Honda ประกาศลดการลงทุนในรถยนต์ไฟฟ้าลงอย่างมาก ราวกับลืมไปว่าพึ่งเปิดตัว e:N1ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
วิรุฬห์May 21, 2025, 05:37 PM
【PCauto】เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2025 Hondaประกาศปรับกลยุทธ์ด้านรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ครั้งใหญ่ โดยลดงบวิจัยและพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าจากแผนเดิมที่ตั้งไว้ 10 ล้านล้านเยน เหลือ 7 ล้านล้านเยน
พร้อมกับปรับลดเป้าหมายยอดขายจากเดิมที่วางไว้กว่า 2 ล้านคันภายในปี 2030 เหลือเพียง 700,000 ถึง 750,000 คันเท่านั้น
ในด้านการก่อสร้างโรงงาน เดิมทีฮอนด้าวางแผนจะเปิดโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่ในแคนาดาภายในปี 2028 แต่ล่าสุดได้เลื่อนออกไปหลังปี 2030 และยังไม่ยืนยันว่าจะเดินหน้าลงทุนต่อหรือไม่ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ในอนาคต
สำหรับการปรับแผนในครั้งนี้ Hondaให้เหตุผลหลักไว้สองประการคือ:
หนึ่ง รัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การนำของทรัมป์อยู่ระหว่างการทบทวนนโยบายสนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งความไม่ชัดเจนของนโยบายนี้ส่งผลต่อการวางแผนเชิงกลยุทธ์ของฮอนด้าในระดับโลก
สอง ความต้องการรถยนต์ไฟฟ้าในตลาดโลกยังไม่เติบโตตามที่คาดไว้ อัตราการยอมรับของผู้บริโภคยังค่อนข้างช้า ทำให้ฮอนด้าเห็นว่าหากยังเดินหน้าลงทุนขนาดใหญ่ต่อไปอาจเผชิญความเสี่ยงสูง จึงตัดสินใจลดขนาดธุรกิจในส่วนนี้ลง
จากนี้ไป ฮอนด้าจะหันมาให้ความสำคัญกับรถยนต์ไฮบริดมากขึ้น โดยมองว่ารถยนต์ไฮบริดคือกุญแจสำคัญในการเปลี่ยนผ่านไปสู่ยุครถยนต์ไฟฟ้า ฮอนด้าวางแผนเปิดตัวรถยนต์ไฮบริดเจเนอเรชันใหม่ทั้งหมด 13 รุ่นทั่วโลกภายในช่วงสี่ปี เริ่มตั้งแต่ปี 2027 ตั้งเป้ายอดขายรถไฮบริดให้ได้ถึง 2.2 ล้านคันภายในปี 2030 ซึ่งจะช่วยผลักดันยอดขายรวมของรถยนต์ฮอนด้าให้ทะลุ 3.6 ล้านคัน จากระดับปัจจุบัน
พร้อมกันนี้ ฮอนด้ายังมีแผนลดต้นทุนการผลิตระบบขับเคลื่อนไฮบริด โดยตั้งเป้าให้ระบบรุ่นใหม่มีต้นทุนต่ำกว่ารุ่นปี 2018 มากกว่า 50% และต่ำกว่ารุ่นปี 2023 อย่างน้อย 30%
ในขณะประกาศปรับแผนธุรกิจครั้งใหญ่ Honda ดูเหมือนจะลืมไปเสียสนิทว่าเพิ่งเปิดตัว Honda e:N1 ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ไปไม่นาน — ที่ไทยเมื่อวันที่ 24 มีนาคม และในมาเลเซียเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม การปรับแผนเช่นนี้ย่อมกระทบต่อความเชื่อมั่นของตลาดที่มีต่อรถรุ่นดังกล่าวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ดูเหมือน Honda จะไม่มีเวลาหันกลับไปใส่ใจเรื่องนี้แล้ว
เมื่อ Honda ยอมรับความล้มเหลวในธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้า และตัดลดการลงทุนในด้านนี้ ก็เท่ากับว่า Honda e:N1 ไม่ใช่รถยนต์ที่มีขีดความสามารถในการแข่งขัน
ประสบการณ์ของ Honda ในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าเริ่มต้นจากประเทศจีน ราวปี 2020 ทั้งฮอนด้าและโตโยต้าต่างเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าที่พัฒนาจาก SUV ขนาดเล็กรุ่นเดิม โตโยต้าเปิดตัว C-HR EV ขณะที่ฮอนด้าใช้พื้นฐานจาก XR-V ในการพัฒนา M-NV อย่างไรก็ตาม ทั้งสองรุ่นล้มเหลวอย่างชัดเจน เนื่องจากการตั้งราคาที่สูงเกินไป
ต่อมาสิ่งที่ต่างออกไปคือ Toyota เลือกใช้ระบบ RCE (Regional Chief Engineer) ในจีน ให้วิศวกรท้องถิ่นเป็นผู้นำในการพัฒนารุ่นรถ
Honda นับตั้งแต่ปี 2020 ยังคงเดินหน้าพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าด้วยท่าทีที่แข็งกร้าว ไม่รับฟังเสียงของตลาด ตั้งแต่รุ่น M-NV ในช่วงเริ่มต้น ต่อเนื่องไปถึงซีรีส์ e:NP และ e:NS (ซึ่งก็คือ Honda e:N1) กระทั่งในปี 2024 ฮอนด้าเปิดตัวแบรนด์ย่อยพร้อมกับรถรุ่นใหม่สองรุ่นคือ Honda S7 และ P7 แต่ชื่อแบรนด์กลับสร้างความไม่พอใจให้กับผู้บริโภคในจีน ส่งผลให้ Honda ประสบความล้มเหลวในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าเป็นครั้งที่สามอย่างต่อเนื่อง
ในตลาดอเมริกาเหนือ AFEELA 1 ที่ฮอนด้าร่วมพัฒนากับโซนี ก็เผชิญเสียงวิจารณ์เช่นกัน ด้วยราคาสูงถึง 89,900 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 2,942,427 บาท) แต่กลับไม่ได้มาพร้อมเทคโนโลยีที่พลิกวงการอย่างที่คาดหวัง ไม่ว่าจะเป็นระยะทางวิ่งสูงสุด 483 กิโลเมตร (มาตรฐาน EPA), กำลังสูงสุด 490 แรงม้า เซนเซอร์รอบคันกว่า 40 ตัว ชิปขับขี่อัจฉริยะที่มีพลังประมวลผล 800 TOPS หรือจอภายในแบบยาวเต็มแผงคอนโซลจากซ้ายถึงขวา เมื่อพิจารณาจากสเปกรวมแล้ว ยังเทียบไม่ได้กับรถยนต์ไฟฟ้าจากจีนที่มีราคาประมาณ 2,300,000 บาทด้วยซ้ำ และที่สำคัญคือ AFEELA 1 ยังต้องรอถึงปีหน้าจึงจะสามารถรับรถได้
ในด้านเทคโนโลยีไฮบริด ทั้งระบบ i-MMD ของ Honda และระบบ DM-i ของ BYD ต่างก็ใช้โครงสร้างแบบไฮบริดสองมอเตอร์ที่สามารถทำงานได้ทั้งแบบอนุกรมและขนาน ทั้งสองระบบมีมอเตอร์ขับเคลื่อนเชื่อมต่อกับดิฟเฟอเรนเชียลโดยตรง เครื่องยนต์เชื่อมต่อกับเจนเนอเรเตอร์โดยตรง และสามารถเชื่อมต่อกับระบบขับเคลื่อนผ่านคลัตช์เพื่อส่งกำลังสู่ล้อได้โดยตรง ระบบสามารถรองรับโหมดการขับขี่ได้หลากหลาย ทั้งขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า อนุกรม และขนาน และยังรองรับการใช้งานร่วมกับระบบ PHEV ได้อย่างสะดวก
อย่างไรก็ตาม ยอดขายทั่วโลกของ BYD ในปี 2024 แตะถึง 4.27 ล้านคัน ขณะที่ฮอนด้าทำได้ 3.71 ล้านคัน ลดลง 9.6% เมื่อเทียบกับปีก่อน ในแง่การลดต้นทุน BYD ได้เปรียบทั้งจากขนาดยอดขายที่สร้างอานิสงส์ด้านต้นทุนต่อหน่วย และจากการที่บริษัทถือครองห่วงโซ่อุตสาหกรรมแบบครบวงจร ทำให้สามารถควบคุมต้นทุนได้ดีกว่า ช่องว่างที่เหลือให้ฮอนด้าลดต้นทุนด้านเทคโนโลยีไฮบริดจึงแทบไม่เหลือมากนัก
Honda เป็นผู้ผลิตรถยนต์ที่มีบุคลิกชัดเจน ด้วยความยึดมั่นในแนวทางของตัวเอง บริษัทสามารถก้าวข้ามความท้าทายทางเทคนิคมากมายได้ เอกสารวิจัยที่เผยแพร่โดย Honda R&D บนเว็บไซต์อย่างเป็นทางการ แสดงให้เห็นถึงขีดความสามารถด้านเทคโนโลยีที่น่าทึ่ง จนกล่าวได้ว่า Honda มีคุณสมบัติเหนือกว่า "นิสสันเจ้าพ่อเทคโนโลยี" ในการเป็นแบรนด์ที่พูดเรื่องเทคโนโลยีได้อย่างแท้จริง อย่างไรก็ตาม ความยึดมั่นนี้แม้จะผลักดันให้ Honda ก้าวหน้าในหลายด้าน แต่ก็กลายเป็นข้อจำกัดในบางจุดด้วย
คุณสามารถติดต่อเราให้ลบออกเนื้อหาถ้าละเมิดลิขสิทธิ์
ข้อมูลยอดนิยม

iCar V23 กำลังจะเปิดตัวในประเทศไทยเร็ว ๆ นี้ ราคาจะต่ำกว่า Jaecoo 6 EV
【PCauto】มีรายงานว่า หลังจากการเปิดตัว Jaecoo 6 EV แล้ว iCar V23 จาก Chery อาจเตรียมทำตลาดในประเทศไทยเช่นกัน โดย iCar V23 และ iCar 03 (หรือ Jaecoo 6 EV) ได้รับความสนใจอย่างมากจากดีไซน์ภายนอกที่ดูล้ำอนาคต จนมีข่าวลือว่าทีมออกแบบของรถทั้งสองรุ่นนี้ อาจเป็นทีมเดียวกับ Redmi แบรนด์ลูกของ Xiaomi สำหรับ iCar V23 มาพร้อมสไตล์การออกแบบทรงเหลี่ยมและดูแข็งแกร่ง ด้วยดีไซน์สไตล์ออฟโรดที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทำให้รุ่นนี้ตอบโจทย์ผู้ที่มองหาความแตกต่างและสมรรถนะในการลุยเส้นทางทุรกันดารได้เป็นอย่างดี

Toyota ประกาศเปิดตัว Corolla Cross รุ่นใหม่ ครั้งแรกที่เพิ่มระดับ GR SPORT
【PCauto】Toyota เปิดตัว Corolla Cross รุ่นใหม่ในยุโรปโดยยังคงเอกลักษณ์เดิมพร้อมปรับดีไซน์ภายนอกและภายในเล็กน้อย ด้านรูปลักษณ์ภายนอกมาพร้อมกระจังหน้าทรงรังผึ้งที่ช่วยเพิ่มความสวยงามและส่งเสริมการไหลเวียนอากาศเข้าสู่เครื่องยนต์อย่างมีประสิทธิภาพ รุ่นระดับสูงมาพร้อมเทคโนโลยีไฟสูงอัตโนมัติแบบปรับอัจฉริยะ AHS เพื่อให้มุมมองการขับขี่ชัดเจนในทุกสภาพถนน ไฟหน้าและไฟท้ายดีไซน์ใหม่โดดเด่นด้วยแถบไฟ LED ภายในโคมที่ให้แสงสว่างสม่ำเสมอทั่วทั้งพื้นที่เพิ่มความทันสมัยและภาพลักษณ์ระดับพรีเมียม

สรุปยอดจองรถมาแรงในงานมอเตอร์โชว์ 2025 รุ่นไหนฮอตที่สุด!
สรุปยอดจองรถมาแรงในงานมอเตอร์โชว์ 2025 รุ่นไหนฮอตที่สุด! จบกันไปแล้วสำหรับงาน Bangkok

เครื่องยนต์ใหม่และพื้นที่กว้างขวาง ทำไม Toyota Yaris ถึงกลายเป็นมาตรฐานของความคุ้มค่า?
【PCauto】Toyota Yaris เป็นหนึ่งในรถยนต์ที่ได้รับความน่าสนใจจากผู้บริโภคอย่างมาก ในฐานะรถรุ่นสำคัญของ Toyota Yaris เด่นด้วยการออกแบบภายนอกที่ทันสมัยและสวยงาม ลงตัวด้วยประสบการณ์การขับขี่ที่ยอดเยี่ยมและภายในที่เต็มไปด้วยคุณสมบัติที่สะดวกสบาย ในขณะนี้ Toyota Yaris ยังคงเป็นรุ่นที่มีการขายอย่างดี ด้วยการเลือกอะไรนักรือให้กับความต้องการของผู้ใช้ ในส่วนถัดไป เราจะนำเสนอรายละเอียดของโมเดลย่อยและราคาขาย เพื่อช่วยให้คุณมีข้อมูลเพิ่มเติมในการตัดสินใจซื้อรถรุ่นนี้ราคาของ Toyota YarisToyota Yaris มีทั้งหมด 4

Xpeng X9 รุ่นปี 2025 เปิดตัวในตลาดจีน เพิ่มสีใหม่และปรับปรุงพื้นที่แถวสอง
【PCauto】Xpeng X9 ในไทยและมาเลเซียเพิ่งเริ่มส่งมอบไม่นานนี้ ส่วนในจีนได้เปิดตัวรุ่นปี 2025 ออกมาแล้ว อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงของรุ่นใหม่ในจีนไม่ได้แตกต่างไปจากเดิมมากนัก คาดว่าจะไม่ทำให้ผู้ใช้ X9 รุ่นก่อนหน้านี้ผิดหวังมากนัก อีกทั้งทาง Xpeng ยังยืนยันหลายครั้งว่า X9 รุ่นเก่า ก็สามารถอัปเกรดภายหลังให้มีคุณสมบัติเทียบเท่ากับรุ่นใหม่ได้
รถยอดนิยม
เปรียบเทียบรถยนต์
รูปภาพรถ
ภาพภายใน