Tesla จะเริ่มขายรถยนต์ในซาอุดีอาระเบีย ประเทศที่มีน้ำมันอุดมสมบูรณ์ แต่ขาดแคลนสถานีชาร์จไฟ

【PCauto】ซาอุดีอาระเบียเป็นประเทศที่ส่งออกน้ำมันรายใหญ่ที่สุดในโลก ยังอยู่ในระยะเริ่มต้นของตลาดรถยนต์ไฟฟ้า ในปี 2024 ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าทั่วประเทศมีเพียง 2,000 คัน น้อยกว่ายอดขายทั่วโลกของ Tesla ในหนึ่งวัน ปัญหาหลักคือโครงสร้างพื้นฐานที่ยังขาดแคลน โดยถนนสายหลักที่เชื่อมระหว่างกรุงริยาดและนครเมกกะซึ่งยาวถึง 900 กิโลเมตร กลับไม่มีสถานีชาร์จเลย และทั่วประเทศมีสถานีชาร์จเพียงประมาณ 100 แห่งเท่านั้น

เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เช่นประเทศไทยและมาเลเซีย แม้เริ่มต้นช้ากว่า แต่เครือข่ายการชาร์จได้เริ่มเป็นรูปเป็นร่าง เช่น รัฐบาลไทยมีแผนสร้างสถานีชาร์จให้ได้ 12,000 แห่งภายในปี 2030 ส่วนมาเลเซียก็ใช้ความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนเพื่อพัฒนาเครือข่ายสถานีชาร์จตามแนวทางหลวง

ในตลาดซาอุดีอาระเบียที่รถยนต์เชื้อเพลิงฟอสซิลยังคงครองส่วนแบ่งใหญ่ ความยอมรับในรถยนต์ไฟฟ้ายังค่อนข้างต่ำ อีกทั้งสภาพอากาศร้อนจัด (ฤดูร้อนอุณหภูมิสูงถึง 50 องศาเซลเซียส) ยิ่งทำให้ผู้บริโภคกังวลเกี่ยวกับระยะทางการใช้งานของแบตเตอรี่ สถานการณ์นี้มีความคล้ายคลึงกับความท้าทายในการส่งเสริมรถยนต์ไฟฟ้าในภูมิอากาศเขตร้อนของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อย่างไรก็ตาม รัฐบาลซาอุดีอาระเบียกำลังลงทุน 39,000 ล้านดอลลาร์ในอุตสาหกรรมนี้ โดยตั้งเป้าว่าจะทำให้ 30% ของยานพาหนะในกรุงริยาดกลายเป็นรถยนต์ไฟฟ้าภายในปี 2030

การเข้าสู่ตลาดซาอุดีอาระเบียของ Tesla ในเวลานี้ ถือเป็นทั้งโอกาสเชิงกลยุทธ์และความจำเป็น ในด้านหนึ่ง นโยบายเศรษฐกิจลดคาร์บอนภายใต้ “วิสัยทัศน์ 2030” ของซาอุดีอาระเบียเปิดโอกาสให้บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ต่างชาติเข้าถึงสิทธิประโยชน์ทางภาษีและเงินอุดหนุน ในอีกด้านหนึ่ง Tesla กำลังเผชิญกับยอดขายที่ลดลงในตลาดยุโรปและอเมริกา (โดยไตรมาสแรกของปี 2025 ยอดขายลดลง 13% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว) ทำให้ต้องการตลาดใหม่เพื่อกระตุ้นยอดขาย

เบื้องหลังการขยายตลาดของ Tesla ในซาอุดีอาระเบีย ยังมีปัจจัยทางการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง Elon Musk ซีอีโอของ Tesla และกองทุนเพื่อความมั่งคั่งแห่งชาติของซาอุดีอาระเบียเคยมีความขัดแย้งกันจากกรณีการทำบริษัทเป็นเอกชนในปี 2018 แต่ในช่วงหลัง Musk มีบทบาทในกิจกรรมทางการเมืองของสหรัฐ เช่น การสนับสนุนการหาเสียงของ Trump ซึ่งเปิดโอกาสให้ความสัมพันธ์กับซาอุดีอาระเบียกลับมาดีขึ้น ขณะเดียวกัน ข่าวเกี่ยวกับการเดินทางเยือนซาอุดีอาระเบียของ Trump อาจเร่งให้ Tesla ใช้โอกาสนี้ขยายตลาดในตะวันออกกลาง

ซาอุดีอาระเบียและประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ต้องเผชิญความท้าทายคล้ายกันในการส่งเสริมรถยนต์ไฟฟ้า ได้แก่ ความขาดแคลนโครงสร้างพื้นฐาน ความรู้และความเข้าใจของผู้บริโภคที่ยังต่ำ รวมถึงผลกระทบจากอุณหภูมิสูง

อนาคตของ Tesla ในซาอุดีอาระเบียจะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ความเร็วในการร่วมมือกับรัฐบาลเพื่อขยายเครือข่ายสถานีชาร์จ ความเป็นไปได้ในการผลิตในท้องถิ่น และการสร้างความเชื่อมั่นในแบรนด์ของผู้บริโภค ระยะสั้น Tesla ควรเน้นการจัดกิจกรรมทดลองขับ และโครงการสาธิตการชาร์จเพื่อเพิ่มการรับรู้ในแบรนด์ ขณะที่ในระยะยาว ควรจับตานโยบายของซาอุดีอาระเบียและกลยุทธ์ของคู่แข่งอย่างใกล้ชิด