Benz เตรียมเปิดตัวรถไฟฟ้าแบตเตอรี่โซลิดสเตต ก่อนปี 2030!

【PCauto】เมื่อต้นปีที่ผ่านมา Benz ได้เริ่มทดสอบรถยนต์ไฟฟ้าต้นแบบที่ใช้แบตเตอรี่โซลิดสเตตแบบลิเทียมเมทัลในสหราชอาณาจักร โดยระบบแบตเตอรี่นี้ผ่านการวิ่งทดสอบจริงบนถนนแล้วกว่า 30,000 กิโลเมตร พร้อมยกระดับระยะทางวิ่งของรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นผลิตจริงให้ทำได้ไกลถึง 620 ไมล์ หรือประมาณ 1,000 กิโลเมตร

ล่าสุด Markus Schäfer ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและพัฒนาของ Benz ได้ยืนยันในเวทีเทคโนโลยีที่กรุงโคเปนเฮเกนว่า รถยนต์ไฟฟ้า Benz ที่ใช้แบตเตอรี่โซลิดสเตตจะเข้าสู่การผลิตจริงภายในปี 2030

จับมือ Factorial Energy ดันแบตฯ โซลิดสเตตสู่ตลาด

รถทดสอบพัฒนาบนพื้นฐานของรุ่น EQS 450+ โดยติดตั้งแบตเตอรี่โซลิดสเตตชนิดซัลไฟด์ ซึ่งเป็นผลงานความร่วมมือระหว่างฝ่ายพัฒนาระบบขับเคลื่อนสมรรถนะสูงของ Benz (HPP) และบริษัท Factorial Energy จากสหรัฐฯ แบตเตอรี่ชุดนี้มีความหนาแน่นพลังงานสูงถึง 450Wh/kg เพิ่มขึ้นจากแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนทั่วไปถึง 40% และลดน้ำหนักแบตเตอรี่ได้มากถึง 210 กิโลกรัม

จุดเด่นสำคัญคือไม่มีของเหลวอิเล็กโทรไลต์ ลดความเสี่ยงการรั่วไหล พร้อมยกระดับความปลอดภัยโดยควบคุมอุณหภูมิไม่ให้เกิดภาวะลุกไหม้ได้จนถึง 150 องศาเซลเซียส Markus Schäfer เผยว่ารถต้นแบบสามารถเพิ่มระยะทางวิ่งได้ 25% ตามมาตรฐาน WLTP ซึ่งจะทำให้ EQS 450+ จากเดิมที่วิ่งได้ 822 กิโลเมตร เพิ่มเป็นระดับ 1,000 กิโลเมตร

Factorial Energy ได้ส่งมอบแบตเตอรี่ตัวอย่าง B-Sample ให้กับ Benz แล้วในไตรมาส 2 ของปี 2025 ถือเป็นก้าวสำคัญสู่การผลิตเชิงพาณิชย์ โดยเทคโนโลยี FEST ที่จดสิทธิบัตรของ Factorial นี้ยังถูกใช้โดย Stellantis และ Hyundai เช่นกัน

แบตเตอรี่ชุดนี้ใช้โครงสร้างแบบลอยตัว (Floating Cell Frame) แก้ปัญหาการขยายตัวของวัสดุอิเล็กโทรดที่เกิดขึ้นระหว่างชาร์จ/จ่ายไฟซึ่งอาจทำให้เกิดรอยร้าว Benz ยังได้ปรับปรุงระบบจัดการความร้อน ทำให้การชาร์จเร็วมีประสิทธิภาพมากขึ้นถึง 30% และควบคุมอุณหภูมิของแบตเตอรี่บนสนามแข่ง Nürburgring ให้อยู่ในช่วง ±2 องศาเซลเซียสตลอดการทดสอบความโหดขั้นสุด

ต้นทุนคืออุปสรรคใหญ่ของแบตฯ โซลิดสเตต

แม้แบตเตอรี่โซลิดสเตตจะมีจุดเด่นด้านเทคโนโลยีชัดเจน แต่ Markus Schäfer ก็ยอมรับว่าการผลิตในระดับอุตสาหกรรมยังคงมีความท้าทายด้านต้นทุน โดยปัจจุบันต้นทุนการผลิตยังสูงกว่าแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนถึง 3 เท่า อย่างไรก็ตาม Benz กำลังเดินหน้าลดต้นทุนผ่านการออกแบบแบบโมดูลาร์ (Modular Design) โดยตั้งเป้าลดช่องว่างด้านต้นทุนลงเหลือเพียง 20% ภายในปี 2029 หากทำได้ตามแผน ความต่างของราคาขายระหว่างรุ่นแบตเตอรี่โซลิดสเตตกับรุ่นปกติในอนาคตจะอยู่ที่ไม่เกิน 8,000 ปอนด์ (ประมาณ 348,800 บาท หรือ 46,000 ริงกิต) นอกจากนี้ รถทดสอบยังสามารถวิ่งได้ถึง 98% ของระยะทางตามที่ระบุ แม้อยู่ในสภาพแวดล้อมหนาวจัด -30 องศาเซลเซียสในที่ราบสูงสกอตแลนด์ ทำให้ทีมวิศวกรมั่นใจว่าการผลิตจริงเชิงพาณิชย์จะเกิดขึ้นได้ในไม่ช้า

หลายค่ายประกาศลุยผลิตแบตฯ โซลิดสเตตก่อนกำหนด

ความเคลื่อนไหวของ Benz ได้จุดกระแสวงกว้างในวงการรถยนต์ โดยล่าสุด Toyota ประกาศเร่งแผนการผลิตแบตเตอรี่โซลิดสเตตให้เร็วขึ้นจากเดิมในปี 2030 มาเป็นปี 2027 ขณะเดียวกัน BMW ก็เร่งความร่วมมือกับ Solid Power เพื่อพัฒนาแบตเตอรี่ชนิดซัลไฟด์ ส่วน CATL จากจีนก็เริ่มนำแบตเตอรี่กึ่งโซลิดสเตตติดตั้งในรุ่น MG MG4 แล้ว

อย่างไรก็ตาม Benz ยังคงเป็นผู้นำในสนามทดสอบ ด้วยข้อมูลการใช้งานจริงที่ครอบคลุมทุกสภาพแวดล้อม ทั้งการขับทางตรงบนทางด่วนเยอรมัน Autobahn ที่ความเร็ว 200 กม./ชม. อย่างต่อเนื่อง รวมถึงการทดสอบท่ามกลางอุณหภูมิสูง 50 องศาเซลเซียสในทะเลทรายซาฮารา ล่าสุดรถทดสอบชุดที่ 15 ได้เข้าสู่การทดสอบสภาพภูเขาสูงในเขต Guadarrama ประเทศสเปน เป็นการยืนยันว่าโครงการแบตเตอรี่โซลิดสเตตของ Benz กำลังเดินหน้าเต็มสปีด

เทคโนโลยีที่ครั้งหนึ่งเคยถูกมองว่าเป็นเพียง “นวัตกรรมในห้องทดลอง” วันนี้กำลังก้าวสู่ความจริงอย่างมั่นคง ด้วยระยะวิ่งทดสอบจริงเฉลี่ยกว่า 2,000 กิโลเมตรต่อเดือน