รถยนต์อบโอโซน กำจัดเชื้อโรคและกลิ่นได้จริงหรือแค่การปลอบใจทางจิตใจ
สุรเดชSep 18, 2025, 11:24 PM
ในยุคที่เชื้อโรคและมลพิษเป็นเรื่องใกล้ตัว โดยเฉพาะในพื้นที่ปิดอย่างห้องโดยสารรถยนต์ที่เราใช้เวลาอยู่ด้วยทุกวัน การดูแลความสะอาดและสุขอนามัยภายในรถจึงเป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้การดูแลบ้าน วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับ "การอบโอโซนรถยนต์" ว่าเป็นวิธีที่ได้ผลจริงหรือไม่ มีข้อดี-ข้อเสียอย่างไร และควรทำบ่อยแค่ไหนถึงจะเหมาะสม
การอบโอโซนรถคืออะไร?
การอบโอโซนรถ (Ozone Car Treatment) คือกระบวนการใช้ก๊าซโอโซน (O₃) ซึ่งเป็นก๊าซที่เกิดจากออกซิเจน 3 อะตอม (O₂ + O = O₃) มาฉีดพ่นภายในห้องโดยสารรถยนต์เพื่อฆ่าเชื้อโรค แบคทีเรีย เชื้อรา และกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ต่างๆ
เครื่องอบโอโซนจะปล่อยก๊าซโอโซนเข้าไปในรถที่ปิดสนิททุกช่อง (ประตู หน้าต่าง) โดยก๊าซนี้จะแทรกซึมไปทุกซอกทุกมุม ทำปฏิกิริยากับสิ่งสกปรก สารอินทรีย์ และเชื้อโรค ก่อนจะสลายตัวกลับเป็นออกซิเจนภายในเวลาไม่นาน
ประโยชน์ของการอบโอโซนรถยนต์
1.ฆ่าเชื้อโรคและไวรัส
โอโซนมีคุณสมบัติในการทำลายผนังเซลล์ของเชื้อโรค ทั้งแบคทีเรีย ไวรัส และเชื้อรา โดยเฉพาะในช่วงโควิด-19 ระบาด หลายคนนิยมใช้บริการนี้เพื่อฆ่าเชื้อในรถ
2.กำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์
ไม่ว่ากลิ่นบุหรี่ กลิ่นอาหาร กลิ่นสัตว์เลี้ยง หรือกลิ่นอับจากความชื้น โอโซนสามารถช่วยขจัดกลิ่นเหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
3.ลดความเสี่ยงจากฝุ่น PM 2.5
การอบโอโซนช่วยลดสารก่อภูมิแพ้และมลพิษในอากาศภายในรถ ซึ่งเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่มีปัญหาทางเดินหายใจ
4.ปรับอากาศในรถให้สดชื่น
หลังอบโอโซน อากาศภายในรถจะรู้สึกสะอาด สดชื่นขึ้นทันที โดยไม่ต้องพึ่งน้ำหอมรถยนต์
การอบโอโซนฆ่าเชื้อโควิด-19 ได้จริงหรือ?
จากงานวิจัยหลายชิ้นพบว่า โอโซนในความเข้มข้นที่เหมาะสม (ประมาณ 0.5-1.5 PPM) สามารถฆ่าเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้ โดยต้องอบในพื้นที่ปิดสนิทเป็นเวลาอย่างน้อย 30 นาที อย่างไรก็ตาม ควรใช้บริการจากผู้เชี่ยวชาญที่มีเครื่องมือมาตรฐานเพื่อความปลอดภัย
ควรอบโอโซนบ่อยแค่ไหน?
สำหรับการใช้งานทั่วไป:
ทุก 1-2 เดือน หากใช้รถบ่อยหรือมีเด็กเล็ก/ผู้สูงอายุ
ทุก 3-6 เดือน สำหรับการใช้งานปกติ
ก่อนเข้าสู่ฤดูฝน เพื่อป้องกันเชื้อรา
หลังมีผู้โดยสารมาก (เช่น การเดินทางไกลกับคนหมู่มาก)
หลังจากสูบบุหรี่ในรถ หรือมีกลิ่นแรง
วิธีการอบโอโซนรถยนต์ด้วยตัวเอง
1.ทำความสะอาดรถเบื้องต้น ก่อนอบ
2.ปิดประตู-หน้าต่างทุกบาน ให้สนิท
3.วางเครื่องอบโอโซน ไว้กลางรถ (หลีกเลี่ยงการสัมผัสวัสดุ)
4.เปิดระบบแอร์หมุนเวียนอากาศ (ไม่เปิดความเย็น)
5.เปิดเครื่องอบโอโซน และปิดประตูทิ้งไว้ 30-45 นาที
6.เปิดประตูรถ ระบายอากาศ 15-30 นาทีก่อนใช้งาน
ข้อควรระวังในการอบโอโซน
1.ไม่ควรอยู่ในรถขณะอบ เพราะโอโซนในความเข้มข้นสูงเป็นอันตรายต่อระบบทางเดินหายใจ
2.ไม่ควรอบนานเกินไป เพราะอาจทำให้วัสดุภายในรถเสื่อมสภาพ (เช่น ยาง พลาสติก หนัง)
3.ควรใช้เครื่องมือคุณภาพดี เพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพ
4.ระบายอากาศหลังอบ ก่อนเข้าไปในรถ
เครื่องอบโอโซน vs บริการอบโอโซนที่ร้าน
ประเภท ข้อดี ข้อเสีย
เครื่องอบโอโซน DIY - ประหยัดค่าใช้จ่าย
- ใช้ได้บ่อยตามต้องการ
- ทำเองได้ที่บ้าน - ต้องมีความรู้ในการใช้งาน
- เครื่องคุณภาพต่ำอาจไม่ได้ผล
- มีความเสี่ยงหากใช้ผิดวิธี
บริการที่ร้าน - ใช้เครื่องมือมาตรฐาน
- มืออาชีพดูแล
- ประหยัดเวลา - ค่าใช้จ่ายสูงกว่า
- ต้องนัดล่วงหน้า
สรุป: อบโอโซนรถดีจริงไหม?
การอบโอโซนรถยนต์เป็นวิธีที่ ได้ผลจริง ในการฆ่าเชื้อโรคและกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ โดยเฉพาะในช่วงที่ต้องการความปลอดภัยเป็นพิเศษ เช่น หลังมีผู้โดยสารมาก หรือในช่วงโรคระบาด อย่างไรก็ตาม ควรใช้ด้วยความระมัดระวัง และไม่ควรพึ่งพาวิธีนี้เพียงอย่างเดียวในการดูแลรถ
คำแนะนำ: ควรอบโอโซนเป็นระยะ ควบคู่ไปกับการทำความสะอาดรถตามปกติ และเลือกใช้บริการจากผู้เชี่ยวชาญหากไม่มั่นใจในการใช้งานเอง
หากคุณกำลังมองหารถยนต์ที่สะอาด ปลอดภัย และพร้อมใช้งาน ลองเช็คดู รถมือสองคุณภาพดี ที่มีการดูแลอย่างดี หรือสอบถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริการดูแลรถยนต์ได้ที่เว็บไซต์ผู้เชี่ยวชาญด้านยานยนต์
ทำความสะอาดรถให้ปลอดภัย แล้วขับขี่ไปไหนมาไหนด้วยความมั่นใจไร้กังวลเรื่องเชื้อโรคและกลิ่นไม่พึงประสงค์กันเถอะครับ
คุณสามารถติดต่อเราให้ลบออกเนื้อหาถ้าละเมิดลิขสิทธิ์
ข้อมูลยอดนิยม

เตรียมเปิดตัว! Toyota Yaris ATIV HEV ใหม่ 21 ส.ค.นี้ ใช้ขุมพลังเดียวกับ Yaris Cross
【PCauto】Yaris ATIV HEV ใหม่ จ่อเปิดตัว 21 ส.ค.นี้ มาพร้อมเครื่องยนต์ไฮบริดประหยัดสุด 26.3 กม./ลิตร Toyota เตรียมส่ง Yaris ATIV รุ่นไฮบริดบุกตลาดไทย 21 สิงหาคมนี้ โดยใช้ขุมพลังเดียวกับ Yaris Cross ได้แก่ เครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร รหัส 2NR-VEX ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า ให้พละกำลังรวม 111 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ e-CVT พร้อมแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาด 0.7 kWh รองรับน้ำมัน E20 ความเร็วสูงสุด 160 กม./ชม. อัตราสิ้นเปลืองดีเยี่ยมที่ 26.3 กม./ลิตร ตามมาตรฐาน WMTC เตรียมเปิดศึกรถซีดานไฮบริดประหยั

Mitsubishiเปิดตัว SUV 7 ที่นั่งรุ่น Destinator เพื่อแข่งขันกับ Honda CR-V
【PCauto】Mitsubishi Motors ได้เปิดตัว SUV เจ็ดที่นั่งรุ่นใหม่ Destinator อย่างเป็นทางการที่จาการ์ต้า รุ่นนี้ออกแบบมาเพื่อครอบครัวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้โดยเฉพาะ และจะเริ่มจำหน่ายในอินโดนีเซียเป็นประเทศแรก ก่อนขยายตลาดไปยังไทยและประเทศในอาเซียนอื่นๆ Mitsubishi Destinator มาพร้อมกับฐานล้อยาวพิเศษ 2815 มิลลิเมตร และระยะต่ำสุดจากพื้นถึงตัวรถ 214 มิลลิเมตร รถรุ่นนี้ตั้งเป้าหมายในตลาด SUV ขนาดกลางที่มี Honda CR-V ครองตำแหน่งผู้นำอยู่แล้ว

BYD SEALION 8 ลุ้นขายไทย-ออสเตรเลียปีหน้า!
【PCauto】BYD SEALION 8 เตรียมบุกไทย-ออสซี่ปีหน้า! ใหญ่เทียบ Kluger พร้อมดีไซน์ล้ำยุคจาก Egger BYD SEALION 8 หรือ Tang L เวอร์ชันจีน เตรียมเปิดตัวไตรมาสแรกปี 2026 ในออสเตรเลีย และมีแผนรุกตลาดไทยพร้อมกัน จุดเด่นคือขนาดใหญ่กว่า Toyota Kluger ถึง 120 มม. กับตัวถังยาวกว่า 5 เมตร เบาะ 3 แถว 7 ที่นั่ง พร้อมขุมพลัง PHEV สองรุ่นย่อย และดีไซน์ “Loong Face” นำโดย Wolfgang Egger ไฟหน้า LED แยกส่วน-โลโก้ BYD เรืองแสง เสริมความพรีเมียมด้วยประตูไร้กรอบ ไฟท้าย “ปีกฟีนิกซ์” และหลังคาพาโนรามา ครบเครื่องทั้งความหรู

Toyota bZ4X เปิดตัวแล้ว เมื่อเทียบกับ Xpeng G6 รุ่นใดคุ้มค่ากับการซื้อมากกว่ากัน
【PCauto】Toyota bZ4X เปิดให้สั่งจองทางออนไลน์ในประเทศไทยเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม และภายในสามวันแรกมียอดสั่งจองถึง 1,000 คันรุ่นย่อยและราคาของรถรุ่นนี้แบ่งเป็น:ขับเคลื่อนล้อหน้า (FWD) ราคา 1,599,000 บาทและขับเคลื่อนสี่ล้อ (AWD) ราคา 1,699,000 บาทในฐานะรถ SUV ไฟฟ้าล้วนรุ่นแรกของ Toyota ที่ทำตลาดในประเทศไทย bZ4X นำเข้ามาขายโดยมาพร้อมแบตเตอรี่ลิเธียมขนาด 73.11 kWh ระยะทางวิ่งตามมาตรฐาน NEDC อยู่ที่ 600 กม. (FWD) และ 570 กม. (AWD)ในอีกฝั่งหนึ่ง XPeng G6 ก็ได้เปิดตัวรุ่นปรับปรุงใหม่:รุ่น Long Range ราคา

Xpeng P7 ฮอตแรง! เปิดจองแค่ 7 นาที ยอดสั่งทะลุ 10,000 คัน
【PCauto】XPeng P7 ใหม่ เปิดพรีออเดอร์เพียง 6 นาที 37 วินาที ยอดจองทะลุ 10,000 คัน ทำลายสถิติเดิมของแบรนด์ มาพร้อมดีไซน์ XMART FACE ไฟหน้า-ไฟท้ายแบบ X Shape หลังคาลอย เสา A ซ่อน ขอบประตูไร้กรอบ และสปอยเลอร์ไฟฟ้าสร้างแรงกดสูงสุด 900 นิวตัน ค่าลากอากาศเพียง 0.198Cd ภายในล้ำสมัยด้วยจอ 3 ชุด และ AR-HUD ขนาด 87 นิ้ว คมชัดแม้แดดจ้า
รถยอดนิยม
เปรียบเทียบรถยนต์
รูปภาพรถ
ภาพภายใน
รุ่นปีรถยนต์
รุ่นรถยนต์