Q

พื้นที่เก็บของท้าย Nissan March กี่ลิตร?

รถยนต์ Nissan March เป็นรุ่นคอมแพคต์ที่ได้รับความนิยมในหมู่ผู้บริโภคไทย ด้วยปริมาตรกระโปรงหลังขนาด 251 ลิตร (ตามข้อมูลทางการ) ซึ่งถือว่าเพียงพอต่อการใช้งานในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นการจ่ายตลาดหรือเดินทางใกล้ๆ สามารถบรรจุกระเป๋าเดินทาง 2-3 ใบหรือของช้อปปิ้งชิ้นใหญ่ได้สบายๆ สำหรับเมืองอย่างกรุงเทพที่การจราจรคับคั่ง รถรุ่นนี้ตอบโจทย์ทั้งเรื่องความคล่องตัวและพื้นที่เก็บของที่ใช้งานได้จริง พูดถึงเรื่องพื้นที่ต้องบอกว่าคนไทยเน้นเรื่องการใช้งานพื้นที่ในรถ March รุ่นบางรุ่นสามารถพับเบาะหลังลงได้ (ขึ้นอยู่กับรุ่น) ทำให้เพิ่มพื้นที่เก็บของสำหรับสิ่งของยาวๆ เช่น จักรยานพับได้หรือเฟอร์นิเจอร์ชิ้นเล็กๆ นอกจากนี้ในสภาพอากาศร้อนชื้นของไทย แนะนำให้เจ้าของรถทำความสะอาดร่องระบายน้ำบริเวณกระโปรงหลังเป็นประจำเพื่อป้องกันน้ำขัง และไม่ควรบรรทุกของหนักติดต่อนานๆ เพราะอาจส่งผลต่อระบบช่วงล่างของรถ ทิปส์เล็กๆ น้อยๆ แบบนี้จะช่วยรักษาสภาพรถให้ดีขึ้น เมื่อเทียบกับรถในระดับเดียวกันแล้ว March ให้ความสมดุลทั้งเรื่องการออกแบบพื้นที่และการประหยัดน้ำมัน เหมาะมากๆ สำหรับครอบครัวไทยในเมืองที่มองหารถคันเล็กๆ ไว้ใช้งานประจำวัน
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto

Q&A เกี่ยวข้อง

Q
ข้อเสียของ Nissan March มีอะไรบ้าง
รถยนต์ Nissan March ในตลาดไทยถูกมองว่าเป็นรถประหยัดตัวท็อปที่ขายดี ด้วยความประหยัดน้ำมัน ขับเคลื่อนคล่องตัว และราคาไม่แรงจนเกินไป แต่ก็มีจุดอ่อนบ้าง เช่น เรื่องพื้นที่ภายในรถที่ค่อนข้างจำกัด โดยเฉพาะช่วงขาหลังและกระโปรงท้ายที่อาจอึดอัดสำหรับครอบครัวขนาดใหญ่ ส่วนเวลาขับบนทางด่วนก็จะได้ยินเสียงลมและเสียงยางค่อนข้างชัดเจนเพราะระบบกันเสียงยังไม่สุดยอด อีกทั้งวัสดุภายในห้องโดยสารเป็นพลาสติกแข็งที่อาจดูไม่พรีเมียมเท่ารถคู่แข่งบางรุ่นในระดับเดียวกัน สภาพอากาศเมืองไทยที่ร้อนจัดก็ทำให้ระบบแอร์ของรุ่นพื้นฐานอาจเย็นไม่พอเวลาติดรถนานๆ แนะนำให้อัพเกรดเป็นรุ่นสูงหรือติดฟิล์มกันความร้อนเพิ่ม ส่วนเครื่องยนต์ 1.2L แบบธรรมดานั้นเพียงพอสำหรับขับในเมือง แต่เวลาขึ้นเขาหรือโหลดเต็มคันจะรู้สึกว่าแรงยังไม่ค่อยพอ ต้องบอกว่าคนไทยนิยมรถกระบะกับ SUV มากกว่าเพราะเหมาะกับสภาพถนนบางพื้นที่ แต่จุดเด่นของ March คือขนาดกะทัดรัดที่จอดง่ายในกรุงเทพฯที่รถติดหนัก เลยขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้ซื้อว่าจะเลือกให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ตัวเองยังไง
Q
Nissan March อยู่ในกลุ่ม Segment ไหน?
Nissan March จัดอยู่ในกลุ่มรถยนต์ A-segment หรือที่เรียกกันว่ารถอีโคคาร์ขนาดเล็ก ซึ่งเป็นประเภทของรถยนต์นั่งที่มีขนาดเล็กที่สุดตามมาตรฐานสากล เหมาะมากสำหรับการใช้งานในเมืองที่การจราจรหนาแน่นอย่างกรุงเทพฯ เพราะสามารถขับเคลื่อนและจอดได้คล่องตัวในพื้นที่แคบ ตัวรถมาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 1.2 ลิตรแบบไม่มีเทอร์โบ จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT ซึ่งอยู่ในกลุ่มที่ได้รับสิทธิประโยชน์ด้านภาษีของประเทศไทยสำหรับรถที่มีขนาดเครื่องยนต์ไม่เกิน 1,200cc ด้วยความยาวตัวถังไม่เกิน 4 เมตร และรัศมีวงเลี้ยวแคบเพียง 5.2 เมตร ทำให้เหมาะมากกับการใช้งานในตรอกซอกซอยในเมืองไทย คู่แข่งในกลุ่มนี้ ได้แก่ Honda Brio, Suzuki Swift และ Toyota Yaris Ativ ซึ่งมีจุดเด่นคล้ายกัน เช่น ประหยัดน้ำมัน ขับง่าย และค่าดูแลรักษาต่ำ ผู้บริโภคในกลุ่ม A-segment ของไทยมักให้ความสำคัญกับพื้นที่ศีรษะและความสูงจากพื้นถนน ทำให้รถรุ่นอย่าง March มักจะมีการออกแบบให้ตัวรถสูงกว่ารุ่นที่ขายในตลาดอื่น และมีการปรับช่วงล่างให้เหมาะกับสภาพถนนที่ขรุขระของไทย แม้ว่าในอนาคตจะมีทางเลือกในรูปแบบรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้นตามนโยบาย EV 3.5 ของรัฐบาล แต่ในปัจจุบัน Nissan March ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปยังคงเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าและเชื่อถือได้ ด้วยระบบบริการหลังการขายที่ครอบคลุมทั่วประเทศ
Q
มูลค่าขายต่อของ Nissan March เท่าไหร่?
ราคาขายต่อของรถมือสอง Nissan March จะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น สภาพรถ, อายุรถ, ระยะทางที่ใช้งาน, และความต้องการในตลาด ตัวอย่างราคาสำหรับรุ่นปี 2020 เช่น รุ่น 1.2L S MT ราคา 420,000 บาท, รุ่น 1.2L E MT ราคา 480,000 บาท, รุ่น 1.2L E CVT ราคา 495,000 บาท, และรุ่น 1.2L EL CVT ราคา 510,000 บาท ถ้ารถสภาพดี ใช้งานน้อย อายุไม่มาก ราคาขายต่อก็จะสูง อาจใกล้เคียงกับราคาเดิมในสัดส่วนหนึ่ง แต่ถ้ารถสภาพไม่ดี ระยะทางมาก อายุเยอะ ราคาก็จะตกฮวบได้เหมือนกัน ถ้าตลาดมีความต้องการสูง ราคาขายต่อก็อาจจะเพิ่มขึ้น แต่ถ้ามีรถรุ่นเดียวกันในตลาดเยอะ ราคาก็อาจจะลดลงได้ เว้าซื้อรถมือสอง แนะนำให้ตรวจสอบประวัติรถให้ดี ว่ามีประวัติอุบัติเหตุหรือน้ำท่วมหรือเปล่า แล้วก็ลองเช็คราคาในแพลตฟอร์มขายรถมือสองในพื้นที่เพื่อเปรียบเทียบราคา จะได้รู้แนวทางไม่เสียเปรียบ
Q
Nissan March มีกี่ซีซี
Nissan March ใช้เครื่องยนต์ขนาด 1,198 ซีซี ซึ่งจัดอยู่ในกลุ่มรถยนต์ A-Segment ขนาดเล็ก เครื่องยนต์รุ่นนี้ถูกออกแบบมาให้มีสมรรถนะเพียงพอสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน พร้อมกับความประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยม ด้วยขนาดเครื่องยนต์ที่ไม่ใหญ่เกินไป ทำให้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการขับขี่ในเมือง ช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านน้ำมันในระยะยาว แม้ว่าจะมีหลายรุ่นย่อยให้เลือก แต่ทุกรุ่นของ Nissan March จะใช้เครื่องยนต์ขนาด 1,198 ซีซี เท่ากัน ซึ่งให้พละกำลังที่เหมาะสมสำหรับการใช้งานทั่วไปบนถนนในเมือง ไม่ว่าจะเลือกรุ่นไหน ก็สามารถตอบโจทย์การใช้งานประจำวันได้อย่างมั่นใจ ทั้งในเรื่องของความคล่องตัวและความคุ้มค่าด้านการดูแลรักษา
Q
Nissan March ใช้เครื่องยนต์อะไร
รถ Nissan March ใช้เครื่องยนต์ขนาด 1.2 ลิตร รหัสเครื่อง 1198mL เป็นเครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบแบบเรียง ความเรียบของเครื่องดี ให้กำลังพอเหมาะกับการใช้งานในเมืองประจำวัน จุดเด่นของเครื่องยนต์ขนาดเล็กแบบนี้คือประหยัดน้ำมัน ช่วยให้เจ้าของรถลดค่าใช้จ่ายเรื่องน้ำมันได้อีกด้วย แถมโครงสร้างยังไม่ซับซ้อน ทำให้ดูแลรักษาได้ง่ายและค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาก็ไม่สูงด้วย รุ่นต่างๆของ Nissan March จะมีสเปกและราคาแตกต่างกันไป แต่ทุกรุ่นใช้เครื่องยนต์ตัวนี้เหมือนกัน ผู้ซื้อสามารถเลือกรุ่นที่ตรงกับความต้องการและงบประมาณได้ตามสะดวก
Q
“Nissan March มีเกียร์ธรรมดาหรือเกียร์ออโต้
รถ Nissan March มีให้เลือกทั้งเกียร์ MT (เกียร์ธรรมดา) และเกียร์ CVT (เกียร์อัตโนมัติแบบต่อเนื่อง) สำหรับรุ่นปี 2020 นั้น รุ่น 1.2L S MT และ 1.2L E MT จะมาแบบเกียร์ธรรมดา ที่ให้ความรู้สึกสนุกกว่าเวลาขับ เพราะคนขับสามารถเปลี่ยนเกียร์เองได้ตามต้องการ ช่วยให้ควบคุมความเร็วและกำลังเครื่องได้อย่างเต็มที่ ส่วนรุ่น 1.2L E CVT และ 1.2L EL CVT จะใช้เกียร์ CVT ที่เปลี่ยนเกียร์ลื่นไหล ไม่สะดุด ทำให้การขับขี่นุ่มนวลขึ้น โดยเฉพาะในเมืองที่ต้องขับ停ขับบ่อยๆ เกียร์ CVT จะช่วยลดอาการกระตุกเวลเปลี่ยนเกียร์ได้ดีกว่า ทำให้ขับสบายกว่าในชีวิตประจำวัน
Q
PCD Nissan March เท่าไหร่
รถ Nissan March มีขนาด PCD (ระยะวงกลมรูสลัก) แบบ 4x100 ซึ่งเป็นขนาดมาตรฐานของล้อรถขนาดเล็กที่นิยมใช้ในตลาดไทย เหมาะสำหรับล้อขนาด 14 หรือ 15 นิ้ว ในไทยรถหลายรุ่นที่ฮิตๆ เช่น Honda Jazz หรือ Toyota Yaris ก็ใช้ขนาด PCD แบบเดียวกันนี้ ทำให้เจ้าของรถหาล้อที่เข้ากันได้ง่ายขึ้นหรือจะอัพเกรดก็สะดวก PCD นี่เป็นพารามิเตอร์สำคัญเวลาติดตั้งล้อ เลือกขนาดให้ถูกต้องเพื่อความปลอดภัยเวลาขับขี่ แนะนำว่าเวลาจะเปลี่ยนล้อควรตรวจสอบค่าอื่นๆ ด้วย เช่น Center Bore (CB) และ Offset (ET) เพื่อให้ล้อเข้าได้พอดี สภาพอากาศไทยที่ทั้งร้อนและฝนชุกแบบนี้ต้องใส่ใจเรื่องความทนทานของยางและล้อเป็นพิเศษ แนะนำให้เลือกผลิตภัณฑ์คุณภาพดีที่มีการรับรอง และตรวจสอบการยึดสลักболท์อย่างสม่ำเสมอ สำหรับคนที่ชอบแต่งรถให้สวยโดนใจ ในไทยมีร้านขายล้อมืออาชีพหลายเจ้า ที่มีล้อขนาด 4x100 ให้เลือกเพียบ ทั้งล้ออัลลอยน้ำหนักเบาไปจนถึงล้อดีไซน์สวยๆ แต่ต้องอย่าลืมว่าหลังแต่งล้อแล้วต้องผ่านมาตรฐานการรับรองจากกรมการขนส่งทางบกด้วยนะ
Q
Nissan March รองรับ Apple Carplay หรือไม่?
สำหรับ Nissan March ในตลาดไทย รุ่นท็อปบางรุ่นมีการรองรับระบบ Apple CarPlay แล้วนะ แต่รายละเอียดอาจแตกต่างกันไปตามปีและรุ่นที่เลือก แนะนำให้สอบถามตัวแทนจำหน่ายโดยตรงก่อนซื้อเพื่อความชัดเจน เพราะบางทีสเปคอาจมีการอัปเดต Apple CarPlay เป็นฟีเจอร์ที่ช่วยให้ใช้งานแอปจาก iPhone บนหน้าจอรถได้สะดวกมากๆ โดยเฉพาะในเมืองไทยที่รถติดบ่อย แบบนี้จะใช้แผนที่ ฟังเพลง หรือโทรศัพท์ก็ง่ายไปเลย นอกจาก Nissan March แล้ว รุ่นอื่นๆ ในตลาดอย่าง Toyota Yaris หรือ Honda City ก็เริ่มมีฟีเจอร์นี้กันมากขึ้น แสดงว่าเดี๋ยวนี้คนไทยเน้นความสะดวกสบายด้านคอนเนคติวิตี้พอสมควร แต่ละค่ายระบบอาจใช้งานต่างกันนิดหน่อย แนะนำให้ลองใช้งานจริงก่อนตัดสินใจซื้อจะดีที่สุด เพราะอนาคตไทยกำลังขับเคลื่อนสู่สมาร์ทซิตี้และรถ EV ฟีเจอร์เชื่อมต่อแบบนี้คงกลายเป็นมาตรฐานของรถรุ่นใหม่ๆ แน่นอน
Q
ยางติดรถ Nissan March ใช้ยี่ห้ออะไร?
ในตลาดประเทศไทย Nissan March แต่ละรุ่นและแต่ละออปชันจะมียี่ห้อยางที่ติดรถแตกต่างกันไป โดยส่วนใหญ่จะใช้ยางแบรนด์ญี่ปุ่น เช่น Bridgestone และ Dunlop รวมถึงแบรนด์ที่นิยมในไทยอย่าง Deestone และ Vee Rubber ซึ่งได้รับความเชื่อมั่นในด้านความทนทานและการยึดเกาะถนนเปียก เหมาะกับสภาพอากาศร้อนชื้นและฝนตกบ่อยของประเทศไทย เวลาซื้อยาง ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าขนาดและสเปกตรงกับที่โรงงานกำหนดไว้ เช่น ขนาดยอดนิยมคือ 165/70 R14 หรือ 175/60 R15 สามารถดูได้จากคู่มือรถหรือตรงสติกเกอร์ที่กรอบประตูด้านคนขับ นอกจากนี้ คนขับในไทยอาจพิจารณาคุณสมบัติเพิ่มเติมอย่างความประหยัดน้ำมันและความเงียบในการขับขี่ เพราะสภาพการจราจรในเมืองค่อนข้างติดขัด ซึ่งคุณสมบัติเหล่านี้จะช่วยให้ขับสบายมากขึ้น หากต้องการเปลี่ยนยาง แนะนำให้เลือกซื้อกับตัวแทนจำหน่ายหรือศูนย์บริการที่เชื่อถือได้ เพื่อความมั่นใจในคุณภาพและบริการหลังการขาย และควรตรวจสอบแรงดันลมและสภาพยางเป็นประจำเพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน
Q
รถ Nissan March เป็นรถที่ดีหรือไม่? เรียนรู้ข้อดีและข้อเสียที่นี่
รถยนต์ Nissan March เป็นรถขนาดเล็กที่ได้รับความนิยมในตลาดไทย เหมาะสำหรับการเดินทางในเมือง ข้อดีของ March คือ ประหยัดน้ำมันมาก ทั้งรุ่นเครื่องยนต์ 1.2 ลิตรและ 1.5 ลิตร ที่วิ่งในสภาพการจราจรติดขัดของไทยได้อย่างคุ้มค่า ค่าบำรุงรักษาไม่สูง ชิ้นส่วนอะไหล่มีพร้อมและราคาไม่แรง ขนาดตัวรถกะทัดรัด ขับเคลื่อนคล่องตัวในซอยแคบๆของกรุงเทพหรือลานจอดรถที่คับคั่ง ภายในห้องโดยสารออกแบบเรียบง่ายแต่ใช้งานได้จริง มีอุปกรณ์พื้นฐานเช่นแอร์และระบบเสียงที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตประจำวัน แถมยังตั้งราคาเหมาะสม ให้ความคุ้มค่า เหมาะกับผู้บริโภคที่ต้องการความประหยัด อย่างไรก็ตาม March ก็มีข้อด้อยบ้าง เช่น พื้นที่เบาะหลังค่อนข้างจำกัด อาจไม่สะดวกสบายในการเดินทางไกล ระบบกันเสียงไม่ค่อยดี เวลาขับความเร็วสูงจะได้ยินเสียงลมค่อนข้างชัด ส่วนระบบความปลอดภัยก็เรียบง่าย รุ่นเริ่มต้นมีแถมแค่ถุงลมนิรภัยและ ABS เท่านั้น ดูจะขาดความทันสมัยเมื่อเทียบกับรถรุ่นใหม่ในระดับเดียวกัน ในตลาดไทย March เหมาะกับหนุ่มสาวออฟฟิศหรือครอบครัวเล็กที่มองหาความประหยัดและใช้งานจริง หากต้องการความสบายหรืออุปกรณ์ครบครันกว่า อาจลองเปรียบเทียบกับ Honda Brio หรือ Toyota Yaris แต่ March ก็ยังคงมีความแข่งแกร่งในเรื่องความทนทานและต้นทุนการใช้ต่ำ แนะนำให้ทดลองขับก่อนซื้อ และพิจารณาตามความต้องการส่วนตัวให้ดี

ข้อดี

น่ารักตามหน้าตา ที่ดึงดูดสนใจผู้คนมาก
รัศมีการเลี้ยวเล็ก สะดวกเวลาขับรถในเมือง
ประหยัดน้ำมันอย่างมาก

ข้อเสีย

พลังงานอ่อนแอไม่ว่าจะขับอยู่ในความเร็วต่ำหรือสูง
การตกแต่งภายในธรรมดาเกินไปไม่มีความสดใหม่
มีเสียงดังขณะขับขี่
เครื่องยนต์สั่น

Q&A ล่าสุด

Q
ความแตกต่างระหว่าง Honda Mobilio และ Renault Lodgy คืออะไร
ฮอนด้า โมบิลิโอ กับ เรโนลต์ ลอดจี เป็นรถเอ็มพีวี 7 ที่นั่งยอดนิยมในตลาดไทย แต่ทั้งคู่มีความต่างในแนวคิดการออกแบบและจุดเด่น โมบิลิโอโดดเด่นด้านความประหยัดและความทนทานของฮอนด้า มาพร้อมเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร i-VTEC ที่เหมาะกับการใช้งานในเมือง ช่วยประหยัดน้ำมันและค่าบำรุงถูก เป็นทางเลือกตอบโจทย์คนไทยที่มองหารถใช้งานประจำวันแบบคุ้มค่า ส่วนลอดจีจะเน้นความสบายและการออกแบบสไตล์ยุโรปมากกว่า มีทั้งเครื่องยนต์เบนซิน 1.6 ลิตรและดีเซล 1.5 ลิตร ที่ให้แรงบิดสูงเหมาะสำหรับการเดินทางไกล ด้านในตกแต่งหรูและระบบกันเสียงดีกว่าเล็กน้อย ในตลาดมือสอง โมบิลิโอถือว่าค่าตัวสูงกว่า แต่ลอดจีก็ดึงดูดด้วยราคาคุ้มค่าและพื้นที่เก้าอี้แถวสามที่กว้างขวางกว่า เลือกตามไลฟ์สไตล์ได้เลย ถ้าใช้ขับขี่ในเมืองเป็นหลักแนะนำโมบิลิโอ แต่ถ้าต้องการความสบายและบรรทุกผู้โดยสารบ่อย ลอดจีน่าจะเหมาะกว่า สำหรับสภาพอากาศไทยที่ร้อนชื้น ควรทดสอบระบบแอร์และกันสนิมซึ่งทั้งสองรุ่นทำได้ดี แนะนำให้ลองขับดูก่อนตัดสินใจจะดีที่สุด
Q
อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงของฮอนด้า โมบิลิโอคือเท่าไร
ในตลาดไทย Honda Mobilio ในฐานะ MPV ขนาดกะทัดรัดที่ได้รับความนิยม การประหยัดน้ำมันตอบโจทย์การใช้งานของครอบครัว โดยขึ้นอยู่กับรุ่นรถและสภาพการขับขี่ น้ำมันจริงประมาณ 5.5–6.5 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร ขึ้นอยู่กับการปรับแต่งเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร i-VTEC การจับคู่เกียร์ CVT และพฤติกรรมการขับขี่ ในสภาพถนนในเมืองไทยที่มีการหยุด-ออกตัวบ่อย แนะนำให้ผู้ขับขี่เร่งความเร็วอย่างราบรื่นและใช้โหมดประหยัดพลังงานหากมี เพื่อช่วยลดอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง นอกจากนี้ สภาพอากาศร้อนของไทยและการใช้แอร์บ่อยอาจเพิ่มการใช้น้ำมันเล็กน้อย การบำรุงรักษาเป็นประจำ เช่น ทำความสะอาดไส้กรองอากาศและตรวจสอบความดันลมยาง จะช่วยรักษาประสิทธิภาพน้ำมัน ในบรรดารถระดับเดียวกัน Mobilio โดดเด่นด้วยความยืดหยุ่นของพื้นที่ใช้สอยและค่าบำรุงรักษาต่ำ หากสนใจเรื่องอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเป็นพิเศษ สามารถดูฉลาก TISI ของกระทรวงพลังงานไทย หรือรีวิวจากผู้ใช้งานจริงในฟอรัมเพื่อประกอบการตัดสินใจเพิ่มเติมได้
Q
ฮอนด้า โมบิลิโอ ยังมีจำหน่ายอยู่หรือไม่
ตอนนี้ฮอนด้า โมบิลิโอในตลาดไทยได้หยุดผลิตไปแล้ว รุ่นเอ็มพีวีขนาดกะทัดรัดนี้เข้ามาในไทยเมื่อปี 2014 ด้วยการออกแบบพื้นที่ใช้สอยที่ยืดหยุ่นและประหยัดน้ำมัน ทำให้ได้รับความนิยมในกลุ่มครอบครัว แต่เมื่อความต้องการของตลาดเปลี่ยนไปและมีการปรับสายผลิตภัณฑ์ ฮอนด้า ประเทศไทยก็เริ่มโฟกัสไปที่รุ่นอื่นที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคในปัจจุบันมากขึ้น เช่น ฮอนด้า บีอาร์-วี และเอชอาร์-วี ที่เป็นรุ่นครอสโอเวอร์ ซึ่งทั้งคู่มีจุดเด่นทั้งเรื่องพื้นที่ใช้งานและความสะดวกในการขับขี่บนหลากหลายเส้นทาง ถ้าคุณกำลังมองหารุ่นที่คล้ายกับโมบิลิโอ อาจจะพิจารณาเอ็มพีวีในระดับเดียวกันหรือรถครอสโอเวอร์สักรุ่น ตอนนี้ในตลาดไทยมีให้เลือกหลายรุ่น เช่น โตโยต้า อวานซ่า มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ ซึ่งแต่ละรุ่นถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ถนนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และความต้องการของครอบครัว แนะนำว่าก่อนซื้อควรไปทดลองขับที่ตัวแทนจำหน่ายเพื่อเปรียบเทียบและเลือกรุ่นที่เหมาะกับความต้องการมากที่สุด รวมทั้งคอยอัปเดตข่าวรถรุ่นใหม่ๆ เพราะตลาดรถไทยอัปเดตเร็ว บ่อยครั้งที่มีรุ่นใหม่ๆ ที่น่าสนใจออกมาให้เลือก
Q
ทางเลือกแทนฮอนด้า โมบิลิโอคืออะไร
ในตลาดไทย Honda Mobilio ในฐานะ MPV 7 ที่นั่งที่เน้นความคุ้มค่าและใช้งานได้จริง สามารถพิจารณาเป็น Toyota Avanza หรือ Mitsubishi Xpander ซึ่งทั้งสองรุ่นมีพื้นที่กว้างและประหยัดน้ำมัน เหมาะสำหรับครอบครัว Toyota Avanza ได้รับความนิยมจากคุณภาพที่เชื่อถือได้และค่าบำรุงรักษาต่ำ ส่วน Mitsubishi Xpander ดึงดูดครอบครัวรุ่นใหม่ด้วยดีไซน์ทันสมัยและการจัดวางพื้นที่ภายในที่ยืดหยุ่น นอกจากนี้ Chevrolet Spin และ Nissan Livina ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ มีความคุ้มค่าและฟังก์ชันครบครัน ผู้บริโภคไทยสามารถเลือกตามงบประมาณและความต้องการ เช่น ให้ความสำคัญกับชื่อเสียงของแบรนด์เลือก Toyota ต้องการดีไซน์ทันสมัยเลือก Mitsubishi รุ่นเหล่านี้ผลิตในไทย มีเครือข่ายบริการหลังการขายครบครัน และออกแบบให้เหมาะกับสภาพถนนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น ช่วงล่างสูงรองรับสภาพอากาศฝนตก แนะนำให้ทดลองขับเพื่อสัมผัสความรู้สึกการขับขี่และพื้นที่แถวสาม พร้อมติดตามโปรโมชั่นเช่น ดาวน์ต่ำหรือบริการบำรุงรักษาฟรี
Q
มอบิโลมีเครื่องยนต์แบบไหน
รถฮอนด้า โมบิลิโอ ที่วางขายในตลาดไทยส่วนใหญ่จะใช้เครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร i-VTEC แบบดูดธรรมดา เครื่องยนต์ 4 สูบนี้มาพร้อมเทคโนโลยี i-VTEC ที่ช่วยปรับช่วงเปิดปิดวาล์วได้อย่างอัจฉริยะ ให้กำลังสูงสุดประมาณ 120 แรงม้าและแรงบิด 145 นิวตันเมตร คู่กับเกียร์ CVT หรือเกียร์ธรรมดา 5 สปีด ทำให้การขับขี่ลื่นไหลและประหยัดน้ำมัน เหมาะสมกับสภาพการใช้งานในเมืองและการขับขี่สำหรับครอบครัวคนไทย พูดเลยว่าเครื่องยนต์ตัวนี้ยังถูกใช้ในรถฮอนด้าซิตี้รุ่นยอดนิยมอีกด้วย ถือว่าเป็นเทคโนโลยีที่ผ่านการทดสอบมาแล้วและค่าบำรุงรักษาก็ไม่แพง คนไทยมั่นใจได้เลยครับ สำหรับสภาพอากาศร้อนๆของไทย แนะนำให้ตรวจสอบระบบระบายความร้อนและเปลี่ยนน้ำมันเครื่องตามกำหนดเวลาเสมอ เพื่อให้เครื่องยนต์ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ ส่วนเรื่องน้ำมันก็ใช้น้ำมันเบนซิน 91 ขึ้นไปก็เพียงพอแล้ว ไม่จำเป็นต้องใช้น้ำมันเลขสูงให้เปลืองเงิน นับเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายให้กับคนไทยครับ
ดูเพิ่มเติม