Q
Mitsubishi Xpander Cross เป็นรถ hybrid หรือไม่
บางรุ่นของ Mitsubishi Xpander Cross เป็นรถยนต์ระบบไฮบริด เช่น Mitsubishi Xpander Cross HEV PLAY ปี 2025 และ Mitsubishi Xpander Cross HEV ปี 2024 ทั้งสองรุ่นใช้ระบบขับเคลื่อนไฮบริดแบบเบนซิน-ไฟฟ้า พร้อมเครื่องยนต์ขนาด 1.6 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 95 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 134 นิวตันเมตร ขณะที่มอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังสูงสุด 116 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 255 นิวตันเมตร ระบบส่งกำลังใช้เกียร์อัตโนมัติแบบ e-CVT ขับเคลื่อนล้อหน้า ส่วนรุ่นอื่น เช่น Mitsubishi Xpander Cross 1.5 CVT ปี 2022, Mitsubishi Xpander Cross Minorchange 1.5 CVT ปี 2023 และ Mitsubishi Xpander 1.5 Cross AT ปี 2020 เป็นรถยนต์เครื่องยนต์เบนซิน ใช้น้ำมันเบนซินเป็นเชื้อเพลิง รถยนต์ไฮบริดมีข้อได้เปรียบในด้านการประหยัดน้ำมันและลดการปล่อยมลพิษ โดยผสานการทำงานของเครื่องยนต์กับมอเตอร์ไฟฟ้าเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการขับขี่ ในขณะที่รถยนต์เครื่องยนต์เบนซินมีระบบขับเคลื่อนแบบดั้งเดิม ให้พลังขับเคลื่อนที่ตอบสนองทันที และมีข้อได้เปรียบในด้านการดูแลรักษา ผู้บริโภคสามารถเลือกให้เหมาะสมตามความต้องการใช้งานของตนเอง
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto
Q&A เกี่ยวข้อง
Q
วิธีล็อค Mitsubishi Xpander คืออย่างไร?
Mitsubishi Xpander มีวิธีล็อกรถที่พบได้บ่อยอยู่หลายวิธี ได้แก่:การล็อกรถด้วยกุญแจแบบดั้งเดิม: เสียบกุญแจเข้าไปในรูกุญแจที่ประตูรถหรือฝากระโปรงหลัง หมุนตามเข็มนาฬิกาจนได้ยินเสียง “แกร๊ก” แสดงว่าประตูหรือฝากระโปรงหลังถูกล็อกแล้ว หรือนั่งเข้าภายในรถ แล้วหมุนกุญแจในสวิตช์กุญแจทวนเข็มนาฬิกาจนสุด จะได้ยินเสียงล็อกรถ แสดงว่ารถถูกล็อกเรียบร้อยแล้ว การล็อกรถด้วยกุญแจรีโมต: เป็นวิธีที่พบได้ทั่วไป นำกุญแจรีโมตออกมา ตรวจสอบว่ารถอยู่ในระยะสัญญาณ แล้วกดปุ่มที่มีสัญลักษณ์รูปแม่กุญแจ เมื่อได้ยินเสียงแตรหรือเห็นไฟกระพริบ แสดงว่ารถล็อกสำเร็จ ในบางรุ่น อาจรองรับระบบล็อกรถอัจฉริยะ เช่น กุญแจอัจฉริยะ (Smart Key) ที่สามารถพกไว้กับตัว เมื่อเดินเข้าใกล้ตัวรถ ประตูจะล็อกโดยอัตโนมัติ หรือสามารถล็อกรถจากระยะไกลผ่านแอปพลิเคชันบนสมาร์ตโฟน โดยต้องติดตั้งแอปของแบรนด์ที่รองรับและดำเนินการตามขั้นตอนที่ระบุ เนื่องจากแต่ละรุ่นอาจมีความแตกต่างกันในด้านวิธีการล็อกและฟังก์ชันเพิ่มเติม หากไม่แน่ใจเกี่ยวกับการใช้งาน ควรสอบถามผู้ผลิตหรือศูนย์บริการรถยนต์โดยตรง
Q
Xpander Cross มีที่นั่งกี่ที่?
Xpander Cross มาพร้อมที่นั่ง 7 ที่แบบมาตรฐาน โดยมีการจัดวางแบบ 2+3+2 ซึ่งให้พื้นที่นั่งโดยสารที่กว้างขวางและสะดวกสบายสำหรับผู้โดยสารทุกแถว เบาะนั่งแถวที่สองสามารถพับแยกได้แบบ 60/40 และยังสามารถพับไปข้างหน้าได้ เพื่อให้การเข้า-ออกแถวหลังสะดวกยิ่งขึ้น ส่วนเบาะนั่งแถวที่สามสามารถพับแยกแบบ 50/50 เพื่อปรับเปลี่ยนพื้นที่ภายในรถให้เหมาะกับการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นการโดยสารหรือขนสัมภาระ ด้วยการออกแบบที่นั่งทั้ง 7 ที่อย่างยืดหยุ่น ทำให้ Xpander Cross เหมาะสำหรับการใช้งานในครอบครัว หรือการเดินทางระยะสั้นแบบหลายคน รองรับทั้งการใช้งานประจำวันและสถานการณ์การเดินทางพิเศษต่าง ๆ ได้อย่างลงตัว
Q
วิธีการปรับที่นั่ง Xpander?
การปรับเบาะนั่งใน Xpander สามารถทำได้ตามขั้นตอนต่อไปนี้: สำหรับการปรับเลื่อนหน้า–หลัง ให้มองหาคันโยกที่อยู่ด้านหน้าของเบาะ ใช้มือลาขวาจับคันโยกไว้ มือซ้ายจับพวงมาลัย และเท้าซ้ายเหยียบพื้นรถเพื่อรักษาสมดุล จากนั้นเลื่อนเบาะไปข้างหน้าหรือข้างหลังตามต้องการ ควรปรับให้เมื่อต้องเหยียบคันเร่งหรือเบรกจนสุดแล้ว ขายังมีความโค้งเล็กน้อย ไม่เหยียดตรงหรือหักงอเกินไป เพื่อความปลอดภัยและความสบายในการขับขี่ สำหรับการปรับระดับสูง–ต่ำของเบาะ ควรปรับให้อยู่ในระดับที่มองเห็นกระจกหน้ารถประมาณ 2/3 ส่วนล่างของพื้นที่กระจกด้านหน้า เพื่อให้มุมมองชัดเจนและไม่ถูกบดบัง ช่วยให้สามารถประเมินสภาพถนนด้านหน้าได้อย่างแม่นยำ การปรับพนักพิงหลัง ให้เริ่มจากวางมือทั้งสองข้างที่ตำแหน่ง 3 นาฬิกาและ 9 นาฬิกาของพวงมาลัย โดยให้แขนและแผ่นหลังอยู่ในท่าทางผ่อนคลาย จากนั้นใช้มือซ้ายดึงหรือดันคันปรับด้านซ้ายของพนักพิงเพื่อปรับมุมเอนตามความเหมาะสม ควรปรับให้แผ่นหลังได้รับการรองรับอย่างดี เพื่อลดความเมื่อยล้าขณะขับขี่ นอกจากนี้ การปรับพนักพิงศีรษะก็มีความสำคัญเช่นกัน ควรปรับให้บริเวณด้านหลังศีรษะอยู่ตรงกับจุดกึ่งกลางของพนักพิงศีรษะ ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงต่ออาการบาดเจ็บบริเวณคอหากเกิดการชนท้าย
Q
Mitsubishi Xpander มีที่นั่ง 5 หรือ 7 ที่นั่ง?
Mitsubishi Xpander โดยทั่วไปมาพร้อมเบาะนั่งแบบ 7 ที่นั่ง แต่ในบางรุ่นก็มีแบบ 5 ที่นั่งเช่นกัน โดยจัดอยู่ในกลุ่มรถ MPV ขนาดคอมแพกต์ ซึ่งการออกแบบให้มี 7 ที่นั่ง ช่วยให้ภายในรถมีพื้นที่กว้างขวาง เหมาะสำหรับการเดินทางของครอบครัวหรือการโดยสารหลายคน ในรุ่นที่เป็น 7 ที่นั่งทั่วไป จะมีการจัดวางเบาะแบบ 2+3+2 โดยเบาะแถวที่สองสามารถพับแยกแบบ 60/40 และพับไปด้านหน้าได้ ส่วนเบาะแถวที่สามสามารถพับแยกแบบ 50/50 ทำให้สามารถปรับเปลี่ยนพื้นที่ได้อย่างยืดหยุ่น เพิ่มพื้นที่บรรทุกสัมภาระเมื่อจำเป็น สำหรับรุ่น Mitsubishi Xpander Cross HEV PLAY 2025 จะเป็นรุ่นที่มีเบาะ 5 ที่นั่ง ผู้ใช้งานสามารถเลือกจำนวนที่นั่งให้เหมาะสมกับความต้องการของตนเอง เช่น จำนวนผู้โดยสารหรือวัตถุประสงค์ในการใช้งาน เพื่อให้ได้รถที่ตอบโจทย์มากที่สุด
Q
Xpander เป็นยานพาหนะประเภทใด
Xpander เป็นรถ MPV ขนาดคอมแพกต์ที่ Mitsubishi เปิดตัวครั้งแรกในปี 2017 โดยวางจำหน่ายในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อเมริกาใต้ และตลาดเกิดใหม่อื่น ๆ โดยมีจุดเด่นคือการผสานลักษณะของ SUV ขนาดเล็กและ MPV เข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว ตัวรถมาพร้อมดีไซน์ 3 แถว 7 ที่นั่ง โดยจัดวางพื้นที่ภายในอย่างเหมาะสม เบาะแถวที่สองสามารถเลื่อนหน้า–หลังและปรับเอนได้ ส่วนเบาะแถวที่สามสามารถพับราบเพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระ รองรับทั้งการโดยสารและการขนของ ภายในรถยังมีช่องเก็บของหลายจุด ช่วยให้ใช้งานได้สะดวก ในด้านระบบขับเคลื่อน Xpander มีให้เลือกทั้งรุ่นเครื่องยนต์เบนซินและรุ่นไฮบริด โดยรุ่นเครื่องยนต์เบนซินส่วนใหญ่ติดตั้งเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร MIVEC ขณะที่รุ่นไฮบริด เช่น Xpander PLAY รุ่นพิเศษ และ Xpander Cross PLAY รุ่นพิเศษ จะมาพร้อมระบบไฮบริดขนาด 1.6 ลิตร ระบบส่งกำลังมีทั้งเกียร์ CVT และ E-CVT แล้วแต่รุ่นย่อย ดีไซน์ภายนอก รุ่น Xpander PLAY จะมีชุดแต่งแนวสปอร์ตสำหรับการขับขี่บนถนน ในขณะที่ Xpander Cross PLAY จะดูแข็งแกร่งมากขึ้น พร้อมติดตั้งอุปกรณ์เพิ่มเติม เช่น ราวหลังคา ภายในห้องโดยสารติดตั้งพวงมาลัยแบบ 3 ก้าน หน้าจอมาตรวัดดิจิทัลขนาด 8 นิ้ว หน้าจอกลางแบบลอยตัว และคันเกียร์แบบอิเล็กทรอนิกส์ ในส่วนของความปลอดภัยและความสะดวกสบาย ก็มีอุปกรณ์ครบครัน อาทิ ถุงลมนิรภัย ระบบควบคุมเสถียรภาพของรถ เซนเซอร์ถอยหลัง และช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง
Q
Xpander Cross มี cruise control หรือไม่?
Xpander Cross มาพร้อมระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise Control) ซึ่งเป็นหนึ่งในระบบช่วยขับขี่อัจฉริยะของรถยนต์ โดยระบบนี้จะช่วยให้รถสามารถรักษาความเร็วตามที่ผู้ขับขี่ตั้งไว้ได้อย่างสม่ำเสมอ โดยไม่จำเป็นต้องเหยียบคันเร่งตลอดเวลา ช่วยลดความเมื่อยล้าระหว่างการขับขี่ทางไกล และยังสามารถช่วยประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงได้อีกด้วย ในรุ่นต่าง ๆ ของ Xpander Cross เช่น รุ่นปี 2024 และ 2025 ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติถือเป็นอุปกรณ์มาตรฐานที่ติดตั้งมาให้จากโรงงาน อย่างไรก็ตาม ขณะใช้งานระบบนี้ ผู้ขับขี่ควรระมัดระวังเป็นพิเศษ โดยระบบเหมาะกับการใช้งานบนทางหลวงหรือถนนที่มีการจราจรไม่หนาแน่น และควรหลีกเลี่ยงการใช้งานขณะฝนตก ถนนลื่น มีหิมะหรือโค้งมาก รวมถึงในช่วงทางลาดชันหรือทางลงเขา เพื่อลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการควบคุมรถที่ไม่เหมาะสมกับสภาพถนน
Q
Xpander Cross เป็นรถประเภทอะไร
Xpander Cross เป็นรถ MPV แบบ 7 ที่นั่งที่ผสมผสานองค์ประกอบของรถครอสโอเวอร์ โดยเป็นรุ่นต่อยอดจาก Mitsubishi Xpander ซึ่งเป็นรถ MPV ขนาดคอมแพกต์ที่เปิดตัวครั้งแรกในปี 2017 มีสไตล์แบบครอสโอเวอร์ MPV โดยมีระยะความสูงจากพื้นเพิ่มขึ้น 10 มิลลิเมตร เมื่อเทียบกับรุ่นปกติ รวมเป็น 205 มิลลิเมตร ตัวรถใช้การจัดวางเบาะแบบ 3 แถว 7 ที่นั่ง ภายในมีพื้นที่กว้าง รองรับความต้องการใช้งานของครอบครัว ด้านระบบขับเคลื่อน มีหลากหลายรุ่นให้เลือก บางรุ่นมาพร้อมเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.5 ลิตร แบบ NA จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ CVT ให้กำลังสูงสุด 105 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 142 นิวตันเมตร;ในขณะที่บางรุ่นมาพร้อมระบบไฮบริดขนาด 1.6 ลิตร โดยเครื่องยนต์ให้กำลังสูงสุด 95 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 134 นิวตันเมตร มอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังสูงสุด 116 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 255 นิวตันเมตร ระบบส่งกำลังใช้เกียร์อัตโนมัติแบบ e-CVT ขับเคลื่อนล้อหน้า รถรุ่นนี้วางจำหน่ายหลักในตลาดเกิดใหม่ เช่น เอเชียตะวันออกเฉียงใต้และอเมริกาใต้
Q
Xpander Cross มีความจุถังเชื้อเพลิงเท่าไหร่
ความจุถังน้ำมันของ Mitsubishi Xpander Cross แต่ละรุ่นมีความแตกต่างกันในแต่ละเวอร์ชันของรถ โดยในบางรุ่น เช่น Mitsubishi Xpander Cross 1.5 CVT ปี 2022 และ Mitsubishi Xpander Cross Minorchange 1.5 CVT ปี 2023 จะมีความจุถังน้ำมันอยู่ที่ 45 ลิตร ขณะที่รุ่น Mitsubishi Xpander Cross HEV PLAY ปี 2025 และ Mitsubishi Xpander Cross HEV ปี 2024 จะมีความจุถังน้ำมันอยู่ที่ 40 ลิตร ขนาดของถังน้ำมันมีผลต่อระยะทางในการขับขี่ต่อการเติมน้ำมันหนึ่งครั้ง โดยรถที่มีถังน้ำมันขนาดใหญ่จะสามารถวิ่งได้ไกลขึ้นเมื่อเติมน้ำมันเต็มถัง ลดความถี่ในการเติม เหมาะสำหรับการเดินทางไกล ส่วนรถที่มีถังน้ำมันขนาดเล็ก แม้จะมีระยะทางขับขี่ที่สั้นกว่า แต่ก็อาจมีข้อดีในด้านอื่น เช่น น้ำหนักรวมของรถที่เบากว่า หรือการจัดวางพื้นที่ภายในที่เหมาะสมมากขึ้น ผู้ใช้งานสามารถเลือกขนาดถังน้ำมันให้เหมาะกับลักษณะการใช้งาน ทั้งการเดินทางในชีวิตประจำวันและการเดินทางระยะไกล
Q
Xpander Cross มีระบบเปิดประตูแบบไม่ต้องใช้กุญแจหรือไม่?
Mitsubishi Xpander Cross มาพร้อมระบบ Keyless Entry หรือระบบกุญแจอัจฉริยะ ซึ่งช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถเปิดประตูรถได้โดยไม่ต้องหยิบกุญแจออกจากกระเป๋า เพียงแค่พกกุญแจอัจฉริยะไว้กับตัวแล้วเข้าใกล้ตัวรถ ก็สามารถดึงมือจับประตูเพื่อปลดล็อกได้ทันที ฟังก์ชันอำนวยความสะดวกนี้มักมาพร้อมกับระบบ Push Start หรือปุ่มสตาร์ตรถ ช่วยให้การสตาร์ทเครื่องยนต์ทำได้อย่างสะดวกรวดเร็วโดยไม่ต้องเสียบกุญแจ ในฐานะที่เป็นรุ่นอัปเกรด Xpander Cross จึงมาพร้อมอุปกรณ์และเทคโนโลยีที่ครบครันมากกว่ารุ่น Xpander ปกติ โดยเฉพาะในด้านประสบการณ์การใช้งานที่เน้นความทันสมัยยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม แนะนำให้ตรวจสอบรายละเอียดรุ่นย่อยกับผู้จำหน่ายก่อนตัดสินใจซื้อ เนื่องจากในบางรุ่นพื้นฐานอาจใช้กุญแจแบบธรรมดาเพื่อควบคุมต้นทุน นอกจากนี้ เนื่องจากระบบ Keyless Entry พึ่งพาสัญญาณอิเล็กทรอนิกส์ จึงแนะนำให้ตรวจสอบแบตเตอรี่ของกุญแจอัจฉริยะอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝนหรือสภาพอากาศชื้นของประเทศไทย เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาการทำงานผิดปกติของระบบ
Q
Xpander Cross มีความจุเครื่องยนต์เท่าไหร่
ความจุกระบอกสูบของ Mitsubishi Xpander Cross แต่ละรุ่นมีความแตกต่างกันไปตามเวอร์ชันของรถ โดยบางรุ่นมีความจุกระบอกสูบอยู่ที่ 1499 มิลลิลิตร หรือเรียกโดยย่อว่า 1.5 ลิตร เช่น Mitsubishi Xpander Cross 1.5 CVT ปี 2022, Mitsubishi Xpander Cross Minorchange 1.5 CVT ปี 2023 และ 2020 Mitsubishi Xpander 1.5 Cross AT ขณะที่บางรุ่นมีความจุกระบอกสูบอยู่ที่ 1590 มิลลิลิตร หรือเรียกโดยย่อว่า 1.6 ลิตร เช่น Mitsubishi Xpander Cross HEV PLAY ปี 2025 และ Mitsubishi Xpander Cross HEV ปี 2024 ความจุกระบอกสูบถือเป็นหนึ่งในพารามิเตอร์สำคัญของเครื่องยนต์ ซึ่งส่งผลต่อสมรรถนะการขับเคลื่อน และอัตราการประหยัดน้ำมันในระดับหนึ่ง โดย Xpander Cross ที่มีให้เลือกทั้งรุ่น 1.5 ลิตร และ 1.6 ลิตร จึงสามารถตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของผู้บริโภค
Q&A ล่าสุด
Q
คะแนนความปลอดภัยของ Ciaz 2024 คืออะไร
ข้อมูลการประเมินความปลอดภัยของรถ Suzuki Ciaz รุ่นปี 2024 ในตลาดไทยยังไม่มีการเปิดเผยอย่างเป็นทางการ แต่หากอ้างอิงจากผลทดสอบของ Global NCAP หรือ ASEAN NCAP ในรุ่นที่ใช้แพลตฟอร์มเดียวกัน มักจะได้คะแนน 4 ดาวขึ้นไป โดยเฉพาะในส่วนของการปกป้องผู้โดยสารผู้ใหญ่ที่ทำได้ดีเสมอ สำหรับสภาพอากาศไทยที่ทั้งร้อนและฝนชุก ระบบ ABS+EBD ถุงลมนิรภัยคู่ และระบบควบคุมเสถียรภาพรถที่มาสแตนดาร์ดใน Ciaz จะช่วยรับมือกับการจราจรติดขัดและถนนลื่นได้ดี โครงสร้างตัวรถแบบแข็งแรงพิเศษยังตอบโจทย์มาตรฐานการป้องกันการชนด้านข้างที่เข้มงวดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ถ้าอยากรู้รายละเอียดความปลอดภัยเพิ่มเติม แนะนำให้ติดตามผลทดสอบตามมาตรฐาน TIS 2600-2563 ที่กรมการขนส่งทางบกจะเปิดเผยในเร็วๆ นี้ หรือไปทดลองสาธิตระบบความปลอดภัยด้วยตัวเองที่โชว์รูม Suzuki ในกรุงเทพฯ เชียงใหม่ หรือเมืองใหญ่ๆ เวลาซื้อรถคนไทยมักจะเทียบกับ Toyota Yaris Ativ กับ Honda City ในเรื่องความปลอดภัย แต่ต้องระวังว่าอาจมีข้อแตกต่างในระบบความปลอดภัยอัจฉริยะระหว่างรุ่นย่อยๆ แนะนำให้ตรวจสอบสเปกจริงๆ ที่โชว์รูมก่อนตัดสินใจจะดีที่สุด
Q
Is Ciaz จะได้รับการปรับโฉมในปี 2024 หรือไม่
เกี่ยวกับการปรับโฉมของ Suzuki Ciaz รุ่นปี 2024 ในตลาดไทย ขณะนี้ Suzuki Thailand ยังไม่ได้ประกาศข้อมูลอย่างเป็นทางการ แต่เมื่อพิจารณาจากรอบการอัปเดตที่ผ่านมา เช่น เปิดตัวครั้งแรกในปี 2017 และมีการไมเนอร์เชนจ์ในปี 2020 รวมถึงความต้องการรถซีดานประหยัดพลังงานในตลาดอาเซียนที่ยังคงสูง จึงมีความเป็นไปได้มากที่รุ่นนี้จะได้รับการปรับโฉม หากมีการอัปเดต คาดว่าจะเป็นการปรับดีไซน์ภายนอกเล็กน้อยตามความชอบของผู้บริโภคชาวไทย เช่น กระจังหน้าดีไซน์ใหม่หรือไฟ LED และอาจมีการยกระดับระบบเชื่อมต่ออัจฉริยะเพื่อแข่งขันกับคู่แข่งอย่าง Toyota Yaris Ativ ตลาดไทยให้ความสำคัญกับความประหยัดน้ำมันเป็นพิเศษ เครื่องยนต์ 14 ลิตร 90 แรงม้าอาจยังคงเดิม แต่มีการปรับจูนเกียร์ CVT ให้เหมาะสมกับสภาพจราจรติดขัดในกรุงเทพฯ แนะนำให้จับตางานมอเตอร์โชว์ในช่วงเดือนสิงหาคมถึงกันยายน ซึ่ง Suzuki มักใช้เวทีนี้เปิดตัวการปรับโฉมสำคัญ สำหรับผู้ที่กำลังพิจารณาซื้อ หากเลือกซื้อก่อนการปรับโฉม มักจะได้โปรโมชั่นราคาที่คุ้มค่า เหมาะกับผู้ที่ไม่ได้เน้นเทคโนโลยีมากนัก แต่หากต้องการฟังก์ชันล้ำสมัยควรรอข้อมูลทางการเพิ่มเติม และไม่ว่าจะเลือกรุ่นปัจจุบันหรือรุ่นใหม่ ควรให้ความสำคัญกับการเลือกเวอร์ชันที่มีเบาะนั่งระบายอากาศหรือช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลังเพื่อความสบายในสภาพอากาศร้อนชื้นของไทย
Q
คุณสมบัติของ Ciaz 2024 มีอะไรบ้าง
Ciaz รุ่นปี 2024 ในฐานะรถยนต์ซีดานเพื่อครอบครัวที่ประหยัดและใช้งานคุ้มค่า ได้รับการออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของตลาดไทย โดยมาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 15 ลิตรแบบ NA ที่ให้ทั้งความประหยัดน้ำมันและความทนทาน จับคู่กับเกียร์ CVT ทำอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยได้ประมาณ 20 ถึง 22 กิโลเมตรต่อลิตร เหมาะกับสภาพการจราจรที่ติดขัดและการหยุดบ่อยในเมืองของไทย ด้านดีไซน์ภายนอกเพิ่มไฟส่องสว่างเวลากลางวันแบบ LED และล้ออัลลอยทูโทนขนาด 16 นิ้ว ภายในอัปเกรดด้วยหน้าจอสัมผัส 7 นิ้วที่รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto ช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารด้านหลังและเบาะรองรับส่วนเอวช่วยเพิ่มความสบาย ระบบความปลอดภัยมาตรฐานติดตั้งถุงลมคู่ ABS EBD และเซนเซอร์ถอยหลัง ในรุ่นท็อปเสริมด้วยระบบควบคุมเสถียรภาพตัวรถ จุดเด่นอีกอย่างคือเครือข่ายบริการหลังการขายของ Ciaz ในไทยที่ครอบคลุมกว้างขวาง ค่าบำรุงรักษาไม่สูง ตัวถังยาว 4490 มิลลิเมตร ขับขี่คล่องตัวบนถนนแคบในกรุงเทพฯ ขณะที่ห้องเก็บสัมภาระจุได้ 430 ลิตร รองรับการเดินทางของครอบครัว นอกจากนี้ Ciaz ยังมีมูลค่าขายต่อที่ดีและสภาพคล่องในตลาดรถมือสองสูง จึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้บริโภคชาวไทยที่คำนึงถึงต้นทุนการใช้รถระยะยาว
Q
ซีอัลฟ่า 2024 มีกล้องถอยหลังหรือไม่
รุ่น Suzuki Ciaz 2024 ที่วางขายในตลาดไทยมีการติดตั้งกล้องถอยหลังมาให้เรียบร้อย ซึ่งฟีเจอร์นี้ช่วยอำนวยความสะดวกเวลาจอดรถหรือขับในซอยแคบๆ ได้มากเลย โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ หรือเมืองใหญ่ที่การจราจรคับคั่งและถนนหนทางก็ไม่ค่อยกว้างนัก กล้องถอยหลังมักจะเชื่อมกับหน้าจอแสดงผลในรถ บางรุ่นอาจมีเซนเซอร์จอดรถหรือเส้นแนะนำทิศทางช่วยด้วย ทำให้เรากะระยะห่างจากสิ่งกีดขวางด้านหลังได้ง่ายขึ้น ตอนนี้รถซีดานขนาดกลางในไทยส่วนใหญ่ก็มีกล้องถอยหลังเป็นอุปกรณ์มาตรฐานอยู่แล้ว เวลาซื้อรถอาจจะลองเช็คเพิ่มเติมเกี่ยวกับความละเอียดของกล้องหรือมุมกล้องด้วยนะ นอกจากนี้ แนะนำว่าควรหมั่นมองกระจกข้างและหันหน้ามองจุดบอดด้วยตัวเอง เพราะบางทีกล้องอาจมีภาพล้าในที่แสงน้อยหรือมีมุมอับ โดยเฉพาะช่วงกลางคืนในฤดูฝนที่ต้องระวังเป็นพิเศษ ถ้าคิดจะติดตั้งกล้องถอยหลังเพิ่มเอง ควรเลือกร้านแต่งรถที่ได้มาตรฐานเพื่อความปลอดภัยของระบบไฟฟ้าในรถ และไม่ให้ส่งผลต่อการรับประกันของรถด้วย
Q
ข้อเสียของ Ciaz 2024 มีอะไรบ้าง
รถยนต์ Ciaz รุ่นปี 2024 ในตลาดไทยยังมีจุดอ่อนที่ควรรู้ครับ เริ่มจากเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร แบบดูดธรรมดาที่แม้จะประหยัดน้ำมันแต่ให้กำลังไม่ค่อยแรงนัก โดยเฉพาะเมื่อต้องใช้งานในสภาพอากาศร้อนหรือขับขึ้นเขาบ่อยๆ ในไทย เวลาแซงบนทางด่วนหรือเมื่อมีผู้โดยสารเต็มคันพร้อมเปิดแอร์อาจรู้สึกไม่ค่อยมีแรง ส่วนวัสดุภายในห้องโดยสารทำจากพลาสติกแข็งดูไม่หรูเท่ารถคู่แข่งในราคาใกล้เคียง และสำหรับคนสูงเกิน 175 ซม. อาจรู้สึกว่าที่นั่งหลังศีรษะค่อนข้างคับ นอกจากนี้ยังขาดฟีเจอร์ยอดนิยมของคนไทยอย่างหลังคาพาโนรามิกและการชาร์จไร้สายซึ่งไม่มาสแตนดาร์ดในทุกรุ่น ควรระวังเรื่องรอยต่อตัวรถในช่วงหน้าฝน แนะนำให้ตรวจสอบร่องระบายน้ำที่ประตูรถก่อนเข้าฤดูฝน ส่วนเรื่องความสูงตัวรถนั้นเหมาะกับถนนในเมือง แต่ถ้าต้องขับบนเส้นทางต่างจังหวัดโดยเฉพาะทางเหนือที่ถนนลูกรังบ่อยๆ ควรเสริมแผ่นป้องกันใต้ท้องรถ อย่างไรก็ตาม จุดเด่นของ Ciaz คือศูนย์บริการซูซูกิในไทยที่มีเครือข่ายกว้างและค่าบำรุงรักษาที่ถูกกว่าเมื่อเทียบกับค่ายอื่น เหมาะสำหรับคนที่อยากประหยัดในระยะยาว เวลาจะซื้อแนะนำให้ลองเปรียบเทียบกับรถญี่ปุ่นรุ่นอื่นในระดับเดียวกันก่อน แล้วดูว่าคุณสมบัติกับราคาแบบไหนที่ตอบโจทย์ที่สุดครับ
ดูเพิ่มเติมข่าวที่เกี่ยวข้อง

ศูนย์รวมรถยนต์กรุงเทพฯ: MITSUBISHI XPANDER CROSS มีราคา 946000 บาทที่เซี่ยงไฮ้
Kevin WongMar 26, 2024

มิตซูบนเวทีงาน Bangkok International Motor Show 2024 ด้วยรถ Xpander และ Xpander Cross HEV
Kevin WongMar 15, 2024

Mitsubishiปรับลดคาดการณ์กำไรทั้งปีลง 30% เนื่องจากภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ และความท้าทายที่เพิ่มขึ้นจากการแข่งขันทั่วโลก
ธนวัฒน์Aug 28, 2025

Mitsubishi ผงาดคว้าแชมป์ AXCR 2025 เหนือโตโยต้า
ธนวัฒน์Aug 21, 2025

Mitsubishi รุ่นต่อไปของ Pajero อาจสร้างขึ้นบนแพลตฟอร์มรถกระบะ Triton
วิรุฬห์Aug 5, 2025
ดูเพิ่มเติม
ข้อดี
ข้อเสีย