Nissan อาจจับมือผลิตกระบะให้ Honda ในสหรัฐฯ เพื่อแก้ปัญหาการเงิน?

【PCauto】ท่ามกลางความตึงเครียดทางการค้าระหว่างญี่ปุ่นและสหรัฐฯ ที่ยังคงปะทุขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงปัญหาด้านการเงินของบริษัท Nissan ล่าสุดมีรายงานว่า Nissan มีแผนจะใช้กำลังการผลิตส่วนเกินที่โรงงาน Canton ในรัฐมิสซิสซิปปี สหรัฐอเมริกา เพื่อรับจ้างผลิตรถกระบะให้กับ Honda โดยขณะนี้ทั้งสองฝ่ายได้เริ่มต้นการเจรจาเชิงลึกแล้ว

โรงงาน Canton ถือเป็นฐานการผลิตหลักของ Nissan ในอเมริกาเหนือ เดิมทีใช้ผลิตรถกระบะ Nissan Frontier และรถ SUV บางรุ่น แต่ในช่วงหลังมานี้ กำลังการผลิตกลับถูกใช้งานน้อยลง เนื่องจากยอดขายที่ผันผวนและการปรับตัวเข้าสู่ยุครถยนต์ไฟฟ้า

Honda ต้องการฐานการผลิตแทนในสหรัฐฯ อย่างเร่งด่วน

แหล่งข่าววงในเปิดเผยว่า ฝ่ายบริหารของนิสสันเริ่มประเมินแผนการรับจ้างผลิตตั้งแต่ต้นปี 2025 โดยมีเป้าหมายเพื่อเปลี่ยนสายการผลิตที่ไม่ได้ใช้งานให้กลายเป็นรายได้จริง ขณะที่ทางฮอนด้าก็มีความต้องการชัดเจน โดยเฉพาะกับรถกระบะรุ่นหลักอย่าง Ridgeline ที่ยังคงพึ่งพาการผลิตในญี่ปุ่นเป็นหลัก ท่ามกลางแรงกดดันจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ที่มีแนวโน้มจะเรียกเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์จากญี่ปุ่นเพิ่มเติม ทำให้การผลิตในประเทศกลายเป็นทางเลือกที่หลีกเลี่ยงไม่ได้

แรงผลักดันสำคัญของความร่วมมือครั้งนี้คือการหลีกเลี่ยงความเสี่ยงด้านการค้า หลังการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และญี่ปุ่นในปี 2024 ประสบภาวะชะงักงัน โดยฝ่ายสหรัฐฯ ขู่จะเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์จากญี่ปุ่นสูงถึง 25% หากฮอนด้าสามารถย้ายการผลิต Ridgeline มายังสหรัฐฯ ได้ ก็จะสามารถประหยัดต้นทุนด้านภาษีไปได้หลายล้านดอลลาร์

ในมุมของนิสสัน การรับจ้างผลิตครั้งนี้ยังเป็นทางออกจากวิกฤตทางการเงิน รายงานผลประกอบการปีงบประมาณ 2024 ระบุว่านิสสันขาดทุนสุทธิถึง 4.5 พันล้านดอลลาร์ ขณะที่สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือมูดี้ส์ได้ลดอันดับเครดิตของบริษัทลงสู่ระดับ “ขยะ” หลังจากซีอีโอคนใหม่ Ivan Espinosa เข้ารับตำแหน่งในเดือนเมษายน 2025 ก็ได้เริ่มแผนลดต้นทุนทันที รวมถึงการปิดโรงงานในอินโดนีเซียและการปลดพนักงานกว่าหมื่นคน

แม้การเจรจาควบรวมกิจการระหว่างนิสสันและฮอนด้าในปี 2024 จะไม่ประสบผลสำเร็จ แต่ทั้งสองบริษัทยังคงมีแนวโน้มร่วมมือกันในด้านมาตรฐานชิ้นส่วนรถยนต์ไฟฟ้า และโครงสร้างพื้นฐานด้านการชาร์จที่ใช้ร่วมกันได้ในอนาคต

ทั้งสองฝ่ายยังคงเงียบเกี่ยวกับดีลรับจ้างผลิต

เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2025 ที่ผ่านมา Nissan ได้ออกมายอมรับเป็นครั้งแรกในงานแถลงผลประกอบการไตรมาสว่า “ยังคงอยู่ระหว่างการหารือความร่วมมือกับ Honda” แต่ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับการผลิตแบบรับจ้าง ส่วนทางฝั่ง Honda ยังคงไม่ออกความเห็นและปฏิเสธที่จะตอบคำถามจากสื่อประเด็นสำคัญที่อาจเป็นอุปสรรคหลักของความร่วมมือครั้งนี้คือข้อจำกัดด้านเทคนิคของโรงงาน Canton ซึ่งเป็นฐานการผลิตในสหรัฐฯ ของ Nissan โดยสายการผลิตในปัจจุบันถูกออกแบบมาสำหรับรถกระบะแบบโครงแชสซีแยก (body-on-frame) เช่น Nissan Frontier ขณะที่ Honda Ridgeline ใช้โครงสร้างแบบตัวถังรับแรง (unibody) หากจะผลิตร่วมกันจริง อาจจำเป็นต้องลงทุนปรับปรุงสายการผลิตเพิ่มเติม

แม้ความร่วมมือระหว่างทั้งสองบริษัทยังไม่แน่นอน แต่ก็ถูกมองว่าเป็นกลยุทธ์ใหม่ของแบรนด์รถยนต์ญี่ปุ่นในการรับมือกับการแข่งขันระดับโลก ข้อมูลจากสถาบันวิจัยตลาดสหรัฐฯ Cox Automotive ระบุว่า ในช่วงครึ่งแรกของปี 2025 รถกระบะจากแบรนด์ญี่ปุ่นมีส่วนแบ่งตลาดในสหรัฐฯ ไม่ถึง 15% ซึ่งต่ำกว่าคู่แข่งจากอเมริกาอย่าง Ford และ Chevrolet อย่างชัดเจน ขณะเดียวกัน ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าจากจีนอย่าง GWM (Great Wall Motor) ก็กำลังวางแผนเข้าสู่ตลาดอเมริกาเหนือในปี 2026 โดยรถรุ่นแรกที่จะเปิดตัวก็คือรถกระบะไฟฟ้า

ในตอนนี้ โครงการผลิตรถแบบรับจ้างในโรงงานแคนตันยังไม่มีการลงนามข้อตกลงขั้นสุดท้าย อย่างไรก็ตาม อุตสาหกรรมโดยรวมต่างเห็นตรงกันว่า ในยุคที่แนวคิดชาตินิยมทางการค้ามีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น และบริษัทรถยนต์จีนกำลังขยายตัวในระดับโลก ความร่วมมือที่เน้นความเป็นจริงเช่นนี้ อาจกลายเป็นทางเลือกหลักของผู้ผลิตรถยนต์ญี่ปุ่นในอนาคต