มีรายงานว่า Nissan อาจจับมือ Foxconn หวังพลิกฟื้นโรงงาน Oppama
สุรเดชJul 09, 2025, 10:37 AM
【PCauto】โรงงาน Oppama ของ Nissan ซึ่งตั้งอยู่ในจังหวัดคานากาวะ กำลังเผชิญกับความท้าทายครั้งใหญ่ ด้วยจำนวนพนักงานราว 3,900 คน แต่กลับมีอัตราการใช้กำลังการผลิตที่ต่ำอย่างต่อเนื่อง จนล่าสุดถูกจัดให้อยู่ในรายชื่อโรงงานที่อาจถูกปิดตัวลงในอนาคต
Foxconn อาจจับมือร่วมงานกับ Nissanในอนาคต
ท่ามกลางแรงกดดันจากทางการท้องถิ่นและความกังวลเรื่องการจัดหางานให้พนักงาน มีรายงานว่า Nissan กำลังอยู่ระหว่างการเจรจากับ Foxconn เพื่อหาทางร่วมมือผลิตรถยนต์ไฟฟ้า โดยมีเป้าหมายเพื่อรักษาสถานะของโรงงานที่กำลังถูกคุกคามจากการปิดตัว ความเคลื่อนไหวครั้งนี้ถือว่าน่าสนใจ เพราะก่อนหน้านี้ทั้ง Nissan และวงการรถยนต์ญี่ปุ่นโดยรวม เคยปฏิเสธข้อเสนอความร่วมมือจาก Foxconn อย่างชัดเจน
ตามรายงานระบุว่า แกนหลักของการเจรจาระหว่างทั้งสองฝ่าย คือการที่ Foxconn จะเข้ามาใช้ประโยชน์จากไลน์การผลิตเดิมในโรงงาน Oppama ของ Nissan เพื่อผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในรูปแบบรับจ้างผลิต (OEM) ซึ่งถ้ามองในมุมของ Nissan การร่วมมือครั้งนี้จะช่วยเพิ่มอัตราการใช้ประโยชน์ของโรงงานอย่างรวดเร็ว และหลีกเลี่ยงการปิดกิจการ ขณะที่ Foxconn เองก็จะได้โอกาสเข้าสู่แวดวงการผลิตรถยนต์ในญี่ปุ่น และขยายฐานธุรกิจด้านการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าให้กว้างขึ้นอีกขั้น
เบื้องหลังการเปลี่ยนใจของ Nissan
ย้อนกลับไปในปี 2022 Nissan เคยตั้งข้อสงสัยในศักยภาพด้านการผลิตรถยนต์ของ Foxconn โดยมองว่าแม้ Foxconn จะเชี่ยวชาญด้านการผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ แต่ยังขาดประสบการณ์ในสายการผลิตรถยนต์ทั้งคัน อีกทั้งอุตสาหกรรมยานยนต์ยังมีมาตรฐานความปลอดภัยและการจัดการซัพพลายเชนที่เข้มงวดกว่าอย่างมาก ขณะนั้น Nissan ยังให้ความสำคัญกับการใช้ทรัพยากรภายในเพื่อเดินหน้าสู่ยุครถยนต์ไฟฟ้า โดยเลือกผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกอย่าง Ariya ด้วยตนเองทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม สภาพตลาดที่เปลี่ยนแปลงไปทำให้ Nissan ต้องกลับมาทบทวนกลยุทธ์อีกครั้ง ปัญหาโรงงาน Oppama ที่มีกำลังการผลิตล้นและว่างงานมากขึ้นเรื่อย ๆ กลายเป็นเรื่องเร่งด่วน โดยเฉพาะหากต้องปิดโรงงาน จะกระทบต่อพนักงานราว 3,900 คน และส่งผลต่อเศรษฐกิจในท้องถิ่นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ในขณะเดียวกัน Foxconn ก็เร่งวางรากฐานธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้าอย่างจริงจังตลอด 3 ปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นการเปิดตัวแพลตฟอร์มรถไฟฟ้าแบบเปิด MIH ในปี 2020 ที่มีซัพพลายเออร์กว่า 500 รายเข้าร่วม เช่น Qualcomm และ CATL การซื้อกิจการโรงงาน Lordstown ในสหรัฐฯ ในปี 2022 เพื่อสะสมประสบการณ์การผลิตจริง การลงนามสัญญารับจ้างผลิตรถยนต์ไฟฟ้า SUV รุ่น PEAR ให้กับแบรนด์ Fisker และการตั้งโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าร่วมทุนในประเทศไทย ความเคลื่อนไหวเหล่านี้ค่อย ๆ ต่อจิ๊กซอว์ด้านศักยภาพการผลิตรถยนต์ของ Foxconn ให้สมบูรณ์มากขึ้น
Foxconn เดินหน้าเดินเกมจับมือ Nissan ต่อเนื่อง
แม้จะเคยถูกปฏิเสธหลายครั้ง แต่ Foxconn ก็ยังคงมุ่งมั่นและกระตือรือร้นในการเข้าสู่อุตสาหกรรมยานยนต์อย่างต่อเนื่อง ข้อเสนอหลักที่ Foxconn นำเสนอคือแพลตฟอร์ม MIH ซึ่งเปิดโอกาสให้ Nissan สามารถใช้ร่วมกันทั้งโครงสร้างแชสซีและเทคโนโลยีแบตเตอรี่แบบโมดูลาร์ ช่วยลดต้นทุนด้านวิจัยและพัฒนาได้อย่างมาก นอกจากนี้ Foxconn ยังให้คำมั่นว่าจะใช้จุดแข็งด้านซัพพลายเชนระดับโลก เพื่อช่วยให้ Nissan มีความมั่นคงในด้านการผลิต ข้อเสนอเหล่านี้ถือเป็นจุดดึงดูดที่น่าสนใจสำหรับ Nissan ที่กำลังเผชิญแรงกดดันด้านงบลงทุนในช่วงเปลี่ยนผ่านสู่ยุครถยนต์ไฟฟ้า
การเจรจายังติดปัญหาเรื่องเทคโนโลยีที่ต้องปรับจูนกัน
Foxconn ยังต้องพิสูจน์ให้ Nissan เห็นว่าสามารถผ่านมาตรฐานการควบคุมคุณภาพที่เข้มงวดได้ โดยเฉพาะในด้านการทดสอบความปลอดภัยและความทนทานของตัวรถ ซึ่งถือเป็นจุดสำคัญที่ Nissan ให้ความสำคัญเป็นอย่างมากนอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายยังต้องหาทางปรับจูนกระบวนการผลิตให้สอดคล้องกัน เพราะในโรงงาน Lordstown ของ Foxconn นั้น ผลิตรถได้เพียง 6 คันต่อชั่วโมง ขณะที่โรงงานของผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ทั่วไปสามารถเดินไลน์ได้ถึง 60 คันต่อชั่วโมง ประเด็นเรื่องการจัดการพนักงานก็ถือว่าอ่อนไหวไม่แพ้กัน ยังต้องประเมินว่าพนักงานเดิมของโรงงาน Oppama จะสามารถปรับตัวเข้ากับระบบการผลิตของ Foxconn ได้มากน้อยเพียงใด
หากดีลความร่วมมือครั้งนี้สำเร็จ โรงงาน Oppama จะกลายเป็นฐานการผลิตรถยนต์แห่งแรกของ Foxconn ในประเทศญี่ปุ่น และในขณะเดียวกันก็จะช่วยสร้างรายได้ใหม่ให้กับ Nissan ด้วย อย่างไรก็ตาม หัวใจของความสำเร็จจะขึ้นอยู่กับว่า ทั้งสองฝ่ายสามารถตกลงกันได้ในเรื่องมาตรฐานการผลิต การแบ่งปันเทคโนโลยี และการบริหารจัดการบุคลากรหรือไม่ ซึ่งเป็นประเด็นหลักที่ยังต้องหาข้อสรุปร่วมกัน ปัจจุบันการเจรจายังอยู่ระหว่างดำเนินการ และยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดรูปแบบความร่วมมือหรือไทม์ไลน์ที่ชัดเจนสู่สาธารณะ
คุณสามารถติดต่อเราให้ลบออกเนื้อหาถ้าละเมิดลิขสิทธิ์
ข้อมูลยอดนิยม

นี่จะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าล้วนที่มีกำลังมากที่สุดของ Toyota เท่าที่เคยมีมา โดยจะเปิดตัวในยุโรปเป็นที่แรกในปีหน้า
【PCauto】bZ4X Touring มีแผนวางจำหน่ายในยุโรปช่วงฤดูใบไม้ผลิปี 2026 โดยเป็นรุ่นต่อยอดจาก bZ4X เวอร์ชันมาตรฐานที่ได้รับการปรับปรุงให้รองรับการบรรทุกและการใช้งานแบบออฟโรดได้ดีขึ้น พร้อมกำลังรวมสูงสุด 280 กิโลวัตต์ ซึ่งเป็นระดับกำลังที่สูงที่สุดในกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้าของ Toyota จนถึงขณะนี้ bZ4X Touring มีขนาดตัวถังและพื้นที่ภายในที่ใหญ่ขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และในฐานะรุ่นแฝดของ Subaru Trailseeker รถรุ่นนี้พัฒนาบนแพลตฟอร์ม e-TNGA เช่นเดียวกัน แต่ได้รับการขยายมิติตัวรถเพื่อรองรับการใช้งานที่หลากหลายมากขึ้น

หลังจากความสำเร็จของ Tank 300 รุ่นดีเซลแล้ว Tank 500 รุ่นดีเซลก็จะถูกนำเข้ามาเช่นกัน
【PCauto】หลังจาก Tank 300 รุ่นดีเซลประสบความสำเร็จเกินคาด GWM วางแผนนำ Tank 500 รุ่นดีเซลเข้าสู่ตลาดไทยในไตรมาสที่สี่ของปี 2025 รถเอสยูวีออฟโรดระดับพรีเมียมที่มาพร้อมขุมพลังดีเซล 24 เทอร์โบรุ่นนี้จะผลิตในประเทศที่โรงงานจังหวัดระยอง ราคาคาดการณ์ราวสองล้านบาท เจาะตลาดเดียวกับ Toyota Fortuner และ Isuzu MU X ซึ่งเป็นเอสยูวีดีเซลยอดนิยมในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

Audi Q3 เจเนอเรชันใหม่เปิดตัวทั่วโลก 16 มิถุนายน 2025 มาพร้อมนวัตกรรมหลากหลายด้าน
【PCauto】แบรนด์ Audi ได้ประกาศอย่างเป็นทางการว่า Audi Q3 เจเนอเรชันใหม่ จะเปิดตัวครั้งแรกทั่วโลกในวันที่ 16 มิถุนายน 2025 โดยระบุว่า SUV รุ่นใหม่นี้จะเป็นการยกระดับมาตรฐานในหลายมิติ จากข้อมูลเบื้องต้น รถรุ่นใหม่นี้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจนในด้าน ภาษาในการออกแบบ, ห้องโดยสารแบบดิจิทัล และ ระบบขับเคลื่อน Q3 ถือเป็นหนึ่งในรุ่นขายดีที่สุดของ Audi โดยมียอดขายสะสมทั่วโลกทะลุ 2 ล้านคัน นับตั้งแต่เปิดตัวรุ่นแรก

โตโยต้าวางแผนจะเปิดตัว Land Cruiser FJ (500D) โดยประเทศไทยจะเป็นสถานที่ผลิตหลัก
【PCauto】Toyota เตรียมเปิดตัวรถรุ่นใหม่ Land Cruiser FJ รหัสโครงการ 500D ได้แรงบันดาลใจจากรุ่นคลาสสิก FJ40 พร้อมผสมผสานดีไซน์ของ Land Rover Defender และ Suzuki JIMNY คาดเปิดตัวครั้งแรกทั่วโลกในงาน Japan Mobility Show วันที่ 29 ถึง 30 ตุลาคม 2025 โดยเป็นรุ่นเครื่องยนต์เบนซินเวอร์ชันญี่ปุ่น ไทยเป็นฐานการผลิตหลักของรุ่นนี้ คาดผู้บริโภคชาวไทยจะได้เห็นในงาน Motor Expo ช่วงปลายปี 2025 และเริ่มวางจำหน่ายต้นปี 2026

NISSAN X-Trail e-POWER จะเปิดตัวในประเทศไทยภายในสิ้นปี 2025
【PCauto】Nissan เตรียมนำเข้า X-Trail e-POWER e-4ORCE รุ่นใหม่ล่าสุด (รหัสภายใน T33) จากประเทศญี่ปุ่นเข้าสู่ตลาดประเทศไทยช่วงปลายปี 2025 ในรูปแบบรถยนต์นำเข้าทั้งคัน สำหรับผู้บริโภคที่ให้ความสนใจกับรถรุ่นนี้ ราคาจำหน่ายถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ได้รับความสนใจเป็นอันดับแรกอย่างไม่ต้องสงสัย
รถยอดนิยม
เปรียบเทียบรถยนต์
รูปภาพรถ
ภาพภายใน