Toyota เข้าลงทุนเชิงกลยุทธ์ใน Joby เริ่มต้นรุกเข้าสู่ธุรกิจแท็กซี่บิน

【PCauto】เมื่อเร็ว ๆ นี้ Toyota ได้ดำเนินการลงทุนรอบแรกมูลค่า 250 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 9,000 ล้านบาท) ในบริษัทผู้ผลิตอากาศยานไฟฟ้า Joby Aviation ซึ่งถือเป็นก้าวแรกในการเข้าสู่ธุรกิจแท็กซี่บินของ Toyota

การลงทุนครั้งนี้เป็นการดำเนินการตามข้อตกลงที่ทั้งสองฝ่ายลงนามไว้ในเดือนตุลาคม 2024 โดยตามข้อมูลที่เปิดเผย การลงทุนดังกล่าวเป็นระยะที่หนึ่ง และ Toyota ได้ให้คำมั่นว่าจะลงทุนรวม 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 18,000 ล้านบาท) ภายในปี 2026

Toyotaเป็นผู้ถือหุ้นส่วนใหญ่ใน Joby

หลังการลงทุนครั้งล่าสุด สัดส่วนการถือหุ้นของ Toyota ในบริษัท Joby เพิ่มขึ้นเป็น 18.7% ส่งผลให้ Toyota กลายเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของบริษัทความสัมพันธ์ระหว่าง Toyota และ Joby เริ่มต้นขึ้นครั้งแรกในปี 2020 โดย Toyota ได้เข้าร่วมการระดมทุนรอบ C ของ Joby ซึ่งมีมูลค่า 394 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และได้ส่งตัวแทนเข้าร่วมในคณะกรรมการบริษัทอย่างต่อเนื่องเพื่อเสริมสร้างความร่วมมือ ในเดือนกรกฎาคม 2023 Ted Ogawa ซีอีโอของ Toyota North America ได้เข้าร่วมเป็นหนึ่งในคณะกรรมการของ Joby ซึ่งถือเป็นการวางรากฐานสำคัญสำหรับการลงทุนครั้งล่าสุดนี้

แตกต่างจากการลงทุนทางการเงินทั่วไป ทั้งสองฝ่ายได้ประกาศจัดตั้งพันธมิตรด้านการผลิต โดย Toyota จะถ่ายทอดประสบการณ์จากอุตสาหกรรมยานยนต์ใน 3 ด้านหลัก เพื่อสนับสนุนศักยภาพการผลิตและการควบคุมต้นทุนของ Joby สำหรับอากาศยานขึ้น–ลงแนวตั้งไฟฟ้า (eVTOL)

Joby จะถูกบูรณาการเข้าสู่ระบบการผลิตแบบลีน (Lean Production) ของ Toyota เพื่อช่วยลดต้นทุนการจัดซื้อชิ้นส่วน；ในด้านเทคโนโลยี Joby จะได้รับการสนับสนุนด้านสิทธิบัตรแบตเตอรี่แบบน้ำหนักเบา และเทคโนโลยีมอเตอร์ประสิทธิภาพสูงจาก Toyota；พร้อมกันนี้ Toyota ยังจะให้ความร่วมมือในการออกแบบโครงสร้างตัวถังใหม่ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการผลิตและการประกอบ จากการวิเคราะห์ของ KrASIA ประสบการณ์ด้านการผลิตของ Toyota อาจช่วยลดต้นทุนการผลิตต่อเครื่องของ Joby รุ่น S4 ได้มากถึง 22%

ความร่วมมือเชิงเทคนิคนี้ได้เริ่มปรากฏให้เห็นแล้วในต้นแบบ Joby S4 โดยโครงสร้างห้องโดยสารที่ทำจากคาร์บอนไฟเบอร์ได้นำกระบวนการพันเส้นใยจากถังเชื้อเพลิงไฮโดรเจนของ Toyota Mirai มาใช้เป็นต้นแบบ ส่งผลให้น้ำหนักลดลงได้ถึง 12%

หลังได้รับการลงทุนจาก Toyota ราคาหุ้นของ Joby พุ่งขึ้น 29%

ตลาดทุนตอบสนองอย่างรุนแรงต่อความร่วมมือครั้งนี้ โดยในวันที่มีการประกาศข่าว ราคาหุ้นของ Joby พุ่งขึ้นถึง 29% ทำสถิติการปรับขึ้นสูงสุดในหนึ่งวันของปี นักลงทุนมีความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน เนื่องจากการสนับสนุนจากอุตสาหกรรมของ Toyota ช่วยยกระดับความน่าเชื่อถือในเชิงพาณิชย์ของ Joby ได้อย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะในขณะที่คู่แข่งอย่าง Archer Aviation ได้รับคำสั่งซื้อจากสายการบิน United Airlines แล้ว

ที่สำคัญยิ่งกว่านั้นคือกระบวนการด้านการรับรองกำกับดูแลกำลังเร่งตัวขึ้น โดย Joby มีแผนที่จะดำเนินการให้แล้วเสร็จในการขอรับรองความสมควรเดินอากาศจาก FAA ภายในปี 2025 ซึ่งเงินลงทุนจาก Toyota จะถูกนำไปใช้โดยตรงในการจัดตั้งระบบควบคุมคุณภาพการผลิตตามมาตรฐานการบิน ขยายทีมเก็บข้อมูลจากการบินทดสอบ และพัฒนาระบบสำรองสำหรับกรณีฉุกเฉินให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น การลงทุนเหล่านี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการผ่านขั้นตอนรับรองที่เข้มงวดในอุตสาหกรรมการบิน

เส้นทางการบินเชิงพาณิชย์สายแรกจะให้บริการในลอสแอนเจลิส สหรัฐอเมริกา

ตามแผนพัฒนาที่เปิดเผยโดย Toyota และ Joby เส้นทางการบินพาณิชย์เส้นทางแรกมีแผนเริ่มให้บริการในปี 2026 ที่นครลอสแอนเจลิส สหรัฐอเมริกา โดยในระยะเริ่มต้น คาดว่าค่าโดยสารจะอยู่ที่ประมาณ 6–8 ดอลลาร์สหรัฐต่อไมล์ (ราว 215–287 บาท) โดยมีเป้าหมายเพื่อเข้ามาทดแทนบริการรถยนต์ระดับพรีเมียมในกลุ่มผู้ใช้เพื่อธุรกิจ