Q
จะมีฮอนด้าซีวิคแฮตช์แบ็คปี 2025 หรือไม่
ในปี 2025 จะมีการเปิดตัว Honda Civic Hatchback รุ่นใหม่อย่างเป็นทางการ โดย Civic รุ่นปี 2025 ได้วางจำหน่ายแล้ว พร้อมตัวเลือกทั้งแบบซีดานและแฮทช์แบ็ก สำหรับรุ่นแฮทช์แบ็ก ตัวรถมีขนาดความยาว 4,548 มม. กว้าง 1,802 มม. สูง 1,420 มม. (หรือ 1,415 มม. ขึ้นอยู่กับรุ่นย่อย) และมีระยะฐานล้อเท่ากันที่ 2,735 มม.
ด้านขุมพลังมีให้เลือกหลากหลาย ตอบโจทย์ผู้ใช้งานที่ต้องการสมรรถนะที่แตกต่าง โดยมีทั้งเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 1.5 ลิตร ให้กำลัง 2 ระดับ — รุ่นกำลังต่ำสุดให้กำลังสูงสุด 95 กิโลวัตต์ แรงบิด 180 นิวตันเมตร และรุ่นกำลังสูงสุดให้กำลัง 134 กิโลวัตต์ แรงบิด 240 นิวตันเมตร ทั้งสองรุ่นจับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ CVT นอกจากนี้ยังมีระบบไฮบริดที่ประกอบด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตรแบบไม่มีเทอร์โบ และมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยว เครื่องยนต์ให้กำลังสูงสุด 105 กิโลวัตต์ ส่วนมอเตอร์ให้กำลัง 135 กิโลวัตต์ ส่งกำลังผ่านเกียร์ E-CVT ระบบนี้ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภคที่มองหาความสมดุลด้านสมรรถนะ
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto
Q&A เกี่ยวข้อง
Q
Honda Civic Hatchback ใช้น้ำมันอย่างไรต่อกิโลเมตรหลอดน้ำ?
Honda Civic Hatchback 1.5 VTEC Turbo ปี 2022 มีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ยตามข้อมูลจากผู้ผลิตอยู่ที่ 5.8 ลิตรต่อระยะทาง 100 กิโลเมตร ซึ่งสามารถคำนวณเป็นอัตราสิ้นเปลืองต่อกิโลเมตรได้ โดยนำ 5.8 ÷ 100 = 0.058 ลิตร หมายความว่ารถคันนี้จะใช้น้ำมันประมาณ 0.058 ลิตรต่อการวิ่ง 1 กิโลเมตร อย่างไรก็ตาม อัตราสิ้นเปลืองจริงอาจมีความผันแปรตามพฤติกรรมการขับขี่ สภาพถนน และน้ำหนักบรรทุกของรถ เช่น หากมีการเร่งเครื่องกะทันหัน เบรกบ่อย หรือจอดติดเครื่องยนต์นาน ๆ อาจทำให้สิ้นเปลืองน้ำมันมากขึ้น แต่ถ้าขับขี่ในสภาพถนนที่ดี และมีพฤติกรรมการขับขี่ที่นุ่มนวล อัตราสิ้นเปลืองจริงก็อาจเข้าใกล้ตัวเลขจากผู้ผลิต
Q
Honda Civic hatchback ใช้แก๊สธรรมดาได้หรือไม่?
Honda Civic Hatchback 1.5 VTEC Turbo ปี 2022 ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงประเภทเบนซิน ซึ่งตามทฤษฎีสามารถใช้น้ำมันเบนซินทั่วไปได้ อย่างไรก็ตาม ควรตรวจสอบคู่มือผู้ใช้หรือข้อมูลที่ระบุบนฝาถังน้ำมันเพื่อทราบค่าความเหมาะสมของน้ำมันที่แนะนำสำหรับรถรุ่นนี้ เนื่องจากน้ำมันแต่ละชนิดมีค่าออกเทนหรือความทนทานต่อการจุดระเบิดที่แตกต่างกัน โดยทั่วไปแล้วเครื่องยนต์ที่มีอัตราส่วนกำลังอัดสูงหรือมีระบบเทอร์โบชาร์จมักต้องใช้น้ำมันที่มีค่าออกเทนสูงกว่าเพื่อให้เครื่องยนต์ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ หากใช้ค่าน้ำมันที่ไม่เหมาะสมติดต่อกันเป็นเวลานาน อาจทำให้เครื่องยนต์สั่น เร่งไม่ขึ้น หรือสิ้นเปลืองน้ำมันมากขึ้น โดยทั่วไปเครื่องยนต์เทอร์โบจะมีความไวต่อคุณภาพและค่าของน้ำมันมากกว่าเครื่องยนต์ทั่วไป ดังนั้นเพื่อรักษาสมรรถนะและความทนทานของเครื่องยนต์ การเลือกใช้น้ำมันตามที่ผู้ผลิตแนะนำถือเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยและเหมาะสมที่สุด
Q
Honda Civic hatchback มีประสิทธิภาพการใช้น้ำมันอย่างไร?
Honda Civic Hatchback 1.5 VTEC Turbo 2022 มีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ยตามข้อมูลจากโรงงานอยู่ที่ 5.8 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร โดยใช้เชื้อเพลิงเบนซิน ตัวเลขนี้ได้จากการทดสอบในสภาพแวดล้อมมาตรฐาน ซึ่งในการใช้งานจริงอัตราสิ้นเปลืองอาจมีความแตกต่างขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ลักษณะการขับขี่ สภาพถนน น้ำหนักบรรทุก และการใช้อุปกรณ์ต่าง ๆ ภายในรถ หากมีการเร่งหรือเบรกอย่างรุนแรงบ่อยครั้ง หรือปล่อยให้เครื่องยนต์เดินเบานานเกินไป อัตราสิ้นเปลืองก็จะสูงกว่าค่าที่ระบุไว้ ขณะที่การขับขี่อย่างนุ่มนวล รักษาความเร็วให้เหมาะสม และใช้ระบบต่าง ๆ อย่างมีประสิทธิภาพ จะช่วยให้ประหยัดน้ำมันได้มากขึ้น เครื่องยนต์ที่จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT ของรุ่นนี้ยังช่วยให้การใช้พลังงานมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ซึ่งช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านเชื้อเพลิงให้กับผู้ใช้
Q
ฮอนด้าซิวิคแฮทช์แบ็กที่มีซันรูฟคือรุ่นไหน?
ในไลน์อัปของ Honda Civic Hatchback ที่จำหน่ายในประเทศไทย รุ่นที่มาพร้อมหลังคาซันรูฟคือ Civic Hatchback RS ซึ่งเป็นรุ่นท็อปสุดของซีรีส์นี้ รุ่น RS มาพร้อมหลังคาซันรูฟแบบพาโนรามาเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า ช่วยเพิ่มความโปร่งสบายและแสงธรรมชาติเข้าสู่ห้องโดยสาร เหมาะอย่างยิ่งสำหรับสภาพอากาศร้อนของไทยที่ต้องการการระบายอากาศที่ดี นอกจากซันรูฟแล้ว Civic RS ยังมีชุดแต่งภายนอกแบบสปอร์ต ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว เบาะหนัง ระบบกุญแจอัจฉริยะ และระบบความปลอดภัย Honda Sensing เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ส่วนรุ่นย่อยอื่น เช่น รุ่น E และ EL จะไม่มีซันรูฟติดตั้งมา หากคุณให้ความสำคัญกับฟังก์ชันนี้ แนะนำให้เลือกตรงไปที่รุ่น RS โดยปกติแล้วดีลเลอร์ Honda ในไทยจะมีสีตัวถังให้เลือกหลากหลายสำหรับรุ่น RS โดยเฉพาะสีขาวมุก (Platinum White) และสีเงินเมทัลลิก (Lunar Silver) ซึ่งเป็นสองสีที่ได้รับความนิยมสูงสุด และเข้ากันได้ดีกับดีไซน์ของหลังคาซันรูฟ
Q
Honda Civic hatchbacks ใช้งานได้นานแค่ไหน?
อายุการใช้งานของ Honda Civic Hatchback ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น วิธีการใช้งาน สภาพการดูแลรักษา และคุณภาพของอะไหล่โดยรวม โดยทั่วไป หากมีการใช้งานและดูแลอย่างเหมาะสม รถรุ่นนี้สามารถใช้งานได้นานกว่า 10 ปี หากเจ้าของรถปฏิบัติตามคู่มือการบำรุงรักษา เปลี่ยนอะไหล่ที่สึกหรอ และซ่อมแซมเมื่อเกิดปัญหา ก็จะช่วยยืดอายุการใช้งานได้มากขึ้น เช่น การเปลี่ยนน้ำมันเครื่องและไส้กรองอากาศตามระยะ จะช่วยให้เครื่องยนต์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ การตรวจสอบและเปลี่ยนยางที่สึกหรอก็ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนมีผลต่ออายุการใช้งานของรถ นอกจากนี้ พฤติกรรมการขับขี่ก็มีผลเช่นกัน การขับขี่อย่างนุ่มนวล หลีกเลี่ยงการเร่งหรือเบรกกระทันหัน จะช่วยลดการสึกหรอของชิ้นส่วนของรถได้
Q
Honda Civic Hatchback มี CVT หรือไม่?
Honda Civic Hatchback มาพร้อมเกียร์ CVT (Continuously Variable Transmission) โดยรุ่น 1.5 VTEC Turbo ปี 2022 ใช้ระบบเกียร์ประเภทนี้ เกียร์ CVT สามารถเปลี่ยนอัตราทดได้อย่างต่อเนื่องขณะขับขี่ ให้ความรู้สึกเปลี่ยนเกียร์ที่นุ่มนวล ช่วยเพิ่มความเรียบลื่นในการขับขี่ และมีส่วนช่วยลดอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง โดยสามารถควบคุมให้เครื่องยนต์ทำงานอยู่ในช่วงรอบที่เหมาะสม เพื่อสร้างสมดุลระหว่างกำลังขับเคลื่อนและการใช้พลังงาน เมื่อจับคู่กับเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร ระบบเกียร์ CVT สามารถตอบสนองการขับขี่ได้ดีทั้งในเมืองและบนทางหลวง มอบประสบการณ์การขับขี่ที่ทั้งนุ่มนวลและมีประสิทธิภาพให้กับผู้ขับขี่ได้อย่างลงตัว
Q
Honda Civic Hatchback มีระบบขับเคลื่อนสี่ล้อหรือไม่?
ปัจจุบัน Honda Civic Hatchback ทุกรุ่นใช้ระบบขับเคลื่อนล้อหน้า (FF: Front-Engine, Front-Wheel Drive) ทั้งหมด โดยไม่มีเวอร์ชันขับเคลื่อนสี่ล้อ (4WD หรือ AWD) ให้เลือก Honda มักนำระบบขับเคลื่อนสี่ล้อไปใช้กับรถยนต์ประเภท SUV อย่าง CR-V หรือ HR-V มากกว่า ขณะที่ตระกูล Civic นั้นเน้นแพลตฟอร์มขับเคลื่อนล้อหน้าที่เน้นความสปอร์ต และระบบกันสะเทือนรวมถึงช่วงล่างก็ได้รับการปรับจูนอย่างพิถีพิถันเพื่อรองรับการควบคุมที่แม่นยำ
Q
คือประเภทต่าง ๆ ของฮอนด้าซีวิคแฮชแบ็คคืออะไร?
Honda Civic Hatchback มีให้เลือกหลายรุ่นย่อย โดยแบ่งตามระบบขับเคลื่อนและอุปกรณ์ต่าง ๆ ดังนี้ ในด้านขุมพลัง มีทั้งรุ่นเครื่องยนต์เบนซินล้วน เช่น Honda Civic Hatchback 1.5 VTEC Turbo ปี 2022 ที่ใช้เครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุดที่ 6,500 รอบต่อนาที และมีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ยตามข้อมูลโรงงานที่ 5.8 ลิตร/100 กิโลเมตร รวมถึงยังมีรุ่นไฮบริด ที่ให้ทั้งความประหยัดเชื้อเพลิงและการตอบสนองของเครื่องยนต์ที่ดี ในส่วนของระบบเกียร์ มีทั้งเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT ที่เปลี่ยนเกียร์ได้อย่างลื่นไหล และยังมีเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ (6MT) สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการควบคุมรถด้วยตนเอง ให้ความรู้สึกเปลี่ยนเกียร์ที่แม่นยำและดิบมากขึ้น ด้านอุปกรณ์ แต่ละรุ่นมีความแตกต่างกัน เช่น บางรุ่นมาพร้อมแป้นเปลี่ยนเกียร์หลังพวงมาลัย (Paddle Shift) หน้าจอกลางระบบสัมผัส ถุงลมนิรภัยหลายตำแหน่ง และระบบความปลอดภัยต่าง ๆ โดยรุ่นที่เน้นความสนุกในการขับขี่แบบเกียร์ธรรมดา หากเพิ่มงบเล็กน้อย อาจได้อุปกรณ์ความปลอดภัยเชิงรุกที่ครบถ้วนยิ่งขึ้นเมื่อเทียบกับรุ่นที่เน้นสไตล์ภายนอกหรือออปชันเบื้องต้น
Q
Honda Civic hatchback สามารถวิ่งได้กี่ไมล์เมื่อเติมถังเต็ม?
Honda Civic Hatchback 1.5 VTEC Turbo ปี 2022 มีความจุถังน้ำมันอยู่ที่ 47 ลิตร โดยอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ยตามข้อมูลจากโรงงานอยู่ที่ 5.8 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร หากคำนวณตามตัวเลขนี้ รถจะสามารถวิ่งได้ประมาณ 810.34 กิโลเมตรต่อการเติมน้ำมันเต็มถัง อย่างไรก็ตาม ระยะทางดังกล่าวเป็นค่าทางทฤษฎีเท่านั้น ในการใช้งานจริง ระยะทางที่วิ่งได้อาจเปลี่ยนแปลงไปตามพฤติกรรมการขับขี่ สภาพการจราจร สภาพถนน และน้ำหนักบรรทุก ตัวอย่างเช่น หากมีการเร่งหรือเบรกอย่างรุนแรงบ่อยครั้ง หรือขับในสภาพการจราจรติดขัด อัตราสิ้นเปลืองจะเพิ่มขึ้น ทำให้ระยะทางลดลง แต่หากขับขี่อย่างนุ่มนวล และอยู่บนถนนที่มีสภาพดี ระยะทางที่วิ่งได้จริงอาจใกล้เคียงกับค่าที่คำนวณไว้มากขึ้น
Q
ฉันสามารถทำให้ Honda Civic Hatchback ของฉันวิ่งเร็วขึ้นได้อย่างไร
หากต้องการให้ Honda Civic Hatchback วิ่งได้เร็วขึ้น สามารถเริ่มได้จากหลายด้าน ขั้นแรกคือการปรับปรุงฮาร์ดแวร์ เช่น เปลี่ยนมาใช้ยางที่มีค่าความฝืดสูง จะช่วยลดการลื่นไถลของยาง ทำให้การเร่งความเร็วมีเสถียรมากขึ้น และเพิ่มแรงยึดเกาะถนนให้กับรถ อีกทั้งควรตรวจสอบและบำรุงรักษาระบบเชื้อเพลิงอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้หัวฉีด ท่อน้ำมัน ปั๊มน้ำมัน และกรองน้ำมันเชื้อเพลิงทำงานได้ตามปกติ ช่วยให้เครื่องยนต์ได้รับเชื้อเพลิงเพียงพอและเพิ่มประสิทธิภาพในการเผาไหม้ นอกจากนี้ ระบบไอดีก็มีความสำคัญ ควรหมั่นทำความสะอาดหรือเปลี่ยนไส้กรองอากาศ เพื่อให้เครื่องยนต์ดูดอากาศได้เพียงพอ และผสมกับเชื้อเพลิงได้อย่างเหมาะสมเพื่อการเผาไหม้ที่มีประสิทธิภาพ อีกจุดที่ควรให้ความสำคัญคือคุณภาพของการจุดระเบิด โดยการเปลี่ยนหัวเทียนและคอยล์จุดระเบิดที่เสื่อมหรือทำงานผิดปกติ จะช่วยให้เครื่องยนต์เดินเรียบและทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ ในด้านซอฟต์แวร์ การรีแมพกล่อง ECU จะช่วยเพิ่มกำลังของเครื่องยนต์และปรับปรุงสมรรถนะในการเร่งความเร็วของรถได้
Q&A ล่าสุด
Q
ยางของ Neta X มีขนาดและสเปกยังไงบ้าง?
รถ Neta X มีขนาดยางหน้าขนาด 225/60 R18 และยางหลังก็ขนาด 225/60 R18 เหมือนกัน โดยเลข "225" หมายถึงความกว้างของหน้ายางที่ 225 มิลลิเมตร ยิ่งตัวเลขมากแรงยึดเกาะก็จะดีขึ้น แต่ก็อาจทำให้สิ้นเปลืองน้ำมันมากขึ้น ส่วน "60" คืออัตราส่วนความสูงของแก้มยางต่อความกว้างหน้ายางในหน่วยเปอร์เซ็นต์ ซึ่งตัวเลขนี้ให้ความนุ่มสบายขณะขับขี่ดี ส่วนตัวอักษร "R" หมายถึงยางเรเดียล และเลข "18" คือขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของล้อที่ 18 นิ้ว สเปคยางเหล่านี้ได้รับการออกแบบมาให้เหมาะกับรถอย่างดี เพื่อให้มั่นใจในเรื่องความมั่นคงในการขับขี่ การควบคุม และความสบาย รวมถึงประสิทธิภาพอื่นๆ หากต้องการเปลี่ยนยางในภายหลัง ต้องเลือกขนาดยางตามสเปคนี้เท่านั้น ห้ามเปลี่ยนเองเพราะอาจทำให้ตรวจสภาพรถไม่ผ่านหรือเกิดอันตรายได้
Q
พื้นที่เก็บของหรือขนาดห้องเก็บสัมภาระของ Neta X มีเท่าไหร่?
Neta X มีความจุห้องเก็บสัมภาระด้านท้ายอยู่ที่ 508 ลิตร ซึ่งถือว่าเพียงพอสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน รวมถึงการเดินทางระยะสั้นของครอบครัว เช่น สามารถใส่ถุงช้อปปิ้งได้หลายใบ หรือจัดเก็บกระเป๋าเดินทางใบเล็ก กระเป๋าเป้ และของใช้จำเป็นในการท่องเที่ยวได้อย่างสะดวก
การออกแบบห้องเก็บของยังมีความเป็นระเบียบ ทำให้จัดวางสัมภาระได้ง่ายและใช้พื้นที่ได้อย่างคุ้มค่า ความจุระดับนี้นับว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดีเมื่อเทียบกับรถในกลุ่มเดียวกัน และช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งานทั้งในชีวิตประจำวันและการเดินทางของผู้ใช้ได้เป็นอย่างดี
Q
ขนาดตัวถังของ Neta X เท่าไหร่?
Neta X เป็นรถ SUV ไฟฟ้าขนาดคอมแพกต์ โดยมีขนาดตัวถังยาว 4,619 มิลลิเมตร กว้าง 1,860 มิลลิเมตร และสูง 1,628 มิลลิเมตร พร้อมระยะฐานล้อ 2,770 มิลลิเมตร ซึ่งถือว่าเป็นขนาดที่ขับขี่ได้คล่องตัวบนถนนในเมืองของไทย ขณะเดียวกันก็ยังมอบพื้นที่ภายในห้องโดยสารที่กว้างขวาง เหมาะสำหรับการเดินทางทั้งในชีวิตประจำวันและการใช้งานในครอบครัว
ระยะความสูงจากพื้นถึงใต้ท้องรถ (Ground Clearance) ของ Neta X อยู่ที่ 170 มิลลิเมตร ช่วยให้รองรับถนนที่ไม่ได้ลาดยางหรือถนนขรุขระในบางพื้นที่ของไทยได้ดี พื้นที่เก็บสัมภาระด้านหลังสามารถขยายได้ถึง 1,388 ลิตร เมื่อพับเบาะหลังลง รองรับการใช้งานทั้งการซื้อของหรือเดินทางระยะสั้นได้อย่างสะดวก
ในสภาพอากาศร้อนของประเทศไทย ระบบควบคุมอุณหภูมิของแบตเตอรี่ใน Neta X มีบทบาทสำคัญในการรักษาเสถียรภาพของแบตเตอรี่ ช่วยให้ใช้งานได้อย่างมั่นใจมากขึ้น เมื่อรวมกับโครงสร้างพื้นฐานด้านการชาร์จไฟฟ้าที่กำลังขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ก็ยิ่งเพิ่มความสะดวกในการใช้งาน
สำหรับการใช้งานในเมืองใหญ่ที่มีการจราจรติดขัดอย่างกรุงเทพฯ ขนาดตัวรถที่กะทัดรัดของ Neta X ประกอบกับแรงบิดที่ตอบสนองทันใจของรถยนต์ไฟฟ้า ช่วยให้การขับขี่ในสภาพจราจรที่ต้องหยุดและเคลื่อนตัวบ่อยครั้งเป็นไปอย่างคล่องตัว นอกจากนี้ ระบบชาร์จพลังงานกลับ (Regenerative Braking) ยังช่วยเพิ่มระยะทางวิ่งต่อการชาร์จอีกด้วย ซึ่งทั้งหมดนี้ทำให้ Neta X เป็นตัวเลือกที่น่าจับตามองในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าของไทย
Q
ค่าเบี้ยประกันของ Neta X ต้องจ่ายเงินเท่าไหร่?
ค่าเบี้ยประกันสำหรับรถ Neta X ในประเทศไทยจะแตกต่างกันไปตามรุ่นรถ ราคาซื้อ แผนประกันที่เลือก และนโยบายของบริษัทประกัน โดยทั่วไปประกันรถในไทยแบ่งเป็นประกันชั้น 1 (ประกันเต็ม) และประกันชั้น 2 (ประกันความรับผิดต่อบุคคลภายนอก) สำหรับประกันเต็มจะมีค่าเบี้ยประมาณ 3%-5% ของราคารถใหม่ สมมติว่ารุ่นเริ่มต้นของ Neta X ราคาประมาณ 1 ล้านบาท ค่าเบี้ยประกันเต็มอาจอยู่ที่ 30,000-50,000 บาทต่อปี ส่วนประกันชั้น 2 จะถูกกว่า แนะนำให้ตรวจสอบราคาที่แน่นอนผ่านเว็บไซต์บริษัทประกันชั้นนำในไทยเช่น วิริยะ ธรรมภรณ์ หรือ MSIG โดยกรอกข้อมูลรถของคุณเพื่อขอใบเสนอราคา
ปัจจุบันประกันรถไฟฟ้าในไทยมีความคุ้มครองเพิ่มเติมเกี่ยวกับแบตเตอรี่และมอเตอร์ไฟฟ้า บางบริษัทอาจมีประกันกรณีเกิดเหตุระหว่างชาร์จไฟด้วย ควรตรวจสอบเงื่อนไขว่าครอบคลุมเรื่องเหล่านี้หรือไม่ นอกจากนี้กฎหมายไทยบังคับให้รถทุกคันต้องมีประกันความรับผิดต่อบุคคลภายนอก (ป.ร.บ.) เป็นอย่างน้อย ซึ่งมีความคุ้มครองขั้นต่ำ 100,000 บาทต่อการบาดเจ็บหรือเสียชีวิตต่อครั้ง เจ้าของรถยังสามารถเพิ่มความคุ้มครองการโจรกรรมหรือภัยธรรมชาติได้ตามต้องการ
ค่าเบี้ยประกันยังได้รับผลจากอายุผู้ขับขี่ ประวัติการขับขี่ และสถานที่จอดรถ หากจอดในพื้นที่เสี่ยงเช่นกรุงเทพฯ อาจมีค่าเบี้ยเพิ่มขึ้น 10%-15%
Q
Neta X หนักเท่าไหร่?
รถ Neta X มีหลายรุ่นด้วยกัน โดยรุ่น Neta X Comfort 2024 มีน้ำหนักรถอยู่ที่ 1,745 กิโลกรัม ส่วนรุ่น Neta X Smart 2024 น้ำหนักจะมากกว่าคือ 1,815 กิโลกรัม น้ำหนักรถนี่แหละที่มีผลต่อประสิทธิภาพการขับขี่หลายด้านเลย เช่นเรื่องความเร็วในการเร่ง ยิ่งรถหนักการเร่งก็จะช้าลง หรืออย่างการเบรกรถ ยิ่งรถหนักแรงเฉื่อยก็มากขึ้น ทำให้ต้องใช้ระยะทางในการหยุดรถมากขึ้นกว่าเดิม แถมน้ำหนักรถยังส่งผลต่อการกินพลังงานด้วย รถที่หนักกว่าย่อมต้องการพลังงานมากขึ้นในการขับเคลื่อน ทำให้สิ้นเปลืองพลังงานมากกว่าเป็นธรรมดา
ดูเพิ่มเติมข่าวที่เกี่ยวข้อง

Honda Type R Rocket ทดสอบการปล่อยจรวดสำเร็จ วางแผนบุกอุตสาหกรรมอวกาศในปี 2029
ณัฐวุฒิJun 24, 2025

Honda เปิดตัว Super EV ขนาดใกล้เคียงกับ Kei Car เจาะตลาดยุโรป
LienJun 20, 2025

Honda วางจำหน่าย Civic TYPE R รุ่น Ultimate เนื่องจากกฎหมายเกี่ยวกับการปล่อยก๊าซทำให้เลิกขายในยุโรป
พงศธรJun 11, 2025

ในเดือนนี้หากซื้อรถยนต์ Honda จะได้รับข้อเสนอปลอดดอกเบี้ย 0% และประกันภัยฟรี 1 ปี
พงศธรJun 6, 2025

Honda ประกาศลดการลงทุนในรถยนต์ไฟฟ้าลงอย่างมาก ราวกับลืมไปว่าพึ่งเปิดตัว e:N1ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
วิรุฬห์May 21, 2025
ดูเพิ่มเติม
ข้อดี
ข้อเสีย