Q
ภาษีรถ Nissan Serena ต้องจ่ายเท่าไหร่
ภาษีทะเบียนรถยนต์ Nissan Serena ในประเทศไทยจะคำนวณตามขนาดเครื่องยนต์และอายุการใช้งาน โดยกรมการขนส่งทางบก (DLT) เป็นผู้กำหนดอัตราค่าภาษี สำหรับรุ่น Serena ที่มีขนาดเครื่องประมาณ 1,500-2,000cc จะเสียภาษีปีละประมาณ 1,500-2,500 บาท โดยอาจมีการปรับขึ้นลงนิดหน่อยตามอายุรถ ยิ่งรถเก่ายิ่งจ่ายน้อยกว่า เวลาคำนวณค่าภาษีต้องนำเล่มทะเบียนรถ (เล่มสีน้ำเงิน) ไปที่ขนส่งจังหวัดหรือเช็คผ่านระบบออนไลน์ ระบบจะคำนวณเงินที่ต้องจ่ายให้อัตโนมัติ ภาษีทะเบียนรถมักจะต้องจ่ายคู่กับพรบ. ประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับเพื่อให้รถสามารถใช้งานได้อย่างถูกกฎหมาย ระวังนะครับถ้าไม่จ่ายภาษีตรงเวลาอาจโดนปรับหรือถูกระงับการใช้รถได้ รู้แบบนี้แล้วคนใช้รถควรวางแผนการเงินล่วงหน้า จะได้ไม่ต้องเจอปัญหาเพราะลืมจ่ายภาษี ส่วนรัฐบาลไทยก็อยากให้ทุกคนจ่ายภาษีตรงเวลาเพื่อให้ระบบขนส่งของประเทศเดินหน้าได้อย่างราบรื่น
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto
Q&A เกี่ยวข้อง
Q
ข้อเสียของ Nissan Serena มีอะไรบ้าง
สำหรับรถยนต์ Nissan Serena ที่ได้รับความนิยมในตลาดไทยในฐานะรถ MPV จุดด้อยหลักๆ คือพื้นที่ขาที่แถวสามค่อนข้างจำกัด สำหรับผู้โดยสารที่ตัวสูงอาจรู้สึกไม่สะดวกสบายนัก โดยเฉพาะเมื่อต้องเดินทางไกล นอกจากนี้เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร แบบดูดธรรมดาแม้จะขับเคลื่อนได้ลื่นไหลในเมือง แต่เมื่อบรรทุกเต็มคันหรือต้องการแซงบนทางหลวงจะรู้สึกว่าแรงส่งไม่ค่อยพอ ซึ่งอาจส่งผลต่อประสบการณ์การขับขี่ ในสภาพอากาศร้อนของไทย ผู้ใช้บางส่วนยังรายงานว่าระบบแอร์ที่แถวสามทำความเย็นได้ไม่ดีเท่าแถวหน้า สิ่งนี้อาจกระทบความสะดวกสบายของผู้โดยสารแถวหลัง ด้านการตั้งค่าสปริงของ Serena นั้นเน้นความนุ่มสบาย แต่เมื่อขับบนถนนสภาพไม่ดีบางแห่งในไทย ตัวรถจะโคลงเคลงค่อนข้างชัดเจน ทำให้ความมั่นคงในการควบคุมด้อยกว่ารุ่นคู่แข่งบางรุ่นในระดับเดียวกัน ข้อที่น่าสนใจคือผู้บริโภคไทยมักให้ความสำคัญกับความทนทานและความสะดวกในการซ่อมบำรุงของรถยนต์ ในขณะที่ราคาอะไหล่ของ Serena ค่อนข้างสูง ซึ่งอาจเพิ่มต้นทุนการใช้รถในระยะยาว สำหรับผู้ที่กำลังมองหารถ MPV ในตลาดไทย นอกจากจะต้องสนใจเรื่องพื้นที่และความสะดวกสบายแล้ว ยังควรพิจารณาสถานการณ์การใช้ชีวิตประจำวันด้วย เช่น จำเป็นต้องใช้รถแบบเต็มคันบ่อยแค่ไหน หรือการเปรียบเทียบระหว่างกำลังเครื่องยนต์และความประหยัดน้ำมัน เพราะปัจจัยเหล่านี้ล้วนส่งผลต่อประสบการณ์การใช้รถในระยะยาว
Q
Nissan Serena จัดอยู่ในรถประเภทไหน
Nissan เซเรน่า ในตลาดไทยจัดอยู่ในกลุ่มรถ MPV (Multi-Purpose Vehicle) ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ด้วยดีไซน์ที่ตอบโจทย์ทั้งการใช้งานในครอบครัวและธุรกิจ เซเรน่ามีให้เลือกทั้งแบบ 7 ที่นั่งและ 8 ที่นั่ง พร้อมระบบขับเคลื่อนที่ประหยัดน้ำมันทั้งแบบเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร และระบบไฮบริด ซึ่งตรงกับความต้องการของคนไทยที่ให้ความสำคัญกับเรื่องประหยัดน้ำมันเป็นหลัก นอกจากนี้ การออกแบบประตูสไลด์และพื้นที่เก็บสัมภาระที่กว้างขวางยังเหมาะกับสภาพการจอดรถในเมืองที่จำกัด และการเดินทางไกลของครอบครัวคนไทย
ในตลาดไทย รถ MPV เป็นที่นิยมมากโดยเฉพาะรุ่นที่ผสมผสานความสะดวกสบายและประโยชน์ใช้สอยเหมือนเซเรน่า มักถูกนำไปใช้ทั้งเป็นรถครอบครัวและรับรองลูกค้าระดับเล็ก เมื่อเทียบกับโตโยต้า อินโนวา หรือฮอนด้า ฟรีด แล้ว เซเรน่ามีจุดเด่นในเรื่องเทคโนโลยีไฮบริดและการจัดวางพื้นที่ภายในที่ยืดหยุ่นกว่า แต่การเลือกรถก็ขึ้นอยู่กับความต้องการและงบประมาณของแต่ละคนด้วย
เวลาคนไทยเลือกซื้อ MPV มักจะดูเรื่องความประหยัดน้ำมัน ค่าบำรุงรักษา และมูลค่าเมื่อขายต่อ ซึ่งเซเรน่าก็ตอบโจทย์ได้ดีทุกด้าน ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับใครที่กำลังมองหารถครอบครัวที่ใช้งานได้หลากหลาย
Q
Nissan Serena มือสองราคาเท่าไหร่
ราคารถมือสอง Nissan Serena จะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น อายุรถ ระยะทางที่ใช้งาน สภาพรถ และความต้องการในตลาดรถมือสอง ยกตัวอย่างรุ่น Nissan Serena 2.0 S Hybrid 2024 ราคาประจำรุ่นอยู่ที่ 1,469,000 บาท ถ้าเป็นรถอายุน้อย ใช้งานไม่มาก สภาพยังดีอยู่ ก็อาจจะขายต่อได้ในราคาดี แต่ถ้าเป็นรถที่ใช้งานมานานหลายปี ระยะทางสูง มีร่องรอยการเสียหายหรือเคยเกิดอุบัติเหตุ ราคาก็จะตกฮวบฮาบ ส่วนรุ่นล่าสุดอย่าง Nissan Serena e-Power Highway Star 2025 ที่วางจำหน่ายเดือนมีนาคม 2025 ราคา 1,690,000 บาท ถือเป็นรุ่นใหม่ที่อาจจะทรงตัวในตลาดมือสองได้ค่อนข้างดี โดยทั่วไปแล้วถ้าขายภายใน 1-2 ปีแรก สภาพรถยังสมบูรณ์ดี อาจจะขายต่อได้ราคาประมาณ 80% ของราคาใหม่ แต่หลังจากนั้นมูลค่าก็จะค่อยๆ ลดลงตามระยะเวลาการใช้งาน
Q
Nissan Serena มีกี่ซีซี
รถยนต์ Nissan Serena มีหลายรุ่นที่ใช้เครื่องยนต์ต่างขนาดกัน รุ่น Nissan Serena e-Power Highway Star 2025 ใช้เครื่องยนต์ขนาด 1433cc จัดอยู่ในระบบไฮบริดซีรีส์ 1.4L โดยใช้เครื่องยนต์ 3 สูบรหัส HR14DDe ส่วนรุ่น Nissan Serena 2.0 S Hybrid 2024 มีความจุเครื่องยนต์ 1997cc หรือก็คือ 2.0L แบบดูดอากาศธรรมชาติ ขนาดเครื่องยนต์ที่แตกต่างกันส่งผลต่อสมรรถนะและความประหยัดน้ำมัน เครื่องยนต์ขนาดเล็กอย่าง 1.4L จะประหยัดน้ำมันกว่า เหมาะกับการขับขี่ในเมืองประจำวัน ในขณะที่เครื่องยนต์ 2.0L ขนาดใหญ่จะให้กำลังสูงกว่า ช่วยในการเร่งและบรรทุกหนักได้ดีกว่า ผู้ซื้อสามารถเลือกได้ตามความต้องการและสไตล์การขับขี่ของตัวเอง
Q
เครื่องยนต์ใน Nissan Serena คืออะไร
รถยนต์ Nissan Serena มีหลายรุ่นด้วยกัน และแต่ละรุ่นก็ใช้เครื่องยนต์ที่แตกต่างกันออกไป สำหรับรุ่น Nissan Serena e-Power Highway Star 2025 จะใช้ระบบไฮบริดแบบซีรีส์ ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ 3 สูบ HR14DDe ความจุ 1.4 ลิตร (1433cc) ที่มาพร้อมเทคโนโลยี Direct-injection หรือระบบฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงตรง อัตราส่วนอัด 13.0:1 ให้กำลังสูงสุด 98 แรงม้า ที่ 5,600 รอบ/นาที และแรงบิด 123 นิวตันเมตร โดยเครื่องยนต์นี้ทำหน้าที่หลักในการชาร์จแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน ส่วนรุ่น Nissan Serena 2.0 S Hybrid 2024 จะใช้เครื่องยนต์เบนซิน MR20DD 2.0L แบบปกติ แบบดูดอากาศธรรมชาติ ให้กำลังสูงถึง 150 แรงม้า และแรงบิด 200 นิวตันเมตร คู่กับเกียร์อัตโนมัติ Xtronic CVT ของ Nissan ด้วยเครื่องยนต์ที่แตกต่างกันนี้ ทำให้ผู้บริโภคมีตัวเลือกที่หลากหลาย สามารถเลือกได้ตามความต้องการในการใช้งานและกำลังที่ต้องการ
Q
Nissan Serena ใช้เกียร์อะไร
ในตลาดไทย Nissan Serena ใช้เกียร์ Xtronic CVT ที่โดดเด่นเรื่องการเปลี่ยนเกียร์ลื่นไหลและประหยัดน้ำมัน เหมาะมากกับสภาพการจราจรในเมืองไทยที่ต้องหยุดและเคลื่อนตัวบ่อยๆ เกียร์ CVT ใช้ระบบส่งกำลังด้วยสายพานเหล็ก ทำให้ส่งกำลังต่อเนื่องไม่มีสะดุด ช่วยลดการสิ้นเปลืองน้ำมันในสภาพการจราจรติดขัด นอกจากนี้เกียร์ของ Serena ยังมีโหมด Manual จำลอง 7 สปีด ให้ความรู้สึกสนุกสนานในการขับขี่มากขึ้น ส่วนเรื่องความทนทาน เกียร์ตัวนี้ได้รับการออกแบบระบบระบายความร้อนเฉพาะสำหรับสภาพอากาศร้อนของไทย ที่สำคัญตลาดไทยยอมรับเกียร์ CVT ค่อนข้างสูงเพราะค่าบำรุงรักษาถูกกว่าเกียร์ AT ทั่วไป แถมยังมีเครือข่ายบริการหลังการขายของ Nissan ที่ครอบคลุมในไทย แนะนำให้เปลี่ยนน้ำมันเกียร์ CVT ตามที่ผู้ผลิตกำหนดทุก 40,000 กม. เพื่อรักษาประสิทธิภาพสูงสุด ส่วนรุ่นแข่งอย่าง Toyota Noah ก็ใช้เกียร์ CVT เช่นกัน แต่การตั้งค่าของแต่ละแบรนด์จะแตกต่างกันไป ลองทดลองขับดูแล้วเลือกให้เหมาะกับสไตล์ตัวเองได้เลย
Q
PCD Nissan Serena เท่าไหร่
สำหรับรถ Nissan Serena ในตลาดไทย ค่า PCD (ระยะวงกลมรูสลักล้อ) จะอยู่ที่ 114.3 มิลลิเมตร ซึ่งเป็นมาตรฐานหนึ่งของรถรุ่น MPV ที่พบได้ทั่วไปในประเทศไทย และเหมาะกับล้อที่มีสลัก 5 รู ข้อมูลนี้สำคัญมากสำหรับคนไทยโดยเฉพาะเวลาที่ต้องการเปลี่ยนล้อหรืออัพเกรดยางรถยนต์ ต้องมั่นใจว่า PCD ของล้อใหม่ตรงกับสเปคเดิมจากโรงงาน ไม่เช่นนั้นอาจทำให้การติดตั้งไม่แน่นหนาหรือเกิดอันตรายขณะขับขี่ได้ ในไทยเนื่องจากสภาพถนนค่อนข้างหลากหลาย คนใช้รถหลายคนจึงนิยมอัพเกรดล้อเพื่อเพิ่มความสวยงามหรือการขับขี่ที่ดีขึ้น การรู้ค่า PCD ที่ถูกต้องจึงเป็นเรื่องจำเป็น นอกจาก PCD แล้ว คนไทยยังต้องสนใจค่า Offset (ET) และขนาดรูกลางล้อ (CB) ด้วย เพราะพารามิเตอร์เหล่านี้จะช่วยกำหนดว่าล้อนั้นเหมาะกับรถหรือไม่ ถ้าไม่แน่ใจ แนะนำให้ปรึกษาร้านล้อมืออาชีพหรือที่ศูนย์บริการ Nissan โดยตรง เพราะพวกเขาจะให้คำแนะนำเกี่ยวกับสเปคที่ถูกต้องและบริการติดตั้งที่เหมาะสม อีกทั้งสภาพอากาศเมืองไทยที่ทั้งร้อนและฝนชุกยังส่งผลต่อการเลือกยางรถยนต์ การเลือกยางที่เหมาะกับสภาพอากาศท้องถิ่นจะช่วยเพิ่มทั้งความปลอดภัยและความสะดวกสบายในการขับขี่
Q
นิสสัน เซเรน่า รองรับ Apple Carplay ไหม
Nissan Serena รุ่นใหม่ล่าสุดที่วางจำหน่ายในตลาดประเทศไทย มาพร้อมกับฟังก์ชัน Apple CarPlay ที่ตอบโจทย์ผู้ใช้ชาวไทยในเรื่องการเชื่อมต่อสมาร์ตโฟนเข้ากับระบบอินโฟเทนเมนต์ของรถได้อย่างไร้รอยต่อ ทำให้ผู้ขับขี่สามารถใช้งานแอปนำทาง ฟังเพลง หรือโทรศัพท์ผ่านหน้าจอกลางได้อย่างปลอดภัยและสะดวก โดยเฉพาะในเมืองที่มีการจราจรหนาแน่นอย่างกรุงเทพฯ ฟีเจอร์อย่างระบบนำทางแบบเรียลไทม์และการสั่งงานด้วยเสียงถือว่ามีประโยชน์มาก
นอกจาก Apple CarPlay แล้ว Serena ยังรองรับระบบ Android Auto เพื่อตอบสนองผู้ใช้งานโทรศัพท์ในทุกระบบ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของรถรุ่นนี้ ในตลาดไทย ปัจจุบันรถหลายรุ่นเริ่มติดตั้งระบบเชื่อมต่อสมาร์ตโฟนเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงแนวโน้มการผสานเทคโนโลยีรถยนต์เข้ากับอุปกรณ์พกพา Serena เองก็ไม่ตกเทรนด์ โดยระบบของรถยังรองรับการใช้งานภาษาไทย ทั้งในส่วนของระบบสั่งงานด้วยเสียงและแผนที่นำทางภายในประเทศ แสดงให้เห็นถึงความใส่ใจของ Nissan ต่อพฤติกรรมการใช้งานของผู้บริโภคชาวไทยในทุกรายละเอียด
Q
ยางติดรถ Nissan Serena ใช้ยี่ห้ออะไร
ยางติดรถ Nissan Serena ที่วางจำหน่ายในประเทศไทย อาจแตกต่างกันไปตามปีรุ่นและระดับการตกแต่ง โดยส่วนใหญ่จะใช้ยางจากแบรนด์ชั้นนำระดับโลก เช่น Bridgestone หรือ Dunlop ซึ่งหาซื้อได้ง่ายในไทยและมีศูนย์บริการครอบคลุมทั่วประเทศ เหมาะกับสภาพอากาศร้อนชื้นและถนนที่เปียกชื้นบ่อยในไทย
โดยทั่วไป ยางติดรถจากโรงงานจะถูกเลือกโดยคำนึงถึงความทนทาน การยึดเกาะถนนบนพื้นเปียก และความประหยัดน้ำมัน เช่น ยาง Bridgestone ECOPIA ที่ให้ความสมดุลระหว่างการลดแรงต้านการหมุนกับการรีดน้ำในช่วงฤดูฝน
เจ้าของรถควรตรวจสอบสภาพยางเป็นประจำ และเมื่อถึงเวลาต้องเปลี่ยนยาง นอกจากเลือกยางขนาดเดียวกับของเดิมแล้ว ยังสามารถเลือกใช้แบรนด์อื่นในระดับเดียวกันได้ เช่น Michelin หรือ Goodyear แต่ต้องมั่นใจว่ายางที่เลือกมีค่าดัชนีรับน้ำหนักและความเร็วที่เหมาะสมกับตัวรถ
ในสภาพอากาศร้อนและชื้นของไทย ยางอาจเสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติ แนะนำให้ตรวจเช็กยางโดยผู้เชี่ยวชาญทุก 2 ปี และตรวจเช็กลมยางทุกเดือน ควรรักษาระดับลมยางตามค่าที่ระบุไว้บนสติกเกอร์ที่ขอบประตู เพื่อยืดอายุการใช้งานและเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่
Q
รถ Nissan Serena เป็นรถที่ดีหรือไม่? เรียนรู้ข้อดีและข้อเสียที่นี่
รถยนต์ Nissan Serena ในตลาดประเทศไทยเป็นรถ MPV สำหรับครอบครัวที่ได้รับความนิยมมาก โดยจุดเด่นอยู่ที่การออกแบบห้องโดยสารที่กว้างขวางและปรับเปลี่ยนได้สะดวกในรูปแบบ 7 ที่นั่ง เหมาะกับไลฟ์สไตล์ครอบครัวใหญ่ของคนไทย เครื่องยนต์ 2.0L แบบธรรมชาติร่วมกับเกียร์ CVT ให้การขับขี่ที่ลื่นไหลและประหยัดน้ำมัน โดยสิ้นเปลืองน้ำมันราว 13-14 กม./ลิตรในเมือง ซึ่งตอบโจทย์ความต้องการด้านประโยชน์ใช้สอยของคนไทย เต็มไปด้วยฟีเจอร์อัจฉริยะเช่น กล้องรอบทิศทางและกุญแจอัจฉริยะ ที่เหมาะกับการใช้งานในเมืองอย่างกรุงเทพฯ ที่การจราจรหนาแน่น อย่างไรก็ตาม การกันเสียงจากพื้นรถยังมีจุดที่ควรพัฒนาเมื่อขับความเร็วสูง และความสบายของที่นั่งแถวสามอาจยังไม่เหมาะกับการเดินทางไกล ในตลาดไทย Serena มีคู่แข่งหลักคือ Toyota Innova และ Honda BR-V แต่ Serena มีจุดต่างที่โดดเด่นคือประตูสไลด์และความสูงจากพื้นรถที่ต่ำกว่า ทำให้ผู้สูงอายุและเด็กขึ้นลงง่าย สำคัญที่ต้องรู้คือรุ่นไทยเป็นพวงมาลัยขวาและตั้งค่าตัวถังเฉพาะสำหรับถนนไทย ส่วนเรื่องค่าตัวในตลาดมือสองอยู่ในระดับปานกลาง ค่าบำรุงรักษาก็ใกล้เคียงกับคู่แข่งรถญี่ปุ่นด้วยกัน เหมาะสำหรับครอบครัวที่มองหาประโยชน์ใช้สอย ความคุ้มค่าและความน่าเชื่อถือของแบรนด์
Q&A ล่าสุด
Q
MG Maxus 9 มีสีอะไรบ้าง คุณชอบสีไหน
MG Maxus 9 ในตลาดไทยมีให้เลือก 3 สีที่各有เอกลักษณ์ แสดงถึงความหรูหราสมัยใหม่ของรถ MPV รุ่นพรีเมียม สี GRANITE GREY BLACK TOP ใช้โทนสีเทาเข้มคู่กับหลังคาสีดำแบบ Two-Tone พร้อมสีเมทัลลิกที่ให้เอฟเฟกต์สะท้อนแสงเป็นชั้นๆ ดูคลาสสิกแต่ก็มีความทันสมัย เหมาะกับนักธุรกิจที่ชอบความหรูหราแบบเรียบหรู ส่วนสี PEARL WHITE ใช้เทคนิคสีไข่มุกพิเศษ โดยมีการผสมผงมุกที่ให้แสงแวววาวอ่อนๆ ใต้แสงแดด ดูสดชื่นและมีระดับ ช่วยขับความเป็นเจ้าของที่มีรสนิยมดี และเหมาะกับสภาพอากาศร้อนของไทยเป็นพิเศษ สำหรับสี BLACK KNIGHT เป็นสีดำลึกเฉพาะตัว พร้อมฟินิชชิ่งที่ให้ความเงางามสูงสุด แสดงถึงความหรูหราอลังการของรถ MPV รุ่นเรือธง แต่ต้องดูแลรักษาบ่อยหน่อยในสภาพแวดล้อมที่มีฝุ่นมากของไทย ทุกสีถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์การใช้งานในเขตร้อน มีความทนทานต่อสภาพอากาศและรังสียูวีเป็นอย่างดี โดยสีขาวไข่มุกถือว่าปฏิบัติการได้ดีที่สุด เพราะดูแลง่ายและไม่ร้อน车内 ส่วนสีเทาแกรนิตกับดำไนท์เหมาะกับคนที่ชอบความโดดเด่นเป็นพิเศษ
Q
MG Maxus 9 ราคาเท่าไหร่
MG Maxus 9 เปิดตัว 2 รุ่นในไทยแล้ว ทั้งรุ่น X และรุ่น V ราคาเริ่ม 2.499 ล้านบาท และ 2.699 ล้านบาทตามลำดับ รถรุ่นนี้โดดเด่นด้วยการเป็น MPV ไฟฟ้า 7 ที่นั่ง ขนาดตัวถัง 5,270×2,000×1,840 มม. ระยะฐานล้อ 3,200 มม. ให้พื้นที่ภายในกว้างขวาง แม้จะใช้เป็นออฟฟิศเคลื่อนที่ก็สะดวกสบาย แบตเตอรี่ขนาด 90kWh ให้ระยะทางสูงสุดถึง 540 กม. (ตามมาตรฐาน NEDC) พร้อมฟีเจอร์หรูหราอีกมากมาย เช่น เก้าอี้ Ottoman พร้อมฟังก์ชันนวดและปรับความร้อน/เย็น ระบบเปิด-ปิดประตูหลังและประตูสไลด์อัตโนมัติ ไปจนถึงซันรูฟขนาดใหญ่ ด้านในติดตั้งหน้าจอมัลติมีเดีย 12.3 นิ้ว คู่กับหน้าปัดดิจิตอล 7 นิ้วหรือ 9 นิ้ว ยอดจองในไทยพุ่งแรง ภายในไม่ถึง 2 สัปดาห์มียอดจองทะลุ 1,100 คัน และถูกมองว่าเป็นคู่แข่งตัวท้าทาย Toyota Alphard ในตลาดอาเซียน
Q
MG Maxus 9 มีสเปคอะไรบ้าง
MG Maxus 9 เป็นรถยนต์ไฟฟ้าแบบ MPV ระดับไฮเอนด์ ที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ทั้งครอบครัวและกลุ่มธุรกิจในตลาดไทย ด้วยความกว้างขวางของพื้นที่ภายในและคุณสมบัติที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รถคันนี้มีขนาดตัวถัง 5270x2000x1840 มม. ระยะฐานล้อ 3200 มม. จุผู้โดยสารได้ 7 ที่นั่ง พร้อมประตูสไลด์ไฟฟ้าทั้งสองด้าน ระบบขับเคลื่อนใช้มอเตอร์ไฟฟ้าตัวหน้าให้กำลังสูงสุด 180 กิโลวัตต์ แรงบิดสูงสุด 350 นิวตัน-เมตร วิ่งได้ไกลถึง 540 กิโลเมตรตามมาตรฐาน NEDC และรองรับการชาร์จเร็วที่ใช้เวลาเพียง 30 นาทีเพื่อชาร์จจาก 30% ถึง 80% ด้านในติดตั้งหน้าจอแสดงผลดิจิตอลขนาด 12.3 นิ้วและหน้าจอกลางแบบลอยตัว พร้อมระบบช่วยขับขี่อัจฉริยะ เช่น ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติและระบบรักษาเลน เหมาะสำหรับการเดินทางในเมืองและท่องเที่ยวระยะไกลในไทย
สำหรับผู้สนใจในไทยควรทราบว่าแบตเตอรี่แบบ Lithium-ion Ternary ทำงานได้ดีในสภาพอากาศร้อน MG ยังมีเครือข่ายบริการหลังการขายที่ครอบคลุมและสถานีชาร์จที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ นอกจากนี้ยังได้รับประโยชน์จากนโยบายลดภาษี ทำให้มีราคาคุ้มค่า แนะนำให้ทดลองนั่งแถวที่สามและตรวจสอบพื้นที่เก็บของเพื่อให้เหมาะกับความต้องการของครอบครัวก่อนตัดสินใจซื้อ
Q
ขนาดตัวถัง Toyota Crown เท่าไหร่?
รถโตโยต้า คราวน์ เป็นรุ่นคลาสสิกที่ขนาดตัวถังจะแตกต่างกันไปในแต่ละรุ่นและรุ่นย่อย ถ้าเอารุ่นล่าสุดเป็นตัวอย่าง ความยาวจะอยู่ที่ประมาณ 4,910-5,030 มม. ความกว้างประมาณ 1,800-1,840 มม. ส่วนความสูงประมาณ 1,450-1,470 มม. ระยะฐานล้อประมาณ 2,920 มม. จัดอยู่ในกลุ่มรถซีดานขนาดกลางใหญ่ ขนาดแบบนี้สำหรับในเมืองไทยถือว่าโอเคเลย ทั้งให้พื้นที่โดยสารที่เพียงพอ แต่ก็ไม่ใหญ่จนขับยากหรือจอดลำบากในลานจอดรถ
สำหรับตลาดไทย คราวน์ถือว่าเหมาะกับครอบครัว โดยเฉพาะช่วงขาหลังที่กว้างขวาง ช่วยให้สบายเวลาเดินทางไกล ส่วนกระโปรงหลังก็จุของได้เยอะพอใช้ในชีวิตประจำวัน นอกจากขนาดตัวรถแล้ว คนไทยที่กำลังมองหารถอาจจะสนใจระบบไฮบริดของคราวน์ที่ช่วยประหยัดน้ำมันในสภาพการจราจรติดขัดแบบกรุงเทพฯ อีกทั้งเครือข่ายบริการหลังการขายของโตโยต้าในไทยก็ครอบคลุม ซ่อมบำรุงสะดวก นี่ก็เป็นจุดเด่นที่ควรคิดถึงเวลาเลือกซื้อรถเหมือนกัน
Q
Toyota Crown ผ่อนต่อเดือนเท่าไหร่?
จำนวนผ่อนรายเดือนของ Toyota Crown ในประเทศไทยขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น รุ่นที่เลือก ระยะเวลาผ่อน เงินดาวน์ และอัตราดอกเบี้ยของแต่ละธนาคาร ยกตัวอย่างรุ่นไฮบริด 2.5L ที่มีราคารถประมาณ 2 ล้านบาท หากวางเงินดาวน์ 30% และผ่อนนาน 5 ปี ภายใต้อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยของธนาคารชั้นนำที่ประมาณ 2.5%-3.5% จะมีค่างวดประมาณ 25,000-28,000 บาทต่อเดือน
ทั้งนี้ ในการซื้อรถยนต์ในไทยนอกจากราคารถและดอกเบี้ยแล้ว ยังมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม เช่น ค่าประกันภัยชั้นหนึ่งประมาณ 3% ของราคารถ, ค่าจดทะเบียนราว 1,000-2,000 บาท และภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% อีกด้วย หากเลือกไฟแนนซ์ บางดีลเลอร์อาจมีโปรโมชั่นดอกเบี้ย 0% สำหรับปีแรก
ในระยะยาว รถยนต์ไฮบริดอย่าง Toyota Crown ยังได้รับสิทธิประโยชน์ด้านภาษีบางส่วน และมีความประหยัดน้ำมัน เหมาะกับสภาพการจราจรที่ติดขัดในกรุงเทพฯ สำหรับผู้ที่กำลังพิจารณาซื้อรถ ควรเปรียบเทียบเงื่อนไขกับรถระดับเดียวกัน เช่น Lexus ES หรือ Honda Accord Hybrid พร้อมทั้งตรวจสอบอัตราดอกเบี้ยล่าสุดผ่านเว็บไซต์ของสมาคมธนาคารไทยก่อนตัดสินใจซื้อ
ดูเพิ่มเติมข่าวที่เกี่ยวข้อง

Nissan ขาดทุนไตรมาสแรกในรอบ 4 ปี สัญญาณวิกฤตธุรกิจเริ่มชัดเจน
Kevin WongAug 1, 2025

Nissan Rogue ปรับโฉมใหม่! เพิ่มรุ่นพิเศษ Dark Armor ดุดันยิ่งขึ้น
AshleyJul 31, 2025

Nissanวางแผนเปิดตัว N7 ในตลาดอาเซียน ตลาดไทยอาจได้ต้อนรับรถรุ่นใหม่นี้
Kevin WongJul 23, 2025

เนื่องจากอัตราการใช้กำลังการผลิตต่ำ Nissan วางแผนที่จะปิดโรงงาน Civac ในเม็กซิโกก่อนเดือนมีนาคมปีหน้า
ธนวัฒน์Jul 22, 2025

Nissan อาจจับมือผลิตกระบะให้ Honda ในสหรัฐฯ เพื่อแก้ปัญหาการเงิน?
พงศธรJul 15, 2025
ดูเพิ่มเติม
ข้อดี
ข้อเสีย