Q

วิธีการรีเซ็ตไฟบำรุงรักษาบน Lexus RX 350 ปี 2018

สำหรับวิธีรีเซ็ตไฟแจ้งเตือนการบำรุงรักษาของ Lexus RX 350 รุ่นปี 2018 มักจะดำเนินการดังนี้: ก่อนอื่นให้ปิดสวิตช์กุญแจ จากนั้นกดปุ่มรีเซ็ตระยะทางค้างไว้โดยไม่ปล่อย ต่อมาเปิดสวิตช์กุญแจ แล้วรอไม่กี่วินาทีก่อนปล่อยปุ่มรีเซ็ต ไฟแจ้งเตือนการบำรุงรักษาก็จะรีเซ็ต แต่ควรระวังว่าในบางรุ่นย่อยหรือในบางกรณีอาจมีรายละเอียดที่แตกต่างเล็กน้อย
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto

Q&A เกี่ยวข้อง

Q
สปาร์กปลั๊กใน Lexus RX 350 มีเท่าไหร่
โดยทั่วไป Lexus RX 350 จะใช้หัวเทียนทั้งหมด 4 หัว แต่ชนิดและรุ่นของหัวเทียนอาจแตกต่างกันเล็กน้อยขึ้นอยู่กับรุ่นย่อยหรือล็อตการผลิตของรถ
Q
วิธีเปิดตรวจจับจุดบอดใน Lexus RX 350
วิธีเปิดใช้งานระบบเตือนจุดอับสายตาของ Lexus RX 350 โดยทั่วไปจะทำผ่านเมนูการตั้งค่าของตัวรถ สามารถค้นหาตัวเลือกที่เกี่ยวข้องได้จากหน้าจอแสดงผลที่แผงหน้าปัดหรือหน้าจอกลาง โดยปกติจะอยู่ในเมนูย่อยของระบบช่วยเหลือการขับขี่หรือระบบความปลอดภัย วิธีการเข้าถึงอาจแตกต่างกันเล็กน้อยตามรุ่นย่อยและปีผลิตของรถ
Q
Lexus RX 350 สามารถบรรจุน้ำมันกี่แกลลอน
ความจุถังน้ำมันของ Lexus RX 350 โดยทั่วไปอยู่ที่ประมาณ 72 ลิตร อย่างไรก็ตาม ความจุอาจมีความแตกต่างเล็กน้อยตามรุ่นย่อยและล็อตการผลิตของรถ
Q
Lexus RX 350 AWD ทำงานอย่างไร
Lexus RX 350 AWD ใช้ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบ Full-time AWD พร้อมเทคโนโลยี Dynamic Torque Distribution ที่สามารถปรับการส่งแรงบิดระหว่างเพลาหน้าและเพลาหลังได้แบบเรียลไทม์ตามสภาพถนน เพื่อให้ได้การยึดเกาะและเสถียรภาพในการควบคุมที่ดีที่สุด ในสภาพถนนปกติ ระบบจะเน้นการขับเคลื่อนล้อหน้าเป็นหลักในอัตราส่วน 100:0 (หน้า:หลัง) เพื่อช่วยประหยัดน้ำมัน แต่เมื่อมีการตรวจจับการลื่นไถลหรือการเร่งความเร็ว ระบบสามารถปรับการกระจายแรงบิดเป็น 50:50 ได้อย่างรวดเร็วเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการขับเคลื่อนสี่ล้อ นอกจากนี้ Lexus ยังติดตั้งระบบ AWD Integrated Management (AIM) ที่ทำงานประสานกันระหว่างเครื่องยนต์ เกียร์ เบรก และพวงมาลัย เพื่อเพิ่มเสถียรภาพในการขับขี่บนถนนลื่น หิมะ หรือทางโค้ง สำหรับสภาพถนนในประเทศไทย แม้ว่าส่วนใหญ่จะเป็นถนนแห้ง แต่ในช่วงฤดูฝนหรือบนเส้นทางภูเขา ระบบ AWD จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยได้อย่างชัดเจน เมื่อเทียบกับรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้า (FWD) RX 350 AWD มีความสามารถในการรับมือกับสภาพเส้นทางที่หลากหลายได้ดีกว่า เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความมั่นใจในการขับขี่และสมรรถนะที่พร้อมลุยทุกสภาพอากาศ อย่างไรก็ตาม อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันจะสูงกว่ารุ่นขับเคลื่อนสองล้อเล็กน้อย จึงแนะนำให้เลือกตามลักษณะการใช้งานจริงเป็นหลัก
Q
Lexus RX 350 มาในสีอะไรบ้าง?
สีที่พบบ่อยสำหรับ Lexus RX 350 ในตลาดประเทศไทยได้แก่สีขาวมุก, สีฟ้าอัญมณี, สีเทาเงินและสีดำ อย่างไรก็ตาม การจัดหาสีรถอาจมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นอยู่กับช่วงเวลาขายและภูมิภาค
Q
Lexus RX ตัวไหนดีที่สุด
ในกลุ่มรถยนต์ Lexus RX การระบุว่า “ดีที่สุด” ขึ้นอยู่กับความต้องการของแต่ละคน แต่หากพิจารณาด้านกำลังเครื่องยนต์ ออปชั่นความหรูหรา และเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย RX 500h F Sport Performance ถือว่าคุ้มค่าที่สุด รุ่นนี้ใช้ระบบไฮบริดเทอร์โบ 2.4 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 367 แรงม้า เร่งแรงกว่า RX 350 (3.5 L V6) และ RX 450h+ ไฮบริดปลั๊กอิน พร้อมจูนช่วงล่างสไตล์สปอร์ต ติดตั้งชุดแต่ง F Sport ระบบช่วงล่างปรับระดับอัตโนมัติ และระบบควบคุมการเลี้ยวล้อหลังแบบไดนามิกมาให้เป็นมาตรฐาน ถ้าคุณเน้นความประหยัดน้ำมัน RX 450h+ (ขับขี่ไฟฟ้าได้ประมาณ 65 กม.) จะเหมาะกับการใช้งานในเมือง ส่วน RX 350 เครื่องยนต์ V6 ก็ยังได้รับความนิยมด้วยการขับขี่ที่เรียบเนียนและต้นทุนบำรุงรักษาต่ำ ในไทยทุกรุ่นมีระบบความปลอดภัย Lexus Safety System+ 3.0 หลังคาซันรูฟพาโนรามา เบาะหนังกึ่งอนิไลน์ และเครื่องเสียงพรีเมียม Mark Levinson® แนะนำให้ทดลองขับตามสไตล์ที่คุณชอบ (สปอร์ต, ประหยัด หรือหรูหรา) เพื่อเลือก RX รุ่นที่ตอบโจทย์ที่สุดครับ
Q
Toyota ที่เทียบเท่ากับ Lexus RX 350 คืออะไร
รุ่นที่ใกล้เคียงที่สุดกับ Lexus RX 350 ภายใต้แบรนด์ Toyota คือ Toyota Highlander เนื่องจากทั้งสองรุ่นใช้แพลตฟอร์ม GA-K ร่วมกัน และมีความคล้ายคลึงกันในด้านขนาด สมรรถนะ และการวางตำแหน่งทางการตลาด RX 350 ใช้เครื่องยนต์เบนซิน V6 ขนาด 3.5 ลิตร กำลัง 295 แรงม้า ขณะที่ Highlander ที่ใช้แพลตฟอร์มเดียวกัน ก็มีตัวเลือกเครื่องยนต์ V6 3.5 ลิตร 295 แรงม้าเช่นกัน โดยบางตลาดยังมีทางเลือกเครื่องยนต์เทอร์โบ 2.4 ลิตร หรือระบบไฮบริดเพิ่มเติม ในด้านพื้นที่โดยสาร ทั้งสองรุ่นมีเบาะสามแถว (RX สามารถเลือกได้ระหว่าง 5 หรือ 7 ที่นั่ง ส่วน Highlander มาตรฐานเป็น 7 ที่นั่ง) แต่ RX โดดเด่นกว่าด้วยความหรูหรา วัสดุตกแต่งภายใน ระบบเก็บเสียง และอุปกรณ์เทคโนโลยีขั้นสูง เช่น เครื่องเสียง Mark Levinson และระบบความปลอดภัยที่เหนือกว่า ในขณะที่ Highlander มีจุดเด่นด้านความคุ้มค่า ความทนทาน และความเหมาะสมในด้านราคา เหมาะสำหรับครอบครัวที่ต้องการพื้นที่กว้างคล้าย RX แต่มีงบประมาณจำกัด สำหรับตลาดประเทศไทย Highlander นำเข้ามาจำหน่ายในรูปแบบรถนำเข้า และมีราคาถูกกว่า RX แต่ยังคงความน่าเชื่อถือที่ยอดเยี่ยมตามมาตรฐานคุณภาพสูงของ Toyota ได้อย่างครบถ้วน
Q
ความแตกต่างระหว่าง Lexus RX 350 และ 350L คืออะไร
ความแตกต่างหลักระหว่าง Lexus RX 350 และ RX 350L คือขนาดตัวถังและการจัดวางพื้นที่ภายใน RX 350 เป็นรุ่นฐานล้อมาตรฐาน ส่วน RX 350L มีการขยายฐานล้อให้ยาวขึ้น เพื่อเพิ่มพื้นที่วางขาสำหรับผู้โดยสารแถวหลัง นอกจากนี้ RX 350L ยังมีพื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้ายที่มากขึ้น เพื่อตอบโจทย์การใช้งานที่ต้องการขนของมากขึ้น ในด้านดีไซน์ภายนอก ทั้งสองรุ่นจะมีความแตกต่างกันเล็กน้อย เช่น แนวเส้นตัวถังและรูปทรงบริเวณด้านท้าย สำหรับภายใน RX 350L อาจมีการปรับเปลี่ยนการจัดวางเบาะนั่งและอุปกรณ์ต่าง ๆ เพื่อรองรับพื้นที่ที่เพิ่มขึ้น
Q
วิธีการเปลี่ยนใบปัดน้ำฝน Lexus RX 350
ขั้นตอนการเปลี่ยนใบปัดน้ำฝนของ Lexus RX 350 มีดังนี้: เริ่มจากยกก้านปัดน้ำฝนขึ้นให้อยู่ในแนวตั้งฉากกับกระจกหน้า จากนั้นกดหรือล็อกกลไกยึดที่จุดเชื่อมต่อ เพื่อถอดใบปัดน้ำฝนอันเก่าออก แล้วนำใบปัดน้ำฝนอันใหม่เสียบเข้ากับจุดยึดให้แน่นหนา สุดท้ายค่อย ๆ วางก้านปัดน้ำฝนกลับลงอย่างระมัดระวัง ในระหว่างการทำงานควรจับอุปกรณ์เบา ๆ เพื่อหลีกเลี่ยงความเสียหายต่อชิ้นส่วนของรถยนต์
Q
เลกซัส RX 350 น้ำหนักเท่าไหร่
น้ำหนักรถเปล่าของ Lexus RX 350 ในประเทศไทยโดยทั่วไปอยู่ที่ประมาณ 1,945 – 2,040 กิโลกรัม อย่างไรก็ตาม น้ำหนักจริงอาจแตกต่างกันเล็กน้อยขึ้นอยู่กับรุ่นย่อยและอุปกรณ์เสริมที่ติดตั้งเพิ่มเติม

ข้อดี

รถมีลักษณะที่ทันสมัย มีเส้นสายที่รุนแรงมีอารมณ์ที่เต็มเปี่ยมด้วยการเคลื่อนไหวสามารถเลือกสีที่หลากหลาย< br>ผลงานด้านความปลอดภัยที่ยอดเยี่ยมได้รับการจัดอันดับความปลอดภัยขั้นสูงจาก IIHS
การกำหนดค่าทางเทคโนโลยีที่หลากหลาย หวีเลี้ยวสามารถปรับทั้ง 4 ทิศทางสร้างความสบายในการขับขี่และ การนั่งขับ
ซักระบบแบบอ่อนนุ่มสบาย 80 ไปในการปรับสั่นในแนวต้นที่ลาดเอียง
จอแสดงผลการนำทางขนาด 12.3 นิ้ว มีความละเอียดสูง ความสะดวกในการวางแผนการขับขี่

ข้อเสีย

ฝาครอบด้านหลังมีพื้นที่จัดเก็บสิ่งของเล็กน้อย
ที่นั่งแถวที่สามมีพื้นที่แคบ
หน้าตัวกรอบตะแกรงอาจไม่น่าตา
อุปกรณ์บางอย่างมีปัญหาง่าย โครงสร้างไฮบริดอาจทำให้เกิดการชำรุดเครื่องเสียงอาจเสียง่าย
ราคาสูง ราคาเริ่มต้น 4230000 บาท สูงกว่ารถขนาดเดียวกัน

Q&A ล่าสุด

Q
2020 Yaris เป็นรถยนต์แบบ 3 หรือ 4 สูบ?
รถยนต์โตโยต้า Yaris รุ่นปี 2020 ที่วางขายในตลาดไทยใช้เครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.2 ลิตร 4 สูบแบบแถวเรียง รหัส 3NR-FE ให้กำลังสูงสุด 86 แรงม้า คู่กับเกียร์ CVT เครื่องยนต์ตัวนี้ขึ้นชื่อในเรื่องความทนทานและประหยัดน้ำมัน เหมาะมากกับการใช้งานในเมืองอย่างกรุงเทพฯ ที่ต้องเจอกับการจราจรที่ต้องหยุดและเคลื่อนตัวบ่อยๆ ที่น่าสนใจคือบางตลาดต่างประเทศอาจใช้เครื่องยนต์ 3 สูบเทอร์โบ แต่สำหรับรุ่นไทยยังคงเป็นเครื่องยนต์ 4 สูบเพื่อตอบโจทย์ความนิยมของคนไทยที่ชอบความเรียบและสะดวกในการดูแลรักษา สำหรับผู้บริโภคไทยควรทราบว่าในปี 2020 ทางโตโยต้ายังมี Yaris อีกรุ่นที่ใช้แพลตฟอร์มของ Mazda2 (รหัส YP210) ซึ่งเป็นระบบไฮบริดที่ใช้ชุดขับเคลื่อนต่างออกไป สำหรับคนไทยที่ต้องการประหยัดงบประมาณ การเลือกเครื่องยนต์ 4 สูบแบบธรรมดาจะดูแลรักษาง่ายและหาอะไหล่สะดวก ส่วนใครที่ต้องการประหยัดน้ำมันมากขึ้นอาจรอเลือกรุ่นไฮบริดที่ออกมาทีหลัง ควรระวังเรื่องการตรวจสอบระบบระบายความร้อนและระดับน้ำมันเครื่องบ่อยๆ โดยเฉพาะในสภาพอากาศร้อนของไทย เพราะเครื่องยนต์ขนาดเล็กแบบนี้เมื่อต้องทำงานหนักต่อเนื่องเป็นเวลานานอาจมีปัญหาเรื่องความร้อนได้
Q
ความเร็วสูงสุดของ Toyota Yaris 2020 คือเท่าไร
รถยนต์โตโยต้า Yaris รุ่นปี 2020 ที่วางขายในตลาดไทยมีความเร็วสูงสุดอยู่ที่ประมาณ 170-180 กม./ชม. แต่ตัวเลขที่แท้จริงอาจแตกต่างกันไปตามรุ่นเครื่องยนต์และระบบเกียร์ เช่น รุ่นเครื่องยนต์ 1.2 ลิตร แบบดูดธรรมดาคู่กับเกียร์ CVT ในสภาพอากาศร้อนและสภาพถนนในเมืองของไทยอาจทำความเร็วสูงสุดได้ต่ำกว่าค่ามาตรฐานเล็กน้อย แต่ก็ยังตอบโจทย์การใช้งานทั่วไปทั้งในเมืองและบนทางหลวงได้อย่างดี อย่างไรก็ตาม กฎหมายจราจรไทยกำหนดให้ความเร็วบนถนนทั่วไปอยู่ที่ 80-120 กม./ชม. ส่วนทางหลวงสูงสุดไม่เกิน 120 กม./ชม. ดังนั้นถึงรถจะทำความเร็วได้มากกว่าก็ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย สำหรับคนไทยแล้ว จุดเด่นของ Yaris อยู่ที่ความประหยัดน้ำมันและการขับขี่ที่คล่องตัว โดยเฉพาะในเมืองติดขัดอย่างกรุงเทพฯ เครื่องยนต์ 1.2 ลิตร พร้อมโหมด ECO ของโตโยต้าช่วยลดการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงได้ดี ขนาดตัวรถที่กะทัดรัดยังเหมาะกับการขับเคลื่อนในซอยแคบๆ อีกด้วย ถ้าอยากได้สมรรถนะ更高ขึ้น ลองดูรุ่น GR Sport ที่ติดตั้งเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร ซึ่งให้พลังมากขึ้น แต่ต้องระวังผลกระทบจากอากาศร้อนของไทยต่อการทำงานของเครื่องยนต์ในช่วงเวลานานๆ ควรดูแลระบบหล่อเย็นให้ดีเป็นพิเศษ
Q
โตโยต้า ยาริส 2020 คือกี่ลิตร
รถยนต์โตโยต้า Yaris รุ่นปี 2020 ที่วางจำหน่ายในตลาดประเทศไทยมาพร้อมกับตัวเลือกเครื่องยนต์ 2 แบบ ได้แก่ เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ แบบดูดธรรมดา ขนาด 1.2 ลิตร และ 1.5 ลิตร โดยรุ่น 1.2 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 86 แรงม้า ส่วนรุ่น 1.5 ลิตร ทำกำลังได้ถึง 107 แรงม้า ทั้งคู่ใช้เกียร์ CVT ที่ช่วยประหยัดน้ำมันและตอบโจทย์การขับขี่ในชีวิตประจำวันได้ดี เหมาะสมกับสภาพถนนทั้งในเมืองและนอกเมืองของไทยเป็นอย่างยิ่ง สำหรับตลาดไทยแล้ว Yaris ได้รับความนิยมจากความทนทานและค่าบำรุงรักษาที่ไม่สูง โดยรุ่น 1.2 ลิตร เหมาะกับผู้ที่ต้องการประหยัดงบ ส่วนรุ่น 1.5 ลิตร จะให้พลังการขับเคลื่อนที่มากขึ้นกว่า อย่างไรก็ดี รายละเอียดการแต่งรถอาจแตกต่างกันไปในแต่ละปีและแต่ละพื้นที่ ดังนั้นควรสอบถามตัวแทนจำหน่ายในพื้นที่เพื่อข้อมูลที่ถูกต้อง Yaris ถือเป็นรถขนาดเล็กขายดีระดับโลกที่ได้รับความนิยมในไทยเช่นกัน ด้วยขนาดตัวรถที่คล่องตัวและความน่าเชื่อถือของโตโยต้า ทำให้มันเป็นตัวเลือกเหมาะๆ สำหรับการเดินทางในเมืองใหญ่อย่างกรุงเทพฯ ที่การจราจรหนาแน่น
Q
รถโตโยต้ายาริสปี 2020 เป็นรถที่เชื่อถือได้ไหม
Toyota Yaris 2020 ในตลาดไทยเป็นรถที่เชื่อถือได้และคุ้มค่า เครื่องยนต์ 12 ลิตรแบบดูดอากาศธรรมชาติมีเทคโนโลยีที่ผ่านการพิสูจน์แล้ว จับคู่กับเกียร์ CVT ขับขี่ได้ดีแม้ถนนกรุงเทพติดขัด ประหยัดน้ำมัน เหมาะกับการเดินทางในเมืองไทย รถสืบทอดความทนทานตามแบบ Toyota สภาพอากาศร้อนชื้นและฝนตกไม่ส่งผลต่อระบบอิเล็กทรอนิกส์หรือการกันสนิม การบำรุงรักษาสะดวก มีเครือข่าย 4S ครอบคลุมพร้อมอะไหล่เพียงพอและราคาสมเหตุสมผล อัตราการคืนทุนในตลาดมือสองสูง รุ่นไทยปรับปรุงระบบปรับอากาศให้รองรับอุณหภูมิสูงและช่วงล่างปรับแต่งให้เหมาะกับถนนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ การใช้พื้นที่ภายในและการจัดเก็บเหมาะกับครอบครัว เช่น เบาะหลังปรับได้หลายรูปแบบเหมาะกับการท่องเที่ยววันหยุด โดยรวม Yaris เป็นรถขนาดเล็กประหยัดน้ำมันที่เหมาะกับผู้บริโภค
Q
กล่องเกียร์ประเภทใดคือ Toyota Yaris 2020
รุ่น Toyota Yaris ปี 2020 ที่วางขายในตลาดไทยมีระบบเกียร์ที่แตกต่างกันไปตามรุ่นย่อย โดยรุ่นเครื่องยนต์ 1.2 ลิตร แบบดูดธรรมดาจะใช้เกียร์ CVT (รุ่น K120) ที่โดดเด่นในเรื่องการเปลี่ยนเกียร์ที่ลื่นไหลและช่วยประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงได้ดี เหมาะสมกับการขับขี่ในเมืองอย่างกรุงเทพฯ ที่ต้องหยุดและสตาร์ทบ่อยครั้ง เกียร์ CVT นี้ทำงานผ่านระบบสายพานเหล็กที่ช่วยเปลี่ยนเกียร์ได้อย่างต่อเนื่อง ทำให้เครื่องยนต์ทำงานอยู่ในรอบที่เหมาะสมเสมอ เมื่อเทียบกับเกียร์ออโตเมติกแบบดั้งเดิม นอกจากนี้ระบบระบายความร้อนยังได้รับการปรับแต่งให้เหมาะกับสภาพอากาศร้อนของไทยเพื่อความทนทาน ส่วนรุ่นแข่งอย่าง Honda City และ Nissan Almera ก็ใช้เทคโนโลยี CVT เช่นกัน แต่แต่ละแบรนด์จะมีการตั้งค่าอัตราทดเกียร์และความ responsive ของคันเร่งที่แตกต่างกันไป สำหรับคนไทยแล้ว เกียร์ CVT นั้นดูแลรักษาง่าย เพราะเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์แค่ทุก 6 หมื่นกิโลเมตร (แนะนำให้ใช้น้ำมันเกียร์มาตรฐาน Toyota ATF-WS) และเข้ากันได้ดีกับน้ำมันเชื้อเพลิงในประเทศ แต่ถ้าชอบความรู้สึกการขับขี่ที่สมจริงมากกว่านี้ อาจต้องมองหาเกียร์แบบคลัตช์คู่หรือเกียร์มือในบางรุ่นของแบรนด์อื่น เพราะ Yaris ในไทยไม่มีตัวเลือกเหล่านี้ให้เลือก
ดูเพิ่มเติม