Q
Honda City hatchback เปิดตัวเมื่อใด?
Honda City Hatchback เปิดตัวครั้งแรกของโลกที่ประเทศไทยในเดือนพฤศจิกายนปี 2020 รุ่นนี้เป็นรถแฮทช์แบคที่ฮอนด้าออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าวัยรุ่นไทย พัฒนาบนแพลตฟอร์มของซิตี้รุ่นที่ 5 ซึ่งยังคงความประหยัดและความคล่องตัวเหมือนเดิม แต่เพิ่มดีไซน์สปอร์ตแบบแฮทช์แบคที่ดูทันสมัยกว่า ในตลาดไทย City Hatchback มีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์เทอร์โบชาร์จ 1.0 ลิตรและเครื่องยนต์ 1.5 ลิตรแบบดูดอากาศเข้าตามธรรมชาติ ควบคู่กับเกียร์ CVT ที่ให้ทั้งความประหยัดน้ำมันและความสนุกในการขับขี่ การมาของรุ่นนี้ช่วยเติมเต็มไลน์อัพรถขนาดเล็กของฮอนด้าในไทย แข่งขันกับรุ่นอย่าง Toyota Yaris Ativ ที่น่าสนใจคือไทยเป็นประเทศแรกที่ผลิต City Hatchback สะท้อนให้เห็นว่าฮอนด้าให้ความสำคัญกับฐานการผลิตในไทย แถมยังส่งออกไปขายยังประเทศอื่นในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อีกด้วย แสดงให้เห็นบทบาทสำคัญของไทยในฐานะศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ในภูมิภาคนี้
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto
Q&A เกี่ยวข้อง
Q
Honda City Hatchback มือสองราคาเท่าไหร่?
ราคารถ Honda City Hatchback มือสองในตลาดไทยจะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น อายุรถ ระยะทาง สภาพตัวรถ และระดับอุปกรณ์ โดยทั่วไปแล้วรุ่นปี 2021-2022 จะอยู่ที่ประมาณ 5 แสนถึง 7 แสนบาท แต่ต้องตรวจสอบรายงานสภาพรถและประวัติการเซอร์วิสจริงๆ ด้วย รุ่นนี้ขายดีมากในไทยเพราะประหยัดน้ำมัน โครงสร้างภายในใช้งานได้ดี แถมศูนย์บริการฮอนด้าในไทยก็ครอบคลุม ทำให้รถมือสองขายต่อง่าย ถ้าจะซื้อแนะนำให้ตรวจสอบประวัติรถผ่านช่องทางรถมือสองรับประกันโดยฮอนด้า หรือเว็บไซต์มืออาชีพ ต้องเช็คเกียร์และเครื่องยนต์ให้ละเอียด โดยเฉพาะช่วงหน้าฝนไทยที่อาจมีปัญหาน้ำท่วม ควรตรวจสอบรอยน้ำอย่างใกล้ชิด ถ้าอยากประหยัดกว่านี้ อาจมองรถญี่ปุ่นรุ่นอื่นอย่างโตโยต้ายาริสหรือมาสด้า 2 แต่ต้องยอมรับว่า Honda City Hatchback แบ็ครุ่นไฮบริดนั้นประหยัดน้ำมันกว่า เหมาะกับการขับขี่ในเมืองสุดๆ
Q
Honda City Hatchback มีรุ่น Hybrid หรือไม่?
ปัจจุบัน Honda City Hatchback ในตลาดไทยยังไม่มีรุ่น Hybrid ตัวนี้เน้นเครื่องยนต์เบนซินเป็นหลัก พ่วงมาด้วยเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร i-VTEC ที่ตอบโจทย์ทั้งประหยัดน้ำมันและแรงขับ ตลาดไทยเริ่มมีความต้องการรถ Hybrid เพิ่มขึ้น ซึ่งฮอนด้าเองก็มีรุ่น Hybrid อื่นๆ ในไทยแล้ว เช่น Honda Civic และ Honda HR-V รุ่น Hybrid ในอนาคตอาจมีการนำเทคโนโลยีนี้มาต่อยอดในโมเดลอื่นๆ อีก เทคโนโลยี Hybrid ที่ผสมผสานระหว่างมอเตอร์ไฟฟ้าและเครื่องยนต์ช่วยลดทั้งการสิ้นเปลืองน้ำมันและมลพิษได้ดี เหมาะกับสภาพการจราจรติดขัดในกรุงเทพฯ ถ้าสนใจรถรักษ์สิ่งแวดล้อมประหยัดน้ำมัน ลองดูรุ่น Hybrid ที่มีในตลาดหรือรออัปเดตจากฮอนด้าก็ได้ ส่วนเรื่องภาษี รัฐบาลไทยมีสนับสนุนรถพลังงานสะอาด ทั้ง Hybrid และ EV ก็เป็นตัวเลือกน่าสนใจ แนะนำให้ตรวจสอบข้อมูลล่าสุดทางเว็บไซต์ฮอนด้าไทยหรือติดต่อโชว์รูมก่อนตัดสินใจซื้อ
Q
Honda City Hatchback มีโปรโมชั่นอะไรบ้าง?
ตอนนี้ Honda City Hatchback ในตลาดไทยมีโปรโมชั่นหลากหลายรูปแบบให้เลือก ทั้งส่วนลดเงินสด แผนดาวน์ต่ำ ผ่อนสบายด้วยดอกเบี้ยพิเศษ หรือบริการฟรีเช็คระยะ ซึ่งรายละเอียดโปรโมชั่นอาจแตกต่างกันไปในแต่ละช่วงเวลาและพื้นที่ แนะนำให้ติดต่อตัวแทนจำหน่ายในพื้นที่โดยตรงเพื่อสอบถามข้อมูลล่าสุด รุ่นนี้เป็นที่นิยมมากในไทยเพราะขนาดคันที่คล่องตัว ประหยัดน้ำมัน เหมาะกับการขับขี่ในเมือง เครื่องยนต์ 1.0 ลิตรเทอร์โบชาร์จให้ทั้งแรงและประหยัด แถมยังมาพร้อม Honda Sensing ชุดเทคโนโลยีความปลอดภัยที่ทันสมัยที่สุดในระดับเดียวกัน ส่วนในสภาพอากาศร้อนๆ ของไทย ระบบแอร์และกระจกกัน UV ก็ช่วยให้ความรู้สึกสบายตลอดการเดินทาง นอกจากโปรโมชั่นแล้ว ควรสอบถามตัวแทนจำหน่ายเกี่ยวกับบริการเสริมเช่น ฟรีฟิล์มกรองแสง หรือการรับประกันที่ขยายระยะเวลา เพื่อเพิ่มความคุ้มค่าและประสบการณ์การใช้งานให้ดียิ่งขึ้น
Q
Honda City Hatchback รองรับผู้โดยสารกี่คน?
Honda City Hatchback คือรถคันเล็กแบบแฮทช์แบ็กที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์คนเมืองในไทยมากๆ โครงสร้างมาตรฐานเป็นแบบ 5 ที่นั่ง ให้พื้นที่สบายๆ สำหรับผู้โดยสาร 5 คน พอดีสำหรับครอบครัวใช้ชีวิตประจำวันหรือออกทริปกับเพื่อน โครงสร้างภายในถูกออกแบบมาอย่างดี โดยเฉพาะพื้นที่ขาที่นั่งหลังที่กว้างขวาง แม้เดินทางไกลก็ยังรู้สึกสบาย ส่วนกระโปรงหลังจุได้ประมาณ 289 ลิตร เพียงพอสำหรับของใช้เวลาช้อปปิ้งหรือทริปสั้นๆ ในสภาพอากาศร้อนๆ ของไทย รถรุ่นนี้ยังติดตั้งระบบแอร์เย็นฉ่ำและช่องลมหลังที่นั่ง ทำให้ทุกคนในรถรู้สึกเย็นสบาย แถมยังมาพร้อมระบบ Honda SENSING ช่วยเพิ่มความปลอดภัย เช่น ระบบเบรกอัตโนมัติเมื่อเจอวัตถุข้างหน้าและระบบช่วยควบคุมเลน เหมาะมากสำหรับการขับในเมืองอย่างกรุงเทพฯ ที่การจราจรค่อนข้างติดขัด รถยนต์รุ่นนี้ยังมีตัวเลือกการประหยัดน้ำมันที่ยืดหยุ่น ซึ่งรวมถึงรุ่นเครื่องยนต์เทอร์โบชาร์จ 1.0 ลิตร และรุ่นไฮบริด 1.5 ลิตร ซึ่งสามารถปรับให้เข้ากับความต้องการที่แตกต่างกันของผู้บริโภคชาวไทย ทั้งด้านการประหยัดพลังงานและสมรรถนะ นับเป็นรุ่นที่ลงตัวที่ผสานการใช้งานจริงและเทคโนโลยีเข้าไว้ด้วยกัน
Q
Honda City Hatchback มีระบบความปลอดภัยอะไรบ้าง?
รถ Honda City Hatchback ในตลาดไทยมาพร้อมกับระบบความปลอดภัยครบครัน ทั้งระบบช่วยขับขี่อัจฉริยะ Honda SENSING ที่รวมฟังก์ชันสำคัญอย่าง ระบบเบรกป้องกันการปะทะ (CMBS) ระบบช่วยรักษาเลน (LKAS) ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (ACC) และระบบเตือนเมื่อออกนอกเลน (LDW) นอกจากนี้ยังมีถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง ระบบช่วยทรงตัว (VSA) และกล้องถอยหลัง ซึ่งเป็นระบบความปลอดภัยทั้งแบบแอคทีฟและพาสซีฟที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ประจำวันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ในสภาพการจราจรที่คับคั่งของเมืองไทย ระบบเหล่านี้ใช้งานได้จริงมากๆ เช่น CMBS จะช่วยลดความเสี่ยงการชนท้ายในเส้นทางรถติด ส่วน LKAS จะช่วยให้ผู้ขับควบคุมรถให้อยู่กลางเลนได้ง่ายขึ้นโดยเฉพาะบนทางด่วน แถมยังมาพร้อมกับโครงสร้างตัวรถ ACE ที่ออกแบบมาเพื่อดูดซับแรงกระแทกได้ดียิ่งขึ้น
สำหรับคนไทยแล้ว การเลือกรถที่มีระบบความปลอดภัยครบวงจรเป็นเรื่องสำคัญ เพราะทั้งสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงบ่อยและสภาพการจราจรที่ซับซ้อน ระบบความปลอดภัยที่ดีไม่เพียงแต่ลดโอกาสเกิดอุบัติเหตุ แต่ยังช่วยปกป้องผู้โดยสารได้มากที่สุดหากเกิดเหตุไม่คาดคิดขึ้น
Q
Honda City Hatchback มีสีอะไรให้เลือกบ้าง?
Honda City Hatchback ในตลาดไทยมีสีให้เลือกหลายแบบ ทั้งโทนสีเมทัลลิกที่ดูทันสมัยและโทนสีคลาสสิก โดยสีที่เลือกได้จะมีคริสตัลแบล็ค แพลตินัมไวท์ เมทัลลิกซิลเวอร์ เรดเพิร์ล และสีน้ำเงิน เป็นต้น สีเหล่านี้ไม่เพียงตอบโจทย์รสนิยมของกลุ่มวัยรุ่น แต่ยังเหมาะกับความต้องการเฉพาะตัวของผู้ใช้แต่ละคน ในสภาพอากาศไทยที่ทั้งร้อนและฝนชุก สีรถทุกสีผ่านการเคลือบพิเศษเพื่อให้ทนทานต่อสภาพอากาศและป้องกันรังสียูวีได้ดี แถมฮอนด้ายังมักออกรุ่นสีลิมิเต็ดเอดิชันตามเทรนด์ตลาดเพื่อดึงดูดลูกค้าเพิ่มอีกด้วย เวลาเลือกสีนอกจากจะดูที่ความชอบส่วนตัวแล้ว ก็ควรคำนึงถึงสภาพการใช้จริงในไทยด้วย เช่น สีอ่อนจะทนความร้อนและดูแลง่ายในแดดแรงๆ ส่วนสีเข้มจะให้ความรู้สึกคลาสสิกและหรูหรากว่า นอกจากนี้ด้วยดีไซน์ตัวรถของ Honda City Hatchback ที่ออกแนวสปอร์ต ถ้าเลือกสีสดๆ จะยิ่งช่วยเน้นภาพลักษณ์ความYoungได้ดี ไม่ว่าจะเลือกสีไหน รถคันนี้ก็เข้ากับบรรยากาศถนนไทยและไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างแนบเนียน
Q
Honda City Hatchback ภายในกว้างขวางไหม?
Honda City Hatchback เป็นรุ่นที่ออกแบบมาสำหรับการขับขี่ในเมืองด้วยขนาดคอมแพค แต่โดดเด่นในเรื่องความคล่องตัวและการใช้พื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นที่สนใจในตลาดไทย ขนาดตัวถังอยู่ที่ 4,345 มม. × 1,748 มม. × 1,488 มม. ระยะฐานล้อ 2,589 มม. แม้จะจัดอยู่ในกลุ่มรถขนาดเล็ก แต่ด้วยแนวคิด MM ของฮอนด้า (ลดพื้นที่เครื่องยนต์ให้น้อยสุด ขยายพื้นที่ผู้โดยสารให้มากสุด) ทำให้การจัดวางภายในถูกออกแบบมาอย่างเหมาะสม พื้นที่ส่วนหัวและขาหน้าด้านหน้าเพียงพอ ส่วนพื้นที่ขาหลังก็กว้างขวางเมื่อเทียบกับรถในระดับเดียวกัน เหมาะกับการเดินทางระยะสั้นของครอบครัวหรือการขับขี่ในเมืองแบบที่นิยมในไทย ความจุท้ายรถอยู่ที่ประมาณ 289 ลิตร (เมื่อไม่พับเบาะหลัง) เพียงพอต่อการใช้งานทั่วไป แต่หากพับเบาะหลังก็จะเพิ่มพื้นที่เก็บของได้อีก ในสภาพอากาศร้อนชื้นของไทย ระบบแอร์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และในรุ่นท็อปยังมีช่องลมแอร์ด้านหลังเพื่อเพิ่มความสบายให้ผู้โดยสาร อย่างไรก็ตาม สำหรับบางซอยแคบหรือที่จอดรถแน่นในไทย ความกว้างระดับ 1.7 เมตรของ City Hatchback อาจได้เปรียบเรื่องความคล่องตัวเมื่อเทียบกับ SUV ขนาดใหญ่ แต่หากต้องใช้งานแบบเต็มความจุ 5 คนเป็นประจำสำหรับการเดินทางไกล แนะนำให้ทดลองนั่งจริงโดยเฉพาะพื้นที่ด้านกว้างของเบาะหลัง ในตลาดรถระดับเดียวกันยังมีรุ่นที่คล้ายกันอย่าง Toyota Yaris Ativ ที่ผู้ซื้อสามารถเปรียบเทียบตามความชอบในการออกแบบและความต้องการฟังก์ชั่นต่างๆ ได้
Q
Honda City Hatchback ประหยัดน้ำมันเท่าไร?
Honda City Hatchback ในไทยนั้นประหยัดน้ำมันสุดๆ รุ่นเครื่องยนต์ 1.0 ลิตรเทอร์โบทำสถิติเฉลี่ยประมาณ 23.8 กม./ลิตร จากการทดสอบมาตรฐานของไทย ส่วนรุ่นไฮบริดนั้นยิ่งคุ้มค่ากว่า ทำได้ถึง 27.8 กม./ลิตร เลยทีเดียวเหมาะมากสำหรับสภาพการจราจรที่ต้องออกตัว-หยุดบ่อยครั้งในเมืองใหญ่ของไทยและผู้บริโภคที่เน้นการประหยัดน้ำมัน และคนที่เน้นเรื่องประหยัดน้ำมันเป็นหลัก ตัวรถมาพร้อมเทคโนโลยี Earth Dreams ของฮอนด้าที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพเครื่องยนต์และลดน้ำหนักตัวรถ ทำให้ทั้งประหยัดและยังเร่งแซงได้ดี แม้อยู่ในอากาศร้อนๆ แบบไทยๆ แอร์ก็ถูกปรับแต่งพิเศษให้เย็นสบายแต่ไม่ทำให้น้ำมันพุ่งจนน่าตกใจ สำหรับคนที่ต้องเจอรถติดในกรุงเทพฯ บ่อยๆ ระบบสตาร์ท-สต็อปรอบเดินเบาของ City Hatchback ช่วยลดการใช้เชื้อเพลิงที่ไม่จำเป็นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ที่สำคัญนอกจากจะประหยัดแล้ว ยังมีพื้นที่เก็บของที่จัดเต็มและขนาดตัวรถกะทัดรัดเหมาะกับซอยแคบๆ ในไทย ถือเป็นตัวเลือกชั้นดีสำหรับคนเมือง ส่วนเรื่องอัตราสิ้นเปลืองจริงอาจแตกต่างกันไปตามสไตล์การขับ สภาพถนน และน้ำหนักบรรทุก ควรเข้าศูนย์ตามกำหนดและเช็คลมยางสม่ำเสมอเพื่อประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันที่ดีที่สุด
Q
"Honda City Hatchback มีรุ่นย่อยอะไรบ้าง?
Honda City Hatchback ในตลาดไทยมีหลายรุ่นให้เลือกตามความต้องการของผู้ใช้ โดยแบ่งเป็น 4 รุ่นหลักคือ S V SV และ RS แต่ละรุ่นมีความแตกต่างทั้งในเรื่องของอุปกรณ์และราคา รุ่น S เป็นรุ่นเริ่มต้นที่เน้นความประหยัดและใช้งานพื้นฐาน พร้อมด้วยระบบความปลอดภัยและความบันเทิงมาตรฐาน ส่วนรุ่น V และ SV จะเพิ่มความสบายและเทคโนโลยีมากขึ้น เช่น จอสัมผัสและระบบช่วยขับขี่ ในขณะที่รุ่น RS เป็นรุ่นสปอร์ตที่โดดเด่นด้วยดีไซน์เฉพาะ พร้อมชุดแต่งภายนอกและวัสดุภายในระดับพรีเมียม ทุกรุ่นใช้เครื่องยนต์เทอร์โบ 1.0 ลิตรร่วมกับเกียร์ CVT ที่ให้ทั้งความประหยัดน้ำมันและสมรรถนะที่ตอบโจทย์ สำหรับคนไทยแล้ว ขนาดกะทัดรัดของ City Hatchback เหมาะกับการขับขี่ในเมืองเป็นอย่างยิ่ง แถมยังได้ความน่าเชื่อถือจากฮอนด้าและเครือข่ายบริการที่ครอบคลุมอีกด้วย เวลาเลือกรุ่นควรดูความต้องการและงบประมาณเป็นหลัก เช่น ถ้าต้องขับทางไกลบ่อยอาจเลือกรุ่น SV หรือ RS ที่มีระบบความปลอดภัยครบครัน แต่ถ้าใช้แค่ในเมืองก็เลือกรุ่น S ที่ประหยัดกว่าได้ นอกจากนี้ การที่ฮอนด้ามีอัตราค่าเสื่อมราคาต่ำในไทยก็เป็นอีกจุดที่ควรคำนึงเวลาซื้อด้วย
Q
Honda City Hatchback ราคาเท่าไหร่?
Honda City Hatchback เป็นรถแฮทช์แบคขนาดกะทัดรัดที่ฮอนด้าขายดีมากในตลาดไทย ราคาจะแตกต่างกันไปตามระดับเครื่องยนต์และอุปกรณ์เสริม โดยรุ่นเริ่มต้นราคาเริ่มที่ 599,000 บาท ส่วนรุ่นท็อปสุดอาจพุ่งไปถึง 749,000 บาท แต่ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลงจากโปรโมชั่นหรืออุปกรณ์เสริมที่เลือกเพิ่ม รถคันนี้โดดเด่นเรื่องความประหยัดน้ำมัน การออกแบบภายในที่ใช้งานได้หลากหลาย และประสิทธิภาพที่เชื่อถือได้ เหมาะมากกับการขับขี่ในเมือง โดยเฉพาะในสภาพการจราจรติดขัดแบบกรุงเทพฯ
Honda City Hatchback มาพร้อมเครื่องยนต์เทอร์โบ 1.0 ลิตร คู่กับเกียร์ CVT ที่ให้การขับขี่ลื่นไหล พร้อมประหยัดน้ำมันได้ดี ตอบโจทย์ความต้องการของคนไทยที่มองหาราคะประหยัดและใช้งานได้จริง แถมยังติดตั้งระบบความปลอดภัย Honda SENSING ที่มีฟังก์ชันช่วยเบรกเมื่อเจอสิ่งกีดขวางและช่วยควบคุมเลน ช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับการขับขี่
ถ้าคุณกำลังมองหาแฮทช์แบคที่คุ้มราคาและเหมาะกับการขับขี่ในเมือง Honda City Hatchback ก็เป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจ แนะนำให้ไปทดลองขับและสอบถามโปรโมชั่นล่าสุดที่ตัวแทนจำหน่ายใกล้บ้านคุณดู
Q&A ล่าสุด
Q
รถยนต์ Toyota Sienta มีกี่ที่นั่ง?
รถ Toyota Sienta เป็น MPV อเนกประสงค์ที่เหมาะมากๆ สำหรับครอบครัวไทย ตอนนี้ในตลาดไทยมีให้เลือก 2 แบบ คือแบบ 7 ที่นั่งกับ 8 ที่นั่ง แบบ 7 ที่นั่งจัดเรียง 2+2+3 แถวสองเป็นเก้าอี้เดี่ยว นั่งสบายกว่า เหมาะกับครอบครัวที่ต้องเดินทางไกลบ่อยๆ ส่วนแบบ 8 ที่นั่งจัด 2+3+3 พวกคนเยอะหรือต้องรับเพื่อนร่วมทางเพิ่มก็จัดไป ในสภาพอากาศร้อนๆ ของไทย Sienta ทุกรุ่นติดแอร์หลังและระบบแอร์โซน 3 ระดับให้ความเย็นสบายทุกที่นั่ง ส่วนเรื่องขนของเยอะๆ เวลาไปช้อปหรือเที่ยวสุดสัปดาห์ ก็ปรับเก้าอี้ได้ตามใจ เลือกวางของง่ายๆ ที่เด็ดคือระบบไฮบริดของซีเอนน่าช่วยประหยัดน้ำมันได้เยอะในรถติดๆ แบบกรุงเทพฯ นี่เป็นจุดขายที่คนไทยชอบมาก เวลาเลือกว่าจะเอาหลายที่นั่งดีไหม ให้ดูว่าในบ้านมีกี่คน ถ้าต้องลุยรับเพื่อนบ่อยๆ แบบ 8 ที่นั่งก็เวิร์กกว่า แต่ถ้าอยากนั่งแถวสองสบายๆ แบบ 7 ที่นั่งตอบโจทย์กว่าแน่นอน
Q
Toyota Sienta ในประเทศไทยราคาเท่าไหร่
ราคาของ Toyota Sienta ในประเทศไทยจะแตกต่างกันไปตามรุ่นและอุปกรณ์ โดยรุ่นเริ่มต้นมีราคาเปิดตัวประมาณ 800,000 บาท ส่วนรุ่นท็อปอาจสูงถึง 1 ล้านบาท แต่แนะนำให้สอบถามราคาล่าสุดจากตัวแทนจำหน่ายในพื้นที่ เพราะราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง รถรุ่นนี้ขายดีในไทยเพราะดีไซน์ห้องโดยสารที่ปรับแต่งได้หลากหลายและประหยัดน้ำมัน เหมาะสำหรับครอบครัวหรือใช้ในเมืองเป็นประจำ Toyota Sienta มีตัวเลือกเครื่องยนต์ทั้งแบบ 1.5 ลิตรและแบบไฮบริด ให้เลือกตามความต้องการของผู้ขับขี่ นอกจากนี้ ขนาดตัวรถที่กะทัดรัดยังทำให้ขับและจอดในซอยแคบๆ ของไทยได้ง่ายมาก ถ้าคุณกำลังมองหา MPV ที่ใช้งานได้จริงและคุ้มค่าเงิน Toyota Sienta ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ เพราะความทนทานและบริการหลังการขายของโตโยต้าในไทยก็ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง ก่อนตัดสินใจซื้อ แนะนำให้ลองขับและเปรียบเทียบรุ่นต่างๆ เพื่อเลือกแบบที่ตอบโจทย์คุณที่สุด
Q
Toyota Sienta มีรุ่นย่อยอะไรบ้าง
รถ Toyota Sientaในตลาดไทยมีให้เลือกหลายรุ่นตามความต้องการที่แตกต่างกัน เริ่มจากรุ่นพื้นฐานอย่าง 1.5J MT (เกียร์ธรรมดา) และ 1.5J CVT (เกียร์ออโต้) จนถึงรุ่นที่แต่งเต็มกว่าอย่าง 1.5G CVT และ 1.5V CVT ซึ่งรุ่น 1.5V นี่แหละที่เป็นรุ่นท็อปสุด พร้อมฟีเจอร์เพิ่มความสะดวกสบายและเทคโนโลยีเพียบ เช่น ระบบกุญแจอัจฉริยะ จอทัชสกรีนสำหรับความบันเทิง เป็นต้น ทุกรุ่นใช้เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร แบบธรรมดาที่ประหยัดน้ำมันและเหมาะกับการขับขี่ในเมือง ส่วนการออกแบบตัวถังนั้นเป็นแบบ MPV ขนาดกะทัดรัด ที่จอดง่ายและใช้งานได้คล่องตัวในซอกซอยแคบๆ ของไทย พร้อมยังเหมาะสำหรับครอบครัวอีกด้วย ที่พิเศษไปกว่านั้น รุ่นที่ขายในไทยยังมีการปรับปรุงระบบแอร์ให้แรงขึ้นเพื่อรับมือกับอากาศร้อนแบบเมืองไทย และมีตัวเลือกในการเพิ่มเก้าอี้แถวที่สามเพื่อความยืดหยุ่นในการใช้งาน สำหรับตลาดไทยแล้ว MPV ขนาดเล็กแบบนี้ได้รับความนิยมสูงเพราะใช้พื้นที่ได้อย่างคุ้มค่าและค่าบำรุงรักษาก็ไม่แพง เวลาจะซื้อควรดูความต้องการเกี่ยวกับอุปกรณ์และงบประมาณของตัวเองเป็นหลัก และที่สำคัญควรตรวจสอบข้อมูลรุ่นล่าสุดจากโชว์รูมอย่างเป็นทางการด้วย เพราะบางทีรายละเอียดอาจมีการปรับเปลี่ยนนิดหน่อยในแต่ละปี
Q
อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันของ Toyota Camry เป็นอย่างไรบ้าง?
Toyota Camry ในตลาดไทยนั้นโดดเด่นเรื่องประหยัดน้ำมันมาก โดยอัตราสิ้นเปลืองจริงจะขึ้นอยู่กับรุ่นและเครื่องยนต์ เช่น รุ่นเครื่องยนต์ 2.0L แบบปกติ ถ้าใช้งานในเมืองจะวิ่งได้ประมาณ 12-14 กิโลเมตร/ลิตร ส่วนรุ่นไฮบริดนั้นประหยัดยิ่งกว่า ทำได้ถึง 20-22 กิโลเมตร/ลิตร เหมาะกับสภาพการจราจรที่ติดขัดบ่อยในไทยมาก นอกจากเรื่องน้ำมันแล้ว เวลาซื้อรถคนไทยยังให้ความสำคัญกับค่าบำรุงรักษาและอัตราค้างค่าตัวด้วย ซึ่ง Toyota Camry ทำได้ดีทั้งสองเรื่อง ด้วยความทนทานของโตโยต้าและเครือข่ายบริการที่ครอบคลุม ช่วยลดค่าใช้จ่ายในระยะยาวได้อีกต่างหาก อีกจุดเด่นที่คนไทยชอบคือระบบแอร์ที่ออกแบบมาสำหรับอากาศร้อน เย็นฉ่ำแต่ไม่ทำให้น้ำมันพุ่ง แบบนี้แหละที่ทำให้คัมรี่ขายดีในไทย
Q
ภายในรถยนต์ Toyota Sienta มีความกว้างขวางและสะดวกสบายหรือไม่
รถ Toyota Sienta เป็น MPV ขนาดกะทัดรัดที่ตอบโจทย์ครอบครัวชาวไทยด้วยการออกแบบพื้นที่ภายในที่ใช้งานได้อย่างคุ้มค่า แม้ตัวรถจะกระทัดรัดแต่ด้วยการจัดวางเบาะที่นั่งที่ชาญฉลาด เช่น เบาะแถวสองที่เลื่อนได้และแถวสามที่พับเก็บได้ ทำให้สามารถปรับเปลี่ยนพื้นที่ใช้สอยได้หลากหลายรูปแบบ เหมาะทั้งสำหรับการเดินทางในเมืองหรือทริปสุดสัปดาห์กับครอบครัว โดยเฉพาะในซอยแคบๆ ของกรุงเทพฯ ที่จอดง่ายขับคล่อง ด้านการจัดเก็บของก็จัดเต็ม มีช่องเก็บของเปิดใต้แผงคอนโซลหน้าและช่องเก็บของตามประตู สะดวกสำหรับของใช้ประจำวันของคนไทยอย่างเครื่องดื่ม ขนม หรือของชิ้นเล็กๆ ส่วนระบบขับเคลื่อนใช้เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร แบบธรรมชาติ ประหยัดน้ำมันเหมาะกับราคาน้ำมันในไทย ร่วมกับเกียร์ CVT ที่ให้ความนุ่มลื่นเหมาะกับการขับขี่ในเมือง จุดเด่นที่ต้องพูดถึงคือการออกแบบหลังคาสูงที่เพิ่มพื้นที่เหนือศีรษะ แม้ผู้โดยสารตัวสูงก็ไม่รู้สึกอึดอัด และประตูสไลด์ข้างที่สะดวกในการขึ้นลงรถในสภาพอากาศร้อนชื้นของไทย นอกจากนี้ Sienta ยังได้เปรียบเรื่องความทนทานและเครือข่ายบริการหลังการขายของโตโยต้าที่ครอบคลุมในไทย แต่หากใครต้องการพื้นที่แถวสามที่กว้างขวางขึ้น อาจลองเปรียบเทียบกับคู่แข่งอย่าง Honda Freed หรือ Suzuki Ertiga แล้วเลือกให้เหมาะกับความต้องการของครอบครัว
ดูเพิ่มเติมข่าวที่เกี่ยวข้อง

จาก Jazz สู่ City Hatchback: การพลิกโฉมอย่างงดงามของ Honda Hatchback
LienJun 4, 2024

Honda N-ONE e:เปิดตัวอย่างเป็นทางการในญี่ปุ่น ระยะทางขับขี่สูงสุดถึง 295 กิโลเมตร
LienSep 12, 2025

ในประเทศไทย เลือกรถยนต์ซันรูฟ: ซันรูฟพาโนรามาหรือซันรูฟเดี่ยว? อ่านจบไม่พลาด
Kevin WongSep 12, 2025

แท่งเหล็กกันโคลงในรถยนต์คืออะไร? และมันมีผลอะไรกับรถยนต์?
พงศธรSep 11, 2025

ตลาดรถมือสองในประเทศไทย: ความต้องการการบริโภคเบื้องหลังความนิยมและการวิเคราะห์แนวโน้มปี 2025
Kevin WongSep 10, 2025
ดูเพิ่มเติม
ข้อดี
ข้อเสีย