Q

Nissan Leaf มีระยะทางอย่างไร

ระยะทางในการขับขี่ต่อการชาร์จหนึ่งครั้งของ Nissan Leaf ในประเทศไทยอาจแตกต่างกันไปตามรุ่นและสภาพการใช้งาน โดยทั่วไปแล้ว รุ่นที่พบได้บ่อยจะมีระยะทางราว 250 ถึง 350 กิโลเมตรต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง ทั้งนี้ สมรรถนะของระยะทางดังกล่าวยังขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น พฤติกรรมการขับขี่ สภาพถนน และอุณหภูมิของสภาพแวดล้อมด้วยเช่นกัน
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto

Q&A เกี่ยวข้อง

Q
นี่คือระดับการชาร์จสำหรับแบตเตอรี่ของ Nissan Leaf
ระดับการชาร์จแบตเตอรี่ของ Nissan Leaf อาจแตกต่างกันไปตามรุ่นและอุปกรณ์ที่ติดตั้ง โดยทั่วไปแล้ว รุ่นมาตรฐานรองรับการชาร์จได้หลายรูปแบบ ทั้งแบบชาร์จปกติ (ชาร์จช้า) และแบบชาร์จเร็ว สำหรับการชาร์จแบบช้า มักใช้เวลาหลายชั่วโมงกว่าจะชาร์จเต็ม ในขณะที่การชาร์จแบบเร็วสามารถเติมพลังงานเข้าสู่แบตเตอรี่ได้ภายในระยะเวลาสั้น ๆ อย่างไรก็ตาม ระยะเวลาและประสิทธิภาพในการชาร์จจะขึ้นอยู่กับประเภทของสถานีชาร์จและสภาพแวดล้อมด้วย
Q
ความยาวประกันของนิสสันลีฟคืออะไร
ระยะเวลารับประกันของ นิสสัน ลีฟ ในประเทศไทยโดยปกติอยู่ที่ 3 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร แล้วแต่อย่างใดถึงก่อน อย่างไรก็ตาม นโยบายการรับประกันอาจแตกต่างกันไปตามช่องทางการซื้อและโปรโมชันต่าง ๆ
Q
ค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนแบตเตอรี่ของ nissan leaf คือเท่าไหร่
ค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนแบตเตอรี่ของ Nissan Leaf ในประเทศไทยอาจแตกต่างกันไปตามหลายปัจจัย โดยทั่วไปแล้ว ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 100,000 ถึง 200,000 บาท อย่างไรก็ตาม ราคาจริงอาจขึ้นอยู่กับรุ่นของแบตเตอรี่ สภาวะตลาด และศูนย์บริการที่เลือกใช้ด้วยเช่นกัน
Q
วิธีตรวจสอบสุขภาพแบตเตอรี่ Nissan Leaf
ในประเทศไทย หากต้องการตรวจสอบสภาพแบตเตอรี่ของ Nissan Leaf สามารถดูข้อมูลได้จากระบบคอมพิวเตอร์ภายในรถ ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว Nissan Leaf หลายรุ่นจะมีระบบจัดการแบตเตอรี่ที่แสดงข้อมูลพื้นฐาน เช่น ปริมาณแบตเตอรี่คงเหลือ จำนวนรอบการชาร์จ และค่าดัชนีสุขภาพโดยรวมของแบตเตอรี่ นอกจากนี้ ยังสามารถนำรถเข้าตรวจเช็กที่ศูนย์บริการหรืออู่ซ่อมรถที่มีอุปกรณ์สำหรับวิเคราะห์แบตเตอรี่โดยเฉพาะ เพื่อประเมินประสิทธิภาพและสภาพของแบตเตอรี่ได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น หากพบว่าระยะทางที่วิ่งได้ต่อการชาร์จลดลงอย่างเห็นได้ชัด หรือเวลาชาร์จนานกว่าปกติ อาจเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงปัญหาด้านสุขภาพของแบตเตอรี่
Q
แบตเตอรี่ Nissan Leaf ปี 2013 ใช้งานได้นานเท่าไหร่
ระยะทางขับขี่ต่อการชาร์จหนึ่งครั้งของ Nissan Leaf รุ่นปี 2013 อาจได้รับผลกระทบจากหลายปัจจัย เช่น พฤติกรรมการขับขี่ สภาพถนน และสภาพอากาศ โดยทั่วไปแล้ว ในสภาพการใช้งานที่เหมาะสม ระยะทางที่สามารถวิ่งได้จะอยู่ที่ประมาณ 100 ถึง 150 กิโลเมตร อย่างไรก็ตามในการใช้งานจริงระยะทางอาจจะลดลง
Q
เมื่อ Nissan Leaf ได้รับการขยายระยะทาง
ระยะทางขับขี่ต่อการชาร์จหนึ่งครั้งของ Nissan Leaf ในตลาดประเทศไทยอาจแตกต่างกันไปตามรุ่นและอุปกรณ์ที่ติดตั้ง โดยทั่วไปแล้ว รุ่นที่พบได้บ่อยจะมีระยะทางประมาณ 300 กิโลเมตรต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง
Q
ราคานิสสันลีฟปี 2017 คือเท่าไหร่?
ราคาของ Nissan Leaf ปี 2017 ในประเทศไทยอาจแตกต่างกันไปตามสภาพรถ อุปกรณ์ที่ติดตั้ง และปัจจัยด้านอุปสงค์และอุปทานในตลาด โดยทั่วไปแล้ว ราคาจะมีผันผวนอยู่ในช่วงหนึ่ง หากเป็นรุ่นที่สภาพดีและมีอุปกรณ์ครบ ราคาก็อาจจะสูงกว่า ในทางกลับกัน หากสภาพรถทั่วไปหรืออุปกรณ์น้อย ราคาก็อาจจะต่ำกว่า ช่วงราคาที่พบบ่อยจะอยู่ที่ประมาณ 1,000,000 ถึง 1,300,000 บาท
Q
นิสสันลีฟเปิดตัวเมื่อไหร่
ช่วงเวลาวางจำหน่ายของ Nissan Leaf ในประเทศไทยอาจแตกต่างกันไปตามรุ่นและกลยุทธ์ทางการตลาด โดยโดยทั่วไปแล้ว Nissan Leaf ได้เปิดตัวในตลาดไทยมาหลายปีแล้ว การเข้ามาของรุ่นนี้ช่วยเพิ่มทางเลือกใหม่ให้กับตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย
Q
แบตเตอรี่ Nissan Leaf ใช้งานได้นานเท่าไหร่
ระยะทางแบตเตอรี่ของ Nissan Leaf อาจแตกต่างกันไปตามหลายปัจจัย เช่น ลักษณะการขับขี่ สภาพถนน และสภาพอากาศ โดยทั่วไปแล้ว รุ่นที่พบได้บ่อยจะมีระยะทางวิ่งหลังชาร์จเต็มอยู่ที่ประมาณ 200 ถึง 300 กิโลเมตร
Q
นิสสันลีฟสามารถวิ่งได้กี่ไมล์
ระยะทางขับเคลื่อนของ Nissan Leaf ในประเทศไทยจะแตกต่างกันไปตามรุ่นย่อยและเงื่อนไขการใช้งาน โดยทั่วไป รุ่นที่พบได้บ่อยจะมีระยะทางต่อการชาร์จอยู่ที่ประมาณ 200 ถึง 300 กิโลเมตร ทั้งนี้ สมรรถนะของแบตเตอรี่ยังขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการขับขี่ สภาพถนน และอุณหภูมิของสภาพแวดล้อมอีกด้วย

ข้อดี

ภายในรถกว้างขวาง
การขับขี่สบายและประหยัดค่าน้ำมัน เพราะเป็นรถยนต์ไฟฟ้า 100% ค่าใช้จ่ายในการชาร์จต่ำกว่าการใช้น้ำมัน ต้นทุนการชาร์จหลังจากนั้นประมาณ 200 บาท
ไม่มีการปล่อยสารพัดผสม ไม่มีก๊าซไอเสีย ช่วยปรับปรุงคุณภาพแอร์ และคุณสามารถเปิดแอร์ในรถได้โดยไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับก๊าซไอเสีย
ผลิตภัณฑ์มีประสิทธิภาพสูง รุ่นที่ขายในประเทศไทยมีพลังงานและโมเมนต์มากกว่าเครื่องยนต์ที่ใช้น้ำมัน ความสูงสุดคือ 110 กิโลวัตต์ (ประมาณ 150 แรงม้า) โมเมนต์สูงสุดคือ 320 นิวตันเมตร การเร่งรวดเร็วและคงที่ การแสดงผลของชาซีดี
มีเทคโนโลยี e-Pedal ที่สามารถควบคุมความเร็วและเบรกด้วยเพดาลแก๊สเดียว วงเลียบบังคับลักษณะเส้นfeatherweight การควบคุมง่าย
ราคาการบำรุงรักษาต่ำ เนื่องจากรถยนต์ไฟฟ้าขั้นต้นนี้ไม่มีการเปลี่ยนแปลงทันท่วงทีและระบบขับเคลื่อนของรถยนต์ขับเคลื่อนด้วยเชื้อเพลิงแบบดั้งเดิม การลดอุปกรณ์ภายในลดค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา

ข้อเสีย

รถภายในดูเก่าๆ ราคาสูง ราคาเริ่มต้นที่ 199 ล้านบาท
ไม่สามารถปรับระยะห่างภายในวงล้อ
ที่นั่งสูง วิธีปรับที่นั่งแถวหน้าจำกัด
จุดชาร์จในประเทศไทยไม่ค่อยแพร่หลาย การเดินทางระยะไกลไม่สะดวก ต้องวางแผนการเดินทางล่วงหน้า
ไม่มีการสนับสนุนในศูนย์บริการหลังการขาย การบำรุงรักษาแตกต่างจากรถที่ใช้น้ำมันดั้งเดิม ไม่มีช่างซ่อมที่เชี่ยวชาญในประเทศไทย

Q&A ล่าสุด

Q
ข้อเสียของ Honda City Hatchback คืออะไร
Honda City Hatchback ซึ่งเป็นรถยนต์ที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีข้อสังเกตบางประการในตลาดไทยที่ผู้บริโภคควรพิจารณา อันดับแรกคือพื้นที่เก็บสัมภาระด้านหลังค่อนข้างเล็ก มีความจุเพียง 289 ลิตร ซึ่งอาจไม่เหมาะสำหรับครอบครัวไทยที่มักต้องบรรทุกของขนาดใหญ่ ประการต่อมาคือระบบกันสะเทือนหลังแบบคานบิด ที่อาจลดความนุ่มนวลเมื่อต้องวิ่งบนถนนที่มีสภาพไม่ดีในบางพื้นที่ของไทย นอกจากนี้ แม้จะใช้เครื่องยนต์เทอร์โบขนาด 1.0 ลิตร แต่ในสภาพอากาศร้อนและการจราจรติดขัดของเมืองไทย ประสิทธิภาพของระบบปรับอากาศอาจลดลง และการควบคุมเสียงรบกวนเมื่อขับขี่ที่ความเร็วสูงก็ยังไม่ดีนัก อย่างไรก็ตาม ข้อจำกัดเหล่านี้ต้องพิจารณาควบคู่กับตำแหน่งทางการตลาดของรถรุ่นนี้ ในฐานะรถยนต์ระดับเริ่มต้นที่เน้นความประหยัดและใช้งานในเมืองเป็นหลัก จุดเด่นด้านความประหยัดน้ำมันและความคล่องตัวในเมืองยังถือว่าน่าพอใจ ผู้บริโภคชาวไทยจึงควรพิจารณาตามลักษณะการใช้งานของตน เช่น หากเดินทางไกลบ่อยหรือมีความต้องการใช้พื้นที่มาก อาจต้องพิจารณารุ่นอื่น แต่ถ้าใช้ขับขี่ในเมืองเป็นหลัก รถรุ่นนี้ก็ยังคงเป็นทางเลือกที่คุ้มค่า
Q
มูลค่าการขายต่อของ Honda City Hatchback คืออะไร
รถฮอนด้า ซิตี้ แฮทช์แบ็กในตลาดมือสองของไทยถือว่าคงมูลค่าได้ค่อนข้างดี สาเหตุหลักมาจากภาพลักษณ์ของแบรนด์ฮอนด้าที่แข็งแกร่งในไทย คุณภาพที่เชื่อถือได้ รวมถึงจำนวนรถที่จำหน่ายออกไปในตลาดค่อนข้างสูง โดยทั่วไปรถอายุ 3 ปีจะยังคงมูลค่าได้ประมาณ 60% แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับสภาพรถ ระยะทาง เวอร์ชั่นอุปกรณ์ และประวัติการเซอร์วิสด้วย ในตลาดไทยผู้บริโภคมีความต้องการรถแฮทช์แบ็กขนาดเล็กค่อนข้างมาก แถมซิตี้ แฮทช์แบ็กยังประหยัดน้ำมันและค่าซ่อมบำรุงไม่แพง สิ่งเหล่านี้ช่วยพยุงมูลค่ารถมือสองได้ดี ถ้าคิดจะซื้อหรือขายรถรุ่นนี้ แนะนำให้เข้าศูนย์บริการตามกำหนดและเก็บหลักฐานการบำรุงรักษาให้ครบถ้วน จะช่วยเพิ่มมูลค่ารถมือสองได้อย่างเห็นได้ชัด ส่วนในสภาพอากาศร้อนชื้นของไทย ควรตรวจสอบสภาพการป้องกันสนิมและระบบแอร์เป็นพิเศษ เพราะส่งผลต่อมูลค่ารถเช่นกัน โดยรวมแล้วซิตี้ แฮทช์แบ็กเป็นรถที่ขายง่ายในตลาดมือสองของไทย ทั้งผู้ซื้อและผู้ขายต่างตกลงราคาได้ไม่ยาก
Q
ฮอนด้าซิตี้แฮทช์แบคมีกี่ซีซี
รถฮอนด้า ซีตี้ แฮทช์แบ็ก รุ่นปรับโฉมใหม่ มาพร้อมกับ 2 ตัวเลือกเครื่องยนต์ คือรุ่น 1.0 ลิตร และ 1.5 ลิตร โดยเครื่อง 1.0 ลิตร เทอร์โบ VTEC เป็นรุ่นเบนซิน คู่กับเกียร์ CVT ให้กำลังสูงสุด 122 แรงม้า แรงบิด 173 นิวตันเมตร อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง 23.3 กม./ลิตร มีให้เลือก 3 รุ่นย่อยคือ S+, SV และ RS ส่วนรุ่น 1.5 ลิตร e:HEV เป็นระบบไฮบริด โดยเครื่องยนต์ผลิตกำลัง 98 แรงม้าและแรงบิด 126 นิวตันเมตร ส่วนมอเตอร์ไฟฟ้าสามารถเพิ่มกำลังได้ถึง 109 แรงม้าและแรงบิด 250 นิวตันเมตร อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงอยู่ที่ 27.8 กม./ลิตร มีให้เลือก 2 รุ่นย่อยคือ SV และ RS ด้วยความหลากหลายของเครื่องยนต์และระบบขับเคลื่อนนี้ ทำให้ลูกค้าสามารถเลือกรุ่นที่ตอบโจทย์ได้ทั้งในแง่ประหยัดน้ำมันและสมรรถนะการขับขี่ตามความต้องการของแต่ละคน
Q
เครื่องยนต์ใน Honda City Hatchback คืออะไร
รถฮอนด้า ซิตี้ แฮทช์แบ็กมีตัวเลือกเครื่องยนต์ให้เลือกหลายแบบ แบบแรกคือเครื่องยนต์ 1.5L DOHC i-VTEC แบบสูบธรรมชาติ คู่กับเกียร์ CVT ให้กำลังสูงสุด 119 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 145 นิวตัน-เมตร อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันตามมาตรฐาน 5.6L/100km เครื่องยนต์แบบนี้ให้กำลังส่งที่เนียนๆ เหมาะกับการขับขี่ในเมืองทั่วไป ตอบโจทย์การใช้งานประจำวันได้ดี อีกแบบคือระบบไฮบริด 1.5L i-MMD ในรุ่น e:HEV RS ให้กำลังสูงสุด 107 แรงม้า แต่แรงบิดสูงถึง 253 นิวตัน-เมตร ประหยัดน้ำมันได้ดีมากแค่ 3.6L/100km ระบบไฮบริดนี้ผสมผสานจุดเด่นของทั้งเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้า นอกจากให้กำลังขับเคลื่อนที่มั่นคงแล้ว ยังช่วยประหยัดน้ำมันและลดค่าใช้จ่ายได้อีกด้วย ไม่ว่าคุณจะมองหารถที่ประหยัดน้ำมันหรือต้องการสมรรถนะการขับขี่ที่แรงกว่า ฮอนด้า ซิตี้ แฮทช์แบ็กก็มีตัวเลือกที่ตอบโจทย์ได้ทั้งนั้น
Q
เกียร์แบบใดคือเกียร์ของ Honda City Hatchback
รถฮอนด้า ซิตี้ แฮทช์แบ็กมีตัวเลือกเครื่องยนต์ 2 แบบที่มาพร้อมระบบเกียร์ต่างกัน สำหรับรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 1.0 ลิเตอร์ เทอร์โบ VTEC ใช้ระบบเกียร์ CVT ที่ให้การเปลี่ยนเกียร์เนียนๆ ไม่สะดุด พร้อมแรงม้าสูงสุด 122 แรงม้าและแรงบิด 173 นิวตันเมตร ประหยัดน้ำมันได้ถึง 23.3 กม./ลิตร มีให้เลือก 3 รุ่นย่อยคือ S+, SV และ RS ส่วนรุ่นไฮบริด 1.5 ลิเตอร์ e:HEV ไม่ได้ระบุประเภทเกียร์ชัดเจน แต่เครื่องยนต์หลักให้แรงม้าสูงสุด 98 แรงม้าและแรงบิด 126 นิวตันเมตร ขณะที่มอเตอร์ไฟฟ้าช่วยเพิ่มพลังเป็น 109 แรงม้าและแรงบิด 250 นิวตันเมตร ทำให้ประหยัดน้ำมันขึ้นไปถึง 27.8 กม./ลิตร มีตัวเลือกรุ่น SV และ RS ระบบเกียร์ CVT ช่วยให้การขับขี่ลื่นไหล ไม่สะดุด เปลี่ยนเกียร์นุ่มนวล สร้างความรู้สึกสบายขณะขับขี่ และยังช่วยประหยัดน้ำมันได้ดีอีกด้วย
ดูเพิ่มเติม