Toyota Hilux GR Sport รุ่นใหม่กำลังอยู่ระหว่างการทดสอบ คาดว่าจะเปิดตัวได้ภายในสิ้นปีนี้

【PCauto】Toyota Hilux GR Sport รุ่นใหม่อาจเปิดตัวในประเทศไทยเป็นที่แรกช่วงปลายปี 2025 ถึงต้นปี 2026 ซึ่งตอกย้ำบทบาทของไทยในฐานะฐานการผลิตระดับโลก อย่างไรก็ตาม การปรับโฉมครั้งนี้จัดเป็นการไมเนอร์เชนจ์แบบลึก (Deep Facelift) ไม่ใช่โมเดลใหม่ทั้งหมด โดยโครงสร้างช่วงกลางตัวรถ เช่น เส้นประตูและรูปทรงห้องโดยสาร ยังคงคล้ายรุ่นปัจจุบัน แสดงให้เห็นว่ายังคงพัฒนาบนแพลตฟอร์มโครงแชสซี IMV เดิม

แนวทางนี้สอดคล้องกับกลยุทธ์ของ Toyota ในช่วงหลัง เช่นการปรับโฉม Camry เมื่อปีที่แล้ว ซึ่งใช้แนวคิดเดียวกัน การเปลี่ยนแปลงหลักจะอยู่ที่ด้านหน้าและด้านท้ายของตัวรถ โดยจากภาพทดสอบพบว่ามีชุดไฟหน้า LED ดีไซน์เฉียบคมขึ้น กระจังหน้าลดขนาดลงและเปลี่ยนเป็นลายตาข่าย ขณะที่ไฟท้ายได้รับแรงบันดาลใจจากแถบไฟรูปตัว C ของ Tacoma เวอร์ชันอเมริกาเหนือ

อีกจุดที่น่าสนใจคือ Toyota Hilux คันที่หลุดออกมานั้นติดตั้งโรลบาร์สปอร์ตและบันไดข้าง ซึ่งบ่งชี้ว่าอาจเป็นรุ่น GR Sport สมรรถนะสูง

GR Sport รุ่นยังคงเดินตามแนวทางสปอร์ต

นอกจากตราสัญลักษณ์เฉพาะรุ่นและชุดแต่งสไตล์สปอร์ตแล้ว จากภาพรถทดสอบยังเผยให้เห็นว่าระยะห่างล้อทั้งสี่กว้างกว่ารุ่นปกติอย่างชัดเจน บ่งบอกถึงการอัปเกรดระบบช่วงล่าง ข้อมูลจากวงในระบุว่า วิศวกรของ Toyota กำลังมุ่งปรับปรุงสมรรถนะของแชสซี โดยอาจเปลี่ยนเบรกหลังจากดรัมเบรกเป็นดิสก์เบรก พร้อมปรับจูนโช้คอัพ KYB แบบโมโนทูบใหม่ทั้งหมด

ภายในคาดว่าจะมาพร้อมเบาะนั่งดีไซน์สปอร์ตยิ่งขึ้น และอาจนำเทคโนโลยีเบาะ IsoDynamic จาก Tacoma TRD Pro เข้ามาใช้ ช่วยซับแรงสะเทือนเพิ่มความสบายในการขับขี่เส้นทางออฟโรด ด้านเทคโนโลยีคาดว่าจะติดตั้งหน้าจอสัมผัสกลางขนาด 12.3 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay แบบไร้สาย พร้อมกล้องรอบคันพร้อมโหมดออฟโรด ส่วนระบบความปลอดภัยจะได้รับการอัปเกรดเป็นชุด Toyota Safety Sense รุ่นล่าสุด เพื่อให้ผ่านมาตรฐานความปลอดภัยใหม่ของ ANCAP

รถยนต์รุ่นใหม่จะคงใช้เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 2.8L

เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 2.8 ลิตรของรุ่นนี้ยังคงใช้รหัส 1GD ให้กำลังสูงสุด 165 กิโลวัตต์ และแรงบิด 550 นิวตันเมตร แม้ระบบไฮบริดแบบ 48V (V-Active) ที่เริ่มใช้งานในตลาดยุโรปอาจถูกนำมาใช้ในเวอร์ชันเอเชีย แต่ยังไม่มีสัญญาณว่ารุ่นเครื่องยนต์ดีเซล V6 ขนาด 3.3 ลิตร หรือระบบปลั๊กอินไฮบริดจะถูกนำมาใช้ในเร็ว ๆ นี้

ด้านระบบส่งกำลัง มีความเป็นไปได้ว่าจะเปลี่ยนจากเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีดเดิม ไปใช้เกียร์อัตโนมัติ 8 สปีดแบบเดียวกับ Land Cruiser Prado เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพด้านอัตราสิ้นเปลือง ส่วนรุ่นเริ่มต้นจะยังคงใช้เครื่องยนต์ดีเซล 2.4 ลิตร (รหัส 2GD) โดยมีการปรับปรุงให้สอดคล้องกับมาตรฐานการปล่อยมลพิษใหม่

กลยุทธ์ด้านราคาน่าจะยังคงอยู่ในตำแหน่งเดิม

Hilux GR Sport ยังคงต้องเผชิญการแข่งขันกับกระบะสไตล์สปอร์ตคู่แข่งอย่าง Ford Ranger Tremor และ Isuzu D-Max Blade อย่างไรก็ตาม ในด้านพละกำลังยังเป็นรองเมื่อเทียบกับ Ranger Raptor เวอร์ชันออสเตรเลียที่มาพร้อมเครื่องยนต์ V6 ทวินเทอร์โบ ให้กำลังสูงสุดถึง 292 กิโลวัตต์ และแรงบิด 583 นิวตันเมตร

สำหรับราคาจำหน่ายในตลาดออสเตรเลีย รุ่น GR Sport ปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 74,310 ดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือราว 1,850,000 บาท โดยรุ่นใหม่คาดว่าจะปรับขึ้นเล็กน้อยไปอยู่ในช่วง 80,000 ดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือประมาณ 2,000,000 บาท ขณะที่ประเทศไทยในฐานะตลาดเปิดตัว คาดว่าจะตั้งราคาขายได้แข่งขันมากกว่า

กระบวนการทดสอบและตารางเวลาในการผลิต

จากการทดสอบบนถนนจริงอย่างต่อเนื่องในช่วงนี้ แสดงให้เห็นว่า Toyota กำลังเข้าสู่ขั้นตอนการปรับจูนขั้นสุดท้าย โดยเน้นการตรวจสอบความทนทานของระบบช่วงล่าง และประสิทธิภาพของระบบเบรกภายใต้สภาวะร้อนจัด ตามข้อมูลจากห่วงโซ่อุปทานด้านชิ้นส่วน รุ่นสำหรับผลิตจริงคาดว่าจะเริ่มเดินสายการผลิตในช่วงครึ่งหลังของปี 2025 ที่โรงงานจังหวัดชลบุรี ก่อนจะทยอยเข้าสู่ตลาดออสเตรเลียและภูมิภาคอื่น ๆ

นี่จะถือเป็นการปรับโฉมครั้งใหญ่ที่สุดของ Hilux รุ่นปัจจุบัน (โค้ด GDN300) นับตั้งแต่เปิดตัวในปี 2015 โดยมุ่งเน้นไปที่การยืดอายุผลิตภัณฑ์ผ่านการปรับดีไซน์และอัปเกรดอุปกรณ์ มากกว่าการย้ายไปใช้แพลตฟอร์มใหม่ TNGA-F แบบพลิกโฉมทั้งคัน

สำหรับกลุ่มผู้บริโภคที่คาดหวังความเปลี่ยนแปลงแบบพลิกหน้าประวัติศาสตร์ Hilux GR Sport ใหม่นี้น่าจะถูกมองว่าเป็นเวอร์ชันเสริมสมรรถนะขั้นสุดของรุ่นปัจจุบัน จุดแข็งยังคงอยู่ที่ความน่าเชื่อถือที่พิสูจน์มาแล้ว และสมรรถนะด้านออฟโรดที่โดดเด่น ขณะที่ในด้านการขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าและเทคโนโลยีเครื่องยนต์ Toyota ยังคงเลือกแนวทางการพัฒนาอย่างค่อยเป็นค่อยไปแบบอนุรักษ์นิยม