ปี 2025 แนะนำรถที่นั่ง 7 คัน เหมาะสำหรับใช้ในครอบครัว และประหยัดน้ำมัน
ธนวัฒน์Mar 17, 2025, 04:27 PM
【PCauto】แนะนำรถยนต์ 7-11 ที่นั่ง ทั้ง SUV และ MPV พื้นที่กว้างขวาง เบาะนั่งสบาย ประหยัดน้ำมัน เหมาะสำหรับการใช้งานในครอบครัว ขอแนะนำรุ่นที่เหมาะกับการเดินทางของครอบครัวดังต่อไปนี้
Suzuki XL7 รถครอบครัวที่ใช้งานได้จริง
Suzuki XL7 เป็นรุ่นที่ได้รับความนิยมและมีฐานลูกค้าอยู่แล้ว รุ่นปี 2025 มีราคาต่ำกว่า 1 ล้านบาท เหมาะสำหรับครอบครัวที่มีงบประมาณจำกัดแต่ต้องการรถสำหรับการเดินทางหลายคน ถือเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าและน่าสนใจ
ในด้านสมรรถนะ Suzuki XL7 รุ่นปี 2025 มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร แบบ NA ให้กำลังสูงสุด 105 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 138 นิวตันเมตร ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด ระบบขับเคลื่อนนี้เพียงพอสำหรับการขับขี่ในเมืองและการเดินทางบนถนนทั่วไป ออกตัวนุ่มนวล และให้กำลังที่ต่อเนื่องในช่วงความเร็วต่ำถึงปานกลาง
ในด้านอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง Suzuki XL7 ใช้ระบบ Mild-hybrid ทำให้อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยอยู่ที่ 6.1 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร ช่วยประหยัดน้ำมันและลดค่าใช้จ่ายในการใช้งาน
ในด้านการออกแบบภายนอก Suzuki XL7 มาพร้อมเส้นสายที่เรียบง่ายและลื่นไหล ทำให้ตัวรถดูสมดุลและลงตัว เน้นความใช้งานจริง สามารถตอบโจทย์ทั้งการขับขี่ในเมืองและการเดินทางระยะสั้นไปยังชานเมืองได้อย่างลงตัว
ภายในห้องโดยสารแม้จะไม่กว้างขวางเป็นพิเศษ แต่ได้รับการออกแบบให้มีการจัดสรรพื้นที่อย่างเหมาะสม รองรับการเดินทางในชีวิตประจำวัน การจับจ่ายซื้อของ และทริประยะสั้นของครอบครัวได้เป็นอย่างดี ด้านอุปกรณ์พื้นฐานมีให้ครบครัน ระบบปรับอากาศช่วยรักษาอุณหภูมิที่เหมาะสมภายในรถ ขณะที่ถุงลมนิรภัยและระบบความปลอดภัยแบบพาสซีฟ ช่วยเพิ่มการปกป้องผู้โดยสารในกรณีเกิดเหตุไม่คาดฝัน มอบทั้งความสะดวกสบายและความปลอดภัยตลอดการเดินทาง
Kia Sorento รถที่โดดเด่นรอบด้าน
Kia Sorento เป็นอีกรุ่นที่ได้รับความนิยมในตลาดประเทศไทย ปัจจุบันรุ่น 7 ที่นั่งมีราคาเริ่มต้นที่ 1,959,000 บาท
ในด้านขุมพลัง Kia Sorento มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 1.6 ลิตร ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังรวมสูงสุด 230 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตร ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ระบบขับเคลื่อนนี้ให้สมรรถนะที่เพียงพอสำหรับการเร่งแซงบนทางด่วนหรือการขับขึ้นทางลาดชันได้อย่างมั่นใจ อีกทั้งยังเปลี่ยนเกียร์ได้อย่างราบรื่น มอบประสบการณ์ขับขี่ที่ดี
ด้านอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง บนสภาพการขับขี่แบบผสม Kia Sorento มีอัตราการใช้น้ำมันเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 8.5 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร เมื่อพิจารณาถึงสมรรถนะและขนาดตัวรถ ถือว่าอยู่ในระดับที่เหมาะสม
Kia Sorento มาพร้อมดีไซน์ที่ทันสมัยและสปอร์ต เส้นสายตัวถังลื่นไหลและมีความตึงตัว แสดงออกถึงความทันสมัยอย่างชัดเจน ซึ่งตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับรูปลักษณ์ของรถยนต์ ภายในห้องโดยสารมีพื้นที่กว้างขวาง เบาะนั่งแถวหน้าให้พื้นที่การเคลื่อนไหวที่เพียงพอ ส่วนเบาะหลังมีพื้นที่ช่วงขาและศีรษะที่ดี แม้จะบรรทุกผู้โดยสารเต็มคันในการเดินทางไกล ก็ยังคงสามารถลดความอึดอัดภายในรถได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ในด้านอุปกรณ์ Kia Sorento มาพร้อมระบบมัลติมีเดียที่ล้ำสมัย รองรับฟังก์ชันนำทางและความบันเทิง ตอบโจทย์การใช้งานในทุกการเดินทาง นอกจากนี้ ยังติดตั้งระบบช่วยเหลือการขับขี่ขั้นสูง เช่น ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ และระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน ช่วยเพิ่มความปลอดภัยขณะขับขี่ ทำให้รถรุ่นนี้มีความโดดเด่นทั้งด้านเทคโนโลยีและสมรรถนะโดยรวม
Ford Everest รถที่มีความสามารถทั้งในการขับขี่ออฟโรดและการใช้งานในเมือง
Ford Everest ได้รับความนิยมจากผู้รักการขับขี่ออฟโรดและครอบครัวรุ่นใหม่ รุ่นปี 2025 มาพร้อมดีไซน์ที่แข็งแกร่งและมีความหรูหรา เส้นสายตัวถังมีความทนทานและเต็มไปด้วยสไตล์ออฟโรด ขนาดตัวรถที่ใหญ่ช่วยให้การจัดวางเบาะ 7 ที่นั่งภายในห้องโดยสารทำได้อย่างลงตัว โดยมีราคาจำหน่ายตั้งแต่ 1,377,000 ถึง 2,279,000 บาท
ในด้านสมรรถนะ Ford Everest รุ่นย่อยที่พบได้บ่อยจะมาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 2.0 ลิตร กำลังสูงสุด 170 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 405 นิวตันเมตร ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด การส่งออกแรงบิดที่ทรงพลังทำให้รถมีความสามารถในการขับขี่ในสภาพเส้นทางออฟโรดได้ดีเยี่ยม เช่น เส้นทางลูกรังหรือภูเขาที่ขรุขระสามารถผ่านไปได้อย่างง่ายดาย ส่วนในการขับขี่บนถนนในเมือง ระบบเกียร์ 10 สปีดที่ได้รับการปรับแต่งอย่างพิถีพิถันช่วยให้การขับขี่ราบรื่นและมอบประสบการณ์การขับขี่ที่สะดวกสบาย
ในด้านอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง เนื่องจากลักษณะของเครื่องยนต์ดีเซลและน้ำหนักตัวรถที่ค่อนข้างมาก อัตราการใช้น้ำมันโดยรวมอยู่ที่ประมาณ 9.8 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร แต่เมื่อพิจารณาถึงสมรรถนะที่ยอดเยี่ยมแล้ว การใช้น้ำมันในระดับนี้ถือว่าเหมาะสมสำหรับผู้บริโภคที่มีความต้องการในการขับขี่ออฟโรด
จุดเด่นของ Ford Everest คือสมรรถนะออฟโรดที่ยอดเยี่ยม มาพร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อประสิทธิภาพสูง ระยะห่างจากพื้นดินที่สูง และกำลังขับเคลื่อนที่ทรงพลัง ทำให้สามารถรับมือกับสภาพเส้นทางออฟโรดที่ซับซ้อนได้อย่างง่ายดาย เช่น เส้นทางลูกรังหรือภูเขาที่ขรุขระ ขณะเดียวกัน เมื่อขับขี่บนถนนในเมือง รถยังคงสามารถตอบสนองความต้องการการเดินทางประจำวันได้ด้วยการปรับแต่งระบบกันสะเทือนที่มั่นคงและให้ความสะดวกสบายในการขับขี่ ภายในรถยังมีอุปกรณ์ความปลอดภัยครบครัน ทั้งระบบความปลอดภัยเชิงรุกและเชิงรับหลากหลายระบบ เพื่อคุ้มครองผู้ขับขี่และผู้โดยสารอย่างครบถ้วนตลอดการเดินทาง
Mitsubishi Xpander คือตัวอย่างของการใช้พื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพ
Mitsubishi Xpander มีราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท ราคาที่เข้าถึงได้ทำให้ได้รับความสนใจจากผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับความคุ้มค่าและการใช้งานที่หลากหลาย
ในด้านสมรรถนะ Mitsubishi Xpander มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร แบบ NA ให้กำลังสูงสุด 103 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 141 นิวตันเมตร ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์ CVT นอกจากนี้ รุ่น HEV ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 1.6 ลิตร ร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังรวม 116 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 235 นิวตันเมตร แม้กำลังเครื่องยนต์จะไม่สูงมาก แต่ก็เพียงพอต่อการใช้งานในเมืองและการเดินทางประจำวันของครอบครัว พร้อมทั้งยังสามารถรักษาประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันในช่วงความเร็วต่ำถึงปานกลางได้อย่างดี
Mitsubishi Xpander มีดีไซน์ที่โดดเด่นและง่ายต่อการจดจำ โดยมีเอกลักษณ์ในการออกแบบที่ทำให้สามารถระบุตัวรถได้ง่ายในท่ามกลางการจราจร ห้องโดยสารมีการจัดสรรพื้นที่ได้อย่างยืดหยุ่น เบาะที่นั่งแถวที่สามสามารถพับได้ตามความต้องการ เมื่อพับเบาะลงจะเพิ่มพื้นที่ในห้องเก็บสัมภาระอย่างมาก เหมาะสำหรับการขนส่งของใช้ขนาดใหญ่หรืออุปกรณ์กีฬาในกิจกรรมกลางแจ้งต่างๆ ด้านอัตราการประหยัดน้ำมันก็ทำได้ดี ค่าบำรุงรักษาประจำวันไม่สูง เหมาะสำหรับครอบครัวที่ใส่ใจค่าใช้จ่ายในการใช้รถ
Honda CR-V รถยนต์คลาสสิกที่สะดวกสบายและเชื่อถือได้
Honda CR-V เป็นหนึ่งในรุ่นที่ได้รับความนิยมในตลาดรถยนต์ รุ่น 7 ที่นั่งยังคงมอบความสะดวกสบายและความน่าเชื่อถือที่เป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ ในด้านกลยุทธ์ราคาบางรุ่น 7 ที่นั่งมีราคาเริ่มต้นที่ 1,649,000 บาท
Honda CR-V รุ่น 7 ที่นั่ง มาพร้อมขุมพลังเครื่องยนต์เทอร์โบ 15 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 240 นิวตันเมตร จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ CVT ที่ให้การขับขี่นุ่มนวล อัตราเร่งต่อเนื่อง มอบประสบการณ์การขับขี่ที่สบาย ไม่ว่าจะเป็นสภาพการจราจรที่หนาแน่นในเมืองหรือการขับขี่บนทางหลวง
ด้านอัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน อยู่ที่ประมาณ 75 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร ให้สมรรถนะที่ดีควบคู่ไปกับความประหยัดน้ำมัน
ภายในห้องโดยสารออกแบบด้วยวัสดุคุณภาพสูง ให้สัมผัสพรีเมียมและบรรยากาศที่ผ่อนคลาย พื้นที่ภายในถูกจัดวางอย่างลงตัว ทำให้ผู้โดยสารทั้งด้านหน้าและด้านหลังได้รับความสะดวกสบาย แม้เดินทางระยะไกลก็ไม่เมื่อยล้า ระบบขับเคลื่อนมีความเสถียร ให้กำลังขับที่ราบรื่นและต่อเนื่อง รองรับทั้งการขับขี่ในเมืองและการเดินทางไกล มอบความมั่นใจทุกเส้นทางสำหรับการเดินทางของครอบครัว Honda CR-V เป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์ทั้งด้านสมรรถนะ ความสะดวกสบาย และความคุ้มค่า
Hyundai Staria รถยนต์รุ่นใหม่ที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยี
ด้วยการออกแบบภายนอกที่มีความรู้สึกทันสมัยและอนาคต Hyundai Staria จึงสามารถดึงดูดความสนใจจากผู้คนได้เป็นจำนวนมาก โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 1,659,000 บาท
ในด้านสมรรถนะ Hyundai Staria รุ่นปี 2025 มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 2.2 ลิตร กำลังสูงสุด 177 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 440 นิวตันเมตร คู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด การส่งออกแรงบิดที่ทรงพลังช่วยให้รถมีสมรรถนะที่ดีเยี่ยมในการออกตัวและเร่งความเร็ว เกียร์อัตโนมัติ 8 สปีดมีการเปลี่ยนเกียร์ที่รวดเร็วและราบรื่น ช่วยเพิ่มประสบการณ์การขับขี่ที่ดียิ่งขึ้น
ภายในของ Hyundai Staria กว้างขวางและโปร่งสบาย สามารถรองรับผู้โดยสารได้สูงสุด 11 คน การออกแบบที่นั่งปฏิบัติตามหลักสรีรศาสตร์ เพื่อให้ความสะดวกสบายสูงสุดแก่ผู้โดยสาร คอนโซลกลางมาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลขนาดใหญ่ ซึ่งรวมระบบเชื่อมต่ออัจฉริยะ ทำให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมฟังก์ชันต่างๆ ของรถได้อย่างสะดวกสบาย ไม่ว่าจะเป็นการตรวจสอบสภาพการจราจรแบบเรียลไทม์ การเล่นเพลง หรือการติดต่อสื่อสารกับภายนอก ทำให้ห้องโดยสารเหมือนกับศูนย์ควบคุมเทคโนโลยีสูง ซึ่งช่วยเพิ่มประสบการณ์การขับขี่ให้ดียิ่งขึ้น
สรุปได้ว่า รถยนต์ 7 ที่นั่งในตลาดประเทศไทยปี 2025 แต่ละรุ่นต่างก็มีจุดเด่นที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นราคาที่เข้าถึงได้ พื้นที่ภายในที่กว้างขวาง สมรรถนะ หรือเทคโนโลยีที่ทันสมัย ผู้บริโภคควรพิจารณาจากสถานการณ์การเดินทางของครอบครัว งบประมาณ และความชอบส่วนตัวเพื่อเลือกซื้อรถ 7 ที่นั่งที่เหมาะสมที่สุดสำหรับตนเอง
คุณสามารถติดต่อเราให้ลบออกเนื้อหาถ้าละเมิดลิขสิทธิ์
ข้อมูลยอดนิยม

นี่จะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าล้วนที่มีกำลังมากที่สุดของ Toyota เท่าที่เคยมีมา โดยจะเปิดตัวในยุโรปเป็นที่แรกในปีหน้า
【PCauto】bZ4X Touring มีแผนวางจำหน่ายในยุโรปช่วงฤดูใบไม้ผลิปี 2026 โดยเป็นรุ่นต่อยอดจาก bZ4X เวอร์ชันมาตรฐานที่ได้รับการปรับปรุงให้รองรับการบรรทุกและการใช้งานแบบออฟโรดได้ดีขึ้น พร้อมกำลังรวมสูงสุด 280 กิโลวัตต์ ซึ่งเป็นระดับกำลังที่สูงที่สุดในกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้าของ Toyota จนถึงขณะนี้ bZ4X Touring มีขนาดตัวถังและพื้นที่ภายในที่ใหญ่ขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และในฐานะรุ่นแฝดของ Subaru Trailseeker รถรุ่นนี้พัฒนาบนแพลตฟอร์ม e-TNGA เช่นเดียวกัน แต่ได้รับการขยายมิติตัวรถเพื่อรองรับการใช้งานที่หลากหลายมากขึ้น

iCar V23 กำลังจะเปิดตัวในประเทศไทยเร็ว ๆ นี้ ราคาจะต่ำกว่า Jaecoo 6 EV
【PCauto】มีรายงานว่า หลังจากการเปิดตัว Jaecoo 6 EV แล้ว iCar V23 จาก Chery อาจเตรียมทำตลาดในประเทศไทยเช่นกัน โดย iCar V23 และ iCar 03 (หรือ Jaecoo 6 EV) ได้รับความสนใจอย่างมากจากดีไซน์ภายนอกที่ดูล้ำอนาคต จนมีข่าวลือว่าทีมออกแบบของรถทั้งสองรุ่นนี้ อาจเป็นทีมเดียวกับ Redmi แบรนด์ลูกของ Xiaomi สำหรับ iCar V23 มาพร้อมสไตล์การออกแบบทรงเหลี่ยมและดูแข็งแกร่ง ด้วยดีไซน์สไตล์ออฟโรดที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทำให้รุ่นนี้ตอบโจทย์ผู้ที่มองหาความแตกต่างและสมรรถนะในการลุยเส้นทางทุรกันดารได้เป็นอย่างดี

หลังจากความสำเร็จของ Tank 300 รุ่นดีเซลแล้ว Tank 500 รุ่นดีเซลก็จะถูกนำเข้ามาเช่นกัน
【PCauto】หลังจาก Tank 300 รุ่นดีเซลประสบความสำเร็จเกินคาด GWM วางแผนนำ Tank 500 รุ่นดีเซลเข้าสู่ตลาดไทยในไตรมาสที่สี่ของปี 2025 รถเอสยูวีออฟโรดระดับพรีเมียมที่มาพร้อมขุมพลังดีเซล 24 เทอร์โบรุ่นนี้จะผลิตในประเทศที่โรงงานจังหวัดระยอง ราคาคาดการณ์ราวสองล้านบาท เจาะตลาดเดียวกับ Toyota Fortuner และ Isuzu MU X ซึ่งเป็นเอสยูวีดีเซลยอดนิยมในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

Toyota ประกาศเปิดตัว Corolla Cross รุ่นใหม่ ครั้งแรกที่เพิ่มระดับ GR SPORT
【PCauto】Toyota เปิดตัว Corolla Cross รุ่นใหม่ในยุโรปโดยยังคงเอกลักษณ์เดิมพร้อมปรับดีไซน์ภายนอกและภายในเล็กน้อย ด้านรูปลักษณ์ภายนอกมาพร้อมกระจังหน้าทรงรังผึ้งที่ช่วยเพิ่มความสวยงามและส่งเสริมการไหลเวียนอากาศเข้าสู่เครื่องยนต์อย่างมีประสิทธิภาพ รุ่นระดับสูงมาพร้อมเทคโนโลยีไฟสูงอัตโนมัติแบบปรับอัจฉริยะ AHS เพื่อให้มุมมองการขับขี่ชัดเจนในทุกสภาพถนน ไฟหน้าและไฟท้ายดีไซน์ใหม่โดดเด่นด้วยแถบไฟ LED ภายในโคมที่ให้แสงสว่างสม่ำเสมอทั่วทั้งพื้นที่เพิ่มความทันสมัยและภาพลักษณ์ระดับพรีเมียม

Audi Q3 เจเนอเรชันใหม่เปิดตัวทั่วโลก 16 มิถุนายน 2025 มาพร้อมนวัตกรรมหลากหลายด้าน
【PCauto】แบรนด์ Audi ได้ประกาศอย่างเป็นทางการว่า Audi Q3 เจเนอเรชันใหม่ จะเปิดตัวครั้งแรกทั่วโลกในวันที่ 16 มิถุนายน 2025 โดยระบุว่า SUV รุ่นใหม่นี้จะเป็นการยกระดับมาตรฐานในหลายมิติ จากข้อมูลเบื้องต้น รถรุ่นใหม่นี้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจนในด้าน ภาษาในการออกแบบ, ห้องโดยสารแบบดิจิทัล และ ระบบขับเคลื่อน Q3 ถือเป็นหนึ่งในรุ่นขายดีที่สุดของ Audi โดยมียอดขายสะสมทั่วโลกทะลุ 2 ล้านคัน นับตั้งแต่เปิดตัวรุ่นแรก
รถยอดนิยม
เปรียบเทียบรถยนต์
รูปภาพรถ
ภาพภายใน