Ferrari 849 Testarossaเปิดตัวอย่างเป็นทางการ พร้อมสมรรถนะที่ทรงพลังยิ่งขึ้นเพื่อแทนที่SF90 Stradale

【PCauto】Ferrari 849 Testarossa ในฐานะผู้สืบทอดตำแหน่งต่อจาก SF90 Stradale ซูเปอร์คาร์เครื่องยนต์ไฮบริดกลางลำที่เพิ่งเปิดตัวคันนี้ไม่เพียงแต่สืบทอดตำนานชื่อ Testarossa แต่ยังแสดงถึงความก้าวหน้าล่าสุดของ Ferrari ในเทคโนโลยีไฮบริดอีกด้วย

ชื่อรถรุ่นใหม่มาจากการออกแบบเครื่องยนต์ "หัวสีแดง" อันเป็นเอกลักษณ์ของรถแข่ง 500 TR ในปี 1956 ซึ่งชื่อดังกล่าวได้กลับคืนสู่มือของ Ferrari อีกครั้งในปี 2023 ผ่านคำตัดสินของศาลสหภาพยุโรป

849 Testarossa ผสมผสานองค์ประกอบการออกแบบแบบคลาสสิกและทันสมัย

ช่องอากาศด้านข้างของ 849 Testarossa ได้รับแรงบันดาลใจจาก Testarossa ปี 1984 แต่ใช้การออกแบบที่ซ่อนอยู่ในรูปแบบที่ทันสมัยมากขึ้น

โครงสร้างปีกคู่ที่ด้านหลังของรถถ่ายทอดเอกลักษณ์ของรถแข่ง 512 S ในยุค 1970 พร้อมด้วยไฟ LED แบบคาดยาวและล้อคาร์บอนไฟเบอร์เป็นอุปกรณ์เสริม

ส่วนล่างของตัวถังรถใช้ดิฟฟิวเซอร์หลายชั้นและเครื่องสร้างกระแสน้ำวน ไม่เพียงแต่ปรับปรุงการจัดการการไหลของอากาศ แต่ยังเพิ่มประสิทธิภาพการระบายความร้อนขึ้น 15% อีกด้วย

ในส่วนของภายใน 849 Testarossa ได้นำข้อเสนอแนะจากผู้ใช้ SF90 Stradale มาพัฒนา โดยรถคันใหม่ได้กลับมาใช้ปุ่มกดแบบดั้งเดิม โดยเฉพาะในฟังก์ชันที่ใช้งานบ่อยอย่างการควบคุมระบบปรับอากาศและการเลือกโหมดการขับขี่

พวงมาลัยยังคงปุ่มกดแบบฟิสิคัลไว้ คอนโซลกลางได้รับการออกแบบให้เรียบง่ายมากขึ้น แผงหน้าปัดได้รวมข้อมูลการขับขี่มากขึ้น และยังจัดแสดงผลข้อมูลแบบแยกเฉพาะสำหรับผู้โดยสารด้านครับอีกด้วย

ชุด Assetto Fiorano ลดน้ำหนักตัวรถลง 30 กิโลกรัมสำเร็จด้วยการใช้เบาะนั่งคาร์บอนไฟเบอร์และชิ้นส่วนระบบกันสะเทือนที่ทำจากไทเทเนียม

849 Testarossa ใช้สถาปัตยกรรมไฮบริดแบบใหม่

หัวใจของ 849 Testarossa คือเครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบ ขนาด 4.0 ลิตร ที่ได้รับการอัปเกรดอย่างเต็มรูปแบบ สามารถปลดปล่อยพละกำลังได้ถึง 830 แรงม้า ให้กำลังต่อหน่วยที่ 208 แรงม้าต่อลิตร

เครื่องยนต์นี้ใช้ก้านลูกสูบไทเทเนียม ข้อเหวี่ยงเสริมความแข็งแกร่ง และเทอร์โบชาร์จเจอร์ขนาดใหญ่กว่าเดิม พร้อมเพิ่มขีดจำกัดรอบหมุนจนถึง 8,300 รอบต่อนาที

จับคู่กับระบบมอเตอร์ไฟฟ้า 3 ตัว ประกอบด้วยมอเตอร์คู่ที่เพลาหน้า และมอเตอร์เดี่ยวที่เพลาหลัง โดยมอเตอร์เพลาหลังใช้เทคโนโลยี MGU-K จากสนามแข่ง F1

ระบบส่งกำลังไฮบริดแบบครบวงจรให้กำลังรวมสูงสุดถึง 1,050 แรงม้า พร้อมชุดแบตเตอรี่ขนาด 7.45kWh ที่ช่วยให้สามารถขับขี่ด้วยโหมดไฟฟ้าอย่างเดียวได้ไกลถึง 25 กิโลเมตร และทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 139 กม./ชม. ในโหมดนี้

849 Testarossa มาพร้อมสมรรถนะที่น่าทึ่ง

849 Testarossa รุ่นคูเป้สามารถทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ได้ภายในเวลาเพียง 2.2 วินาที และ 0-200 กม./ชม. ได้ภายในเวลาเพียง 6.3 วินาที ความเร็วสูงสุดเกินกว่า 330 กม./ชม.

ในสนามทดสอบ Fiorano ของ Ferrari รถคันนี้ได้สร้างสถิติรอบที่ 1 นาที 17.5 วินาที เร็วกว่ารุ่น SF90 Stradale ถึง 1.5 วินาที และใกล้เคียงกับสมรรถนะของรุ่นลิมิเต็ด SF90 XX

ข้อมูลสมรรถนะที่ยอดเยี่ยมเหล่านี้เป็นผลมาจากการออกแบบอากาศพลศาสตร์ที่โดดเด่น ระบบสปอยเลอร์ท้ายแบบแอคทีฟสามารถเปลี่ยนโหมดได้ภายใน 1 วินาที และมอบแรงกดลงบนตัวรถ (Downforce) ที่ 415 กก. ที่ความเร็ว 250 กม./ชม. ซึ่งมากกว่ารุ่นก่อน 25 กก.

การเปิดตัว 849 Testarossa ไม่เพียงแสดงถึงมาตรฐานเทคโนโลยีระดับแนวหน้าของ Ferrari ในด้านซูเปอร์คาร์ไฮบริด แต่ยังเป็นสะพานเชื่อมระหว่างประวัติศาสตร์และอนาคตของแบรนด์

ด้วยการผสมผสานชื่อรุ่นในตำนานเข้ากับเทคโนโลยีล้ำสมัย Ferrari ประสบความสำเร็จในการเสริมสร้างแบรนด์ภายใต้แนวคิด "ตำนานที่สัมผัสได้"

เกี่ยวกับราคาของ Ferrari 849 Testarossa

สุดท้ายเรามาพูดถึงราคา 849 Testarossa รุ่นคูเป้มีราคาเริ่มต้นที่ 460,000 ยูโร (17,100,000 บาท/2,271,000 ริงกิตมาเลเซีย) ส่วนรุ่นเปิดประทุนตั้งราคาไว้ที่ 500,000 ยูโร (18,583,000 บาท/2,469,000 ริงกิตมาเลเซีย) และมีกำหนดการส่งมอบในปี 2026

คู่แข่งหลักของรุ่นนี้ประกอบด้วย Lamborghini Revuelto และ Aston Martin Valhalla ซึ่งเป็นรถซุปเปอร์คาร์ไฮบริด แต่ในด้านสมรรถนะและประสิทธิภาพในสนามแข่ง 849 Testarossa ยังคงมีความได้เปรียบอย่างชัดเจน

สิ่งที่น่าสนใจก็คือ Ferrari มอบการบำรุงรักษาฟรี 7 ปีสำหรับรถรุ่นนี้ และนโยบายการรับประกันระบบไฮบริดนานถึง 16 ปี