Q
Nissan GT-R มีกี่ที่นั่ง
Nissan GT-R เป็นซูเปอร์คาร์คลาสสิกที่มาพร้อมกับที่นั่งมาตรฐาน 4 ที่นั่ง ในรูปแบบการจัดวาง 2+2 โดยเบาะหน้าเป็นเบาะแข่งแบบ bucket seat ที่ให้การสนับสนุนร่างกายได้ดีเยี่ยม ส่วนเบาะหลังมีพื้นที่ค่อนข้างกะทัดรัดสำหรับการขับขี่ในระยะทางสั้นๆ หรือวางสิ่งของติดตัว ในตลาดไทย GT-R ได้รับความนิยมจากกลุ่มคนรักรถสมรรถนะสูง เนื่องจากสมรรถนะที่แข็งแกร่ง (เช่น เครื่องยนต์ 3.8 ลิตร V6 เทอร์โบคู่ และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ ATTESA E-TS) รวมถึงการออกแบบ 4 ที่นั่งที่ใช้งานได้จริง อย่างไรก็ตาม แม้ GT-R จะถูกจัดอยู่ในกลุ่มรถสปอร์ตสมรรถนะสูง แต่การมี 4 ที่นั่งแบบนี้ค่อนข้างพบได้ยากในรุ่นเดียวกัน ตัวอย่างเช่น Porsche 911 Carrera ก็มีตัวเลือกเบาะหลัง แต่พื้นที่จะจำกัดกว่า นอกจากนี้ สภาพอากาศร้อนของไทยมีความต้องการสูงในเรื่องระบบระบายความร้อนของรถสมรรถนะสูง แนะนำให้เจ้าของ GT-R ตรวจสอบระบบทำความเย็นเป็นประจำ โดยเฉพาะเมื่อขับในเมืองอย่างกรุงเทพฯ ที่ต้องเจอกับการจราจรหนาแน่นและต้องหยุด-เริ่มบ่อย ส่วนการซ่อมบำรุง GT-R จำเป็นต้องให้ช่างผู้เชี่ยวชาญดำเนินการ ซึ่งผู้จัดจำหน่ายนิสสันในประเทศไทยให้การสนับสนุนทางเทคนิคจากโรงงานดั้งเดิมเพื่อให้มั่นใจว่ารถอยู่ในสภาพที่ดีที่สุด
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto
Q&A เกี่ยวข้อง
Q
GT-R และ GT-R Pro มีความแตกต่างอย่างไร
Nissan GT-R กับ GT-R Pro มีความแตกต่างกันหลัก ๆ ในด้านการปรับจูนสมรรถนะ การควบคุมการขับขี่ และความเหมาะสมในการใช้งานในสนามแข่ง แม้ทั้งสองรุ่นจะใช้เครื่องยนต์ V6 ทวินเทอร์โบ ขนาด 3.8 ลิตรเหมือนกัน แต่ GT-R Pro ได้รับการอัปเกรดช่วงล่างด้วยโช้กอัพ Bilstein แบบปรับค่าแรงหน่วงได้ ระบบเบรกเซรามิกคาร์บอน และชุดแอร์โรไดนามิกที่ดุดันยิ่งขึ้น เช่น สปอยเลอร์หน้า-หลัง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการขับขี่ระดับสูง ภายในห้องโดยสารยังมีการลดน้ำหนักโดยใช้วัสดุคาร์บอนไฟเบอร์มากขึ้น พร้อมเบาะนั่งสปอร์ตจาก Recaro เพื่อมอบประสบการณ์ขับขี่ที่มั่นคงในความเร็วสูง อย่างไรก็ตาม ความสะดวกสบายของ GT-R Pro จะน้อยกว่ารุ่นปกติ เนื่องจากเน้นสมรรถนะเป็นหลัก จึงเหมาะกับผู้ที่ต้องการรถสำหรับขับในสนามแข่งหรือขับขี่แบบเร้าใจ ขณะที่ GT-R รุ่นมาตรฐานจะเหมาะกับการขับใช้งานในชีวิตประจำวันและขับทางไกลได้สบายกว่า สำหรับผู้บริโภคในประเทศไทย หากคุณมองหารถสมรรถนะสูงที่ขับได้ทุกวัน GT-R รุ่นมาตรฐานคือทางเลือกที่ดี แต่ถ้าคุณเป็นสายสนามตัวจริง GT-R Pro จะตอบโจทย์ได้มากกว่า
Q
ความแตกต่างระหว่าง GT C และ GT-R คืออะไร
GT C และ GT-R เป็นรถสมรรถนะสูงจากคนละค่าย โดยมีจุดเด่นที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน GT-R จาก Nissan เป็นรถสปอร์ตระดับตำนานของญี่ปุ่น มาพร้อมเครื่องยนต์ V6 ขนาด 3.8 ลิตร ทวินเทอร์โบ ขับเคลื่อนสี่ล้อ เซตช่วงล่างแบบสนามแข่ง เน้นความแม่นยำในการควบคุม เหมาะกับคนที่ชอบขับขี่แบบดุดันและเน้นสมรรถนะล้วนๆ ส่วน GT C ซึ่งมักหมายถึง Mercedes-AMG GT C เป็นรถสปอร์ตจากฝั่งเยอรมันที่ผสานความแรงและความหรูหราเข้าไว้ด้วยกัน ใช้เครื่องยนต์ V8 ขนาด 4.0 ลิตร ทวินเทอร์โบ มีระบบช่วงล่างปรับได้ ดีไซน์หรู ภายในสบาย เหมาะกับการเดินทางไกลสไตล์ Grand Touring ในตลาดประเทศไทย GT-R ได้รับความนิยมในหมู่คนรักความเร็วและสนามแข่ง ขณะที่ AMG GT C เหมาะกับผู้ที่ต้องการรถสปอร์ตหรูที่ให้ทั้งสมรรถนะและความสะดวกสบาย ดังนั้นหากคุณชอบอารมณ์ดิบแบบรถญี่ปุ่น GT-R คือคำตอบ แต่หากคุณต้องการความหรูหราแบบเยอรมัน GT C ก็อาจเหมาะกว่า
Q
ความแตกต่างระหว่าง GT T และ GT-R คืออะไร
คุณอาจกำลังถามถึงความแตกต่างระหว่าง “GT-R T-spec” กับ “GT-R Premium Luxury” ราคาของ “GT-R T-spec” อยู่ที่ 12,200,000 บาท ส่วน “GT-R Premium Luxury” ราคา 10,700,000 บาท นอกจากราคาที่ต่างกันแล้ว ทั้งสองรุ่นมีสเปกหลักที่ใกล้เคียงกัน โดยใช้เครื่องยนต์ขนาด 3799 ซีซี ระบบส่งกำลัง และขนาดตัวถังเหมือนกัน คือ ความยาว 4710 มม. ความกว้าง 1895 มม. ความสูง 1370 มม. ฐานล้อ 2780 มม. มี 2 ประตู และ 4 ที่นั่ง อย่างไรก็ตาม “GT-R T-spec” อาจมาพร้อมกับอุปกรณ์ วัสดุ หรือการปรับแต่งที่เหนือระดับและเป็นเอกลักษณ์มากกว่า เพื่อสร้างความแตกต่างและเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้าได้มากขึ้น
Q
GT-R และ GT-R NISMO มีความแตกต่างกันอย่างไร
GT-R กับ GT-R NISMO มีความแตกต่างในหลายด้าน โดย GT-R NISMO เป็นรุ่นอัพเกรดของ GT-R ซึ่งพัฒนาโดยแผนกสมรรถนะสูงของนิสสัน ทำให้มีพละกำลังสูงกว่า GT-R รุ่นปกติ ด้วยการปรับแต่งเครื่องยนต์และระบบต่าง ๆ เพื่อให้กำลังขับเคลื่อนดียิ่งขึ้น ในด้านชุดแต่งตัวถัง GT-R NISMO ใช้วัสดุน้ำหนักเบา เช่น คาร์บอนไฟเบอร์ ช่วยลดน้ำหนักรถ ส่งผลให้ความเร็วและการควบคุมรถดีขึ้น โดยเฉพาะในการเร่งและเข้าโค้ง ส่วนระบบช่วงล่าง GT-R NISMO ติดตั้งช่วงล่างเวอร์ชันพรีเมียม สามารถรองรับสภาพถนนที่ซับซ้อนและการขับขี่ที่รุนแรงได้ดี ให้การหนุนรับและความมั่นคงสูงขณะขับด้วยความเร็วสูงหรือเข้าโค้งอย่างรวดเร็ว สรุปคือ GT-R NISMO เป็นการอัพเกรดแบบครบวงจรจาก GT-R เพื่อตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการสมรรถนะและประสบการณ์ขับขี่ที่เหนือชั้นกว่า
Q
Tesla มันเร็วกว่า GT-R หรือไม่
ไม่สามารถสรุปได้ง่าย ๆ ว่าเทสล่าจะเร็วกว่าหรือช้ากว่า GT-R เพราะประสิทธิภาพการเร่งความเร็วและความเร็วสูงสุดขึ้นอยู่กับแต่ละรุ่นของรถ GT-R เป็นรถสปอร์ตสมรรถนะสูงของนิสสัน ที่มักติดตั้งเครื่องยนต์ V6 3.8 ลิตร เทอร์โบคู่ มีสมรรถนะแรงม้าโดดเด่น เช่น บางรุ่นทำเวลาเร่ง 0-100 กม./ชม. ได้ประมาณ 2.7 วินาที และความเร็วสูงสุดถึง 315 กม./ชม. ขณะที่เทสล่ามีหลายรุ่น เช่น Model S P100D ที่ทำเวลาเร่ง 0-100 กม./ชม. ได้ราว 2.5 วินาที ซึ่งในด้านการเร่งความเร็ว อาจเร็วกว่าบางรุ่นของ GT-R แต่การเปรียบเทียบความเร็วยังขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น สภาพแวดล้อมการขับขี่ น้ำหนักบรรทุก และทักษะผู้ขับขี่ ดังนั้นในสถานการณ์และเงื่อนไขที่แตกต่างกัน สมรรถนะความเร็วของทั้งสองรถอาจแตกต่างกัน จึงไม่สามารถตัดสินได้ว่าเทสล่าจะเร็วกว่า GT-R เสมอไป
Q
GT-R วิ่งเร็วกว่า Supra หรือไม่
โดยทั่วไปแล้ว Nissan GT-R มักจะเร็วกว่ารถ Toyota Supra ในด้านสมรรถนะเครื่องยนต์ GT-R ติดตั้งเครื่องยนต์ V6 ขนาด 3.8 ลิตร เทอร์โบคู่ ให้กำลังสูงสุดถึง 555 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 632 นิวตันเมตร ขณะที่ Supra ใช้เครื่องยนต์ 6 สูบเรียง ขนาด 3.0 ลิตร เทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 340 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร ซึ่ง GT-R มีทั้งแรงม้าและแรงบิดที่สูงกว่า ในเรื่องของอัตราเร่ง GT-R ทำความเร็ว 0-100 กม./ชม. ได้ภายในประมาณ 2.7 วินาที ขณะที่ Supra ใช้เวลาประมาณ 4.1 วินาที ความเร็วสูงสุดของ GT-R อยู่ที่ราว 315 กม./ชม. ส่วน Supra อยู่ที่ประมาณ 250 กม./ชม. อย่างไรก็ตาม ในการขับขี่จริง ความเร็วยังขึ้นอยู่กับสภาพถนน เทคนิคการขับขี่ และปัจจัยอื่น ๆ นอกจากนี้ ทั้งสองรุ่นยังมีจุดเด่นในด้านการควบคุมและความปลอดภัยที่แตกต่างกัน จึงไม่สามารถตัดสินได้เพียงแค่ความเร็วว่าใครดีกว่ากันครับ
Q
GT-R มีเทอร์โบคู่หรือไม่
ใช่ครับ Nissan GT-R ติดตั้งระบบเทอร์โบคู่ เครื่องยนต์ V6 ขนาด 3.8 ลิตร รุ่น VR38DETT ซึ่งพัฒนามาจากเครื่องยนต์ VQ ของนิสสันที่ได้รับคำชื่นชมอย่างกว้างขวาง ระบบเทอร์โบคู่ช่วยให้เครื่องยนต์สามารถรีดกำลังสูงสุดได้ที่ 6400 รอบต่อนาที และให้แรงบิดสูงในช่วงรอบเครื่องยนต์ 3200 ถึง 6000 รอบต่อนาที เทคโนโลยีเทอร์โบคู่ช่วยเพิ่มสมรรถนะทั้งกำลังและแรงบิดของเครื่องยนต์ ส่งผลให้ GT-R มีสมรรถนะการเร่งความเร็วที่โดดเด่นและแรงขับเคลื่อนที่ทรงพลัง ไม่ว่าจะขับขี่ในชีวิตประจำวันหรือในสนามแข่ง ก็สามารถแสดงศักยภาพของรถสปอร์ตระดับสูงได้อย่างเต็มที่ มอบประสบการณ์การขับขี่ที่แตกต่างและเร้าใจแก่ผู้ขับขี่ครับ
Q
GT-R ดีต่อการใช้แก๊สหรือไม่
Nissan GT-R รถสปอร์ตสมรรถนะสูงรุ่นนี้แนะนำให้ใช้น้ำมันเบนซิน 95 หรือสูงกว่าเพื่อรับประกันสมรรถนะและความน่าเชื่อถือของเครื่องยนต์ แม้ว่าจะสามารถใช้น้ำมันเบนซิน 91 ได้ในระยะสั้น แต่เมื่อใช้งานในประเทศไทยระยะยาวควรเลือกใช้น้ำมันเบนซินที่มีเลขออกเทนสูงเพื่อป้องกันการน็อกของเครื่องยนต์และรักษาระบบเทอร์โบชาร์จเจอร์ ปั๊มน้ำมันในประเทศไทยโดยทั่วไปมีน้ำมันเบนซิน 95 เช่น PTT 95 หรือ Bangchak E20 Gasohol รวมทั้งน้ำมันแก๊สโซฮอล์และดีเซล แต่เครื่องยนต์เทอร์โบที่มีอัตราส่วนการอัดสูงของ GT-R ไม่เหมาะกับน้ำมัน E20 หรือดีเซล ดังนั้นควรเลือกใช้น้ำมันเบนซิน 95 หรือ 98 ที่บริสุทธิ์เพื่อลดผลกระทบจากเอทานอลต่อระบบเชื้อเพลิง หากต้องการเพิ่มสมรรถนะ บางอู่แต่งรถในไทยยังแนะนำให้น้ำมันเชื้อเพลิงสูตรแข่งหรือสารเติมแต่งเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการเผาไหม้ แต่ควรปฏิบัติตามคำแนะนำในคู่มือรถเพื่อให้รถมีประสิทธิภาพและเสถียรภาพในระยะยาว
Q
GT-R จะใช้งานได้นานเท่าไหร่
Nissan GT-R ไม่มีระยะเวลาการใช้งานที่แน่นอน เพราะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย รุ่นปัจจุบันคือรุ่น R35 ซึ่งเปิดตัวในปี 2007 และมีอายุการใช้งานประมาณ 17 ปีจนถึงปัจจุบัน โดย Nissan ยืนยันว่าการผลิตรุ่น R35 จะสิ้นสุดในเดือนตุลาคม 2024 หากใช้งานตามปกติและดูแลรักษาอย่างดี รถ GT-R สามารถใช้งานได้ประมาณ 10 ถึง 15 ปี เช่น การบำรุงรักษาตามระยะเวลาที่กำหนด เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องและไส้กรองอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงซ่อมแซมปัญหาเล็กน้อยที่เกิดขึ้นทันเวลา จะช่วยยืดอายุการใช้งานของรถได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ถ้าใช้งานในสภาพแวดล้อมที่เลวร้าย มีนิสัยการขับขี่ที่ไม่ดี และขาดการดูแลรักษาที่เหมาะสม อายุการใช้งานอาจลดลงอย่างมาก อาจเริ่มมีปัญหาและส่งผลต่อการใช้งานภายใน 5 ถึง 8 ปีเท่านั้น
Q
Nissan GT-R เป็นรถซูเปอร์คาร์หรือไม่
ใช่ครับ Nissan GT-R คือรถซูเปอร์คาร์รุ่นหนึ่งที่ผลิตโดย Nissan GT-R เป็นรถสปอร์ตสมรรถนะสูงที่มีความน่าเชื่อถือและมีกำลังแรงม้าสูง ซึ่งเดิมเป็นรุ่นท็อปของซีรีส์ Skyline RV ของ Nissan และปัจจุบันได้กลายเป็นรุ่นรถยนต์แยกต่างหาก GT-R ติดตั้งเครื่องยนต์ขนาด 3.8 ลิตรที่ให้กำลังแรงและแรงบิดสูง ช่วยให้เร่งความเร็วได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ยังมีสมรรถนะการควบคุมที่ยอดเยี่ยม ด้วยจุดศูนย์ถ่วงต่ำและระบบช่วงล่างที่ปรับแต่งอย่างดีเยี่ยม ทำให้มีความมั่นคงขณะเข้าโค้ง การออกแบบอากาศพลศาสตร์ช่วยให้รูปลักษณ์ดุดันและเพิ่มประสิทธิภาพการขับขี่ด้วยความเร็วสูง GT-R ได้ฝากผลงานที่โดดเด่นในวงการแข่งรถและได้รับความนิยมอย่างสูงในกลุ่มผู้ชื่นชอบรถยนต์ ยืนยันตำแหน่งซูเปอร์คาร์ของมันอย่างมั่นคง
Q&A ล่าสุด
Q
เครื่องยนต์ขนาดเท่าไหร่ที่อยู่ใน Ford Ranger รุ่นปี 2021?
รถกระบะ Ford Ranger รุ่นปี 2021 มีตัวเลือกเครื่องยนต์หลายแบบให้เลือกตามความต้องการ โดยเครื่องยนต์ที่นิยมที่สุดคือเครื่องดีเซลเทอร์โบ 2.0 ลิตร 4 สูบ ที่มีทั้งแบบเทอร์โบเดี่ยวและเทอร์โบคู่ รุ่นเทอร์โบเดี่ยวให้กำลังสูงสุดประมาณ 170 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 405 นิวตันเมตร ส่วนรุ่นเทอร์โบคู่จะแรงกว่ามาก ให้กำลังถึง 213 แรงม้าและแรงบิด 500 นิวตันเมตร เหมาะกับคนที่ต้องการบรรทุกหนักหรือลากจูงของเยอะ นอกจากนี้บางประเทศยังมีเครื่องยนต์เบนซิน 2.3 ลิตร 4 สูบ ให้กำลังสูงสุด 270 แรงม้า แรงบิด 420 นิวตันเมตรอีกด้วย เครื่องดีเซลของ Ranger นี่ประหยัดน้ำมันสุดๆ โดยเฉพาะแรงบิดต่ำๆ ที่ตอบโจทย์การขับทั้งในเมืองและทางไกล แถมยังออกแบบมาให้ทนทานและซ่อมบำรุงง่ายเป็นพิเศษ สำหรับเมืองร้อนแบบบ้านเรา ระบบระบายความร้อนก็ถูกปรับให้ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ Ranger เครื่องแรงแบบนี้ทั้งประหยัดและอุ้มงานได้ทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะใช้งานก่อสร้างหรือขนส่งการเกษตรก็เอาอยู่ ถือเป็นรถกระบะที่ตอบโจทย์ทั้งเรื่องแรงและการใช้งานในชีวิตประจำวันได้ดีที่สุดรุ่นหนึ่งในตลาดตอนนี้
Q
ฉันควรจ่ายเงินเท่าไรสำหรับ Ford Ranger ปี 2021?
ราคาขายมือสองของ Ford Ranger รุ่นปี 2021 จะแตกต่างกันไปตามสภาพรถ ระยะทาง อุปกรณ์ และพื้นที่ โดยทั่วไปแล้วในตลาดตอนนี้จะอยู่ที่ประมาณ 600,000 ถึง 900,000 บาท ถ้าเป็นรถที่ระยะทางน้อย (เช่น ไม่เกิน 30,000 กิโลเมตร) สภาพดี และเป็นเวอร์ชั่นอุปกรณ์สูง ราคาอาจจะพุ่งไปถึง 9 แสนบาท ส่วนรถที่ระยะทางสูงหรือเป็นแบบพื้นฐานก็จะถูกลง แนะนำให้ตรวจสอบราคาปัจจุบันผ่านแพลตฟอร์มขายมือสองหรือตัวแทนจำหน่ายในพื้นที่ก่อนซื้อ และควรให้ช่างตรวจสอบสภาพรถให้ละเอียด Ranger เป็นปิคอัพที่ทนทานและใช้งานได้หลากหลาย ได้รับความนิยมในไทย โดยเฉพาะสำหรับการใช้ชีวิตประจำวันหรือขับออฟโรดเล็กน้อย ระบบเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 2.0 ลิตรคู่กับเกียร์ออโต้ 10 สปีด ให้ทั้งพลังและประหยัดน้ำมัน แถมค่าบำรุงรักษาก็ไม่แรงและหาอะไหล่ได้ง่าย นับเป็นจุดเด่นที่น่าจับตา ก่อนตัดสินใจก็ลองเปรียบเทียบกับรุ่นอื่นในระดับเดียวกันอย่าง Toyota Hilux หรือ Isuzu D-MAX ได้ แต่สุดท้ายแล้วควรเลือกให้ตรงกับความต้องการและงบประมาณของตัวเองเป็นหลัก
Q
รถ Ford Ranger ปี 2021 ดีไหม?
2021 Ford Ranger เป็นรถกระบะขนาดกลางที่ความน่าเชื่อถือสูง เหมาะกับหลายสถานการณ์ทั้งขับขี่ในเมืองและลุยเส้นทางออฟโรดเล็กน้อย ตัวรถมาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 2.0 ลิตร หรือเครื่องเบนซินเทอร์โบ 2.3 ลิตร ที่ให้สมรรถนะสมดุลและประหยัดน้ำมัน โดยรุ่นดีเซลจะประหยัดกว่าสำหรับการเดินทางไกล ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง เบาะนั่งสบายตัว พร้อมระบบความบันเทิง SYNC 3 ที่รองรับทั้ง Apple CarPlay และ Android Auto ทำให้ใช้งานได้สะดวก ระบบช่วงล่างถูกตั้งค่าให้เน้นความนุ่มสบาย แต่ยังคงความมั่นคงเมื่อบรรทุกของหรือขับออฟโรด ข้อควรรู้คือวัสดุภายในห้องโดยสารเป็นพลาสติกแข็งที่ดูไม่หรูเท่ารุ่นคู่แข่ง แต่ทนทานแน่นอน ส่วนเรื่องค่าตัวในตลาดมือสองอยู่ระดับกลาง ค่าบำรุงรักษาไม่แพง และหาอะไหล่ได้ง่าย ถ้าคิดจะซื้อมือสองแนะนำให้ตรวจสอบสภาพช่วงล่างและประวัติการดูแลเครื่องยนต์กับเกียร์ให้ดี เพราะรถกระบะมักถูกใช้งานหนัก พูดถึงความสามารถด้านออฟโรด รุ่นนี้ทำได้ดีกว่ารถ SUV เมืองทั่วไปแต่สู้รุ่นออฟโรดเฉพาะทางไม่ได้ เหมาะกับคนที่ต้องการใช้ทั้งงานบ้านและขนของเป็นครั้งคราว
Q
รถ Ford Ranger รุ่นปี 2021 มีคะแนนความปลอดภัยที่ดีหรือไม่?
2021 Ford Ranger ถือว่าทำได้ดีในเรื่องความปลอดภัย ได้รับการยอมรับจากหลายสถาบันทดสอบระดับโลก อย่างเช่นผลทดสอบจาก ANCAP ที่ได้คะแนน 5 ดาว ส่วนใหญ่ต้องขอบคุณโครงสร้างตัวถังที่แข็งแรงและระบบความปลอดภัยครบครัน ทั้งถุงลมนิรภัยหลายจุด ระบบควบคุมเสถียรภาพอิเล็กทรอนิกส์ ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ และระบบช่วยรักษาช่องทางเดินรถ ซึ่งช่วยเพิ่มความปลอดภัยได้ดีเวลาขับขี่ประจำวัน โดยเฉพาะในเมืองที่รถเยอะหรือเวลาขับทางไกลบนไฮเวย์ นอกจากนี้ เรนเจอร์ยังมีกล้องถอยหลังและระบบเตือนจุดบอด ช่วยคนขับที่ต้องเจอรถติดบ่อยหรือจอดในที่แคบได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ยังมีระบบช่วยเหลือการขับขี่ขั้นสูง เช่น Option Adaptive Cruise และภาพพาโนรามา 360 องศา ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงอุบัติเหตุได้อีก โครงสร้างรถปิคอัพอย่างเรนเจอร์มักจะเน้นความแข็งแรงของตัวถังเป็นพิเศษ ทำให้ผลทดสอบการชนออกมาได้ดี เหมาะกับคนที่ใส่ใจเรื่องความปลอดภัยของรถเป็นพิเศษ
Q
ระบบเกียร์ที่อยู่ใน Ford Ranger ปี 2021 คืออะไร?
รถ Ford Ranger รุ่นปี 2021 ในตลาดท้องถิ่นมีตัวเลือกเกียร์หลักๆ 2 แบบคือ เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีดและเกียร์ธรรมดา 6 สปีด โดยรุ่นเกียร์อัตโนมัติเป็นที่นิยมมากกว่าเพราะใช้งานในเมืองที่รถติดหรือขับทางไกลได้สะดวกกว่า เกียร์รุ่นนี้ใช้เทคโนโลยีส่งกำลังที่พัฒนามาอย่างดี เปลี่ยนเกียร์ได้ลื่นๆ ประหยัดน้ำมันอยู่ในระดับดีเมื่อเทียบกับรถระดับเดียวกัน โดยเฉพาะเหมาะสำหรับคนที่ต้องขนของหรือลากจูงบ่อยๆ ส่วนคนที่ชอบความรู้สึกในการควบคุมรถ รุ่นเกียร์ธรรมดาจะให้สัมผัสการขับที่ตรงไปตรงมาและค่าบำรุงรักษาก็ถูกกว่า ด้วย ข้อสังเกตสำคัญคือเกียร์รุ่นนี้ออกแบบมาโดยคำนึงถึงสภาพอากาศร้อนเป็นพิเศษ ระบบระบายความร้อนได้รับการปรับแต่งให้ทำงานได้เสถียรแม้ขับนานในอากาศร้อนจัด ถ้าอยากได้เกียร์ที่ทันสมัยขึ้นอาจเลือกรุ่นพิเศษที่อาจติดตั้งเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด แต่ราคาก็จะสูงขึ้นตาม สำหรับการใช้งานประจำวัน แนะนำให้เปลี่ยนน้ำมันเกียร์ตามกำหนด โดยเฉพาะถ้าต้องขับออฟโรดหรือบรรทุกหนักบ่อยๆ จะช่วยยืดอายุการใช้งานเกียร์ได้ดี
ดูเพิ่มเติมข่าวที่เกี่ยวข้อง

รถ Nissan R35 GT-R คันสุดท้ายออกจากสายการผลิตอย่างเป็นทางการ สิ้นสุดช่วงการผลิต 18 ปี
พงศธรAug 28, 2025

ปัจจุบัน GT-R (R35) จะยุติการผลิตในเดือนสิงหาคม 2025 และในอนาคตอาจเปิดตัว GT-R เวอร์ชันไฮบริด
LienAug 14, 2025

Nissan รุ่นต่อไปของ GT-R จะใช้ระบบพลังงานผสม ภายใน 3-5 ปีจะเข้าตลาด
ธนวัฒน์Apr 23, 2025

Nissan ปิดการสั่งซื้อ GT-R R35 รถแข่งญี่ปุ่นกำลังสูญเสียในยุคของรถยนต์ไฟฟ้า
สุรเดชMar 5, 2025

การกลับมาของรุ่นคลาสสิค: นิสสัน GTR T-Spec เปิดตัวในมหกรรมยานยนต์ในกรุงเทพฯ
AshleyMar 20, 2024
ดูเพิ่มเติม


ข้อดี
ข้อเสีย