Q
ทำไมแบตเตอรี่รถ Subaru Forester ปี 2020 ของฉันถึงหมดบ่อย?
ปัญหาหม้อแบตเตอรี่รถยนต์ซูบารุฟอเรสเตอร์ปี 2020 หมดบ่อยอาจเกิดจากหลายสาเหตุ อย่างแรกต้องเช็คสภาพแบตเตอรี่เองก่อน โดยเฉพาะในสภาพอากาศร้อนแบบไทยๆ ที่ความร้อนสูงจะทำให้สารละลายในแบตระเหยเร็วและเกิดแผ่นขั้วแบตเสื่อม แนะนำให้ใช้มัลติมิเตอร์วัดแรงดันขณะดับเครื่อง (ถ้าต่ำกว่า 12.4V ควรชาร์จหรือเปลี่ยนใหม่) ส่วนการขับรถระยะสั้นแบบที่คนไทยชอบใช้บ่อยๆ ก็ทำให้แบตเตอรี่ชาร์จไฟไม่เต็มที่ ควรขับรถต่อเนื่องอย่างน้อย 30 นาทีสัปดาห์ละครั้ง
ระบบไฟฟ้าในรถก็ต้องตรวจสอบเหมือนกัน ฟอเรสเตอร์ที่ติดตั้งระบบ EyeSight มาตรฐานรวมถึงไฟหน้าตลอดเวลาใช้ไฟค่อนข้างมาก ถ้ามีการติดตั้งอุปกรณ์เพิ่มเติมเช่นกล้องติดรถยนต์หรือเครื่องเสียงที่ไม่ใช่ของแท้ก็อาจทำให้มีไฟรั่วได้ ควรใช้คลิปมิเตอร์วัดกระแสไฟขณะรถดับ (ปกติไม่ควรเกิน 50mA) อีกเรื่องสำคัญคือระบบสตาร์ทอัตโนมัติของซูบารุที่ต้องการแบตเตอรี่เฉพาะเท่านั้น ต้องใช้แบบ EFB หรือ AGM เท่านั้น ถ้าใช้แบตเตอรี่ธรรมดาจะเสื่อมเร็วมาก
สำหรับการดูแลรักษาปกติ ควรทำความสะอาดขั้วแบตเตอรี่บ่อยๆ เพื่อป้องกันการกัดกร่อน ถ้าต้องจอดรถทิ้งไว้นานแนะนำให้ถอดขั้วลบออกหรือใช้เครื่องชาร์จแบตเตอรี่รักษาระดับไฟ วิธีเหล่านี้จะช่วยยืดอายุแบตเตอรี่ได้มาก ถ้ายังมีปัญหาเกิดขึ้นอีกอาจเกิดจากไดชาร์จทำงานผิดปกติ (แรงดันควรอยู่ที่ 13.8-14.4V) หรือมีไฟรั่วในระบบสายไฟ ควรให้ช่างผู้ชำนาญใช้เครื่องสแกนวินิจฉัยเพิ่มเติม
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto
Q&A เกี่ยวข้อง
Q
เครื่องยนต์ที่ใช้ใน Subaru Forester ปี 2020 คืออะไร?
รถ Forester ปี 2020 ติดตั้งเครื่องยนต์แบบ 2.5 ลิตร แบบแนวนอนสี่สูบ (รุ่น FB25) ที่ใช้ระบบดูดธรรมชาติ ให้กำลังสูงสุด 182 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 239 นิวตันเมตร คู่กับเกียร์ CVT Lineartronic และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ Symmetrical AWD แบบมาตรฐาน เครื่องยนต์นี้ใช้เทคโนโลยีฉีดตรงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเผาไหม้ แถมการออกแบบแบบแนวนอนยังทำให้จุดศูนย์ถ่วงต่ำ ช่วยเพิ่มความมั่นคงในการเข้าโค้ง เหมาะสมกับพื้นที่ภูเขาและถนนที่ลื่นเป็นพิเศษ ถ้าเทียบกับรถในระดับเดียวกันแล้ว เครื่องยนต์แบบแนวนอนถือเป็นจุดเด่นที่หาตัวจับยาก เพราะการสั่นสะเทือนน้อยและทำงานเรียบ ทำให้รู้สึกสบายเวลาขับทางไกล แต่ต้องระวังเรื่องคุณภาพน้ำมันเครื่องนะ แนะนำให้ใช้แบบสังเคราะห์ 0W-20 และต้องเปลี่ยนตามระยะที่กำหนดอย่างเคร่งครัด ส่วนเรื่องประหยัดน้ำมันนั้นถือว่าดีพอสมควร ในเมืองจะกินประมาณ 9-10 ลิตรต่อ 100 กม. แต่ถ้าขับทางไกลอาจลดลงเหลือ 7 ลิตรได้ สำหรับใครที่กำลังมองหารถมือสอง แนะนำให้ตรวจสอบยางรองเครื่องยนต์กับสภาพน้ำมันเกียร์ CVT เป็นพิเศษ เพราะส่วนพวกนี้ในสภาพอากาศร้อนอาจเสื่อมเร็วหน่อย
Q
แบตเตอรี่ของ Subaru Forester ปี 2020 มีอายุการใช้งานนานเท่าไร?
แบตเตอรี่ของ Subaru Forester รุ่นปี 2020 ส่วนใหญ่จะใช้งานได้ประมาณ 3-5 ปี ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการขับขี่และสภาพอากาศในพื้นที่ โดยอากาศร้อนชื้นอาจทำให้แบตเสื่อมเร็วขึ้น แนะนำให้ตรวจสอบระดับน้ำกลั่นและทำความสะอาดขั้วแบตเป็นประจำ ถ้าขับรถระยะสั้นบ่อยๆ หรือจอดรถทิ้งไว้นานๆ แบตอาจหมดเร็ว แนะนำให้ใช้เครื่องชาร์จอัจฉริยะช่วยรักษาระดับไฟ นอกจากนี้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในรถเช่น กล้องติดรถยนต์หรือเครื่องเสียงที่ติดตั้งเพิ่มก็กินไฟแบตมากขึ้น ควรปิดอุปกรณ์เหล่านี้หลังจอดรถเสร็จ ถ้ารู้สึกว่าเครื่องติดยากหรือไฟหน้าสว่างน้อยลง นั่นอาจเป็นสัญญาณว่าแบตใกล้หมดแล้ว เลือกเปลี่ยนแบตแบบไม่ต้องบำรุงรักษาที่ตรงตามสเปคเดิมของรถจะสะดวกกว่า ยี่ห้อดังเช่น GS Battery หรือ Boliden ก็มีรุ่นที่เหมาะอยู่ เวลาเปลี่ยนแบตอย่าลืมเช็คค่า CCA (กระแสไฟตอนสตาร์ทตอนอากาศเย็น) ให้ตรงด้วย เวลานำรถเข้าศูนย์บริการให้ช่างตรวจสภาพแบตด้วยอุปกรณ์ระดับมืออาชีพก็ช่วยป้องกันปัญหาได้ล่วงหน้า
Q
อันไหนใหญ่กว่า subaru forester หรือ outback
ในตลาดประเทศไทย Subaru Forester และ Outback เป็น SUV ที่ได้รับความนิยมมากทั้งคู่ แต่ถ้าพูดถึงขนาดแล้ว Outback จะใหญ่กว่า Forester นิดหน่อย โดยตัวถังและระยะฐานล้อของ Outback ยาวกว่าเล็กน้อย ทำให้มีพื้นที่ภายในกว้างขวางกว่า โดยเฉพาะช่วงขาหลังและกระโปรงท้ายที่บรรจุของได้มากขึ้น เหมาะสำหรับครอบครัวที่ต้องเดินทางไกลหรือต้องการพื้นที่เก็บสัมภาระ ในขณะที่ Forester จะสูงกว่าด้านส่วนหัว ทำให้มีพื้นที่เหนือศีรษะมากกว่าและมุมมองการขับขี่ดีกว่า เหมาะกับการใช้งานในเมืองหรือเส้นทางขรุขระ ส่วนระบบขับเคลื่อนทั้งคู่มาพร้อม Symmetrical AWD และเครื่องยนต์ Boxer แบบราบที่ให้การควบคุมและความปลอดภัยสูง เหมาะกับสภาพถนนเปียกและภูมิประเทศแบบภูเขาในไทย นอกจากนี้ Outback ยังมีระยะความกว้างจากพื้นสูงกว่า ทำให้ผ่านถนนลูกรังได้ดี ในขณะที่ Forester ขนาดกะทัดรัดกว่า ขับง่ายในซอยแคบๆ แบบกรุงเทพฯ ลูกค้าสามารถเลือกได้ตามความต้องการ เช่น จำนวนผู้โดยสาร สัมภาระที่ต้องขน หรือสภาพถนนที่ใช้งานเป็นหลัก ส่วนบริการหลังการขายทั้งสองรุ่นในไทยก็พร้อมให้บริการทั่วถึง
Q
ระยะเวลาที่เบรกของซูบารุฟอร์สเตอร์ใช้งานได้นานเท่าไหร่
อายุการใช้งานของระบบเบรกในรถซูบารุ ฟอเรสเตอร์นั้นขึ้นอยู่กับนิสัยการขับขี่ สภาพถนน และการดูแลรักษาตามระยะ โดยเฉพาะในประเทศไทยที่อากาศร้อนชื้นและรถติดบ่อย แนะนำให้ตรวจสอบความหนาของผ้าเบรกทุก 30,000-40,000 กิโลเมตร หรือทุก 2 ปี ถ้าผ้าเบรกบางกว่า 3 มิลลิเมตรควรเปลี่ยนทันที ส่วนจานเบรกปกติจะอยู่ได้ประมาณ 60,000-80,000 กิโลเมตร ช่วงฤดูฝนต้องระวังเป็นพิเศษเพราะความชื้นจะทำให้จานเบรกเป็นสนิมและผ้าเบรกสึกเร็วขึ้น การขับบนทางเขาภูเขาที่ต้องเหยียบเบรกบ่อยๆก็ทำให้อายุการใช้งานสั้นลงด้วย สัญญาณเตือนว่าใกล้ถึงเวลาต้องเปลี่ยนผ้าเบรกได้แก่ เสียงโลหะเสียดสี ระยะเบรกยาวขึ้น หรือไฟเตือนบนหน้าปัด ควรใช้ของแท้จากศูนย์เพื่อให้เข้ากับระบบ ABS ของรถ ระบบเบรกทุกคันคืออะไหล่สิ้นเปลืองทั้งนั้น การทำความสะอาดฝุ่นผ้าเบรกและไม่จอดรถทิ้งไว้หลังล้างรถจะช่วยยืดอายุอะไหล่ได้ ถ้าคุณขับบ่อยๆบนทางลาดชันในกรุงเทพหรือทางเขาสูงในเชียงใหม่ อาจต้องลดระยะการตรวจเช็คให้ถี่ขึ้นอีก 20% จากปกติ
Q
สุบารุฟอเรสเตอร์กว้างเท่าใด
รถ SUV Subaru Forester ที่วางจำหน่ายในตลาดไทยมีขนาดความกว้างตัวถังอยู่ที่ 1,815 มิลลิเมตร ซึ่งจัดว่าเป็นขนาดกลางที่ค่อนข้างกว้างขวางในกลุ่มรถ SUV ประเภทนี้ ความกว้างระดับนี้ช่วยให้ผู้โดยสารนั่งได้อย่างสบาย พร้อมทั้งยังให้ความมั่นคงบนถนนได้ดีเยี่ยม สำหรับสภาพการขับขี่ในไทยที่ต้องเผชิญทั้งถนนในเมืองและเส้นทางชนบท ความกว้างตัวถังขนาดนี้ถือว่าคุ้มค่า เพราะนอกจากจะให้พื้นที่ภายในเพียงพอสำหรับผู้โดยสาร 5 คนแบบไม่เบียดกันแล้ว ยังไม่กว้างเกินไปจนทำให้ขับในเมืองอย่างกรุงเทพฯ ที่การจราจรหนาแน่นได้ลำบาก อย่างไรก็ตาม ความกว้างตัวถังมีผลต่อความสะดวกในการขับในซอยแคบๆ ดังนั้นผู้บริโภคไทยควรพิจารณาจากเส้นทางที่ใช้ประจำด้วย ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อสมมาตรของฟอเรสเตอร์ทำงานได้ดีบนถนนลื่นช่วงฤดูฝนของไทย ส่วนระยะความสูงจากพื้น 220 มิลลิเมตรก็เหมาะกับถนนลูกรังบางสายในประเทศ หากเปรียบเทียบกับรถ SUV ญี่ปุ่นรุ่นเดียวกันอย่าง Honda CR-V ที่มีความกว้าง 1,855 มม. และ Toyota RAV4 ที่ 1,854 มม. ฟอเรสเตอร์ถือว่ามีขนาดตัวถังที่กะทัดรัดกว่า แต่ด้วยการออกแบบห้องโดยสารที่เหมาะสม ทำให้มีพื้นที่ใช้สอยภายในใกล้เคียงกัน
Q
วิธีเปิดระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ subaru forester
เวลาขับรถ Subaru Forester ในประเทศไทย ถ้าต้องการใช้งานระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ Symmetrical AWD โดยปกติแล้วสามารถปรับได้ที่ปุ่มเลือกโหมดขับขี่บนคอนโซลกลาง ตำแหน่งอาจแตกต่างกันไปตามรุ่นและปีของรถ สำหรับรุ่นใหม่ๆ อาจมีฟังก์ชัน X-MODE ซึ่งปุ่มจะอยู่แถวๆ เกียร์ ระบบนี้จะช่วยปรับการกระจายกำลังไปยังล้อทั้งสี่ให้เหมาะสมอัตโนมัติ พร้อมทั้งมีระบบช่วยลงทางลาดชัน เหมาะมากๆ สำหรับขับในพื้นที่ภูเขาทางภาคเหนือของไทยหรือเวลาถนนลื่นช่วงฤดูฝน ต้องบอกเลยว่า Forester ออกแบบมาให้ระบบสี่ล้อทำงานแบบเต็มเวลาอยู่แล้ว แต่ X-MODE จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในสภาพถนนที่เกาะยางไม่ดีเป็นพิเศษ แนะนำให้ปิดโหมดนี้เวลาขับบนถนนปกติเพื่อประหยัดน้ำมัน ส่วนเจ้าของรถในไทยควรตรวจสอบสภาพน้ำมันดิฟเฟอเรนเชียลเป็นประจำ เพราะอากาศร้อนชื้นของเราอาจทำให้น้ำมันเสื่อมสภาพเร็ว และช่วงน้ำท่วมต้องระวังไม่ขับลุยน้ำลึกเกิน 500mm เด็ดขาด เดี๋ยวจะเสียชิ้นส่วนระบบส่งกำลังเข้าไป ถ้ารุ่นของคุณมีระบบ SI-DRIVE การเลือกโหมด "SPORT" จะช่วยเปลี่ยนการตอบสนองของเครื่องยนต์ แต่ไม่ได้ส่งผลต่อการทำงานพื้นฐานของระบบสี่ล้อนะจ๊ะ
Q
ราคาของซูบารุฟอร์เรสเตอร์เท่าไหร่
ราคารถ Subaru Forester ในตลาดประเทศไทยจะแตกต่างกันไปตามรุ่นและอุปกรณ์ โดยปัจจุบันราคาอยู่ที่ประมาณ 1.4 - 1.8 ล้านบาท แต่แนะนำให้สอบถามตัวแทนจำหน่ายในพื้นที่เพื่อขอราคาที่อัปเดตที่สุด Forester เป็น SUV ที่เน้นระบบขับเคลื่อนสี่ล้อเต็มเวลากับความประหยัดพื้นที่ เหมาะสมกับสภาพอากาศฝนตกบ่อยและเส้นทาง複雜ของไทย นอกจากนี้ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ EyeSight ที่มาพร้อมมาตรฐานยังช่วยเพิ่มความปลอดภัย ผู้บริโภคไทยควรทราบว่าภาษีนำเข้ารถอาจส่งผลต่อราคาสุดท้าย และแม้เครื่องยนต์แบบ Boxer ของซูบารุจะช่วยลดจุดศูนย์ถ่วงและเพิ่มความคล่องตัว แต่ค่าซ่อมอาจสูงกว่าเครื่องยนต์แบบทั่วไปเล็กน้อย ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาตลาด EV ในไทยเติบโตเร็ว แต่ Forester ยังคงเป็นรุ่นน้ำมันเป็นหลัก หากสนใจรุ่นไฮบริดควรตรวจสอบว่ามีจำหน่ายในไทยหรือไม่ ก่อนตัดสินใจซื้อแนะนำให้เปรียบเทียบกับ SUV ญี่ปุ่นรุ่นเดียวกันอย่าง Toyota RAV4 หรือ Honda CR-V และควรทดลองขับเพื่อสัมผัสพื้นที่ภายในและความรู้สึกในการขับขี่ตามความต้องการส่วนตัว
Q
Subaru Forester มีความสามารถในการลากภาระเท่าไหร่
สมรรถนะการลากจูงของรถซูบารุ ฟอเรสเตอร์ (Subaru Forester) ในประเทศไทยจะขึ้นอยู่กับรุ่นและการกำหนดสเปค โดยทั่วไปรุ่นที่ติดตั้งเครื่องยนต์แบบบ็อกเซอร์ 2.0 ลิตร หรือ 2.5 ลิตร จะมีความสามารถลากจูงสูงสุดที่ประมาณ 1,500 กิโลกรัม เหมาะสำหรับการลากเรือยอชท์ขนาดเล็ก รถพ่วงกางเต็นท์ หรือสัมภาระน้ำหนักเบา ซึ่งตอบโจทย์การใช้งานของครอบครัวไทยสำหรับการท่องเที่ยวหรือกิจกรรมกลางแจ้งได้เป็นอย่างดี อย่างไรก็ตาม ในการลากจูงจริงควรตรวจสอบให้มั่นใจว่ารถมีอุปกรณ์เกี่ยวพ่วงและระบบระบายความร้อนมาตรฐานจากโรงงาน พร้อมทั้งปฏิบัติตามกฎหมายจราจรไทยที่กำหนดเกี่ยวกับน้ำหนักรถพ่วงและความเร็ว (เช่น บนทางหลวงไม่เกิน 90 กม./ชม.) สำหรับสภาพ地形ที่เป็นภูเขาและอากาศร้อนของไทย แนะนำให้ตรวจสอบอุณหภูมิน้ำมันเกียร์เป็นประจำ และหลีกเลี่ยงการขับขี่แบบรับน้ำหนักเต็มที่ต่อเนื่องเป็นเวลานาน เมื่อเทียบกับรถ SUV รุ่นเดียวกันจากญี่ปุ่นอย่าง Toyota RAV4 หรือ Honda CR-V แล้ว ฟอเรสเตอร์มีความสามารถลากจูงใกล้เคียงกัน แต่ด้วยระบบขับเคลื่อนสี่ล้อสมมาตร (Symmetrical AWD) และโหมด X-MODE ทำให้มีความเสถียรภาพโดดเด่นกว่าเมื่อต้องลากจูงบนถนนลื่นหรือทางออฟโรดเบาๆ หากมีความจำเป็นต้องลากของหนักบ่อยครั้ง อาจพิจารณาอัพเกรดระบบระบายความร้อนเกียร์เพิ่มเติม หรือเลือกรุ่นเครื่องยนต์ดีเซลที่ปรับสเปคเฉพาะตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (หากมีจำหน่าย)
Q
วิธีการเชื่อมต่อบลูทูธกับซูบารุฟอร์เรสเตอร์
ขั้นตอนการเชื่อมต่อบลูทูธสำหรับรถยนต์ซูบารุ ฟอเรสเตอร์ที่ใช้งานในประเทศไทย มีดังนี้ ก่อนอื่นให้สตาร์ทรถและตรวจสอบว่าหน้าจอกลางเปิดอยู่ จากนั้นเข้าไปที่เมนูการตั้งค่าระบบแล้วเลือก "บลูทูธ" พร้อมกับเปิดฟังก์ชันบลูทูธบนโทรศัพท์และตั้งค่าให้อยู่ในโหมดที่สามารถค้นพบได้ ในตอนนี้หน้าจอรถจะแสดงรายการอุปกรณ์ที่ใช้งานได้ ให้เลือกชื่อโทรศัพท์ของคุณและทำตามคำแนะนำเพื่อกรอกรหัสการจับคู่ (ปกติจะเป็น 0000 หรือ 1234) เมื่อเชื่อมต่อสำเร็จแล้วก็สามารถเปิดเพลงหรือรับโทรศัพท์ผ่านระบบเสียงของรถได้ ข้อควรระวังคือรถฟอเรสเตอร์บางรุ่นอาจต้องกดปุ่มโทรศัพท์บนพวงมาลัยหรือใช้คำสั่งเสียงเพื่อเปิดใช้งานบลูทูธ ถ้าเจอปัญหาการเชื่อมต่อลองรีสตาร์ทระบบหรือลบประวัติการจับคู่เก่าแล้วลองใหม่ ในสภาพอากาศร้อนชื้นของประเทศไทยแนะนำให้ตรวจสอบเวอร์ชันซอฟต์แวร์ระบบอิเล็กทรอนิกส์ของรถเป็นประจำ สามารถอัปเกรดเฟิร์มแวร์ล่าสุดได้ที่ตัวแทนจำหน่ายซูบารุเพื่อความเสถียรของบลูทูธ นอกจากนี้ผู้ใช้งานในประเทศไทยต้องตรวจสอบว่าโทรศัพท์รองรับระบบมัลติมีเดียของรถหรือไม่ เช่น โทรศัพท์รุ่นอินเตอร์เนชันแนลบางรุ่นอาจต้องปรับตั้งค่า APN ใหม่ บลูทูธไม่ใช่แค่สำหรับส่งสัญญาณเสียงเท่านั้น แต่ในรุ่นสูงๆยังสนับสนุนการซิงค์สมุดโทรศัพท์และฟังก์ชันควบคุมด้วยเสียง ซึ่งช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่บนถนนติดขัดในกรุงเทพฯ หากต้องการฟังก์ชันขั้นสูงเช่น Apple CarPlay หรือ Android Auto สามารถสอบถามตัวแทนจำหน่ายในพื้นที่ว่าต้องติดตั้งโมดูลเพิ่มเติมหรือไม่
Q
ประเภทของน้ำมันที่สุบารุฟอเรสเตอร์ใช้คืออะไร
สำหรับรถ Subaru Forester ที่ใช้งานในประเทศไทย แนะนำให้ใช้น้ำมันเครื่องประเภท Synthetic แบบเต็มตัวที่ได้มาตรฐาน API SN หรือ SP โดยความหนืดที่เหมาะสมคือ 0W-20 หรือ 5W-30 ขึ้นอยู่กับปีที่ผลิตและรุ่นเครื่องยนต์ของรถ ในสภาพอากาศร้อนของไทยอาจเลือกใช้ความหนืด 5W-30 ที่มีความเสถียรในอุณหภูมิสูงกว่าได้ เครื่องยนต์แบบ BOXER แนวนอนของซูบารุต้องการน้ำมันเครื่องที่มีคุณสมบัติทำความสะอาดและป้องกันการสึกหรอที่ดีเป็นพิเศษ ควรเลือกน้ำมันเครื่องที่มีการรับรองมาตรฐาน "A5/B5" หรือ "C2" ซึ่งเป็นแบบ Low Ash เพื่อช่วยปกป้องระบบบำบัดไอเสีย
เวลาบำรุงรักษาในประเทศไทย สามารถตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมจากคู่มือเจ้าของรถในเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของซูบารุประเทศไทยหรือปรึกษาผู้จำหน่ายที่ได้รับอนุญาต หากอยู่ในพื้นที่ห่างไกลที่หาซื้อน้ำมันเครื่องต้นฉบับยาก อาจเลือกใช้แบรนด์อื่นที่ได้มาตรฐานสากลเทียบเท่า เช่น Shell, Mobil เป็นต้น
ข้อควรระวังคือในบางพื้นที่สูงของไทยอย่างเชียงใหม่ที่มีอุณหภูมิเปลี่ยนแปลงระหว่างวันและคืนมาก หากขับบ่อยในเส้นทางภูเขาแนะนำให้เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องบ่อยขึ้นเป็นทุก 10,000 กม. หรือทุก 6 เดือน สำหรับรุ่น Turbo ต้องใส่ใจเป็นพิเศษเกี่ยวกับคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระในอุณหภูมิสูงของน้ำมันเครื่อง เพื่อป้องกันความเสียหายของลูกปืนเทอร์โบจากน้ำมันเครื่องเสื่อมสภาพ
Q&A ล่าสุด
Q
แบตเตอรี่ของ Subaru Forester ปี 2020 มีอายุการใช้งานนานเท่าไร?
แบตเตอรี่ของ Subaru Forester รุ่นปี 2020 ส่วนใหญ่จะใช้งานได้ประมาณ 3-5 ปี ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการขับขี่และสภาพอากาศในพื้นที่ โดยอากาศร้อนชื้นอาจทำให้แบตเสื่อมเร็วขึ้น แนะนำให้ตรวจสอบระดับน้ำกลั่นและทำความสะอาดขั้วแบตเป็นประจำ ถ้าขับรถระยะสั้นบ่อยๆ หรือจอดรถทิ้งไว้นานๆ แบตอาจหมดเร็ว แนะนำให้ใช้เครื่องชาร์จอัจฉริยะช่วยรักษาระดับไฟ นอกจากนี้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในรถเช่น กล้องติดรถยนต์หรือเครื่องเสียงที่ติดตั้งเพิ่มก็กินไฟแบตมากขึ้น ควรปิดอุปกรณ์เหล่านี้หลังจอดรถเสร็จ ถ้ารู้สึกว่าเครื่องติดยากหรือไฟหน้าสว่างน้อยลง นั่นอาจเป็นสัญญาณว่าแบตใกล้หมดแล้ว เลือกเปลี่ยนแบตแบบไม่ต้องบำรุงรักษาที่ตรงตามสเปคเดิมของรถจะสะดวกกว่า ยี่ห้อดังเช่น GS Battery หรือ Boliden ก็มีรุ่นที่เหมาะอยู่ เวลาเปลี่ยนแบตอย่าลืมเช็คค่า CCA (กระแสไฟตอนสตาร์ทตอนอากาศเย็น) ให้ตรงด้วย เวลานำรถเข้าศูนย์บริการให้ช่างตรวจสภาพแบตด้วยอุปกรณ์ระดับมืออาชีพก็ช่วยป้องกันปัญหาได้ล่วงหน้า
Q
เครื่องยนต์ที่ใช้ใน Subaru Forester ปี 2020 คืออะไร?
รถ Forester ปี 2020 ติดตั้งเครื่องยนต์แบบ 2.5 ลิตร แบบแนวนอนสี่สูบ (รุ่น FB25) ที่ใช้ระบบดูดธรรมชาติ ให้กำลังสูงสุด 182 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 239 นิวตันเมตร คู่กับเกียร์ CVT Lineartronic และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ Symmetrical AWD แบบมาตรฐาน เครื่องยนต์นี้ใช้เทคโนโลยีฉีดตรงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเผาไหม้ แถมการออกแบบแบบแนวนอนยังทำให้จุดศูนย์ถ่วงต่ำ ช่วยเพิ่มความมั่นคงในการเข้าโค้ง เหมาะสมกับพื้นที่ภูเขาและถนนที่ลื่นเป็นพิเศษ ถ้าเทียบกับรถในระดับเดียวกันแล้ว เครื่องยนต์แบบแนวนอนถือเป็นจุดเด่นที่หาตัวจับยาก เพราะการสั่นสะเทือนน้อยและทำงานเรียบ ทำให้รู้สึกสบายเวลาขับทางไกล แต่ต้องระวังเรื่องคุณภาพน้ำมันเครื่องนะ แนะนำให้ใช้แบบสังเคราะห์ 0W-20 และต้องเปลี่ยนตามระยะที่กำหนดอย่างเคร่งครัด ส่วนเรื่องประหยัดน้ำมันนั้นถือว่าดีพอสมควร ในเมืองจะกินประมาณ 9-10 ลิตรต่อ 100 กม. แต่ถ้าขับทางไกลอาจลดลงเหลือ 7 ลิตรได้ สำหรับใครที่กำลังมองหารถมือสอง แนะนำให้ตรวจสอบยางรองเครื่องยนต์กับสภาพน้ำมันเกียร์ CVT เป็นพิเศษ เพราะส่วนพวกนี้ในสภาพอากาศร้อนอาจเสื่อมเร็วหน่อย
Q
ราคาใหม่ *Suzuki Jimny 5 Door 2023* คือเท่าไหร่?
ราคารถใหม่ของ Suzuki Jimney รุ่น 2023 อยู่ที่ประมาณ 1 ล้านบาทถึง 1.2 ล้านบาท โดยราคาที่เฉพาะเจาะจงจะผันผวนตามการกำหนดค่า การเลือกอุปกรณ์ตกแต่ง ตลอดจนโปรโมชั่นของตัวแทนจำหน่าย รถรุ่นนี้ยังคงรักษาสไตล์ออฟโรดคลาสสิกในตระกูล Jimny แต่เพิ่มประตูด้านหลังเพื่อการใช้งานที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดด้วยเครื่องยนต์ 1.5 ลิตรแบบดูดอากาศธรรมชาติจับคู่กับเกียร์ 4AT หรือเกียร์ธรรมดาพร้อมระบบขับเคลื่อน 4 จังหวะสำหรับเดินทางในเมืองและการขับขี่แบบออฟโรดที่ไม่รุนแรง ในตลาดท้องถิ่น คู่แข่งหลักรวมถึงรถยนต์เช่น Toyota Fortuner และ Mitsubishi Pajero Sport แต่ Jimny ดึงดูดผู้บริโภคที่ชื่นชอบความสนุกสนานแบบออฟโรดด้วยตัวถังที่กะทัดรัดและราคาที่เป็นมิตรกับผู้คนมากขึ้น ควรสังเกตว่าเนื่องจากสถานะการนําเข้าของ Jimny ราคาและอุปทานอาจได้รับผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนและภาษีศุลกากร ขอแนะนำให้เปรียบเทียบใบเสนอราคาล่าสุดของตัวแทนจําหน่ายหลายรายก่อนซื้อรถยนต์และตัวแทนจําหน่ายบางรายอาจให้ส่วนลดเงินกู้หรือบริการบํารุงรักษาฟรี
Q
Suzuki Jimny เป็นรถที่มีจำนวนที่นั่งกี่ที่?
Suzuki Jimny คือรถเอสยูวีคอมแพคต์คลาสสิกที่ตอนนี้รุ่นล่าสุดในตลาดมาพร้อมกับการจัดวางแบบ 4 ที่นั่ง มีทั้งหน้าและหลังอย่างละ 2 ที่นั่ง เหมาะสำหรับครอบครัวเล็กหรือออกทริปกับเพื่อนๆ แม้ตัวรถจะขนาดกะทัดรัดแต่การออกแบบภายในนั้นชาญฉลาด ที่นั่งหลังสามารถพับลงเพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บของให้ใช้งานได้สะดวกขึ้น รุ่นนี้ขายดีมากในไทยโดยเฉพาะสำหรับขับในเมืองหรือลุยเส้นทางออฟโรดระดับเบา โครงสร้างแบบรูปสี่เหลี่ยมคางหมูแข็งแรงและระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ part-time ทำให้มันรับมือกับทุกสภาพถนนได้ดี แม้แต่ทางลูกรังช่วงฤดูฝน จิมนี่ยังประหยัดน้ำมันไม่เบา ด้วยเครื่องยนต์ 1.5 ลิตรแบบดูดอากาศธรรมชาติที่สมดุลทั้งขับเมืองและทางไกล ค่าบำรุงก็ไม่แรง เหมาะกับคนงบประมาณจำกัด แถมดีไซน์เรโทรและโอกาสปรับแต่งส่วนบุคคลก็ดึงดูดวัยรุ่นมาก ตลาดอะไหล่ก็มีให้เลือกเพียบ ทั้งอุปกรณ์ออฟโรดและของตกแต่ง ถ้าอยากได้พื้นที่ผู้โดยสารกว้างกว่าก็อาจต้องมองรุ่นอื่นในแบรนด์ แต่จุดเด่นของจิมนี่คือความคล่องตัวและความสามารถออฟโรดเฉพาะตัว เหมาะมากสำหรับคนชอบกิจกรรมกลางแจ้ง
Q
ได้ราคา Suzuki Jimny 2023 อยู่ที่เท่าไร?
รถยนต์ Suzuki Jimny รุ่นปี 2023 ที่ขายในประเทศไทยมีราคาอยู่ที่ประมาณ 950,000 ถึง 1,200,000 บาท ขึ้นอยู่กับแบบและอุปกรณ์เสริมที่เลือก เช่น รุ่นท็อปมักมาพร้อมกับไฟหน้า LED แอร์อัตโนมัติและระบบมัลติมีเดียที่ทันสมัยกว่า จิมนี่เป็นที่รู้จักจากดีไซน์ทรงสี่เหลี่ยมคลาสสิกและสมรรถนะออฟโรดที่ยอดเยี่ยม ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร แบบธรรมชาติ ร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีดหรือเกียร์ธรรมดา 5 สปีด พร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบพาร์ทไทม์ ที่เหมาะกับการสัญจรในเส้นทางทุรกันดาร รถคันนี้ได้รับความนิยมในตลาดไทย โดยเฉพาะกลุ่มผู้ชื่นชอบการท่องเที่ยวและกิจกรรมกลางแจ้ง เพราะขนาดกะทัดรัดและความคล่องตัวที่ทำให้เหมาะทั้งการขับขี่ในเมืองและการลุยทาง off-road ในวันหยุด นอกจากนี้ Jimny ยังมีศักยภาพในการปรับแต่งสูง เจ้าของหลายคนเลือกอัพเกรดระบบช่วงล่าง ยางรถ หรือเพิ่มอุปกรณ์ออฟโรดเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากปัญหาห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก รุ่นบางแบบอาจต้องรอรับรถนาน แนะนำให้สอบถามตัวแทนจำหน่ายล่วงหน้าเกี่ยวกับสต็อกและโปรโมชั่นก่อนตัดสินใจซื้อ
ดูเพิ่มเติมข่าวที่เกี่ยวข้อง

Subaruเปลี่ยนรูปแบบในประเทศไทยเป็นการขายแบบนำเข้า รุ่นใหม่ของForesterจะเปิดตัวในเดือนตุลาคม
สุรเดชSep 30, 2025

Subaru จดทะเบียนชื่อรุ่นรถยนต์ไฟฟ้าใหม่ ส่อเค้าปรับเกมสู่ยุค EV เต็มตัว
ณัฐวุฒิAug 8, 2025

Uncharted ครอสโอเวอร์ไฟฟ้าคันแรกจาก Subaru ขับเคลื่อนล้อหน้า วิ่งไกล 482 กม.
พงศธรJul 18, 2025

SUBARU REXมีเทคโนโลยีไฮบริดที่เหมือนและแตกต่างจากNissan e-POWERอย่างไรบ้าง?
วิรุฬห์Jun 24, 2025

Subaru Outback ใหม่ปรากฏตัว ลักษณะการออกแบบขายตามสไตล์ของ SUV
ณัฐวุฒิApr 22, 2025
ดูเพิ่มเติม


ข้อดี
ข้อเสีย