ต้องอ่านสำหรับเจ้าของรถในประเทศไทย! ใช้แอป ขับดี เพื่อตรวจสอบคะแนนใบขับขี่และชำระค่าปรับ พร้อมทำความเข้าใจ 7 ฟีเจอร์หลักทั้งหมดในครั้งเดียว

สุรเดชSep 16, 2025, 12:09 PM

สำหรับผู้ขับขี่ในประเทศไทย การจัดการการหักคะแนนใบขับขี่และการชำระค่าปรับจราจรในอดีตเป็นเรื่องยุ่งยากและเสียเวลา——ต้องไปสถานีตำรวจจราจร ยืนรอคิวเพื่อสอบถามข้อมูล และมักพลาดการดำเนินการเนื่องจากข้อมูลล่าช้า ทุกวันนี้ แอป ขับดี ที่พัฒนาโดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติของไทยร่วมกับบริษัทโทรคมนาคมแห่งชาติ ได้แก้ไขปัญหาเหล่านี้อย่างสิ้นเชิง ไม่เพียงแต่สามารถตรวจสอบคะแนนใบขับขี่แบบเรียลไทม์ แต่ยังสามารถชำระค่าปรับและยื่นอุทธรณ์การกระทำผิดออนไลน์ ถือว่าเป็น "เครื่องมือจัดการจราจร" สำหรับผู้ขับขี่ในประเทศไทย ต่อไปจะพาไปทำความเข้าใจแอปนี้ในทุกมิติ ทั้งการทดลองใช้งานจริง ขั้นตอนการใช้งาน และกฎการหักคะแนน

ทำไมถึงบอกว่า “ขับดี” เป็น "เครื่องมือสำคัญ" สำหรับผู้ขับขี่ในไทย? เริ่มต้นจากความน่าเชื่อถือและการใช้งานจริง

ก่อนอื่นต้องชี้แจงว่า ขับดี ไม่ได้เป็นเครื่องมือจากบุคคลที่สาม แต่มีความน่าเชื่อถือจากทางการโดยตรง——แอปนี้เชื่อมต่อฐานข้อมูลหลักของกรมการขนส่งทางบกและสำนักงานตำรวจแห่งชาติของไทย ซึ่งหมายความว่า

- สามารถตรวจสอบข้อมูลการหักคะแนนใบขับขี่ที่มีอยู่กว่า 30 ล้านใบทั่วประเทศครอบคลุมใบขับขี่รถจักรยานยนต์ รถยนต์ และใบขับขี่ประเภทอื่น

- ซิงค์ข้อมูลการกระทำความผิดของยานยนต์ที่จดทะเบียนแล้วกว่า 40 ล้านคันทั่วประเทศ รวมถึงใบสั่งที่ออกโดยตำรวจจราจรและการจับภาพอัตโนมัติจาก CCTV (เช่น การขับรถเร็วเกินกำหนด การฝ่าไฟแดง)

- การชำระค่าปรับและการยื่นอุทธรณ์การตัดคะแนนทั้งหมดได้รับการรองรับจากทางการ ข้อมูลจะซิงค์แบบเรียลไทม์กับระบบของรัฐบาล เพื่อหลีกเลี่ยงกรณีที่ดำเนินการแบบออฟไลน์แต่ข้อมูลไม่ได้อัปเดตทางออนไลน์

สำหรับเจ้าของรถ ข้อดีของการเชื่อมต่อโดยตรงกับทางการเช่นนี้ชัดเจนมาก ไม่ต้องพกใบขับขี่หรือบัตรประชาชนไปจุดบริการอีกต่อไป สามารถตรวจสอบคะแนนที่ถูกตัดและชำระค่าปรับได้จากที่บ้าน เหมาะอย่างยิ่งกับวัยทำงานในเมืองใหญ่ เช่น กรุงเทพฯ และเชียงใหม่ ที่ไม่มีเวลาไปต่อคิว

สมัครใช้งานง่ายสุดๆ! ผูกใบขับขี่ 3 ขั้นตอน เรียนรู้ทั้งหมดใน 5 นาที

หลายคนกังวลว่าแอปฯ ทางการจะใช้งานยาก แต่การออกแบบของ ขับดี นั้นตอบโจทย์พฤติกรรมผู้ใช้ชาวไทยอย่างแท้จริง ตั้งแต่ดาวน์โหลดจนถึงการผูกใบขับขี่ใช้เวลาไม่เกิน 10 นาที สำหรับมือถือ Android เราได้รวบรวมขั้นตอนอย่างละเอียดไว้แล้ว

ดาวน์โหลดและล็อกอิน: รองรับการเชื่อมต่อบัญชีหลายแพลตฟอร์ม ไม่ต้องลงทะเบียนใหม่

- ช่องทางการดาวน์โหลด: ค้นหา “ขับดี” ใน App Store (iOS) หรือ Google Play (Android) โปรดเลือกเวอร์ชันที่มีโลโก้สำนักงานตำรวจแห่งชาติไทย

- วิธีการเข้าสู่ระบบ: ไม่ต้องลงทะเบียนแยกต่างหาก สามารถเข้าสู่ระบบโดยตรงด้วย Facebook, Google Line หรือ Apple ID ช่วยลดความยุ่งยากในการจดจำบัญชีใหม่

การยืนยันตัวตน: ต้องเชื่อมโยงบัตรประชาชนและใบขับขี่ เพื่อยืนยันข้อมูลที่แท้จริง

นี่คือเกณฑ์ความปลอดภัยของเครื่องมืออย่างเป็นทางการ และเป็นกุญแจสำคัญในการป้องกันข้อมูลส่วนบุคคลจากการถูกนำไปใช้ในทางที่ผิด วัสดุที่ต้องเตรียมมีดังนี้

- บัตรประชาชนไทย: ต้องกรอกหมายเลขบัตรประชาชน และอัปโหลดรูปภาพด้านหน้าและด้านหลัง (โปรดตรวจสอบให้รูปภาพชัดเจน หลีกเลี่ยงแสงสะท้อน)

- ใบขับขี่ที่ยังไม่หมดอายุ: กรอกหมายเลขใบขับขี่ และอัปโหลดหน้าหลักของใบขับขี่,ที่นี่ขอเตือนทุกคนว่า ก่อนอัปโหลดวัสดุ กรุณาตรวจสอบความชัดเจนของรูปภาพเพื่อหลีกเลี่ยงการเสียเวลา

เข้าหน้าแรก: แสดงคะแนนใบขับขี่แบบเรียลไทม์ ชัดเจนในครั้งเดียว

หลังจากการเชื่อมโยงเสร็จสิ้น หน้าแรกจะแสดงคะแนนใบขับขี่ปัจจุบันของคุณโดยตรง(คะแนนใบขับขี่ไทยเต็ม 12 คะแนน) หากไม่มีประวัติการกระทำผิด จะมีข้อความแจ้งว่าได้คะแนนเต็ม 12 หากมีใบสั่งที่ยังไม่ได้ดำเนินการหรือถูกตัดคะแนน จะมีการแสดงข้อมูลในช่องใบสั่งโดยอัตโนมัติ รวมถึงเวลา สถานที่ จำนวนคะแนนที่ถูกตัด และรายละเอียดอื่น

ทดสอบ 7 ฟังก์ชันหลัก: ตั้งแต่ตรวจสอบคะแนนใบขับขี่ไปจนถึงชำระค่าปรับ ครอบคลุมความต้องการทุกสถานการณ์ของเจ้าของรถ

ตรวจสอบคะแนนใบขับขี่แบบเรียลไทม์: เพื่อหลีกเลี่ยง "คะแนนหมดโดยไม่รู้ตัว"

ชำระค่าปรับออนไลน์: สแกน QR โค้ดเพื่อชำระ รองรับหลายช่องทางการชำระเงิน

ตรวจสอบประวัติค่าปรับย้อนหลัง 1 ปี: ย้อนดูบันทึกการกระทำผิด เพื่อลดความซ้ำซ้อนในการจัดการ

ร้องเรียนการกระทำผิด: สามารถร้องเรียนกรณีผิดปกติได้ พร้อมขั้นตอนที่โปร่งใส

ขอความช่วยเหลือฉุกเฉิน: ติดต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทันทีในกรณีเหตุฉุกเฉิน

การแจ้งเตือนข่าวสารการจราจร: รับข้อมูลสภาพจราจรและข้อบังคับใหม่แบบเรียลไทม์

การขอคืนคะแนน: ไม่ต้องกังวลเมื่อคะแนนหมด สามารถขอคืนได้ภายใน 90 วันหลังการระงับ

รายละเอียดกฎการตัดคะแนนใบขับขี่ในไทย: การกระทำใดถูกหัก 1 คะแนน? หากคะแนนหมดต้องทำอย่างไร?

ในขณะเดียวกันกับการใช้ ขับดี ผู้ขับขี่ควรเข้าใจกฎข้อบังคับเกี่ยวกับการตัดคะแนนใบขับขี่ในไทย,เพราะการรู้จักตนเองและกฎข้อบังคับจะช่วยหลีกเลี่ยงการถูกตัดคะแนนจนหมดได้ ตามระเบียบใหม่ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติไทยปี 2024 การตัดคะแนนใบขับขี่แบ่งเป็น "การกระทำผิดที่ถูกตัดคะแนนโดยตรง" และ "การไม่ชำระค่าปรับที่ส่งผลให้ถูกตัดคะแนนเพิ่มเติม" ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้

การกระทำผิดหักคะแนนทันที: ตั้งแต่ 1 คะแนนถึง 4 คะแนน

การกระทำที่หัก 1 คะแนนบ่อยครั้ง:ใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับรถ ไม่สวมหมวกนิรภัย ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย ขับรถเร็วเกินกำหนด ขับรถบนทางเท้า ไม่ให้ทางคนเดินเท้า

การกระทำร้ายแรงหัก 2 คะแนน: ฝ่าไฟแดง ขับรถย้อนศร ขับรถในช่วงที่ถูกระงับใบขับขี่

การกระทำอันตรายสูงหัก 3 คะแนน:เสียสมาธิขณะขับรถ เช่น ขับรถในสภาพเหนื่อยล้า หลบหนีหลังจากเกิดอุบัติเหตุทางจราจร (กรณีที่ไม่มีการบาดเจ็บหรือเสียชีวิต)

การกระทำผิดที่หัก 4 คะแนน: เมาแล้วขับ ขับรถในขณะเสพยาเสพติด แข่งรถโดยไม่ได้รับอนุญาต ขับรถโดยไม่ใส่ใจความปลอดภัยของผู้อื่น

1 ใบหัก 1 คะแนน และสะสมจะรุนแรงขึ้น

ผู้ขับขี่หลายคนมักมองข้ามผลกระทบจากการไม่ชำระค่าปรับทันเวลา——ตามกฎ แต่ละใบสั่งที่ไม่ได้ชำระเมื่อเกินกำหนด จะถูกหักคะแนนเพิ่ม 1 คะแนน และไม่มีเพดานการหักคะแนน เช่น หากคุณมีใบสั่งที่ไม่ได้ชำระ 3 ใบ นอกจากคะแนนที่ถูกหักจากความผิดแล้ว จะถูกหักเพิ่มอีก 3 คะแนน ซึ่งทำให้คะแนนหมดอย่างรวดเร็วได้ง่าย

วิธีจัดการเมื่อคะแนนถูกหักจนหมด: ระงับ 90 วันเป็นจุดเริ่มต้น หากถูกระงับ 3 ครั้งอาจถูกเพิกถอนใบขับขี่

- ครั้งที่ 1 ที่ถูกหักคะแนนจนหมด 12 คะแนน: ระงับใบขับขี่ 90 วัน หลังพ้นกำหนดต้องเข้าอบรมการขับขี่ปลอดภัยจึงจะสามารถคืนคะแนนได้

- โดนตัดคะแนนครบ 12 คะแนน ครั้งที่ 2 ภายใน 3 ปี: ระยะเวลาระงับใบขับขี่ขยายเป็น 120 วัน และระดับความยากของการฝึกอบรมและการประเมินเพิ่มขึ้น

- โดนตัดคะแนนครบ 12 คะแนน ครั้งที่ 3 ภายใน 3 ปี: ระงับใบขับขี่เกิน 180 วัน และต้องสอบข้อเขียนใบขับขี่ใหม่อีกครั้ง

- โดนตัดคะแนนครบ 12 คะแนน ครั้งที่ 4 ภายใน 3 ปี: ถูกเพิกถอนใบขับขี่ และต้องเริ่มต้นการสอบตั้งแต่ใบอนุญาต "รถฝึกหัด" ใหม่

เคล็ดลับ 3 ข้อที่มีประโยชน์ในการใช้ ขับดี เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหา

ที่นี่มาสรุป 3 รายละเอียดที่มักถูกมองข้าม เพื่อช่วยให้ทุกท่านใช้งานแอปนี้ได้อย่างราบรื่นมากขึ้น

อัปเดตแอปเป็นประจำ: ทางการจะมีการแก้ไขข้อบกพร่องและอัปเดตฟีเจอร์เป็นระยะ แนะนำว่าให้เปิดใช้งานการอัปเดตอัตโนมัติ เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาการใช้งานเนื่องจากเวอร์ชันที่ล้าสมัย

ผูกมัดยานพาหนะที่ใช้บ่อย: หากคุณมียานพาหนะหลายคัน คุณสามารถผูกมัดรถหลายคันในคอลัมน์ข้อมูลยานพาหนะได้ เพื่อให้สามารถตรวจสอบบันทึกการกระทำผิดของรถทุกคันได้พร้อมกัน

เก็บใบเสร็จชำระเงิน: แม้ว่าระบบจะซิงค์บันทึกการชำระเงินโดยอัตโนมัติ แต่แนะนำให้ถ่ายภาพหน้าจอ QR Code ของใบเสร็จการชำระเงินไว้ กรณีที่มีความล่าช้าในการซิงค์ข้อมูล คุณสามารถใช้ภาพหน้าจอไปยืนยันกับตำรวจจราจรได้

จาก "การเดินเรื่องแบบออฟไลน์" สู่ "การจัดการทุกอย่างออนไลน์"  ขับดี ได้เปลี่ยนประสบการณ์การจัดการการจราจรของเจ้าของรถในประเทศไทย,ประเทศไทยได้เปลี่ยนจากการจัดการแบบเอกสารกระดาษไปสู่การจัดการแบบดิจิทัล และ ขับดี ได้กลายเป็นเครื่องมือหลักของการเปลี่ยนแปลงนี้ ไม่เพียงแต่รับรองความน่าเชื่อถือของข้อมูลด้วยความเป็นทางการเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงฟังก์ชันแบบครบวงจร "ตรวจสอบคะแนน, ชำระเงิน, ยื่นอุทธรณ์, ขอความช่วยเหลือ" ที่ตอบโจทย์ปัญหาจริงของเจ้าของรถ — ไม่ว่าคุณจะเป็นคนเดินทางในกรุงเทพฯ หรือชาวท่องเที่ยวขับรถในเชียงใหม่ ก็สามารถใช้แอปนี้เพื่อจัดการใบขับขี่และรถยนต์ของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สุดท้ายนี้ ขอเตือนทุกคนว่า: คุณค่าหลักของ ขับดี ไม่เพียงแค่การแก้ปัญหาการกระทำผิดแบบสะดวก แต่คือการแจ้งเตือนหักคะแนนแบบเรียลไทม์เพื่อให้เจ้าของรถสร้างนิสัยการขับขี่อย่างปลอดภัย เพราะคะแนน 12 คะแนนของใบขับขี่คือ "เส้นล่างสุด" ของความปลอดภัย และการหลีกเลี่ยงการกระทำผิดโดยสมัครใจและการปฏิบัติตามกฎจราจรนั้นคือความรับผิดชอบสูงสุดต่อทั้งตัวเองและผู้อื่น ดาวน์โหลด ขับดี เลยตอนนี้ เพื่อเพิ่มความมั่นใจในชีวิตการขับขี่ของคุณในประเทศไทย

# สารานุกรมยานยนต์

คุณสามารถติดต่อเราให้ลบออกเนื้อหาถ้าละเมิดลิขสิทธิ์

ติดตามเรา

You Tube Facebook Google News

ข้อมูลยอดนิยม

เตรียมเปิดตัว!  Toyota Yaris ATIV HEV ใหม่ 21 ส.ค.นี้ ใช้ขุมพลังเดียวกับ Yaris Cross

เตรียมเปิดตัว! Toyota Yaris ATIV HEV ใหม่ 21 ส.ค.นี้ ใช้ขุมพลังเดียวกับ Yaris Cross

【PCauto】Yaris ATIV HEV ใหม่ จ่อเปิดตัว 21 ส.ค.นี้ มาพร้อมเครื่องยนต์ไฮบริดประหยัดสุด 26.3 กม./ลิตร Toyota เตรียมส่ง Yaris ATIV รุ่นไฮบริดบุกตลาดไทย 21 สิงหาคมนี้ โดยใช้ขุมพลังเดียวกับ Yaris Cross ได้แก่ เครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร รหัส 2NR-VEX ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า ให้พละกำลังรวม 111 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ e-CVT พร้อมแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาด 0.7 kWh รองรับน้ำมัน E20 ความเร็วสูงสุด 160 กม./ชม. อัตราสิ้นเปลืองดีเยี่ยมที่ 26.3 กม./ลิตร ตามมาตรฐาน WMTC เตรียมเปิดศึกรถซีดานไฮบริดประหยั

AshleyJul 21, 2025
Mitsubishiเปิดตัว SUV 7 ที่นั่งรุ่น Destinator เพื่อแข่งขันกับ Honda CR-V

Mitsubishiเปิดตัว SUV 7 ที่นั่งรุ่น Destinator เพื่อแข่งขันกับ Honda CR-V

【PCauto】Mitsubishi Motors ได้เปิดตัว SUV เจ็ดที่นั่งรุ่นใหม่ Destinator อย่างเป็นทางการที่จาการ์ต้า รุ่นนี้ออกแบบมาเพื่อครอบครัวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้โดยเฉพาะ และจะเริ่มจำหน่ายในอินโดนีเซียเป็นประเทศแรก ก่อนขยายตลาดไปยังไทยและประเทศในอาเซียนอื่นๆ Mitsubishi Destinator มาพร้อมกับฐานล้อยาวพิเศษ 2815 มิลลิเมตร และระยะต่ำสุดจากพื้นถึงตัวรถ 214 มิลลิเมตร รถรุ่นนี้ตั้งเป้าหมายในตลาด SUV ขนาดกลางที่มี Honda CR-V ครองตำแหน่งผู้นำอยู่แล้ว

ธนวัฒน์Jul 21, 2025
BYD SEALION 8 ลุ้นขายไทย-ออสเตรเลียปีหน้า!

BYD SEALION 8 ลุ้นขายไทย-ออสเตรเลียปีหน้า!

【PCauto】BYD SEALION 8 เตรียมบุกไทย-ออสซี่ปีหน้า! ใหญ่เทียบ Kluger พร้อมดีไซน์ล้ำยุคจาก Egger BYD SEALION 8 หรือ Tang L เวอร์ชันจีน เตรียมเปิดตัวไตรมาสแรกปี 2026 ในออสเตรเลีย และมีแผนรุกตลาดไทยพร้อมกัน จุดเด่นคือขนาดใหญ่กว่า Toyota Kluger ถึง 120 มม. กับตัวถังยาวกว่า 5 เมตร เบาะ 3 แถว 7 ที่นั่ง พร้อมขุมพลัง PHEV สองรุ่นย่อย และดีไซน์ “Loong Face” นำโดย Wolfgang Egger ไฟหน้า LED แยกส่วน-โลโก้ BYD เรืองแสง เสริมความพรีเมียมด้วยประตูไร้กรอบ ไฟท้าย “ปีกฟีนิกซ์” และหลังคาพาโนรามา ครบเครื่องทั้งความหรู

สุรเดชJul 22, 2025
Toyota bZ4X เปิดตัวแล้ว เมื่อเทียบกับ Xpeng G6 รุ่นใดคุ้มค่ากับการซื้อมากกว่ากัน

Toyota bZ4X เปิดตัวแล้ว เมื่อเทียบกับ Xpeng G6 รุ่นใดคุ้มค่ากับการซื้อมากกว่ากัน

【PCauto】Toyota bZ4X เปิดให้สั่งจองทางออนไลน์ในประเทศไทยเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม และภายในสามวันแรกมียอดสั่งจองถึง 1,000 คันรุ่นย่อยและราคาของรถรุ่นนี้แบ่งเป็น:ขับเคลื่อนล้อหน้า (FWD) ราคา 1,599,000 บาทและขับเคลื่อนสี่ล้อ (AWD) ราคา 1,699,000 บาทในฐานะรถ SUV ไฟฟ้าล้วนรุ่นแรกของ Toyota ที่ทำตลาดในประเทศไทย bZ4X นำเข้ามาขายโดยมาพร้อมแบตเตอรี่ลิเธียมขนาด 73.11 kWh ระยะทางวิ่งตามมาตรฐาน NEDC อยู่ที่ 600 กม. (FWD) และ 570 กม. (AWD)ในอีกฝั่งหนึ่ง XPeng G6 ก็ได้เปิดตัวรุ่นปรับปรุงใหม่:รุ่น Long Range ราคา

วิรุฬห์Aug 27, 2025
Xpeng P7 ฮอตแรง! เปิดจองแค่ 7 นาที ยอดสั่งทะลุ 10,000 คัน

Xpeng P7 ฮอตแรง! เปิดจองแค่ 7 นาที ยอดสั่งทะลุ 10,000 คัน

【PCauto】XPeng P7 ใหม่ เปิดพรีออเดอร์เพียง 6 นาที 37 วินาที ยอดจองทะลุ 10,000 คัน ทำลายสถิติเดิมของแบรนด์ มาพร้อมดีไซน์ XMART FACE ไฟหน้า-ไฟท้ายแบบ X Shape หลังคาลอย เสา A ซ่อน ขอบประตูไร้กรอบ และสปอยเลอร์ไฟฟ้าสร้างแรงกดสูงสุด 900 นิวตัน ค่าลากอากาศเพียง 0.198Cd ภายในล้ำสมัยด้วยจอ 3 ชุด และ AR-HUD ขนาด 87 นิ้ว คมชัดแม้แดดจ้า

ธนวัฒน์Aug 8, 2025
ดูเพิ่มเติม
  • รถยอดนิยม

  • เปรียบเทียบรถยนต์

  • รูปภาพรถ

  • ภาพภายใน

  • รุ่นปีรถยนต์

  • รุ่นรถยนต์