iCaur V27 SUV เปิดตัวครั้งแรกที่ดูไบ รถหรูสไตล์ G-Class จากจีน

【PCauto】iCAUR แบรนด์รถยนต์ระดับไฮเอนด์ใหม่ล่าสุดภายใต้กลุ่ม Chery Group เปิดตัวรถรุ่นเรือธง iCAUR V27 อย่างเป็นทางการครั้งแรกของโลกที่นครดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

จากข้อมูลที่เปิดเผยในงานเปิดตัว iCAUR V27 มีกำหนดวางจำหน่ายในตลาดจีนช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี 2025 โดยคาดว่าราคาจะอยู่ระหว่าง 200,000 - 250,000 หยวน (ประมาณ 900,880 - 1,127,000 บาท) ซึ่งเป็นการเจาะตลาด SUV สไตล์ออฟโรดระดับหรู แข่งขันกับรุ่นระดับตำนานอย่าง Mercedes-Benz G-Class และ Land Rover Defender โดยตรง

iCAUR V27 มาในสไตล์ออฟโรดสายลุยเต็มพิกัด

iCAUR V27 มาพร้อมดีไซน์ทรงกล่องในแบบที่นักออกแบบเรียกว่า “J-Style” ด้านหน้าติดตั้งกระจังหน้าสองชั้นแบบทูโทน พร้อมไฟหน้า LED ทรงรี ให้ความรู้สึกคล้ายคลึงกับ Benz G-Class อย่างเห็นได้ชัด

ด้านข้างของตัวรถเน้นเส้นสายตรงเรียบคม พร้อมมือจับประตูแบบภายนอกทรงคลาสสิก ซึ่งทั้งเสริมความสะดวกในการใช้งานแบบออฟโรด และเพิ่มกลิ่นอายย้อนยุคได้อย่างลงตัว

จุดที่โดดเด่นที่สุดอยู่ที่ด้านท้ายของรถ ประกอบด้วยประตูท้ายเปิดข้าง ยางอะไหล่ขนาดเต็มติดตั้งภายนอก และไฟท้าย LED ทรงแนวตั้ง ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของ SUV สายลุยอย่างแท้จริง

iCAUR V27 มีขนาดตัวรถดังนี้:

ความยาว 4980 มม.

ความกว้าง 1995 มม.

ความสูง 2010 มม.

เมื่อเทียบกับคู่แข่งอย่าง Benz G500 (ขนาดตัวถัง 4,857 x 1,962 x 1,968 มม.) และ Land Rover Defender 110 (ขนาด 5,018 x 2,105 x 1,967 มม.) แล้ว iCAUR V27 ก็ไม่เป็นรองแต่อย่างใด โดยมาพร้อมความสูงจากพื้นถึงใต้ท้องรถขั้นต่ำ 215 มม. มุมเงย 31 องศา และมุมจาก 28 องศา บ่งบอกถึงสมรรถนะในการลุยเส้นทางออฟโรดที่ไม่ธรรมดา

ผู้อำนวยการฝ่ายออกแบบระดับโลกของ iCAUR กล่าวบนเวทีเปิดตัวว่า “เราไม่ได้ลอกเลียนความคลาสสิก แต่ใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ตีความความงามของรถออฟโรดยุคใหม่ขึ้นมาใหม่ทั้งหมด” พร้อมเสริมว่า “ทุกสันเหลี่ยมของ V27 ถูกคำนวณตามหลักอากาศพลศาสตร์อย่างพิถีพิถัน แม้จะมีดีไซน์ทรงเหลี่ยม แต่กลับซ่อนค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดอากาศไว้เพียง 0.35Cd ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขที่น่าทึ่งในรถกลุ่มนี้”

ขับเคลื่อนด้วยระบบ REEV วิ่งไกลสูงสุด 1,000 กม.

ระบบขุมพลังสุดล้ำกลายเป็นไฮไลต์สำคัญในช่วงนำเสนอเทคโนโลยีของ iCAUR V27 โดยรถรุ่นนี้เลือกใช้ระบบขับเคลื่อนแบบไฟฟ้าเพิ่มระยะทาง (REEV) ที่มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 1.5TGDI รอบมิลเลอร์เจเนอเรชันที่ 3 จาก Chery ทำหน้าที่เป็นเครื่องปั่นไฟ ผสานการทำงานกับมอเตอร์ไฟฟ้าคู่หน้า-หลัง สร้างระบบขับเคลื่อนสี่ล้อไฟฟ้าเต็มรูปแบบ

ตามข้อมูลจากทีมวิศวกร รุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อของ V27 ให้กำลังรวมสูงสุดถึง 449 แรงม้า (335 กิโลวัตต์) แรงบิดสูงสุด 650 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายในเวลาเพียง 5.9 วินาที ซึ่งตัวเลขเหล่านี้เหนือกว่า Benz G500 ที่ใช้เครื่องยนต์ V8 ขนาด 4.0 ลิตร (421 แรงม้า / 610 นิวตันเมตร / 5.9 วินาที) อย่างชัดเจน

ในด้านระยะทางการขับขี่ iCAUR V27 สามารถวิ่งด้วยพลังงานไฟฟ้าล้วนได้ไกลถึง 200 กิโลเมตรตามมาตรฐาน CLTC และเมื่อทำงานร่วมกับระบบเพิ่มระยะทางด้วยน้ำมันเชื้อเพลิงผ่านถังขนาด 45 ลิตร จะได้ระยะทางรวมทะลุ 1,000 กิโลเมตร

ชุดระบบขับเคลื่อนนี้ออกแบบมาเพื่อลดความกังวลเรื่องระยะทางของผู้ใช้รถสายลุยโดยเฉพาะ ทำให้ V27 เหมาะทั้งกับการใช้งานในเมืองที่ต้องการความเงียบและความประหยัดของรถไฟฟ้า รวมถึงรองรับการเดินทางไกลที่ต้องการความสะดวกในการเติมพลังงานระหว่างทาง

ผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิคของ iCAUR ประจำภูมิภาคมิดเดิลอีสต์กล่าวในการให้สัมภาษณ์ว่า “โครงสร้างพื้นฐานสำหรับการชาร์จไฟในตะวันออกกลางยังอยู่ระหว่างการพัฒนา เทคโนโลยีแบบเพิ่มระยะทาง (REEV) จึงเป็นทางออกที่สมเหตุสมผลที่สุดในช่วงนี้” พร้อมระบุว่า V27 รองรับการชาร์จด่วนแบบ DC 70kW เติมไฟได้ 80% ภายในเวลาเพียง 30 นาที

iCAUR พร้อมบุกตลาดทั่วโลก

ภูมิภาคตะวันออกกลางถูกกำหนดให้เป็นตลาดเป้าหมายกลุ่มแรกของ iCAUR V27 โดยจะเริ่มส่งมอบในช่วงสิ้นปี 2025 ที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ กาตาร์ และบาห์เรน ก่อนจะขยายสู่ประเทศอื่น ๆ ในกลุ่มอ่าว เช่น ซาอุดีอาระเบีย และคูเวตสำหรับตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ Chery Group วางแผนจัดตั้งศูนย์ประกอบรถยนต์ในประเทศไทยและมาเลเซียภายในครึ่งแรกของปี 2026 เพื่อลดภาระภาษีนำเข้าและเพิ่มความสามารถในการแข่งขันด้านราคาในภูมิภาค

สำหรับตลาดในประเทศจีน iCAUR V27 จะทำตลาดภายใต้ชื่อ “iCAR V27” โดยมีกำหนดเปิดตัวช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี 2025 ด้วยราคาจำหน่ายล่วงหน้าประมาณ 200,000 - 250,000 หยวน (ราว 900,880 - 1,127,000 บาท) ซึ่งถือว่ามีความได้เปรียบด้านราคาชัดเจนเมื่อเทียบกับ Mercedes-Benz G-Class รถรุ่นนี้ถูกวางตำแหน่งทางการตลาดให้ตอบโจทย์กลุ่มผู้บริโภครุ่นใหม่ระดับชนชั้นกลางที่กำลังเติบโต ซึ่งชื่นชอบดีไซน์แบบแข็งแกร่งในสไตล์ออฟโรดที่สะท้อนตัวตน พร้อมกับให้ความสำคัญด้านความประหยัดและความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมจากเทคโนโลยีพลังงานใหม่