Q

รถ Sienna ปี 2022 มีรีวิวดีไหม?

รถ Toyota Sienta รุ่นปี 2022 ได้รับการประเมินว่าเป็นรถมินิแวนที่ทำคะแนนได้ดีเยี่ยม โดยเฉพาะระบบไฮบริดที่มาพร้อมในทุกรุ่นย่อยและความประหยัดน้ำมันที่ทำได้ประมาณ 5.7 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร ซึ่งเป็นจุดขายที่ดึงดูดครอบครัวยุคใหม่ แพลตฟอร์ม TNGA-K ช่วยให้รถมีจุดศูนย์ถ่วงต่ำ ทำให้การควบคุมทรงตัวดีขึ้นโดยเฉพาะเวล้าโค้ง ถือว่าเหมาะกับสภาพถนนเมืองไทยที่มีทางเลี้ยวเยอะ ภายในรถออกแบบมาให้ใช้สอยได้อย่างคล่องตัว โดยเฉพาะเบาะแถวสองที่เลื่อนไปมาได้ไกลถึง 63.5 ซม. ส่วนเบาะแถวสามพับเก็บได้ด้วยระบบไฟฟ้า ทำให้ขนของใหญ่ๆ ได้สะดวก นี่เป็นจุดแข็งสำหรับคนที่ทั้งใช้รถในชีวิตประจำวันและพาครอบครัวเที่ยววันหยุด ด้านความปลอดภัย ทุกรุ่นติดตั้งระบบ TSS 2.0 มาให้ครบ ทั้งระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติและช่วยรักษาระยะเลน ช่วยลดความเหนื่อยล้าเวลาเจอรถติดในเมือง อย่างไรก็ตาม ระบบไฮบริดอาจส่งเสียงเครื่องยนต์ดังหน่อยเวลาออกตัวเร็ว และค่าบำรุงรักษาที่ศูนย์บริการของไทยอาจแพงกว่ารุ่นแข่งบ้าง Honda Odyssey Hybrid Edition สามารถเปรียบเทียบได้ในระดับเดียวกันซึ่งมีตัวถังที่กะทัดรัดและเหมาะกับทางแคบกว่า แต่ Sienna มีข้อได้เปรียบในด้านความสะดวกสบายทางไกลและพื้นที่เก็บของ ขอแนะนำให้ไปที่ตัวแทนจำหน่ายเพื่อทดสอบพื้นที่วางขาแถวที่สามและพลังงานในการบรรทุกใต้ท้องรถ
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto

Q&A เกี่ยวข้อง

Q
"รถ Sienna รุ่นปี 2022 ทั้งหมดเป็นไฮบริดหรือไม่?"
ไม่ใช่หรอกครับ รุ่น Sienta ปี 2022 นั้นไม่ได้เป็นรถไฮบริดทั้งหมด รุ่นที่ 3 ของ Sienta ที่ออกมาปีนั้นพัฒนาบนแพลตฟอร์ม TNGA-B มาพร้อมกับตัวเลือกเครื่องยนต์สองแบบ คือเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร แบบธรรมดากับระบบไฮบริด 1.5 ลิตร รุ่นเครื่องยนต์เบนซินธรรมดามีเกียร์ Direct Shift-CVT ส่วนระบบไฮบริด 1.5 ลิตรใช้เทคโนโลยี Atkinson cycle คู่กับแบตเตอรี่นิกเกิล-เมทัลไฮไดรด์และเกียร์ E-CVT ผู้บริโภคสามารถเลือกได้ตามความต้องการรุ่นเบนซินสามารถตอบสนองผู้ใช้ที่มีความต้องการสำหรับรถยนต์เชื้อเพลิงแบบดั้งเดิมรุ่นไฮบริดเหมาะสำหรับผู้ใช้ที่แสวงหาการประหยัดพลังงานและมีประสิทธิภาพสูงทางเลือกที่หลากหลายนี้เสริมสร้างสายผลิตภัณฑ์ของ Sienta และตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่แตกต่างกัน
Q
Toyota Sienna ปี 2022 เป็นรถรุ่นที่เท่าไร?
รถ Toyota Sienna รุ่นปี 2022 นั้นเป็นรุ่นที่ 4 ของซีรีส์ โดยรุ่นนี้เปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2020 ที่พัฒนาบนแพลตฟอร์ม TNGA-K ของโตโยต้า ซึ่งให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีไฮบริดและความใช้งานได้จริงสำหรับครอบครัวมากกว่ารุ่นก่อนๆ อย่างชัดเจน สำหรับรุ่นปี 2022 ยังคงดีไซน์โดยรวมเหมือนรุ่นที่ 4 ทุกประการ พร้อมระบบขับเคลื่อนไฮบริด 2.5 ลิตร 4 สูบมาตรฐานที่ให้ประหยัดน้ำมันได้ดีมาก เหมาะสมทั้งการเดินทางไกลหรือใช้ชีวิตประจำวันในเมือง นอกจากนี้ยังติดตั้งระบบความปลอดภัย TSS 2.0 มาตรฐานทุกรุ่น ซึ่งรวมฟังก์ชั่นเด็ดๆ เช่น การเตือนการชนและช่วยควบคุมเลน สำหรับตลาดไทยแล้ว รถคันนี้โดดเด่นด้วยการจัดวางห้องโดยสารแบบ 7 หรือ 8 ที่นั่งที่ปรับได้ตามความต้องการ พร้อมประตูสไลด์ไฟฟ้าทั้งสองข้างและพื้นที่เก็บของท้ายรถที่กว้างขวาง ทำให้เป็นที่นิยมในหมู่ครอบครัว โดยเฉพาะระบบไฮบริดที่ช่วยลดการสิ้นเปลืองน้ำมันในสภาพการจราจรติดขัดได้ชัดเจน ส่วนเรื่องความนุ่มนวลในการขับขี่ รุ่นที่ 4 นี้ได้รับการปรับแต่งช่วงล่างให้มีความมั่นคงมากขึ้น พร้อมลดเสียงรบกวนได้ดีกว่าเดิม เหมาะสำหรับคนที่ต้องการความสบายเป็นพิเศษ ข้อควรระวังคือ แบตเตอรี่ของระบบไฮบริดจะติดตั้งอยู่ใต้เบาะแถวสอง ซึ่งไม่กินพื้นที่ภายในรถ แต่แนะนำให้ตรวจสอบสภาพแบตเตอรี่เป็นระยะที่ศูนย์บริการเพื่อความมั่นใจในระยะยาว
Q
รถ Sienna 2022 เป็นไฮบริดทั้งหมดใช่หรือไม่?
ไม่ใช่หรอก รถ Toyota Sienta ปี 2022 ไม่ได้เป็นรุ่น Hybrid ทั้งหมด จากข้อมูลรุ่นที่ให้มา พบว่า Toyota Sienta 1.5 G CVT 2022 และ Toyota Sienta 1.5 V CVT 2022 เป็นรุ่นที่ใช้เชื้อเพลิงแบบเบนซิน ไม่ใช่ระบบ Hybrid ประเภทของเครื่องยนต์นอกจากแบบเบนซินและ Hybrid แล้ว ยังมีแบบดีเซล, แบบไฟฟ้า 100% และแบบไฮโดรเจนอีกด้วย รถดีเซลจะมีแรงบิดสูง มักใช้กับรถบรรทุก ส่วนรถไฟฟ้าจะเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและเงียบกว่า แถมระยะทางวิ่งก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตามการพัฒนาของเทคโนโลยี ส่วนรถไฮโดรเจนนั้นปล่อยแค่น้ำออกมา เป็นพลังงานที่สะอาดมาก แต่ตอนนี้โครงสร้างพื้นฐานยังไม่พร้อมเท่าไหร่ แต่ละประเภทก็มีจุดเด่นต่างกันไป ผู้บริโภคก็เลือกใช้ตามความต้องการของตัวเองได้เลย
Q
ควรหลีกเลี่ยง Sienna ปีไหน?
จากการประเมินโดยผู้เชี่ยวชาญและความคิดเห็นของผู้ใช้ รุ่น Toyota Sienna ปี 2011 และ 2017 มีปัญหาค่อนข้างมาก แนะนำให้คิดดีก่อนซื้อ สำหรับรุ่นปี 2011 ปัญหาที่พบบ่อยคือเกียร์กระตุกและระบบอิเล็กทรอนิกส์ขัดข้อง ส่วนรุ่นปี 2017 มักได้รับคำร้องเรียนเกี่ยวกับประตูสไลด์เสียบ่อยและเครื่องยนต์รั่วน้ำมัน ถ้าคิดจะซื้อ Sienna มือสอง แนะนำให้เลือกรุ่นที่ปรับโฉมหลังปี 2018 เป็นต้นไป เพราะความน่าเชื่อถือและอุปกรณ์เทคโนโลยีดีขึ้นอย่างชัดเจน Sienna เป็นรถครอบครัวที่ขายดีในไทย อะไหล่ซ่อมบำรุงหาไม่ยาก แต่เวลาซื้อควรตรวจสอบประวัติการบริการให้ดี โดยเฉพาะรถที่ใช้งานเดินทางไกลบ่อยๆ ต้องเช็คสภาพช่วงล่างและระบบส่งกำลังให้ละเอียด รุ่น Hybrid ของ Sienna ประหยัดน้ำมันมาก เหมาะสำหรับครอบครัวที่ชอบท่องเที่ยว แต่ต้องตรวจสอบอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ให้ดีด้วย ไม่ว่าจะเลือกรุ่นปีไหน แนะนำให้ซื้อผ่านช่องทางทางการหรือตัวแทนจำหน่ายรถมือสองรับประกัน พร้อมเก็บประวัติการซ่อมบำรุงให้ครบถ้วน เพื่อการใช้งานที่ราบรื่นในระยะยาว
Q
วิธีสตาร์ทรถ Toyota Sienna ปี 2022 เมื่อกุญแจรีโมทแบตเตอรี่หมด
ถ้าสมาร์ทคีย์ของ Toyota Sienna รุ่นปี 2022 หมดแบตเตอรี่ คุณยังสามารถใช้กุญแจกลและวิธีสตาร์ทรถฉุกเฉินได้ โดยขั้นแรกให้หาปุ่มกุญแจกลที่ซ่อนอยู่ด้านข้างของกุญแจ กดแล้วดึงกุญแจสำรองออกมา ใช้กุญแจนี้เปิดฝาครอบช่องกุญแจที่ด้ามเปิดประตูด้านคนขับ เสียบแล้วหมุนเพื่อปลดล็อคประตู เมื่อเข้าไปในรถแล้ว ให้วางกุญแจชิดกับปุ่มสตาร์ท (ปกติหน้าปัดจะแสดงข้อความว่า "ตรวจพบกุญแจ") จากนั้นเหยียบเบรกแล้วกดปุ่มสตาร์ทเพื่อติดเครื่องยนต์ วิธีนี้ใช้เทคโนโลยีการรับสัญญาณจากเสาอากาศความถี่ต่ำของระบบในรถ แม้แบตเตอรี่กุญแจจะหมดแต่ระบบยังสามารถระบุชิปเข้ารหัสได้ ควรระวังว่าในชีวิตประจำวันต้องตรวจสอบระดับแบตเตอรี่กุญแจ (รุ่น CR2032) เป็นประจำ หากระยะการทำงานของรีโมตสั้นลงหรือมีข้อความเตือนว่า "แบตเตอรี่กุญแจอ่อน" ควรเปลี่ยนทันที บางศูนย์บริการอาจตรวจสอบสถานะกุญแจให้ฟรีเมื่อนำรถไปทำตามระยะ นอกจากนี้แนะนำให้เก็บกุญแจกลไว้ในที่ปลอดภัย หลีกเลี่ยงการวางใกล้กับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เช่นโทรศัพท์มือถือเพราะอาจก่อให้เกิดสัญญาณรบกวน ถ้าหากพบปัญหากุญแจใช้งานไม่ได้บ่อยๆ อาจเกิดจากแหล่งกำเนิดคลื่นแม่เหล็กแรงสูงในบริเวณใกล้เคียง เช่น สถานีฐานโทรคมนาคมหรือสายไฟแรงดันสูง ในกรณีนี้ลองเปลี่ยนตำแหน่งในการสตาร์ทรถดู หรือติดต่อตัวแทนจำหน่ายเพื่อตรวจสอบระบบป้องกันการขโมยของกุญแจว่าทำงานปกติหรือไม่
Q
รถ Toyota Sienna ปี 2022 เป็นรถที่ดีหรือไม่?
รถ Toyota Sienta รุ่นปี 2022 เป็นรถ MPV ที่ตอบโจทย์การใช้งานครอบครัวได้อย่างดีเยี่ยม ระบบไฮบริดของมันประหยัดน้ำมันสุดๆ โดยเฉพาะเวลาขับในเมืองที่รถติดบ่อย เผาผลาญแค่ 5.7 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตรเท่านั้น ซึ่งถือเป็นจุดเด่นสำหรับคนที่ต้องเจอรถติดประจำ มาพร้อมเครื่องยนต์ 2.5 ลิตร 4 สูบแบบไฮบริดคู่กับเกียร์ E-CVT ที่ให้กำลังส่งเนียนเงียบ ส่วนบรรยากาศในรถก็กว้างขวาง นั่งสบาย โดยเฉพาะเบาะแถวสองที่ปรับได้หลากหลายตามความต้องการ ด้านความปลอดภัยก็ครบครันด้วยระบบ Toyota Safety Sense 2.0 ที่มีทั้งระบบเตือนก่อนชน ช่วยควบคุมเลน และระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ ทำให้การเดินทางกับครอบครัวอุ่นใจกว่าเดิม ในตลาดบ้านเรายังมีศูนย์บริการครบวงจร อะไหล่ก็หาง่าย ค่าดูแลรักษาไม่สูงมาก แถมยังใช้แพลตฟอร์ม TNGA-K ที่ช่วยให้การควบคุมทรงตัวดีกว่ารุ่นก่อน แม้ตัวรถจะใหญ่แต่เข้าโค้งก็ไม่โคลงเคลงมาก สำหรับใครที่ต้องรับส่งลูกหรือพาครอบครัวท่องเที่ยวบ่อย พื้นที่เก็บของของมันยังได้รับการออกแบบให้ใช้งานได้จริง ส่วนท้ายรถยังคงสามารถวางเบาะนั่งแถวที่สามได้หลายแบบเมื่อยืนขึ้น
Q
รถ Toyota Sienna ปี 2022 เป็นไฮบริดหรือไม่?
แน่นอนว่า Toyota Sienna รุ่นปี 2022 ทุกรุ่นมาพร้อมระบบไฮบริดมาตรฐาน ใช้ระบบขับเคลื่อนไฮบริดที่ผสานระหว่างเครื่องยนต์ 2.5 ลิตร 4 สูบกับมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังรวมสูงสุดถึง 245 แรงม้า คู่กับเกียร์ E-CVT ซึ่งช่วยประหยัดน้ำมันได้ดีมากโดยเฉพาะในเมืองที่การจราจรหนาแน่นแบบบ้านเรา ตัวรถใช้เทคโนโลยีไฮบริดรุ่นที่ 4 ของ Toyota โดยติดตั้งแบตเตอรี่ไว้ใต้ที่นั่งแถวหลังอย่างชาญฉลาด ไม่กินพื้นที่ภายในรถ แถมยังมีทั้งแบบขับเคลื่อนล้อหน้าและ 4 ล้อให้เลือก สำหรับรุ่น 4 ล้อจะมีมอเตอร์ไฟฟ้าที่ล้อหลังช่วยเพิ่มความมั่นคงบนถนนลื่นๆ ที่เด็ดกว่านั้นคือระบบไฮบริดของ Sienna ไม่ต้องเสียบชาร์จ แค่ใช้ระบบกักเก็บพลังงานจากการเบรกและระบบ Start-Stop อัตโนมัติก็เติมพลังงานให้แบตเตอรี่ได้แล้ว ใช้ง่ายมาก ในตลาดรถ MPV ไฮบริดนี่มีให้เลือกไม่มาก Sienna จึงกลายเป็นตัวท็อปสำหรับครอบครัวด้วยเทคโนโลยีไฮบริดอันเชี่ยวชาญของ Toyota และพื้นที่กว้างขวางสำหรับ 7 ที่นั่ง ถ้าคิดถึงราคาน้ำมันและเทรนด์รักษ์แวดล้อมในตอนนี้ รถไฮบริดยิ่งใช้ยิ่งคุ้ม เพราะประหยัดค่าดูแลรักษาในระยะยาว แบตเตอรี่ยังรับประกันยาวๆ 8 ปีหรือ 100,000 กิโลเมตร หมดห่วงได้เลย
Q
2022 Toyota Sienna LE มีระบบสตาร์ทเครื่องยนต์ระยะไกลหรือไม่?
รุ่น Toyota Sienna LE ปี 2022 บางคันมีระบบ Remote Start นะ แต่ต้องเช็คให้ชัวร์ว่าคันนั้นติดตั้ง Option นี้มาหรือเปล่า เพราะรุ่นพื้นฐานอาจจะไม่มีฟีเจอร์นี้ ถ้าอยากใช้ลองกดปุ่ม Remote Start ที่กุญแจรถหรือผ่านแอป Toyota ก็ได้ ระบบนี้ช่วยได้มากเวลาอากาศร้อนๆ อยากให้แอร์ทำงานก่อนขึ้นรถ เรื่องระบบ Remote Start ตอนนี้รถส่วนใหญ่จะใช้สองแบบคือ รับสัญญาณจากกุญแจหรือควบคุมผ่านแอปมือถือ บางรุ่นแพงๆอาจใช้สมาร์ทวอทช์หรือสั่งงานด้วยเสียงก็มี แต่ต้องระวังเรื่องสัญญาณให้ดี และไม่ควรให้เครื่องยนต์เดินเบาต่อเนื่องเกิน 10-15 นาที เดี๋ยวเปลืองน้ำมันแถมมีปัญหาเรื่องไอเสียด้วย สำหรับคนที่กำลังมองหา Sienna มือสอง แนะนำให้เช็คระบบ Remote Start ให้ดีว่าใช้งานได้ปกติไหม เพราะระบบนี้เกี่ยวกับวงจรไฟฟ้าและ ECU ถ้าคนก่อนหน้าไปดัดแปลงอะไรมา อาจทำให้ระบบไม่เสถียรได้ ส่วนรถ MPV คลาสเดียวกันอย่าง Honda Odyssey ก็มีฟีเจอร์นี้เหมือนกัน แต่รายละเอียดอาจต่างกันนิดหน่อย บางรุ่นต้องซื้อ Option เพิ่ม
Q
Toyota Sienna มีค่าบำรุงรักษาแพงไหม?
รถ Toyota Sienta ในฐานะรถเอ็มพีวีนำเข้าที่ประเทศไทย ค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาจะสูงกว่ารถยนต์ญี่ปุ่นที่ผลิตในประเทศเล็กน้อย แต่โดยรวมยังอยู่ในระดับที่สมเหตุสมผล ค่าบำรุงรักษาพื้นฐานอย่างการเปลี่ยนน้ำมันเครื่องและไส้กรองจะอยู่ที่ประมาณ 3,000-4,000 บาท ซึ่งใกล้เคียงกับรถนำเข้าขนาดเดียวกัน ส่วนราคาอะไหล่หลักจะสูงกว่าหน่อยเพราะต้องนำเข้า แต่ระบบซัพพลายเชนของ Toyota สามารถรับประกันความมั่นคงได้ รถรุ่นนี้ใช้ระบบไฮบริด 2.5 ลิตรที่เทคโนโลยีที่ครบถ้วน มีอัตราเสียหายต่ำ การใช้งานระยะยาวจะช่วยลดความถี่ในการซ่อมแซม แถมศูนย์บริการในประเทศไทยส่วนใหญ่ยังมีประกันให้ถึง 5 ปีหรือ 150,000 กิโลเมตรอีกด้วย ที่น่าสนใจคือแบตเตอรี่ของรถไฮบริดมักมีอายุการใช้งานถึง 8-10 ปี แค่ต้องระวังไม่จอดตากแดดนานๆ ในสภาพอากาศร้อนของไทยแนะนำให้ตรวจสอบระบบระบายความร้อนเป็นประจำ ถ้าเลือกใช้บริการอู่ซ่อมเอกชนค่าใช้จ่ายอาจลดลง 20%-30% แต่ต้องมั่นใจว่าช่างมีคุณสมบัติในการทำงานกับระบบไฮบริด เมื่อเทียบกับรถระดับเดียวกัน ซีเอนนายังมีอัตราคงมูลค่าสูงซึ่งช่วยชดเชยค่าดูแลรักษาไปบางส่วน สำหรับผู้ใช้ครอบครัว จุดเด่นที่ยังคงเหนือกว่าคือความสะดวกในการใช้งานและความประหยัดน้ำมันที่ยอดเยี่ยม
Q
ปัญหาทั่วไปของ Toyota Sienna LE 2022 คืออะไร?
สำหรับ Sienna LE รุ่นปี 2022 ที่เป็นรถ MPV ไฮบริด ส่วนใหญ่ปัญหาที่พบจะอยู่ที่ระบบมัลติมีเดียที่อาจมีอาการตอบสนองช้าเป็นบางครั้ง โดยเฉพาะเวลาเชื่อมต่อ CarPlay อาจมีกระตุกบ้าง แต่พออัปเดตระบบที่ศูนย์บริการแล้วก็มักจะหายขาด มีเจ้าของรถบางรายแจ้งว่าช่วงอากาศร้อนชื้นๆ แผงคอนโซลหน้าบางทีอาจมีเสียงลั่นนิดหน่อยจากชิ้นส่วนพลาสติก แนะนำให้ใช้น้ำยาบำรุงภายในรถเป็นประจำจะช่วยลดปัญหาการขยายตัวจากความร้อนได้ ส่วนเรื่องระบบเบรกที่เป็นไฮบริดนั้น เวลาเปลี่ยนจากการชาร์จแบตกลับมาใช้เบรกปกติอาจรู้สึกถึงความแตกต่างนิดๆ แต่เป็นเรื่องปกติ พอขับไปสักพักก็ชินเอง ไม่มีผลต่อความปลอดภัย ต้องบอกเลยว่าระบบไฮบริด 2.5L ของคันนี้ประหยัดน้ำมันมากๆ โดยเฉพาะเวลาติดถนนในเมือง แต่ต้องอย่าลืมเปลี่ยนไส้กรองระบบระบายความร้อนของแบตเตอรี่นิกเกิล-เมทัล ไฮไดรด์ตามกำหนด ซึ่งศูนย์บริการทั่วไปจะแนะนำให้ตรวจทุก 30,000 กิโลเมตร เนื่องจากตัวรถค่อนข้างยาว เวลาถอยในซอยแคบๆ ควรใช้กล้องถอยหลังที่มากันเป็นมาตรฐานทุกคัน แต่ถ้าติดตั้งระบบกล้องรอบคันเพิ่มเติมก็จะสะดวกขึ้นอีก ในช่วงฤดูฝนแนะนำให้ตรวจสอบรูระบายน้ำในช่องเก็บยางสำรองด้วยว่าไม่มีอะไรอุดตัน เพื่อป้องกันน้ำขัง ส่วนรางประตูสไลด์ไฟฟ้าควรทำความสะอาดเป็นประจำ โดยเฉพาะถ้าอยู่ในพื้นที่ที่มีฝุ่นเยอะ ควรเป่าด้วยลมแรงทุกเดือนจะช่วยยืดอายุการใช้งานได้ดี

ข้อดี

ห้องนั่งกว้างขวางเพื่อรถโดยสารที่สบาย
ประหยัดน้ำมันช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายน้ำมัน
คุณภาพของยุคโตโยต้าที่เชื่อถือได้เพื่อสุขสันติสุขใจ
การตั้งค่าการนั่งแบบยืดหยุ่นเพื่อความหลากหลาย
ดีไซน์ที่สวยงามที่ชอบใจหลายคน

ข้อเสีย

กำลังการผลิตที่จำกัดสำหรับความต้องการบางอย่าง
แถวที่สามอาจขาดความสบายเพียงพอ
ห้องเก็บของขนาดเล็กสำหรับบรรทุกสิ่งมวลขนาดใหญ่
ระบบไฮบริดอาจต้องการการปรับปรุง

Q&A ล่าสุด

Q
ค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา Lexus ES 2023 คือเท่าไร?
ค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษา Lexus ES รุ่นปี 2023 จะแตกต่างกันไปตามรุ่นและระบบขับเคลื่อน ทั้งรุ่นเบนซิน ES 250 และรุ่นไฮบริด ES 300h มีระยะการบริการปกติที่ทุก 10,000 กิโลเมตรหรือทุก 6 เดือน โดยค่าใช้จ่ายพื้นฐานรวมสำหรับการบริการจนถึง 60,000 กิโลเมตรแรกจะอยู่ที่ประมาณ 35,000-45,000 บาท ซึ่งรุ่นไฮบริดอาจมีค่าใช้จ่ายต่ำกว่ารุ่นเบนซินเล็กน้อยเนื่องจากระบบแบตเตอรี่ได้รับการออกแบบมาให้ไม่ต้องดูแลรักษา ค่าใช้จ่ายนี้รวมถึงการเปลี่ยนน้ำมันเครื่องและไส้กรองอากาศ แต่การเปลี่ยนไส้กรองแอร์และน้ำมันเบรกจะมีการคิดค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ที่น่าสนใจคือตัวแทนจำหน่ายในไทยมักมีโปรโมชั่นแพ็กเกจบริการ เช่น ซื้อ 3 ครั้งแถมฟรี 1 ครั้ง ซึ่งช่วยลดค่าใช้จ่ายในระยะยาวได้ สำหรับการดูแลรักษารถหรู Lexus ในไทยมีนโยบายบริการฟรี 4 ปีหรือ 100,000 กิโลเมตร (รุ่นไฮบริด 6 ปีหรือ 150,000 กิโลเมตร) ซึ่งช่วยลดค่าใช้จ่ายในช่วงแรกได้มากเมื่อเทียบกับคู่แข่งในระดับเดียวกันที่มักให้บริการฟรีแค่ 2-3 ปี แนะนำให้เจ้าของรถตรวจสอบสถานะยางและผ้าเบรกอย่างสม่ำเสมอ ในสภาพอากาศเขตร้อนส่วนประกอบเหล่านี้อาจสูญเสียเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้อย่างเป็นทางการ หากเลือกการบำรุงรักษาร้านที่ไม่ใช่ 4S แม้ว่าจะสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายได้ 30% แต่จะสูญเสียคุณสมบัติการรับประกันจากโรงงานเดิม ต้องชั่งน้ําหนักข้อดีและข้อเสีย
Q
2023 Lexus ต้องการน้ำมันเบนซินพรีเมียมหรือไม่?
สำหรับรุ่น Lexus รุ่นปี 2023 ส่วนใหญ่ที่ติดตั้งเครื่องยนต์เทอร์โบหรือเครื่องยนต์สันดาปตามธรรมชาติประสิทธิภาพสูง เช่น IS 500, LC 500 แนะนำให้ใช้เบนซินไร้สารตะกั่วคุณภาพสูงระดับ 95 ขึ้นไป เพื่อให้เครื่องยนต์ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพและประหยัดน้ำมันมากที่สุด ส่วนรุ่นพื้นฐานอย่าง UX 200 สามารถใช้เบนซินธรรมดาระดับ 91 ได้ แต่ควรตรวจสอบป้ายข้างถังน้ำมันหรือคู่มือรถเพื่อความแน่ใจ ในประเทศไทย ปั้มน้ำมันส่วนใหญ่มีเบนซินระดับ 91 (เทียบเท่า RON 91) และ 95 (RON 95) หากใช้เบนซินระดับต่ำเป็นเวลานานอาจทำให้เครื่องยนต์อัดสูงเกิดการน็อคหรือมีคาร์บอนสะสม โดยเฉพาะในสภาพอากาศร้อนควรระวังเรื่องคุณภาพน้ำมันเป็นพิเศษ เทคโนโลยีเช่นระบบหัวฉีดคู่ D-4S ที่ Lexus นำมาใช้สามารถปรับให้เข้ากับเชื้อเพลิงได้ดี แต่แนะนำให้เจ้าของรถปฏิบัติตามคําแนะนําของผู้ผลิตเนื่องจากสารเติมแต่งที่สะอาดสําหรับน้ํามันเบนซินคุณภาพสูงสามารถปกป้องชิ้นส่วนที่มีความซับซ้อนของเครื่องยนต์ฉีดตรงได้ดีขึ้น เป็นที่น่าสังเกตว่ารถยนต์ไฮบริดรุ่นใหม่บางรุ่นมีข้อกําหนดที่ค่อนข้างหลวมสําหรับเครื่องหมายเชื้อเพลิง แต่การใช้น้ํามันเบนซินมาตรฐานสูงยังคงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทํางานร่วมกันของมอเตอร์และเครื่องยนต์ หากบางครั้งพบสถานการณ์น้ํามันเบนซินเครื่องหมายต่ําในพื้นที่ห่างไกล การผสมในระยะสั้นจะไม่ส่งผลกระทบมากนัก แต่ไม่ควรเป็นเช่นนี้ในระยะยาว
Q
เครื่องยนต์อะไรอยู่ใน Lexus ES 350 รุ่นปี 2023?
รุ่น 2023 ของ Lexus ES 350 ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ 2GR-FKS ขนาด 3.5 ลิตร V6 แบบดูดอากาศธรรมชาติ ที่มาพร้อมเทคโนโลยีฉีดเชื้อเพลิง D-4S ซึ่งผสมผสานข้อดีของการฉีดเชื้อเพลิงตรงสู่อากาศในกระบอกสูบและการฉีดเชื้อเพลิงแบบพอร์ต ให้กำลังสูงสุดถึง 302 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 362 นิวตันเมตร คู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด ทำให้การส่งกำลังลื่นไหลและประหยัดน้ำมันได้ดี เครื่องยนต์ตัวนี้ทำงานได้อย่างเสถียรแม้ในสภาพอากาศร้อนของบ้านเรา ต้องขอบคุณระบบระบายความร้อนประสิทธิภาพสูงและการออกแบบวัสดุทนความร้อนที่เหมาะสมทั้งการขับขี่ในเมืองที่รถติดหรือการเดินทางไกลบนทางหลวง ที่สำคัญ เครื่องยนต์แบบดูดอากาศธรรมชาตินี้ให้ค่าบำรุงรักษาที่ถูกกว่าแบบเทอร์โบชาร์จ และยังให้ความรู้สึกการทำงานที่เรียบลื่นกว่า เหมาะสำหรับคนที่ชอบความสบายในการขับขี่ Lexus ยังให้บริการรับประกันระยะยาวสำหรับระบบขับเคลื่อนนี้ ช่วยลดความกังวลในการใช้งานอีกด้วย ถ้าสนใจระบบไฮบริด ES 300h ในซีรีส์เดียวกันที่ใช้เครื่องยนต์ 4 สูบ 2.5 ลิตรผสมกับมอเตอร์ไฟฟ้า จะตอบโจทย์คนที่ต้องการประหยัดน้ำมันมากกว่า แต่ ES 350 ยังคงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจในกลุ่มรถยนต์หรูขนาดกลาง-ใหญ่ ด้วยพลังอันหนักแน่นจากเครื่อง V6 ที่พร้อมส่งมอบประสบการณ์ขับขี่ระดับพรีเมียม
Q
“รถ Lexus ES ปี 2023 ใช้งานได้นานแค่ไหน?”
รถยนต์รุ่น Lexus ES ปี 2023 ในสภาพการใช้งานและการดูแลรักษาปกติ คาดว่าจะสามารถวิ่งได้มากกว่า 300,000 กิโลเมตร หรือเทียบเท่าการใช้งานประมาณ 20 ปี รุ่นนี้ขึ้นชื่อในเรื่องระบบขับเคลื่อนที่เชื่อถือได้และการผลิตที่แข็งแรง โดยเฉพาะเครื่องยนต์ 2.5 ลิตรแบบธรรมชาติและระบบไฮบริดที่ผ่านการทดสอบจากตลาดมายาวนาน มีอัตราการเสียหายต่ำ ในสภาพอากาศร้อนชื้น แนะนำให้ตรวจสอบสภาพแบตเตอรี่และระบบแอร์เป็นประจำ พร้อมทั้งระบบบริการหลังการขายของ Lexasus ก็มีความพร้อม แพ็คเกจดูแลรักษาจากโรงงานสามารถช่วยยืดอายุรถได้อย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับเจ้าของที่คิดจะใช้งานยาวๆ Lexus ES มีอัตราการรักษามูลค่าค่อนข้างสูง หลัง 5 ปียังคงรักษามูลค่าได้ประมาณ 60% ซึ่งเป็นผลมาจากชื่อเสียงที่ดีและคุณภาพที่มั่นคง ในชีวิตประจำวัน แนะนำให้ทำการดูแลรักษาทุก 10,000 กิโลเมตรหรือทุก 6 เดือนตามคู่มือ ใช้น้ำมันเครื่องคุณภาพสูง และเปลี่ยนน้ำมันเกียร์กับน้ำมันเบรกเป็นประจำ รายละเอียดเหล่านี้มีผลอย่างมากต่ออายุการใช้งานของรถ หากใช้งานในเมืองเป็นหลัก รุ่นไฮบริดจะเหมาะสมกว่า เพราะระบบไฮบริดได้รับผลกระทบจากการสตาร์ทและหยุดบ่อยๆน้อยกว่า และยังเหมาะกับการใช้งานในสภาพการจราจรที่ติดขัดอีกด้วย
Q
รถ Lexus ES 350 ปี 2023 เป็นรถที่ดีหรือเปล่า?
รถหรู Lexus ES 350 รุ่นปี 2023 เป็นรถที่ตอบโจทย์ทุกการใช้งาน ด้วยเครื่องยนต์ V6 3.5 ลิตร แบบอัดธรรมชาติที่ให้กำลังส่งเรียบแต่ทรงพลัง คู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด ทำให้การขับขี่ลื่นไหลนุ่มสบาย ทั้งในเมืองและทางไกล ด้านภายในตกแต่งด้วยวัสดุคุณภาพสูง งานประกอบประณีต เบาะนั่งสบายเป็นพิเศษ พร้อมเทคโนโลยีครบครัน เช่น จอทัชสกรีน 12.3 นิ้ว ระบบเสียง Mark Levinson และชุดความปลอดภัยล่าสุดจาก Lexus ที่รวมระบบเตือนการชนและช่วยรักษาช่องทาง ช่วยให้ขับขี่ได้มั่นใจมากขึ้น แม้จะเป็นเครื่อง V6 แต่ยังประหยัดน้ำมันได้ดีภายใต้การตั้งค่าของ Lexus ซึ่งเป็นไปตามมาตรฐานรถหรู ในตลาดท้องถิ่น Lexus มีบริการหลังการขายที่ได้เสียงชมเชย ค่าบำรุงรักษาค่อนข้างสมเหตุสมผล และยังเป็นรถที่ทรงมูลค่าสูงในระยะยาว สำหรับคนที่ชอบความหรูแบบเรียบง่ายแต่เน้นความน่าเชื่อถือ ES 350 นับเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ เมื่อเทียบกับคู่แข่งอย่าง BMW 5 Series หรือ Mercedes E-Class ที่อาจเน้นสปอร์ตหรือเทคโนโลยี แต่จุดแข็งของ ES 350 คือความสมดุลและความเงียบสงบ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการความสบายและคุณภาพในทุกการขับขี่
ดูเพิ่มเติม