รีวิว MG ZS: อัดแน่นด้วยฟีเจอร์ สร้างประสบการณ์การขับขี่รูปแบบใหม่
ธนวัฒน์May 14, 2025, 02:29 PM
【PCauto】MG ZS เป็นหนึ่งในรถยนต์ที่ได้รับความสนใจจากผู้บริโภคอย่างมาก ในฐานะรถรุ่นสำคัญของ MG ZS โดดเด่นด้วยดีไซน์ภายนอกที่ทันสมัยและสง่างาม พร้อมทั้งมอบประสบการณ์การขับขี่ที่ยอดเยี่ยมและภายในที่เพียบพร้อมด้วยฟีเจอร์อำนวยความสะดวก ปัจจุบัน MG ZS ยังคงเป็นรุ่นที่มียอดขายดี ด้วยตัวเลือกที่หลากหลายเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ ในส่วนต่อไป เราจะนำเสนอรายละเอียดของรุ่นย่อยและราคาจำหน่าย เพื่อช่วยให้คุณมีข้อมูลประกอบการตัดสินใจเลือกซื้อรถรุ่นนี้
ราคาของ MG ZS
MG ZS มีทั้งหมด 5 รุ่นย่อย ได้แก่:
• MG ZS 100th Anniversary 1.5 CVT ราคา 659,900 บาท
• MG ZS รุ่น C+ 2024 ราคา 689,000 บาท
• MG ZS รุ่น D 2024 ราคา 719,000 บาท
• MG ZS รุ่น X 2024 ราคา 759,000 บาท
• MG ZS รุ่น V 2024 ราคา 799,000 บาท
ราคา MG ZS รุ่นต่างๆ ตามปี
สำหรับMG ZS ยังคงมีรุ่นปีอื่นๆ วางจำหน่ายในตลาด ได้แก่
• MG ZS 2023 ราคาเริ่มต้น 689,000 บาท
ภายในและอุปกรณ์ของ MG ZS
เมื่อเข้ามาภายในห้องโดยสารของMG ZS จะสัมผัสได้ถึงความกว้างขวางและความสะดวกสบายจากการจัดที่นั่งแบบ 5 ตำแหน่ง เบาะนั่งมีความมั่นคงและกระชับรองรับตัวได้เป็นอย่างดี แม้ขับขี่เป็นเวลานานก็ไม่รู้สึกเมื่อยล้า บริเวณที่นั่งคนขับมี หน้าปัดดิจิทัล ที่ออกแบบเรียบง่าย แสดงข้อมูลชัดเจนและอ่านง่าย หน้าจอกลางมีขนาด 10.1 นิ้ว รองรับการสัมผัส นอกจากฟังก์ชันนำทางและมัลติมีเดียทั่วไปแล้ว ยังรองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth และสั่งการด้วยเสียง ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการขับขี่ได้อย่างมาก
นอกจากนี้ MG ZS ยังมาพร้อมอุปกรณ์และฟีเจอร์เด่นดังต่อไปนี้
• ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ
• สัญญาณกะระยะถอยหลัง
• ระบบช่วยเตือนขณะถอยรถ
• ระบบสตาร์ทและดับเครื่องยนต์อัตโนมัติ
• ระบบช่วยออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (HSA)
• ระบบ Auto Brake Hold
• ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน
• สปอยเลอร์หลัง
• วัสดุภายใน:หนังฟอก/ผ้า
• พวงมาลัยปรับได้
• พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น
• แพดเดิลชิฟท์
• แผงหน้าปัด:Driving information / multimedia information
• ระบบแสดงข้อมูลบนกระจกหน้า
• อุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย
• ระบบ Keyless Entry
• ระบบล็อกรถอัตโนมัติเมื่อกุญแจอยู่ห่างจากตัวรถ
• ระบบกุญแจ Immobilizer
• สวิทช์ควบคุมระบบเซ็นทรัลล็อค
• การปรับเบาะนั่งด้านหลัง:Foldable backrest 60:40
• การปรับเบาะนั่งคนขับ:6 direction adjustment
• การปรับเบาะนั่งผู้โดยสารตอนหน้า:4 directions adjustment
• แอร์อัตโนมัติ
• ประเภทไฟหน้า:แอลอีดี
• ประเภทไฟท้าย:แอลอีดี
• ไฟตัดหมอกหน้า
• ไฟตัดหมอกหลัง
• ไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวัน
• ซันรูฟแบบเดียว
• กระจกมองข้างปรับไฟฟ้า
• หน้าจอสัมผัสขนาด 10.1 นิ้ว
• ฟังก์ชั่นการเชื่อมต่อ
• ระบบสั่งการด้วยเสียง
• ลำโพง 6 ตัว
ประสบการณ์การขับขี่ของ MG ZS
MG ZS มาพร้อมกับระบบขับเคลื่อนที่โดดเด่น โดยติดตั้งเครื่องยนต์ 4 สูบ ขนาด 1.5 ลิตร พร้อมเทคโนโลยี เครื่องอัดอากาศแบบตามธรรมชาติ ที่ให้กำลังสูงสุด 84 kW และแรงบิดสูงสุด 150 N·m โดยสามารถทำแรงบิดสูงสุดได้ที่ 4500 RPM ส่งกำลังผ่านเกียร์ สปีดแบบ CVT ซึ่งเปลี่ยนเกียร์ได้อย่างนุ่มนวลและตอบสนองฉับไว เพื่อให้การส่งกำลังมีประสิทธิภาพสูงสุด ระบบขับเคลื่อนแบบ ล้อหน้า ช่วยให้รถสามารถวิ่งได้อย่างมั่นคง ทั้งบนถนนในเมืองและทางขรุขระ นอกจากนี้ อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเฉลี่ยอยู่ที่ 6.4 ลิตร/100 กม. ซึ่งสะท้อนถึงความประหยัดน้ำมันและประสิทธิภาพในการขับขี่ที่ยอดเยี่ยม เหมาะสำหรับทุกสภาพการขับขี่
การประหยัดน้ำมันของ MG ZS
การสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงขั้นต่ำ MG ZS คือ 6.4/100 km และ MG ZS การสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงสูงสุดคือ 6.4/100 km ขึ้นอยู่กับรุ่น ตามข้อมูลอย่างเป็นทางการของ mg นี่คือรายละเอียดของอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงสำหรับ MG ZS รุ่นต่างๆ:
• MG ZS 100th Anniversary 1.5 CVT ปริมาณการใช้เชื้อเพลิงคือ 6.4 L/100km
• MG ZS รุ่น C+ 2024 ปริมาณการใช้เชื้อเพลิงคือ 6.4 L/100km
• MG ZS รุ่น D 2024 ปริมาณการใช้เชื้อเพลิงคือ 6.4 L/100km
• MG ZS รุ่น X 2024 ปริมาณการใช้เชื้อเพลิงคือ 6.4 L/100km
• MG ZS รุ่น V 2024 ปริมาณการใช้เชื้อเพลิงคือ 6.4 L/100km
ประเภทน้ำมันเชื้อเพลิง | เกียร์ | การบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิง |
---|---|---|
น้ำมันเบนซิน(1498cc) | CVT | 6.4L/100km |
การตั้งค่าช่วงล่างของ MG ZS
MG ZS ได้รับการออกแบบช่วงล่างโดยคำนึงถึงสมดุลระหว่างการควบคุมและความสบายในการขับขี่ ตัวรถใช้ระบบกันสะเทือนหน้าแบบ แมคเฟอร์สัน และระบบกันสะเทือนหลังแบบ ทอร์ชั่นบีม ซึ่งช่วยให้รถมีการทรงตัวที่ดี รองรับแรงกระแทกจากพื้นถนนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้สามารถขับขี่ได้อย่างราบรื่นในทุกสภาพถนน ในส่วนของระบบเบรก MG ZS มาพร้อมกับเบรกหน้าแบบ ดิสก์มีรูระบายอากาศ และเบรกหลังแบบ ดิสก์เบรก ซึ่งตอบสนองต่อการเบรกได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพสูง นอกจากนี้ รถยังติดตั้งยางขนาด 215 / 55 R17 ซึ่งให้การยึดเกาะถนนที่ดี ลดเสียงรบกวนขณะขับขี่ และช่วยเพิ่มความสบายให้กับผู้โดยสาร
จุดแข็งและจุดอ่อนของMG ZS
1. ข้อดี
• คุณภาพการขับขี่ปราณีต
• ราคาเทียบเท่ากับรถที่ทำงานด้วยน้ำมันเชื้อเพลิงทางเลือกแต่รูปแบบมากกว่า พร้อมขายรุ่นท็อป 79.9 หมื่นบาท พื้นที่มากขึ้น และพื้นที่สําหรับกระเป๋าสุด
• การปรับปรุงภายนอกที่ชัดเจน โดยใช้หน้าต่างและไฟหน้าใหม่ ดูเยาวชนนัก
2. ข้อเสีย
• ภายในรถดูล้าสมัย
• ประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ไม่ดี, 1.5 ลิตร 114 แรงม้า, สำหรับรถที่มีน้ำหนัก 1.2 ตัน ไม่เพียงพอที่จะทำงานอย่างคล่องแคล่ว, การตอบสนองไม่ดีเท่าคู่แข่ง
• ฉากกั้นเสียงภายในรถไม่ดี, การออกแบบรูปร่างสี่เหลี่ยมทำให้เกิดเสียงลมที่ความเร็วปานกลางและสูง, เสียงจากชุดล่างรถก็มาก
หวังว่าข้อมูลทั้งหมดนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจMG ZSได้ดียิ่งขึ้น และค้นหารถรุ่นที่ตรงกับความต้องการของคุณ ขอให้การเลือกซื้อรถของคุณราบรื่น และได้สัมผัสกับช่วงเวลาแห่งความสุขในการขับขี่รถคันโปรด
คุณสามารถติดต่อเราให้ลบออกเนื้อหาถ้าละเมิดลิขสิทธิ์
ข้อมูลยอดนิยม

Nissan เตรียมพลิกโฉม SUV รุ่นสำคัญ หวังพาแบรนด์พ้นวิกฤตธุรกิจ
【PCauto】Nissan X-Trail ใหม่ (หรือ Rogue ในตลาดอเมริกาเหนือ) กำลังจะเปิดตัวโฉมใหม่ปลายปี 2025 นี้ พร้อมบทบาทสำคัญในการกู้วิกฤตของแบรนด์ ท่ามกลางแรงกดดันจากการลดกำลังการผลิตและผลประกอบการขาดทุน แม้จะยังพัฒนาบนแพลตฟอร์ม CMF-CD เดิม แต่รุ่นใหม่นี้มาพร้อมดีไซน์และระบบขับเคลื่อนที่เปลี่ยนใหม่หมด ใช้แนวทางออกแบบ “Nissan NEXT” ที่ได้แรงบันดาลใจจากรถไฟฟ้า Ariya ด้านหน้าโดดเด่นด้วยกระจังหน้า V-Motion ที่เล็กลง พร้อมไฟหน้าเลเซอร์แบบ Matrix ในรุ่นสูงสุด และไฟ DRL ทรงหกเหลี่ยมห้าชิ้นสุดเฉียบ ด้านข้างเน้นเส้น

เตรียมเปิดตัว! Toyota Yaris ATIV HEV ใหม่ 21 ส.ค.นี้ ใช้ขุมพลังเดียวกับ Yaris Cross
【PCauto】Yaris ATIV HEV ใหม่ จ่อเปิดตัว 21 ส.ค.นี้ มาพร้อมเครื่องยนต์ไฮบริดประหยัดสุด 26.3 กม./ลิตร Toyota เตรียมส่ง Yaris ATIV รุ่นไฮบริดบุกตลาดไทย 21 สิงหาคมนี้ โดยใช้ขุมพลังเดียวกับ Yaris Cross ได้แก่ เครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร รหัส 2NR-VEX ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า ให้พละกำลังรวม 111 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ e-CVT พร้อมแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาด 0.7 kWh รองรับน้ำมัน E20 ความเร็วสูงสุด 160 กม./ชม. อัตราสิ้นเปลืองดีเยี่ยมที่ 26.3 กม./ลิตร ตามมาตรฐาน WMTC เตรียมเปิดศึกรถซีดานไฮบริดประหยั

นี่จะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าล้วนที่มีกำลังมากที่สุดของ Toyota เท่าที่เคยมีมา โดยจะเปิดตัวในยุโรปเป็นที่แรกในปีหน้า
【PCauto】bZ4X Touring มีแผนวางจำหน่ายในยุโรปช่วงฤดูใบไม้ผลิปี 2026 โดยเป็นรุ่นต่อยอดจาก bZ4X เวอร์ชันมาตรฐานที่ได้รับการปรับปรุงให้รองรับการบรรทุกและการใช้งานแบบออฟโรดได้ดีขึ้น พร้อมกำลังรวมสูงสุด 280 กิโลวัตต์ ซึ่งเป็นระดับกำลังที่สูงที่สุดในกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้าของ Toyota จนถึงขณะนี้ bZ4X Touring มีขนาดตัวถังและพื้นที่ภายในที่ใหญ่ขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และในฐานะรุ่นแฝดของ Subaru Trailseeker รถรุ่นนี้พัฒนาบนแพลตฟอร์ม e-TNGA เช่นเดียวกัน แต่ได้รับการขยายมิติตัวรถเพื่อรองรับการใช้งานที่หลากหลายมากขึ้น

Mitsubishiเปิดตัว SUV 7 ที่นั่งรุ่น Destinator เพื่อแข่งขันกับ Honda CR-V
【PCauto】Mitsubishi Motors ได้เปิดตัว SUV เจ็ดที่นั่งรุ่นใหม่ Destinator อย่างเป็นทางการที่จาการ์ต้า รุ่นนี้ออกแบบมาเพื่อครอบครัวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้โดยเฉพาะ และจะเริ่มจำหน่ายในอินโดนีเซียเป็นประเทศแรก ก่อนขยายตลาดไปยังไทยและประเทศในอาเซียนอื่นๆ Mitsubishi Destinator มาพร้อมกับฐานล้อยาวพิเศษ 2815 มิลลิเมตร และระยะต่ำสุดจากพื้นถึงตัวรถ 214 มิลลิเมตร รถรุ่นนี้ตั้งเป้าหมายในตลาด SUV ขนาดกลางที่มี Honda CR-V ครองตำแหน่งผู้นำอยู่แล้ว

หลังจากความสำเร็จของ Tank 300 รุ่นดีเซลแล้ว Tank 500 รุ่นดีเซลก็จะถูกนำเข้ามาเช่นกัน
【PCauto】หลังจาก Tank 300 รุ่นดีเซลประสบความสำเร็จเกินคาด GWM วางแผนนำ Tank 500 รุ่นดีเซลเข้าสู่ตลาดไทยในไตรมาสที่สี่ของปี 2025 รถเอสยูวีออฟโรดระดับพรีเมียมที่มาพร้อมขุมพลังดีเซล 24 เทอร์โบรุ่นนี้จะผลิตในประเทศที่โรงงานจังหวัดระยอง ราคาคาดการณ์ราวสองล้านบาท เจาะตลาดเดียวกับ Toyota Fortuner และ Isuzu MU X ซึ่งเป็นเอสยูวีดีเซลยอดนิยมในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
รถยอดนิยม
เปรียบเทียบรถยนต์
รูปภาพรถ
ภาพภายใน