CARS24 ออกจากประเทศไทย: เกิดจากความเสถียรทางเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงและผลกระทบจากรถยนต์ไฟฟ้า
AshleyMay 09, 2024, 12:10 PM
CARS24 ออกจากประเทศไทย: เนื่องจากความผันผวนของวัฏจักรเศรษฐกิจและผลกระทบจากรถยนต์ไฟฟ้า
เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2024 CARS24 ได้ประกาศปิดสาขาทั่วประเทศทั้งหมด โดยให้เหตุผลว่าต้องการกลับไปมุ่งเน้นกลยุทธ์หลักของบริษัท อย่างไรก็ตาม ทางบริษัทจะยังคงจำหน่ายรถยนต์ที่มีอยู่ในสต็อกในประเทศไทยต่อไปจนกว่าสินค้าจะหมด
บริษัท Cars24 Group (Thailand) Company Limited ได้จดทะเบียนเมื่อวันที่ 2 เมษายน 2021 โดยมีทุนจดทะเบียน 920,339,700 บาท ธุรกิจหลักคือการขายรถยนต์มือสอง เช่น รถยนต์ส่วนบุคคล รถปิกอัพ รถตู้ และยานพาหนะขนาดเล็กประเภทอื่น ๆ
เมื่อเริ่มดำเนินธุรกิจในประเทศไทย CARS24 ได้แสดงความมั่นใจว่าบริษัทจะสามารถเติบโตอย่างมั่นคงในประเทศไทย เนื่องจากเป็นบริษัทสตาร์ทอัพเทคโนโลยีด้านยานยนต์ที่เป็นยูนิคอร์นจากสิงคโปร์ และมีจุดแข็งในการให้บริการที่มีคุณภาพ เช่น การให้ลูกค้าเลือกเวลาทดลองขับได้อย่างอิสระ ความมั่นใจนี้มาจากการที่บริษัทสามารถสร้างการเติบโตอย่างรวดเร็วในตลาดอินเดียภายในระยะเวลาเพียง 3 ปี ก่อนขยายธุรกิจมาที่ประเทศไทย
แต่สถานการณ์จริงในการดำเนินงานไม่เป็นไปตามที่คาดหวังทั้งจากผู้คนและผู้บริหารของบริษัท ในปี 2022 และ 2023 CARS24 มีการขาดทุนรวม 2.241 พันล้านบาท
ในปี 2022 รายได้รวมอยู่ที่ 487.86 ล้านบาท ขาดทุน 1.3009 พันล้านบาท ในปี 2023 รายได้รวมอยู่ที่ 1.7047 พันล้านบาท ขาดทุน 940.05 ล้านบาท
สถานการณ์การดำเนินงานเช่นนี้ไม่เพียงเกิดจากปัญหาการบริการของบริษัทเท่านั้น แต่ยังได้รับผลกระทบจากการสั่นสะเทือนในตลาดรถยนต์มือสองโดยรวม ตลาดรถยนต์มือสองในประเทศไทยได้ผ่านความผันผวนอย่างหนักในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งรวมถึงการพัฒนาเศรษฐกิจและนโยบายการส่งเสริมรถยนต์ไฟฟ้าที่มีผลกระทบต่อการตลาดรถยนต์มือสองอย่างรุนแรง
การชะลอตัวของเศรษฐกิจทำให้กำลังซื้อของผู้บริโภคลดลง ขณะเดียวกัน รถยนต์ของลูกหนี้ที่ค้างชำระหนี้จะถูกยึดและไหลเข้าสู่ตลาดรถยนต์มือสอง ทำให้จำนวนรถยนต์มือสองที่มีจำหน่ายเพิ่มขึ้นและการแข่งขันในตลาดรถยนต์มือสองก็ทวีความรุนแรงขึ้น
เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2024 นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานสมาคมอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย (FTI) เปิดเผยว่า ในเดือนมีนาคม 2024 การผลิตรถยนต์ในประเทศไทยลดลง 23.08% โดยมียอดผลิต 138,331 คัน ส่วนยอดขายรถยนต์ในประเทศไทยอยู่ที่ 46,523 คัน ลดลง 41.01% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว
บริษัทที่ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าได้ใช้กลยุทธ์ส่งเสริมการขายเพื่อดึงดูดลูกค้า การลดราคาบ่อยครั้งทำให้ราคาของรถใหม่บางรุ่นไม่ต่างจากรถมือสอง ซึ่งทำให้ความน่าสนใจของรถมือสองลดลงในสายตาของผู้บริโภค
พร้อมกันนี้ รัฐบาลไทยให้ความสำคัญอย่างสูงกับการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าในประเทศ โดยมีนโยบายที่มุ่งเป้าให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในภูมิภาค การประชุมคณะกรรมการนโยบายรถยนต์ไฟฟ้า (EV Board) ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 3 มกราคม 2024 ภายใต้การดำเนินการของนาย เศรษฐา ทวีสิน ได้มุ่งเน้นการขับเคลื่อนประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางการผลิตและนโยบายรถยนต์ไฟฟ้า โดยตั้งเป้าหมายว่าภายในปี 2030 รถยนต์ที่ปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ (ZEV) จะต้องมีสัดส่วนอย่างน้อย 30% ของการผลิตรถยนต์ทั้งหมดในประเทศ คิดเป็นจำนวน 725,000 คัน และรถจักรยานยนต์ 675,000 คัน
คุณสามารถติดต่อเราให้ลบออกเนื้อหาถ้าละเมิดลิขสิทธิ์
DEEPAL S05: ระยะทางการขับขี่ไฟฟ้า 510 กม. SUV พลังงานใหม่ที่เหมาะสำหรับวัยรุ่น?
ในงาน Chengdu Auto Show 2024 ที่ผ่านมา รถยนต์รุ่นใหม่จาก DEEPAL ซึ่งคือ DEEPAL S05 ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการ รถใหม่รุ่นนี้เป็น SUV ขนาดกะทัดรัดที่มีระยะฐานล้อถึง 2880 มม. โดยเป็นตัวเลือกที่เข้าถึงได้มากขึ้นหลังจาก DEEPAL S07 โดยรถรุ่นนี้มีให้เลือกทั้งแบบเพิ่มระยะทาง (range extender) และแบบไฟฟ้าล้วน (pure electric) และจะเริ่มวางจำหน่ายภายในปีนี้ รุ่นนี้อาจจะเข้าสู่ตลาดในประเทศไทยในอนาคต เพื่อลุยตลาดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
เผยเหตุผลที่ทำให้ BYD ATTO3 ขายดี ระยะทางการขับขี่และคุณภาพที่น่าเชื่อถือก็เป็นปัจจัยสำคัญ
BYD ATTO3 ถือเป็นหนึ่งในโมเดลที่โดดเด่นที่สุดของ BYD และได้รับความนิยมจากผู้บริโภคอย่างกว้างขวาง นับตั้งแต่เปิดตัวจนถึงเดือนสิงหาคม 2024 BYD ATTO3 มียอดขายสะสมในตลาดจีนรวม 144,477 คัน ข้อมูลนี้แสดงให้เห็นว่า ATTO3 มีความแข็งแกร่งในตลาดปีนี้และยังคงได้รับความนิยมจากผู้บริโภค นอกจากนี้ BYD ATTO3 ยังประสบความสำเร็จในหลายตลาดทั่วโลก โดยเฉพาะในสวีเดน อิสราเอล ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย และภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งยังคงมียอดขายที่น่าพอใจ
BYD Xia เปิดตัวครั้งแรก โดยมีเป้าหมายเข้าสู่ตลาดโลก พร้อมด้วยคุณค่า 6 ด้านที่จะพลิกโฉมตลาด MPV
ในงานแสดงรถยนต์ที่เฉิงตูในปี 2024 BYD ได้เปิดตัว MPV รุ่นเรือธงขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ใหม่—BYD Xia รุ่นนี้ไม่เพียงแต่สะท้อนถึงความเข้าใจและความคาดหวังของ BYD ต่อการตลาด MPV แต่ยังโดดเด่นด้วยความสามารถของผลิตภัณฑ์จนกลายเป็นจุดสนใจหลักในงานแสดงรถยนต์ คาดว่ารถรุ่นนี้จะวางขายทั่วโลก โดยราคาคาดว่าจะเริ่มต้นที่ 300,000 หยวน (ประมาณ 1,500,000 บาท) Xia ไม่เพียงเป็นชื่อแรกของ MPV ขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ แต่ยังเป็น IP การตั้งชื่อใหม่ของตระกูล BYD ในฐานะที่เป็นราชวงศ์ที่สำคัญที่สุดของชาติจีน
BYD Dolphin เป็นที่นิยมได้อย่างไร? BYD ความปลอดภัยของแบตเตอรี่ Blade คือสิ่งสำคัญหลัก!
ในปัจจุบันที่ทั่วโลกกำลังผลักดันการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้า ค่ายรถที่ไม่อาจมองข้ามได้ก็คือ BYD ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าจากจีน ซึ่งมียอดขายรถยนต์ที่แข็งแกร่งทั่วโลก นอกจากนี้ BYD ยังลดต้นทุนการผลิตรถยนต์ผ่านการใช้ห่วงโซ่อุปทานที่เป็นของบริษัทเอง ทำให้ผลิตภัณฑ์มีราคาที่สามารถแข่งขันได้อย่างมาก BYD Dolphin เป็นผลิตภัณฑ์หนึ่งในซีรีส์ Ocean ของ BYD ซึ่งมียอดขายและความนิยมสูงทั่วโลก ปัจจุบันรถรุ่นนี้มีให้เลือก 2 รุ่นในประเทศไทย โดยมีราคาที่ 699,999 และ 859,999 บาท ตามลำดับ
ข่าวรถใหม่: SUV ไฟฟ้า ZEEKR 7X เตรียมเปิดตัว ทางเลือกใหม่สำหรับการเดินทางที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
ตลาดรถยนต์พลังงานใหม่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาแสดงให้เห็นถึงการเติบโตที่ก้าวกระโดด จีนในฐานะตลาดรถยนต์พลังงานใหม่ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ไม่เพียงแต่ครองอันดับหนึ่งในด้านการผลิตและยอดขายต่อเนื่องกันหลายปี แต่ยังเป็นผู้นำในด้านเทคโนโลยีหลัก ระดับการผลิต และขนาดของตลาดทั่วโลกอีกด้วย ด้วยการสนับสนุนเชิงนโยบายที่ต่อเนื่อง การพัฒนาเทคโนโลยีอย่างไม่หยุดยั้ง และการเพิ่มขึ้นของจิตสำนึกด้านสิ่งแวดล้อม ทำให้ตลาดรถยนต์พลังงานใหม่มีขนาดขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
รถยอดนิยม
เปรียบเทียบรถยนต์
รูปภาพรถ
ภาพภายใน