Q
วิธีตรวจระดับน้ำมันเครื่อง Toyota Corolla 2024
เวลาตรวจสอบระดับน้ำมันเครื่อง Toyota Corolla รุ่นปี 2024 แนะนำให้จอดรถบนพื้นระดับและรอให้เครื่องยนต์เย็นตัวก่อน จากนั้นดึงก้านวัดน้ำมันเครื่องออกมาเช็ดให้สะอาด แล้วเสียบกลับเข้าไปใหม่ก่อนจะดึงออกมาอีกครั้งเพื่อดูระดับน้ำมัน ระดับปกติควรอยู่ระหว่างขีด MIN กับ MAX สภาพอากาศร้อนของไทยอาจทำให้น้ำมันเครื่องลดลงเร็วกว่าปกติ แนะนำให้ตรวจสอบเดือนละครั้งเพื่อให้เครื่องยนต์ได้รับการหล่อลื่นที่ดี ถ้าระดับน้ำมันต่ำเกินไปให้เติมน้ำมันเครื่องสังเคราะห์เต็มสูตร 0W-20 ที่ได้มาตรฐาน API SP หรือ ILSAC GF-6 ซึ่งน้ำมันเครื่องเกรดบางแบบนี้เหมาะกับสภาพอากาศร้อนของไทยเป็นพิเศษ ช่วยปกป้องเครื่องยนต์และประหยัดน้ำมันได้ดีขึ้น นอกจากนี้ควรสังเกตสีของน้ำมันเครื่องหากพบว่ามีสีดำผิดปกติหรือมีเศษโลหะปนอาจแสดงว่าเครื่องยนต์มีปัญหา ควรนำรถเข้าศูนย์บริการทันที การเปลี่ยนน้ำมันเครื่องและไส้กรองตามระยะเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ Corolla ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพในระยะยาว สำหรับคนไทยยังสามารถใช้ระบบเตือนการบำรุงรักษาในรถเพื่อติดตามระยะเวลาการเปลี่ยนน้ำมันเครื่องได้อีกด้วย
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto
ประเภทรถยอดนิยม
Q&A ล่าสุด
Q
Nissan GT-R มีกี่ที่นั่ง
Nissan GT-R เป็นซูเปอร์คาร์คลาสสิกที่มาพร้อมกับที่นั่งมาตรฐาน 4 ที่นั่ง ในรูปแบบการจัดวาง 2+2 โดยเบาะหน้าเป็นเบาะแข่งแบบ bucket seat ที่ให้การสนับสนุนร่างกายได้ดีเยี่ยม ส่วนเบาะหลังมีพื้นที่ค่อนข้างกะทัดรัดสำหรับการขับขี่ในระยะทางสั้นๆ หรือวางสิ่งของติดตัว ในตลาดไทย GT-R ได้รับความนิยมจากกลุ่มคนรักรถสมรรถนะสูง เนื่องจากสมรรถนะที่แข็งแกร่ง (เช่น เครื่องยนต์ 3.8 ลิตร V6 เทอร์โบคู่ และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ ATTESA E-TS) รวมถึงการออกแบบ 4 ที่นั่งที่ใช้งานได้จริง อย่างไรก็ตาม แม้ GT-R จะถูกจัดอยู่ในกลุ่มรถสปอร์ตสมรรถนะสูง แต่การมี 4 ที่นั่งแบบนี้ค่อนข้างพบได้ยากในรุ่นเดียวกัน ตัวอย่างเช่น Porsche 911 Carrera ก็มีตัวเลือกเบาะหลัง แต่พื้นที่จะจำกัดกว่า นอกจากนี้ สภาพอากาศร้อนของไทยมีความต้องการสูงในเรื่องระบบระบายความร้อนของรถสมรรถนะสูง แนะนำให้เจ้าของ GT-R ตรวจสอบระบบทำความเย็นเป็นประจำ โดยเฉพาะเมื่อขับในเมืองอย่างกรุงเทพฯ ที่ต้องเจอกับการจราจรหนาแน่นและต้องหยุด-เริ่มบ่อย ส่วนการซ่อมบำรุง GT-R จำเป็นต้องให้ช่างผู้เชี่ยวชาญดำเนินการ ซึ่งผู้จัดจำหน่ายนิสสันในประเทศไทยให้การสนับสนุนทางเทคนิคจากโรงงานดั้งเดิมเพื่อให้มั่นใจว่ารถอยู่ในสภาพที่ดีที่สุด
Q
Nissan GT-R ใช้น้ำมันเท่าไรต่อแกลลอน
การบริโภคน้ำมันของ Nissan GT-R นั้นขึ้นอยู่กับรุ่นและการขับขี่ โดยหากพูดถึงรุ่น R35 ที่พบเห็นบ่อยๆ ในสภาพถนนทั่วไปจะกินน้ำมันประมาณ 6-7 กิโลเมตร/ลิตร (หรือประมาณ 14-16 ลิตร/100 กิโลเมตร) ซึ่งเทียบได้กับระยะทางประมาณ 15-18 ไมล์ต่อแกลลอนเมื่อใช้น้ำมันเบนซิน 95 แบบที่นิยมในไทย รถสปอร์ตรุ่นนี้ติดเครื่องยนต์ V6 Twin Turbo ขนาด 3.8 ลิตร มีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเมื่อขับอย่างเข้มข้น โดยเฉพาะในสภาพอากาศร้อนของไทยและการจราจรติดขัดในกรุงเทพฯ ที่แนะนำคือให้ผู้ขับขี่เร่งเครื่องอย่างนุ่มนวลและใช้โหมดเกียร์ธรรมดาอย่างเหมาะสมเพื่อประหยัดน้ำมันยิ่งขึ้น ต้องบอกว่า GT-R เป็นรถสปอร์ตสมรรถนะสูงที่การกินน้ำมันอยู่ในระดับสมเหตุสมผลเมื่อเทียบกับรถรุ่นเดียวกัน และรุ่นที่วางขายในไทยยังได้รับการปรับแต่ง ECU ให้เหมาะสมกับน้ำมันและสภาพถนนท้องถิ่นแล้ว หากอยากให้ประหยัดน้ำมันยิ่งขึ้น แนะนำให้เปลี่ยนหัวเทียนและกรองอากาศคุณภาพสูงเป็นประจำ พร้อมทั้งใช้น้ำมันเครื่องสังเคราะห์เต็มสูตรตามที่ผู้ผลิตกำหนด ซึ่งเวิธีเหล่านี้สำคัญมากสำหรับการรักษาสภาพเครื่องยนต์ให้ทำงานได้ดีที่สุด
Q
เครื่องยนต์ใน Nissan GT-R คืออะไร
เครื่องยนต์ของ Nissan GT-R ที่โด่งดังคือรุ่น VR38DETT ซึ่งเป็นเครื่องยนต์ V6 ขนาด 3.8 ลิตรแบบเทอร์โบชาร์จคู่ ที่โดดเด่นในเรื่องพลังและประสิทธิภาพสูง โดยเฉพาะในสภาพอากาศร้อนแบบไทยแลนด์ ระบบระบายความร้อนและเทคโนโลยีเทอร์โบได้รับการออกแบบมาให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพแม้อุณหภูมิจะสูง ก็ยังคงให้กำลังส่งออกอย่างสม่ำเสมอ เครื่องยนต์รุ่นนี้ทำกำลังสูงสุดได้ถึง 565 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 633 นิวตันเมตร คู่กับเกียร์อัตโนมัติแบบ 6 สปีด ที่ให้ความเร่งอันน่าตื่นเต้น อีกจุดเด่นคือ VR38DETT ยังใช้เทคโนโลยีพลาสมาสเปรย์เคลือบกระบอกสูบ ช่วยลดแรงเสียดทานและเพิ่มความทนทาน เหมาะกับทั้งเส้นทางภูเขาและสภาพการจราจรติดขัดในเมืองของไทย สำหรับคนชอบแต่งรถ เครื่องยนต์รุ่นนี้มีศักยภาพในการอัพเกรดสูง มีอู่แต่งหลายแห่งในไทยที่สามารถเพิ่มประสิทธิภาพให้ดียิ่งขึ้น ในขณะที่ยังคงความน่าเชื่อถือได้ นี่คือเหตุผลที่ Nissan GT-R เป็นที่นิยมในหมู่คอรถสปอร์ตสมรรถนะสูงของไทย
Q
ราคา BMW M5 เท่าไหร่
ปัจจุบันราคาขายอย่างเป็นทางการของ BMW M5 (F90) ที่วางจำหน่ายในตลาดไทยอยู่ที่ประมาณ 12-14 ล้านบาท โดยราคาอาจแตกต่างกันไปตามรุ่นย่อย ออปชั่นเสริม และโปรโมชั่นจากตัวแทนจำหน่าย รุ่นมาตรฐาน M5 มาพร้อมเครื่องยนต์ V8 4.4 ลิตร เทอร์โบคู่ ให้กำลังสูงสุด 600 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 750 นิวตันเมตร ทำงานคู่กับเกียร์ 8 สปีด M Steptronic และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ M xDrive เร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 3.4 วินาที ส่วนรุ่น M5 Competition ที่สมรรถนะสูงขึ้นไปอีก จะให้กำลังเพิ่มอีก 17 แรงม้า พร้อมการปรับแต่งช่วงล่างที่ดุดันขึ้น และราคาก็สูงขึ้นตามไปด้วย เนื่องจาก BMW M5 มีราคาสูงกว่าตลาดต่างประเทศเล็กน้อยเนื่องจากประเทศไทยมีอัตราภาษีนำเข้าและภาษีสรรพสามิตที่สูงขึ้นสำหรับรถหรู แต่ด้วยสมรรถนะและความหรูหราที่ยังคงดึงดูดผู้ที่ชื่นชอบรถสมรรถนะสูงมากมาย แนะนำให้ติดต่อตัวแทนจำหน่าย BMW อย่างเป็นทางการในไทยเพื่อสอบถามราคาล่าสุดและทดลองขับ หรืออาจพิจารณาตลาดรถนำเข้าแบบขนาน (grey import) ที่บางครั้งก็มีราคาจับต้องได้กว่า
Q
น้ำหนักของ BMW M5 รุ่นใหม่คือเท่าไหร่
จากข้อมูลทางการล่าสุด รุ่นใหม่ล่าสุดของ BMW M5 มีน้ำหนักประมาณ 2,345 กิโลกรัม ตัวเลขนี้คำนึงถึงระบบไฮบริดและชิ้นส่วนเสริมสมรรถนะที่ติดตั้งมา ซึ่งทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า แต่มีการกระจายน้ำหนักที่สมดุลขึ้นกว่าเดิม สำหรับตลาดไทยแล้ว สภาพอากาศร้อนและถนนที่หลากหลายต้องการระบบระบายความร้อนและช่วงล่างที่เสถียรเป็นพิเศษ ซึ่ง M5 ตอบโจทย์ด้วยโครงสร้างอลูมิเนียมน้ำหนักเบาและระบบช่วงล่างแอคทีฟที่ช่วยแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในขณะที่ระบบปลั๊กอินไฮบริดยังช่วยให้สามารถขับเคลื่อนด้วยโหมดไฟฟ้า 100% ในสภาพการจราจรติดขัดในกรุงเทพฯ เพื่อประหยัดน้ำมันได้อีกด้วย ที่น่าสนใจคือ M5 ที่นำเข้าเข้ามาในไทยจะติดตั้งระบบแอร์ประสิทธิภาพสูงและสารเคลือบป้องกันการกัดกร่อนเป็นมาตรฐาน แม้ว่าออปชั่นเหล่านี้จะเพิ่มน้ำหนักรถเล็กน้อย แต่ก็ช่วยให้เหมาะกับการใช้งานในสภาพแวดล้อมท้องถิ่นมากขึ้น สำหรับคนไทยที่ชื่นชอบความแรง M5 ยังคงรักษาสมดุลน้ำหนัก 50:50 ระหว่างเพลาหน้าและหลัง พร้อมกับระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ xDrive ที่ช่วยให้การควบคุมยังคงแม่นยำแม้ในวันที่ถนนลื่นช่วงฤดูฝน ส่วนน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นก็ไม่ได้ส่งผลต่อความแรง เพราะ M5 สามารถเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 3.4 วินาที ด้วยพลังรวมสูงสุด 725 แรงม้า จากเครื่องยนต์ V8 เทอร์โบชาร์จ 4.4 ลิตร ที่ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า
ดูเพิ่มเติมข้อมูลล่าสุด

2025 Xpeng G6 เปิดตัวแล้ว ยังคงเป็นคู่แข่งที่แข็งแกร่งของ Model Y
Kevin WongOct 14, 2025

Volkswagen จับมือ Xpeng ใช้เทคโนโลยีการขับขี่อัตโนมัติ XNGP ในรถ EV รุ่นใหม่ปี 2026
ธนวัฒน์Oct 14, 2025

Toyota ประกาศว่าเร็วที่สุดในปี 2027 จะเริ่มการผลิตแบตเตอรี่แบบโซลิดสเตตในเชิงพาณิชย์ ปัจจุบันได้พัฒนาวัสดุคาโทดที่ทนทานสูงเรียบร้อยแล้ว
วิรุฬห์Oct 13, 2025

BYD มียอดขายในสหราชอาณาจักรเพิ่มขึ้น 880% ถึง 11,271 คัน กลายเป็นตลาดเดี่ยวที่ใหญ่ที่สุดนอกประเทศจีน
วิรุฬห์Oct 13, 2025

Leapmotorรถใหม่: ให้คุณใช้เงินเท่าที่ซื้อ RAV 4 แต่ได้รถที่มีขนาดเท่ากับ Land Cruiser
สุรเดชOct 13, 2025
ดูเพิ่มเติม