Q

Toyota Alphard ราคาเท่าไร?

ตอนนี้ในตลาดไทย รถ Toyota Alphard มีราคาอยู่ที่ประมาณ 2,999,000 บาท ถึง 4,499,000 บาท แล้วแต่รุ่นและอุปกรณ์เสริมที่เลือก ซึ่งราคาก็อาจจะขึ้นลงนิดหน่อยตามโปรโมชั่นของตัวแทนจำหน่ายหรือการเพิ่มอุปกรณ์เสริม Alphard เป็นรถ MPV ระดับไฮเอนด์ที่โด่งดังมากในไทย เพราะมีพื้นที่กว้างขวาง ภายในหรูหรา และขับขี่สบาย เหมาะทั้งสำหรับครอบครัวและรับรองลูกค้า ในไทยจะมีให้เลือกสองแบบคือระบบไฮบริด 2.5 ลิตร และเครื่องยนต์เบนซิน V6 3.5 ลิตร ที่ทั้งประหยัดและแรงดี แต่ต้องบอกเลยว่าราคาค่อนข้างสูงเพราะไทยจัดเก็บภาษีนำเข้าสูงอยู่ ถ้าสนใจอยากได้ แนะนำให้ไปทดลองขับและสอบถามโปรโมชั่นล่าสุดที่ตัวแทนจำหน่ายโตโยต้าใกล้บ้าน แล้วก็ลองเปรียบเทียบกับรุ่นอื่นในระดับเดียวกันอย่าง Honda Odyssey หรือ Nissan Elgrand เพื่อเลือกรถที่ตอบโจทย์ที่สุด
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto

Q&A เกี่ยวข้อง

Q
ทำไม Toyota Alphard มีโลโก้ที่แตกต่างกัน
เรื่องของรถ Toyota Alphard ที่ใช้โลโก้ต่างกันในแต่ละตลาดนั้น เป็นเรื่องของกลยุทธ์การตลาดและความชอบของผู้บริโภคในแต่ละพื้นที่ ในตลาดไทย Alphard มักใช้โลโก้แบบ "หัววัว" แบบดั้งเดิมของโตโยต้า ส่วนในตลาดญี่ปุ่นหรือบางประเทศในเอเชีย อาจจะเห็นโลโก้พิเศษของอัลฟาร์ดเอง ซึ่งการออกแบบที่แตกต่างนี้เพื่อเน้นตำแหน่งรถระดับพรีเมียมหรือให้ตรงกับรสนิยมของคนท้องถิ่น กลยุทธ์การใช้หลายโลโก้แบบนี้ไม่ใช่เรื่องแปลกในวงการรถยนต์ ยกตัวอย่างเช่น รถคราวน์หรือเอลฟ์ ก็มีลักษณะคล้ายกัน ซึ่งช่วยรักษาเอกลักษณ์ของแบรนด์แต่ก็ยังแสดงถึงความแตกต่างตามภูมิภาคได้ สำหรับผู้บริโภคไทยไม่ต้องกังวลเรื่องคุณภาพ เพราะไม่ว่าจะใช้โลโก้แบบไหน เทคโนโลยีหลักและกระบวนการผลิตก็ได้มาตรฐานเดียวกันทั่วโลก ส่วนที่สำคัญสำหรับตลาดไทยที่เป็นตลาดรถพวงมาลัยขวานั้น อัลฟาร์ดจะมีการปรับแต่งเฉพาะสำหรับสภาพอากาศร้อน เช่น ระบบแอร์ที่แรงขึ้นและการป้องกันสนิม ซึ่งการปรับแต่งเหล่านี้สำคัญกว่าเรื่องของโลโก้
Q
Toyota Alphard มือสอง ดีไหม
Toyota Alphard เป็น MPV ระดับพรีเมียมที่ได้รับความนิยมในตลาดรถมือสองของไทย ด้วยจุดเด่นเรื่องความสะดวกสบาย การใช้งานพื้นที่ภายใน และความทนทาน Alphard มาพร้อมกับห้องโดยสารกว้างขวางแบบ 7 ที่นั่ง วัสดุเบาะนั่งและดีไซน์เออร์โกโนมิกที่ออกแบบมาอย่างดี เหมาะสำหรับการเดินทางกับครอบครัวหรือรับรองลูกค้าในเชิงธุรกิจ นอกจากนี้ระบบแอร์และความเงียบของรถยังทำงานได้ดีเยี่ยมในสภาพอากาศร้อนของไทย ด้านสมรรถนะ Alphard มักติดตั้งเครื่องยนต์ 2.5L หรือ 3.5L คู่กับเกียร์ที่ทำงานลื่นไหล ให้ทั้งพลังและประหยัดน้ำมัน เหมาะกับสภาพการจราจรติดขัดในกรุงเทพฯ เมื่อซื้อรถมือสองควรตรวจสอบประวัติการบริการ ระยะทางที่ใช้งาน และประวัติอุบัติเหตุอย่างละเอียด โดยเฉพาะรุ่น Hybrid ต้องเช็คสภาพแบตเตอรี่ให้ดี ในตลาดไทย Alphard เป็นรถที่ทรงค่ามากและหาอะไหล่ได้ค่อนข้างง่าย แต่ควรซื้อผ่านช่องทางที่น่าเชื่อถือและตรวจสภาพรถกับผู้เชี่ยวชาญก่อน เมื่อเทียบกับ MPV ญี่ปุ่นรุ่นอื่นๆ Alphard จะโดดเด่นเรื่องความทนทานและความหรูหรา แต่ราคามือสองอาจสูงกว่า ควรพิจารณาตามงบประมาณและความต้องการของผู้ซื้อ
Q
Toyota Alphard มีความยาวเท่าใด
Toyota Alphard เป็น MPV ระดับพรีเมียมที่ได้รับความนิยมสูงในตลาดไทย ด้วยความยาวตัวรถ 4,950 มม. (รุ่นที่ 3 ปี 2015-ปัจจุบัน) ขนาดนี้ช่วยให้มีพื้นที่กว้างขวางสำหรับเก้าอี้ 3 แถว ในขณะที่ยังคงความคล่องตัวสำหรับการขับขี่ในเมือง เหมาะกับไลฟ์สไตล์ครอบครัวหรือการรับรองเชิงธุรกิจในไทย ระยะฐานล้อ 3,000 มม. ช่วยเพิ่มความสบายสำหรับขาผู้โดยสาร ส่วนความกว้าง 1,850 มม. และความสูง 1,890 มม. ทำให้มีพื้นที่ด้านข้างและส่วนหัวมากกว่า เมื่อเทียบกับคู่แข่งอย่าง Honda Odyssey แล้ว Alphard ได้เปรียบในเรื่องความสูงตัวรถและประตูสไลด์ที่ทำให้ขึ้นลงสะดวกกว่า พิเศษสำหรับตลาดไทยที่นำเข้าเครื่องยนต์ทั้งแบบ 2.5L เบนซินและ 2.5L ไฮบริด ซึ่งรุ่นไฮบริดช่วยประหยัดน้ำมันได้ดีในเมืองติดขัดอย่างกรุงเทพฯ และยังได้สิทธิประโยชน์ทางภาษีตามนโยบายรถที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมของรัฐบาล เรื่องขนาดตัวรถอาจทำให้จอดในที่แคบลำบากหน่อย แนะนำให้เลือกรุ่นที่มีกล้องรอบคันช่วยเวลาจอดในที่ทึบๆแบบในไทยจะดีกว่า
Q
Toyota Alphard มีกี่ที่นั่ง?
Toyota Alphard คือรถยนต์ MPV ระดับไฮเอนด์ที่ได้รับความนิยมในตลาดประเทศไทย รุ่นมาตรฐานมีรูปแบบที่นั่งให้เลือกสองแบบ ได้แก่ 7 ที่นั่ง และ 8 ที่นั่ง โดยรุ่น 7 ที่นั่งจัดวางแบบ 2+2+3 ที่นั่ง พร้อมเบาะนั่งแถวที่สองแบบอิสระเหมือนที่นั่งเครื่องบิน ในขณะที่รุ่น 8 ที่นั่งจัดวางแบบ 2+3+3 ที่นั่ง ทำให้เหมาะสำหรับการเดินทางหลายคน ในประเทศไทยที่มีสภาพอากาศร้อน รถยนต์รุ่นนี้ได้รับการติดตั้งระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ 3 โซนและช่องระบายอากาศด้านหลังเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน เพื่อความสะดวกสบายในการขับขี่ ระยะฐานล้อ 2,850 มม. ให้พื้นที่วางขาที่กว้างขวางในแถวที่สาม ที่โดดเด่นคือ Alphard จากไทย โดดเด่นด้วยแชสซีและระบบช่วงล่างที่ได้รับการปรับปรุงเป็นพิเศษเพื่อให้เหมาะกับสภาพถนนในท้องถิ่น เครื่องยนต์ทั้ง 2.4 ลิตรและ 3.5 ลิตร ได้รับการปรับแต่งเป็นพิเศษเพื่อคงคุณภาพการขับขี่ที่นุ่มนวลและรักษาสมดุลการประหยัดน้ำมัน Alphard เป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับทั้งการใช้งานเพื่อธุรกิจและครอบครัว นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์เสริมที่ติดตั้งจากโรงงานในประเทศไทย เช่น วัสดุเบาะนั่งที่หรูหราขึ้นและระบบความบันเทิงที่อัปเกรดใหม่ สามารถปรับแต่งคุณสมบัติเหล่านี้ได้ที่ตัวแทนจำหน่ายในพื้นที่ ก่อนตัดสินใจซื้อ ขอแนะนำให้ทดลองนั่งในหลากหลายรูปแบบด้วยตนเอง และพิจารณาการใช้งานในชีวิตประจำวันของคุณ เพื่อเลือกรุ่นที่เหมาะสมที่สุด
Q
ความแตกต่างระหว่าง Toyota Alphard และ Vellfire คืออะไร
Toyota Alphard และ Vellfire คือ 2 รุ่น MPV ระดับไฮเอนด์จากค่ายโตโยต้า ที่ได้รับความนิยมมากในตลาดไทย ทั้งสองรุ่นใช้แพลตฟอร์มเดียวกันและโครงสร้างหลักแทบไม่ต่างกัน แต่จะแตกต่างที่ดีไซน์ภายนอกและกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย Alphard ออกแบบมาเพื่อความหรูหราอลังการ เน้นกริลล์โครเมียมขนาดใหญ่ด้านหน้า ให้ความรู้สึกเหมาะสำหรับการใช้งานระดับธุรกิจและครอบครัวไฮโซ ภายในห้องโดยสารใช้วัสดุคุณภาพสูง เน้นความสะดวกสบายเป็นพิเศษ เช่น ฟังก์ชันนวดของเบาะแถวสอง ส่วน Vellfire จะให้ความรู้สึกสปอร์ตและทันสมัยกว่า ด้วยไฟหน้าดีไซน์แบ่งส่วนและกริลล์ด้านหน้าที่ดูดุดัน ใช้โทนสีและดีเทลภายในที่โดดเด่น เหมาะสำหรับคนรุ่นใหม่ที่ชอบความแตกต่าง ในตลาดไทย Alphard มักถูกมองเป็นรถสำหรับธุรกิจอย่างเป็นทางการ ส่วน Vellfire จะเป็นที่นิยมในหมู่ครอบครัวรุ่นใหม่และคนส่วนตัว ทั้งสองรุ่นมีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์ 2.5L แบบเบนซินและแบบไฮบริด ที่ให้การขับขี่นุ่มลื่นและประหยัดน้ำมัน เหมาะกับสภาพการขับขี่ทั้งในเมืองและทางไกลของไทย ที่น่าสนใจคือลูกค้าสามารถเลือกลุคที่ชอบได้ผ่านการแต่งเพิ่มเติม เช่น ล้อแม็กส์ วัสดุภายใน หรือระบบเสียง เพื่อให้ตอบโจทย์สไตล์ส่วนตัว และด้วยอากาศร้อนของไทย ทั้งสองรุ่นจึงติดตั้งระบบแอร์ประสิทธิภาพสูงพร้อมฟิล์มกรองแสงประตูหลัง เพื่อเพิ่มความสบายในการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็น Alphard หรือ Vellfire ล้วนแสดงถึงความเหนือชั้นของโตโยต้าในวงการ MPV ที่ทั้งคุณภาพสูงและน่าเชื่อถือ จนกลายเป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับรถ MPV ระดับพรีเมียมในตลาดไทย
Q
Toyota Alphard คืออะไร
Toyota Alphard เป็นรถยนต์ระดับไฮเอนด์ประเภท MPV ที่ผลิตโดยโตโยต้า ได้รับความนิยมอย่างสูงจากความหรูหรา พร้อมพื้นที่ภายในที่กว้างขวางและความสะดวกสบาย อีกทั้งยังให้ประสบการณ์การขับขี่ที่ยอดเยี่ยม เหมาะสำหรับทั้งการเดินทางกับครอบครัวและการรับรองทางธุรกิจ ในตลาดไทย Alphard เป็นที่นิยมมากโดยเฉพาะรุ่น Hybrid ที่ทั้งประหยัดน้ำมันและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เหมาะสมกับสภาพการจราจรที่ติดขัดในเมืองอย่างกรุงเทพฯ ภายในห้องโดยสารตกแต่งด้วยวัสดุคุณภาพสูง พร้อมระบบความบันเทิงที่ทันสมัย และเบาะนั่งที่สบาย โดยเฉพาะเบาะแถวสองที่สามารถปรับไฟฟ้าและมีฟังก์ชันนวดได้ ให้ความรู้สึกเหมือนนั่งบนรถระดับพรีเมียม นอกจากนี้ Alphard ยังมาพร้อมกับระบบความปลอดภัยที่ครบครัน ทั้งระบบป้องกันการชน ระบบช่วยรักษาเลน และระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ ทำให้มั่นใจได้ถึงความปลอดภัยในการเดินทาง ในประเทศไทย รถ Alphard มักถูกเลือกใช้โดยโรงแรมระดับสูงและบริษัทต่างๆ สำหรับบริการรับส่งลูกค้า ซึ่งสะท้อนถึงความน่าเชื่อถือและตำแหน่งแห่งที่ในตลาดรถ MPV หรู หากคุณกำลังมองหารถที่ตอบโจทย์ทั้งการใช้ในครอบครัวและความหรูหราสำหรับธุรกิจ Toyota Alphard นับเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจอย่างยิ่ง
Q
ราคาของ Toyota Alphard 2024 คือเท่าไหร่
Toyota Alphard 2024 ในไทยตอนนี้ราคาประเมินอยู่ที่ประมาณ 3,999,000 บาท ถึง 4,599,000 บาท ขึ้นอยู่กับแบบและอุปกรณ์เสริมที่เลือก ราคานี้เป็นราคาแนะนำจากโตโยต้าโดยตรง แต่จริงๆ แล้วอาจจะมีการปรับขึ้นลงนิดหน่อยตามตัวเลือกและโปรโมชั่นของแต่ละร้าน รถรุ่นนี้เป็น MPV หรูที่ขายดีมากในไทย เพราะว่าเบาะนั่งกว้างขวาง สะดวกสบาย แถมยังเต็มไปด้วยเทคโนโลยีสุดล้ำ ระบบขับเคลื่อนก็ใช้เครื่องยนต์ไฮบริด 2.5 ลิตร ที่ทั้งประหยัดน้ำมันและให้ความรู้สึกการขับขี่ที่ลื่นไหล ส่วนใหญ่คนไทยนิยมใช้ Alphard เป็นรถครอบครัวระดับพรีเมียมหรือรถรับรองลูกค้าในธุรกิจครับ แถมยังเป็นรถที่มูลค่าค่อนข้างทรงตัวดีด้วย ถ้าสนใจอยากซื้อ แนะนำให้ไปสอบถามที่โชว์รูมโตโยต้าใกล้บ้านเพื่อดูโปรโมชั่นล่าสุดและแผนผ่อนชำระ จะได้เปรียบเทียบกับรุ่นอื่นๆในระดับเดียวกันอย่าง Honda Odyssey หรือ Mercedes-Benz V-Class แต่ถ้าพูดถึงความกว้างขวางและความสบายแล้ว Alphard ยังคงเป็นตัวท็อปอยู่ดี อีกอย่างหนึ่งที่ทำให้รุ่นไฮบริดขายดีคือไทยมีนโยบายลดภาษีให้รถพลังงานสะอาดแบบนี้ด้วย
Q
ทำไม Toyota Alphard ถึงแพงเกินไป
เหตุผลที่ราคารถ Toyota Alphard ในประเทศไทยค่อนข้างสูงมีหลายประการ อย่างแรกเลยคือมันเป็นรถ MPV ระดับไฮเอนด์ที่ใช้เทคโนโลยีล่าสุดจากโตโยต้าและวัสดุคุณภาพสูง เช่น เก้าอี้ที่ออกแบบมาเพื่อความสบายและระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่อันทันสมัย ซึ่งสิ่งเหล่านี้ช่วยยกระดับประสบการณ์การใช้งานแต่ก็เพิ่มต้นทุนการผลิตไปด้วย ประการที่สอง Alphard ขายในประเทศไทยในรูปแบบนำเข้า ทำให้ต้องมีค่าภาษีและค่าขนส่งที่สูงขึ้น นอกจากนี้ในตลาดไทย Alphard ถูกวางตำแหน่งเป็นรถหรูสำหรับธุรกิจ แบรนด์และความต้องการของตลาดก็ส่งผลต่อราคาอีกด้วย สำหรับประเทศร้อนๆอย่างไทย Alphard ยังได้รับการปรับปรุงระบบแอร์และการป้องกันสนิมเป็นพิเศษเพื่อให้เหมาะกับสภาพอากาศที่นี่ ซึ่งรายละเอียดพวกนี้ก็เพิ่มต้นทุนเข้าไปอีก สิ่งที่น่าสนใจคือความต้องการรถเอ็มพีวีระดับสูงในไทยยังคงเติบโต โดยเฉพาะสำหรับการรับรองธุรกิจและการใช้งานในครอบครัว ทำให้ Alphard ยังขายดีแม้ราคาจะสูง ส่วนรุ่นอื่นๆ ในระดับเดียวกันอย่าง Honda Odyssey และ Mercedes-Benz V-Class ก็อยู่ในช่วงราคาใกล้เคียงกัน ผู้บริโภคสามารถเลือกได้ตามงบประมาณและความต้องการของตัวเอง
Q
Toyota Vellfire และ Alphard มีความแตกต่างกันอย่างไร
รถโฟล์กสวีต Toyota Vellfire และ Alphard ที่เป็นรุ่นพรีเมียมบนแพลตฟอร์มเดียวกันนี้ ได้รับความนิยมอย่างสูงในตลาดไทยทั้งจากกลุ่มครอบครัวและนักธุรกิจ จุดต่างหลักอยู่ที่ดีไซน์และแนวทางการตลาด โดย Vellfire มาด้วยหน้าตาทรงพลัง อย่างไฟหน้าแบบแยกส่วนและกริลโล่มโหฬารที่โดดเด่นด้วยโครเมียม ให้ความรู้สึกรุ่นแรงและเป็นตัวของตัวเอง เหมาะกับครอบครัวยุคใหม่หรือผู้ใช้เชิงธุรกิจที่ชอบความทันสมัย ส่วน Alphard ยังคงเอกลักษณ์ความหรูหราด้วยโครเมียมบาร์แนวตั้งเรียบหรูและไฟหน้าแบบครบชุด ดูเป็นทางการกว่า เหมาะสำหรับงานอีเวนต์หรือโอกาสสำคัญ ด้านภายในทั้งคู่ใช้โครงสร้างที่นั่งแบบ 2+2+3 พร้อมวัสดุคุณภาพสูงเหมือนกัน แต่ Vellfire มักมีโทนสีสองสีที่สดใสมากกว่า ในขณะที่ Alphard เน้นไม้สีเข้มให้ความรู้สึกคลาสสิก ระบบขับเคลื่อนมีทั้งแบบไฮบริด 2.5L และเครื่องยนต์ V6 3.5L ที่เป็นที่นิยมในไทย แต่บางรุ่นของ Vellfire จะมีการตั้งค่าซัสเพนชันให้สมรรถนะด้านกีฬามากขึ้น จุดที่น่าสนใจคือคนไทยให้ความสำคัญกับความสบายเบาะหลังเป็นพิเศษ รถทั้งสองคันติดตั้งเบาะนั่งสำหรับนักบิน ระบบความบันเทิงด้านหลัง และการกำหนดค่าอื่นๆ แต่ Alphard จะโดดเด่นในเรื่องวัสดุดูดซับเสียงและรายละเอียดความเป็นส่วนตัวที่ตอบโจทย์การใช้งานเชิงธุรกิจมากกว่า ความสำเร็จของ MPV ระดับพรีเมียมในไทยสะท้อนวัฒนธรรมที่ให้ความสำคัญกับการเดินทางของครอบครัวและการต้อนรับทางธุรกิจ นอกจากนี้เครือข่ายบริการของโตโยต้าที่กระจายทั่วประเทศยังเพิ่มความสะดวกสบายให้ผู้ใช้ ลูกค้าสามารถเลือกรุ่นที่ตรงกับสไตล์และความต้องการใช้งานได้อย่างอิสระ
Q
Toyota Alphard มีกี่ที่นั่ง?
Toyota Alphard เป็นรุ่น MPV ระดับพรีเมียมที่ฮิตมากในตลาดไทย มาตรฐานมากับแบบ 7 ที่นั่ง (2+2+3) รุ่นไฮเอนด์บางรุ่นมีตัวเลือกรุ่นผู้บริหาร 4 ที่นั่งที่หรูหราขึ้น แถวที่ 2 ติดตั้งเบาะนั่งและที่วางขาแบบเดียวกับเครื่องบิน เหมาะมากสำหรับการเดินทางแบบครอบครัวหรือการต้อนรับธุรกิจในประเทศไทย เหมาะทั้งสำหรับครอบครัวไทยที่ชอบท่องเที่ยวหรือใช้รับรองลูกค้า สิ่งที่ทำให้ Alphard ปังในไทยก็คือพื้นที่เหนือศรีษะที่กว้างขวาง รวมถึงการออกแบบห้องสัมภาระที่ใช้งานได้อย่างยืดหยุ่น แม้จะนั่งครบทุกที่นั่งก็ยังใส่กระเป๋าเดินทางได้หลายใบ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนไทยที่ชอบเที่ยวพร้อมหน้าพร้อมตาหรือต้องขนของเยอะๆ พูดถึงรุ่น Hybrid ก็เป็นอีกตัวเลือกที่คนไทยสนใจ เพราะประหยัดน้ำมันมากๆ โดยเฉพาะสำหรับคนที่ต้องเจอรถติดในกรุงเทพฯ แถมยังโดดเด่นเรื่องระบบกันเสียงและช่วงล่างที่ปรับแต่งมาให้เน้นความนุ่มสบาย ทุกรายละเอียดนี้ทำให้ Alphard กลายเป็นหนึ่งในรถ MPV ระดับกลางถึงสูงที่ครองใจคนไทยมาอย่างยาวนาน

ข้อดี

ความสบายในการนั่งของรถเยี่ยมมาก ที่นั่งทำจากวัสดุที่นุ่มนวล มีฟังก์ชันปรับที่นั่งอัตโนมัติ
สิ่งอำนวยความสะดวกในรถยอดเยี่ยม การใช้งานอุปกรณ์ภายในรถง่าย
รถใหญ่แต่ยืดหยุ่น มีระบบช่วยเหลือการเลี้ยวไฟฟ้า ระบบความเสถียรของรถยนต์ การควบคุมที่ยืดหยุ่น
ระยะหันที่ดี ระยะหันขั้วต่ำสุด 5.6 เมตร สำหรับการขับขี่ในเมือง
รถไฮบริดประหยัดพลังงาน การบริโภคน้ำมันประมาณ 15 กิโลเมตร/ลิตร

ข้อเสีย

ราคาสูง รุ่น Hybrid ประมาณ 4019000 บาท
ค่าบำรุงรักษาระยะยาวสูง
ระบบไฟฟ้าทั้งรถ หากมีการชำรุดอาจจะไม่สามารถซ่อมได้ หรือไม่สามารถเริ่มต้นใช้งานได้
แบตเตอรี่ประสิทธิภาพต่ำ แบตเตอรี่นิกเกิลเฮไดรด์ที่ใช้มีประสิทธิภาพต่ำกว่าแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนที่ใช้งานอยู่
เวลาซ่อมนาน เนื่องจากอะไหล่แตกต่างจากเครื่องยนต์ทั่วไป หากเกิดอุบัติเหตุหรือเสียหายอาจต้องรออะไหล่และเวลาซ่อมนาน

Q&A ล่าสุด

Q
วิธีการขับรถ Toyota Yaris Cross
การขับรถ Toyota Yaris Cross ในประเทศไทยมีจุดสำคัญที่ต้องระวังหลายอย่าง รถคันนี้มาพร้อมเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร แบบดูดธรรมดาหรือระบบไฮบริดที่เหมาะกับสภาพถนนทั้งในเมืองและต่างจังหวัด เวลาออกรถแนะนำให้เหยียบคันเร่งเบาๆ เพื่อหลีกเลี่ยงอาการกระตุก เกียร์ CVT ให้ความนุ่มนวลแต่เวลาขึ้นเขาสามารถเปลี่ยนไปใช้โหมดจำลองเกียร์มือเพื่อเพิ่มกำลังได้ ในสภาพอากาศร้อนของไทย แนะนำให้ใช้รีโมตสมาร์ทคีย์เปิดแอร์ล่วงหน้าก่อนขึ้นรถ ข้อได้เปรียบในการผ่านจากการเปิดช่องว่างพื้นดินสูง 180 มม. ในช่วงฤดูฝน แต่ต้องระวังความลึกของน้ำที่สะสมเพื่อหลีกเลี่ยงความเสียหายต่อแบตเตอรี่ไฮบริด ระบบ Toyota Safety Sense ที่มาด้วยจะช่วยในกรณีรถติดในกรุงเทพฯ ด้วยการตามรถคันหน้าได้อัตโนมัติ แต่ควรระวังรถมอเตอร์ไซค์ที่อาจตัดหน้ากะทันหัน สำหรับการขับแบบประหยัด รุ่นไฮบริดกินน้ำมันเพียง 3.8 ลิตร/100 กม. และการใช้โหมด EV อย่างเหมาะสมจะช่วยประหยัดน้ำมันได้มากขึ้น สำหรับผู้ใช้ในไทย ควรตรวจสอบไส้กรองแอร์เป็นประจำเพื่อป้องกันเชื้อรา หากต้องจอดรถนานๆแนะนำให้ถอดขั้วแบตเตอรี่ ส่วนการขับในภูเขาสามารถเปิดโหมดช่วยขับขี่ออฟโรดได้ เรื่องเล็กน้อยเหล่านี้จะช่วยยืดอายุรถได้ Yaris Cross มีขนาดกะทัดรัดเหมาะกับซอยแคบในไทย แต่เวลาถอยหลังต้องระวังจุดบอดจากระยะกะพื้นที่สูง แนะนำให้ติดตั้งระบบกล้องรอบคันเพื่อความปลอดภัย
Q
Toyota Yaris Cross ผลิตในประเทศอะไร
ปัจจุบัน Toyota Yaris Cross ถูกผลิตในหลายประเทศเพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดทั่วโลก รวมถึงญี่ปุ่น ไทย และฝรั่งเศส โดยประเทศไทยถือเป็นฐานการผลิตสำคัญของ Toyota ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่โรงงาน Toyota Gateway จังหวัดชลบุรี จะทำหน้าที่ผลิต Yaris Cross เพื่อส่งจำหน่ายในประเทศและส่งออกบางส่วน รุ่นนี้โดดเด่นด้วยความคล่องตัวของรถ SUV ขนาดกะทัดรัดและระบบไฮบริดที่ช่วยประหยัดน้ำมัน เหมาะสมกับสภาพการจราจรติดขัดในเมืองอย่างกรุงเทพฯ นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงระบบแอร์และกระบวนการป้องกันสนิมให้เหมาะสมกับสภาพอากาศร้อนชื้นของไทย เมื่อเทียบกับคู่แข่งอย่าง Honda HR-V และ Mazda CX-3 แล้ว Yaris Cross มีจุดแข็งในเรื่องการออกแบบพื้นที่ภายในและฟีเจอร์อัจฉริยะ ที่น่าสนใจคือรุ่นพวงมาลัยขวาที่ผลิตในประเทศไทยยังถูกส่งออกไปขายในตลาดอย่างออสเตรเลีย ซึ่งสะท้อนถึงมาตรฐานการผลิตระดับสากลของโรงงานไทยแห่งนี้
Q
Toyota Yaris Cross มีที่นั่งกี่ที่
รถยนต์ Toyota Yaris Cross ในตลาดไทยมาพร้อมกับแบบ 5 ที่นั่งในรูปแบบ 2+3 ซึ่งตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวันของครอบครัวได้เป็นอย่างดี ด้วยการออกแบบพื้นที่ภายในที่ชาญฉลาด ทำให้รถ SUV ขนาดเล็กคันนี้ได้รับความนิยมในเมืองอย่างกรุงเทพฯ โดยเฉพาะในซอยแคบๆ ที่จอดยาก พื้นที่เก็บของด้านหลังสามารถปรับพับแบ่งสัดส่วน 6:4 ได้ เพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระสูงสุดถึง 458 ลิตร เมื่อพับที่นั่งลง เหมาะมากสำหรับการเดินทางช่วงสั้นๆ เช่นไปเที่ยวหัวหินหรือเชียงใหม่ในช่วงวันหยุด สิ่งที่น่าสนใจคือรุ่นไทยติดตั้งเบาะนั่งที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับสภาพอากาศร้อนชื้น พร้อมเพิ่มช่องปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารแถวหลัง ซึ่งช่วยเพิ่มความสบายระหว่างเดินทางในวันที่อากาศร้อนจัดของประเทศไทย หากคุณต้องการรถยนต์ที่มีที่นั่งมากกว่านี้ อาจจะพิจารณารุ่นอื่นๆ ของ Toyota ในไทยอย่าง Innova Crysta ที่มี 7 ที่นั่ง แต่ Yaris Cross ยังคงประหยัดน้ำมันได้ดีเยี่ยมจากเครื่องยนต์ Dual VVT-i ขนาด 1.5 ลิตร (วัดได้จริงในประเทศไทยประมาณ 15-17 กิโลเมตร/ลิตร) ทำให้การเดินทางในเมืองมีความคุ้มค่า
Q
Toyota Yaris Cross 2023 มีสีอะไรบ้าง
รถยนต์ Toyota Yaris Cross ในตลาดประเทศไทยมีตัวเลือกสีสันให้เลือกหลากหลาย เพื่อตอบสนองความต้องการส่วนตัวของผู้บริโภคที่แตกต่างกัน โดยสีทึบมีทั้งหมด 6 สี ได้แก่ ATTITUDE BLACK (ดำเท่) และ URBAN METAL (เมทัลลิกเมือง) ซึ่งเหมาะสำหรับคนที่ชอบความเรียบหรูดูเป็นทางการ ส่วน METAL STREAM METALLIC (เมทัลลิกประกายโลหะ) จะมีเอฟเฟกต์เมทัลลิกสวยงามเป็นเอกลักษณ์ เมื่อต้องแสงแดดจะดูโดดเด่นเป็นพิเศษ สำหรับสี PLATINUM WHITE PEARL (ไข่มุกขาวแพลตตินัม) เป็นที่นิยมด้วยเอฟเฟกต์สีมุกที่ดูหรูหรา ส่วน SPICY SCARLET (แดงสตรอง) และ DARK TURQUOISE (ฟ้าเทอร์ควอยซ์เข้ม) เหมาะสำหรับคนที่อยากแสดงความเป็นตัวตนที่ชัดเจน นอกจากนี้ยังมีสีทูโทนอีก 4 แบบ ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างสีดำที่หลังคากับสีหลักของตัวรถ เช่น METAL STREAM METALLIC/BLACK ROOF (เมทัลลิกประกายโลหะ+หลังคาดำ) และ PLATINUM WHITE PEARL/BLACK ROOF (ไข่มุกขาวแพลตตินัม+หลังคาดำ) การออกแบบแบบนี้ไม่เพียงแต่เพิ่มความมีมิติให้รถดูสวยงามเท่านั้น แต่ยังช่วยเน้นเส้นสายของตัวรถให้โดดเด่นขึ้น โดยเฉพาะเหมาะกับสไตล์คนเมืองในสภาพอากาศร้อนของประเทศไทย เวลาเลือกสีรถนอกจากจะขึ้นอยู่กับความชอบส่วนตัวแล้ว ควรคำนึงถึงสภาพอากาศของประเทศไทยด้วย เช่น สีอ่อนจะดูดซับความร้อนน้อยกว่า ในขณะที่สีเข้มอาจต้องล้างบ่อยขึ้นเพื่อรักษาความสวยงาม ส่วนสีทูโทนแม้จะดูเท่และเป็นเอกลักษณ์ แต่การซ่อมสีอาจมีความซับซ้อนมากกว่าปกติเล็กน้อย ดังนั้นควรเลือกให้เหมาะสมกับการใช้งานจริงของแต่ละคนจะดีที่สุด
Q
วิธีล็อก Toyota Yaris Cross
สำหรับรถยนต์ Toyota Yaris Cross สามารถล็อครถได้โดยใช้ปุ่มรีโมทบนกุญแจ กดครั้งเดียวเพื่อล็อคประตูทุกบาน พร้อมกับได้ยินเสียงเตือนหรือเห็นไฟเลี้ยวกระพริบเป็นการยืนยัน หากเป็นรุ่นที่มีระบบกุญแจอัจฉริยะ ก็สามารถล็อครถได้โดยการสัมผัสที่เซ็นเซอร์บนที่จับประตูด้านคนขับ ในสภาพอากาศร้อนของประเทศไทย แนะนำให้ตรวจสอบว่าหน้าต่างปิดสนิทก่อนล็อครถเพื่อป้องกันความร้อนภายในรถ นอกจากนี้ทุกรุ่นยังมีระบบป้องกันล็อคกุญแจไว้ในรถโดยอัตโนมัติ หากตรวจพบว่ากุญแจยังอยู่ในรถ ระบบจะปลดล็อคให้เองเพื่อป้องกันการล็อคกุญแจไว้ในรถ สำหรับกรณีที่ต้องจอดรถเป็นเวลานาน สามารถกดปุ่มล็อครถค้างไว้ 3 วินาทีเพื่อเปิดใช้งานระบบป้องกันขโมย ซึ่งจะส่งเสียงเตือนหากมีใครพยายามเปิดประตูโดยไม่ได้รับอนุญาต ผู้ใช้ในประเทศไทยควรตรวจสอบสภาพยางขอบประตูเป็นประจำในช่วงฤดูฝน เพื่อให้มั่นใจว่าประตูสามารถกันน้ำได้หลังจากล็อครถ หากสังเกตว่าระยะการทำงานของรีโมทสั้นลง อาจเป็นเพราะแบตเตอรี่กุญแจใกล้หมด แนะนำให้เปลี่ยนแบตเตอรี่แบบ CR2032 ทันทีเพื่อให้สามารถใช้งานได้ตามปกติ
ดูเพิ่มเติม