Q

รถยนต์ Toyota Commuter ราคาเท่าไร?

โตโยต้า คอมมิวเตอร์ ดีเซล 2.8 อัตโนมัติ ราคาขาย 1,369,000 บาท ส่วนดีเซล 2.8 มานวล ราคาขาย 1,339,000 บาท
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto

Q&A เกี่ยวข้อง

Q
รถ Toyota Commuter น่าจะเหมาะกับธุรกิจประเภทใด
โตโยต้า คอมมิวเตอร์ ในประเทศไทยเหมาะกับหลายประเภทธุรกิจ เช่น ใช้เป็นรถรับส่งพนักงานสำหรับธุรกิจขนาดเล็ก เพราะมีพื้นที่ภายในกว้างขวางสามารถรองรับผู้โดยสารได้มาก นอกจากนี้ยังเหมาะกับธุรกิจขนส่งสินค้า เนื่องจากมีความสามารถในการบรรทุกสินค้าที่มากพอในการขนส่งพื้นฐาน นอกจากนี้ ในธุรกิจบริการเช่ารถ โตโยต้า คอมมิวเตอร์ ยังเป็นที่นิยมด้วยความน่าเชื่อถือและความสะดวกสบาย โดยรวมแล้ว ความหลากหลายในการใช้งานทำให้โตโยต้า คอมมิวเตอร์ เป็นรถที่เหมาะสมสำหรับธุรกิจหลายประเภทในประเทศไทย
Q
Toyota Commuter มีสีอะไรให้เลือกบ้าง
โตโยต้า คอมมิวเตอร์ มีให้เลือกสองสีหลัก คือ สีขาว (White) และสีเงินไมก้าเมทัลลิก (Silver Mica Metallic)
Q
ราคาโตโยต้าคอมมิวเตอร์มือสองเท่าไหร่
ราคารถมือสองของโตโยต้าแตกต่างกันไปตามรุ่น อายุรถ ระยะทาง และสภาพของรถ รุ่นยอดนิยมของโตโยต้า เช่น คอโรลล่า อัลติส ราคามือสองอาจอยู่ระหว่าง 200,000 บาท ถึง 600,000 บาท ส่วนแคมรี่ ราคามือสองมักจะอยู่ในช่วง 400,000 บาท ถึง 1,000,000 บาท แต่ราคาที่แท้จริงจะขึ้นอยู่กับสภาพของรถแต่ละคัน
Q
"Toyota Commuter มีเครื่องยนต์ขนาดเท่าไหร่
Toyota Commuter 常见的发动机排量通常为 2.8 升。
Q
Toyota Commuter มีระบบความปลอดภัยอย่างไรบ้าง
โตโยต้า คอมมิวเตอร์ มักจะมาพร้อมกับระบบความปลอดภัยหลายระบบ เช่น ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (ABS) ระบบกระจายแรงเบรกอิเล็กทรอนิกส์ (EBD) และระบบช่วยเบรก (BA) เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ส่วนรุ่นที่มีการตั้งค่ามากขึ้นอาจมาพร้อมกับระบบควบคุมเสถียรภาพของรถ (VSC) ระบบควบคุมการลาก (TCS) และถุงลมนิรภัยหลายใบ เพื่อให้การปกป้องด้านความปลอดภัยที่ครบถ้วนมากขึ้น
Q
โตโยต้าคอมมิวเตอร์มีรุ่นเกียร์ธรรมดาหรือไม่
โตโยต้า (Toyota) มีรถหลายรุ่นที่บางรุ่นมาพร้อมกับเกียร์ธรรมดา แต่การตั้งค่าจะแตกต่างกันไปตามแต่ละรุ่น รถบางรุ่นที่เป็นที่นิยม เช่น คอโรลล่า (Corolla) และแคมรี่ (Camry) ในตลาดไทยมีทั้งรุ่นเกียร์อัตโนมัติและเกียร์ธรรมดาให้เลือก อย่างไรก็ตาม สำหรับรุ่นใหม่และข้อมูลการตั้งค่าเฉพาะ ควรตรวจสอบข้อมูลที่ถูกต้องจากเว็บไซต์ทางการของโตโยต้าในประเทศไทยหรือจากตัวแทนจำหน่ายในพื้นที่
Q
Toyota Commuter แตกต่างจาก Toyota Hiace อย่างไร
โตโยต้า คอมมิวเตอร์ และโตโยต้า ไฮเอซ มีความแตกต่างในหลายด้าน ก่อนอื่นในแง่ของขนาดตัวรถ โตโยต้า ไฮเอซ มักจะมีขนาดใหญ่กว่า และให้พื้นที่ภายในที่กว้างขวางกว่า ส่วนการตั้งค่ากำลังเครื่องยนต์ทั้งสองรุ่นก็แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับรุ่นและการตั้งค่า การออกแบบภายนอก โตโยต้า คอมมิวเตอร์ จะเน้นความเรียบง่ายเหมาะสำหรับการเดินทางในเมือง ส่วนโตโยต้า ไฮเอซ ดูมีความหรูหราและมั่นคงมากกว่า ในเรื่องของการใช้งาน โตโยต้า คอมมิวเตอร์ มักใช้สำหรับการขนส่งผู้โดยสารในเมืองและการเดินทางขององค์กร ขณะที่โตโยต้า ไฮเอซ ใช้ทั้งในด้านการขนส่งผู้โดยสารและการขนส่งสินค้าในหลากหลายธุรกิจ โดยรวมแล้วความแตกต่างขึ้นอยู่กับรุ่นและการตั้งค่าเฉพาะ
Q
Toyota Commuter ประหยัดน้ำมันหรือไม่
โตโยต้า คอมมิวเตอร์ ในตลาดประเทศไทยมักมีความประหยัดน้ำมันที่ดี เทคโนโลยีเครื่องยนต์และการออกแบบโดยรวมของรถช่วยลดการใช้น้ำมัน อย่างไรก็ตาม ความประหยัดน้ำมันที่แท้จริงจะได้รับผลกระทบจากหลายปัจจัย เช่น พฤติกรรมการขับขี่ สภาพถนน และการบำรุงรักษารถ โดยทั่วไป หากผู้ขับขี่สามารถขับขี่อย่างราบรื่น วางแผนเส้นทางอย่างมีเหตุผล และดูแลรักษารถตามกำหนด โตโยต้า คอมมิวเตอร์ จะสามารถประหยัดน้ำมันได้ดี
Q
รถตู้ Toyota Commuter ควรเปลี่ยนเฟืองด้านหลังเป็นหมายเลขเท่าไหร่ครับ
การเลือกหมายเลขเกียร์หลังของรถตู้โตโยต้า คอมมิวเตอร์ มักจะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น การใช้งานของรถ ความต้องการของน้ำหนักบรรทุก เป็นต้น โดยทั่วไปการเลือกจะพิจารณาจากการตั้งค่าตามเดิมของรถและคำแนะนำจากผู้ผลิต
Q
ตู้ฟิวส์ของรถตู้ Toyota Hiace Commuter อยู่ที่ไหน
ตำแหน่งกล่องฟิวส์ของโตโยต้า ไฮเอซ คอมมิวเตอร์ ปกติจะอยู่ที่ใต้แผงหน้าปัดทางด้านซ้ายของที่นั่งคนขับ หรือภายในห้องเครื่อง ที่ใต้แผงหน้าปัดทางด้านซ้ายคุณอาจต้องเปิดแผ่นข้างเพื่อให้เห็นกล่องฟิวส์ ส่วนในห้องเครื่องมักจะมีสัญลักษณ์ที่ชัดเจนแสดงตำแหน่งกล่องฟิวส์ แต่ตำแหน่งที่แน่นอนอาจแตกต่างไปตามรุ่นและปีการผลิต

ข้อดี

ห้องโดยสารกว้างขวางและสบาย
เครื่องยนต์เชื่อถือได้ ดีไซน์ทันสมัย ไฟหน้าและไฟท้ายเข้ากันได้ดีกับภายนอก
พื้นที่ภายในรถกว้างขวาง มีแอร์ทุกแถว ดีไซน์คอนโซลกลางที่ง่ายต่อการควบคุม ระบบความปลอดภัยครบครัน
เครื่องยนต์มีสมรรถนะดี ใช้เครื่องยนต์ดีเซล 2.8 ลิตร ระบบเปลี่ยนเกียร์อัตโนมัติ 6 ความเร็ว ประหยัดน้ำมัน
ชิ้นส่วนล่างนุ่ม มีความยืดหยุ่นในการขับขี่ มีมุมเลี้ยวที่กว้าง
การประกอบในประเทศไทย สามารถหาอะไหล่ได้ง่าย

ข้อเสีย

เครื่องยนต์ดีเซลยังไม่ได้ปรับแต่งอย่างสมบูรณ์
ขาดลักษณะสำคัญบางอย่าง ที่นั่งไม่สบาย โดยเฉพาะที่นั่งแถวที่ 2 และ 3 ซึ่งมีการออกแบบพับเก็บทำให้การนั่งไม่สบาย
การขับขี่โดยไม่มีโหลดทำให้รถสะอาดมากขึ้น โครงรถจะสั่นอย่างชัดเจน
การตอบสนองของเบรกเร็วเกินไป ซึ่งอาจทำให้เกิดการเบรกเฉียวและอุบัติเหตุ
ประสิทธิภาพในการโค้งไม่ดีควรระมัดระวังเมื่อขับขี่เร็วทำให้อาจจะเอียง
ขาดอุปกรณ์มาตรฐานบางอย่าง เช่น เทรนด์เบรค, กล้องถอยหลัง, ดิสก์พลูวาร์ตวิล, เครื่องเสียง, จำเป็นต้องติดตั้งเอง

Q&A ล่าสุด

Q
ราคาบริการของ Honda City Hatchback คือเท่าไหร่ ดูที่นี่ก่อนดีกว่า
ค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษารถ Honda City Hatchback ในประเทศไทยจะแตกต่างกันไปตามบริการและตัวแทนจำหน่ายที่เป็นทางการ โดยบริการพื้นฐานอย่างการเปลี่ยนน้ำมันเครื่องและเปลี่ยนไส้กรองอากาศจะอยู่ที่ประมาณ 2,500-4,500 บาท อย่างไรก็ตามเพื่อความแม่นยำแนะนำให้ติดต่อสอบถามราคากับทางอู่ Honda 4S ที่ใกล้ที่สุด ในไทยเรามีเครือข่ายบริการหลังการขายที่ครอบคลุม ทำให้เจ้าของรถสามารถรับบริการจากช่างมืออาชีพได้อย่างสะดวกสบาย แถมการเข้าศูนย์บริการเป็นประจำยังช่วยรักษาประสิทธิภาพของรถและยืดอายุการใช้งานอีกด้วย พูดถึง Honda City Hatchback ในตลาดไทยต้องบอกว่าเป็นรุ่นที่ได้รับความนิยมไม่น้อย ด้วยความประหยัดและการใช้งานที่ตอบโจทย์ ทำให้ค่าบำรุงรักษาก็ถือว่าสมเหตุสมผล เหมาะกับการใช้งานประจำวันเป็นอย่างดี และถ้าเลือกใช้เฉพาะอะไหล่แท้จากศูนย์บริการอย่างถูก渠道 นอกจากจะได้ความมั่นใจแล้ว ยังช่วยรักษาสิทธิ์การรับประกันไม่ให้เสียหายอีกด้วย จริงๆ แล้วในระยะยาวนี่คือทางเลือกที่คุ้มค่าและน่าเชื่อถือที่สุดแล้วล่ะ
Q
ค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษารถ Honda City Hatchback คือเท่าไหร่ ดูรายละเอียดที่นี่
รถฮอนด้า ซีตี้ แฮทช์แบคในไทยมีค่าใช้สอยเรื่องการดูแลรักษาที่สมเหตุสมผล เหมาะกับคนที่อยากประหยัด โดยการบริการครั้งแรกจะทำเมื่อขับถึง 1,000 กิโลเมตร ค่าใช้จ่ายประมาณ 1,500-2,000 บาท รวมค่าถ่ายน้ำมันเครื่องและเปลี่ยนไส้กรองอากาศ ส่วนการบริการตามระยะจะทำทุก 1 หมื่นกิโลเมตรหรือทุก 6 เดือน ค่าบริการปกติประมาณ 2,500-3,000 บาท ส่วนการบริการใหญ่จะทำเมื่อขับถึงประมาณ 4 หมื่นกิโลเมตร ค่าใช้จ่ายอาจสูงถึง 5,000-7,000 บาท ขึ้นอยู่กับว่าต้องเปลี่ยนอะไหล่อะไรบ้าง ในไทยฮอนด้ามีศูนย์บริการกระจายอยู่ทั่วประเทศ หาไม่ยาก แถมสะดวกด้วย นอกจากนี้ควรตรวจสอบยางและเบรกเป็นประจำเพราะอากาศร้อนชื้นของไทยอาจทำให้ชิ้นส่วนเหล่านี้เสื่อมเร็วขึ้น ถ้าอยากประหยัดค่าใช้จ่ายมากขึ้น ลองซื้อแพ็กเกจบริการของฮอนด้า ซึ่งมักจะมีส่วนลดให้ ที่สำคัญการดูแลรักษาตามคู่มือแนะนำไม่เพียงแต่ช่วยยืดอายุรถ แต่ยังช่วยรักษามูลค่าเวลาขายต่อ ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญมากในตลาดรถมือสองของไทย
Q
ขนาดล้อของ Honda City Hatchback คือเท่าไหร่
สำหรับ Honda City Hatchback ในเรื่องของขนาดล้อ ยกเว้นรุ่นสูงสุด RS ที่มาพร้อมกับล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้วแบบเฉพาะแล้ว รุ่นอื่นๆ ทุกรุ่นจะใช้ล้อขนาด 15 นิ้วตามมาตรฐาน การที่แต่ละรุ่นมีขนาดล้อแตกต่างกันนี่เป็นผลจากการออกแบบโดยคำนึงถึงสมรรถนะโดยรวมของรถเป็นหลัก ล้อขนาดใหญ่กว่าอย่างล้อ 16 นิ้วในรุ่น RS จะช่วยเพิ่มแรงยึดเกาะและความมั่นคงให้กับรถ ทำให้การควบคุมรถดีขึ้น เหมาะกับสไตล์การขับแบบสปอร์ตที่รุ่น RS เน้นเป็นพิเศษ ส่วนล้อ 15 นิ้วนั้นถูกออกแบบมาเพื่อความสะดวกสบายและประหยัดน้ำมัน เหมาะกับการใช้งานทั่วไปในเมืองและการขับขี่ประจำวันของผู้ใช้ส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นล้อขนาดไหนก็ผ่านการปรับแต่งมาเป็นอย่างดีเพื่อให้ทำงานเข้ากันได้ดีกับระบบช่วงล่างและระบบอื่นๆ ของรถ เพื่อให้ได้สมดุลระหว่างประสบการณ์การขับขี่และสมรรถนะของรถอย่างลงตัว
Q
รุ่นที่แตกต่างกันของ Honda City Hatchback มีอะไรบ้าง
ฮอนด้า ซิตี้ แฮทช์แบ็กในตลาดไทยมีหลายรุ่นให้เลือกตามความต้องการของผู้ใช้หลักๆ แล้วจะมี 4 เวอร์ชันคือ S, V, SV และ RS รุ่น S เป็นรุ่นเริ่มต้น มาพร้อมกับฟีเจอร์ความปลอดภัยพื้นฐานเช่นถุงลมนิรภัย 2 ตัวและระบบเบรก ABS เหมาะสำหรับคนที่ต้องการใช้รถในงบจำกัด ส่วนรุ่น V จะเพิ่มความสะดวกขึ้นมาอีกหน่อยด้วยกุญแจอัจฉริยะและกล้องถอยหลัง ช่วยอำนวยความสะดวกเวลาใช้งานในชีวิตประจำวัน รุ่น SV จะอัพเกรดทั้งวัสดุภายในห้องโดยสารและเทคโนโลยี เช่น จอสัมผัสขนาดใหญ่ขึ้นและถุงลมนิรภัยเพิ่มเติม เหมาะสำหรับครอบครัวที่มองหาความคุ้มค่า สุดท้ายรุ่น RS ที่เป็นรุ่นสปอร์ตสุดพิเศษ มาพร้อมกับชุดแต่งเอกลักษณ์ เบาะสปอร์ตและระบบช่วยขับขี่ขั้นสูง ดึงดูดกลุ่มลูกค้าวัยรุ่นที่ชอบความสปอร์ต ในตลาดไทย ซิตี้ แฮทช์แบ็กคันนี้ขายดีเพราะขับง่ายและประหยัดน้ำมัน โดยเฉพาะในสภาพการจราจรติดขัดอย่างในกรุงเทพฯ แถมฮอนด้ายังมีสีรถให้เลือกหลายเฉดและโปรแกรมผ่อนชำระที่ตอบโจทย์คนไทยอีกด้วย ที่สำคัญคือรุ่นไทยยังได้รับการปรับปรุงระบบแอร์ให้เย็นฉ่ำในอากาศร้อนแบบบ้านเรา และเพิ่มความสูงของช่วงล่างเพื่อให้เหมาะกับสภาพถนนบางพื้นที่ นี่คือการออกแบบเฉพาะสำหรับตลาดไทยที่แสดงให้เห็นว่าฮอนด้าใส่ใจลูกค้าชาวไทยจริงๆ
Q
ฮอนด้าซิตี้แฮทช์แบคหนักเท่าไหร่
Honda City Hatchback ซึ่งเป็นรถยนต์แฮทช์แบ็กรุ่นยอดนิยมในตลาดประเทศไทย มีน้ำหนักตัวรถแตกต่างกันไปตามแต่ละรุ่น โดยอยู่ในช่วงประมาณ 1,100 ถึง 1,200 กิโลกรัม ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับขุมพลังที่เลือกใช้ เช่น เครื่องยนต์เทอร์โบ 1.0 ลิตร หรือเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร แบบไม่มีระบบอัดอากาศ รวมถึงอุปกรณ์เสริมต่างๆ เช่น หลังคาซันรูฟ หรือระบบเครื่องเสียงระดับพรีเมียม น้ำหนักที่เบากว่าช่วยให้ประหยัดน้ำมันมากขึ้น และเพิ่มความคล่องตัวในการขับขี่ ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งสำหรับสภาพจราจรที่ติดขัดและการขับขี่ที่ต้องหยุด-ออกตัวบ่อยในเมืองไทย นอกจากนี้ การกระจายน้ำหนักของตัวรถยังเป็นสิ่งที่วิศวกรฮอนด้าให้ความสำคัญ โดยมีการออกแบบแชสซีและเลือกใช้วัสดุอย่างเหมาะสม เพื่อให้รถมีความมั่นคงในขณะเข้าโค้ง และให้ความนุ่มนวลขณะโดยสาร จุดเด่นเหล่านี้ทำให้ City Hatchback มีสมรรถนะที่ดีบนถนนที่มีโค้งมากหรือพื้นถนนเปียกในเมืองไทย สำหรับผู้บริโภคชาวไทย การเลือกใช้รถที่มีน้ำหนักพอดี ไม่มากเกินไป ไม่เบาเกินไป ถือเป็นทางเลือกที่ช่วยลดค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน พร้อมทั้งให้ความสนุกในการขับขี่และความปลอดภัย ซึ่ง Honda City Hatchback คือหนึ่งในตัวเลือกที่ตอบโจทย์ความต้องการเหล่านี้ได้อย่างลงตัว
ดูเพิ่มเติม