Q

Nissan GTR R35 ใช้เครื่องยนต์อะไร?

Nissan GT-R 35 ติดตั้งเครื่องยนต์รหัส VR38DETT ขนาด 3.8 ลิตร วี6 เทอร์โบชาร์จคู่ ที่นอกจากจะใช้บล็อกและหัวสูบอลูมิเนียมน้ำหนักเบาแล้ว ยังมาพร้อมระบบ DOHC ที่ช่วยให้เครื่องยนต์นี้สามารถผลิตกำลังสูงสุดได้ถึง 565 แรงม้า (รุ่นหลังๆ เพิ่มขึ้นไปเกิน 600 แรงม้า) และแรงบิดสูงสุด 633 นิวตัน-เมตร คู่กับเกียร์คลัทช์คู่ 6 สปีดและระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ ATTESA E-TS ที่ทำให้มันแสดงศักยภาพได้เต็มที่แม้ในสภาพอากาศร้อนของไทย จุดเด่นของ VR38DETT คือเทคโนโลยีพลาสมาสเปรย์ที่ผนังสูบ ช่วยลดแรงเสียดทานและเพิ่มความทนทาน เหมาะสมทั้งขับลุยทางเขาของไทยหรือติดอยู่ในรถติดในเมือง ในตลาดไทย GT-R R35 เป็นที่นิยมในหมู่คนรักรถสปอร์ตเพราะความแรงที่เร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 2.7 วินาที และค่าบำรุงรักษาที่ถูกกว่ารถซูเปอร์คาร์ระดับเดียวกัน ร้านแต่งหลายแห่งในไทยมักอัพเกรดด้วยการปรับ ECU และระบบไอดี-ไอเสียเพื่อเพิ่มแรงม้าอีกหน่อย แต่อย่าลืมว่าในสภาพอากาศร้อนแบบไทย ควรตรวจสอบระบบระบายความร้อนและสภาพเทอร์โบเป็นประจำเพื่อให้เครื่องยนต์ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพตลอดเวลา
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto

Q&A เกี่ยวข้อง

Q
GT-R และ GT-R Pro มีความแตกต่างอย่างไร
Nissan GT-R กับ GT-R Pro มีความแตกต่างกันหลัก ๆ ในด้านการปรับจูนสมรรถนะ การควบคุมการขับขี่ และความเหมาะสมในการใช้งานในสนามแข่ง แม้ทั้งสองรุ่นจะใช้เครื่องยนต์ V6 ทวินเทอร์โบ ขนาด 3.8 ลิตรเหมือนกัน แต่ GT-R Pro ได้รับการอัปเกรดช่วงล่างด้วยโช้กอัพ Bilstein แบบปรับค่าแรงหน่วงได้ ระบบเบรกเซรามิกคาร์บอน และชุดแอร์โรไดนามิกที่ดุดันยิ่งขึ้น เช่น สปอยเลอร์หน้า-หลัง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการขับขี่ระดับสูง ภายในห้องโดยสารยังมีการลดน้ำหนักโดยใช้วัสดุคาร์บอนไฟเบอร์มากขึ้น พร้อมเบาะนั่งสปอร์ตจาก Recaro เพื่อมอบประสบการณ์ขับขี่ที่มั่นคงในความเร็วสูง อย่างไรก็ตาม ความสะดวกสบายของ GT-R Pro จะน้อยกว่ารุ่นปกติ เนื่องจากเน้นสมรรถนะเป็นหลัก จึงเหมาะกับผู้ที่ต้องการรถสำหรับขับในสนามแข่งหรือขับขี่แบบเร้าใจ ขณะที่ GT-R รุ่นมาตรฐานจะเหมาะกับการขับใช้งานในชีวิตประจำวันและขับทางไกลได้สบายกว่า สำหรับผู้บริโภคในประเทศไทย หากคุณมองหารถสมรรถนะสูงที่ขับได้ทุกวัน GT-R รุ่นมาตรฐานคือทางเลือกที่ดี แต่ถ้าคุณเป็นสายสนามตัวจริง GT-R Pro จะตอบโจทย์ได้มากกว่า
Q
ความแตกต่างระหว่าง GT C และ GT-R คืออะไร
GT C และ GT-R เป็นรถสมรรถนะสูงจากคนละค่าย โดยมีจุดเด่นที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน GT-R จาก Nissan เป็นรถสปอร์ตระดับตำนานของญี่ปุ่น มาพร้อมเครื่องยนต์ V6 ขนาด 3.8 ลิตร ทวินเทอร์โบ ขับเคลื่อนสี่ล้อ เซตช่วงล่างแบบสนามแข่ง เน้นความแม่นยำในการควบคุม เหมาะกับคนที่ชอบขับขี่แบบดุดันและเน้นสมรรถนะล้วนๆ ส่วน GT C ซึ่งมักหมายถึง Mercedes-AMG GT C เป็นรถสปอร์ตจากฝั่งเยอรมันที่ผสานความแรงและความหรูหราเข้าไว้ด้วยกัน ใช้เครื่องยนต์ V8 ขนาด 4.0 ลิตร ทวินเทอร์โบ มีระบบช่วงล่างปรับได้ ดีไซน์หรู ภายในสบาย เหมาะกับการเดินทางไกลสไตล์ Grand Touring ในตลาดประเทศไทย GT-R ได้รับความนิยมในหมู่คนรักความเร็วและสนามแข่ง ขณะที่ AMG GT C เหมาะกับผู้ที่ต้องการรถสปอร์ตหรูที่ให้ทั้งสมรรถนะและความสะดวกสบาย ดังนั้นหากคุณชอบอารมณ์ดิบแบบรถญี่ปุ่น GT-R คือคำตอบ แต่หากคุณต้องการความหรูหราแบบเยอรมัน GT C ก็อาจเหมาะกว่า
Q
ความแตกต่างระหว่าง GT T และ GT-R คืออะไร
คุณอาจกำลังถามถึงความแตกต่างระหว่าง “GT-R T-spec” กับ “GT-R Premium Luxury” ราคาของ “GT-R T-spec” อยู่ที่ 12,200,000 บาท ส่วน “GT-R Premium Luxury” ราคา 10,700,000 บาท นอกจากราคาที่ต่างกันแล้ว ทั้งสองรุ่นมีสเปกหลักที่ใกล้เคียงกัน โดยใช้เครื่องยนต์ขนาด 3799 ซีซี ระบบส่งกำลัง และขนาดตัวถังเหมือนกัน คือ ความยาว 4710 มม. ความกว้าง 1895 มม. ความสูง 1370 มม. ฐานล้อ 2780 มม. มี 2 ประตู และ 4 ที่นั่ง อย่างไรก็ตาม “GT-R T-spec” อาจมาพร้อมกับอุปกรณ์ วัสดุ หรือการปรับแต่งที่เหนือระดับและเป็นเอกลักษณ์มากกว่า เพื่อสร้างความแตกต่างและเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้าได้มากขึ้น
Q
GT-R และ GT-R NISMO มีความแตกต่างกันอย่างไร
GT-R กับ GT-R NISMO มีความแตกต่างในหลายด้าน โดย GT-R NISMO เป็นรุ่นอัพเกรดของ GT-R ซึ่งพัฒนาโดยแผนกสมรรถนะสูงของนิสสัน ทำให้มีพละกำลังสูงกว่า GT-R รุ่นปกติ ด้วยการปรับแต่งเครื่องยนต์และระบบต่าง ๆ เพื่อให้กำลังขับเคลื่อนดียิ่งขึ้น ในด้านชุดแต่งตัวถัง GT-R NISMO ใช้วัสดุน้ำหนักเบา เช่น คาร์บอนไฟเบอร์ ช่วยลดน้ำหนักรถ ส่งผลให้ความเร็วและการควบคุมรถดีขึ้น โดยเฉพาะในการเร่งและเข้าโค้ง ส่วนระบบช่วงล่าง GT-R NISMO ติดตั้งช่วงล่างเวอร์ชันพรีเมียม สามารถรองรับสภาพถนนที่ซับซ้อนและการขับขี่ที่รุนแรงได้ดี ให้การหนุนรับและความมั่นคงสูงขณะขับด้วยความเร็วสูงหรือเข้าโค้งอย่างรวดเร็ว สรุปคือ GT-R NISMO เป็นการอัพเกรดแบบครบวงจรจาก GT-R เพื่อตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการสมรรถนะและประสบการณ์ขับขี่ที่เหนือชั้นกว่า
Q
Tesla มันเร็วกว่า GT-R หรือไม่
ไม่สามารถสรุปได้ง่าย ๆ ว่าเทสล่าจะเร็วกว่าหรือช้ากว่า GT-R เพราะประสิทธิภาพการเร่งความเร็วและความเร็วสูงสุดขึ้นอยู่กับแต่ละรุ่นของรถ GT-R เป็นรถสปอร์ตสมรรถนะสูงของนิสสัน ที่มักติดตั้งเครื่องยนต์ V6 3.8 ลิตร เทอร์โบคู่ มีสมรรถนะแรงม้าโดดเด่น เช่น บางรุ่นทำเวลาเร่ง 0-100 กม./ชม. ได้ประมาณ 2.7 วินาที และความเร็วสูงสุดถึง 315 กม./ชม. ขณะที่เทสล่ามีหลายรุ่น เช่น Model S P100D ที่ทำเวลาเร่ง 0-100 กม./ชม. ได้ราว 2.5 วินาที ซึ่งในด้านการเร่งความเร็ว อาจเร็วกว่าบางรุ่นของ GT-R แต่การเปรียบเทียบความเร็วยังขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น สภาพแวดล้อมการขับขี่ น้ำหนักบรรทุก และทักษะผู้ขับขี่ ดังนั้นในสถานการณ์และเงื่อนไขที่แตกต่างกัน สมรรถนะความเร็วของทั้งสองรถอาจแตกต่างกัน จึงไม่สามารถตัดสินได้ว่าเทสล่าจะเร็วกว่า GT-R เสมอไป
Q
GT-R วิ่งเร็วกว่า Supra หรือไม่
โดยทั่วไปแล้ว Nissan GT-R มักจะเร็วกว่ารถ Toyota Supra ในด้านสมรรถนะเครื่องยนต์ GT-R ติดตั้งเครื่องยนต์ V6 ขนาด 3.8 ลิตร เทอร์โบคู่ ให้กำลังสูงสุดถึง 555 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 632 นิวตันเมตร ขณะที่ Supra ใช้เครื่องยนต์ 6 สูบเรียง ขนาด 3.0 ลิตร เทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 340 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร ซึ่ง GT-R มีทั้งแรงม้าและแรงบิดที่สูงกว่า ในเรื่องของอัตราเร่ง GT-R ทำความเร็ว 0-100 กม./ชม. ได้ภายในประมาณ 2.7 วินาที ขณะที่ Supra ใช้เวลาประมาณ 4.1 วินาที ความเร็วสูงสุดของ GT-R อยู่ที่ราว 315 กม./ชม. ส่วน Supra อยู่ที่ประมาณ 250 กม./ชม. อย่างไรก็ตาม ในการขับขี่จริง ความเร็วยังขึ้นอยู่กับสภาพถนน เทคนิคการขับขี่ และปัจจัยอื่น ๆ นอกจากนี้ ทั้งสองรุ่นยังมีจุดเด่นในด้านการควบคุมและความปลอดภัยที่แตกต่างกัน จึงไม่สามารถตัดสินได้เพียงแค่ความเร็วว่าใครดีกว่ากันครับ
Q
GT-R มีเทอร์โบคู่หรือไม่
ใช่ครับ Nissan GT-R ติดตั้งระบบเทอร์โบคู่ เครื่องยนต์ V6 ขนาด 3.8 ลิตร รุ่น VR38DETT ซึ่งพัฒนามาจากเครื่องยนต์ VQ ของนิสสันที่ได้รับคำชื่นชมอย่างกว้างขวาง ระบบเทอร์โบคู่ช่วยให้เครื่องยนต์สามารถรีดกำลังสูงสุดได้ที่ 6400 รอบต่อนาที และให้แรงบิดสูงในช่วงรอบเครื่องยนต์ 3200 ถึง 6000 รอบต่อนาที เทคโนโลยีเทอร์โบคู่ช่วยเพิ่มสมรรถนะทั้งกำลังและแรงบิดของเครื่องยนต์ ส่งผลให้ GT-R มีสมรรถนะการเร่งความเร็วที่โดดเด่นและแรงขับเคลื่อนที่ทรงพลัง ไม่ว่าจะขับขี่ในชีวิตประจำวันหรือในสนามแข่ง ก็สามารถแสดงศักยภาพของรถสปอร์ตระดับสูงได้อย่างเต็มที่ มอบประสบการณ์การขับขี่ที่แตกต่างและเร้าใจแก่ผู้ขับขี่ครับ
Q
GT-R ดีต่อการใช้แก๊สหรือไม่
Nissan GT-R รถสปอร์ตสมรรถนะสูงรุ่นนี้แนะนำให้ใช้น้ำมันเบนซิน 95 หรือสูงกว่าเพื่อรับประกันสมรรถนะและความน่าเชื่อถือของเครื่องยนต์ แม้ว่าจะสามารถใช้น้ำมันเบนซิน 91 ได้ในระยะสั้น แต่เมื่อใช้งานในประเทศไทยระยะยาวควรเลือกใช้น้ำมันเบนซินที่มีเลขออกเทนสูงเพื่อป้องกันการน็อกของเครื่องยนต์และรักษาระบบเทอร์โบชาร์จเจอร์ ปั๊มน้ำมันในประเทศไทยโดยทั่วไปมีน้ำมันเบนซิน 95 เช่น PTT 95 หรือ Bangchak E20 Gasohol รวมทั้งน้ำมันแก๊สโซฮอล์และดีเซล แต่เครื่องยนต์เทอร์โบที่มีอัตราส่วนการอัดสูงของ GT-R ไม่เหมาะกับน้ำมัน E20 หรือดีเซล ดังนั้นควรเลือกใช้น้ำมันเบนซิน 95 หรือ 98 ที่บริสุทธิ์เพื่อลดผลกระทบจากเอทานอลต่อระบบเชื้อเพลิง หากต้องการเพิ่มสมรรถนะ บางอู่แต่งรถในไทยยังแนะนำให้น้ำมันเชื้อเพลิงสูตรแข่งหรือสารเติมแต่งเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการเผาไหม้ แต่ควรปฏิบัติตามคำแนะนำในคู่มือรถเพื่อให้รถมีประสิทธิภาพและเสถียรภาพในระยะยาว
Q
GT-R จะใช้งานได้นานเท่าไหร่
Nissan GT-R ไม่มีระยะเวลาการใช้งานที่แน่นอน เพราะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย รุ่นปัจจุบันคือรุ่น R35 ซึ่งเปิดตัวในปี 2007 และมีอายุการใช้งานประมาณ 17 ปีจนถึงปัจจุบัน โดย Nissan ยืนยันว่าการผลิตรุ่น R35 จะสิ้นสุดในเดือนตุลาคม 2024 หากใช้งานตามปกติและดูแลรักษาอย่างดี รถ GT-R สามารถใช้งานได้ประมาณ 10 ถึง 15 ปี เช่น การบำรุงรักษาตามระยะเวลาที่กำหนด เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องและไส้กรองอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงซ่อมแซมปัญหาเล็กน้อยที่เกิดขึ้นทันเวลา จะช่วยยืดอายุการใช้งานของรถได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ถ้าใช้งานในสภาพแวดล้อมที่เลวร้าย มีนิสัยการขับขี่ที่ไม่ดี และขาดการดูแลรักษาที่เหมาะสม อายุการใช้งานอาจลดลงอย่างมาก อาจเริ่มมีปัญหาและส่งผลต่อการใช้งานภายใน 5 ถึง 8 ปีเท่านั้น
Q
Nissan GT-R เป็นรถซูเปอร์คาร์หรือไม่
ใช่ครับ Nissan GT-R คือรถซูเปอร์คาร์รุ่นหนึ่งที่ผลิตโดย Nissan GT-R เป็นรถสปอร์ตสมรรถนะสูงที่มีความน่าเชื่อถือและมีกำลังแรงม้าสูง ซึ่งเดิมเป็นรุ่นท็อปของซีรีส์ Skyline RV ของ Nissan และปัจจุบันได้กลายเป็นรุ่นรถยนต์แยกต่างหาก GT-R ติดตั้งเครื่องยนต์ขนาด 3.8 ลิตรที่ให้กำลังแรงและแรงบิดสูง ช่วยให้เร่งความเร็วได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ยังมีสมรรถนะการควบคุมที่ยอดเยี่ยม ด้วยจุดศูนย์ถ่วงต่ำและระบบช่วงล่างที่ปรับแต่งอย่างดีเยี่ยม ทำให้มีความมั่นคงขณะเข้าโค้ง การออกแบบอากาศพลศาสตร์ช่วยให้รูปลักษณ์ดุดันและเพิ่มประสิทธิภาพการขับขี่ด้วยความเร็วสูง GT-R ได้ฝากผลงานที่โดดเด่นในวงการแข่งรถและได้รับความนิยมอย่างสูงในกลุ่มผู้ชื่นชอบรถยนต์ ยืนยันตำแหน่งซูเปอร์คาร์ของมันอย่างมั่นคง

ข้อดี

หน้าตาหล่อและมีอิทธิพล มีกระจกไซส์ใหญ่ ไฟหน้าและไฟหมอกแบบกีฬาฯ ล้อกีฬาขนาด 20 นิ้วสีดำ ท่อไอเสียสังกะสีที่สามารถปรับเสียงได้ 4 ท่อ และแถบ V-motion
อินเทอริอร์ที่หรูหราและสบาย อุปกรณ์ชั่นใหม่ แผงระบบบังคับด้วยมือสัมผัสที่ห่อด้วยหนัง แผงควบคุมใหม่ แผงควบคุมแคร์บอนไมโครติค ที่นั่งหนังที่ปรับไฟฟ้า ปุ่มกำลังไหมพรมใหม่และการเปลี่ยนเกียร์
เครื่องยนต์ที่แรงกว่า 3.8 ลิตร V6 เทคโนโลยีดับเบิลชาร์จท์ เทอร์โบ 24 วาล์ว กำลังสูงสุด 555 ม้า สูงสุดขอภาพยนต์ 632 นิวตันเมตร ระบบเกียร์ 6 ระดับ ดับเบิลคลัทช์ อัตราการเร่งที่รวดเร็ว ความเร็วในช่วงกลางและปลายที่คล่องแคล่ว สามารถเร็วถึง 200 กิโลเมตร/ชั่วโมง ด้วยความทนทานของรถ
ชุดล่างที่แข็งแรง ไฟรอง หน้าเป็นแผ่นสองชั้น และมัลติลิงค์ท้าย ร่วมกับล้อขนาด 20 นิ้วและยางรถยนต์ที่ค่อนข้างใหม่ มีพลังจับแน่น

ข้อเสีย

ราคาสูง นำเข้ารถทั้งคัน ภาษีสูง ราคารถเองก็สูง
ค่าซ่อมบำรุงสูง ค่าตรวจซ่อมศูนย์ใช้หน่วยพันเป็นหลัก มากกว่ารถธรรมดา
มาตรฐานพลังงานของประเทศไทยต่ำกว่าประเทศอื่นๆ เนื่องจากต้องปรับตัวเข้ากับน้ำมันแก๊ส 95 ของประเทศไทย กำลังได้รับการขับเคลื่อนในประเทศไทยเป็น 555 แรงม้า ส่วนต่างประเทศเป็น 570 แรงม้า
เมื่อเปรียบเทียบกับแบรนด์รถซูเปอร์คาร์อื่นๆ การออกแบบมีความแตกต่าง โดยเฉพาะที่เส้นหน้าและรายละเอียดของตัวรถ

Q&A ล่าสุด

Q
KIA Carnival รุ่น 2024 มีกี่ที่นั่ง
รถยนต์ KIA Carnival รุ่นปี 2024 ในตลาดไทยมีให้เลือกทั้งแบบ 7 ที่นั่ง 8 ที่นั่ง และ 11 ที่นั่ง เพื่อตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลายของครอบครัวไทย โดยรุ่น 7 ที่นั่งมาในรูปแบบการจัดวาง 2+2+3 เหมาะสำหรับครอบครัวที่เน้นความสบายเป็นหลัก ส่วนรุ่น 8 ที่นั่งแบบ 2+3+3 ให้ความยืดหยุ่นทั้งเรื่องการขนผู้โดยสารและพื้นที่เก็บของ ในขณะที่รุ่น 11 ที่นั่งเหมาะสำหรับผู้ใช้เชิงพาณิชย์ที่ต้องรับส่งกลุ่มผู้โดยสารบ่อยๆ ตัวรถมาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซล CRDi 2.2 ลิตร ที่ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพแม้ในสภาพอากาศร้อนของไทย และด้วยระยะฐานล้อ 3,090 มม. ที่ช่วยให้ผู้โดยสารแถวหลังมีพื้นที่ขาเพียงพอ ที่น่าสนใจคือระบบเตือนผู้โดยสารด้านหลังซึ่งเป็นฟีเจอร์สำคัญเวลาจอดในพื้นที่แออัดอย่างในกรุงเทพฯ นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชั่นประตูสไลด์ป้องกันการกดทับ ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ครอบครัวใหญ่แบบไทยๆ โดยผู้ซื้อสามารถเลือกรุ่นที่ตรงกับความต้องการได้ตามไลฟ์สไตล์การใช้งาน
Q
วิธีสตาร์ทรีโมท Kia Carnival
ก่อนที่จะใช้งานระบบสตาร์ทรถจากระยะไกล Kia Carnival คุณต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่ารถของคุณมีกุญแจอัจฉริยะและฟังก์ชันสตาร์ทรถระยะไกล ซึ่งโดยปกติแล้วจะพบในรุ่นท็อปของตลาดไทย วิธีการใช้งานคือกดปุ่มล็อกรถบนกุญแจก่อน แล้วตามด้วยการกดปุ่มสตาร์ทรถระยะไกล (มักเป็นสัญลักษณ์ลูกศรวงกลม) ค้างไว้ประมาณ 2-3 วินาที จนไฟเลี้ยวของรถกระพริบและเครื่องยนต์เริ่มทำงาน ในสภาพอากาศร้อนของไทย ฟีเจอร์นี้ช่วยให้คุณสามารถเปิดแอร์ล่วงหน้าเพื่อคลายความร้อนได้ สิ่งที่ควรทราบคือหลังจากสตาร์ทรถระยะไกลแล้ว รถจะยังคงอยู่ในสถานะล็อคเพื่อความปลอดภัย และเครื่องยนต์จะปิดอัตโนมัติหลังจากทำงาน 10-15 นาทีเพื่อป้องกันการเดินเบานานเกินไป หากรถของคุณไม่มีฟังก์ชันนี้ คุณสามารถติดตั้งระบบสตาร์ทรถระยะไกลจากผู้ผลิตอื่นได้ แต่แนะนำให้ทำผ่านช่องทางที่ Kia รับรองเพื่อไม่ให้ส่งผลต่อระบบไฟฟ้าหรือการรับประกันของรถ นอกจากนี้ รุ่น Carnival แต่ละปีอาจมีรายละเอียดการใช้งานที่แตกต่างกันเล็กน้อย ดังนั้นควรตรวจสอบคู่มือผู้ใช้หรือสอบถามตัวแทนจำหน่ายในพื้นที่ของคุณเพื่อความถูกต้อง ด้วยการพัฒนาของเทคโนโลยีรถยนต์ในปัจจุบัน รุ่นท็อปบางรุ่นยังสนับสนุนการควบคุมผ่านแอปพลิเคชันบนมือถือ และในอนาคตฟังก์ชันนี้อาจจะกลายเป็นมาตรฐานทั่วไป
Q
วิธีการพับเบาะนั่งของ Kia Carnival
สำหรับวิธีพับเบาะของ Kia Carnival รุ่นนี้ในตลาดไทยได้รับความนิยมจากครอบครัวเพราะการจัดวางพื้นที่ที่ยืดหยุ่น เบาะแถวสองและแถวสามสามารถพับลงเพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระได้ สมมติว่าเป็นรุ่น Carnival รุ่นที่สาม เวลาพับเบาะแถวสามต้องดึงเชือกปลดล็อคใต้เบาะก่อน แล้วจึงพับพนักพิงลงมา ส่วนเบาะแถวสองสามารถดึงคันโยกด้านข้างเพื่อเลื่อนมาแล้วพับลงได้ บางรุ่นที่ติดตั้งระบบไฟฟ้ายังมีฟังก์ชันพับอัตโนมัติแบบกดปุ่มเดียวอีกด้วย ที่สำคัญคือสภาพอากาศไทยที่ร้อนชื้นแนะนำให้ตรวจสอบระบบกลไกพับเบาะเป็นประจำเพื่อหลีกเลี่ยงเสียงดังจากชิ้นส่วนโลหะที่อาจขึ้นสนิม นอกจากนี้การออกแบบเบาะแบบ "Theater Seat" เวลาพับต้องระวังว่าเก้าอี้พันศีรษะอาจติดกับเพดานรถ ซึ่งเป็นข้อควรระวังทั่วไปของรถ MPV ส่วนใครที่ต้องขนของบ่อยๆ สามารถเลือกซื้อแผ่นรองกันน้ำสำหรับพื้นที่เก็บของด้านหลังได้ โดยตัวแทนจำหน่าย Kia ในไทยยังมีบริการสอนวิธีพับเบาะ แนะนำให้เจ้าของรถใหม่นัดหมายไปลองเลย ถ้าเทียบกับคู่แข่งอย่าง Honda Odyssey หรือ Toyota Alphard ที่มีระบบพับเบาะต่างออกไป จุดเด่นของ Carnival คือเมื่อพับเบาะแล้วจะได้พื้นที่เรียบเสมอกันหมด ช่วยให้การขนของชิ้นใหญ่สะดวกขึ้นมาก
Q
วิธีสตาร์ทคิอาคาร์นิวัลด้วยรีโมท
ในประเทศไทย การใช้รีโมทคอนโทรลสตาร์ทรถมักต้องมีระบบ Keyless Entry และ Start ในรถ ซึ่งระบบนี้จะพบได้บ่อยในรถระดับสูงหรือรุ่นกลางบางรุ่น เวลาใช้งานต้องมั่นใจว่าแบตเตอรี่รีโมทยังเหลือพอและรถอยู่ในระยะที่รับสัญญาณได้ วิธีการทั่วไปคือกดปุ่มล็อกรถบนรีโมทก่อน แล้วตามด้วยการกดปุ่มสตาร์ทค้างไว้ประมาณ 2-3 วินาที เครื่องยนต์จะสตาร์ทจากระยะไกล พร้อมกับระบบแอร์ที่เปิดอัตโนมัติ ซึ่งมีประโยชน์มากในสภาพอากาศร้อนแบบไทย กฎหมายไทยกำหนดว่าเมื่อสตาร์ทรถแล้วต้องมีผู้ขับขี่ที่มีใบอนุญาตขับขี่คอยควบคุมรถอยู่ นอกจากนี้หากหลังจากสตาร์ทด้วยรีโมทแล้วไม่มีการใส่กุญแจหรือเหยียบเบรกภายในเวลาที่กำหนด รถอาจจะดับอัตโนมัติเพื่อประหยัดน้ำมัน ยี่ห้อรถไทยอย่างโตโยต้าหรืออีซูซุบางรุ่นยังมีฟังก์ชันควบคุมผ่านแอปพลิเคชันในมือถือที่ช่วยให้สตาร์ทรถและเปิดแอร์ล่วงหน้าจากระยะไกลผ่านอินเทอร์เน็ตได้ ควรตรวจสอบแบตเตอรี่รีโมทเป็นประจำและหลีกเลี่ยงการใช้ในพื้นที่ที่มีสัญญาณรบกวนมากเพื่อความเสถียรของระบบ
Q
Kia Grand Carnival ใช้น้ำมันอะไร
ในตลาดไทย Kia Grand Carnival ส่วนใหญ่ใช้เชื้อเพลิงดีเซลเป็นหลัก โดยเฉพาะรุ่นที่ติดตั้งเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบชาร์จ CRDi ขนาด 2.2 ลิตร ซึ่งเครื่องยนต์แบบนี้ได้รับความนิยมมากในไทย เพราะราคาน้ำมันดีเซลถูกกว่าก๊าซโซลีน แถมยังให้แรงบิดสูงและประหยัดน้ำมัน เหมาะมากสำหรับครอบครัวที่ต้องขับทางไกลหรือบรรทุกหนักบ่อยๆ แม้ในสภาพอากาศร้อนและถนนซับซ้อนของไทยก็ยังทำงานได้มั่นคง นอกจากรุ่นดีเซลแล้ว ในบางตลาดต่างประเทศอาจมีรุ่นน้ำมันเบนซิน แต่ในไทยตอนนี้ยังเน้นดีเซลเป็นหลัก สำหรับคนไทยที่กำลังมองหา MPV เครื่องยนต์ดีเซลไม่เพียงช่วยลดค่าใช้จ่ายในระยะยาว แต่ยังให้พลังขับเคลื่อนที่เยี่ยม เหมาะทั้งสำหรับครอบครัวและรับรองลูกค้า แต่อย่าลืมดูแลรักษาระบบเชื้อเพลิงเป็นประจำเพื่อให้เครื่องยนต์ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพนะ
ดูเพิ่มเติม