BYD ประกาศรายงานการเงินประจำปี 2023 ยอดขายเพิ่มขึ้น 42.04% จากปีก่อน
Kevin WongMar 28, 2024, 10:11 AM
ไม่นานมานี้ BYD ได้ประกาศรายงานการเงินในปี 2023 จากรายงานการเงินพบว่าในปี 2023 รายได้จากการดำเนินการของ BYD ถึง 6023.15 พันล้านหยวน มีการเพิ่มขึ้น 42.04% โดยเป็นส่วนหนึ่งของผลกำไรสุทธิของผู้ถือหุ้นในบริษัทที่จดทะเบียนเป็น 300.41 พันล้านหยวนเพิ่มขึ้น 80.72% จากปีที่แล้ว และผลกำไรสุทธิหลังหักค่าใช้จ่ายที่ไม่ประจำคือ 284.62 พันล้านหยวน มีการเพิ่มขึ้น 82.01% จนถึงสิ้นปี 2023 ทรัพย์สินรวมของ BYD เป็น 6795.48 พันล้านหยวน มีการเพิ่มขึ้น 37.6% นอกจากนี้ BYD ได้ประกาศเสนอแต่ละลูกหุ้นจ่ายเงินปันผลจำนวน 30.96 หยวนต่อหุ้นครั้งละ 10 หุ้น
ปัจจุบัน BYD มีธุรกิจหลักที่ดำเนินการมากมาย ได้แก่ ธุรกิจรถยนต์ที่มีเป็นหลักคือรถยนต์พลังงานทดรอง,ส่วนประกอบและการประกอบโทรศัพท์มือถือ, ถ่านชาร์จซ้ำและธุรกิจเซลล์แสงอาทิตย์และกำลังขยายธุรกิจระบบขนส่งทางรางในเมืองและอื่นๆ ภายในนั้นธุรกิจรถยนต์มีสัดส่วนมากที่สุด รายได้จาก BYD รายได้จากรถยนต์สินค้าและสินค้าอื่นๆยอดขายประมาณ 4834.53 พันล้านหยวน เพิ่มขึ้น 48.9% รายได้จากส่วนประกอบและการประกอบโทรศัพท์มือถือรายได้จากและสินค้าอื่นๆประมาณ1185.77 พันล้านหยวน มีโดยมีการเพิ่มขึ้น 20% ส่วนสัดส่วนของรายได้รวมในอันดับต้นๆและ 19.68%
ในธุรกิจรถยนต์, อัตรากำไรขั้นต้นของBYD มีอยู่ที่ 23.6% ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสามารถที่ยอดเยี่ยมในการควบคุมค่าใช้จ่ายและการจัดการซัพพลายเชนของ BYD ยังเตรียมพื้นที่สำหรับการปรับราคาที่มากขึ้นซึ่งทำให้ตอบสนองต่อการแข่งขันในตลาดได้คล่องแคล่ว เพิ่มสัดส่วนการตลาดอีกด้วย
ในเรื่องของการพัฒนาและวิจัย ในปี 2023 ค่าใช้จ่ายด้านการพัฒนาและวิจัยของ BYD มากถึง 39.57 หมื่นล้านหยวน ซึ่งเป็น 4.7 เท่าของการลงทุนในการพัฒนาและวิจัยในปี 2019 และมากกว่า Tesla ถึง 11.18 หมื่นล้านหยวน การลงทุนสูงในการพัฒนาและวิจัยนอกจากจะนำพา BYD ไปสู่ผลงานทางเทคโนโลยีที่โดดเด่นแล้ว ยังเป็นการสนับสนุนอย่างมีขุนทัพสำหรับการตีประตูเข้าสู่ตลาดหรูหราด้านบน เมื่อพวกเขาปรากฏตัวในงานแสดงรถยนต์ในกรุงเทพฯสัญลักษณ์ยางพาราที่อยู่ภายใต้แบรนด์ Yangwang ยางพารา U8 มีราคาในตลาดจีน 10.98 ล้านต้น เพื่อนขณะนี้จำนวนคืนสินค้าที่ทับซ้อนในตลาดจีนได้เกิน 5000 คันแล้ว
ด้านการขาย ในปี 2023 รายได้การผลิตและการขายของ BYD ตามลำดับเป็น 3,045,200 คันและ 3,024,400 คัน แสดงอัตราการเติบโตเทียบเปรียบเทียบปีก่อนที่ 61.84% และ 67.79% และสามารถเติบโตเกินเป้าหมาย 3 ล้านคันที่กำหนดไว้ตั้งแต่ต้นปี ในส่วนของตลาดต่างประเทศ ในปี 2023 ยอดขายรถของ BYD ของ 252,300 คัน มีอัตราการเติบโตร้อยที่ 457.66% ในตลาดในประเทศไทย ยอดขายของรุ่น BYD ATTO3 และ BYD Dolphin ดูดีอ่อนทั่ว และในงานแสดงรถยนต์ฯพูดภาษาไทยนั้นนำมูล่าสุดมาแสดงแก่ SONG MAX、Sealion、 เยาว์ Wang U9 และ BAO 5 ด้วยการก่อสร้างโรงงานของ BYD ในประเทศไทยที่ไม่หยุดยั้ง ในอนาคต BYD จะวางแผนให้มีผลิตภัณฑ์ที่เพิ่มมากขึ้นในประเทศไทยและตลาดต่างประเทศคนอื่นๆ
โดยรวม BYD ได้รับการเกริ่นนำเกี่ยวกับรายงานการเงินประจำปี 2023 ไม่ว่าจะเป็นรายได้จากการดำเนินธุรกิจ กำไรสุทธิ การลงทุนในการวิจัยและพัฒนา หรือการขยายตลาดเป็นต้น ประสิทธิภาพการพัฒนาที่แข็งแรงและภูมิภาคที่กว้างใหญ่ของ BYD ได้รับการแสดงให้เห็น ในอนาคต แม้กระทั่งเมื่อตลาดรถยนต์พลังงานใหม่ที่เพิ่มเติมเรื่อยๆและการแข่งขันที่เข้มข้นขึ้น BYD จะสามารถรักษาฐานะที่ครองจักรมาไว้อย่างต่อเนื่อง และเสนอผลิตภัณฑ์รถยนต์พลังงานใหม่ที่มีคุณภาพสูงให้กับผู้บริโภคทั่วโลกได้
คุณสามารถติดต่อเราให้ลบออกเนื้อหาถ้าละเมิดลิขสิทธิ์

Jaecoo J7 PHEV จะเปิดตัวในเดือนมีนาคมในประเทศไทย, SUV นี้เป็นอัศจรรย์ของยอดขายในมาเลเซีย
【PCauto】Jaecoo J7 PHEV จะเปิดตัวในเดือนมีนาคมที่ประเทศไทย และจะเป็นรถรุ่นที่สามที่ Chery Automobile นำเสนอในตลาดไทย ก่อนหน้านี้ Omada C5 EV และ Jaecoo J6 EV ประสบปัญหาที่ยากลำบากในตลาดไทย เนื่องจากสภาพตลาดรถยนต์โดยรวมที่หดตัวและความต้องการซื้อรถที่ลดลง อีกทั้งในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า (BEV) BYD ครองส่วนแบ่งการตลาดเกือบทั้งหมด จึงเหลือพื้นที่ตลาดน้อยสำหรับ Omada C5 EV และ Jaecoo J6 EV ท่ามกลางความยากลำบาก Chery Automobile หวังว่าจะพึ่งพา Jaecoo J7 PHEV ซึ่งเป็น SUV รุ่นสำคัญในการพลิกสถานการณ์

กลยุทธ์ใหม่ของ BYD ในการเพิ่มยอดขายในปี 2025 คือติดตั้งระบบขับขี่อัจฉริยะ DiPilot ในรถยนต์ทุกรุ่น
【PCauto】BYD สามารถทำยอดขายทั่วโลกในปี 2024 ได้อย่างก้าวกระโดด โดยมียอดขายรวมทั้งสิ้น 4.27 ล้านคัน เพิ่มขึ้น 41.26% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ในส่วนของยอดขายนอกประเทศจีน BYD มียอดขาย 417,000 คัน เพิ่มขึ้น 71.9% ในประเทศไทย BYD สามารถทำยอดขายได้ 27,005 คัน ทำให้ขึ้นมาอยู่ในอันดับที่ 5 แม้ว่าในปีที่ผ่านมาผลิตภัณฑ์รถยนต์ในประเทศจะลดลงทั้งหมด แต่ BYD สามารถลดการหดตัวได้เพียง 11.3% (เทียบกับ Toyota ที่ลดลง 17.1%) ซึ่งทำให้ตำแหน่งของตนสูงขึ้นเป็นอันดับที่ 5 สาเหตุส่วนหนึ่งมาจากการลดราคาบ่อยครั้งของ BYD

Mitsubishi Xforce HEV กำลังจะวางจำหน่ายในประเทศไทย และเริ่มการแข่งขันกับ Yaris Cross
【PCauto】Toyota Yaris Cross HEV ผลิตและเปิดตัวในประเทศตั้งแต่เดือนตุลาคม 2023 และได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม ในปี 2024 Yaris Cross ครองอันดับหนึ่งในยอดขาย SUV กลุ่ม C-Segment ด้วยยอดขาย 35,500 คัน คิดเป็นส่วนแบ่งตลาด 37.1% ในเดือนเมษายน 2024 ยังคงนำเป็นอันดับหนึ่งด้วยยอดขาย 3,004 คัน และส่วนแบ่งตลาด 40.7% ไม่เพียงแค่ในกลุ่ม SUV เท่านั้น แต่ในเดือนมิถุนายน 2024 Yaris Cross ยังขึ้นสู่อันดับที่ 4 ในยอดขายรถยนต์ใหม่โดยรวมของประเทศไทย

Toyota ได้เปิดตัว SUV ไฟฟ้าสุดท้าทายในประเทศจีน ราคาถูกกว่า BYD
【PCauto】Toyota bZ3X เปิดตัวในตลาดจีน โดยมีราคาจำหน่ายระหว่าง 10.98 หมื่นถึง 15.98 หมื่นหยวน หรือประมาณ 511,100 - 743,800 บาท มาในรูปแบบ SUV ขนาด C-Segment โดยมีระยะฐานล้อ 2765 มม. ความยาว 4600 มม. ความกว้าง 1850 มม. และความสูง 1645 มม. ซึ่งใกล้เคียงกับรุ่นอื่นๆ เช่น BYD Song Plus, GWM HAVAL H6 และ iCar 03 โดยราคาของ Toyota bZ3X ยังใกล้เคียงกับรุ่นเหล่านี้หรือบางครั้งอาจต่ำกว่า

Hyundai เตรียมเปิดตัวสายการผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าแบบ All-Solid-State ใครกันที่นำหน้าอยู่?
【PCauto】มีรายงานข่าวว่า Hyundai เตรียมเปิดตัวสายการผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าแบบ All-Solid-State ในเดือนหน้า โดยพิธีเปิดจะจัดขึ้นที่ศูนย์วิจัยแบตเตอรี่รุ่นใหม่ในเมืองอึยวัง ประเทศเกาหลีใต้ สายการผลิตนี้จะถูกใช้เป็นโครงการนำร่องสำหรับการผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าแบบ All-Solid-State ที่เรียกว่า ‘Dream’
รถยอดนิยม
เปรียบเทียบรถยนต์
รูปภาพรถ
ภาพภายใน