รัฐบาล Trump หวังว่าจะห้ามเทคโนโลยีการเริ่มทำงานและหยุดอัตโนมัติ เหตุผลคือหลายคนไม่ชอบเทคโนโลยีนี้

【PCauto】เมื่อไม่นานมานี้ผู้อำนวยการคนใหม่ของสำนักงานปกป้องสิ่งแวดล้อมแห่งสหรัฐอเมริกาภายใต้การนำของรัฐบาลทรัมป์คือลี เซลดินออกแถลงการณ์ว่ามีแผนจะสั่งห้ามเทคโนโลยีสตาร์ตสต็อปที่ติดตั้งอย่างแพร่หลายในรถยนต์ยุคใหม่

เขาระบุว่าเทคโนโลยีนี้เป็นเพียงเครื่องมือให้ค่ายรถใช้เพื่อคว้ารางวัลด้านสิ่งแวดล้อมแต่ทุกคนต่างไม่ชอบมันและอีพีเอจะเริ่มดำเนินการแก้ไขประเด็นนี้

อาจกล่าวได้ว่าลี เซลดินหมายถึงมีบางส่วนรวมถึงตัวเขาเองที่ไม่ชอบระบบนี้

เทคโนโลยีสตาร์ตสต็อปทำให้เครื่องยนต์เกิดแรงสั่นและเสียงดังขณะสตาร์ตส่งผลให้การขับขี่ไม่ราบรื่นโดยเฉพาะเมื่อต้องหยุดและออกตัวบ่อยในสภาพรถติดจึงสร้างความรำคาญอย่างมาก นอกจากนี้ตรรกะการทำงานของระบบบางรุ่นยังไม่มีประสิทธิภาพเช่นเมื่อผู้ขับถอนเบรกเพียงเล็กน้อยเครื่องยนต์ก็เริ่มทำงานทันทีสร้างความรู้สึกสะดุด

เมื่อเครื่องยนต์ดับระบบปรับอากาศก็หยุดทำงานไปด้วยซึ่งเป็นสิ่งที่ยากจะยอมรับในประเทศเขตร้อนทำให้ผู้ขับจำนวนมากต้องรีบปิดระบบนี้ทันทีที่สตาร์ตรถ

เดิมทีผู้ผลิตรถยนต์มีเป้าหมายให้เครื่องยนต์ดับเองขณะรถจอดนิ่งเช่นรอสัญญาณไฟจราจรหรือรถติดและสตาร์ทใหม่เมื่อผู้ขับถอนเบรกเพื่อลดการใช้น้ำมันและการปล่อยคาร์บอน

ผลวิจัยพบว่าเทคโนโลยีนี้สามารถลดการใช้น้ำมันได้ร้อยละสี่ถึงแปดจุดเจ็ดและช่วยลดการปล่อยคาร์บอนการทดสอบจริงแสดงให้เห็นว่าต่อให้จอดรถไม่ถึงแปดวินาทีก็ยังสามารถประหยัดน้ำมันได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เทคโนโลยีนี้ถูกนำมาใช้กับรถยนต์มานานกว่า 20 ปีเพื่อตอบสนองมาตรฐานความประหยัดน้ำมันโดยชิ้นส่วนและระบบต่างๆได้รับการปรับปรุงอย่างต่อเนื่องรถยนต์จึงไม่เกิดความสึกหรอเพิ่มเติมจากการดับและติดเครื่องบ่อยครั้ง

การดำเนินการของผู้อำนวยการ EPA Lee Zeldin ถูกวิจารณ์ว่าไม่มีหลักฐานรองรับกล่าวเกินจริงถึงความไม่พอใจของประชาชนและไม่กล่าวถึงประโยชน์ด้านสิ่งแวดล้อมของเทคโนโลยีดังกล่าวทั้งที่เขาไม่มีพื้นฐานด้านกฎหมายสิ่งแวดล้อมวิทยาศาสตร์หรือโยบายด้านสิ่งแวดล้อมและถูกมองว่าเป็นผู้ไม่เชื่อเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโดยตำแหน่งของเขาได้มาจากความจงรักภักดีต่อ Trump และนโยบายผ่อนปรนการกำกับดูแล

แม้ว่าเทคโนโลยีสตาร์ทดับเครื่องอัตโนมัติจะส่งผลต่อประสบการณ์ขับขี่เช่นเครื่องปรับอากาศดับชั่วคราวทำให้ภายในรถร้อนแต่ผลลัพธ์ด้านสิ่งแวดล้อมได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางยิ่งไปกว่านั้นรถหลายรุ่นมีระบบแอร์ที่กักเก็บความเย็นได้เมื่อเครื่องยนต์ดับไม่เกินหนึ่งนาทีแอร์ยังคงปล่อยลมเย็นต่อเนื่องเช่น Toyota C-HR รุ่นใช้น้ำมัน

สิ่งเดียวที่มักถูกหยิบยกมาพูดถึงคือแรงสั่นสะเทือนในช่วงที่เครื่องยนต์สตาร์ทซึ่งสร้างความรำคาญโดยเฉพาะเมื่อภายในรถเงียบมากแม้แต่รถ HEV ผู้ใช้ก็ยังให้ความสำคัญกับแรงสั่นเมื่อมอเตอร์สลับไปใช้เครื่องยนต์หากมีแรงสั่นชัดเจนก็จะถูกมองว่าเป็นจุดด้อย ในกรณีของ Accord HEV แรงสั่นจากเครื่องยนต์ขณะเปลี่ยนโหมดขับเคลื่อนน้อยกว่า Camry HEV อย่างชัดเจนซึ่งเพียงพอให้ผู้บริโภคชื่นชมเทคโนโลยีไฮบริดของ Honda อย่างมาก

สุดท้ายสำหรับข้อเสนอของ Lee Zeldin หากไม่พอใจเทคโนโลยีสตาร์ทดับเครื่องอัตโนมัติจริงก็ควรส่งเสริมนวัตกรรมรถยนต์ไฮบริดแทนเพราะอย่างน้อยขณะขับขี่ผู้ใช้แทบไม่รู้สึกถึงการเริ่มทำงานของเครื่องยนต์การห้ามใช้เทคโนโลยีนี้อย่างแข็งกร้าวจะยิ่งบั่นทอนภาพลักษณ์ความน่าเชื่อถือของ EPA