Q

Honda City Hatchback มีขนาดเครื่องยนต์เท่าไหร่

Honda City Hatchback ในตลาดไทยตอนนี้ ส่วนใหญ่จะมาพร้อมกับเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร i-VTEC แบบประหยัดน้ำมัน ความจุ 1497 ซีซี เครื่องยนต์ตัวนี้ขึ้นชื่อเรื่องความประหยัดและความทนทาน เหมาะมากๆ สำหรับขับในเมืองแบบกรุงเทพฯ ที่รถติดบ่อย แถมยังตอบโจทย์คนไทยที่ต้องการรถสำหรับใช้ชีวิตประจำวันได้ดีเลย ส่วนเกียร์นั้นมักจะเป็น CVT ที่ให้ความรู้สึกนุ่มสบายเวลาขับข่า ในตลาดไทย รถขนาดเล็กอย่าง Hatchback เป็นที่นิยมมาก เพราะนอกจากจอดง่ายแล้ว ยังได้สิทธิ์ลดภาษีจากรัฐบาลสำหรับรถที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอีกด้วย แถมค่าดูแลรักษาก็ไม่สูงมาก เหมาะกับคนที่อยากประหยัดงบประมาณ ส่วนเทคโนโลยี i-VTEC จากฮอนด้านี่แหละ ที่ช่วยปรับวาล์วให้ประหยัดน้ำมันตอนรอบต่ำ แต่ยังให้พลังสูงเมื่อต้องการ เร่งแซง หรือขึ้นเขาได้สบายๆ เรียกได้ว่าเข้ากับสภาพถนนแบบผสมผสานของไทยได้ดี ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางระยะสั้นในเมืองหรือการเดินทางไกลเป็นครั้งคราว ก็สามารถทำได้ สำหรับคนที่กำลังคิดจะซื้อ Honda City Hatchback อยู่นะ นอกจากเรื่องเครื่องยนต์แล้ว ควรดูเรื่องบริการหลังการขายของฮอนด้าในไทยด้วย เพราะมีศูนย์บริการกระจายอยู่ทั่วประเทศ แถมยังมีโปรโมชั่นดูแลรักษารถเป็นประจำให้เลือกใช้กันอีกนะครับ
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto

Q&A เกี่ยวข้อง

Q
Honda City Hatchback มือสองราคาเท่าไหร่?
ราคารถ Honda City Hatchback มือสองในตลาดไทยจะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น อายุรถ ระยะทาง สภาพตัวรถ และระดับอุปกรณ์ โดยทั่วไปแล้วรุ่นปี 2021-2022 จะอยู่ที่ประมาณ 5 แสนถึง 7 แสนบาท แต่ต้องตรวจสอบรายงานสภาพรถและประวัติการเซอร์วิสจริงๆ ด้วย รุ่นนี้ขายดีมากในไทยเพราะประหยัดน้ำมัน โครงสร้างภายในใช้งานได้ดี แถมศูนย์บริการฮอนด้าในไทยก็ครอบคลุม ทำให้รถมือสองขายต่อง่าย ถ้าจะซื้อแนะนำให้ตรวจสอบประวัติรถผ่านช่องทางรถมือสองรับประกันโดยฮอนด้า หรือเว็บไซต์มืออาชีพ ต้องเช็คเกียร์และเครื่องยนต์ให้ละเอียด โดยเฉพาะช่วงหน้าฝนไทยที่อาจมีปัญหาน้ำท่วม ควรตรวจสอบรอยน้ำอย่างใกล้ชิด ถ้าอยากประหยัดกว่านี้ อาจมองรถญี่ปุ่นรุ่นอื่นอย่างโตโยต้ายาริสหรือมาสด้า 2 แต่ต้องยอมรับว่า Honda City Hatchback แบ็ครุ่นไฮบริดนั้นประหยัดน้ำมันกว่า เหมาะกับการขับขี่ในเมืองสุดๆ
Q
Honda City Hatchback มีรุ่น Hybrid หรือไม่?
ปัจจุบัน Honda City Hatchback ในตลาดไทยยังไม่มีรุ่น Hybrid ตัวนี้เน้นเครื่องยนต์เบนซินเป็นหลัก พ่วงมาด้วยเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร i-VTEC ที่ตอบโจทย์ทั้งประหยัดน้ำมันและแรงขับ ตลาดไทยเริ่มมีความต้องการรถ Hybrid เพิ่มขึ้น ซึ่งฮอนด้าเองก็มีรุ่น Hybrid อื่นๆ ในไทยแล้ว เช่น Honda Civic และ Honda HR-V รุ่น Hybrid ในอนาคตอาจมีการนำเทคโนโลยีนี้มาต่อยอดในโมเดลอื่นๆ อีก เทคโนโลยี Hybrid ที่ผสมผสานระหว่างมอเตอร์ไฟฟ้าและเครื่องยนต์ช่วยลดทั้งการสิ้นเปลืองน้ำมันและมลพิษได้ดี เหมาะกับสภาพการจราจรติดขัดในกรุงเทพฯ ถ้าสนใจรถรักษ์สิ่งแวดล้อมประหยัดน้ำมัน ลองดูรุ่น Hybrid ที่มีในตลาดหรือรออัปเดตจากฮอนด้าก็ได้ ส่วนเรื่องภาษี รัฐบาลไทยมีสนับสนุนรถพลังงานสะอาด ทั้ง Hybrid และ EV ก็เป็นตัวเลือกน่าสนใจ แนะนำให้ตรวจสอบข้อมูลล่าสุดทางเว็บไซต์ฮอนด้าไทยหรือติดต่อโชว์รูมก่อนตัดสินใจซื้อ
Q
Honda City Hatchback มีโปรโมชั่นอะไรบ้าง?
ตอนนี้ Honda City Hatchback ในตลาดไทยมีโปรโมชั่นหลากหลายรูปแบบให้เลือก ทั้งส่วนลดเงินสด แผนดาวน์ต่ำ ผ่อนสบายด้วยดอกเบี้ยพิเศษ หรือบริการฟรีเช็คระยะ ซึ่งรายละเอียดโปรโมชั่นอาจแตกต่างกันไปในแต่ละช่วงเวลาและพื้นที่ แนะนำให้ติดต่อตัวแทนจำหน่ายในพื้นที่โดยตรงเพื่อสอบถามข้อมูลล่าสุด รุ่นนี้เป็นที่นิยมมากในไทยเพราะขนาดคันที่คล่องตัว ประหยัดน้ำมัน เหมาะกับการขับขี่ในเมือง เครื่องยนต์ 1.0 ลิตรเทอร์โบชาร์จให้ทั้งแรงและประหยัด แถมยังมาพร้อม Honda Sensing ชุดเทคโนโลยีความปลอดภัยที่ทันสมัยที่สุดในระดับเดียวกัน ส่วนในสภาพอากาศร้อนๆ ของไทย ระบบแอร์และกระจกกัน UV ก็ช่วยให้ความรู้สึกสบายตลอดการเดินทาง นอกจากโปรโมชั่นแล้ว ควรสอบถามตัวแทนจำหน่ายเกี่ยวกับบริการเสริมเช่น ฟรีฟิล์มกรองแสง หรือการรับประกันที่ขยายระยะเวลา เพื่อเพิ่มความคุ้มค่าและประสบการณ์การใช้งานให้ดียิ่งขึ้น
Q
Honda City Hatchback รองรับผู้โดยสารกี่คน?
Honda City Hatchback คือรถคันเล็กแบบแฮทช์แบ็กที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์คนเมืองในไทยมากๆ โครงสร้างมาตรฐานเป็นแบบ 5 ที่นั่ง ให้พื้นที่สบายๆ สำหรับผู้โดยสาร 5 คน พอดีสำหรับครอบครัวใช้ชีวิตประจำวันหรือออกทริปกับเพื่อน โครงสร้างภายในถูกออกแบบมาอย่างดี โดยเฉพาะพื้นที่ขาที่นั่งหลังที่กว้างขวาง แม้เดินทางไกลก็ยังรู้สึกสบาย ส่วนกระโปรงหลังจุได้ประมาณ 289 ลิตร เพียงพอสำหรับของใช้เวลาช้อปปิ้งหรือทริปสั้นๆ ในสภาพอากาศร้อนๆ ของไทย รถรุ่นนี้ยังติดตั้งระบบแอร์เย็นฉ่ำและช่องลมหลังที่นั่ง ทำให้ทุกคนในรถรู้สึกเย็นสบาย แถมยังมาพร้อมระบบ Honda SENSING ช่วยเพิ่มความปลอดภัย เช่น ระบบเบรกอัตโนมัติเมื่อเจอวัตถุข้างหน้าและระบบช่วยควบคุมเลน เหมาะมากสำหรับการขับในเมืองอย่างกรุงเทพฯ ที่การจราจรค่อนข้างติดขัด รถยนต์รุ่นนี้ยังมีตัวเลือกการประหยัดน้ำมันที่ยืดหยุ่น ซึ่งรวมถึงรุ่นเครื่องยนต์เทอร์โบชาร์จ 1.0 ลิตร และรุ่นไฮบริด 1.5 ลิตร ซึ่งสามารถปรับให้เข้ากับความต้องการที่แตกต่างกันของผู้บริโภคชาวไทย ทั้งด้านการประหยัดพลังงานและสมรรถนะ นับเป็นรุ่นที่ลงตัวที่ผสานการใช้งานจริงและเทคโนโลยีเข้าไว้ด้วยกัน
Q
Honda City Hatchback มีระบบความปลอดภัยอะไรบ้าง?
รถ Honda City Hatchback ในตลาดไทยมาพร้อมกับระบบความปลอดภัยครบครัน ทั้งระบบช่วยขับขี่อัจฉริยะ Honda SENSING ที่รวมฟังก์ชันสำคัญอย่าง ระบบเบรกป้องกันการปะทะ (CMBS) ระบบช่วยรักษาเลน (LKAS) ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (ACC) และระบบเตือนเมื่อออกนอกเลน (LDW) นอกจากนี้ยังมีถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง ระบบช่วยทรงตัว (VSA) และกล้องถอยหลัง ซึ่งเป็นระบบความปลอดภัยทั้งแบบแอคทีฟและพาสซีฟที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ประจำวันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในสภาพการจราจรที่คับคั่งของเมืองไทย ระบบเหล่านี้ใช้งานได้จริงมากๆ เช่น CMBS จะช่วยลดความเสี่ยงการชนท้ายในเส้นทางรถติด ส่วน LKAS จะช่วยให้ผู้ขับควบคุมรถให้อยู่กลางเลนได้ง่ายขึ้นโดยเฉพาะบนทางด่วน แถมยังมาพร้อมกับโครงสร้างตัวรถ ACE ที่ออกแบบมาเพื่อดูดซับแรงกระแทกได้ดียิ่งขึ้น สำหรับคนไทยแล้ว การเลือกรถที่มีระบบความปลอดภัยครบวงจรเป็นเรื่องสำคัญ เพราะทั้งสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงบ่อยและสภาพการจราจรที่ซับซ้อน ระบบความปลอดภัยที่ดีไม่เพียงแต่ลดโอกาสเกิดอุบัติเหตุ แต่ยังช่วยปกป้องผู้โดยสารได้มากที่สุดหากเกิดเหตุไม่คาดคิดขึ้น
Q
Honda City Hatchback มีสีอะไรให้เลือกบ้าง?
Honda City Hatchback ในตลาดไทยมีสีให้เลือกหลายแบบ ทั้งโทนสีเมทัลลิกที่ดูทันสมัยและโทนสีคลาสสิก โดยสีที่เลือกได้จะมีคริสตัลแบล็ค แพลตินัมไวท์ เมทัลลิกซิลเวอร์ เรดเพิร์ล และสีน้ำเงิน เป็นต้น สีเหล่านี้ไม่เพียงตอบโจทย์รสนิยมของกลุ่มวัยรุ่น แต่ยังเหมาะกับความต้องการเฉพาะตัวของผู้ใช้แต่ละคน ในสภาพอากาศไทยที่ทั้งร้อนและฝนชุก สีรถทุกสีผ่านการเคลือบพิเศษเพื่อให้ทนทานต่อสภาพอากาศและป้องกันรังสียูวีได้ดี แถมฮอนด้ายังมักออกรุ่นสีลิมิเต็ดเอดิชันตามเทรนด์ตลาดเพื่อดึงดูดลูกค้าเพิ่มอีกด้วย เวลาเลือกสีนอกจากจะดูที่ความชอบส่วนตัวแล้ว ก็ควรคำนึงถึงสภาพการใช้จริงในไทยด้วย เช่น สีอ่อนจะทนความร้อนและดูแลง่ายในแดดแรงๆ ส่วนสีเข้มจะให้ความรู้สึกคลาสสิกและหรูหรากว่า นอกจากนี้ด้วยดีไซน์ตัวรถของ Honda City Hatchback ที่ออกแนวสปอร์ต ถ้าเลือกสีสดๆ จะยิ่งช่วยเน้นภาพลักษณ์ความYoungได้ดี ไม่ว่าจะเลือกสีไหน รถคันนี้ก็เข้ากับบรรยากาศถนนไทยและไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างแนบเนียน
Q
Honda City Hatchback ภายในกว้างขวางไหม?
Honda City Hatchback เป็นรุ่นที่ออกแบบมาสำหรับการขับขี่ในเมืองด้วยขนาดคอมแพค แต่โดดเด่นในเรื่องความคล่องตัวและการใช้พื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นที่สนใจในตลาดไทย ขนาดตัวถังอยู่ที่ 4,345 มม. × 1,748 มม. × 1,488 มม. ระยะฐานล้อ 2,589 มม. แม้จะจัดอยู่ในกลุ่มรถขนาดเล็ก แต่ด้วยแนวคิด MM ของฮอนด้า (ลดพื้นที่เครื่องยนต์ให้น้อยสุด ขยายพื้นที่ผู้โดยสารให้มากสุด) ทำให้การจัดวางภายในถูกออกแบบมาอย่างเหมาะสม พื้นที่ส่วนหัวและขาหน้าด้านหน้าเพียงพอ ส่วนพื้นที่ขาหลังก็กว้างขวางเมื่อเทียบกับรถในระดับเดียวกัน เหมาะกับการเดินทางระยะสั้นของครอบครัวหรือการขับขี่ในเมืองแบบที่นิยมในไทย ความจุท้ายรถอยู่ที่ประมาณ 289 ลิตร (เมื่อไม่พับเบาะหลัง) เพียงพอต่อการใช้งานทั่วไป แต่หากพับเบาะหลังก็จะเพิ่มพื้นที่เก็บของได้อีก ในสภาพอากาศร้อนชื้นของไทย ระบบแอร์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และในรุ่นท็อปยังมีช่องลมแอร์ด้านหลังเพื่อเพิ่มความสบายให้ผู้โดยสาร อย่างไรก็ตาม สำหรับบางซอยแคบหรือที่จอดรถแน่นในไทย ความกว้างระดับ 1.7 เมตรของ City Hatchback อาจได้เปรียบเรื่องความคล่องตัวเมื่อเทียบกับ SUV ขนาดใหญ่ แต่หากต้องใช้งานแบบเต็มความจุ 5 คนเป็นประจำสำหรับการเดินทางไกล แนะนำให้ทดลองนั่งจริงโดยเฉพาะพื้นที่ด้านกว้างของเบาะหลัง ในตลาดรถระดับเดียวกันยังมีรุ่นที่คล้ายกันอย่าง Toyota Yaris Ativ ที่ผู้ซื้อสามารถเปรียบเทียบตามความชอบในการออกแบบและความต้องการฟังก์ชั่นต่างๆ ได้
Q
Honda City Hatchback ประหยัดน้ำมันเท่าไร?
Honda City Hatchback ในไทยนั้นประหยัดน้ำมันสุดๆ รุ่นเครื่องยนต์ 1.0 ลิตรเทอร์โบทำสถิติเฉลี่ยประมาณ 23.8 กม./ลิตร จากการทดสอบมาตรฐานของไทย ส่วนรุ่นไฮบริดนั้นยิ่งคุ้มค่ากว่า ทำได้ถึง 27.8 กม./ลิตร เลยทีเดียวเหมาะมากสำหรับสภาพการจราจรที่ต้องออกตัว-หยุดบ่อยครั้งในเมืองใหญ่ของไทยและผู้บริโภคที่เน้นการประหยัดน้ำมัน และคนที่เน้นเรื่องประหยัดน้ำมันเป็นหลัก ตัวรถมาพร้อมเทคโนโลยี Earth Dreams ของฮอนด้าที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพเครื่องยนต์และลดน้ำหนักตัวรถ ทำให้ทั้งประหยัดและยังเร่งแซงได้ดี แม้อยู่ในอากาศร้อนๆ แบบไทยๆ แอร์ก็ถูกปรับแต่งพิเศษให้เย็นสบายแต่ไม่ทำให้น้ำมันพุ่งจนน่าตกใจ สำหรับคนที่ต้องเจอรถติดในกรุงเทพฯ บ่อยๆ ระบบสตาร์ท-สต็อปรอบเดินเบาของ City Hatchback ช่วยลดการใช้เชื้อเพลิงที่ไม่จำเป็นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ที่สำคัญนอกจากจะประหยัดแล้ว ยังมีพื้นที่เก็บของที่จัดเต็มและขนาดตัวรถกะทัดรัดเหมาะกับซอยแคบๆ ในไทย ถือเป็นตัวเลือกชั้นดีสำหรับคนเมือง ส่วนเรื่องอัตราสิ้นเปลืองจริงอาจแตกต่างกันไปตามสไตล์การขับ สภาพถนน และน้ำหนักบรรทุก ควรเข้าศูนย์ตามกำหนดและเช็คลมยางสม่ำเสมอเพื่อประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันที่ดีที่สุด
Q
"Honda City Hatchback มีรุ่นย่อยอะไรบ้าง?
Honda City Hatchback ในตลาดไทยมีหลายรุ่นให้เลือกตามความต้องการของผู้ใช้ โดยแบ่งเป็น 4 รุ่นหลักคือ S V SV และ RS แต่ละรุ่นมีความแตกต่างทั้งในเรื่องของอุปกรณ์และราคา รุ่น S เป็นรุ่นเริ่มต้นที่เน้นความประหยัดและใช้งานพื้นฐาน พร้อมด้วยระบบความปลอดภัยและความบันเทิงมาตรฐาน ส่วนรุ่น V และ SV จะเพิ่มความสบายและเทคโนโลยีมากขึ้น เช่น จอสัมผัสและระบบช่วยขับขี่ ในขณะที่รุ่น RS เป็นรุ่นสปอร์ตที่โดดเด่นด้วยดีไซน์เฉพาะ พร้อมชุดแต่งภายนอกและวัสดุภายในระดับพรีเมียม ทุกรุ่นใช้เครื่องยนต์เทอร์โบ 1.0 ลิตรร่วมกับเกียร์ CVT ที่ให้ทั้งความประหยัดน้ำมันและสมรรถนะที่ตอบโจทย์ สำหรับคนไทยแล้ว ขนาดกะทัดรัดของ City Hatchback เหมาะกับการขับขี่ในเมืองเป็นอย่างยิ่ง แถมยังได้ความน่าเชื่อถือจากฮอนด้าและเครือข่ายบริการที่ครอบคลุมอีกด้วย เวลาเลือกรุ่นควรดูความต้องการและงบประมาณเป็นหลัก เช่น ถ้าต้องขับทางไกลบ่อยอาจเลือกรุ่น SV หรือ RS ที่มีระบบความปลอดภัยครบครัน แต่ถ้าใช้แค่ในเมืองก็เลือกรุ่น S ที่ประหยัดกว่าได้ นอกจากนี้ การที่ฮอนด้ามีอัตราค่าเสื่อมราคาต่ำในไทยก็เป็นอีกจุดที่ควรคำนึงเวลาซื้อด้วย
Q
Honda City Hatchback ราคาเท่าไหร่?
Honda City Hatchback เป็นรถแฮทช์แบคขนาดกะทัดรัดที่ฮอนด้าขายดีมากในตลาดไทย ราคาจะแตกต่างกันไปตามระดับเครื่องยนต์และอุปกรณ์เสริม โดยรุ่นเริ่มต้นราคาเริ่มที่ 599,000 บาท ส่วนรุ่นท็อปสุดอาจพุ่งไปถึง 749,000 บาท แต่ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลงจากโปรโมชั่นหรืออุปกรณ์เสริมที่เลือกเพิ่ม รถคันนี้โดดเด่นเรื่องความประหยัดน้ำมัน การออกแบบภายในที่ใช้งานได้หลากหลาย และประสิทธิภาพที่เชื่อถือได้ เหมาะมากกับการขับขี่ในเมือง โดยเฉพาะในสภาพการจราจรติดขัดแบบกรุงเทพฯ Honda City Hatchback มาพร้อมเครื่องยนต์เทอร์โบ 1.0 ลิตร คู่กับเกียร์ CVT ที่ให้การขับขี่ลื่นไหล พร้อมประหยัดน้ำมันได้ดี ตอบโจทย์ความต้องการของคนไทยที่มองหาราคะประหยัดและใช้งานได้จริง แถมยังติดตั้งระบบความปลอดภัย Honda SENSING ที่มีฟังก์ชันช่วยเบรกเมื่อเจอสิ่งกีดขวางและช่วยควบคุมเลน ช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับการขับขี่ ถ้าคุณกำลังมองหาแฮทช์แบคที่คุ้มราคาและเหมาะกับการขับขี่ในเมือง Honda City Hatchback ก็เป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจ แนะนำให้ไปทดลองขับและสอบถามโปรโมชั่นล่าสุดที่ตัวแทนจำหน่ายใกล้บ้านคุณดู

ข้อดี

ออกแบบทันสมัยและหล่อ
ตัวถังรถกว้างขวางสบาย มีฟังก์ชันที่หลากหลายมากขึ้น

ข้อเสีย

เครื่องยนต์รู้สึกเฉยๆเมื่อสปีดต่ำ

Q&A ล่าสุด

Q
วิธีการใช้ GPS ใน Toyota Fortuner
การใช้ระบบนำทาง GPS ในรถ Toyota Fortuner ที่ประเทศไทยนั้นง่ายมาก เริ่มจากเมื่อคุณสตาร์ทรถแล้ว ให้มองหาไอคอนนำทางบนหน้าจอกลางคอนโซลแล้วแตะเข้าไป ระบบจะโหลดแผนที่อัตโนมัติ คุณสามารถป้อนที่หมายปลายทางด้วยการสัมผัสหน้าจอ หรือเลือกจากสถานที่ที่บันทึกไว้ก่อนหน้านี้ได้ เมื่อยืนยันเส้นทางแล้ว ระบบจะให้คำแนะนำทั้งเสียงและภาพเพื่อพาคุณไปถึงที่หมายอย่างราบรื่น แผนที่ในประเทศไทยโดยทั่วไปครอบคลุมเมืองหลักและจุดท่องเที่ยวสำคัญ แนะนำให้อัปเดตแผนที่เป็นประจำเพื่อความแม่นยำ นอกจากนี้ GPS ของ Toyota Fortuner ยังรองรับข้อมูลจราจรแบบเรียลไทม์ ซึ่งช่วยให้คุณหลีกเลี่ยงเส้นทางติดขัดในเมืองอย่างกรุงเทพฯ ได้ ช่วยประหยัดเวลาได้ดีเลยทีเดียว ถ้าคุณต้องขับทางไกลบ่อยๆ สามารถตั้งค่าจุดแวะพักล่วงหน้าเพื่อวางแผนเส้นทางที่เหมาะสมได้ แต่อย่าลืมว่าในพื้นที่ชนบทหรือห่างไกลของไทย สัญญาณ GPS อาจไม่แรง แนะนำให้ดาวน์โหลดแผนที่แบบออฟไลน์ไว้ก่อนจะดีกว่า นอกจากระบบนำทางมาตรฐานของรถแล้ว คนไทยยังนิยมใช้แอปนำทางเช่น Google Maps หรือ Waze เป็นตัวเสริม เพราะอัปเดตบ่อยและใช้งานง่าย แต่จุดเด่นของ GPS ในรถคือการทำงานที่ประสานกับระบบรถได้ดี เช่น สามารถใช้ปุ่มลัดบนพวงมาลัยควบคุมได้ แต่ไม่ว่าจะใช้ระบบนำทางแบบไหน ขอให้โฟกัสกับการขับขี่เป็นหลักครับ ความปลอดภัยต้องมาก่อนเสมอ
Q
วิธีปิดระบบกันขโมยรถยนต์ Toyota Fortuner
หากต้องการปิดใช้งานระบบกันขโมยของ Toyota Fortuner คุณสามารถทำได้โดยการกดปุ่มปลดล็อกบนกุญแจรถหรือกุญแจอัจฉริยะ หากระบบกันขโมยทำงานโดยไม่ตั้งใจ การกดปุ่มปลดล็อกหนึ่งครั้งจะหยุดการทำงาน หากวิธีนี้ไม่ได้ผล คุณสามารถลองปลดล็อกประตูด้วยตนเองโดยเสียบกุญแจเข้ากับตัวล็อกประตู ซึ่งจะเป็นการรีเซ็ตระบบกันขโมยด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ Fortuner บางรุ่นอาจติดตั้งตัวเลือกการตั้งค่าหน้าจอควบคุมส่วนกลาง ซึ่งช่วยให้เจ้าของรถสามารถปรับแต่งความไวของระบบสัญญาณกันขโมย หรือปิดฟังก์ชันบางอย่างชั่วคราวได้ ขอแนะนำให้ศึกษาขั้นตอนการใช้งานเฉพาะจากคู่มือเจ้าของรถ เนื่องจากอาจแตกต่างกันไปตามรุ่นรถในแต่ละปีหรือแต่ละรุ่น เนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนในประเทศไทย ความไวของเซ็นเซอร์รถยนต์อาจได้รับผลกระทบจากอุณหภูมิที่สูง ส่งผลให้เกิดสัญญาณเตือนที่ผิดพลาด การตรวจสอบระดับแบตเตอรี่และสถานะของเซ็นเซอร์รถยนต์เป็นประจำจะช่วยลดโอกาสการเกิดสัญญาณเตือนที่ผิดพลาดได้ หากปัญหายังคงอยู่ ขอแนะนำให้ติดต่อศูนย์บริการโตโยต้าที่ได้รับอนุญาตในประเทศไทย เพื่อตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้มั่นใจว่าระบบทำงานได้ตามปกติ ในฐานะรถ SUV ยอดนิยมในตลาดประเทศไทย ระบบความปลอดภัยของโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ได้รับการออกแบบโดยคำนึงถึงสภาพแวดล้อมการใช้งานในแต่ละพื้นที่ อย่างไรก็ตาม ระบบอิเล็กทรอนิกส์อาจประสบปัญหาเป็นครั้งคราวเนื่องจากสัญญาณรบกวนจากภายนอกหรืออุปกรณ์มีอายุการใช้งานยาวนาน ดังนั้นการบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอและการทำงานที่ถูกต้องจึงเป็นสิ่งสำคัญในการรักษาเสถียรภาพของระบบ
Q
Toyota Fortuner มีเครื่องยนต์ประเภทไหน?
รถ Toyota Fortuner ที่วางขายในตลาดไทยมีตัวเลือกเครื่องยนต์หลัก 2 แบบ คือ เครื่องเบนซิน 2.7 ลิตร กับเครื่องดีเซลเทอร์โบ 2.8 ลิตร แบบแรกเป็นรุ่น 2TR-FE ให้กำลังสูงสุดประมาณ 166 แรงม้า เหมาะกับการขับขี่ในเมืองและการใช้งานประจำวัน ส่วนแบบที่สองเป็นรุ่น 1GD-FTV ให้กำลังประมาณ 177 แรงม้า แต่มีแรงบิดสูงกว่า เหมาะสำหรับการเดินทางไกลหรือการบรรทุกหนัก ทั้งสองรุ่นใช้เกียร์ออโต้ 6 สปีดที่ช่วยให้การขับขี่ลื่นไหลและประหยัดน้ำมัน ในไทยคนนิยมรุ่นดีเซลมากกว่าเพราะราคาน้ำมันดีเซลถูกกว่าและวิ่งได้ไกลกว่า เหมาะกับคนที่ต้องขับสลับระหว่างในเมืองกับต่างจังหวัด สุดท้ายเรื่องความทนทานต้องบอกว่าเครื่องยนต์ของ Fortuner พัฒนามาแล้ว เชื่อถือได้ ค่าบำรุงก็ไม่แพง แถมศูนย์บริการโตโยต้าทั่วไทยก็พร้อมดูแล อีกทั้งยังออกแบบมาเฉพาะสำหรับสภาพอากาศร้อนชื้นของไทย ระบบระบายความร้อนดีมาก และป้องกันสนิมได้แน่นอน ถ้าคิดจะซื้อจริงๆ แนะนำให้เลือกเครื่องยนต์ตามการใช้งาน รุ่นดีเซลเหมาะกับคนขับทางไกลบ่อยๆ ส่วนรุ่นเบนซินจะคุ้มค่ากว่าในเมือง
Q
ราคา Toyota Fortuner 2022 คือเท่าไหร่
ราคารถ Toyota Fortuner ปี 2022 ในไทยจะแตกต่างกันไปตามรุ่นและอุปกรณ์ โดยรุ่นพื้นฐาน 2.4 แก๊ส เริ่มต้นที่ประมาณ 1,199,000 บาท ส่วนรุ่นท็อปสุด 2.8 ดีเซล 4WD อาจสูงถึง 1,599,000 บาท ทั้งนี้อาจมีการปรับเปลี่ยนราคาตามโปรโมชั่นของตัวแทนจำหน่ายหรืออุปกรณ์เสริมที่เลือกเพิ่ม รถ SUV ระดับกลางคันนี้ขายดีมากในตลาดไทย เพราะความน่าเชื่อถือของเครื่องยนต์ โครงสร้างที่แข็งแรง และพื้นที่ภายในกว้างขวาง ไม่ว่าจะเป็นการขับขี่ในเมืองหรือถนนชนบทก็สามารถทำได้ Fortuner มีตัวเลือกเครื่องยนต์หลากหลาย ทั้งรุ่น 2.4L และ 2.8L ดีเซล รวมถึงรุ่น 2.7L แก๊ส เพื่อตอบโจทย์ผู้ใช้ที่แตกต่างกัน ในประเทศร้อนๆอย่างไทย ระบบแอร์ของฟอร์จูนเนอร์ทำงานได้ดีเยี่ยม และยังมีความทนทานสูง แถมระยะความสูงจากพื้นรถก็เหมาะกับสภาพถนนที่มีน้ำขังในช่วงฤดูฝน ควรเลือกรุ่นที่ตรงกับความต้องการ เช่น ถ้าต้องขับทางไกลบ่อยๆอาจเลือกรุ่นดีเซลเพื่อประหยัดน้ำมัน หรือถ้าชอบความสบายอาจเลือกรุ่นสูงที่มีเบาะหนังและระบบเสียงคุณภาพ
Q
วิธีการปิดการปลุกใน Toyota Fortuner
สำหรับวิธีการปิดฟังก์ชั่นนาฬิกาปลุกในรถ Toyota Fortuner โดยทั่วไปสามารถทำได้ผ่านเมนูการตั้งค่าบนหน้าจอกลางหรือปุ่มมัลติฟังก์ชั่นบนพวงมาลัย ซึ่งขั้นตอนอาจแตกต่างกันไปตามปีของรุ่นรถ แนะนำให้ตรวจสอบส่วน "การตั้งค่าระบบเตือนภัย" ในคู่มือการใช้รถยนต์ ซึ่งมักจะอยู่ในเมนูย่อย "การตั้งค่ารถยนต์" หรือ "การตั้งค่านาฬิกา" สำหรับผู้ใช้งานในประเทศไทย ควรระวังผลกระทบจากสภาพอากาศร้อนชื้นที่อาจมีต่อระบบอิเล็กทรอนิกส์ การตรวจสอบระดับแบตเตอรี่เป็นประจำจะช่วยป้องกันการแจ้งเตือนผิดพลาดของระบบ ที่น่าสนใจคือระบบปฏิสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับเครื่องมือในรถยนต์สมัยใหม่มีความฉลาดมากขึ้น รุ่นรถหลายรุ่นรองรับการควบคุมฟังก์ชั่นพื้นฐานอย่างนาฬิกาปลุกผ่านคำสั่งเสียง ซึ่งช่วยเพิ่มความสะดวกในการขับขี่ หากพบปัญหาในการใช้งานใดๆ สามารถติดต่อศูนย์บริการโตโยต้าในประเทศไทยเพื่อขอรับการสนับสนุนทางเทคนิคได้ เจ้าหน้าที่บริการของเราได้รับการฝึกอบรมอย่างมืออาชีพและสามารถให้คำแนะนำการใช้งานที่ถูกต้องแม่นยำแก่คุณได้ นอกจากนี้ การใช้งานฟังก์ชั่นอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ของรถอย่างเหมาะสมไม่เพียงช่วยเพิ่มประสบการณ์การขับขี่ แต่ยังช่วยยืดอายุการใช้งานของระบบอิเล็กทรอนิกส์อีกด้วย จึงแนะนำให้เจ้าของรถทำความเข้าใจกับการตั้งค่าต่างๆ ของรถตัวเองเป็นประจำ
ดูเพิ่มเติม