Q

Honda City Hatchback ประหยัดน้ำมันเท่าไร?

Honda City Hatchback ในไทยนั้นประหยัดน้ำมันสุดๆ รุ่นเครื่องยนต์ 1.0 ลิตรเทอร์โบทำสถิติเฉลี่ยประมาณ 23.8 กม./ลิตร จากการทดสอบมาตรฐานของไทย ส่วนรุ่นไฮบริดนั้นยิ่งคุ้มค่ากว่า ทำได้ถึง 27.8 กม./ลิตร เลยทีเดียวเหมาะมากสำหรับสภาพการจราจรที่ต้องออกตัว-หยุดบ่อยครั้งในเมืองใหญ่ของไทยและผู้บริโภคที่เน้นการประหยัดน้ำมัน และคนที่เน้นเรื่องประหยัดน้ำมันเป็นหลัก ตัวรถมาพร้อมเทคโนโลยี Earth Dreams ของฮอนด้าที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพเครื่องยนต์และลดน้ำหนักตัวรถ ทำให้ทั้งประหยัดและยังเร่งแซงได้ดี แม้อยู่ในอากาศร้อนๆ แบบไทยๆ แอร์ก็ถูกปรับแต่งพิเศษให้เย็นสบายแต่ไม่ทำให้น้ำมันพุ่งจนน่าตกใจ สำหรับคนที่ต้องเจอรถติดในกรุงเทพฯ บ่อยๆ ระบบสตาร์ท-สต็อปรอบเดินเบาของ City Hatchback ช่วยลดการใช้เชื้อเพลิงที่ไม่จำเป็นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ที่สำคัญนอกจากจะประหยัดแล้ว ยังมีพื้นที่เก็บของที่จัดเต็มและขนาดตัวรถกะทัดรัดเหมาะกับซอยแคบๆ ในไทย ถือเป็นตัวเลือกชั้นดีสำหรับคนเมือง ส่วนเรื่องอัตราสิ้นเปลืองจริงอาจแตกต่างกันไปตามสไตล์การขับ สภาพถนน และน้ำหนักบรรทุก ควรเข้าศูนย์ตามกำหนดและเช็คลมยางสม่ำเสมอเพื่อประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันที่ดีที่สุด
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto

Q&A เกี่ยวข้อง

Q
Honda City Hatchback มือสองราคาเท่าไหร่?
ราคารถ Honda City Hatchback มือสองในตลาดไทยจะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น อายุรถ ระยะทาง สภาพตัวรถ และระดับอุปกรณ์ โดยทั่วไปแล้วรุ่นปี 2021-2022 จะอยู่ที่ประมาณ 5 แสนถึง 7 แสนบาท แต่ต้องตรวจสอบรายงานสภาพรถและประวัติการเซอร์วิสจริงๆ ด้วย รุ่นนี้ขายดีมากในไทยเพราะประหยัดน้ำมัน โครงสร้างภายในใช้งานได้ดี แถมศูนย์บริการฮอนด้าในไทยก็ครอบคลุม ทำให้รถมือสองขายต่อง่าย ถ้าจะซื้อแนะนำให้ตรวจสอบประวัติรถผ่านช่องทางรถมือสองรับประกันโดยฮอนด้า หรือเว็บไซต์มืออาชีพ ต้องเช็คเกียร์และเครื่องยนต์ให้ละเอียด โดยเฉพาะช่วงหน้าฝนไทยที่อาจมีปัญหาน้ำท่วม ควรตรวจสอบรอยน้ำอย่างใกล้ชิด ถ้าอยากประหยัดกว่านี้ อาจมองรถญี่ปุ่นรุ่นอื่นอย่างโตโยต้ายาริสหรือมาสด้า 2 แต่ต้องยอมรับว่า Honda City Hatchback แบ็ครุ่นไฮบริดนั้นประหยัดน้ำมันกว่า เหมาะกับการขับขี่ในเมืองสุดๆ
Q
Honda City Hatchback มีรุ่น Hybrid หรือไม่?
ปัจจุบัน Honda City Hatchback ในตลาดไทยยังไม่มีรุ่น Hybrid ตัวนี้เน้นเครื่องยนต์เบนซินเป็นหลัก พ่วงมาด้วยเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร i-VTEC ที่ตอบโจทย์ทั้งประหยัดน้ำมันและแรงขับ ตลาดไทยเริ่มมีความต้องการรถ Hybrid เพิ่มขึ้น ซึ่งฮอนด้าเองก็มีรุ่น Hybrid อื่นๆ ในไทยแล้ว เช่น Honda Civic และ Honda HR-V รุ่น Hybrid ในอนาคตอาจมีการนำเทคโนโลยีนี้มาต่อยอดในโมเดลอื่นๆ อีก เทคโนโลยี Hybrid ที่ผสมผสานระหว่างมอเตอร์ไฟฟ้าและเครื่องยนต์ช่วยลดทั้งการสิ้นเปลืองน้ำมันและมลพิษได้ดี เหมาะกับสภาพการจราจรติดขัดในกรุงเทพฯ ถ้าสนใจรถรักษ์สิ่งแวดล้อมประหยัดน้ำมัน ลองดูรุ่น Hybrid ที่มีในตลาดหรือรออัปเดตจากฮอนด้าก็ได้ ส่วนเรื่องภาษี รัฐบาลไทยมีสนับสนุนรถพลังงานสะอาด ทั้ง Hybrid และ EV ก็เป็นตัวเลือกน่าสนใจ แนะนำให้ตรวจสอบข้อมูลล่าสุดทางเว็บไซต์ฮอนด้าไทยหรือติดต่อโชว์รูมก่อนตัดสินใจซื้อ
Q
Honda City Hatchback มีโปรโมชั่นอะไรบ้าง?
ตอนนี้ Honda City Hatchback ในตลาดไทยมีโปรโมชั่นหลากหลายรูปแบบให้เลือก ทั้งส่วนลดเงินสด แผนดาวน์ต่ำ ผ่อนสบายด้วยดอกเบี้ยพิเศษ หรือบริการฟรีเช็คระยะ ซึ่งรายละเอียดโปรโมชั่นอาจแตกต่างกันไปในแต่ละช่วงเวลาและพื้นที่ แนะนำให้ติดต่อตัวแทนจำหน่ายในพื้นที่โดยตรงเพื่อสอบถามข้อมูลล่าสุด รุ่นนี้เป็นที่นิยมมากในไทยเพราะขนาดคันที่คล่องตัว ประหยัดน้ำมัน เหมาะกับการขับขี่ในเมือง เครื่องยนต์ 1.0 ลิตรเทอร์โบชาร์จให้ทั้งแรงและประหยัด แถมยังมาพร้อม Honda Sensing ชุดเทคโนโลยีความปลอดภัยที่ทันสมัยที่สุดในระดับเดียวกัน ส่วนในสภาพอากาศร้อนๆ ของไทย ระบบแอร์และกระจกกัน UV ก็ช่วยให้ความรู้สึกสบายตลอดการเดินทาง นอกจากโปรโมชั่นแล้ว ควรสอบถามตัวแทนจำหน่ายเกี่ยวกับบริการเสริมเช่น ฟรีฟิล์มกรองแสง หรือการรับประกันที่ขยายระยะเวลา เพื่อเพิ่มความคุ้มค่าและประสบการณ์การใช้งานให้ดียิ่งขึ้น
Q
Honda City Hatchback รองรับผู้โดยสารกี่คน?
Honda City Hatchback คือรถคันเล็กแบบแฮทช์แบ็กที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์คนเมืองในไทยมากๆ โครงสร้างมาตรฐานเป็นแบบ 5 ที่นั่ง ให้พื้นที่สบายๆ สำหรับผู้โดยสาร 5 คน พอดีสำหรับครอบครัวใช้ชีวิตประจำวันหรือออกทริปกับเพื่อน โครงสร้างภายในถูกออกแบบมาอย่างดี โดยเฉพาะพื้นที่ขาที่นั่งหลังที่กว้างขวาง แม้เดินทางไกลก็ยังรู้สึกสบาย ส่วนกระโปรงหลังจุได้ประมาณ 289 ลิตร เพียงพอสำหรับของใช้เวลาช้อปปิ้งหรือทริปสั้นๆ ในสภาพอากาศร้อนๆ ของไทย รถรุ่นนี้ยังติดตั้งระบบแอร์เย็นฉ่ำและช่องลมหลังที่นั่ง ทำให้ทุกคนในรถรู้สึกเย็นสบาย แถมยังมาพร้อมระบบ Honda SENSING ช่วยเพิ่มความปลอดภัย เช่น ระบบเบรกอัตโนมัติเมื่อเจอวัตถุข้างหน้าและระบบช่วยควบคุมเลน เหมาะมากสำหรับการขับในเมืองอย่างกรุงเทพฯ ที่การจราจรค่อนข้างติดขัด รถยนต์รุ่นนี้ยังมีตัวเลือกการประหยัดน้ำมันที่ยืดหยุ่น ซึ่งรวมถึงรุ่นเครื่องยนต์เทอร์โบชาร์จ 1.0 ลิตร และรุ่นไฮบริด 1.5 ลิตร ซึ่งสามารถปรับให้เข้ากับความต้องการที่แตกต่างกันของผู้บริโภคชาวไทย ทั้งด้านการประหยัดพลังงานและสมรรถนะ นับเป็นรุ่นที่ลงตัวที่ผสานการใช้งานจริงและเทคโนโลยีเข้าไว้ด้วยกัน
Q
Honda City Hatchback มีระบบความปลอดภัยอะไรบ้าง?
รถ Honda City Hatchback ในตลาดไทยมาพร้อมกับระบบความปลอดภัยครบครัน ทั้งระบบช่วยขับขี่อัจฉริยะ Honda SENSING ที่รวมฟังก์ชันสำคัญอย่าง ระบบเบรกป้องกันการปะทะ (CMBS) ระบบช่วยรักษาเลน (LKAS) ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (ACC) และระบบเตือนเมื่อออกนอกเลน (LDW) นอกจากนี้ยังมีถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง ระบบช่วยทรงตัว (VSA) และกล้องถอยหลัง ซึ่งเป็นระบบความปลอดภัยทั้งแบบแอคทีฟและพาสซีฟที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ประจำวันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในสภาพการจราจรที่คับคั่งของเมืองไทย ระบบเหล่านี้ใช้งานได้จริงมากๆ เช่น CMBS จะช่วยลดความเสี่ยงการชนท้ายในเส้นทางรถติด ส่วน LKAS จะช่วยให้ผู้ขับควบคุมรถให้อยู่กลางเลนได้ง่ายขึ้นโดยเฉพาะบนทางด่วน แถมยังมาพร้อมกับโครงสร้างตัวรถ ACE ที่ออกแบบมาเพื่อดูดซับแรงกระแทกได้ดียิ่งขึ้น สำหรับคนไทยแล้ว การเลือกรถที่มีระบบความปลอดภัยครบวงจรเป็นเรื่องสำคัญ เพราะทั้งสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงบ่อยและสภาพการจราจรที่ซับซ้อน ระบบความปลอดภัยที่ดีไม่เพียงแต่ลดโอกาสเกิดอุบัติเหตุ แต่ยังช่วยปกป้องผู้โดยสารได้มากที่สุดหากเกิดเหตุไม่คาดคิดขึ้น
Q
Honda City Hatchback มีสีอะไรให้เลือกบ้าง?
Honda City Hatchback ในตลาดไทยมีสีให้เลือกหลายแบบ ทั้งโทนสีเมทัลลิกที่ดูทันสมัยและโทนสีคลาสสิก โดยสีที่เลือกได้จะมีคริสตัลแบล็ค แพลตินัมไวท์ เมทัลลิกซิลเวอร์ เรดเพิร์ล และสีน้ำเงิน เป็นต้น สีเหล่านี้ไม่เพียงตอบโจทย์รสนิยมของกลุ่มวัยรุ่น แต่ยังเหมาะกับความต้องการเฉพาะตัวของผู้ใช้แต่ละคน ในสภาพอากาศไทยที่ทั้งร้อนและฝนชุก สีรถทุกสีผ่านการเคลือบพิเศษเพื่อให้ทนทานต่อสภาพอากาศและป้องกันรังสียูวีได้ดี แถมฮอนด้ายังมักออกรุ่นสีลิมิเต็ดเอดิชันตามเทรนด์ตลาดเพื่อดึงดูดลูกค้าเพิ่มอีกด้วย เวลาเลือกสีนอกจากจะดูที่ความชอบส่วนตัวแล้ว ก็ควรคำนึงถึงสภาพการใช้จริงในไทยด้วย เช่น สีอ่อนจะทนความร้อนและดูแลง่ายในแดดแรงๆ ส่วนสีเข้มจะให้ความรู้สึกคลาสสิกและหรูหรากว่า นอกจากนี้ด้วยดีไซน์ตัวรถของ Honda City Hatchback ที่ออกแนวสปอร์ต ถ้าเลือกสีสดๆ จะยิ่งช่วยเน้นภาพลักษณ์ความYoungได้ดี ไม่ว่าจะเลือกสีไหน รถคันนี้ก็เข้ากับบรรยากาศถนนไทยและไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างแนบเนียน
Q
Honda City Hatchback ภายในกว้างขวางไหม?
Honda City Hatchback เป็นรุ่นที่ออกแบบมาสำหรับการขับขี่ในเมืองด้วยขนาดคอมแพค แต่โดดเด่นในเรื่องความคล่องตัวและการใช้พื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นที่สนใจในตลาดไทย ขนาดตัวถังอยู่ที่ 4,345 มม. × 1,748 มม. × 1,488 มม. ระยะฐานล้อ 2,589 มม. แม้จะจัดอยู่ในกลุ่มรถขนาดเล็ก แต่ด้วยแนวคิด MM ของฮอนด้า (ลดพื้นที่เครื่องยนต์ให้น้อยสุด ขยายพื้นที่ผู้โดยสารให้มากสุด) ทำให้การจัดวางภายในถูกออกแบบมาอย่างเหมาะสม พื้นที่ส่วนหัวและขาหน้าด้านหน้าเพียงพอ ส่วนพื้นที่ขาหลังก็กว้างขวางเมื่อเทียบกับรถในระดับเดียวกัน เหมาะกับการเดินทางระยะสั้นของครอบครัวหรือการขับขี่ในเมืองแบบที่นิยมในไทย ความจุท้ายรถอยู่ที่ประมาณ 289 ลิตร (เมื่อไม่พับเบาะหลัง) เพียงพอต่อการใช้งานทั่วไป แต่หากพับเบาะหลังก็จะเพิ่มพื้นที่เก็บของได้อีก ในสภาพอากาศร้อนชื้นของไทย ระบบแอร์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และในรุ่นท็อปยังมีช่องลมแอร์ด้านหลังเพื่อเพิ่มความสบายให้ผู้โดยสาร อย่างไรก็ตาม สำหรับบางซอยแคบหรือที่จอดรถแน่นในไทย ความกว้างระดับ 1.7 เมตรของ City Hatchback อาจได้เปรียบเรื่องความคล่องตัวเมื่อเทียบกับ SUV ขนาดใหญ่ แต่หากต้องใช้งานแบบเต็มความจุ 5 คนเป็นประจำสำหรับการเดินทางไกล แนะนำให้ทดลองนั่งจริงโดยเฉพาะพื้นที่ด้านกว้างของเบาะหลัง ในตลาดรถระดับเดียวกันยังมีรุ่นที่คล้ายกันอย่าง Toyota Yaris Ativ ที่ผู้ซื้อสามารถเปรียบเทียบตามความชอบในการออกแบบและความต้องการฟังก์ชั่นต่างๆ ได้
Q
"Honda City Hatchback มีรุ่นย่อยอะไรบ้าง?
Honda City Hatchback ในตลาดไทยมีหลายรุ่นให้เลือกตามความต้องการของผู้ใช้ โดยแบ่งเป็น 4 รุ่นหลักคือ S V SV และ RS แต่ละรุ่นมีความแตกต่างทั้งในเรื่องของอุปกรณ์และราคา รุ่น S เป็นรุ่นเริ่มต้นที่เน้นความประหยัดและใช้งานพื้นฐาน พร้อมด้วยระบบความปลอดภัยและความบันเทิงมาตรฐาน ส่วนรุ่น V และ SV จะเพิ่มความสบายและเทคโนโลยีมากขึ้น เช่น จอสัมผัสและระบบช่วยขับขี่ ในขณะที่รุ่น RS เป็นรุ่นสปอร์ตที่โดดเด่นด้วยดีไซน์เฉพาะ พร้อมชุดแต่งภายนอกและวัสดุภายในระดับพรีเมียม ทุกรุ่นใช้เครื่องยนต์เทอร์โบ 1.0 ลิตรร่วมกับเกียร์ CVT ที่ให้ทั้งความประหยัดน้ำมันและสมรรถนะที่ตอบโจทย์ สำหรับคนไทยแล้ว ขนาดกะทัดรัดของ City Hatchback เหมาะกับการขับขี่ในเมืองเป็นอย่างยิ่ง แถมยังได้ความน่าเชื่อถือจากฮอนด้าและเครือข่ายบริการที่ครอบคลุมอีกด้วย เวลาเลือกรุ่นควรดูความต้องการและงบประมาณเป็นหลัก เช่น ถ้าต้องขับทางไกลบ่อยอาจเลือกรุ่น SV หรือ RS ที่มีระบบความปลอดภัยครบครัน แต่ถ้าใช้แค่ในเมืองก็เลือกรุ่น S ที่ประหยัดกว่าได้ นอกจากนี้ การที่ฮอนด้ามีอัตราค่าเสื่อมราคาต่ำในไทยก็เป็นอีกจุดที่ควรคำนึงเวลาซื้อด้วย
Q
Honda City Hatchback ราคาเท่าไหร่?
Honda City Hatchback เป็นรถแฮทช์แบคขนาดกะทัดรัดที่ฮอนด้าขายดีมากในตลาดไทย ราคาจะแตกต่างกันไปตามระดับเครื่องยนต์และอุปกรณ์เสริม โดยรุ่นเริ่มต้นราคาเริ่มที่ 599,000 บาท ส่วนรุ่นท็อปสุดอาจพุ่งไปถึง 749,000 บาท แต่ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลงจากโปรโมชั่นหรืออุปกรณ์เสริมที่เลือกเพิ่ม รถคันนี้โดดเด่นเรื่องความประหยัดน้ำมัน การออกแบบภายในที่ใช้งานได้หลากหลาย และประสิทธิภาพที่เชื่อถือได้ เหมาะมากกับการขับขี่ในเมือง โดยเฉพาะในสภาพการจราจรติดขัดแบบกรุงเทพฯ Honda City Hatchback มาพร้อมเครื่องยนต์เทอร์โบ 1.0 ลิตร คู่กับเกียร์ CVT ที่ให้การขับขี่ลื่นไหล พร้อมประหยัดน้ำมันได้ดี ตอบโจทย์ความต้องการของคนไทยที่มองหาราคะประหยัดและใช้งานได้จริง แถมยังติดตั้งระบบความปลอดภัย Honda SENSING ที่มีฟังก์ชันช่วยเบรกเมื่อเจอสิ่งกีดขวางและช่วยควบคุมเลน ช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับการขับขี่ ถ้าคุณกำลังมองหาแฮทช์แบคที่คุ้มราคาและเหมาะกับการขับขี่ในเมือง Honda City Hatchback ก็เป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจ แนะนำให้ไปทดลองขับและสอบถามโปรโมชั่นล่าสุดที่ตัวแทนจำหน่ายใกล้บ้านคุณดู
Q
Honda City hatchback เปิดตัวเมื่อใด?
Honda City Hatchback เปิดตัวครั้งแรกของโลกที่ประเทศไทยในเดือนพฤศจิกายนปี 2020 รุ่นนี้เป็นรถแฮทช์แบคที่ฮอนด้าออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าวัยรุ่นไทย พัฒนาบนแพลตฟอร์มของซิตี้รุ่นที่ 5 ซึ่งยังคงความประหยัดและความคล่องตัวเหมือนเดิม แต่เพิ่มดีไซน์สปอร์ตแบบแฮทช์แบคที่ดูทันสมัยกว่า ในตลาดไทย City Hatchback มีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์เทอร์โบชาร์จ 1.0 ลิตรและเครื่องยนต์ 1.5 ลิตรแบบดูดอากาศเข้าตามธรรมชาติ ควบคู่กับเกียร์ CVT ที่ให้ทั้งความประหยัดน้ำมันและความสนุกในการขับขี่ การมาของรุ่นนี้ช่วยเติมเต็มไลน์อัพรถขนาดเล็กของฮอนด้าในไทย แข่งขันกับรุ่นอย่าง Toyota Yaris Ativ ที่น่าสนใจคือไทยเป็นประเทศแรกที่ผลิต City Hatchback สะท้อนให้เห็นว่าฮอนด้าให้ความสำคัญกับฐานการผลิตในไทย แถมยังส่งออกไปขายยังประเทศอื่นในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อีกด้วย แสดงให้เห็นบทบาทสำคัญของไทยในฐานะศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ในภูมิภาคนี้

ข้อดี

ออกแบบทันสมัยและหล่อ
ตัวถังรถกว้างขวางสบาย มีฟังก์ชันที่หลากหลายมากขึ้น

ข้อเสีย

เครื่องยนต์รู้สึกเฉยๆเมื่อสปีดต่ำ

Q&A ล่าสุด

Q
Honda City vs Toyota Yaris อันไหนดีกว่า?
ในตลาดไทยทั้ง Honda City และ Toyota Yaris ต่างก็เป็นรถยนต์เศรษฐกิจยอดนิยมที่มีจุดเด่นแตกต่างกัน Honda City โดดเด่นในเรื่องความประหยัดน้ำมันและการออกแบบที่สปอร์ต เหมาะสำหรับคนรุ่นใหม่ที่ชอบความรู้สึกในการขับขี่ ด้วยเครื่องยนต์ 1.5 ลิตรร่วมกับเกียร์ CVT ที่ให้กำลังส่งเรียบและประหยัดน้ำมัน ส่วนการออกแบบภายในก็ทันสมัย ส่วน Toyota Yaris นั้นขึ้นชื่อในเรื่องความทนทานและการบำรุงรักษาที่ต้นทุนต่ำ เหมาะสำหรับผู้ที่เน้นการใช้งานระยะยาว เครื่องยนต์ 1.5 ลิตรทำงานได้อย่างเสถียร และระบบช่วงล่างถูกปรับให้เน้นความนุ่มสบาย เหมาะกับการใช้งานในเมือง ทั้งสองรุ่นมีระบบความปลอดภัยที่ได้มาตรฐาน เช่น ABS EBD และถุงลมนิรภัยหลายจุด ในสภาพอากาศร้อนของไทยระบบแอร์ของทั้งคู่ทำงานได้ดี แต่ Honda City จะมีความเงียบกว่าบ้าง ถ้าชอบความสปอร์ตและความทันสมัย Honda City ก็เป็นตัวเลือกที่ดี แต่ถ้าอยากได้รถที่ประหยัดและไว้ใจได้ในระยะยาว Toyota Yaris ก็ตอบโจทย์ แนะนำให้ลองขับทั้งสองรุ่นเพื่อเปรียบเทียบด้วยตัวเอง เพราะความต้องการของแต่ละคนไม่เหมือนกัน
Q
Toyota Vios ต้องใช้น้ำมันเครื่องกี่ลิตร
ปริมาณน้ำมันเครื่องของ Toyota Vios จะแตกต่างกันไปตามปีรุ่นและประเภทเครื่องยนต์ ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ประมาณ 3.5 - 4.3 ลิตร เช่น เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร 2NR-FE จะใช้น้ำมันเครื่องประมาณ 3.8 ลิตรเมื่อรวมกับไส้กรองน้ำมันเครื่องแล้ว แต่อย่างไรก็ตามควรตรวจสอบคู่มือผู้ใช้รถหรือเว็บไซต์ทางการของโตโยต้าประเทศไทยเพื่อดูข้อมูลเฉพาะของรุ่นปีนั้นๆ โดยในสภาพอากาศร้อนของไทย แนะนำให้เลือกน้ำมันเครื่องสังเคราะห์ระดับ API SN หรือ SP เกรด 5W-30 หรือ 10W-30 เพราะสามารถทนความร้อนสูงได้ดีกว่าและช่วยปกป้องเครื่องยนต์ได้มีประสิทธิภาพ นอกจากนี้น้ำมันเครื่องเกรดโอเอ็มจากโชว์รูมโตโยต้าในไทยก็เป็นตัวเลือกที่น่าเชื่อถือเพราะผ่านการทดสอบกับสภาพถนนในประเทศแล้ว สิ่งสำคัญที่ต้องระวังคือเวลาที่เปลี่ยนน้ำมันเครื่องต้องวัดระดับน้ำมันให้แม่นยำ เพราะถ้าเติมมากเกินไปจะทำให้เครื่องยนต์ทำงานหนัก ส่วนถ้าน้อยไปก็อาจทำให้เครื่องยนต์เสียหายได้ ควรตรวจสอบระดับน้ำมันเครื่องบนพื้นเรียบหลังจากดับเครื่อง 5 นาที โดยดูจากก้านวัดให้อยู่ในระดับระหว่าง MIN และ MAX และควรเปลี่ยนน้ำมันเครื่องทุก 10,000 กิโลเมตรหรือทุก 6 เดือน (เลือกตามระยะใดถึงก่อน) โดยในกรุงเทพฯ หรือเมืองที่มีการจราจรหนาแน่นอาจต้องเปลี่ยนบ่อยขึ้น ส่วนใครที่ขับทางไกลหรือขึ้นเขาบ่อยๆ อาจต้องเลือกน้ำมันเครื่องที่ทนความร้อนสูงเป็นพิเศษจะดีกว่า
Q
วิธีการเปิดท้ายรถยนต์ Toyota Vios
สำหรับรถ Toyota Vios ที่จำหน่ายในตลาดไทย วิธีการเปิดท้ายรถนั้นโดยทั่วไปจะมี 3 แบบหลักๆ ที่คนนิยมใช้กัน วิธีแรกคือกดปุ่มเปิดท้ายที่รีโมทคีย์บีค้างไว้ 2 วินาที ซึ่งสะดวกสุดๆ โดยเฉพาะเวลาที่มือทั้งสองข้างถือของอยู่ วิธีที่สองคือกดปุ่มปลดล็อคที่แผงควบคุมประตูคนขับสองครั้งติดกัน วิธีนี้เหมาะมากเวลาฝนตกหรือตอนแบตเตอรี่รีโมทใกล้หมด ส่วนวิธีที่สามคือใช้กุญแจไขตรงลูกบิดที่ท้ายรถโดยตรง เป็นวิธีสำรองที่ใช้ได้เสมอไม่ว่ากรณีไหน สำหรับรุ่นท็อปบางรุ่นยังมีฟังก์ชันเปิดท้ายแบบสัมผัสด้วยเท้า แค่เอาเท้าโบกใต้กันชนหลังรถก็เปิดได้เอง ออปชันนี้ใช้ง่ายมากในสภาพอากาศชื้นๆ ของไทยหรือเวลาที่ต้องขนของชิ้นใหญ่ แนะนำให้เจ้าของรถตรวจสอบสภาพลื่นของแกนไฮดรอลิคท้ายรถเป็นประจำ โดยเฉพาะในสภาพอากาศร้อนๆ ของไทยที่อาจทำให้ยางซีลเสื่อมสภาพเร็ว ควรทาจาระบีซิลิโคนเพื่อยืดอายุการใช้งาน ถ้าเจอปัญหาท้ายรถเปิดด้วยระบบไฟฟ้าไม่ได้ ลองเช็คก่อนว่ารถอยู่ในเกียร์ P หรือเปล่า เพราะรถโตโยต้าส่วนใหญ่จะมีระบบล็อคเกียร์เพื่อความปลอดภัย อีกเรื่องที่ควรระวังคือถนนไทยมักมีฝุ่นเยอะ ควรทำความสะอาดร่องน้ำท้ายรถบ่อยๆ เพื่อไม่ให้ท่อระบายน้ำอุดตันจนน้ำขัง การดูแลรายละเอียดเล็กน้อย แบบนี้จะช่วยให้ระบบท้ายรถทำงานได้อย่างสมบูรณ์ตลอดการใช้งาน
Q
วิธีการเปิดท้ายบรรทุก Toyota Vios โดยไม่ใช้กุญแจ
สำหรับรถ Toyota Vios การเปิดฝากระโปรงหลังโดยไม่ต้องใช้กุญแจสามารถทำได้ง่ายๆ ด้วยปุ่มเปิดฝากระโปรงในรถ โดยทั่วไปแล้วรถโตโยต้าหลายรุ่นรวมถึง Vios จะมีปุ่มสัญลักษณ์ฝากระโปรงอยู่ใกล้ๆ ที่นั่งคนขับ แค่กดค้างไว้ก็สามารถปลดล็อคฝากระโปรงได้แบบอัตโนมัติ ออกแบบมาเพื่อความสะดวกเวลาต้องการเปิดจากภายในรถ ถ้ารุ่นของคุณเป็นระบบกุญแจอัจฉริยะ ก็ลองกดปุ่มเปิดฝากระโปรงบนรีโมทค้างไว้ 2 วินาทีเพื่อปลดล็อคทางไกลได้เหมือนกัน แต่ต้องระวังนิดนึงว่ารุ่น Vios แต่ละปีอาจมีการติดตั้งระบบต่างกัน แนะนำให้เช็คคู่มือรถก่อนจะดีที่สุด สำหรับสภาพอากาศไทยที่ทั้งร้อนและฝนชุก ควรตรวจสอบสภาพล็อคและแกนไฮดรอลิกฝากระโปรงบ่อยๆ เพื่อป้องกันปัญหาชำรุดจากความชื้นและความร้อน การรู้วิธีใช้ฟังก์ชันเหล่านี้ไม่เพียงทำให้ชีวิตง่ายขึ้น แต่ยังช่วยในกรณีฉุกเฉินเวลาต้องการหยิบของเร็วๆ ถ้าเกิดปัญหาล็อคไม่เปิด แนะนำให้ไปที่อู่บริการตัวแทนโตโยต้าในไทยโดยตรง พวกเขามีความเข้าใจสภาพถนนและอากาศที่นี่เป็นอย่างดี จะได้แก้ไขปัญหาได้ตรงจุดที่สุด
Q
วิธีสตาร์ทรถ Toyota ด้วยกุญแจ
ก่อนจะสตาร์ทรถ Toyota Vios ด้วยกุญแจ ต้องแน่ใจว่าจอดรถในตำแหน่งที่เหมาะสมและเหยียบเบรกไว้ก่อน จากนั้นใส่กุญแจเข้าไปในช่องสตาร์ทแล้วหมุนตามเข็มนาฬิกาไปที่ตำแหน่ง "ON" รอจนหน้าปัดรถตรวจสอบระบบเสร็จ แล้วหมุนกุญแจต่อไปที่ตำแหน่ง "START" เพื่อสตาร์ทเครื่องยนต์ พอเครื่องติดแล้วก็ปล่อยกุญแจได้เลย ในสภาพอากาศร้อนแบบไทย แนะนำว่าให้รอสักครู่หลังสตาร์ทให้น้ำมันเครื่องไหลเวียนก่อนออกรถ จะช่วยถนอมเครื่องได้ดีขึ้น Toyota Vios เป็นรุ่นยอดนิยมในไทย ระบบสตาร์ทด้วยกุญแจออกแบบมาได้น่าเชื่อถือ แต่ควรเช็คแบตเตอรี่กุญแจเป็นประจำ ถ้ารู้สึกว่ากดรีโมทแล้วตอบสนองช้า ให้เปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่ทันที สำหรับคนไทยอาจจะเลือกใช้รุ่นสมาร์ทคีย์ก็ได้ เพราะมีระบบเข้า-ออกรถโดยไม่ต้องหยิบกุญแจและกดปุ่มสตาร์ทโดยตรง ช่วยให้สะดวกเวลาฝนตกไม่ต้องมายุ่งกับกุญแจ ไม่ว่าจะใช้กุญแจธรรมดาหรือสมาร์ทคีย์ การตรวจสอบระบบจุดระเบิดเป็นประจำและทำความสะอาดกุญแจบ่อยๆ จะช่วยยืดอายุการใช้งานได้มาก
ดูเพิ่มเติม