่?
ปัจจุบัน Honda City Hatchback ในตลาดไทยยังไม่มีรุ่น Hybrid ตัวนี้เน้นเครื่องยนต์เบนซินเป็นหลัก พ่วงมาด้วยเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร i-VTEC ที่ตอบโจทย์ทั้งประหยัดน้ำมันและแรงขับ ตลาดไทยเริ่มมีความต้องการรถ Hybrid เพิ่มขึ้น ซึ่งฮอนด้าเองก็มีรุ่น Hybrid อื่นๆ ในไทยแล้ว เช่น Honda Civic และ Honda HR-V รุ่น Hybrid ในอนาคตอาจมีการนำเทคโนโลยีนี้มาต่อยอดในโมเดลอื่นๆ อีก เทคโนโลยี Hybrid ที่ผสมผสานระหว่างมอเตอร์ไฟฟ้าและเครื่องยนต์ช่วยลดทั้งการสิ้นเปลืองน้ำมันและมลพิษได้ดี เหมาะกับสภาพการจราจรติดขัดในกรุงเทพฯ ถ้าสนใจรถรักษ์สิ่งแวดล้อมประหยัดน้ำมัน ลองดูรุ่น Hybrid ที่มีในตลาดหรือรออัปเดตจากฮอนด้าก็ได้ ส่วนเรื่องภาษี รัฐบาลไทยมีสนับสนุนรถพลังงานสะอาด ทั้ง Hybrid และ EV ก็เป็นตัวเลือกน่าสนใจ แนะนำให้ตรวจสอบข้อมูลล่าสุดทางเว็บไซต์ฮอนด้าไทยหรือติดต่อโชว์รูมก่อนตัดสินใจซื้อ
Q
Honda City Hatchback มีโปรโมชั่นอะไรบ้าง?
ตอนนี้ Honda City Hatchback ในตลาดไทยมีโปรโมชั่นหลากหลายรูปแบบให้เลือก ทั้งส่วนลดเงินสด แผนดาวน์ต่ำ ผ่อนสบายด้วยดอกเบี้ยพิเศษ หรือบริการฟรีเช็คระยะ ซึ่งรายละเอียดโปรโมชั่นอาจแตกต่างกันไปในแต่ละช่วงเวลาและพื้นที่ แนะนำให้ติดต่อตัวแทนจำหน่ายในพื้นที่โดยตรงเพื่อสอบถามข้อมูลล่าสุด รุ่นนี้เป็นที่นิยมมากในไทยเพราะขนาดคันที่คล่องตัว ประหยัดน้ำมัน เหมาะกับการขับขี่ในเมือง เครื่องยนต์ 1.0 ลิตรเทอร์โบชาร์จให้ทั้งแรงและประหยัด แถมยังมาพร้อม Honda Sensing ชุดเทคโนโลยีความปลอดภัยที่ทันสมัยที่สุดในระดับเดียวกัน ส่วนในสภาพอากาศร้อนๆ ของไทย ระบบแอร์และกระจกกัน UV ก็ช่วยให้ความรู้สึกสบายตลอดการเดินทาง นอกจากโปรโมชั่นแล้ว ควรสอบถามตัวแทนจำหน่ายเกี่ยวกับบริการเสริมเช่น ฟรีฟิล์มกรองแสง หรือการรับประกันที่ขยายระยะเวลา เพื่อเพิ่มความคุ้มค่าและประสบการณ์การใช้งานให้ดียิ่งขึ้น
Q
Honda City Hatchback รองรับผู้โดยสารกี่คน?
Honda City Hatchback คือรถคันเล็กแบบแฮทช์แบ็กที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์คนเมืองในไทยมากๆ โครงสร้างมาตรฐานเป็นแบบ 5 ที่นั่ง ให้พื้นที่สบายๆ สำหรับผู้โดยสาร 5 คน พอดีสำหรับครอบครัวใช้ชีวิตประจำวันหรือออกทริปกับเพื่อน โครงสร้างภายในถูกออกแบบมาอย่างดี โดยเฉพาะพื้นที่ขาที่นั่งหลังที่กว้างขวาง แม้เดินทางไกลก็ยังรู้สึกสบาย ส่วนกระโปรงหลังจุได้ประมาณ 289 ลิตร เพียงพอสำหรับของใช้เวลาช้อปปิ้งหรือทริปสั้นๆ ในสภาพอากาศร้อนๆ ของไทย รถรุ่นนี้ยังติดตั้งระบบแอร์เย็นฉ่ำและช่องลมหลังที่นั่ง ทำให้ทุกคนในรถรู้สึกเย็นสบาย แถมยังมาพร้อมระบบ Honda SENSING ช่วยเพิ่มความปลอดภัย เช่น ระบบเบรกอัตโนมัติเมื่อเจอวัตถุข้างหน้าและระบบช่วยควบคุมเลน เหมาะมากสำหรับการขับในเมืองอย่างกรุงเทพฯ ที่การจราจรค่อนข้างติดขัด รถยนต์รุ่นนี้ยังมีตัวเลือกการประหยัดน้ำมันที่ยืดหยุ่น ซึ่งรวมถึงรุ่นเครื่องยนต์เทอร์โบชาร์จ 1.0 ลิตร และรุ่นไฮบริด 1.5 ลิตร ซึ่งสามารถปรับให้เข้ากับความต้องการที่แตกต่างกันของผู้บริโภคชาวไทย ทั้งด้านการประหยัดพลังงานและสมรรถนะ นับเป็นรุ่นที่ลงตัวที่ผสานการใช้งานจริงและเทคโนโลยีเข้าไว้ด้วยกัน
Q
Honda City Hatchback มีระบบความปลอดภัยอะไรบ้าง?
รถ Honda City Hatchback ในตลาดไทยมาพร้อมกับระบบความปลอดภัยครบครัน ทั้งระบบช่วยขับขี่อัจฉริยะ Honda SENSING ที่รวมฟังก์ชันสำคัญอย่าง ระบบเบรกป้องกันการปะทะ (CMBS) ระบบช่วยรักษาเลน (LKAS) ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (ACC) และระบบเตือนเมื่อออกนอกเลน (LDW) นอกจากนี้ยังมีถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง ระบบช่วยทรงตัว (VSA) และกล้องถอยหลัง ซึ่งเป็นระบบความปลอดภัยทั้งแบบแอคทีฟและพาสซีฟที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ประจำวันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในสภาพการจราจรที่คับคั่งของเมืองไทย ระบบเหล่านี้ใช้งานได้จริงมากๆ เช่น CMBS จะช่วยลดความเสี่ยงการชนท้ายในเส้นทางรถติด ส่วน LKAS จะช่วยให้ผู้ขับควบคุมรถให้อยู่กลางเลนได้ง่ายขึ้นโดยเฉพาะบนทางด่วน แถมยังมาพร้อมกับโครงสร้างตัวรถ ACE ที่ออกแบบมาเพื่อดูดซับแรงกระแทกได้ดียิ่งขึ้น สำหรับคนไทยแล้ว การเลือกรถที่มีระบบความปลอดภัยครบวงจรเป็นเรื่องสำคัญ เพราะทั้งสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงบ่อยและสภาพการจราจรที่ซับซ้อน ระบบความปลอดภัยที่ดีไม่เพียงแต่ลดโอกาสเกิดอุบัติเหตุ แต่ยังช่วยปกป้องผู้โดยสารได้มากที่สุดหากเกิดเหตุไม่คาดคิดขึ้น
Q
Honda City Hatchback มีสีอะไรให้เลือกบ้าง?
Honda City Hatchback ในตลาดไทยมีสีให้เลือกหลายแบบ ทั้งโทนสีเมทัลลิกที่ดูทันสมัยและโทนสีคลาสสิก โดยสีที่เลือกได้จะมีคริสตัลแบล็ค แพลตินัมไวท์ เมทัลลิกซิลเวอร์ เรดเพิร์ล และสีน้ำเงิน เป็นต้น สีเหล่านี้ไม่เพียงตอบโจทย์รสนิยมของกลุ่มวัยรุ่น แต่ยังเหมาะกับความต้องการเฉพาะตัวของผู้ใช้แต่ละคน ในสภาพอากาศไทยที่ทั้งร้อนและฝนชุก สีรถทุกสีผ่านการเคลือบพิเศษเพื่อให้ทนทานต่อสภาพอากาศและป้องกันรังสียูวีได้ดี แถมฮอนด้ายังมักออกรุ่นสีลิมิเต็ดเอดิชันตามเทรนด์ตลาดเพื่อดึงดูดลูกค้าเพิ่มอีกด้วย เวลาเลือกสีนอกจากจะดูที่ความชอบส่วนตัวแล้ว ก็ควรคำนึงถึงสภาพการใช้จริงในไทยด้วย เช่น สีอ่อนจะทนความร้อนและดูแลง่ายในแดดแรงๆ ส่วนสีเข้มจะให้ความรู้สึกคลาสสิกและหรูหรากว่า นอกจากนี้ด้วยดีไซน์ตัวรถของ Honda City Hatchback ที่ออกแนวสปอร์ต ถ้าเลือกสีสดๆ จะยิ่งช่วยเน้นภาพลักษณ์ความYoungได้ดี ไม่ว่าจะเลือกสีไหน รถคันนี้ก็เข้ากับบรรยากาศถนนไทยและไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างแนบเนียน
Q
Honda City Hatchback ภายในกว้างขวางไหม?
Honda City Hatchback เป็นรุ่นที่ออกแบบมาสำหรับการขับขี่ในเมืองด้วยขนาดคอมแพค แต่โดดเด่นในเรื่องความคล่องตัวและการใช้พื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นที่สนใจในตลาดไทย ขนาดตัวถังอยู่ที่ 4,345 มม. × 1,748 มม. × 1,488 มม. ระยะฐานล้อ 2,589 มม. แม้จะจัดอยู่ในกลุ่มรถขนาดเล็ก แต่ด้วยแนวคิด MM ของฮอนด้า (ลดพื้นที่เครื่องยนต์ให้น้อยสุด ขยายพื้นที่ผู้โดยสารให้มากสุด) ทำให้การจัดวางภายในถูกออกแบบมาอย่างเหมาะสม พื้นที่ส่วนหัวและขาหน้าด้านหน้าเพียงพอ ส่วนพื้นที่ขาหลังก็กว้างขวางเมื่อเทียบกับรถในระดับเดียวกัน เหมาะกับการเดินทางระยะสั้นของครอบครัวหรือการขับขี่ในเมืองแบบที่นิยมในไทย ความจุท้ายรถอยู่ที่ประมาณ 289 ลิตร (เมื่อไม่พับเบาะหลัง) เพียงพอต่อการใช้งานทั่วไป แต่หากพับเบาะหลังก็จะเพิ่มพื้นที่เก็บของได้อีก ในสภาพอากาศร้อนชื้นของไทย ระบบแอร์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และในรุ่นท็อปยังมีช่องลมแอร์ด้านหลังเพื่อเพิ่มความสบายให้ผู้โดยสาร อย่างไรก็ตาม สำหรับบางซอยแคบหรือที่จอดรถแน่นในไทย ความกว้างระดับ 1.7 เมตรของ City Hatchback อาจได้เปรียบเรื่องความคล่องตัวเมื่อเทียบกับ SUV ขนาดใหญ่ แต่หากต้องใช้งานแบบเต็มความจุ 5 คนเป็นประจำสำหรับการเดินทางไกล แนะนำให้ทดลองนั่งจริงโดยเฉพาะพื้นที่ด้านกว้างของเบาะหลัง ในตลาดรถระดับเดียวกันยังมีรุ่นที่คล้ายกันอย่าง Toyota Yaris Ativ ที่ผู้ซื้อสามารถเปรียบเทียบตามความชอบในการออกแบบและความต้องการฟังก์ชั่นต่างๆ ได้
Q
Honda City Hatchback ประหยัดน้ำมันเท่าไร?
Honda City Hatchback ในไทยนั้นประหยัดน้ำมันสุดๆ รุ่นเครื่องยนต์ 1.0 ลิตรเทอร์โบทำสถิติเฉลี่ยประมาณ 23.8 กม./ลิตร จากการทดสอบมาตรฐานของไทย ส่วนรุ่นไฮบริดนั้นยิ่งคุ้มค่ากว่า ทำได้ถึง 27.8 กม./ลิตร เลยทีเดียวเหมาะมากสำหรับสภาพการจราจรที่ต้องออกตัว-หยุดบ่อยครั้งในเมืองใหญ่ของไทยและผู้บริโภคที่เน้นการประหยัดน้ำมัน และคนที่เน้นเรื่องประหยัดน้ำมันเป็นหลัก ตัวรถมาพร้อมเทคโนโลยี Earth Dreams ของฮอนด้าที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพเครื่องยนต์และลดน้ำหนักตัวรถ ทำให้ทั้งประหยัดและยังเร่งแซงได้ดี แม้อยู่ในอากาศร้อนๆ แบบไทยๆ แอร์ก็ถูกปรับแต่งพิเศษให้เย็นสบายแต่ไม่ทำให้น้ำมันพุ่งจนน่าตกใจ สำหรับคนที่ต้องเจอรถติดในกรุงเทพฯ บ่อยๆ ระบบสตาร์ท-สต็อปรอบเดินเบาของ City Hatchback ช่วยลดการใช้เชื้อเพลิงที่ไม่จำเป็นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ที่สำคัญนอกจากจะประหยัดแล้ว ยังมีพื้นที่เก็บของที่จัดเต็มและขนาดตัวรถกะทัดรัดเหมาะกับซอยแคบๆ ในไทย ถือเป็นตัวเลือกชั้นดีสำหรับคนเมือง ส่วนเรื่องอัตราสิ้นเปลืองจริงอาจแตกต่างกันไปตามสไตล์การขับ สภาพถนน และน้ำหนักบรรทุก ควรเข้าศูนย์ตามกำหนดและเช็คลมยางสม่ำเสมอเพื่อประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันที่ดีที่สุด

ข้อดี

ออกแบบทันสมัยและหล่อ
ตัวถังรถกว้างขวางสบาย มีฟังก์ชันที่หลากหลายมากขึ้น

ข้อเสีย

เครื่องยนต์รู้สึกเฉยๆเมื่อสปีดต่ำ

Q&A ล่าสุด

Q
2023 Santa Fe มีระบบขับเคลื่อนทุกล้อ (AWD) ไหม?
รถยนต์ Hyundai Santa Fe รุ่นปี 2023 นั้นมีแบบขับเคลื่อนสี่ล้อ (AWD) จริงๆ ระบบขับเคลื่อนอัจฉริยะ HTRAC จะปรับการกระจายกำลังระหว่างล้อหน้าและล้อหลังอัตโนมัติตามสภาพถนน ช่วยเพิ่มแรงยึดเกาะในถนนลื่นหรือเวลาออฟโรดเล็กน้อย โดยเฉพาะเหมาะกับพื้นที่ที่ฝนตกบ่อยๆ นอกจากแบบ AWD แล้ว Santa Fe ยังมีแบบขับเคลื่อนล้อหน้าให้เลือกด้วยนะ ถ้าใช้วิ่งในเมืองเป็นประจำ แบบขับเคลื่อนล้อหน้าจะประหยัดน้ำมันกว่า ระบบ AWD ของ Santa Fe ยังมีโหมดขับขี่หลายแบบให้เลือกใช้ ทั้งโหมดสบายๆ โหมดประหยัด โหมดสปอร์ต และโหมดอัจฉริยะ ที่ปรับเปลี่ยนได้ตามสภาพถนนและสไตล์การขับขี่ ส่วนเรื่องพื้นที่ภายในก็กว้างขวางกว่า SUV คลาสเดียวกัน ที่นั่งแถวสามก็พอใช้สำหรับครอบครัว ส่วนท้ายรถก็จุของได้เยอะ เหมาะสำหรับการเดินทางไกลจริงๆ เรื่องความปลอดภัยก็ครบครัน ทั้งระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ ระบบช่วยรักษาช่องทางเดินรถ ระบบเตือนจุดบอด ช่วยเพิ่มความมั่นใจเวลาขับบนถนนสภาพซับซ้อน ถ้ามีงบพอและต้องการความมั่นใจในการขับขี่มากขึ้น แบบ AWD ก็เป็นตัวเลือกที่ดี แนะนำให้ลองไปทดลองขับทั้งสองแบบที่ตัวแทนจำหน่ายก่อนตัดสินใจจะดีที่สุด
Q
ค่าประกันภัยสำหรับรถ Hyundai Santa Fe ปี 2023 เท่าไหร่?
ค่าเบี้ยประกันสำหรับ Hyundai Santa Fe รุ่นปี 2023 นั้นจะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น รุ่นรถ (แบบเบนซิน 2.5L หรือแบบไฮบริด 1.6T), ราคาซื้อรถ, อายุและประวัติการขับขี่ของเจ้าของรถ รวมถึงนโยบายของบริษัทประกัน โดยทั่วไปค่าเบี้ยประกันต่อปีจะอยู่ที่ประมาณ 15,000-35,000 บาท แนะนำให้ตรวจสอบราคาที่แน่นอนผ่านเว็บไซต์บริษัทประกันหรือแพลตฟอร์มเปรียบเทียบราคา เพราะความแตกต่างระหว่างประกันเต็มรูปแบบ (ครอบคลุมการชน, ภัยธรรมชาติ และความรับผิดต่อบุคคลที่สาม) กับประกันพื้นฐานอาจสูงถึง 40% นอกจากนี้ รุ่นไฮบริดอาจมีค่าเบี้ยประกันสูงกว่ารุ่นเบนซินประมาณ 10%-15% เนื่องจากค่าซ่อมแซมที่สูงกว่า การติดตั้งอุปกรณ์ป้องกันการขโมยแบบ GPS หรือการเลือกความรับผิดชอบส่วนแรกที่สูงขึ้นสามารถช่วยลดเบี้ยประกันได้ประมาณ 5%-10% ในตลาดไทย บริษัทประกันชั้นนำเช่น วิริยะ ธรรมภักดี มักมีส่วนลดสำหรับปีแรกเมื่อทำประกันรถใหม่ และการซื้อประกันผ่านสถาบันการเงินที่ให้บริการสินเชื่อรถยนต์อาจได้รับสิทธิประโยชน์เพิ่มเติม ในการเลือกประกันรถยนต์ นอกจากราคาแล้ว ควรพิจารณาประสิทธิภาพในการเคลม (โดยเฉพาะในพื้นที่เสี่ยงภัยธรรมชาติ) และเครือข่ายศูนย์ซ่อมที่ครอบคลุม เพราะบางบริษัทอาจกำหนดให้ใช้ศูนย์ซ่อมเฉพาะซึ่งอาจส่งผลต่อสิทธิประกันจากศูนย์บริการของตัวแทนจำหน่าย
Q
รถ Hyundai Santa Fe ปี 2023 มีแถวที่สามหรือไม่?
รุ่น Hyundai Santa Fe ปี 2023 ในบางรุ่นระดับตัดแต่งนั้นมีตัวเลือกที่นั่งแถวที่สามให้เลือกจริงๆ รุ่นนี้จัดอยู่ในประเภท SUV ขนาดกลาง ที่มีการจัดเรียงที่นั่งแบบ 2+3+2 รวมเป็น 7 ที่นั่ง โดยแถวที่สามจะเหมาะกับเด็กหรือผู้ใหญ่สำหรับการเดินทางระยะสั้นมากกว่า สำหรับครอบครัวที่ต้องเดินทางพร้อมกันหลายคนบ่อยๆ ถือเป็นตัวเลือกที่ใช้งานได้จริง ในตลาดไทย Santa Fe มีให้เลือกทั้งรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล 2.2 ลิตร และรุ่นไฮบริดเทอร์โบ 1.6 ลิตร ซึ่งระบบไฮบริดนั้นช่วยประหยัดน้ำมันและยังให้กำลังขับเคลื่อนที่เพียงพอ เหมาะกับการใช้งานในเมืองเป็นอย่างดี แถมยังมาพร้อมกับชุดความปลอดภัย SmartSense ของ Hyundai ที่มีระบบ cruise control อัตโนมัติและระบบช่วยรักษาช่องทางเดินรถ ช่วยเพิ่มความปลอดภัยทั้งในการขับขี่บนถนนติดขัดในกรุงเทพหรือการเดินทางไกล แต่อย่างไรก็ตาม รุ่น 7 ที่นั่งจะทำให้พื้นที่กระโปรงหลังลดลง แนะนำให้ลองชั่งน้ำหนักความต้องการก่อนซื้อ ถ้าเปรียบเทียบกับรถ SUV 3 แถวที่นั่งในระดับเดียวกันก็จะมี Toyota Fortuner Isuzu MU-X ให้เลือก แต่ Santa Fe ได้เปรียบในเรื่องเทคโนโลยีและความหรูหราของห้องโดยสาร แนะนำให้ไปทดลองสัมผัสพื้นที่ภายในด้วยตัวเองที่โชว์รูมก่อนตัดสินใจจะดีที่สุด
Q
2023 Santa Fe เปรียบเทียบกับคู่แข่งอย่างไรบ้าง?
รุ่น 2023 ของ Hyundai Santa Fe ในตลาดบ้านเราเมื่อเทียบกับคู่แข่งแล้วถือว่ามีจุดขายที่ดีไม่น้อย โฉมใหม่ที่ออกแบบมาให้ดูหนักแน่นและทรงพลังมากขึ้นเหมาะกับคนที่ชอบ SUV ฟีลลิ่งบึกบึน ส่วนภายในใช้วัสดุคุณภาพสูงขึ้น แถมยังอัพเกรดระบบเทคโนโลยีด้วยหน้าจอความบันเทิงล่าสุดที่รองรับทั้ง Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย ทำให้ใช้งานได้สะดวกมาก ในส่วนเครื่องยนต์มีให้เลือกทั้งแบบ 2.5 ลิตร แอสปายร์ปกติ และแบบ 1.6 ลิตร เทอร์โบไฮบริดที่ประหยัดน้ำมันกว่า เหมาะกับคนที่ต้องการเซฟค่าน้ำมัน เมื่อเปรียบเทียบกับ Honda CR-V หรือ Toyota Highlander แล้ว Santa Fe ยังได้เปรียบในเรื่องความยืดหยุ่นของพื้นที่โดยสาร โดยเฉพาะเบาะแถวสามที่นั่งสบายกว่า เหมาะสำหรับครอบครัวใหญ่ ด้านความปลอดภัยมาพร้อมระบบ SmartSense มาตรฐานครบทุกรุ่น ทั้งควบคุมความเร็วอัตโนมัติ เตือนออกเลน เรียกได้ว่าไม่เป็นรองใคร ส่วนบริการหลังการขายก็มีศูนย์บริการครอบคลุม ค่าบำรุงรักษาก็สมเหตุสมผล ใช้ยาวๆ ก็อุ่นใจ ถ้ามีงบประมาณพอและเน้นความคุ้มค่าแบบจัดเต็มพร้อมเทคโนโลยีครบเครื่อง รุ่นนี้น่าจับตามอง แนะนำให้ลองทดลองขับและเปรียบเทียบกับรุ่นอื่นๆ ในระดับเดียวกันก่อนตัดสินใจ
Q
อัตราการบริโภคน้ำมันของ Hyundai Santa Fe 2023 เป็นเท่าไร?
รถ Hyundai Santa Fe รุ่นปี 2023 มีอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันที่แตกต่างกันไปตามรุ่นเครื่องยนต์ โดยแบบเครื่องยนต์เบนซิน 2.5 ลิตร แบบดูดธรรมดาจะกินน้ำมันเฉลี่ยประมาณ 8.5-9.2 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร ส่วนรุ่นเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 2.2 ลิตรจะประหยัดน้ำมันกว่าคือเฉลี่ยประมาณ 6.5-7.2 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร ตัวเลขจริงอาจแตกต่างกันไปบ้างขึ้นอยู่กับสไตล์การขับและสภาพถนน รุ่นนี้ถ้าขับในเมืองที่รถติดบ่อยๆจะกินน้ำมันมากหน่อย แต่พอขับทางไกลหรือบนทางหลวงจะประหยัดขึ้น เหมาะสำหรับคนที่ชอบเดินทางไกล ส่วนรุ่นไฮบริดตอนนี้ยังไม่มีขายในประเทศไทย แต่คอยติดตามกันได้เลย ถ้าอยากให้รถประหยัดน้ำมันมากขึ้น ควรดูแลรักษารถให้ดี เช่น เติมลมยางให้เหมาะสม หลีกเลี่ยงการเหยียบกระแทกหรือเบรกกระทันหัน Santa Fe เป็น SUV ขนาดกลางที่กินน้ำมันพอๆกับรถระดับเดียวกัน แต่ได้ความสบายและพื้นที่กว้างขวาง พร้อมฟีเจอร์ครบครัน น่าจับตามองสำหรับครอบครัว สรุปว่าถ้าคุณขับทางไกลบ่อย รุ่นดีเซลน่าจะเหมาะกว่า แต่ถ้าขับแค่ในเมือง รุ่นเบนซินก็พอแล้วครับ
ดูเพิ่มเติม