Q
วิธีปิดไฟวิ่งกลางวันฟอร์ดเอเวอเรสต์
วิธีปิดไฟวิ่งกลางวันของ Ford Everest โดยทั่วไปขึ้นอยู่กับรุ่นและอุปกรณ์ของรถยนต์ ปกติแล้วสามารถหาตัวเลือกปิดไฟวิ่งกลางวันได้ในเมนูการตั้งค่าบนหน้าจอแสดงผลที่แผงควบคุม อย่างไรก็ตาม ควรตรวจสอบคู่มือการใช้งานของรถรุ่นนั้น ๆ เพื่อดูขั้นตอนที่ถูกต้อง
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto
Q&A เกี่ยวข้อง
Q
เมื่อไหร่ Ford Everest ใหม่จะเปิดตัว
ขณะนี้ยังไม่มีการประกาศวันที่แน่ชัดสำหรับการเปิดตัวรุ่นใหม่ของ Ford Everest อย่างเป็นทางการ แต่โดยทั่วไป การเปิดตัวรถรุ่นใหม่มักต้องพิจารณาปัจจัยหลายด้าน เช่น ความต้องการในตลาด ความก้าวหน้าของการพัฒนาเทคโนโลยี และแผนการดำเนินงานระดับโลก ในตลาดไทยเอง แบรนด์รถยนต์มักเลือกเปิดตัวรุ่นใหม่เมื่อมั่นใจว่าได้เตรียมพร้อมทุกด้านและตัวผลิตภัณฑ์มีความสามารถแข่งขันได้อย่างเต็มที่ คุณสามารถติดตามข่าวสารในวงการยานยนต์และข้อมูลจากทางแบรนด์เพื่อทราบข้อมูลล่าสุดที่แม่นยำ
Q
วิธีการเปิดฝากระโปรงฟอร์ดเอเวอเรสท์
การเปิดท้ายรถ Ford Everest โดยทั่วไปสามารถทำได้ผ่านปุ่มควบคุมภายในรถหรือปุ่มที่อยู่บนกุญแจรีโมท วิธีใช้งานขึ้นอยู่กับรุ่นและการติดตั้งอุปกรณ์ โดยปกติปุ่มควบคุมในรถมักอยู่ใกล้ที่นั่งคนขับ ส่วนปุ่มบนกุญแจรีโมทก็สามารถกดเพื่อเปิดท้ายได้ทันที สำหรับรุ่นที่มีการติดตั้งอุปกรณ์ขั้นสูง อาจมีฟังก์ชันการเปิดท้ายแบบเซ็นเซอร์อัตโนมัติ ซึ่งเพียงแค่พกกุญแจเข้าใกล้ท้ายรถ ท้ายรถก็จะเปิดเองโดยอัตโนมัติ
Q
อันไหนดีกว่า ฟอร์ดเอเวอเรสต์หรือโตโยต้าฟอร์จูนเนอร์
ทั้ง Ford Everest และ Toyota Fortuner ต่างก็เป็นรถยนต์ยอดนิยมในตลาดไทย Ford Everest มีจุดเด่นที่สมรรถนะสูง การควบคุมที่ดีเยี่ยม และฟีเจอร์อุปกรณ์ที่หลากหลาย ขณะที่ Toyota Fortuner ขึ้นชื่อในเรื่องความทนทานและประหยัดน้ำมัน พร้อมด้วยค่าบำรุงรักษาที่ค่อนข้างต่ำ และมีมูลค่าขายต่อที่ดี การเลือกรถรุ่นใดที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับความต้องการและความชอบส่วนบุคคล หากคุณให้ความสำคัญกับประสบการณ์ขับขี่และเทคโนโลยีล้ำสมัย Ford Everest อาจเหมาะกว่า แต่ถ้าคุณเน้นเรื่องความเสถียรและค่าใช้จ่ายในการใช้งานที่ต่ำ Toyota Fortuner ถือเป็นตัวเลือกที่ดีเช่นกัน
Q
ยาวฟอร์ดเอเวอเรสท์เท่าไหร่
ความยาวของตัวถัง Ford Everest อาจแตกต่างกันไปตามรุ่นและการติดตั้งอุปกรณ์ โดยในรุ่นที่พบทั่วไป ตัวถังมีความยาวประมาณ 4,914 มิลลิเมตร
Q
Ford Everest 2022 มีสีอะไรบ้าง
Ford Everest 2022 มีตัวเลือกสีที่หลากหลายตามแต่ละรุ่น โดยทั่วไปแล้วจะมีสี Meteor Grey, Aluminium Metallic, Equinox Bronze, Absolute Black, Snow Flake White Pearl และ Luxe Yellow ให้เลือก
Q
วิธีเริ่มต้นฟอร์ด Everest ด้วยกุญแจ
โดยปกติ วิธีการสตาร์ทรถ Ford Everest จะคล้ายกับรถยนต์ทั่วไป โดยการเสียบกุญแจเข้าที่สวิตช์จุดระเบิด จากนั้นตรวจสอบให้แน่ใจว่าเกียร์อยู่ในตำแหน่งว่าง (หรือ P ในเกียร์อัตโนมัติ) จากนั้นบิดกุญแจตามเข็มนาฬิกาไปที่ตำแหน่งสตาร์ท เพื่อให้เครื่องยนต์เริ่มทำงาน อย่างไรก็ตาม ก่อนเริ่มสตาร์ท ควรตรวจสอบสภาพแวดล้อมรอบตัวรถให้ปลอดภัย และดูที่แผงหน้าปัดว่ามีการแจ้งเตือนความผิดปกติหรือไม่
Q
เครื่องยนต์อะไรอยู่ในฟอร์ดเอเวอเรสท์
ในตลาดประเทศไทย Ford Everest มีตัวเลือกเครื่องยนต์ที่หลากหลาย เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ที่แตกต่างกัน ในบางรุ่นจะติดตั้งเครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตรแบบ Bi-Turbo ซึ่งให้กำลังสูงสุด 210 แรงม้า (155 กิโลวัตต์) ที่ 3,750 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตรที่ช่วง 1,750 - 2,000 รอบต่อนาที รุ่นที่ติดตั้งเครื่องยนต์นี้ ได้แก่ 2.0L Bi-Turbo Titanium+ 4x2 10AT, 2.0L Bi-Turbo Titanium+ 4x4 10AT และ 2.0L Bi-Turbo WILDTRAK 10AT 4×4 ปี 2024 นอกจากนี้ยังมีรุ่นที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซล 3.0 ลิตร V6 Turbo เช่น Everest 3.0L V6 Turbo Platinum 4WD 10AT ซึ่งมีกำลังสูงสุดถึง 250 แรงม้า (184 กิโลวัตต์) และแรงบิดสูงสุด 600 นิวตันเมตร ที่ 2,250 รอบต่อนาที ให้สมรรถนะที่ทรงพลัง ในรุ่นก่อนหน้านั้นมีเครื่องยนต์ดีเซล 2.2 ลิตร 4 สูบ TDCI ที่ให้กำลัง 158 แรงม้า (160ps) และแรงบิด 385 นิวตันเมตร รวมถึงเครื่องยนต์ดีเซล 3.2 ลิตร 5 สูบ TDCI ที่ให้กำลัง 197 แรงม้า (200ps) และแรงบิด 470 นิวตันเมตร โดยเครื่องยนต์เหล่านี้มาพร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด หรือเกียร์ธรรมดา และในรุ่นใหม่ยังมีเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีดให้เลือกด้วย ทั้งยังมีระบบขับเคลื่อน 4x2 และ 4x4 รวมถึงโหมดการขับขี่หลากหลายแบบ ช่วยให้ Ford Everest สามารถมอบสมรรถนะที่มั่นคงและเหมาะสมสำหรับทุกสภาพถนน
Q
วิธีการเปิดถังน้ำมันฟอร์ดเอเวอเรสต์
วิธีเปิดฝาถังน้ำมันของ Ford Everest โดยทั่วไปคือหาปุ่มเปิดฝาถังน้ำมันที่อยู่ใกล้กับที่นั่งคนขับ จากนั้นกดปุ่มเพื่อเปิดฝา แต่ทั้งนี้ในแต่ละรุ่นย่อยของ Ford Everest อาจมีความแตกต่างเล็กน้อยในรายละเอียด
Q
ฟอร์ดเอเวอร์เรสท์มีที่นั่งกี่ที่
Ford Everest มีตัวเลือกการจัดวางเบาะทั้งแบบ 5 ที่นั่ง และ 7 ที่นั่ง เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานที่หลากหลาย โดยรุ่น 5 ที่นั่งเหมาะสำหรับผู้ที่เน้นพื้นที่เก็บสัมภาระด้านหลัง ส่วนรุ่น 7 ที่นั่งจะเหมาะกับการใช้งานในครอบครัว อย่างไรก็ตาม การจัดวางเบาะอาจแตกต่างกันไปตามรุ่นย่อยหรือออปชันที่เลือกเพิ่ม
Q
ราคาฟอร์ดเอเวอเรสต์ใหม่เท่าไหร่
ราคาของ Ford Everest ในประเทศไทยแตกต่างกันไปตามรุ่นและอุปกรณ์ โดย 2.0L Turbo Trend 4x2 6AT ราคา 1,377,000 บาท, 2.0 Turbo Sport 4×2 6AT 2024 ราคา 1,507,000 บาท, 2.0 Sport 6AT Adventure Pack + DAT Pack B 2024 ราคา 1,600,000 บาท, 2.0L Bi-Turbo Titanium+ 4x2 10AT 2024 ราคา 1,747,000 บาท, 2.0L Bi-Turbo Titanium+ 4x4 10AT 2024 ราคา 1,897,000 บาท, 2.0 Bi-Turbo WILDTRAK 10AT 4×4 2024 ราคา 1,922,000 บาท และ 3.0L V6 Turbo Platinum 4WD 10AT ราคา 2,279,000 บาท
Q&A ล่าสุด
Q
รถ Volkswagen Transporter Shuttle เป็นรถยนต์เชิงพาณิชย์หรือไม่
Volkswagen Transporter Shuttle ในประเทศไทยถูกจัดอยู่ในกลุ่มรถเพื่อการพาณิชย์เนื่องจากลักษณะการออกแบบและการใช้งานเป็นหลัก ตัวถังแบบตู้พร้อมที่นั่ง 7 ถึง 9 ที่นั่งเหมาะสำหรับการใช้งานเชิงธุรกิจ เช่น รับส่งพนักงานหรือรถเช่าเหมาท่องเที่ยว เมื่อนำไปจดทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบกจะต้องติดป้ายทะเบียนพื้นเหลืองและอยู่ภายใต้ข้อบังคับการตรวจสภาพตามรอบสำหรับรถพาณิชย์ อย่างไรก็ตามการจัดประเภทในไทยยังพิจารณาจากจำนวนที่นั่งและวัตถุประสงค์การใช้งาน เช่นรุ่น Multivan ที่ใช้แพลตฟอร์มเดียวกันแต่มีจำนวนเบาะน้อยกว่าจะถูกจัดเป็นรถยนต์นั่งส่วนบุคคลและใช้ป้ายทะเบียนพื้นขาว ผู้บริโภคไทยควรให้ความสำคัญกับประเภทการจดทะเบียนเนื่องจากส่งผลต่อภาษีและค่าใช้จ่าย เช่น รถพาณิชย์สามารถขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่มได้แต่ต้องตรวจสภาพทุกสองปี ส่วนรถใช้ส่วนตัวแม้ไม่สามารถขอคืนภาษีได้แต่จะเสียภาษีและค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนในอัตราที่สูงกว่า รถในกลุ่มเดียวกันที่พบได้บ่อยในไทยยังมี Toyota Hiace Commuter และ Mercedes-Benz V-Class ซึ่งมีจุดเด่นต่างกันในด้านการจัดวางภายในและขุมพลัง แนะนำให้พิจารณารายละเอียดอย่างความยืดหยุ่นของเบาะแถวหลัง ระบบปรับอากาศ และความเหมาะสมกับการใช้งานจริงก่อนตัดสินใจ
Q
VW Transporter shuttle คืออะไร
Volkswagen Transporter Shuttle เป็นรถตู้เอนกประสงค์ที่พัฒนาบนพื้นฐานของรถตู้ตระกูล T ของ Volkswagen โดยมุ่งเน้นตลาดการเดินทางแบบกลุ่มและการรับรองลูกค้าเชิงธุรกิจ เหมาะอย่างยิ่งกับประเทศเขตร้อนอย่างไทยในการใช้งานเป็นรถรับส่งสนามบินหรือรถเช่าเหมาท่องเที่ยว มีตัวเลือกที่นั่งแบบ 9 หรือ 11 ที่นั่ง ใช้เครื่องยนต์ดีเซล 2.0 TDI พร้อมพื้นที่เหนือศีรษะกว้างขวางและประตูสไลด์ด้านข้าง เหมาะกับการเดินทางแบบครอบครัวหรือกิจกรรมองค์กรภายในประเทศไทย จุดเด่นคือมีรุ่นหลังคาสูงจำหน่ายในไทยรองรับผู้โดยสารรูปร่างสูงได้ดียิ่งขึ้น อีกทั้งระบบปรับอากาศยังถูกปรับจูนให้เหมาะกับภูมิอากาศร้อนโดยเฉพาะ รุ่นที่ใช้แพลตฟอร์มเดียวกันอย่าง Multivan จะเน้นความหรูหราและภาพลักษณ์ธุรกิจในขณะที่ Transporter Shuttle เน้นความคุ้มค่าและการใช้งานจริง ความแตกต่างนี้ทำให้รถตู้เชิงพาณิชย์ของ Volkswagen สามารถตอบโจทย์ลูกค้าได้หลากหลายกลุ่มในตลาดไทย ด้วยอุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่เติบโตดีในไทย รถรุ่นนี้จึงพบได้บ่อยในเมืองท่องเที่ยวอย่างภูเก็ตและพัทยาโดยเฉพาะในกลุ่มผู้ประกอบการเช่ารถที่เลือกใช้เป็นรถบริการหลัก
Q
รถตู้ VW Transporter ยาวเท่าไหร่
รถยนต์大众 Transporter Shuttle รุ่นมาตรฐานที่มีระยะฐานล้อปกติมีความยาวตัวรถ 5,304 มิลลิเมตร และระยะฐานล้อ 3,400 มิลลิเมตร ขนาดนี้ถือว่าเหมาะสมกับการใช้งานบนถนนในเมืองและลานจอดรถในประเทศไทยเป็นอย่างดี เพราะนอกจากจะให้พื้นที่ภายในกว้างขวางพอสำหรับผู้โดยสาร 9 ที่นั่งแล้ว ยังไม่ยาวเกินไปจนทำให้การขับขี่ขาดความคล่องตัว ในตลาดไทย Transporter Shuttle ได้รับความนิยมในฐานะรถรับส่งของโรงแรมหรือรถเช่าท่องเที่ยว เนื่องจากมีความทนทานและใช้งานได้หลากหลาย โดยเฉพาะรุ่นหลังคาสูงที่สามารถบรรจุกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ของนักท่องเที่ยวไทยได้อย่างสบายๆ จุดที่น่าสนใจคือเวลาชาวไทยเลือกซื้อรถประเภทนี้ มักจะให้ความสำคัญกับความสูงจากพื้นรถด้วย เพราะ Transporter Shuttle มีความสูงจากพื้นรถขั้นต่ำ 190 มิลลิเมตร ซึ่งเหมาะกับสภาพถนนบางสายในชนบทของไทย นอกจากนี้เครื่องยนต์ดีเซล 2.0 TDI ยังผ่านการทดสอบแล้วว่าใช้งานได้เสถียรในสภาพอากาศร้อนของไทย และค่าบำรุงรักษาก็อยู่ในระดับสมเหตุสมผล นี่คือจุดเด่นที่เจ้าของรถเชิงพาณิชย์ในไทยให้ความสำคัญเป็นพิเศษ
Q
รถ Volkswagen Transporter Shuttle มีที่นั่งกี่ที่
Volkswagen Transporter Shuttle เป็นรถตู้เอนกประสงค์ที่ได้รับความนิยมในตลาดไทยโดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจและการท่องเที่ยว รุ่นมาตรฐานมาพร้อมที่นั่ง 9 ที่นั่งในรูปแบบ 2+2+2+3 และบางรุ่นมีตัวเลือก 11 ที่นั่งเพื่อตอบโจทย์การใช้งานเชิงพาณิชย์ที่หลากหลาย การออกแบบเบาะนั่งแบบโมดูล่าร์เหมาะสำหรับการใช้งานเป็นรถเช่าเหมาเพื่อการท่องเที่ยวหรือรถรับส่งพนักงานในองค์กร จุดเด่นคือในไทย Transporter มักถูกนำไปดัดแปลงเป็นรถแคมป์หรูแต่รุ่น Shuttle จากโรงงานจะเน้นการใช้งานจริงโดยใช้ระบบช่วงล่างหลังแบบแหนบเหล็กเพื่อรองรับน้ำหนักบรรทุกได้ดี ผู้บริโภคไทยควรทราบว่า Transporter Shuttle มีจุดยืนต่างจากรุ่น Multivan ซึ่งเน้นความหรูหราและใช้ช่วงล่างหลังแบบอิสระ ในขณะที่ Shuttle เน้นความคุ้มค่าและความยืดหยุ่นของพื้นที่ใช้งาน มักพบเห็นได้บ่อยในเมืองใหญ่เช่นกรุงเทพฯ โดยใช้เป็นรถรับส่งสนามบินหรือรถโรงแรม แนะนำให้ตรวจสอบปีรุ่นและรายละเอียดอุปกรณ์ให้ชัดเจนก่อนซื้อเนื่องจากบางรุ่นหลังปี 2020 มีการปรับช่วงการเลื่อนเบาะแถวสองซึ่งอาจมีผลต่อความสะดวกในการขนสัมภาระขนาดใหญ่สำหรับผู้ใช้งานในไทย
Q
แอสตัน มาร์ติน V8 Vantage เป็นรถที่ดีหรือไม่
แอสตัน มาร์ติน V8 Vantage คือสุดยอดรถสปอร์ตหรูที่มาพร้อมสมรรถนะอันยอดเยี่ยม ขุมพลังเครื่องยนต์ V8 เทอร์โบคู่ความจุ 4.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุดถึง 503 แรงม้า เร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 3.6 วินาที แสดงศักยภาพด้านความแรงได้อย่างน่าประทับใจ ไม่เพียงเท่านั้น การออกแบบสุดคลาสสิกแบบอังกฤษผสานงานฝีมือระดับมาสเตอร์พีซยังทำให้มันกลายเป็นรถในฝันของนักเลงรถหลายคน สำหรับในไทย V8 Vantage ถือว่ามีสมรรถนะการขับขี่และการปรับตัวได้ดีเป็นพิเศษ โดยเฉพาะระบบช่วงล่างที่ถูกตั้งค่าให้รับมือกับสภาพถนนซับซ้อนในกรุงเทพฯ ได้อย่างมั่นใจ แถมความต้องการรถหรูในไทยที่สูงยังทำให้ดีไซน์เฉพาะตัวและแบรนด์มูลค่าสูงของ V8 Vantage ดึงดูดผู้ซื้อได้ไม่น้อย แอสตัน มาร์ตินยังมีตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการในไทย พร้อมให้บริการหลังการขายและดูแลรักษาอย่างครบวงจร มั่นใจได้ว่าคุณจะได้สัมผัสประสบการณ์การใช้งานระดับพรีเมียม สำหรับคนไทยที่หลงใหลรถสปอร์ตสมรรถนะสูง V8 Vantage ไม่ใช่แค่ให้ความสนุกในการขับเท่านั้น แต่ยังเป็นตัวบอกระดับความชิคของผู้เป็นเจ้าของได้ดีเลยทีเดียว อย่างไรก็ตาม ต้องบอกก่อนว่าราคารถและค่าดูแลรักษาที่ค่อนข้างสูงอาจเหมาะกับผู้ที่มีงบประมาณพอสมควรเท่านั้น ถ้าสนใจรถสปอร์ตหรูระดับนี้ ลองมองหาตัวเลือกอื่นในคลาสเดียวกันดูก็ได้ เช่น พอร์เช่ 911 หรือ เมอร์เซเดส-AMG GT ที่แต่ละรุ่นก็มีจุดเด่นแตกต่างกันไป เลือกให้เหมาะกับสไตล์การใช้งานของคุณจะดีที่สุด
ดูเพิ่มเติมข่าวที่เกี่ยวข้อง

Ford Everest: พื้นที่ 7 ที่นั่งและเทคโนโลยีอัจฉริยะเปิดเผยความคุ้มค่า
วิรุฬห์Apr 9, 2025

Ford Everest Special Edition เปิดตัวในช่วง Motor Show 2025
ณัฐวุฒิApr 2, 2025

ความสามารถในการขับขี่ทั่วไปและการใช้งานในครัวเรือนทั้งหมดที่หลัง, Ford Everest คุ้มค่าสำหรับการซื้อหรือไม่?
AshleyOct 16, 2024

SUV สายลุยที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการ Ford Everest มีดีอย่างไร?
ธนวัฒน์Sep 9, 2024

เพียง 20,000 บาท! Ford Everest Sport ชุดผจญภัย โปรโมชั่นจำกัดเวลา!
AshleyAug 19, 2024
ดูเพิ่มเติม
ข้อดี
ข้อเสีย