BYDรถยนต์ไฟฟ้าคันที่ 14 ล้านออกจากสายการผลิตในบราซิล ประธานาธิบดีบราซิลกลายเป็นเจ้าของรถ

【PCauto】วันที่ 9 ตุลาคม 2025 ตามเวลาท้องถิ่นบราซิล โรงงาน BYD ในเมืองกามาซารี รัฐบาเยีย ได้สร้างประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ด้วยการเปิดตัวรถยนต์พลังงานไฟฟ้าคันที่ 14 ล้านอย่างเป็นทางการ

Song Pro คันนี้ถือเป็นรถรุ่นไฮบริดรุ่นแรกในตลาดอเมริกาใต้ ซึ่งไม่เพียงแต่เป็นสัญลักษณ์ของความก้าวหน้าของกลยุทธ์ระดับโลกของ BYD แต่ยังดึงดูดให้ประธานาธิบดีบราซิล ลูลา (Luiz Inácio Lula da Silva) มาร่วมงานและกลายเป็นเจ้าของรถคันนี้ด้วยตัวเอง

BYD เข้าสู่ตลาดบราซิลมาแล้วกว่า 11 ปี

BYD Song Pro ในฐานะรถรุ่นพิเศษสำหรับการประชุมสภาพภูมิอากาศแห่งสหประชาชาติ (COP30) รุ่นที่ 30 ได้ติดตั้งเทคโนโลยีไฮบริดล่าสุดของ BYD โดยมุ่งเน้นให้สอดคล้องกับความต้องการพลังงานในท้องถิ่นของบราซิล

การเปิดตัวรุ่นนี้ไม่ได้เป็นเพียงการเสริมสร้างสายผลิตภัณฑ์ของ BYD ในตลาดอเมริกาใต้เท่านั้น แต่ยังแสดงให้เห็นถึงความสามารถด้านนวัตกรรมในเทคโนโลยีไฮบริด

หวังชวนฟู่ ได้กล่าวในพิธีถึงการเดินทางของ BYD ในตลาดบราซิลที่ดำเนินมากว่า 11 ปี โดยให้ข้อมูลว่ารถบัสพลังงานไฟฟ้าของ BYD ได้กระจายอยู่ทั่วไปในบราซิล ปัจจุบันมีผู้ใช้งานรวมกันมากกว่า 170,000 ราย

ข้อมูลแสดงให้เห็นว่า BYD ครองแชมป์ตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในบราซิลติดต่อกันเป็นเวลา 2 ปี และในระหว่างเดือนมกราคมถึงกันยายน 2025 มียอดขายสะสมกว่า 77,000 คัน โดยเฉพาะในเดือนกันยายนมียอดขายรายเดือนทะลุ 10,000 คัน ซึ่งสะท้อนถึงความแข็งแกร่งในตลาดท้องถิ่น

​​BYDจะเพิ่มสายการผลิตรถยนต์รุ่นใหม่ในโรงงานรัฐบาเยีย ประเทศบราซิล

โรงงานในรัฐบาเยีย ประเทศบราซิลซึ่งถือเป็นฐานการผลิตสำคัญของ BYD ในภูมิภาคลาตินอเมริกา ตั้งแต่การเปิดตัวรถรุ่นแรก Seagull ในเดือนกรกฎาคม ปี 2025 ได้มีการขยายกำลังการผลิตอย่างต่อเนื่อง และในอนาคตจะมีการเปิดตัวรุ่น Song Pro และ Destroyer 05 อีกด้วย.

นโยบายท้องถิ่นไม่ได้จำกัดเพียงการผลิตเท่านั้น ถนนด้านหน้าโรงงานได้เปลี่ยนชื่อเป็น "ถนน BYD" ซึ่งถือเป็นถนนสายแรกในทวีปอเมริกาใต้ที่ตั้งชื่อตาม BYD

นอกจากนี้ BYD ยังมีการลงทุนแบบครบวงจรในบราซิล ครอบคลุมตั้งแต่รถยนต์นั่งส่วนบุคคล รถยนต์เพื่อการพาณิชย์ และระบบราง เช่น โครงการรถไฟรางเดี่ยวสาย 17 ในเซาเปาโล และการส่งมอบรถบัสไฟฟ้าแบบอาร์ติคูเลท ซึ่งช่วยเสริมกลยุทธ์ในการเข้าสู่ตลาดท้องถิ่น

BYD ยังคงรักษาอัตราการเติบโตอย่างรวดเร็วในตลาดโลก

BYD กลายเป็นบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารายแรกของโลกที่ทำยอดการผลิตถึง 14 ล้านคัน ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ปี 2024 ที่รถยนต์คันที่ 10 ล้านออกจากสายการผลิตจนถึงเดือนตุลาคม ปี 2025 ที่รถยนต์คันที่ 14 ล้านออกจากสายการผลิต ใช้เวลาเพียง 10 เดือนเท่านั้น ซึ่งมีอัตราการเติบโตที่เร็วกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมอย่างมาก

ความสำเร็จของการผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้าคันที่ 14 ล้านของ BYD ไม่เพียงแสดงให้เห็นถึงความสามารถของ BYD ในด้านนวัตกรรมเทคโนโลยีและการขยายตลาด แต่ยังเป็นตัวอย่างสำหรับการเปลี่ยนแปลงสู่สีเขียวของอุตสาหกรรมรถยนต์ทั่วโลก

ท่ามกลางสถานการณ์ที่กำแพงการค้ารถยนต์ไฟฟ้าของจีนเพิ่มขึ้นทั่วโลก เช่น สหภาพยุโรปเพิ่มภาษีศุลกากรเป็น 45% และสหรัฐอเมริกาขึ้นอัตราภาษีเป็น 100% BYD ยังคงสามารถเจาะตลาดต่างประเทศสำเร็จด้วยความสามารถของผลิตภัณฑ์

ยกตัวอย่างเช่น ตลาดในสหราชอาณาจักร ยอดขายในเดือนกันยายน 2025 เติบโตเมื่อเทียบกับปีก่อนถึง 880%

เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบจากภาษีศุลกากร BYD เร่งขยายการตั้งโรงงานในต่างประเทศ

รวมถึงในฮังการี อุซเบกิสถาน ไทย และบราซิล พร้อมทั้งสร้างกองเรือโรโรส่วนตัวเพื่อรองรับการขนส่งทั่วโลก

กลยุทธ์การผลิตในท้องถิ่นนี้ไม่เพียงแต่ลดความเสี่ยงด้านการค้า แต่ยังส่งเสริมการจ้างงานในพื้นที่และการถ่ายโอนเทคโนโลยี

ในอนาคต BYD วางแผนที่จะจัดหารถยนต์ไฟฟ้าแบบคัสตอมจำนวน 30 คันสำหรับการเชื่อมต่อที่คาร์บอนต่ำในงาน COP30 ที่จะจัดขึ้นในเดือนกันยายน 2025 ที่เมืองเบเลง รัฐปารา บราซิล หลังเสร็จสิ้นงาน รถยนต์เหล่านี้จะบริจาคให้กับโรงเรียนและสถาบันสาธารณะในท้องถิ่น

กลยุทธ์การเข้าสู่ตลาดโลกของ BYD เน้นไปที่การผสมผสานระหว่างการเป็นสากลและการผลิตในท้องถิ่น โดยมีเป้าหมายเพื่อผลักดันอุตสาหกรรมรถยนต์ทั่วโลกไปสู่การเปลี่ยนแปลงสู่ความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและลดการปล่อยคาร์บอน