ป้ายจราจรมีอะไรบ้าง? เราควรปฏิบัติตามอย่างไร?

วิรุฬห์Nov 04, 2025, 10:16 AM

【PCauto】ด้วยการจราจรทางถนนที่ซับซ้อนขึ้นในปัจจุบัน การเข้าใจกฎสัญลักษณ์จราจรและการมีนิสัยการขับขี่ที่ดีจึงสำคัญอย่างยิ่ง

บทความนี้จะนำเสนอระบบเครื่องหมายจราจรและความรู้พื้นฐานการขับขี่ เพื่อช่วยให้ผู้ขับขี่ตระหนักถึงความปลอดภัยและปฏิบัติตามกฎจราจร

ด้วยเนื้อหาเหล่านี้ ผู้ขับขี่จะสามารถหลีกเลี่ยงการถูกปรับและลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ เพื่อความปลอดภัยของตนเองและผู้อื่น

เราแค่ต้องจำไว้ว่าป้ายจราจรมี 3 ประเภท

ระบบป้ายจราจรเป็นไปตามมาตรฐานสากล โดยแบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลัก

·       สัญลักษณ์เตือนภัย

·       สัญลักษณ์ห้าม

·       สัญลักษณ์แนะนำ/ข้อมูล

สัญลักษณ์เตือนภัย

สัญลักษณ์เตือนภัยใช้เพื่อเตือนถึงอันตรายที่อาจเกิดขึ้น โดยมักมีลักษณะเป็นรูปสามเหลี่ยมหรือสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน พื้นหลังเป็นสีเหลืองหรือสีส้ม (เขตก่อสร้าง) พร้อมกรอบและลวดลายสีดำ ตัวอย่างที่พบได้ทั่วไปได้แก่

สัญลักษณ์โค้งหรือโค้งแหลม
แสดงทิศทางถนนโค้งไปทางซ้าย ขวา หรือโค้งสองทาง
สัญลักษณ์ถนนขรุขระ เตือนว่าถนนข้างหน้าไม่เรียบ
สัญลักษณ์ถนนลื่น เตือนผู้ขับขี่ให้ขับอย่างระมัดระวัง
สัญลักษณ์ถนนแคบ เตือนว่าช่องจราจรลดลง
รวมถึงสัญลักษณ์ทางม้าลาย พื้นที่โรงเรียน สัตว์ข้ามทาง แยกทางข้างหน้า และเตือนหินหล่น

สัญลักษณ์แต่ละแบบมีข้อกำหนดให้ผู้ขับขี่ลดความเร็วและเพิ่มความระมัดระวัง เช่น การลดความเร็วล่วงหน้าในบริเวณโค้ง หรือการหลีกเลี่ยงการเบรกกระทันหันบนถนนลื่น

ป้ายห้าม

ป้ายห้ามใช้เพื่อห้ามหรือจำกัดพฤติกรรมเฉพาะ รูปทรงส่วนใหญ่เป็นวงกลมหรือแปดเหลี่ยม พื้นหลังเป็นสีขาวหรือสีน้ำเงิน มีกรอบสีแดงและลวดลายสีดำ/แดง

ป้ายหยุดเป็นการออกแบบแปดเหลี่ยมสีแดง กำหนดให้คนขับหยุดรถอย่างสมบูรณ์
ป้ายห้ามเข้ามีวงกลมสีแดงพร้อมแถบสีขาวตรงกลาง รถทุกชนิดห้ามเข้าพื้นที่นี้
ป้ายห้ามจอดมักเป็นวงกลม มีเครื่องหมายกากบาทสีแดง และอาจมีคำว่า “ห้ามจอด”
ป้ายจำกัดความเร็วแสดงตัวเลขความเร็วสูงสุด
ป้ายห้ามกลับรถมีลูกศรกลับรถที่ถูกขีดทับด้วยเส้นสีแดง
ป้ายห้ามรถเฉพาะ เช่น มอเตอร์ไซค์หรือรถบรรทุก
รวมทั้งป้ายให้ทาง เป็นสามเหลี่ยมกลับหัว กำหนดให้คนขับชะลอและให้ทาง

การปฏิบัติตามป้ายเหล่านี้เป็นหน้าที่ตามกฎหมาย การฝ่าฝืนอาจนำไปสู่การปรับหรืออุบัติเหตุ ดังนั้นผู้ขับขี่มือใหม่ควรจดจำความหมายและปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด

ป้ายบอกทาง/ป้ายข้อมูล

ป้ายบอกทาง/ป้ายข้อมูลให้ข้อมูลเกี่ยวกับทิศทาง สถานที่ หรือสิ่งอำนวยความสะดวก รูปร่างส่วนใหญ่มักเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าหรือสี่เหลี่ยม พื้นหลังเป็นสีน้ำเงินหรือสีเขียว พร้อมข้อความหรือรูปภาพสีขาว เช่น

ป้ายบอกทาง แสดงทิศทางและระยะทางไปยังเมืองหรือปลายทาง
ป้ายจอดรถ บ่งบอกถึงพื้นที่ที่ได้รับอนุญาตให้จอดรถ
และป้ายโรงพยาบาลหรือสถานีฉุกเฉิน

จะทำอย่างไรเมื่อเจอถนนที่ไม่มีเครื่องหมายจราจร?

ในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในชนบทและซอย เครื่องหมายจราจรอาจไม่ครบถ้วน ขาดหาย หรือถูกละเลย

ในสถานการณ์เช่นนี้ คนขับจำเป็นต้องใช้กลยุทธ์การขับขี่แบบป้องกัน หลักการสำคัญคือควรตื่นตัวอยู่เสมอ ไม่ควรสันนิษฐานว่าตนเองมีสิทธิ์ผ่านก่อน และคาดการณ์พฤติกรรมของผู้ใช้ถนนรายอื่น

เราสามารถ

·       ลดความเร็ว ใกล้หยุดรถบริเวณสี่แยกที่ไม่มีสัญญาณไฟ ค่อย ๆ ยื่นส่วนหัวของรถออกไปเพื่อสังเกตทุกทิศทาง และผ่านไปเมื่อปลอดภัย

·       ระวังรถจักรยานยนต์และคนเดินเท้า ซึ่งมักเคลื่อนที่แทรกผ่านหรือสวนทางในกระแสรถยนต์ ดังนั้นเมื่อเลี้ยวหรือเปลี่ยนเลนควรตรวจสอบทั้งสองด้านและด้านหลัง

·       ใช้เครื่องมือ GPS เช่น Google Maps หรือ Waze เพื่อช่วยวางแผนเส้นทาง

·       ใช้การสื่อสารด้วยสายตาหรือท่าทางเพื่อประเมินเจตนาของผู้ขับขี่รายอื่น แต่ต้องระมัดระวังในการตีความสัญญาณไฟกระพริบ

·       และควรรักษาความอดทน หลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่เป็นอันตราย เช่น ในถนนแคบ การบีบแตรอย่างสุภาพถือเป็นการบอกตำแหน่งของตนเอง แต่ไม่ควรใช้เพื่อเร่งรีบ

มี "กฎจราจรอย่างไม่เป็นทางการ" อะไรที่ควรรู้บ้าง?

นอกเหนือจากกฎทางการแล้ว บนถนนยังมีกฎจราจรอย่างไม่เป็นทางการที่คนขับควรทราบ

·       การเปิดไฟกระพริบมักหมายถึง "ฉันไปก่อน" ไม่ใช่การให้ทาง หากเห็นควรลดความเร็วและหลีกทาง

·       ที่สี่แยกที่ไม่มีป้ายห้าม เลี้ยวซ้ายมักเป็นที่ยอมรับในทางปฏิบัติ แต่ไม่ควรรบกวนรถที่วิ่งตรง

·       "ยานพาหนะที่ใหญ่กว่ามีสิทธิ์ก่อน" ซึ่งเป็นกฎอย่างไม่เป็นทางการ หมายความว่ารถคันใหญ่ เช่น รถบรรทุกหรือรถบัส มักจะมีสิทธิมากกว่า รถคันเล็กควรหลีกทางโดยสมัครใจ

·       การกระทำของรถจักรยานยนต์มีอยู่ทั่วไป พวกเขาอาจสวนทางหรือเพิกเฉยต่อสัญญาณไฟ คนขับรถควรเตรียมพร้อมที่จะหลีกเลี่ยงเสมอ

·       เมื่อเปลี่ยนเลน คนขับรถหลายคนมักไม่ใช้สัญญาณไฟเลี้ยว ดังนั้นควรสังเกตทิศทางของรถแทนที่จะพึ่งพาสัญญาณไฟ

·       ไฟฉุกเฉินมักใช้เพื่อแสดงว่าหยุดรถชั่วคราวในกรณีที่ไม่ฉุกเฉิน ยานพาหนะอื่นจะถือว่าเลี่ยงการขับผ่าน

·       ช่องทางซ้ายสุดมักมีรถที่วิ่งช้าหรือมอเตอร์ไซค์ที่วิ่งสวนเลนมายึดพื้นที่ แนะนำให้หลีกเลี่ยงการใช้งาน

·       การแซงและการเร่งรีบเกิดขึ้นบ่อยในเมือง ควรรักษาทัศนคติในการขับขี่แบบตั้งรับเพื่อตอบสนองต่อสถานการณ์ฉุกเฉิน

เมื่อปรับตัวให้เข้ากับกฎที่ไม่ได้เขียนไว้เหล่านี้ คนขับรถควรให้ความสำคัญกับความปลอดภัยเป็นหลัก ไม่ควรขัดต่อกฎระเบียบอย่างเป็นทางการ และควรสะสมประสบการณ์ผ่านการฝึกฝนในชีวิตประจำวัน

โดยสรุป สำหรับผู้ขับขี่ การมีความชำนาญในระบบสัญลักษณ์จราจร การใช้กลยุทธ์การขับขี่แบบตั้งรับในพื้นที่ที่สัญลักษณ์ไม่ชัดเจน และการเข้าใจกฎที่ไม่ได้เขียนไว้ในการจราจร เป็นพื้นฐานในการรับรองความปลอดภัยในการเดินทาง มีเพียงเมื่อพื้นฐานนี้มั่นคงเท่านั้น ที่จะสามารถตอบสนองต่อความท้าทายบนถนนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเพลิดเพลินไปกับการขับขี่ที่ปลอดภัยและราบรื่น

# สารานุกรมยานยนต์

คุณสามารถติดต่อเราให้ลบออกเนื้อหาถ้าละเมิดลิขสิทธิ์

ติดตามเรา

You Tube Facebook Google News

ข้อมูลยอดนิยม

มีข่าวลือว่า Sensteed Hi-Tech จะเข้าควบคุม NETA โดยจะเสร็จสิ้นการถ่ายโอนในเดือนตุลาคมและเริ่มการผลิตอีกครั้ง

มีข่าวลือว่า Sensteed Hi-Tech จะเข้าควบคุม NETA โดยจะเสร็จสิ้นการถ่ายโอนในเดือนตุลาคมและเริ่มการผลิตอีกครั้ง

มีรายงานว่า Sensteed Hi-Tech วางแผนที่จะเข้าควบคุมบริษัทแม่ของ NETA คือ HOZON อย่างเป็นทางการในวันที่ 1 ตุลาคม 2025 โดยจะเสร็จสิ้นการโอนย้ายสินทรัพย์และทีมผู้บริหารทั้งหมด หลังจากนั้น NETA จะเริ่มการผลิตอีกครั้ง

วิรุฬห์Sep 18, 2025
Suzuki Fronx เปรียบเทียบกับToyota Yaris Cross รุ่นไหนคุ้มค่ากว่าที่จะซื้อ?

Suzuki Fronx เปรียบเทียบกับToyota Yaris Cross รุ่นไหนคุ้มค่ากว่าที่จะซื้อ?

รถ SUV ขนาดเล็กกำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากความคล่องตัวและความประหยัดน้ำมัน ดังนั้น Suzuki Fronx จึงเข้าร่วมแข่งขันในตลาดเฉพาะกลุ่มนี้ ซึ่งดึงดูดความสนใจจากผู้คนจำนวนมาก

LienOct 5, 2025
Omoda & Jaecoo ล็อต 2 เข้าไทยเพิ่ม 14 กันยายนนี้! เตรียมส่งมอบกว่า 1,000 คัน

Omoda & Jaecoo ล็อต 2 เข้าไทยเพิ่ม 14 กันยายนนี้! เตรียมส่งมอบกว่า 1,000 คัน

หลังสร้างกระแสแรงจากการเปิดตัวในช่วงปลายเดือนสิงหาคม 2568 ที่ผ่านมา ล่าสุด Omoda & Jaecoo เตรียมเดินหน้าส่งมอบรถล็อต 2 โดยมีกำหนดเดินทางจากจีนมาถึงประเทศไทยในวันที่ 14 กันยายน 2568 ก่อนจะทำการตรวจสอบคุณภาพและทยอยส่งมอบกว่า 1,000 คัน

ธนวัฒน์Sep 12, 2025
รุ่นที่สองของ JAECOO 5 EV จะเริ่มส่งมอบในเดือนกันยายน โดยนับตั้งแต่วางจำหน่ายจนถึงปัจจุบันได้ส่งมอบแล้วทั้งหมด 3,000 คัน

รุ่นที่สองของ JAECOO 5 EV จะเริ่มส่งมอบในเดือนกันยายน โดยนับตั้งแต่วางจำหน่ายจนถึงปัจจุบันได้ส่งมอบแล้วทั้งหมด 3,000 คัน

JAECOO 5 EV ล็อตที่สองจำนวน 1,000 คัน ถูกส่งจากประเทศจีนมาถึงประเทศไทยแล้ว นับเป็นการส่งมอบครั้งใหญ่ครั้งที่สองของแบรนด์นี้ในตลาดไทย หลังจากการส่งมอบล็อตแรกจำนวน 300 คันเมื่อปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ด้วยการมาถึงของล็อตที่สอง การส่งมอบ JAECOO 5 EV ในประเทศไทยจะเริ่มเข้าสู่ช่วงเร่งความเร็ว

LienSep 18, 2025
ในประเทศไทย เลือกรถยนต์ซันรูฟ: ซันรูฟพาโนรามาหรือซันรูฟเดี่ยว? อ่านจบไม่พลาด

ในประเทศไทย เลือกรถยนต์ซันรูฟ: ซันรูฟพาโนรามาหรือซันรูฟเดี่ยว? อ่านจบไม่พลาด

ในประเทศไทย ซันรูฟของรถยนต์ไม่เพียงแค่ช่วยเพิ่มบรรยากาศที่ดีเท่านั้น แต่ยังต้องปรับให้เข้ากับสภาพอากาศเขตร้อน สภาพการจราจรที่คับคั่ง และการใช้งานในชีวิตประจำวันอีกด้วย — เพราะอุณหภูมิสูง 28-35℃ ตลอดทั้งปี ฝนตกบ่อยในช่วงฤดูฝน และการเดินทางในเมืองที่มีการจราจรหนาแน่น อย่างกรุงเทพฯ มีผลต่อการใช้งานของซันรูฟโดยตรง

Kevin WongSep 12, 2025
ดูเพิ่มเติม
  • รถยอดนิยม

  • เปรียบเทียบรถยนต์

  • รูปภาพรถ

  • ภาพภายใน

  • รุ่นปีรถยนต์

  • รุ่นรถยนต์