Q
Nissan GT-R เป็นรถที่วิ่งเร็วหรือไม่?
日产 GT-R เป็นรถที่เร็วมากๆ ด้วยเครื่องยนต์ 3.8L V6 เทอร์โบคู่ที่ให้พลังทำลายล้าง ทำให้มันเร่งได้แรงสยบทุกถนน บางเวอร์ชั่นสามารถทำ 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 2.7 วินาที และความเร็วสูงสุดพุ่งไปถึง 315 กม./ชม. แถมยังมีค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศต่ำเพียง 0.27 ช่วยลดแรงต้านเมื่อขับด้วยความเร็วสูง ทำให้พุ่งแรงกว่าเดิม
ประวัติศาสตร์ในวงการแข่งก็การันตีความเร็วของมัน เพราะรุ่นแรกเริ่มถูกพัฒนามาเพื่อลงสนามแข่งโดยเฉพาะ ส่วนราคาอยู่ที่ 10.7 ถึง 13.5 ล้านบาท ซึ่งก็สอดคล้องกับสเปคของซูเปอร์คาร์สมรรถนะสูง
GT-R ไม่เพียงให้ความมันส์กับความเร็ว แต่ยังใช้งานในชีวิตประจำวันได้จริงๆ เรียกได้ว่าเป็นซูเปอร์คาร์ที่ครบเครื่องจริงๆ!
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto
Q&A เกี่ยวข้อง
Q
GT-R และ GT-R Pro มีความแตกต่างอย่างไร
Nissan GT-R กับ GT-R Pro มีความแตกต่างกันหลัก ๆ ในด้านการปรับจูนสมรรถนะ การควบคุมการขับขี่ และความเหมาะสมในการใช้งานในสนามแข่ง แม้ทั้งสองรุ่นจะใช้เครื่องยนต์ V6 ทวินเทอร์โบ ขนาด 3.8 ลิตรเหมือนกัน แต่ GT-R Pro ได้รับการอัปเกรดช่วงล่างด้วยโช้กอัพ Bilstein แบบปรับค่าแรงหน่วงได้ ระบบเบรกเซรามิกคาร์บอน และชุดแอร์โรไดนามิกที่ดุดันยิ่งขึ้น เช่น สปอยเลอร์หน้า-หลัง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการขับขี่ระดับสูง ภายในห้องโดยสารยังมีการลดน้ำหนักโดยใช้วัสดุคาร์บอนไฟเบอร์มากขึ้น พร้อมเบาะนั่งสปอร์ตจาก Recaro เพื่อมอบประสบการณ์ขับขี่ที่มั่นคงในความเร็วสูง อย่างไรก็ตาม ความสะดวกสบายของ GT-R Pro จะน้อยกว่ารุ่นปกติ เนื่องจากเน้นสมรรถนะเป็นหลัก จึงเหมาะกับผู้ที่ต้องการรถสำหรับขับในสนามแข่งหรือขับขี่แบบเร้าใจ ขณะที่ GT-R รุ่นมาตรฐานจะเหมาะกับการขับใช้งานในชีวิตประจำวันและขับทางไกลได้สบายกว่า สำหรับผู้บริโภคในประเทศไทย หากคุณมองหารถสมรรถนะสูงที่ขับได้ทุกวัน GT-R รุ่นมาตรฐานคือทางเลือกที่ดี แต่ถ้าคุณเป็นสายสนามตัวจริง GT-R Pro จะตอบโจทย์ได้มากกว่า
Q
ความแตกต่างระหว่าง GT C และ GT-R คืออะไร
GT C และ GT-R เป็นรถสมรรถนะสูงจากคนละค่าย โดยมีจุดเด่นที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน GT-R จาก Nissan เป็นรถสปอร์ตระดับตำนานของญี่ปุ่น มาพร้อมเครื่องยนต์ V6 ขนาด 3.8 ลิตร ทวินเทอร์โบ ขับเคลื่อนสี่ล้อ เซตช่วงล่างแบบสนามแข่ง เน้นความแม่นยำในการควบคุม เหมาะกับคนที่ชอบขับขี่แบบดุดันและเน้นสมรรถนะล้วนๆ ส่วน GT C ซึ่งมักหมายถึง Mercedes-AMG GT C เป็นรถสปอร์ตจากฝั่งเยอรมันที่ผสานความแรงและความหรูหราเข้าไว้ด้วยกัน ใช้เครื่องยนต์ V8 ขนาด 4.0 ลิตร ทวินเทอร์โบ มีระบบช่วงล่างปรับได้ ดีไซน์หรู ภายในสบาย เหมาะกับการเดินทางไกลสไตล์ Grand Touring ในตลาดประเทศไทย GT-R ได้รับความนิยมในหมู่คนรักความเร็วและสนามแข่ง ขณะที่ AMG GT C เหมาะกับผู้ที่ต้องการรถสปอร์ตหรูที่ให้ทั้งสมรรถนะและความสะดวกสบาย ดังนั้นหากคุณชอบอารมณ์ดิบแบบรถญี่ปุ่น GT-R คือคำตอบ แต่หากคุณต้องการความหรูหราแบบเยอรมัน GT C ก็อาจเหมาะกว่า
Q
ความแตกต่างระหว่าง GT T และ GT-R คืออะไร
คุณอาจกำลังถามถึงความแตกต่างระหว่าง “GT-R T-spec” กับ “GT-R Premium Luxury” ราคาของ “GT-R T-spec” อยู่ที่ 12,200,000 บาท ส่วน “GT-R Premium Luxury” ราคา 10,700,000 บาท นอกจากราคาที่ต่างกันแล้ว ทั้งสองรุ่นมีสเปกหลักที่ใกล้เคียงกัน โดยใช้เครื่องยนต์ขนาด 3799 ซีซี ระบบส่งกำลัง และขนาดตัวถังเหมือนกัน คือ ความยาว 4710 มม. ความกว้าง 1895 มม. ความสูง 1370 มม. ฐานล้อ 2780 มม. มี 2 ประตู และ 4 ที่นั่ง อย่างไรก็ตาม “GT-R T-spec” อาจมาพร้อมกับอุปกรณ์ วัสดุ หรือการปรับแต่งที่เหนือระดับและเป็นเอกลักษณ์มากกว่า เพื่อสร้างความแตกต่างและเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้าได้มากขึ้น
Q
GT-R และ GT-R NISMO มีความแตกต่างกันอย่างไร
GT-R กับ GT-R NISMO มีความแตกต่างในหลายด้าน โดย GT-R NISMO เป็นรุ่นอัพเกรดของ GT-R ซึ่งพัฒนาโดยแผนกสมรรถนะสูงของนิสสัน ทำให้มีพละกำลังสูงกว่า GT-R รุ่นปกติ ด้วยการปรับแต่งเครื่องยนต์และระบบต่าง ๆ เพื่อให้กำลังขับเคลื่อนดียิ่งขึ้น ในด้านชุดแต่งตัวถัง GT-R NISMO ใช้วัสดุน้ำหนักเบา เช่น คาร์บอนไฟเบอร์ ช่วยลดน้ำหนักรถ ส่งผลให้ความเร็วและการควบคุมรถดีขึ้น โดยเฉพาะในการเร่งและเข้าโค้ง ส่วนระบบช่วงล่าง GT-R NISMO ติดตั้งช่วงล่างเวอร์ชันพรีเมียม สามารถรองรับสภาพถนนที่ซับซ้อนและการขับขี่ที่รุนแรงได้ดี ให้การหนุนรับและความมั่นคงสูงขณะขับด้วยความเร็วสูงหรือเข้าโค้งอย่างรวดเร็ว สรุปคือ GT-R NISMO เป็นการอัพเกรดแบบครบวงจรจาก GT-R เพื่อตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการสมรรถนะและประสบการณ์ขับขี่ที่เหนือชั้นกว่า
Q
Tesla มันเร็วกว่า GT-R หรือไม่
ไม่สามารถสรุปได้ง่าย ๆ ว่าเทสล่าจะเร็วกว่าหรือช้ากว่า GT-R เพราะประสิทธิภาพการเร่งความเร็วและความเร็วสูงสุดขึ้นอยู่กับแต่ละรุ่นของรถ GT-R เป็นรถสปอร์ตสมรรถนะสูงของนิสสัน ที่มักติดตั้งเครื่องยนต์ V6 3.8 ลิตร เทอร์โบคู่ มีสมรรถนะแรงม้าโดดเด่น เช่น บางรุ่นทำเวลาเร่ง 0-100 กม./ชม. ได้ประมาณ 2.7 วินาที และความเร็วสูงสุดถึง 315 กม./ชม. ขณะที่เทสล่ามีหลายรุ่น เช่น Model S P100D ที่ทำเวลาเร่ง 0-100 กม./ชม. ได้ราว 2.5 วินาที ซึ่งในด้านการเร่งความเร็ว อาจเร็วกว่าบางรุ่นของ GT-R แต่การเปรียบเทียบความเร็วยังขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น สภาพแวดล้อมการขับขี่ น้ำหนักบรรทุก และทักษะผู้ขับขี่ ดังนั้นในสถานการณ์และเงื่อนไขที่แตกต่างกัน สมรรถนะความเร็วของทั้งสองรถอาจแตกต่างกัน จึงไม่สามารถตัดสินได้ว่าเทสล่าจะเร็วกว่า GT-R เสมอไป
Q
GT-R วิ่งเร็วกว่า Supra หรือไม่
โดยทั่วไปแล้ว Nissan GT-R มักจะเร็วกว่ารถ Toyota Supra ในด้านสมรรถนะเครื่องยนต์ GT-R ติดตั้งเครื่องยนต์ V6 ขนาด 3.8 ลิตร เทอร์โบคู่ ให้กำลังสูงสุดถึง 555 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 632 นิวตันเมตร ขณะที่ Supra ใช้เครื่องยนต์ 6 สูบเรียง ขนาด 3.0 ลิตร เทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 340 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร ซึ่ง GT-R มีทั้งแรงม้าและแรงบิดที่สูงกว่า ในเรื่องของอัตราเร่ง GT-R ทำความเร็ว 0-100 กม./ชม. ได้ภายในประมาณ 2.7 วินาที ขณะที่ Supra ใช้เวลาประมาณ 4.1 วินาที ความเร็วสูงสุดของ GT-R อยู่ที่ราว 315 กม./ชม. ส่วน Supra อยู่ที่ประมาณ 250 กม./ชม. อย่างไรก็ตาม ในการขับขี่จริง ความเร็วยังขึ้นอยู่กับสภาพถนน เทคนิคการขับขี่ และปัจจัยอื่น ๆ นอกจากนี้ ทั้งสองรุ่นยังมีจุดเด่นในด้านการควบคุมและความปลอดภัยที่แตกต่างกัน จึงไม่สามารถตัดสินได้เพียงแค่ความเร็วว่าใครดีกว่ากันครับ
Q
GT-R มีเทอร์โบคู่หรือไม่
ใช่ครับ Nissan GT-R ติดตั้งระบบเทอร์โบคู่ เครื่องยนต์ V6 ขนาด 3.8 ลิตร รุ่น VR38DETT ซึ่งพัฒนามาจากเครื่องยนต์ VQ ของนิสสันที่ได้รับคำชื่นชมอย่างกว้างขวาง ระบบเทอร์โบคู่ช่วยให้เครื่องยนต์สามารถรีดกำลังสูงสุดได้ที่ 6400 รอบต่อนาที และให้แรงบิดสูงในช่วงรอบเครื่องยนต์ 3200 ถึง 6000 รอบต่อนาที เทคโนโลยีเทอร์โบคู่ช่วยเพิ่มสมรรถนะทั้งกำลังและแรงบิดของเครื่องยนต์ ส่งผลให้ GT-R มีสมรรถนะการเร่งความเร็วที่โดดเด่นและแรงขับเคลื่อนที่ทรงพลัง ไม่ว่าจะขับขี่ในชีวิตประจำวันหรือในสนามแข่ง ก็สามารถแสดงศักยภาพของรถสปอร์ตระดับสูงได้อย่างเต็มที่ มอบประสบการณ์การขับขี่ที่แตกต่างและเร้าใจแก่ผู้ขับขี่ครับ
Q
GT-R ดีต่อการใช้แก๊สหรือไม่
Nissan GT-R รถสปอร์ตสมรรถนะสูงรุ่นนี้แนะนำให้ใช้น้ำมันเบนซิน 95 หรือสูงกว่าเพื่อรับประกันสมรรถนะและความน่าเชื่อถือของเครื่องยนต์ แม้ว่าจะสามารถใช้น้ำมันเบนซิน 91 ได้ในระยะสั้น แต่เมื่อใช้งานในประเทศไทยระยะยาวควรเลือกใช้น้ำมันเบนซินที่มีเลขออกเทนสูงเพื่อป้องกันการน็อกของเครื่องยนต์และรักษาระบบเทอร์โบชาร์จเจอร์ ปั๊มน้ำมันในประเทศไทยโดยทั่วไปมีน้ำมันเบนซิน 95 เช่น PTT 95 หรือ Bangchak E20 Gasohol รวมทั้งน้ำมันแก๊สโซฮอล์และดีเซล แต่เครื่องยนต์เทอร์โบที่มีอัตราส่วนการอัดสูงของ GT-R ไม่เหมาะกับน้ำมัน E20 หรือดีเซล ดังนั้นควรเลือกใช้น้ำมันเบนซิน 95 หรือ 98 ที่บริสุทธิ์เพื่อลดผลกระทบจากเอทานอลต่อระบบเชื้อเพลิง หากต้องการเพิ่มสมรรถนะ บางอู่แต่งรถในไทยยังแนะนำให้น้ำมันเชื้อเพลิงสูตรแข่งหรือสารเติมแต่งเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการเผาไหม้ แต่ควรปฏิบัติตามคำแนะนำในคู่มือรถเพื่อให้รถมีประสิทธิภาพและเสถียรภาพในระยะยาว
Q
GT-R จะใช้งานได้นานเท่าไหร่
Nissan GT-R ไม่มีระยะเวลาการใช้งานที่แน่นอน เพราะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย รุ่นปัจจุบันคือรุ่น R35 ซึ่งเปิดตัวในปี 2007 และมีอายุการใช้งานประมาณ 17 ปีจนถึงปัจจุบัน โดย Nissan ยืนยันว่าการผลิตรุ่น R35 จะสิ้นสุดในเดือนตุลาคม 2024 หากใช้งานตามปกติและดูแลรักษาอย่างดี รถ GT-R สามารถใช้งานได้ประมาณ 10 ถึง 15 ปี เช่น การบำรุงรักษาตามระยะเวลาที่กำหนด เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องและไส้กรองอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงซ่อมแซมปัญหาเล็กน้อยที่เกิดขึ้นทันเวลา จะช่วยยืดอายุการใช้งานของรถได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ถ้าใช้งานในสภาพแวดล้อมที่เลวร้าย มีนิสัยการขับขี่ที่ไม่ดี และขาดการดูแลรักษาที่เหมาะสม อายุการใช้งานอาจลดลงอย่างมาก อาจเริ่มมีปัญหาและส่งผลต่อการใช้งานภายใน 5 ถึง 8 ปีเท่านั้น
Q
Nissan GT-R เป็นรถซูเปอร์คาร์หรือไม่
ใช่ครับ Nissan GT-R คือรถซูเปอร์คาร์รุ่นหนึ่งที่ผลิตโดย Nissan GT-R เป็นรถสปอร์ตสมรรถนะสูงที่มีความน่าเชื่อถือและมีกำลังแรงม้าสูง ซึ่งเดิมเป็นรุ่นท็อปของซีรีส์ Skyline RV ของ Nissan และปัจจุบันได้กลายเป็นรุ่นรถยนต์แยกต่างหาก GT-R ติดตั้งเครื่องยนต์ขนาด 3.8 ลิตรที่ให้กำลังแรงและแรงบิดสูง ช่วยให้เร่งความเร็วได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ยังมีสมรรถนะการควบคุมที่ยอดเยี่ยม ด้วยจุดศูนย์ถ่วงต่ำและระบบช่วงล่างที่ปรับแต่งอย่างดีเยี่ยม ทำให้มีความมั่นคงขณะเข้าโค้ง การออกแบบอากาศพลศาสตร์ช่วยให้รูปลักษณ์ดุดันและเพิ่มประสิทธิภาพการขับขี่ด้วยความเร็วสูง GT-R ได้ฝากผลงานที่โดดเด่นในวงการแข่งรถและได้รับความนิยมอย่างสูงในกลุ่มผู้ชื่นชอบรถยนต์ ยืนยันตำแหน่งซูเปอร์คาร์ของมันอย่างมั่นคง
Q&A ล่าสุด
Q
นเปิดตัวของ BYD Dolphin คือเมื่อไหร่
BYD Dolphin เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2023 ที่งาน Bangkok International Motor Show 2023 โดยมีการปรับตำแหน่งพวงมาลัยเป็นแบบพวงมาลัยขวา และแก้ไขรายละเอียดบางส่วนของดีไซน์ภายนอก ในวันที่ 6 กรกฎาคม 2023 ได้เปิดตัวรุ่น BYD DOLPHIN เวอร์ชันระยะทางไกล ซึ่งพัฒนาบนแพลตฟอร์มรถยนต์ไฟฟ้าเฉพาะของ BYD คือ e-Platform 3.0 พร้อมแบตเตอรี่ใบมีดที่มีความปลอดภัยสูง ระบบช่วยขับขี่อัจฉริยะ และระบบเบรกพลังงานอัจฉริยะ ในปี 2023 BYD Dolphin ทำยอดขายในไทยได้ดี โดยมียอดจำหน่าย 9,410 คัน ครองอันดับ 3 ในรถยนต์ไฟฟ้ายอดนิยมสิบอันดับแรก ด้วยดีไซน์ที่ทันสมัย พื้นที่ภายในกว้างขวาง สมรรถนะน่าเชื่อถือ และฟังก์ชันอัจฉริยะมากมาย ทำให้ได้รับความนิยมและเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้บริโภคในไทยที่ต้องการรถไฟฟ้าคุณภาพสูง
Q
วันเปิดตัว BYD Dolphin คือเมื่อไหร่
BYD Dolphin ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 21 มีนาคม 2023 ที่งาน Bangkok International Motor Show 2023 โดยมีการปรับเปลี่ยนตำแหน่งพวงมาลัยเป็นแบบพวงมาลัยขวา และปรับแต่งรายละเอียดบางส่วนของดีไซน์ภายนอกเพิ่มเติม ต่อมาในวันที่ 6 กรกฎาคม 2023 ได้เปิดตัวรุ่น BYD DOLPHIN เวอร์ชันระยะทางไกล ซึ่งสร้างบนแพลตฟอร์มรถยนต์ไฟฟ้าเฉพาะของ BYD คือ e-Platform 3.0 พร้อมแบตเตอรี่ใบมีดที่มีความปลอดภัยสูง ระบบช่วยขับขี่อัจฉริยะ และระบบเบรกพลังงานอัจฉริยะ ในปี 2023 BYD Dolphin ทำยอดขายได้ดีในตลาดไทย โดยมียอดจำหน่ายถึง 9,410 คัน ครองอันดับ 3 ในรถยนต์ไฟฟ้ายอดนิยมสิบอันดับแรกของประเทศไทย ด้วยจุดเด่นด้านดีไซน์ที่ทันสมัย, พื้นที่โดยสารที่กว้างขวาง, สมรรถนะที่เชื่อถือได้ และฟังก์ชันอัจฉริยะต่าง ๆ ทำให้ BYD Dolphin ได้รับความนิยมและเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้บริโภคที่ต้องการรถยนต์ไฟฟ้าคุณภาพในประเทศไทย
Q
ความยาวของ BYD Dolphin คือเท่าไหร่?
BYD Dolphin มีความยาวตัวรถ 4,290 มิลลิเมตร ซึ่งขนาดนี้เหมาะอย่างยิ่งกับการขับขี่ในเมืองของประเทศไทย เพราะนอกจากจะให้พื้นที่โดยสารภายในที่กว้างขวาง (ฐานล้อยาวถึง 2,700 มิลลิเมตร) แล้ว ยังสามารถรับมือกับถนนแคบและที่จอดรถที่คับแคบในเมืองใหญ่ เช่น กรุงเทพมหานคร ได้อย่างง่ายดาย เมื่อเทียบกับรถยนต์ซีดานขนาดกะทัดรัดยอดนิยมอย่าง Honda City แล้ว BYD Dolphin มีขนาดใกล้เคียงกัน แต่ด้วยข้อได้เปรียบจากแพลตฟอร์มรถยนต์ไฟฟ้า ทำให้การใช้พื้นที่ภายในมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเฉพาะพื้นที่วางขาเบาะหลังที่กว้างกว่ารถยนต์น้ำมันในขนาดเดียวกัน สำหรับผู้บริโภคในไทย ความยาวราว 4.3 เมตรนี้เหมาะกับการใช้งานในครอบครัวทั่วไป และไม่รู้สึกเกะกะในสภาพการจราจรที่แออัด อีกทั้งรัศมีวงเลี้ยวแคบเพียง 3.3 เมตร ช่วยให้เคลื่อนตัวได้คล่องตัวในซอยเล็กหรือที่จอดรถขนาดเล็กซึ่งพบได้บ่อยในไทย นอกจากนี้ ยังมีพื้นที่เก็บสัมภาระท้ายรถขนาด 345 ลิตร ที่เพียงพอสำหรับการช็อปปิ้งหรือเดินทางระยะสั้น เมื่อเทียบกับรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นอื่นในตลาดไทย BYD Dolphin ถือว่าทำได้ดีทั้งในแง่ของการใช้พื้นที่และความคล่องตัวในเมือง
Q
ขนาดแบตเตอรี่ของ BYD Dolphin คืออะไร
BYD Dolphin มีหลายรุ่น โดยความจุแบตเตอรี่แตกต่างกัน รุ่น Standard มาพร้อมแบตเตอรี่ความจุ 44.9 กิโลวัตต์ชั่วโมง ใช้มอเตอร์ซิงโครนัสแม่เหล็กถาวรที่มีกำลังสูงสุด 70 กิโลวัตต์ และแรงบิดสูงสุด 180 นิวตันเมตร ระยะทางวิ่งไฟฟ้าบริสุทธิ์ตามมาตรฐานของทางการอยู่ที่ 410 กิโลเมตร รุ่น Extended มีแบตเตอรี่ความจุ 60.48 กิโลวัตต์ชั่วโมง มอเตอร์มีกำลังสูงสุดเพิ่มเป็น 204 กิโลวัตต์ และแรงบิดรวม 310 นิวตันเมตร ระยะทางวิ่งไฟฟ้าบริสุทธิ์สูงสุด 490 กิโลเมตร แบตเตอรี่ทั้งสองรุ่นเป็นแบบลิเธียมเหล็กฟอสเฟตที่มีความปลอดภัยสูงและอายุการใช้งานยาวนาน ความจุแบตเตอรี่ที่แตกต่างกันควบคู่กับมอเตอร์ที่มีกำลังต่างกันนี้ช่วยตอบสนองความต้องการเรื่องระยะทางวิ่งและสมรรถนะของผู้บริโภคที่หลากหลาย ผู้ซื้อสามารถเลือกได้ตามระยะทางเดินทางในชีวิตประจำวันและความต้องการด้านพลังงานของตนเอง
Q
ราคาของบริการ BYD Dolphin คืออะไร? ดูที่นี่ก่อนเพื่อรับข้อมูลรายละเอียด
คำถามและคำตอบนี้ยกเลิกแล้ว ไม่ต้องแปลหรือนำขึ้นแสดง
ดูเพิ่มเติมข่าวที่เกี่ยวข้อง

Nissan รุ่นต่อไปของ GT-R จะใช้ระบบพลังงานผสม ภายใน 3-5 ปีจะเข้าตลาด
ธนวัฒน์Apr 23, 2025

Nissan ปิดการสั่งซื้อ GT-R R35 รถแข่งญี่ปุ่นกำลังสูญเสียในยุคของรถยนต์ไฟฟ้า
สุรเดชMar 5, 2025

การกลับมาของรุ่นคลาสสิค: นิสสัน GTR T-Spec เปิดตัวในมหกรรมยานยนต์ในกรุงเทพฯ
AshleyMar 20, 2024

Nissan Almera มอบส่วนลดพิเศษ 90,000 บาท โดยมีราคาต่ำสุดเพียง 499,000 บาท
LienJun 11, 2025

NISSAN X-Trail e-POWER จะเปิดตัวในประเทศไทยภายในสิ้นปี 2025
วิรุฬห์Jun 6, 2025
ดูเพิ่มเติม
ข้อดี
ข้อเสีย