Q
จะมีฮอนด้าซีวิคแฮตช์แบ็คปี 2025 หรือไม่
ในปี 2025 จะมีการเปิดตัว Honda Civic Hatchback รุ่นใหม่อย่างเป็นทางการ โดย Civic รุ่นปี 2025 ได้วางจำหน่ายแล้ว พร้อมตัวเลือกทั้งแบบซีดานและแฮทช์แบ็ก สำหรับรุ่นแฮทช์แบ็ก ตัวรถมีขนาดความยาว 4,548 มม. กว้าง 1,802 มม. สูง 1,420 มม. (หรือ 1,415 มม. ขึ้นอยู่กับรุ่นย่อย) และมีระยะฐานล้อเท่ากันที่ 2,735 มม.
ด้านขุมพลังมีให้เลือกหลากหลาย ตอบโจทย์ผู้ใช้งานที่ต้องการสมรรถนะที่แตกต่าง โดยมีทั้งเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 1.5 ลิตร ให้กำลัง 2 ระดับ — รุ่นกำลังต่ำสุดให้กำลังสูงสุด 95 กิโลวัตต์ แรงบิด 180 นิวตันเมตร และรุ่นกำลังสูงสุดให้กำลัง 134 กิโลวัตต์ แรงบิด 240 นิวตันเมตร ทั้งสองรุ่นจับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ CVT นอกจากนี้ยังมีระบบไฮบริดที่ประกอบด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตรแบบไม่มีเทอร์โบ และมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยว เครื่องยนต์ให้กำลังสูงสุด 105 กิโลวัตต์ ส่วนมอเตอร์ให้กำลัง 135 กิโลวัตต์ ส่งกำลังผ่านเกียร์ E-CVT ระบบนี้ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภคที่มองหาความสมดุลด้านสมรรถนะ
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto
Q&A เกี่ยวข้อง
Q
รถ Civic Hatchback ปี 2021 มีระบบ VTEC ไหม?
รถ Honda Civic Hatchback รุ่นปี 2021 ที่วางขายในตลาดไทยนี่ แน่นอนว่ามีระบบ VTEC เป็นมาตรฐาน แต่ต้องบอกก่อนว่าเครื่องยนต์ของรุ่นนี้เป็นแบบ 1.5 ลิตร เทอร์โบชาร์จ ที่ใช้ระบบ VTEC TURBO เทคโนโลยีใหม่ล่าสุดจาก Honda ซึ่งจะแตกต่างจากระบบ VTEC แบบเครื่องยนต์ดูดอากาศทั่วไปครับ VTEC TURBO นี่เน้นใช้เทคโนโลยี Variable Valve Timing และ Lift ที่ด้านไอดีเป็นหลักเท่านั้น แล้วยังผสมผสานกับเทอร์โบชาร์จเจอร์เพื่อประสิทธิภาพการเผาไหม้และกำลังส่งที่ดียิ่งขึ้น สำหรับสภาพอากาศร้อนๆแบบไทยเรา การออกแบบนี้ช่วยให้ได้ทั้งกำลังขับที่แรงสมรรถนะสูง และยังประหยัดน้ำมันไปพร้อมกัน เหมาะมากสำหรับการขับขี่ในเมืองกรุงเทพฯ ที่รถติดเป็นประจำ
สำหรับคนไทยแล้ว ระบบ VTEC นี่ถือเป็นจุดขายสำคัญของรถฮอนด้ามาตลอด ส่วนCivic Hatchback รุ่น 2021 นี้ นอกจากจะยังคงความสปอร์ตในดีเอ็นเอแล้ว ยังเพิ่มแรงบิดช่วงรอบต่ำด้วยเทคโนโลยีเทอร์โบ ทำให้การขับขี่ในสภาพแวดล้อมของการจราจรแบบ Go Stop ซึ่งเป็นเรื่องปกติในประเทศไทย
ที่สำคัญแม้ว่าระบบ VTEC TURBO จะทำงานแตกต่างจาก VTEC แบบเดิม แต่ยังคงสืบทอดแก่นแท้ของเทคโนโลยีเครื่องยนต์ของฮอนด้า ด้วยระบบควบคุมวาล์วที่แม่นยำเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพเครื่องยนต์ นี่ล่ะคือเหตุผลหนึ่งที่ทำไมรถรุ่นนี้ถึงได้ใจคนรุ่นใหม่ในไทยมาก
Q
รถ Honda Civic Hatchback 2021 มีขนาดเท่าไหร่?
รถ Honda Civic Hatchback รุ่นปี 2021 เป็นที่นิยมมากในตลาดไทย ด้วยดีไซน์ 5 ประตูที่คล่องตัว ขนาดตัวรถยาว 4,539 มม. กว้าง 1,799 มม. สูง 1,434 มม. และระยะฐานล้อ 2,700 มม. ทำให้ขับเคลื่อนในเมืองไทยได้สะดวก แถมยังมีพื้นที่ภายในกว้างขวางพอสมควร ความจุกระบอกสูบ 408 ลิตร แต่ถ้าพับเบาะหลังลงจะเพิ่มเป็น 1,214 ลิตร เหมาะมากสำหรับคนไทยที่ชอบช้อปปิ้งหรือไปเที่ยววันหยุด สาเหตุที่ Civic Hatchback ติดอันดับรถยอดนิยมในไทยก็เพราะขนาดกะทัดรัดและขับลื่นไหล แถมยังเหมาะกับสภาพการจราจรติดขัดในกรุงเทพฯ เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร เทอร์โบก็ประหยัดน้ำมันแต่ยังให้กำลังดี อีกจุดขายสำคัญคือศูนย์บริการในไทยครอบคลุม แถมอะไหล่ก็หาง่าย นี่เป็นปัจจัยที่คนไทยให้ความสำคัญมาก ส่วนเรื่องสีก็มีให้เลือกหลายเฉด โดยเฉพาะสีสันสดใสที่ตรงใจคนไทยชอบความโดดเด่น
Q
แบตเตอรี่สำหรับ Honda Civic hatchback ราคาเท่าไหร่?
ในตลาดไทย ราคาแบตเตอรี่รถ Honda Civic Hatchback จะแตกต่างกันไปตามประเภทแบตเตอรี่ แบรนด์ และช่องทางในการซื้อ โดยทั่วไปแบตเตอรี่แบบเดิมจากศูนย์จะอยู่ที่ประมาณ 5,000-8,000 บาท ส่วนแบตเตอรี่จากแบรนด์อื่นอาจราคาถูกกว่าเริ่มต้นที่ 3,500 บาท แต่เพื่อความแน่นอนแนะนำให้สอบถามราคาจากโฮนด้าโชว์รูมหรืออู่บริการที่ได้รับอนุญาตในพื้นที่ เนื่องจากสภาพอากาศไทยที่ร้อนจัดส่งผลต่ออายุการใช้งานแบตเตอรี่ค่อนข้างมาก จึงควรตรวจสอบสภาพแบตเตอรี่ทุก 2-3 ปี เพื่อป้องกันปัญหารถติดยากจากแบตเตอรี่เสื่อม นอกจากราคาแล้วเวลาซื้อควรดูค่า CCA (กระแสสตาร์ทเครื่องในที่เย็น) และความจุว่าเหมาะสมกับรุ่นรถหรือไม่ แบตเตอรี่รุ่นสูงบางรุ่นอาจมีการรับประทานที่ยาวนานกว่าหรือออกแบบมาให้ทนความร้อนได้ดีกว่า ซึ่งเหมาะกับสภาพอากาศร้อนตลอดปีของไทย ส่วนในชีวิตประจำวันควรหลีกเลี่ยงการใช้ไฟฟ้าในรถขณะดับเครื่องนานๆ เพื่อยืดอายุแบตเตอรี่
Q
Honda Civic Hatchback ปี 2021 มีความน่าเชื่อถือหรือไม่?
Honda Civic Hatchback รุ่นปี 2021 ในตลาดไทยถือเป็นรุ่นที่แสดงความน่าเชื่อถือได้ดี เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร เทอร์โบชาร์จที่ผ่านการทดสอบตลาดมาหลายปี ให้กำลังส่งออกอย่างลื่นไหลและประหยัดน้ำมันเหมาะกับสภาพการขับขี่ในเมืองไทย ส่วนเกียร์ CVT ก็ถูกตั้งค่าให้เน้นความทนทานเป็นหลัก ระบบระบายความร้อนของรุ่นนี้ทำงานได้มั่นคงแม้ในสภาพอากาศร้อนของไทย แถมเครือข่ายผู้จำหน่ายฮอนด้าในไทยก็ครอบคลุม มีอะไหล่พร้อมให้บริการและค่าบำรุงรักษาก็สมเหตุสมผล ที่น่าสนใจคือ Civic ในตลาดมือสองของไทยยังคงมูลค่าสูง ซึ่งสะท้อนถึงความทนทานในระยะยาว สำหรับคนไทยที่สนใจรถรุ่นนี้ แนะนำให้ตรวจสอบระบบแอร์เป็นประจำ (เพราะใช้งานบ่อยในสภาพอากาศร้อน) และดูแลป้องกันสนิมช่วงล่างโดยเฉพาะในฤดูฝน จะช่วยยืดอายุการใช้งานรถได้มากขึ้น เมื่อเทียบกับรุ่นอื่นๆในระดับเดียวกัน ซีวิค แฮทช์แบ็กยังคงจุดเด่นด้านความคล่องตัวของพื้นที่ใช้สัยและสมรรถนะการขับขี่แบบฉบับฮอนด้า เหมาะกับครอบครัวรุ่นใหม่หรือผู้ที่มองหารถใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวัน
Q
"รถ Honda Civic Hatchback ปี 2021 มีมูลค่าเท่าไหร่?"
ราคาขายต่อของ Honda Civic Hatchback รุ่นปี 2021 ในตลาดมือสองประเทศไทยจะมีความแตกต่างกันไปตามสภาพรถ ระยะไมล์ อุปกรณ์และพื้นที่ โดยทั่วไปราคาอยู่ที่ประมาณ 700,000 ถึง 900,000 บาท ถ้าจะเจาะลึกหน่อย รุ่นที่ระยะไมล์ต่ำ (เช่นไม่เกิน 20,000 กิโลเมตร) และดูแลมาอย่างดีพร้อมอุปกรณ์สูงสุดอาจพุ่งไปถึง 900,000 บาท ส่วนรถที่ระยะไมล์สูงหรือเป็นรุ่นพื้นฐานก็จะถูกลง สำหรับในไทยแล้ว Civic เป็นที่นิยมในกลุ่มคนรุ่นใหม่เพราะความน่าเชื่อถือ ประหยัดน้ำมันและการออกแบบสปอร์ต โดยเฉพาะรุ่น Hatchback ที่ตอบโจทย์ทั้งความประหยัดและความสนุกในการขับขี่ ควรซื้อจากแหล่งที่น่าเชื่อถือและตรวจสอบประวัติรถให้ชัดเจน ทั้งประวัติการซ่อมและการบริการตามระยะ เพราะ Civic เป็นรถที่ครองราคาได้ดีในตลาดมือสอง แถมรถญี่ปุ่นในไทยยังมีอัตราคงราคาสูงอยู่แล้ว ถ้าอยากประหยัดกว่านี้ก็อาจมองรถยี่ห้ออื่นในปีเดียวกัน แต่ต้องระวังเรื่องศูนย์บริการและอะไหล่ในระยะยาวด้วย
Q
รถ Honda Civic Hatchback ปี 2021 จะมีอายุการใช้งานได้นานแค่ไหน
อายุการใช้งานของ Honda Civic Hatchback รุ่นปี 2021 ในตลาดไทยนั้นขึ้นอยู่กับการดูแลรักษา นิสัยการขับขี่ และปัจจัยสภาพแวดล้อมเป็นหลัก หากทำตามคำแนะนำของทางผู้ผลิตในการเข้าศูนย์ทุก 10,000 กิโลเมตร หรือทุก 6 เดือน (ตามระยะใดถึงก่อน) พร้อมใช้อะไหล่แท้และน้ำมันเครื่องที่เหมาะสมกับสภาพอากาศไทย รถสามารถวิ่งได้เกิน 200,000 กิโลเมตรโดยยังคงสภาพเครื่องยนต์และเกียร์ที่สมบูรณ์ สภาพอากาศร้อนชื้นของไทยส่งผลต่อยางและชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์เป็นพิเศษ แนะนำให้ตรวจสอบยางขอบหน้าต่าง ที่ปัดน้ำฝน และแบตเตอรี่อย่างสม่ำเสมอ กุญแจสำคัญในการยืดอายุรถคือการเปลี่ยนน้ำหล่อเย็นทุก 2 ปีหรือ 40,000 กิโลเมตร และน้ำมันเกียร์ (รุ่น CVT เปลี่ยนทุก 60,000 กิโลเมตร) พร้อมทั้งหลีกเลี่ยงการขับระยะสั้นบ่อยๆ ที่อาจทำให้เกิดคาร์บอนสะสม สำหรับสภาพการจราจรติดขัดในไทย แนะนำให้ขับทางไกลเป็นครั้งคราวเพื่อช่วยเผาผลาญคาร์บอนในเครื่องยนต์ เครื่องยนต์ 1.5T Earth Dreams ของ Civic สามารถทำงานได้อย่างมั่นคงกับน้ำมันเบนซิน 91 แต่การใช้เบนซิน 95 จะให้ประสิทธิภาพการเผาไหม้ที่ดีกว่า ในส่วนการป้องกันสนิม ถึงแม้ Honda จะเพิ่มการป้องกันสนิมสำหรับสภาพอากาศร้อนแล้ว แต่เจ้าของรถในเขตชายทะเลควรล้างช่วงล่างทุก 6 เดือน สิ่งที่น่าสนใจคือรุ่นที่ผลิตหลังปี 2021 ในไทยได้ติดตั้งระบบระบายความร้อนเกียร์ CVT รุ่นปรับปรุงใหม่เป็นมาตรฐาน ทำให้เหมาะสมกับสภาพอากาศร้อนมากขึ้น หากดูแลรักษาอย่างดี รถคันนี้สามารถใช้งานในไทยได้เกิน 15 ปีอย่างแน่นอน ซึ่งตรงกับข้อมูลในตลาดมือสองที่แสดงถึงอัตราการทรงมูลค่าที่ดีกว่าโมเดลอื่นในประเภทเดียวกัน
Q
2021 Civic Hatchback เป็นรถที่ดีหรือไม่?
รถ Honda Civic Hatchback รุ่นปี 2021 เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจในตลาดไทย ด้วยความน่าเชื่อถือและประโยชน์ใช้สอยที่สืบทอดมาจากซีวิครุ่นก่อนๆ พร้อมดีไซน์ Hatchback ที่ขับสวนและจอดในซอยแคบๆ ในกรุงเทพฯ ได้สะดวกกว่า รุ่นนี้ใช้เครื่องยนต์เทอร์โบ 1.5 ลิตร ให้กำลัง 173 แรงม้า มาพร้อมเกียร์ CVT หรือเกียร์ธรรมดา 6 สปีด แอร์เย็นฉ่ำแม้อากาศเมืองไทยจะร้อนจัด ส่วนเรื่องประหยัดน้ำมันก็ทำได้ดี โต๊ะเครื่องจัดวางแบบใช้งานง่าย พร้อมหน้าจอสัมผัส 7 นิ้วที่รองรับทั้ง Apple CarPlay และ Android Auto เหมาะกับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ที่ชอบเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน ด้านความปลอดภัยมีระบบ Honda SENSING รวมระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบปรับได้และช่วยเบรกเมื่อเสี่ยงชน ช่วยรับมือสภาพการจราจรที่คาดเดาไม่ได้ในไทย จุดเด่นคือสามารถพับเบาะหลังลงเพื่อขนของใหญ่ๆ อย่างทุเรียนได้สบายๆ เมื่อเทียบกับซีวิคซีดาน รุ่น Hatchback นี้ขับลื่นไหลกว่า โดยเฉพาะเวลาขับขึ้นเขาลงเขาทางคดเคี้ยวแถวเชียงใหม่ ส่วนเรื่องค่าขายต่อก็อยู่ในระดับดีเมื่อเทียบกับรถระดับเดียวกัน ค่าดูแลรักษาก็ไม่แรงเกินไป ถือเป็นรถที่ตอบโจทย์ทั้งใช้งานในเมืองและทริปเที่ยวสุดสัปดาห์ได้ดีทีเดียว
Q
ราคาของ Honda Civic Hatchback ปี 2021 เท่าไหร่?
ราคารถ Honda Civic Hatchback รุ่นปี 2021 ในตลาดประเทศไทยอยู่ที่ประมาณ 1-1.3 ล้านบาท ขึ้นอยู่กับรุ่นและอุปกรณ์เสริมที่เลือก เช่น รุ่น LX ราคาประหยัดเหมาะสำหรับคนเริ่มต้น ส่วนรุ่น Sport หรือ RS ที่เป็นเวอร์ชันสูงจะราคาสูงกว่าเพราะมาพร้อมเครื่องยนต์เทอร์โบ 1.5 ลิตรและระบบ Honda Sensing สำหรับความปลอดภัย รถรุ่นนี้ได้รับความนิยมในกลุ่มวัยรุ่นไทยเพราะขับเคลื่อนคล่องตัวเหมาะกับสภาพถนนในเมืองอย่างกรุงเทพฯ แถมยังประหยัดน้ำมันอีกด้วย ที่สำคัญรัฐบาลไทยมีนโยบายลดภาษีสำหรับรถประหยัดพลังงาน ทำให้ Honda Civic Hatchback คุ้มค่ามากขึ้น ส่วนราคารถมือสองจะลดลงประมาณ 15-30% ขึ้นอยู่กับระยะทาง สภาพรถและระยะเวลารับประกัน ถ้าคิดจะใช้ยาวๆ แนะนำให้ดูบริการรับประกันและแพ็กเกจบริการจาก Honda ประเทศไทย จะช่วยลดค่าใช้จ่ายในระยะยาวได้เยอะ
Q
Honda Civic Hatchback ใช้น้ำมันอย่างไรต่อกิโลเมตรหลอดน้ำ?
Honda Civic Hatchback 1.5 VTEC Turbo ปี 2022 มีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ยตามข้อมูลจากผู้ผลิตอยู่ที่ 5.8 ลิตรต่อระยะทาง 100 กิโลเมตร ซึ่งสามารถคำนวณเป็นอัตราสิ้นเปลืองต่อกิโลเมตรได้ โดยนำ 5.8 ÷ 100 = 0.058 ลิตร หมายความว่ารถคันนี้จะใช้น้ำมันประมาณ 0.058 ลิตรต่อการวิ่ง 1 กิโลเมตร อย่างไรก็ตาม อัตราสิ้นเปลืองจริงอาจมีความผันแปรตามพฤติกรรมการขับขี่ สภาพถนน และน้ำหนักบรรทุกของรถ เช่น หากมีการเร่งเครื่องกะทันหัน เบรกบ่อย หรือจอดติดเครื่องยนต์นาน ๆ อาจทำให้สิ้นเปลืองน้ำมันมากขึ้น แต่ถ้าขับขี่ในสภาพถนนที่ดี และมีพฤติกรรมการขับขี่ที่นุ่มนวล อัตราสิ้นเปลืองจริงก็อาจเข้าใกล้ตัวเลขจากผู้ผลิต
Q
Honda Civic hatchback ใช้แก๊สธรรมดาได้หรือไม่?
Honda Civic Hatchback 1.5 VTEC Turbo ปี 2022 ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงประเภทเบนซิน ซึ่งตามทฤษฎีสามารถใช้น้ำมันเบนซินทั่วไปได้ อย่างไรก็ตาม ควรตรวจสอบคู่มือผู้ใช้หรือข้อมูลที่ระบุบนฝาถังน้ำมันเพื่อทราบค่าความเหมาะสมของน้ำมันที่แนะนำสำหรับรถรุ่นนี้ เนื่องจากน้ำมันแต่ละชนิดมีค่าออกเทนหรือความทนทานต่อการจุดระเบิดที่แตกต่างกัน โดยทั่วไปแล้วเครื่องยนต์ที่มีอัตราส่วนกำลังอัดสูงหรือมีระบบเทอร์โบชาร์จมักต้องใช้น้ำมันที่มีค่าออกเทนสูงกว่าเพื่อให้เครื่องยนต์ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ หากใช้ค่าน้ำมันที่ไม่เหมาะสมติดต่อกันเป็นเวลานาน อาจทำให้เครื่องยนต์สั่น เร่งไม่ขึ้น หรือสิ้นเปลืองน้ำมันมากขึ้น โดยทั่วไปเครื่องยนต์เทอร์โบจะมีความไวต่อคุณภาพและค่าของน้ำมันมากกว่าเครื่องยนต์ทั่วไป ดังนั้นเพื่อรักษาสมรรถนะและความทนทานของเครื่องยนต์ การเลือกใช้น้ำมันตามที่ผู้ผลิตแนะนำถือเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยและเหมาะสมที่สุด
Q&A ล่าสุด
Q
ราคา Audi A8 L 2023 เท่าไหร่?
Audi A8 L รุ่นปี 2023 ในประเทศไทยมีราคาอยู่ที่ประมาณ 6-8 ล้านบาท ขึ้นอยู่กับตัวเลือกอุปกรณ์และโปรโมชั่นจากตัวแทนจำหน่าย รถหรูคันนี้มาพร้อมเครื่องยนต์ 3.0 ลิตร V6 เทอร์โบหรือ 4.0 ลิตร V8 เทอร์โบคู่ ทำงานคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีดและระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ quattro ในตลาดไทยกลุ่มเป้าหมายหลักคือนักธุรกิจระดับสูง รุ่นเวอร์ชั่นระยะฐานล้อยาวให้พื้นที่เบาะหลังกว้างขวางเป็นพิเศษ เหมาะสำหรับการใช้งานแบบมีคนขับ ในไทย Audi A8 L ได้รับการยอมรับในระดับสูง แข่งขันกับ Mercedes-Benz S-Class และ BMW 7 ซีรีย์ ควรระวังว่ารัฐบาลไทยมีการเก็บภาษีรถยนต์ขนาดเครื่องยนต์เกิน 3.0 ลิตรในอัตราที่ค่อนข้างสูง ซึ่งส่งผลต่อราคาสุดท้าย แนะนำให้ผู้สนใจเปรียบเทียบราคาจากหลายๆโชว์รูมและสอบถามโปรโมชั่นล่าสุดก่อนตัดสินใจ ส่วนในเรื่องสภาพอากาศร้อนของไทย ระบบระบายอากาศบนเบาะและแอร์ 4 โซนที่มากับรุ่นอุปกรณ์สูงก็เป็นฟีเจอร์สำคัญที่ควรมี
Q
Audi A8 L ถูกยกเลิกการผลิตแล้วหรือยัง?
ปัจจุบัน Audi A8 L ยังไม่ได้หยุดผลิตในระดับโลก แต่ในบางตลาดอาจมีการปรับเปลี่ยนการจัดจำหน่ายตามกลยุทธ์การขาย สำหรับตลาดไทยว่าจะยังจำหน่าย A8 L หรือไม่ แนะนำให้สอบถามตัวแทนจำหน่าย Audi ในพื้นที่เพื่อรับข้อมูลล่าสุด ในฐานะรถยนต์ธงของ Audi ตัว A8 L ได้รับการยอมรับในเรื่องความหรูหรา เทคโนโลยีล้ำสมัย และความสะดวกสบายโดยเฉพาะในเวอร์ชั่นระยะฐานะยาวที่ให้พื้นที่เบาะหลังกว้างขวาง เหมาะอย่างยิ่งสำหรับนักธุรกิจระดับสูงหรือผู้ที่ชื่นชอบความหรูหราในไทย ในตลาดรถยนต์หรูของไทยที่การแข่งขันสูง ตัว A8 L ต้องแข่งขันกับ Mercedes S-Class และ BMW 7 Series โดยผู้ซื้อควรเปรียบเทียบบริการหลังการขาย นโยบายการรับประกัน และตัวเลือกปรับแต่งเฉพาะบุคคลที่แต่ละแบรนด์เสนอในท้องตลาด สำหรับสภาพอากาศร้อนของไทย ระบบปรับอากาศ 4 โซน ระบบระบายอากาศบนเบาะที่นั่งของ A8 L ถือเป็นจุดเด่นที่ตอบโจทย์ ขณะที่ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ quattro ก็ช่วยเพิ่มความมั่นใจบนถนนลื่นในช่วงฤดูฝน หากสนใจรถพลังงานใหม่ Audi ก็มีซีรีส์ e-tron ในไทย แต่ปัจจุบัน A8 L ยังใช้ระบบเครื่องยนต์สันดาปทั่วไป ส่วนในอนาคตจะมีเวอร์ชั่น Plug-in Hybrid หรือไม่นั้นก็เป็นสิ่งที่ควรติดตาม
Q
รถ Audi A8 L มีราคาเท่าไหร่?
ราคารถ Audi A8 L ในตลาดไทยจะแตกต่างกันไปตามระดับเครื่องและอุปกรณ์เสริม โดยรุ่นพื้นฐานจะอยู่ที่ประมาณ 6-8 ล้านบาท ส่วนรุ่นท็อปสุดอาจสูงกว่า 10 ล้านบาท แนะนำให้ติดต่อตัวแทนจำหน่ายในพื้นที่เพื่อสอบถามราคาล่าสุด เพราะอาจมีการปรับเปลี่ยนได้ ในฐานะรถยนต์หรูเรือธงของ Audi A8 L ได้รับการยกย่องในเรื่องงานฝีมือชั้นสูง เทคโนโลยีล้ำสมัย และความสะดวกสบายในการใช้งาน โดยเฉพาะเหมาะสำหรับนักธุรกิจระดับสูงหรือผู้ที่ชื่นชอบไลฟ์สไตล์สุดเอ็กซ์คลูซีฟในไทย ในสภาพอากาศร้อนของไทย ระบบปรับอากาศ 4 โซนและระบบระบายอากาศบนเบาะที่นั่งมาตรฐานของ A8 L จะช่วยเพิ่มความสบายให้กับการโดยสารได้ดี นอกจากนี้โครงสร้างตัวรถน้ำหนักเบาร่วมกับระบบขับเคลื่อนประสิทธิภาพสูงยังตอบโจทย์ทั้งการใช้งานในเมืองและบนทางไกล อย่างไรก็ตาม ต้องคำนึงว่าประเทศไทยมีอัตราภาษีนำเข้ารถหรูที่ค่อนข้างสูง ซึ่งส่งผลต่อราคาสุดท้าย แต่ Audi มีเครือข่ายตัวแทนจำหน่ายและบริการหลังการขายที่ครอบคลุมทั่วไทย พร้อมให้การสนับสนุนเจ้าของรถทุกท่านอย่างเต็มที่
Q
“Audi A8 L หมายถึงอะไร?”
Audi A8 L นั้นตัว "A8" คือรุ่นเรือธงของ Audi ที่เน้นความหรูหราสูงสุด ส่วนตัว "L" ย่อมาจาก Long Wheelbase แปลว่าเป็นเวอร์ชั่นเพื่ยนฐานล้อให้ยาวขึ้น เมื่อเทียบกับ A8 แบบมาตรฐานแล้ว A8 L จะมีพื้นที่ขาโดยเฉพาะด้านหลังที่กว้างขวางกว่า เหมาะสุดๆ สำหรับกลุ่มนักธุรกิจหรือลูกค้าระดับไฮเอนด์ที่ให้ความสำคัญกับความสบายของผู้โดยสารที่นั่งหลัง ในตลาดไทย A8 L ได้รับความนิยมจากคนกลุ่มเอลิทเพราะทั้งการกำหนดค่าที่หรูหรา เทคโนโลยีล้ำสมัยเช่นระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ quattro ไฟหน้า LED Matrix พร้อมระบบช่วงล่างที่ปรับแต่งมาเพื่อสภาพถนนไทยโดยเฉพาะ ที่เด็ดกว่านั้นในสภาพอากาศร้อนๆ แบบไทย A8 L ก็ตอบโจทย์ด้วยระบบปรับอากาศ 4 โซนและระบบระบายอากาศบนเบาะที่นั่งมาตรฐาน ถ้าให้เทียบกับคู่แข่งในระดับเดียวกันอย่าง Mercedes S-Class แบบยาวหรือ BMW 7 Series แบบยาวก็ใช้หลักการตั้งชื่อคล้ายๆ กัน เพื่อตอบสนองความต้องการพิเศษของตลาดเอเชียที่เน้นพื้นที่ด้านหลังเป็นหลัก สำหรับ A8 L ในไทยนั้นจัดจำหน่ายผ่านช่องทางนำเข้าโดยตรงจาก Audi พร้อมบริการหลังการขายครบวงจร ทั้งการบริการประจำและอะไหล่แท้จากโรงงาน
Q
ทางเลือกอื่นสำหรับ Audi A8 L คืออะไร?
ในตลาดประเทศไทย หากคุณกำลังมองหารถยนต์หรูระดับเรือธงมาแทน Audi A8 L ก็มีตัวเลือกที่น่าสนใจอย่าง BMW 7 Series Mercedes-Benz S-Class และ Lexus LS ที่ให้ความสบาย เทคโนโลยีล้ำสมัย และภาพลักษณ์ระดับพรีเมียมไม่แพ้กัน BMW 7 Series จะโดดเด่นในเรื่องสมรรถนะการขับขี่และระบบ iDrive ที่ทันสมัย ส่วน Mercedes-Benz S-Class ก็ตอบโจทย์ด้วยห้องโดยสารสุดหรูและระบบช่วยขับขี่อัจฉริยะ ในขณะที่ Lexus LS นั้นได้ใจด้วยความน่าเชื่อถือและเทคโนโลยีไฮบริด นอกจากนี้ยังมีตัวเลือกรถหรูที่ประกอบในประเทศอย่าง Mercedes-Benz S-Class และ BMW 7 Series ซึ่งอาจได้เปรียบในเรื่องราคาและการบริการหลังการขาย ตลาดรถหรูในไทยเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยหลายแบรนด์ได้เพิ่มฟีเจอร์เฉพาะสำหรับสภาพอากาศร้อน เช่น ระบบปรับอากาศประสิทธิภาพสูงและกระจกกันรังสียูวี ซึ่งเป็นจุดที่ควรพิจารณาเมื่อเลือกซื้อ ไม่ว่าจะใช้งานในเชิงธุรกิจหรือครอบครัว รุ่นเหล่านี้ก็ตอบโจทย์ความต้องการของคนไทยที่มองหารถยนต์หรูอย่างครบถ้วน
ดูเพิ่มเติมข่าวที่เกี่ยวข้อง

ตารางผ่อนล่าสุด Honda Civic 2024 เพียง 11,xxx บาทต่องวด
พงศธรNov 3, 2025

ตารางผ่อนชำระล่าสุดของ Honda HR-V รถ SUV ขนาดกะทัดรัดที่ประหยัดน้ำมันและทรงพลัง
สุรเดชOct 30, 2025

ตารางผ่อนชำระล่าสุดของ Honda City รถเก๋งที่ประหยัดน้ำมันเหมาะสุดสำหรับใช้ในครอบครัว
วิรุฬห์Oct 30, 2025

2025 รถมือสอง 10 รุ่นที่คุ้มค่าที่สุดในการซื้อ
พงศธรOct 29, 2025

Honda N-ONE e:เปิดตัวอย่างเป็นทางการในญี่ปุ่น ระยะทางขับขี่สูงสุดถึง 295 กิโลเมตร
LienSep 12, 2025
ดูเพิ่มเติม


รุ่นรถ
ข้อดี
ข้อเสีย