ยักษ์รถญี่ปุ่นเจอศึกหนัก! กำไรดิ่งหลังโดนสหรัฐฯ เก็บภาษีเพิ่ม

พงศธรAug 06, 2025, 03:48 PM


【PCauto】ท่ามกลางสภาพแวดล้อมทางการค้าที่ผันผวนทั่วโลก ผู้ผลิตรถยนต์ญี่ปุ่นอย่าง Toyota, Honda และ Mazda กำลังเผชิญกับแรงกดดันทางธุรกิจที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน รายงานผลประกอบการล่าสุดชี้ให้เห็นว่า การขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ร่วมกับการแข็งค่าของเงินเยน กำลังส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อความสามารถในการทำกำไรของค่ายรถญี่ปุ่นเหล่านี้

Toyota ยอดขายโตแต่กำไรร่วง

Toyota ในฐานะแชมป์ยอดขายรถยนต์ระดับโลก คาดว่ากำไรจากการดำเนินงานในไตรมาสแรกของปี 2025 จะลดลงถึง 31% เหลือ 902 พันล้านเยน ต่ำที่สุดในรอบกว่าสองปี ตัวเลขดังกล่าวตัดกับยอดขายทั่วโลกที่ยังเติบโต 6% อย่างชัดเจน สะท้อนให้เห็นถึงผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนและภาษีนำเข้าที่กัดกินกำไร

ที่น่าสนใจคือ แม้รถไฮบริดอย่าง Camry Hybrid และ Sienna Hybrid จะยังคงขายดีในตลาดสหรัฐฯ แต่การเก็บภาษีนำเข้าถึง 27.5% (ลดลงเหลือ 15% หลังวันที่ 1 สิงหาคม) ยังคงสร้างแรงกดดันด้านต้นทุนให้กับ Toyota อย่างมาก

Honda หดแผนรับมือวิกฤต

สถานการณ์ของ Honda หนักกว่าอีกหลายค่าย โดยคาดว่ากำไรจากการดำเนินงานจะลดลงถึง 36% เหลือ 3.117 แสนล้านเยน และได้มีการแจ้งเตือนว่ากำไรทั้งปีอาจดิ่งลงถึง 59%

ท่ามกลางยอดขายที่ลดลงเป็นเลขสองหลักในทั้งตลาดจีนและยุโรป Honda จำเป็นต้องเลื่อนแผนสร้างโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในแคนาดาออกไป และหันไปโฟกัสที่การพัฒนารถยนต์ไฮบริดแทน

การหดตัวทางกลยุทธ์ครั้งนี้ สะท้อนถึงความพยายามของค่ายรถญี่ปุ่นในการทรงตัวระหว่างการเปลี่ยนผ่านสู่ยุครถยนต์ไฟฟ้าและแรงกดดันทางธุรกิจในระยะสั้น

Mazda เจอภาษีสหรัฐฯ กระแทกเต็มแรง

เมื่อเทียบกับสองค่ายยักษ์ใหญ่ก่อนหน้า Mazda ซึ่งมีขนาดเล็กกว่าถือว่าได้รับผลกระทบหนักที่สุด บริษัทคาดว่าผลกระทบจากภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ จะทำให้กำไรจากการดำเนินงานในปีงบประมาณ 2025 หายไปถึง 145.2 พันล้านเยน หรือคิดเป็น 74% ของกำไรในปีที่แล้ว

โรงงานของ Mazda ที่เมืองGuanajuato ประเทศเม็กซิโก ซึ่งใช้สำหรับส่งออกรถไปยังสหรัฐฯ ต้องเผชิญกับภาษีสูงถึง 25% ขณะที่การส่งออกจากญี่ปุ่นยังต้องเสียภาษีในอัตรา 15% หากไม่มีมาตรการรับมือที่ชัดเจน ความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นอาจพุ่งสูงถึง 233.5 พันล้านเยน

3 ค่ายรถญี่ปุ่นเร่งปักหลักผลิตในอเมริกา หนีภาษีนำเข้า

Toyota กำลังขยายกำลังการผลิตที่โรงงานในรัฐอลาบามา ขณะที่ Honda ปรับโครงสร้างการผลิตใหม่ในแคนาดา และ Mazda ก็เร่งเพิ่มกำลังการผลิตของโรงงานร่วมทุนในอลาบามาเช่นกัน

แม้การปรับแผนผลิตในท้องถิ่นจะต้องใช้เงินลงทุนมหาศาล แต่ในระยะยาวถือเป็นทางเลือกที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เพื่อกระจายความเสี่ยงด้านการค้า

นอกจากนี้ ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนยังเป็นอีกหนึ่งความท้าทายที่สำคัญ โดยทุก ๆ 1 เยนที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ จะทำให้กำไรจากการดำเนินงานของ Toyota หายไปถึง 35 พันล้านเยน เพื่อรับมือกับความไม่แน่นอนนี้ บรรดาค่ายรถญี่ปุ่นจึงเร่งเสริมมาตรการป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน และเดินหน้าจัดซื้อวัตถุดิบในท้องถิ่นเพิ่ม เพื่อลดความอ่อนไหวต่อค่าเงิน

วิกฤตรอบนี้กำลังเขย่าโฉมใหม่อุตสาหกรรมรถญี่ปุ่น

ตั้งแต่ต้นปี 2025 เป็นต้นมา ราคาหุ้นของ Toyota ร่วงลงแล้วกว่า 16% ขณะที่หุ้นของ Honda แทบไม่ขยับ ค่ายรถญี่ปุ่นอาจต้องใช้เวลาระหว่าง 3–5 ปีในการปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมทางการค้าแบบใหม่ ในช่วงเปลี่ยนผ่านนี้ บริษัทใดที่สามารถเร่งปรับแผนการผลิตทั่วโลกและปรับโครงสร้างผลิตภัณฑ์ได้เร็วกว่า ก็จะได้เปรียบในการแข่งขัน

อีกประเด็นที่น่าจับตาคือ วิกฤตรอบนี้ยังผลักให้เส้นทางเทคโนโลยีในอุตสาหกรรมรถยนต์เริ่มแยกทิศทางชัดเจนมากขึ้น เมื่อการเปลี่ยนผ่านไปสู่รถยนต์ไฟฟ้าบริสุทธิ์ยังสะดุด รถยนต์ไฮบริดจึงกลับมาเป็นแหล่งรายได้หลักของค่ายรถญี่ปุ่น ผู้บริหาร Toyota ระบุว่า “ในช่วงเปลี่ยนผ่านนี้ เราจำเป็นต้องลงทุนในหลายเทคโนโลยีพร้อมกัน แม้จะเพิ่มต้นทุน แต่ก็ช่วยให้ธุรกิจเดินหน้าต่อได้อย่างมั่นคง”


# แนวโน้มในอุตสาหกรรม

คุณสามารถติดต่อเราให้ลบออกเนื้อหาถ้าละเมิดลิขสิทธิ์

ติดตามเรา

You Tube Facebook Google News

ข้อมูลยอดนิยม

Nissan เตรียมพลิกโฉม SUV รุ่นสำคัญ หวังพาแบรนด์พ้นวิกฤตธุรกิจ

Nissan เตรียมพลิกโฉม SUV รุ่นสำคัญ หวังพาแบรนด์พ้นวิกฤตธุรกิจ

【PCauto】Nissan X-Trail ใหม่ (หรือ Rogue ในตลาดอเมริกาเหนือ) กำลังจะเปิดตัวโฉมใหม่ปลายปี 2025 นี้ พร้อมบทบาทสำคัญในการกู้วิกฤตของแบรนด์ ท่ามกลางแรงกดดันจากการลดกำลังการผลิตและผลประกอบการขาดทุน แม้จะยังพัฒนาบนแพลตฟอร์ม CMF-CD เดิม แต่รุ่นใหม่นี้มาพร้อมดีไซน์และระบบขับเคลื่อนที่เปลี่ยนใหม่หมด ใช้แนวทางออกแบบ “Nissan NEXT” ที่ได้แรงบันดาลใจจากรถไฟฟ้า Ariya ด้านหน้าโดดเด่นด้วยกระจังหน้า V-Motion ที่เล็กลง พร้อมไฟหน้าเลเซอร์แบบ Matrix ในรุ่นสูงสุด และไฟ DRL ทรงหกเหลี่ยมห้าชิ้นสุดเฉียบ ด้านข้างเน้นเส้น

LienJul 14, 2025
เตรียมเปิดตัว!  Toyota Yaris ATIV HEV ใหม่ 21 ส.ค.นี้ ใช้ขุมพลังเดียวกับ Yaris Cross

เตรียมเปิดตัว! Toyota Yaris ATIV HEV ใหม่ 21 ส.ค.นี้ ใช้ขุมพลังเดียวกับ Yaris Cross

【PCauto】Yaris ATIV HEV ใหม่ จ่อเปิดตัว 21 ส.ค.นี้ มาพร้อมเครื่องยนต์ไฮบริดประหยัดสุด 26.3 กม./ลิตร Toyota เตรียมส่ง Yaris ATIV รุ่นไฮบริดบุกตลาดไทย 21 สิงหาคมนี้ โดยใช้ขุมพลังเดียวกับ Yaris Cross ได้แก่ เครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร รหัส 2NR-VEX ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า ให้พละกำลังรวม 111 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ e-CVT พร้อมแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาด 0.7 kWh รองรับน้ำมัน E20 ความเร็วสูงสุด 160 กม./ชม. อัตราสิ้นเปลืองดีเยี่ยมที่ 26.3 กม./ลิตร ตามมาตรฐาน WMTC เตรียมเปิดศึกรถซีดานไฮบริดประหยั

AshleyJul 21, 2025
นี่จะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าล้วนที่มีกำลังมากที่สุดของ Toyota เท่าที่เคยมีมา โดยจะเปิดตัวในยุโรปเป็นที่แรกในปีหน้า

นี่จะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าล้วนที่มีกำลังมากที่สุดของ Toyota เท่าที่เคยมีมา โดยจะเปิดตัวในยุโรปเป็นที่แรกในปีหน้า

【PCauto】bZ4X Touring มีแผนวางจำหน่ายในยุโรปช่วงฤดูใบไม้ผลิปี 2026 โดยเป็นรุ่นต่อยอดจาก bZ4X เวอร์ชันมาตรฐานที่ได้รับการปรับปรุงให้รองรับการบรรทุกและการใช้งานแบบออฟโรดได้ดีขึ้น พร้อมกำลังรวมสูงสุด 280 กิโลวัตต์ ซึ่งเป็นระดับกำลังที่สูงที่สุดในกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้าของ Toyota จนถึงขณะนี้ bZ4X Touring มีขนาดตัวถังและพื้นที่ภายในที่ใหญ่ขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และในฐานะรุ่นแฝดของ Subaru Trailseeker รถรุ่นนี้พัฒนาบนแพลตฟอร์ม e-TNGA เช่นเดียวกัน แต่ได้รับการขยายมิติตัวรถเพื่อรองรับการใช้งานที่หลากหลายมากขึ้น

ณัฐวุฒิJun 9, 2025
Mitsubishiเปิดตัว SUV 7 ที่นั่งรุ่น Destinator เพื่อแข่งขันกับ Honda CR-V

Mitsubishiเปิดตัว SUV 7 ที่นั่งรุ่น Destinator เพื่อแข่งขันกับ Honda CR-V

【PCauto】Mitsubishi Motors ได้เปิดตัว SUV เจ็ดที่นั่งรุ่นใหม่ Destinator อย่างเป็นทางการที่จาการ์ต้า รุ่นนี้ออกแบบมาเพื่อครอบครัวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้โดยเฉพาะ และจะเริ่มจำหน่ายในอินโดนีเซียเป็นประเทศแรก ก่อนขยายตลาดไปยังไทยและประเทศในอาเซียนอื่นๆ Mitsubishi Destinator มาพร้อมกับฐานล้อยาวพิเศษ 2815 มิลลิเมตร และระยะต่ำสุดจากพื้นถึงตัวรถ 214 มิลลิเมตร รถรุ่นนี้ตั้งเป้าหมายในตลาด SUV ขนาดกลางที่มี Honda CR-V ครองตำแหน่งผู้นำอยู่แล้ว

ธนวัฒน์Jul 21, 2025
หลังจากความสำเร็จของ Tank 300 รุ่นดีเซลแล้ว Tank 500 รุ่นดีเซลก็จะถูกนำเข้ามาเช่นกัน

หลังจากความสำเร็จของ Tank 300 รุ่นดีเซลแล้ว Tank 500 รุ่นดีเซลก็จะถูกนำเข้ามาเช่นกัน

【PCauto】หลังจาก Tank 300 รุ่นดีเซลประสบความสำเร็จเกินคาด GWM วางแผนนำ Tank 500 รุ่นดีเซลเข้าสู่ตลาดไทยในไตรมาสที่สี่ของปี 2025 รถเอสยูวีออฟโรดระดับพรีเมียมที่มาพร้อมขุมพลังดีเซล 24 เทอร์โบรุ่นนี้จะผลิตในประเทศที่โรงงานจังหวัดระยอง ราคาคาดการณ์ราวสองล้านบาท เจาะตลาดเดียวกับ Toyota Fortuner และ Isuzu MU X ซึ่งเป็นเอสยูวีดีเซลยอดนิยมในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

สุรเดชJun 12, 2025
ดูเพิ่มเติม