Q
สเปกของ Toyota Yaris มีอะไรบ้าง? มาดูรายละเอียด
Toyota Yaris เป็นรถยนต์ขนาดเล็กแบบซีดานที่มีหลายรุ่นให้เลือก ขนาดตัวรถยาว 4,171 มม. กว้าง 1,730 มม. สูงประมาณ 1,475–1,500 มม. ระยะฐานล้อ 2,550 มม. เป็นรถแบบ 5 ประตู 5 ที่นั่ง ความจุถังน้ำมันอยู่ที่ 42 ลิตร ระยะใต้ท้องรถสูง 135 มม. ขนาดยางหน้า–หลังเท่ากันที่ 185/60 R15
รุ่นนี้ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 1.2 ลิตร แบบ NA ให้กำลังสูงสุด 68 กิโลวัตต์ ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 109 นิวตันเมตร ที่ 4,400 รอบต่อนาที ใช้เกียร์อัตโนมัติ CVT ขับเคลื่อนล้อหน้า ระบบกันสะเทือนหน้าเป็นแบบแม็คเฟอร์สันอิสระ ส่วนด้านหลังเป็นแบบทอร์ชั่นบีมกึ่งอิสระ เบรกหน้าเป็นแบบจาน เบรกหลังแบบดรัม พร้อมเบรกมือไฟฟ้า
ในด้านความปลอดภัย Toyota Yaris มาพร้อมอุปกรณ์มาตรฐาน เช่น ระบบ ABS, ระบบควบคุมเสถียรภาพ, ระบบเตือนคาดเข็มขัดนิรภัย, ระบบเตือนรถออกนอกเลน และระบบเบรกอัตโนมัติ บางรุ่นยังมีระบบเตือนการชนด้านหน้า และระบบเตือนเมื่อเปลี่ยนเลนด้วย ถุงลมนิรภัยมาตรฐานมี 5 จุด
อุปกรณ์ภายในก็ครบครัน เช่น พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน แอร์สำหรับผู้โดยสารด้านหลัง บางรุ่นมีไฟหน้าอัตโนมัติ ไฟตัดหมอก ไฟส่องสว่างกลางวัน และหลังคาซันรูฟ หน้าจอกลางมีขนาด 8–9 นิ้ว แล้วแต่รุ่น พร้อมลำโพง 2–6 ตัว แล้วแต่เกรด
อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยจากโรงงานอยู่ที่ 4.3 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร และสามารถทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 220 กม./ชม. ถือว่าเป็นรถที่คุ้มค่าและใช้งานได้หลากหลายเลยค่ะ
Q
Toyota Yaris ราคาเท่าไหร่?
Toyota Yaris มีหลายรุ่นให้เลือก โดยแต่ละรุ่นก็มีราคาที่แตกต่างกันออกไป ตามปีที่ผลิตและอุปกรณ์ที่ติดตั้งมาในตัวรถ
สำหรับรุ่นปี 2023 มีดังนี้
– Yaris Sport ราคา 559,000 บาท
– Yaris Smart ราคา 619,000 บาท
– Yaris Premium ราคา 679,000 บาท
– Yaris Premium S ราคา 694,000 บาท
รุ่นปี 2022 ได้แก่
– Yaris Entry ราคา 549,000 บาท
– Yaris Sport ราคา 609,000 บาท
– Yaris Sport Premium ราคา 679,000 บาท
ส่วนรุ่นปี 2020 ก็มีให้เลือก เช่น
– Yaris 1.2 Entry ราคา 539,000 บาท
– Yaris 1.2 Mid ราคา 589,000 บาท
– Yaris 1.2 High ราคา 649,000 บาท
แต่ละรุ่นจะมีความแตกต่างกันทั้งในเรื่องอุปกรณ์ ความสะดวกสบาย และเทคโนโลยีที่ให้มา ถ้าใครเน้นใช้งานพื้นฐานทั่วไป แนะนำรุ่น Entry ที่ราคาประหยัด แต่ถ้าอยากได้ฟังก์ชันเยอะขึ้น เช่น ระบบความปลอดภัย หรืออุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆ รุ่น Premium ก็จะตอบโจทย์ได้มากกว่าค่ะ
Q
Toyota Yaris มีสีอะไรบ้าง? คุณชอบสีไหน?
Toyota Yaris ที่วางขายในประเทศไทยมีสีให้เลือกหลากหลาย โดยเฉพาะรุ่นที่มีหลังคาสีดำตัดกับตัวรถ ซึ่งดูสปอร์ตและทันสมัยมาก เช่น สีเทา Cement Gray Metallic / หลังคาดำ, สีแดง Spicy Scarlet / หลังคาดำ, สีขาวมุก Platinum White Pearl / หลังคาดำ และสีแดงเข้ม Red Mica Metallic / หลังคาดำ
นอกจากนี้ยังมีสีแบบตัวถังสีเดียวให้เลือกด้วย เช่น สีขาวมุก Platinum White Pearl, สีเทา Urban Metal, สีเงิน Metal Stream Metallic และสีดำเงา Attitude Black Mica ทั้งหมดนี้ช่วยให้ลูกค้าเลือกสีที่ตรงกับสไตล์และความชอบของตัวเองได้มากขึ้นค่ะ
Q
ขนาดของ Toyota Yaris คือเท่าไร? มันใหญ่ขนาดไหน
Toyota Yaris จัดอยู่ในกลุ่มรถยนต์ขนาด B-Segment โดยขนาดตัวถังของรุ่นที่พบได้บ่อยจะมีความยาวประมาณ 4,171 มม. ความกว้าง 1,730 มม. ความสูงอยู่ที่ 1,475 มม. บางรุ่นสูงถึง 1,500 มม. ระยะฐานล้ออยู่ที่ 2,550 มม. และมีความสูงจากพื้นประมาณ 135 มม. ถังน้ำมันมีความจุ 42 ลิตร
ขนาดแบบนี้ถือว่าเหมาะกับการใช้งานในเมืองมาก เพราะขับง่าย คล่องตัว และจอดรถสะดวก ช่วยลดความยุ่งยากในการขับขี่ในชีวิตประจำวัน ภายในรถจัดวางพื้นที่ได้ดี รองรับผู้โดยสารได้ 5 ที่นั่ง เหมาะทั้งสำหรับการเดินทางของครอบครัวหรือใช้งานประจำวันทั่วไป
แม้ว่าตัวรถจะไม่ได้ใหญ่โตมาก แต่การออกแบบภายในก็ช่วยให้ผู้โดยสารนั่งได้อย่างสบาย พร้อมพื้นที่เก็บของด้านหลังที่พอเพียงสำหรับใส่ของช้อปปิ้งหรือเดินทางระยะสั้น จึงถือว่าเป็นรถที่เน้นความคุ้มค่าและใช้งานได้จริงในทุกวันค่ะ
Q
ค่างวดรายเดือนของ Toyota Yaris ประมาณเท่าไหร่? คลิกตรงนี้เลยค่ะ
ค่างวดรายเดือนของ Toyota Yaris ในประเทศไทยจะแตกต่างกันไปตามรุ่นรถ เงินดาวน์ ระยะเวลาผ่อน (ปกติอยู่ที่ 2–7 ปี) และอัตราดอกเบี้ยของธนาคารที่เลือก
ยกตัวอย่างเช่น รุ่นเริ่มต้น 1.2G ที่มีราคาประมาณ 639,000 บาท ถ้าวางเงินดาวน์ 20% (ประมาณ 128,000 บาท) และเลือกผ่อน 5 ปี (ดอกเบี้ยประมาณ 2.88%) ค่างวดต่อเดือนจะอยู่ที่ประมาณ 9,500–10,500 บาท ส่วนรุ่นท็อป 1.5RS ที่ราคาประมาณ 875,000 บาท ภายใต้เงื่อนไขเดียวกัน ค่างวดจะอยู่ที่ราวๆ 13,000–14,500 บาท
ปัจจุบันธนาคารใหญ่ๆ อย่าง กรุงไทย กสิกร หรือ Toyota Leasing Thailand มีบริการสินเชื่อรถยนต์ และมักจะมีโปรโมชันพิเศษ เช่น ดาวน์ 0% หรือดอกเบี้ยต่ำ โดยเฉพาะช่วงปลายปีที่มีงานมอเตอร์โชว์ต่างๆ
อย่างไรก็ดี การปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทยก็อาจส่งผลต่อค่าใช้จ่ายในการผ่อนรถด้วย แนะนำให้ใช้เครื่องคำนวณสินเชื่อในเว็บไซต์ Toyota ประเทศไทย หรือสอบถามดีลเลอร์ใกล้บ้าน เช่น Toyota Sure เพื่อให้ได้แผนผ่อนที่ตรงกับเครดิตและความสามารถในการจ่ายของคุณ โดยปกติแล้วมักจะมีของแถมอย่างประกันชั้นหนึ่งปีแรก และค่าจดทะเบียนฟรีด้วยค่ะ
Q
Toyota Yaris คือรถแบบไหน? จะแนะนำให้นะคะ
Toyota Yaris คือรถยนต์รุ่นยอดนิยมจากแบรนด์ Toyota ที่ได้รับความนิยมในตลาดประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง รุ่นปี 2023 มีราคาเริ่มต้นที่ 559,000 บาท มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.2 ลิตร แบบ 4 สูบ NA ให้กำลังสูงสุด 92 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 109 นิวตันเมตร อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเฉลี่ยจากโรงงานอยู่ที่ประมาณ 4.3 ลิตร/100 กม. ใช้เกียร์อัตโนมัติแบบ CVT เพื่อความขับขี่ที่ลื่นไหลและประหยัดน้ำมัน
ภายในห้องโดยสารยังคงกลิ่นอายความเป็น Toyota ชัดเจน โดยในรุ่นสูงจะมีหน้าจอสัมผัสกลางขนาด 9 นิ้ว พร้อมช่องชาร์จ Type-C เพิ่มความสะดวกในการใช้งาน
นอกจากนี้ในปี 2023 Toyota ยังเปิดตัวรุ่น Yaris Cross ในไทย ซึ่งเป็นรถ SUV ขนาดเล็ก พัฒนาบนแพลตฟอร์ม DNGA และมาพร้อมระบบไฮบริดทุกรุ่นย่อย แบ่งเป็นรุ่น HEV Smart, HEV Premium และ HEV Premium Luxury ราคาตั้งแต่ 789,000 - 899,000 บาท
ในฝั่งของ Yaris Ativ ที่เป็นรถเก๋ง B-Segment ก็ยังคงขายดี โดยในช่วง 3 ไตรมาสแรกของปี 2024 มียอดขายถึง 32,983 คัน และมีข่าวว่าในเดือนสิงหาคมนี้ Toyota จะเปิดตัว Yaris Ativ Hybrid ที่จะมาพร้อมระบบไฮบริดเต็มรูปแบบขนาด 1.5 ลิตร ซึ่งน่าจะมีอัตราประหยัดน้ำมันที่ยอดเยี่ยมอีกด้วยค่ะ
Q
Toyota Yaris มีปัญหาอะไรบ้าง? มารู้ไว้ก่อนตัดสินใจซื้อค่ะ
Toyota Yaris เป็นรถที่ได้รับความนิยมมากพอสมควร และโดยรวมไม่ได้มีปัญหาที่ร้ายแรงหรือเป็นที่ยอมรับกันโดยทั่วไป จุดเด่นของรถรุ่นนี้คือความประหยัดน้ำมัน ซึ่งจากข้อมูลระบุว่าใช้น้ำมันเฉลี่ยแค่ 4.3 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้ดี อีกทั้งยังมีระบบความปลอดภัยที่ครบถ้วน เช่น ระบบเบรก ABS, ระบบควบคุมเสถียรภาพ, ระบบเตือนคาดเข็มขัดนิรภัย, ระบบเตือนออกนอกเลน, ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ และถุงลมนิรภัยหลายจุด ทำให้ขับขี่ได้มั่นใจยิ่งขึ้น
ภายในรถก็จัดวางพื้นที่ได้ลงตัว เหมาะกับการใช้งานในเมืองและชีวิตประจำวัน แต่ทั้งนี้ ความรู้สึกของผู้ใช้งานอาจแตกต่างกันไป บางคนอาจมองว่ากำลังเครื่องยนต์ดูเรียบไปนิด เพราะเครื่องยนต์ขนาด 1.2 ลิตร ให้กำลังสูงสุดที่ 92 แรงม้า ซึ่งอาจไม่ถูกใจคนที่ชอบขับเร็วหรือเน้นความแรง
อีกจุดหนึ่งที่อาจมีคนสังเกตคือเรื่องของเสียงรบกวนในห้องโดยสาร โดยเฉพาะเวลาขับที่ความเร็วสูง เสียงลมและเสียงถนนอาจเข้ามาในรถมากกว่ารถรุ่นที่หรูหรือราคาสูงกว่านี้ ทำให้ความรู้สึกสบายขณะขับอาจลดลงเล็กน้อยค่ะ