BYD เปิดตัวรุ่นใหม่ B5 ในอังกฤษ ท้าชน Land Rover Defender

【PCauto】มีรายงานว่า BYD เตรียมเปิดตัวรถ SUV หรูรุ่นใหม่ B5 ในตลาดสหราชอาณาจักรภายในปี 2026 โดยรถรุ่นนี้จะเป็นคู่แข่งโดยตรงกับ Land Rover Defender ซึ่งเป็นรถออฟโรดชื่อดังของอังกฤษ การเคลื่อนไหวครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกที่แบรนด์รถยนต์จากจีนบุกเข้าสู่ตลาดรถออฟโรดหรูซึ่งถือเป็นจุดแข็งดั้งเดิมของอังกฤษโดยตรง

B5 ใช้ชื่อ “Bao5” ทำตลาดในจีน

B5 ถือเป็นหนึ่งใน 3 รถ SUV รุ่นหลักของแบรนด์ Fangchengbao ซึ่งเป็นแบรนด์ย่อยระดับพรีเมียมของ BYD โดยในตลาดอังกฤษ B5 จะอยู่ภายใต้ซีรีส์ของแบรนด์ Denza และจะเปิดตัวพร้อมกับรถสไตล์ shooting brake รุ่น Z9 GT เพื่อเสริมทัพกลุ่มผลิตภัณฑ์ระดับไฮเอนด์ของ BYD

Michael Shu ประธาน BYD Europe เคยกล่าวไว้ในงาน Goodwood Festival of Speed ปีที่แล้วว่า “ถึงแม้ถนนในอังกฤษจะค่อนข้างแคบ แต่ผู้บริโภคยังมีความต้องการรถออฟโรดขนาดใหญ่อย่างมาก” ซึ่งกลายเป็นหนึ่งในเหตุผลสำคัญที่ทำให้ B5 ถูกนำเข้ามาทำตลาดในอังกฤษ

B5 ท้าชน Land Rover Defender ด้วยเครื่องยนต์ 1.5T สี่สูบ

ในด้านเทคนิค B5 ถูกพัฒนาบนแพลตฟอร์มตัวถังแบบไม่รับน้ำหนัก (non-load-bearing) ที่เรียกว่า DMO (Dual Mode Off-Road) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีไฮบริดสายลุยที่ BYD พัฒนาขึ้นเอง โดยระบบขับเคลื่อนของ B5 ประกอบด้วยเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 1.5T ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ทั้งด้านหน้าและหลัง ให้พละกำลังรวมสูงสุดถึง 660 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 760 นิวตันเมตร ซึ่งมากกว่ารุ่นท็อปของ Defender อย่าง V8 Octa ที่มีพลัง 518 แรงม้าอีกด้วย

B5 มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 31.8kWh สามารถวิ่งด้วยพลังงานไฟฟ้าล้วนได้ระยะทางประมาณ 125 กิโลเมตรตามมาตรฐาน CLTC และคาดว่าจะทำระยะทางได้มากกว่า 72 กิโลเมตรตามมาตรฐาน WLTP ของสหราชอาณาจักร ในด้านมิติตัวถัง B5 มีความยาว 4890 มม. กว้าง 1970 มม. และสูง 1920 มม. ซึ่งมีขนาดใกล้เคียงกับรุ่น Defender 110

ราคาคือจุดแข็งหลักของ B5

ตามการคาดการณ์ของวงการอุตสาหกรรม รถรุ่นนี้จะมีราคาจำหน่ายในสหราชอาณาจักรราว 70,000 ปอนด์ ซึ่งถูกกว่ารุ่น Defender P400e แบบปลั๊กอินไฮบริดอยู่ประมาณ 15,000 ปอนด์ BYD ชูจุดเด่นเรื่องความหรูหราภายในห้องโดยสาร ด้วยการจัดวางแบบ 5 ที่นั่ง พร้อมอุปกรณ์มาตรฐานทั้งรุ่น เช่น หน้าจอควบคุมกลางขนาด 15.6 นิ้ว หน้าปัดดิจิทัลขนาด 12.3 นิ้ว และระบบเสียงระดับไฮเอนด์จาก Devialet

ในด้านระบบความปลอดภัย B5 มาพร้อมถุงลมนิรภัยทั้งหมด 11 จุด และระบบช่วยขับขี่อัจฉริยะระดับ L2+ ส่วนความสามารถในการลุยทางออฟโรดก็จัดเต็ม ด้วยระบบ “สามล็อก” ได้แก่ ล็อกเฟืองท้ายไฟฟ้าด้านหน้าและด้านหลัง พร้อมล็อกพลังงานตรงกลาง ตัวรถมีความสูงจากพื้นสูงสุด 310 มิลลิเมตร และสามารถลุยน้ำได้ลึกถึง 790 มิลลิเมตร

B5 อาจเสียเปรียบเรื่องช่วงล่างเมื่อเทียบกับ Defender

ช่วงล่างของ B5 ในปัจจุบันยังมีจุดอ่อนเรื่องการควบคุมบนถนน โดยเฉพาะเวลาเข้าโค้งด้วยความเร็วสูงจะมีอาการโคลงตัวค่อนข้างชัดเจน วิศวกรของ BYD เปิดเผยว่า เพื่อให้เหมาะกับสภาพถนนในยุโรป รุ่นผลิตจริงจะเปลี่ยนไปใช้ยางสมรรถนะสูงจาก Michelin หรือ Continental และจะมีการปรับจูนระบบช่วงล่างใหม่เป็นพิเศษเพื่อเพิ่มความมั่นใจในการขับขี่

ในขณะเดียวกัน ความแม่นยำของการคำนวนระยะทางตามมาตรฐาน WLTP ยังต้องได้รับการปรับปรุง โดยระยะทางขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าล้วน 125 กิโลเมตรที่ได้จากการทดสอบตามมาตรฐาน CLTC ของจีน เมื่อนำมาใช้งานจริง กลับทำได้เพียงประมาณ 80 กิโลเมตรเท่านั้น

BYD ได้วางฐานตลาดในสหราชอาณาจักร

ยอดขายประจำเดือนพฤษภาคม 2025 ของ BYD แตะเกิน 3,000 คันเป็นครั้งแรก ด้วยแรงหนุนจากรุ่น Seal U PHEV และรุ่นอื่น ๆ ส่งผลให้ยอดขายรวมแซงหน้า Tesla ได้เป็นครั้งแรกเช่นกัน ตามแผนที่วางไว้ BYD เตรียมขยายจำนวนรุ่นรถที่วางจำหน่ายในสหราชอาณาจักรให้เพิ่มเป็น 6 รุ่นภายในปี 2026

ตอนนี้จุดเด่นของ B5 ที่เป็นรถแบบ PHEV (ปลั๊กอินไฮบริด) กำลังตอบโจทย์ตลาดยุโรปที่ยังอยู่ในช่วงลังเลต่อรถยนต์ไฟฟ้าล้วน เพราะสามารถขับได้ทั้งน้ำมันและไฟฟ้า ถ้า BYD สามารถปรับปรุงข้อด้อยในเรื่องช่วงล่างได้ ก็มีโอกาสที่จะดึงดูดลูกค้ากลุ่มที่กำลังพิจารณา Land Rover Defender และต้องการรถที่คุ้มค่าคุ้มราคามากกว่า

เมื่อเผชิญกับชื่อเสียงยาวนานถึง 76 ปีของ Defender และความแข็งแกร่งของตลาดที่ Land Rover ครองอยู่ ก็ต้องจับตาดูว่า B5 จะสามารถแย่งส่วนแบ่งตลาดมาได้หรือไม่ เพราะหากทำได้ ไม่เพียงแต่จะเป็นการท้าทายตำแหน่งของ Defender เท่านั้น แต่ยังอาจสั่นสะเทือนทั้งวงการรถออฟโรดเครื่องยนต์สันดาปแบบดั้งเดิมอีกด้วย การตัดสินใจของ BYD ครั้งนี้เรียกได้ว่าเต็มไปด้วยความทะเยอทะยาน